school rumble

-

เขียนโดย อิจิโจ

วันที่ 20 กันยายน พ.ศ. 2553 เวลา 17.51 น.

  3 บท
  24 วิจารณ์
  9,602 อ่าน
แชร์นิยาย Share Share Share

 

2) สิ้นหวังวันเปิดเทอม2

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
ขนาดตัวอักษร เล็ก กลาง ใหญ่ ใหญ่มาก
     ใต้ท้องฟ้ายามบ่ายแดดจ้า เกิดเงาแมกไม้ร่มรื่นชวนเพลิดเพลิน อากาศอุ่นละมุนน่าหลับใหล กระดิ่งลมรูปแมวกวักที่แขวนไว้เหนือประตูบ้านส่งเสียง กรุ๊งกริ้ง  ต้อนรับสองสาวพี่น้อง
    
      กลับมาแล้วเหรอจ๊ะ มันพูดแบบนั้น 
    
     ยาคุโมะแบกศพพี่สาวตัวเอง ไว้บนหลังขณะกำลังไขกุญแจ้ประตูบ้าน ก่อนที่จะเข้าไปหย่อยเด็กลงนอนบนโชฟาอย่างอ่อนโยน ทว่าสภาพของเท็นมะไม่ต่างอะไรกับซอมบี้
      ตาเหลือกขึ้นจนไม่เห็นตาดำ น้ำลายฟูมปาก นิ้วมือซักกระตุก
    
      “เอาหละ ก่อนอื่นก็ต้อง โทรไปแจ้งวัดให้เขารีบๆมารับศพก่อนดีกว่า เมรุจะว่างหรือเปล่าน้า...”
      
       ทันที่ หลังจากที่ตบมุขแล้ว คุณน้องสาวเดินจากไปยังห้องนอนอย่างไม่ใยดีนั้นเอง
      
      “แง่---“
    
      คุณพี่สาวก็คืนชีพ
    
      “ทั้งๆที่อุตสาห์ได้อยู่ห้องเดียวกันแท้ๆ แง่...”
    “ลองคิดในแง่ดีดูสิค่ะ อย่างน้อยๆ ความต้องการที่จะพบชื่อเขาในคอลัมน์เดียวกันบนบอร์ดนั้นก็เป็นจริงแล้วนะค่ะ เป็นความฝันที่แสนสั้นนัก”
    “อย่ามาพูดบ้าๆนะ คาราสุมะคุงของเค้าจะไปเมืองนอกแล้วอ๊ะ...ไม่ได้การ ต้องทำอะไรชักอย่างแล้ว”
    “สภาพแบบนี้ยังจะทำอะไรได้อีกเหรอค่ะ”
    “!!! ยาคุโมะ เธอไม่เข้าใจความรู้สึกของคนที่กำลังจะอกหัก(???) อย่างพี่ บ้างเลยหรือไง”
    “เฮ้อ... จะพูดยังไงดีหละ หนูกำลังจะบอกว่า ให้พี่ใจเย็น ๆ ไว้ก่อนต่างหากหละ ขืนมัวแต่ ซีดแบบนี้มันไม่ช่วยอะไรหรอกนะค่ะ”

     ซึคาโมโต้ ยาคุโมะ กับหน้าที่ปลอบใจพี่สาว
 
     “... จริงสินะ..ค่อย ๆ คิดหาทางแก้ไขไปพลาง ๆ ต้องทำให้ใจเย็นก่อน จริงด้วยสิ” 

     และแล้วการคิดหาแผนการยับยั้งการจากไปของ หนุ่มในฝัน ก็ได้เริ่มต้นขึ้น

     “เอาหละ เก็บกวาดบ้านไป คิดไปดีกว่า”
     เวลาผ่านไป 1 ชั่วโมง
     “เอาหละ ซักผ้าไป คิดไปดีกว่า”
     เวลาผ่านไป 3 ชั่วโมง
     “เอาหละ อาบน้ำไป คิดไปดีกว่า”
     เวลาผ่านไป 5 ชั่วโมง
     “ไม่เห็นจะคิดอะไรออกเลย ’”  
 
     ซึคาโมโต้ เท็นมะกลับเข้าสู่โมท คนขี้แย่อีกครัง  
    ภายใต้บรรยากาศอันหดหู่ในห้องนอน สาวน้อยกอดตุ๊กตาแน่น ทำสีหน้าหวมอาลัยตายอยาก ขณะน้ำตาแทบจะท่วมพื้น
นี้เรา...
     มาได้แค่นี้เองเหรอเนี้ย
     ไม่มีทางหรอกน่า
    เราเฝ้ารอมานานแล้ว นี้ไม่ใช่โอกาสเราจะเจอได้ทั่วๆไปหรอก ปาฏิหาริย์นะ รอให้ตายก็ไม่มาหรอก ต้องลงมือทำถึงจะมองเห็น เวลาเกิดพลาดขึ้นมา เราจะได้ไม่เสียดาย หากว่าเราจะได้พบเขาอีกเพียงแค่ครั้งเดียว
     ใช่เพียงแค่ครั้งเดียว
     ก็ขอให้มันเป็นครั้งเดียวที่เราสองคนไม่มีวันลืมเลือนชั่วลมหายใจ---เพ้อเจ้อ
     ว่าแต่ ต้องทำไงหละ เราจะต้องบอกลาเขาด้วยวิธีไหนกัน...

       “พี่ค่ะ พึมพำอะไรอยู่คนเดียวตั้งแต่เมื่อกี้นี้แล้ว หรือว่ากำลังทานผึ้งอยู่เหรอค่ะ”
     “พี่ไม่ใช่หมีน่า อีกอย่างก่อนเข้าห้องคนอื่นเขา หัดเคาะประตูชะบ้างสิ คนกำลังกลุ้มอยู่แท้ๆ ดูไม่ออกหรือไง”
      “อ๊ะ ขอโทษค่ะ ครือว่า จะบอกพี่ว่า ไอ้นั้นนะ มันจะมาแล้วนะ
      “ไอ้นั้น... ห๊าได้เวลาแล้วเหรอ”
      เท่านั้นแหละ แม่จอม(เอาแต่)ใจ ก็เข้าสู่สภาวะซุปเปอร์เท็นมะร่าง3 แล้ววิ่งลงบันไดออกจากห้องไปด้วยสีหน้าแจ่มใสอย่างรวดเร็ว
       เธอกระโจนมุดตัวลงใต้ โต๊ะโคทัตสึ ก่อนที่จะเปิดสวิทซ์ทีวี และแล้ว...
       “แถ่แดแด้น แถ่เด้เด้เดแด้น”
       เสียงไตเติ้ลละครหลังข่าวดังขึ้น ปรากฏข้อความ ‘สี่มือสังหาร’ ขึ้นบนหน้าจอทีวี และนี้ก็คือ ไอ้นั้นที่พูถึง
       ตามมาด้วย บุรุษชุดฮากามะ สองคนยืนสนทนากัน ณ บริเวณใจกลางย่านการค้าในยุคสมัย โตกุกาว้า
      ความตื่นเต้นเร้าใจเข้าครอบงำจิตใจของหญิงสาว เธอแสดงแววตาเป็นประกาย ผมทรง ทวิเทลสองข้าง กระดิกไปมาเหมือนหมากระดิกหางเวลาดีใจยังไงยังงั้น
      
     “ท่านมังโกคุ หมายสาร ฉบับนี้นั้น”
     “ข้าขอฝากเจ้า นำความในใจของข้าไปถึงมือนางด้วย บัดนี้ ข้าหาได้มีหน้าไปพบครอบครับของนางได้อีกแล้ว”
     “เพราะเหตุใดกัน ท่านควรจะไปกล่าวด้วยตนเองมิใช่หรือ สู้หน้ามิได้ก็เขียนจดหมายเสีย ไม่สมกับเป็นซามูไรเลย”
 
      ด้วยประโยคนี้เอง บางสิ่งบางอย่างพุ้งดิ่งตรงเข้าไปยังส่วนลึกของจิตใจเธอ

      “จดหมายเหรอ”
      อื่ม จดหมายไง
      “จริงด้วย.........”
      
      ว่าแล้ว เด็กสาวก็เปลี่ยนอารมณ์อย่างรวดเร็วดุดสายฟ้า แล้ววิ่งกลับเข้าไปในห้อง
      "พี่ค่ะ จะไปไหนนะ ไม่ดูให้จบก่อนเหรอค่ะ" 

      เท็นมะ เตรียม ดินสอ กระดาษ ยางลบ บนโต๊ะทำงาน ผูกผ้าขาวบนหน้าผาก เตรียมออกรบ
      เอาหละ สู้โว้ย
       
       “ว่าแต่ จะต้องเริ่มอย่างไงก่อนเนี้ย ไอ้เราก็ไม่รู้ขั้นตอนด้วยสิ อื่ม....แค่เขียวว่าชอบก็พอ มั้ง”
       ง่ายดี เน้อ
        
       “เอาหละ”
       ว่าแล้วเด็กสาวก็จับดินสอ แล้วเขียน
      
       ‘คาราสุมะมะคุง ชึ...ชึ...ชึ..’
       เธอ รวบรวมความกล้าเต็มที่ ที่จะเขียนตัว คิ ต่อไป (คำว่าชอบ ในภาษญี่ปุ่นคือ 好き ชึกิ) แต่          มือขวาเจ้ากรรมกลับค้างกระด้างไม่ยอมขยับเขยื่อ
 
       ‘คาราสุมะมะคุง ชึ...ชึ...ชึ..’
       และแล้ว
      
      ‘คาราสุมะคุง  ซึกิ งะ อุมะคัตตะเนะ....!!!(ฮาริมะคุง เล่นสกีเก่งจังเลย)’
      “นี้ตูเขียนอะไรลงไปเนี้ย”
       ซึคาโมโต้ เท็นมะ กับค่ำคืนหรรษา
         
       “เอาหละ ใจเย็นๆ ไว้ก่อนนะ ลอกอีกทีสิ “
       ‘คาราสุมะ คุง ซึ... ซึ... สุกิยากิ ฝีมือเธออร่อยมากเลยหละ ฉันอยาก.....’
        
       ฮินาตะโยนปากกาทิ้งทันที แต่ก็ยังรวบรวมสมาธิแล้วเริ่มลงมือเขียนอีกครั้ง
        คาราสุมะคุง ซึ...ซึ... skinhead skill ski…. 
       “แล้วตูจะเขียนได้ไหมเนี้ย”
 
       ตอนนี้หน้ากระดาษ คงเต็มไปด้วย ซึกิ ซึ้งไม่ตรงประเด็นเลยชักตัว

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

อ่านนิยายเรื่องอื่น

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา