school rumble
-
3) จบแล้ววันเปิดเทอม
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ วันนั้นเมื่อประมาณ 2 ปีก่อน
หลังจากที่ครอบครัว ซึคาโมโต้ กลับมาจากการเที่ยวต่างประเทศ ในช่วงปิดเทอมฤดูร้อน ทั้งเท็นมะ ยาคุโมะ และคุณแม่ ชวนกันนั่งเครื่องบินเที่ยวขากลับญี่ปุ่น ในเครื่องเต็มหมดทุกที่นั่ง และคนที่นั่งแถวเดียวกับ 3 สาว อีกฝากของทางเดิน ไม่ใช่ใครที่ไหน ครอบครัวคาราสุมะ ที่บังเอิญมาเที่ยวกับครอบครัวที่เดียวกัน และยังบังเอิญกลับเครื่องด้วยกันอีกต่างหาก
ตกลงคือ พรหมลิขิตใช่ไหม ที่เขียนออกมาอย่างนั้น...
เด็กหนุ่มกับ คุณพ่อซึ่งนั่งชิดกันอยู่ ชายวันกลางคนท่าทางอ่อนโยน ลูบหัวลูกชาย ด้วยรอยยิ้ม ข
ณะที่ ลูกชายทำสีหน้าร่าเริง ซึ่งต่างกับปัจจุบันอย่างเห็นได้ชัด
ในตอนนั้น เด็กสาวรู้สึกมีความสุขมาก เมื่อได้เห็น สองพ่อลูก ที่ถัดไปอีกฟาก เนื่องจากในตอนนั้น หนุ่มในฝันของเธอดูสดใสเหลือเกิด ทำให้เธอพลอยยิ้มไปด้วยโดยไม่รู้ตัว
“สนุกมากไหม”
“เออ...ฮะ” แต่ไม่ว่าจะอยู่ในเวอร์ชั่นไหน ก็ยังคงพูดน้อยอยู่ดี
“งั้น ปิดเทอร์มปีหน้า พ่อจะพาลูกไปแบบนี้อีกนะ คราวหน้าเอาเป็น เที่ยว...นราธิวาส ดีไหมหละ”
“เมืองไทยก็น่าเทียวอยู่หรอก แต่เลือกที่หน่อยไม่ได้เหรอ”
วินาทีนั้นเอง เครื่องบินสั่นดังกึ่งอย่างรุนแรง ผู้โดยสารหวีดร้องโวยวาย
“ผู้โดยสารทุกท่าน กรุณานั่งอยู่กับที่แล้วรัดเข็มขัดด้วยค่ะ ไม่ต้องตกใจไป ถึงดิฉันจะมีพลังพิเศษในการสื่อสารกับวิญญาณได้ แต่ในสถาณการ์ณแบบนี้ ช่วยอยู่นิ่งกันหน่อยได้ไหมค่ะ” (กำลังล่อเลียนนวนิยายเรื่อง ไกด์สาวสัมผัสวิญญาณของ blisspublishing)
เท็นมะค้อมตัวต่ำไปด้านหน้าตามที่เจ้าหน้าที่บอกทันที
เสียงขวดยาตกดังตุ๊บกลางทางเดิน
“!?!”
“พ่อครับ พ่อเป็นอะไรไป”
คาราสุมะร้องเสียงหลง ขณะที่คุณพ่อเอามือกุมหน้าอกท่าทางหายใจไม่ออก
“ยา ยาอยู่ไหน”
“อ๊ะ...”
เด็กสาวยื่นมือไปที่ทางเดิน เครื่องบินกระแทกอย่างแรงอีกครั้ง แล้วแกว่งไปมาในอากาศ บนล่างขวาซ้าย แม้แต่ตัวเองก็จะเอาตัวไม่รอด เธอเอื้อมมือไปไม่ถึงขวดยาที่กลิ้งหลุนๆ ห่างออกไปเรื่อย ๆ
[งั้น ปิดเทอร์มปีหน้า พ่อจะพาลูกไปแบบนี้อีกนะ]
เมื่อกี้ยังสัญญากับลูกไว้อยู่เลย แล้วไหงถึงมาตายก่อนชะหละ จู่ๆจะมาทิ้งลูกกันง่ายๆแบบนี้เลยเหรอ
ไม่ใช่
คนที่ผิดเป็นเราต่างหาก
มีแต่เราคนเดียวเท่านั้นที่รู้ว่าขวดยาอยู่ที่ไหน แต่กลับเอื้อมมือไปหยิบขวดยาไม่ได้
“หนูรู้...หนู่รู้ว่าขวดยาอยู่ที่ไหน.... คุณลุงค่ะ อย่าตายนะค่ะ...คุณลุงค่ะ...คุณลุง...”
เท็นมะมิอาจช่วยคุณพ่อคาราสุมะไว้ได้ และจากไปในที่สุด
เป็นเพระเรา
เพราะเราแท้ๆ
เช้าวันรุ้งขึ้น
เสียงสัญญาณบอกเวลาเข้าเรียนคาบแรก ทุกคนมุ่งหน้ากันเขาห้องเรียนเพื่อเตรียมตัว การลงนรกวันแรก
ยกเว้นเธอ
เท็นมะยืนตัวสั่นกอดมากิโมโนะ(จดหมายญี่ปุ่นแบบโบราณ) ที่เมื่อคืนอุตสาห์แต่งมาอย่างยากลำบากที่หน้าตู้ล็อกเกอร์ของคาราสุมะ
ที่จริงมันคือ จดหมายรัก แต่เจ้แกเล่นเขียนชะยาวเป็นม้วนเลย
เธอยังหลับไม่รูตัว แต่น้ำตาเอื่อไหลออกมา
“ช่างเฮอะ เรื่องมันผ่านมานานแล้ว เราพยายามเต็มที่ได้แค่นี้แหละ”
ทันใดนั้นเอง
แช้ะ
เด็กหนุ่มผมฟูเจ้าเก่า แอบเข้ามาถ่ายรูปตอนเธอกำลังร้องไห้ตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้
“เธออีกแล้วเหรอ ฟุยูกิ”
“ไงจ๊ะ เท็น..เอ้ย ซึคาโมโต้ซัง ขอบคุณที่ให้ความร่วมมือกับชมรมกินขนม(กิจกรรมคือแอบถ่ายรูปสาวๆ)ของเรานะ แหล่มเล--ย ว่าแต่ยังไม่รีบเข้าห้องเรียนอีกเหรอ เดี๋ยวก็...อ๊ากกก...”
ฟุยูกิ ทาเคอิจิ(17) ผู้น่าสงสารหงายหลังตึงอยู่บนพื้นพร้องกับเลือดกำเดาเต็มปาก ขณะที่ เด็กสาว สะบัด มือขวาด้วยความเจ็บปวด ก่อนที่จะหันกลับมาที่ตู่เหล็กอีกครั้ง
“ไอ่วิกผมประหลาดๆนั้นนะ อย่าใส่มาให้ฉันเห็นอีกนะ”
เท็นมะ สูดลมหายใจเต็มปอด
“เอาหละ ขอให้ความในใจนี้ ส่งไปถึงเขาทีนะ “
เด็กสาวบรรจงเปิดล็อกเกอร์ออก แล้ววางม้วนกระดาษ ทับลงบนรองเท้าผ้าของชายหนุ่ม แล้วปิดตู้เบาๆ
“... แบบนี้คงดีแล้วมั้ง “เธอปลอบใจตัวเองโดย แย้มมุมปากยิ้มออกมาคล้ายว่า พยายามจะหัวเราะ “...ก็ เราทำได้แค่นี้นี้นา... พยายามเต็มที่แล้วนี้”
เธอหันกลับมาและกระโดดทับร่างของหนุ่มแอฟโฟร่ ด้วยเท้าทั้งสองข้าง ก่อนที่จะวิ่งออกไป
.................... _/-\o”....................
หลังเสียงสัญญาณเลิกเรียน
เหล่านักเรียนหนุ่มสาว ทยอย กันกลับลงมาจากอาคารชั้นบน เสียงพูดค่อยดังอย่างต่อเนื่อง ในขณะที่ทุกคนกำลังเตรียมสวมรองเท้า จะเดินทางกลับ
ซึคาโมโต้ เท็นมะ พร้อมเพื่อนๆในห้องเดียวกันอีก 3 คน ลงบันไดมาด้วยกัน เธอเหลือบไปเห็น คาราสุมะที่กำลังคลี่ ม้วนจดหมายออกมาอ่าน โดยไม่พูดจาอะไร
“อ๊ะ...”
เท็นมะพุ่งตัวเข้าไปซ่อนตัวหลังตู่ปลาข้างทางเดิน
“เป็นอะไรไปเหรอ ซึคาโมโต้ะ” สาวล่ำ สุโอ มิโคโตะถามขึ้นเมื่อเห็นพฤติกรรมไม่เต็มบาทของเท็นมะ
“อ๊ะ..โทษทีนะ มิโคโตะจัง อากิระจัง แล้วก็เอริจัง วันนี้ฉันมีธุระนิดหน่อยนะ คงจะนานพอดูเลย”
“เหรอ..งั้น พวกเราขอตัวกลับก่อนแล้วกันนะ” ทากาโนะ อากิระ พูดด้วยน้ำเสียงเยือกเย็นราว สาวหิมะ
“อ๊ะ เดียวสิ จะทิ้งยัยนั้นไว้คนเดียวนะเหรอ” สาวลูกครึ่งฝรั่ง ซาวาจิกะ เอริ ทำท่าทางเป็นห่วง แบบฉบับซึนเดเระอย่างชัดแจน
“ไม่เป็นไรหรอก ข้างๆนี้เป็นโรงพัก เกิดหลงทางเมื่อไหร่ก็ไม่มีปัญหาหรอกน่า”
พูดจบ สามสาวก็จับกลุ่มกันเดินกลับบ้าน โดยที่ฝ่ายเท็นมะ ไม่รู้สึกตัวเลยว่ากำลังโดนหาว่าเป็นเด็กหลงเลย
เวลาผ่านไป เหล่าเพื่อน ๆ และนักเรียนคนอื่น ๆ ทยอยกันกลับไปหมดแล้ว เหลือแต่ คาราสุมะซึ่งกำลังทำหน้านิ่งอ่านจดหมายอยู่ เพียงผู้เดียว และแน่นอนว่า เด็กสาว ก็ยังเผ้าดูสถานการณ์อย่างไม่คลาดสายตา
“โทษทีนะ คาราสุมะคุง ฉันดันเขียนยาวไปหน่อย”เพิ่งจะรู้ตัวเหรอเธอ
ทันที่ที่พูดจบ คาราสุมะคุงก็ดูเหมือนว่าใกล้จะอ่านจบแล้ว ทำให้ใจของเท็นมะเริ่มเต้นรัว
ทว่า ไม่ใช่
“ไม่ค่อยรู้เรื่องแฮะ อ่านอีกรอบดีกว่า”
“แหงะ”
.............................................
ดวงตะวันลับขอบแนวภูเขา ท้องฟ้าค่อย ๆ มืดลง จนมองเห็นดวงดาวอยู่เต็มท้องฟ้า ค่ำมืดแล้วนี้ แล้วทำไมตูต้องมาทนแอบแบบนี้มาเป็นชั่วโมง ๆ ด้วยฟระ อยากอาบน้ำ อ๊า
เท็นมะแทบจะร้องไห้ เพราะสมเพชตัวที่กำลังทำอะไรบ้า ๆ อยู่
ขณะที่คาราสุมะ ซึ่งใช้มืออีกข้างหยิบไฟฉายขึ้นมาช่องจดหมาย ในลานตู้ที่ไม่ได้ติดหลอดไฟเอาไว้ ยังคงยืนนิ่งแบบนี้มาตั้งแต่ตอนเลิกเรียนแล้ว
สองคนนี้ ศรีทนได้
“ขอร้องหละ อ่านจบชะทีเถอะ คืนนี้จะรีบกลับไปดูมังโกคุนะ”
เวลาผ่านไป ผ่านไป และผ่านไป คาราสุมะทำท่าเหมือนกับจะคลี่สุดม้วนแล้ว
“อ๊ะ... เสร็จแล้วใช่ไหม”
“...”
เด็กหนุ่มม้วนกระดาษทั้งหมกเก็บไว้เหมือนเดิมก่อนที่จะยัดใสกระเป๋า แล้วเดินออกไป แล้วพึมพำว่า
“ใครก็ไม่รู้ ไม่ลงชื่อไว้ด้วย”
…
“....(“(“(’ロ’)’)’) ....(“(“(’ロ’)’)’) ....(“(“(’ロ’)’)’) ....(“(“(’ロ’)’)’)) … ไม่จริงน๊า”
ตู
ลืม
ลง
ชื่อ
.....
สิ้นหวังแล้ว ควมรักของฉัน
.................... _/-\o”
“สุดยอดเลย ฟุยูกิ ไปถ่ายขอพรรณนี้ออกมาได้ หน้าไม่อายจริงๆ”
อิมาโดริ เคียวสุเกะ (16)กล่าวชม(???) ปาปารัซซี่หนุ่ม ขณะที่พิจารณารูป(แอบ)ถ่าย ซึ่งเฮียแกเพิ่งได้มาเมื่อวาน โดยแลกกับหมัดของเท็นมะเป็นการตอบแทน
“แหมแค่นี้ยังอ่อนน้า ไว้นายคอยดูเทคนิคการถ่ายภาพมุมต่ำสุดหวิวของ...เอ๋”
มีใครบางคนเปิดประตูเข้ามาในระหว่างการสนทนาของเด็กหนุ่มทั่งสอง คาราสุมะ นั้นเอง
“อ้าว โอจิ”
“โอจิทำไมวันนี้ถึงมาได้หละ ต้องเก็บข้าวเก็บของไม่ใช่เหรอ”
มน้อยหยอนตัวลงบนเก้าอี้ประจำอย่างใจเย็นก่อนที่จะเริ่มอธิบายเหตุผล
"คืองี้ ฉันไม่ไปเมืองนอกแล้วหละ”
ห๊า
“อะไรเข้าสิงอีกหละ”
"พอดีฉันมีญาติสนิทพักอยู่ใกล้ๆแถวนี้ ก็เลยขอร้องแม่ว่า จะขออยู่เรียนจนกว่าจะจบการศึกษาแล้วค่อยตามไป”
“ญาติสนิทเหรอ อ้าวในเมื่อมีทางเลือกแล้วทำไมวันนั้นบอกว่า จะไปหละ”
"จะให้ฉันอยู่แมนชั่นเดียวกับผู้หญิงสองต่อสองได้ไงกัน แล้วก็นะ...”
เด็กหนุ่มหยิบจดหมายมากิโมโนะขึ้นมาจากกระเป๋าดำ แล้วครี่กางออกจนสุด (ซึ่งต้องใช้เวลานานทีเดียวกว่าจะสุดม้วน)เพื่อให้เพื่อนอีก2คนดู ข้อความท้ายกระดาษ
ป.ล. อย่าไปเลยนะ
หลังจากที่ครอบครัว ซึคาโมโต้ กลับมาจากการเที่ยวต่างประเทศ ในช่วงปิดเทอมฤดูร้อน ทั้งเท็นมะ ยาคุโมะ และคุณแม่ ชวนกันนั่งเครื่องบินเที่ยวขากลับญี่ปุ่น ในเครื่องเต็มหมดทุกที่นั่ง และคนที่นั่งแถวเดียวกับ 3 สาว อีกฝากของทางเดิน ไม่ใช่ใครที่ไหน ครอบครัวคาราสุมะ ที่บังเอิญมาเที่ยวกับครอบครัวที่เดียวกัน และยังบังเอิญกลับเครื่องด้วยกันอีกต่างหาก
ตกลงคือ พรหมลิขิตใช่ไหม ที่เขียนออกมาอย่างนั้น...
เด็กหนุ่มกับ คุณพ่อซึ่งนั่งชิดกันอยู่ ชายวันกลางคนท่าทางอ่อนโยน ลูบหัวลูกชาย ด้วยรอยยิ้ม ข
ณะที่ ลูกชายทำสีหน้าร่าเริง ซึ่งต่างกับปัจจุบันอย่างเห็นได้ชัด
ในตอนนั้น เด็กสาวรู้สึกมีความสุขมาก เมื่อได้เห็น สองพ่อลูก ที่ถัดไปอีกฟาก เนื่องจากในตอนนั้น หนุ่มในฝันของเธอดูสดใสเหลือเกิด ทำให้เธอพลอยยิ้มไปด้วยโดยไม่รู้ตัว
“สนุกมากไหม”
“เออ...ฮะ” แต่ไม่ว่าจะอยู่ในเวอร์ชั่นไหน ก็ยังคงพูดน้อยอยู่ดี
“งั้น ปิดเทอร์มปีหน้า พ่อจะพาลูกไปแบบนี้อีกนะ คราวหน้าเอาเป็น เที่ยว...นราธิวาส ดีไหมหละ”
“เมืองไทยก็น่าเทียวอยู่หรอก แต่เลือกที่หน่อยไม่ได้เหรอ”
วินาทีนั้นเอง เครื่องบินสั่นดังกึ่งอย่างรุนแรง ผู้โดยสารหวีดร้องโวยวาย
“ผู้โดยสารทุกท่าน กรุณานั่งอยู่กับที่แล้วรัดเข็มขัดด้วยค่ะ ไม่ต้องตกใจไป ถึงดิฉันจะมีพลังพิเศษในการสื่อสารกับวิญญาณได้ แต่ในสถาณการ์ณแบบนี้ ช่วยอยู่นิ่งกันหน่อยได้ไหมค่ะ” (กำลังล่อเลียนนวนิยายเรื่อง ไกด์สาวสัมผัสวิญญาณของ blisspublishing)
เท็นมะค้อมตัวต่ำไปด้านหน้าตามที่เจ้าหน้าที่บอกทันที
เสียงขวดยาตกดังตุ๊บกลางทางเดิน
“!?!”
“พ่อครับ พ่อเป็นอะไรไป”
คาราสุมะร้องเสียงหลง ขณะที่คุณพ่อเอามือกุมหน้าอกท่าทางหายใจไม่ออก
“ยา ยาอยู่ไหน”
“อ๊ะ...”
เด็กสาวยื่นมือไปที่ทางเดิน เครื่องบินกระแทกอย่างแรงอีกครั้ง แล้วแกว่งไปมาในอากาศ บนล่างขวาซ้าย แม้แต่ตัวเองก็จะเอาตัวไม่รอด เธอเอื้อมมือไปไม่ถึงขวดยาที่กลิ้งหลุนๆ ห่างออกไปเรื่อย ๆ
[งั้น ปิดเทอร์มปีหน้า พ่อจะพาลูกไปแบบนี้อีกนะ]
เมื่อกี้ยังสัญญากับลูกไว้อยู่เลย แล้วไหงถึงมาตายก่อนชะหละ จู่ๆจะมาทิ้งลูกกันง่ายๆแบบนี้เลยเหรอ
ไม่ใช่
คนที่ผิดเป็นเราต่างหาก
มีแต่เราคนเดียวเท่านั้นที่รู้ว่าขวดยาอยู่ที่ไหน แต่กลับเอื้อมมือไปหยิบขวดยาไม่ได้
“หนูรู้...หนู่รู้ว่าขวดยาอยู่ที่ไหน.... คุณลุงค่ะ อย่าตายนะค่ะ...คุณลุงค่ะ...คุณลุง...”
เท็นมะมิอาจช่วยคุณพ่อคาราสุมะไว้ได้ และจากไปในที่สุด
เป็นเพระเรา
เพราะเราแท้ๆ
เช้าวันรุ้งขึ้น
เสียงสัญญาณบอกเวลาเข้าเรียนคาบแรก ทุกคนมุ่งหน้ากันเขาห้องเรียนเพื่อเตรียมตัว การลงนรกวันแรก
ยกเว้นเธอ
เท็นมะยืนตัวสั่นกอดมากิโมโนะ(จดหมายญี่ปุ่นแบบโบราณ) ที่เมื่อคืนอุตสาห์แต่งมาอย่างยากลำบากที่หน้าตู้ล็อกเกอร์ของคาราสุมะ
ที่จริงมันคือ จดหมายรัก แต่เจ้แกเล่นเขียนชะยาวเป็นม้วนเลย
เธอยังหลับไม่รูตัว แต่น้ำตาเอื่อไหลออกมา
“ช่างเฮอะ เรื่องมันผ่านมานานแล้ว เราพยายามเต็มที่ได้แค่นี้แหละ”
ทันใดนั้นเอง
แช้ะ
เด็กหนุ่มผมฟูเจ้าเก่า แอบเข้ามาถ่ายรูปตอนเธอกำลังร้องไห้ตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้
“เธออีกแล้วเหรอ ฟุยูกิ”
“ไงจ๊ะ เท็น..เอ้ย ซึคาโมโต้ซัง ขอบคุณที่ให้ความร่วมมือกับชมรมกินขนม(กิจกรรมคือแอบถ่ายรูปสาวๆ)ของเรานะ แหล่มเล--ย ว่าแต่ยังไม่รีบเข้าห้องเรียนอีกเหรอ เดี๋ยวก็...อ๊ากกก...”
ฟุยูกิ ทาเคอิจิ(17) ผู้น่าสงสารหงายหลังตึงอยู่บนพื้นพร้องกับเลือดกำเดาเต็มปาก ขณะที่ เด็กสาว สะบัด มือขวาด้วยความเจ็บปวด ก่อนที่จะหันกลับมาที่ตู่เหล็กอีกครั้ง
“ไอ่วิกผมประหลาดๆนั้นนะ อย่าใส่มาให้ฉันเห็นอีกนะ”
เท็นมะ สูดลมหายใจเต็มปอด
“เอาหละ ขอให้ความในใจนี้ ส่งไปถึงเขาทีนะ “
เด็กสาวบรรจงเปิดล็อกเกอร์ออก แล้ววางม้วนกระดาษ ทับลงบนรองเท้าผ้าของชายหนุ่ม แล้วปิดตู้เบาๆ
“... แบบนี้คงดีแล้วมั้ง “เธอปลอบใจตัวเองโดย แย้มมุมปากยิ้มออกมาคล้ายว่า พยายามจะหัวเราะ “...ก็ เราทำได้แค่นี้นี้นา... พยายามเต็มที่แล้วนี้”
เธอหันกลับมาและกระโดดทับร่างของหนุ่มแอฟโฟร่ ด้วยเท้าทั้งสองข้าง ก่อนที่จะวิ่งออกไป
.................... _/-\o”....................
หลังเสียงสัญญาณเลิกเรียน
เหล่านักเรียนหนุ่มสาว ทยอย กันกลับลงมาจากอาคารชั้นบน เสียงพูดค่อยดังอย่างต่อเนื่อง ในขณะที่ทุกคนกำลังเตรียมสวมรองเท้า จะเดินทางกลับ
ซึคาโมโต้ เท็นมะ พร้อมเพื่อนๆในห้องเดียวกันอีก 3 คน ลงบันไดมาด้วยกัน เธอเหลือบไปเห็น คาราสุมะที่กำลังคลี่ ม้วนจดหมายออกมาอ่าน โดยไม่พูดจาอะไร
“อ๊ะ...”
เท็นมะพุ่งตัวเข้าไปซ่อนตัวหลังตู่ปลาข้างทางเดิน
“เป็นอะไรไปเหรอ ซึคาโมโต้ะ” สาวล่ำ สุโอ มิโคโตะถามขึ้นเมื่อเห็นพฤติกรรมไม่เต็มบาทของเท็นมะ
“อ๊ะ..โทษทีนะ มิโคโตะจัง อากิระจัง แล้วก็เอริจัง วันนี้ฉันมีธุระนิดหน่อยนะ คงจะนานพอดูเลย”
“เหรอ..งั้น พวกเราขอตัวกลับก่อนแล้วกันนะ” ทากาโนะ อากิระ พูดด้วยน้ำเสียงเยือกเย็นราว สาวหิมะ
“อ๊ะ เดียวสิ จะทิ้งยัยนั้นไว้คนเดียวนะเหรอ” สาวลูกครึ่งฝรั่ง ซาวาจิกะ เอริ ทำท่าทางเป็นห่วง แบบฉบับซึนเดเระอย่างชัดแจน
“ไม่เป็นไรหรอก ข้างๆนี้เป็นโรงพัก เกิดหลงทางเมื่อไหร่ก็ไม่มีปัญหาหรอกน่า”
พูดจบ สามสาวก็จับกลุ่มกันเดินกลับบ้าน โดยที่ฝ่ายเท็นมะ ไม่รู้สึกตัวเลยว่ากำลังโดนหาว่าเป็นเด็กหลงเลย
เวลาผ่านไป เหล่าเพื่อน ๆ และนักเรียนคนอื่น ๆ ทยอยกันกลับไปหมดแล้ว เหลือแต่ คาราสุมะซึ่งกำลังทำหน้านิ่งอ่านจดหมายอยู่ เพียงผู้เดียว และแน่นอนว่า เด็กสาว ก็ยังเผ้าดูสถานการณ์อย่างไม่คลาดสายตา
“โทษทีนะ คาราสุมะคุง ฉันดันเขียนยาวไปหน่อย”เพิ่งจะรู้ตัวเหรอเธอ
ทันที่ที่พูดจบ คาราสุมะคุงก็ดูเหมือนว่าใกล้จะอ่านจบแล้ว ทำให้ใจของเท็นมะเริ่มเต้นรัว
ทว่า ไม่ใช่
“ไม่ค่อยรู้เรื่องแฮะ อ่านอีกรอบดีกว่า”
“แหงะ”
.............................................
ดวงตะวันลับขอบแนวภูเขา ท้องฟ้าค่อย ๆ มืดลง จนมองเห็นดวงดาวอยู่เต็มท้องฟ้า ค่ำมืดแล้วนี้ แล้วทำไมตูต้องมาทนแอบแบบนี้มาเป็นชั่วโมง ๆ ด้วยฟระ อยากอาบน้ำ อ๊า
เท็นมะแทบจะร้องไห้ เพราะสมเพชตัวที่กำลังทำอะไรบ้า ๆ อยู่
ขณะที่คาราสุมะ ซึ่งใช้มืออีกข้างหยิบไฟฉายขึ้นมาช่องจดหมาย ในลานตู้ที่ไม่ได้ติดหลอดไฟเอาไว้ ยังคงยืนนิ่งแบบนี้มาตั้งแต่ตอนเลิกเรียนแล้ว
สองคนนี้ ศรีทนได้
“ขอร้องหละ อ่านจบชะทีเถอะ คืนนี้จะรีบกลับไปดูมังโกคุนะ”
เวลาผ่านไป ผ่านไป และผ่านไป คาราสุมะทำท่าเหมือนกับจะคลี่สุดม้วนแล้ว
“อ๊ะ... เสร็จแล้วใช่ไหม”
“...”
เด็กหนุ่มม้วนกระดาษทั้งหมกเก็บไว้เหมือนเดิมก่อนที่จะยัดใสกระเป๋า แล้วเดินออกไป แล้วพึมพำว่า
“ใครก็ไม่รู้ ไม่ลงชื่อไว้ด้วย”
…
“....(“(“(’ロ’)’)’) ....(“(“(’ロ’)’)’) ....(“(“(’ロ’)’)’) ....(“(“(’ロ’)’)’)) … ไม่จริงน๊า”
ตู
ลืม
ลง
ชื่อ
.....
สิ้นหวังแล้ว ควมรักของฉัน
.................... _/-\o”
“สุดยอดเลย ฟุยูกิ ไปถ่ายขอพรรณนี้ออกมาได้ หน้าไม่อายจริงๆ”
อิมาโดริ เคียวสุเกะ (16)กล่าวชม(???) ปาปารัซซี่หนุ่ม ขณะที่พิจารณารูป(แอบ)ถ่าย ซึ่งเฮียแกเพิ่งได้มาเมื่อวาน โดยแลกกับหมัดของเท็นมะเป็นการตอบแทน
“แหมแค่นี้ยังอ่อนน้า ไว้นายคอยดูเทคนิคการถ่ายภาพมุมต่ำสุดหวิวของ...เอ๋”
มีใครบางคนเปิดประตูเข้ามาในระหว่างการสนทนาของเด็กหนุ่มทั่งสอง คาราสุมะ นั้นเอง
“อ้าว โอจิ”
“โอจิทำไมวันนี้ถึงมาได้หละ ต้องเก็บข้าวเก็บของไม่ใช่เหรอ”
มน้อยหยอนตัวลงบนเก้าอี้ประจำอย่างใจเย็นก่อนที่จะเริ่มอธิบายเหตุผล
"คืองี้ ฉันไม่ไปเมืองนอกแล้วหละ”
ห๊า
“อะไรเข้าสิงอีกหละ”
"พอดีฉันมีญาติสนิทพักอยู่ใกล้ๆแถวนี้ ก็เลยขอร้องแม่ว่า จะขออยู่เรียนจนกว่าจะจบการศึกษาแล้วค่อยตามไป”
“ญาติสนิทเหรอ อ้าวในเมื่อมีทางเลือกแล้วทำไมวันนั้นบอกว่า จะไปหละ”
"จะให้ฉันอยู่แมนชั่นเดียวกับผู้หญิงสองต่อสองได้ไงกัน แล้วก็นะ...”
เด็กหนุ่มหยิบจดหมายมากิโมโนะขึ้นมาจากกระเป๋าดำ แล้วครี่กางออกจนสุด (ซึ่งต้องใช้เวลานานทีเดียวกว่าจะสุดม้วน)เพื่อให้เพื่อนอีก2คนดู ข้อความท้ายกระดาษ
ป.ล. อย่าไปเลยนะ
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ