เวทีของ หมายเลข13
9.5
1)
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ "ต่อไปหมายเลข13..นางสาวมิ่งขวัญ ... จาก..... ส่งเข้าประกวดค่ะ"
มิ่งเดินเยื้องย่างราวนางพญา พลาง กรีดกราย อย่างงดงามตามที่โดนสอนมาตลอดครอสสั้นๆ ยิ้มหวานละไมของมิ่ง ดั่งจะหยุดทุกสายตาให้หันมาชื่นชมในตัวเธอเพียงผู้เดียวในคำคืนนี้
ชุดสวยที่รุ่มร่ามเครื่องประดับตกแต่งอย่างเลิศหรูเกินที่คนธรรมดาสามัญจะสวมใส่เข้าไปได้ในวันปกติ ถูกพาเชิดด้วยร่างระหง สมส่วน และงามผ่องไปทั่วสรรพางค์ ใบหน้าที่หวานเป็นทุนอยู่แล้วพอมาเจอการแต่งแต้มสีสรรจากฝีมือที่เจนจัดของช่างระดับชาติอย่างเจ้ร้าฯคนดังของวงการความงาม ยิ่งเพิ่มดีกรีความงามเพริดพริ้งให้เธออย่างล้นเหลือ
แต่ในใจขณะที่เธอเดินนวยนาดและยิ้มหวานชวนเชิญคะแนนทั้งหลายอยู่นั้น ใจของเธอมันแทบจะเต้นตูมตามกระโดดลงสระน้ำที่ตกแต่งหรูให้กลายเป็นเวทีไปให้รู้แล้วรู้รอด.
"น่านะ...แกช่วยพี่หน่อยสิ พี่จำเป็นจริงๆ แกก็รู้" พี่คุ่แฝดของมิ่ง แทบจะลงทุนกราบไหว้มิ่ง เพื่อให้เธอมาปรากฎตัวในคืนนี้
"เจ้..เจ้ก็รู้นี่เวทีนี้มันโหดขนาดใหน? เค้าไม่ต้องกระอักเลือดเลยเหรอ ถ้าความแตกอ่ะ ทีน ท้างน้านเลยนะ." มิ่งอดสยองไม่ได้เมื่อหากมีคนจับได้
"อุ้ย..ไม่หรอก ทีมงานเราเนียนๆกันทั้งน้าน เชื่อดิ"
"เอางี๊ เงินนะให้หมดเลย...." ละแล้วสิ่งที่มิ่งอยากได้ก็ไหลออกมาจากปากพี่ในที่สุด มิ่งฝันอยากไปเที่ยวแบบลุยๆต่างประเทศบ้าง เหมือนเพื่อนบางคนที่ไปมาแล้ว เหมือนในหนังที่มิ่งได้ดู แค่ประเทศใกล้ๆอย่างภูฎานก็ยังดีมิ่งชอบความเงียบ ความหนาว ทิเบตก็ยิ่งอยู่ในฝัน และฝันนั้นก็ทำให้มิ่งมาก้าวย่างอยู่เหนือสระน้ำที่ปูด้วยกระจกใสแผ่นหนาที่พอจะรับน้ำหนักเป็นตันๆได้ ในคืนนี้
"อีกแค่สองชั่วโมงเท่านั้นๆ" มิ่งท่องเอาไว้ในใจ ก่อนที่จะเดินไปยืน"ยิ้มค้างปากกระตุก"ข้างๆสาวงามอีกคน "แอ่นอก เชิดหน้า ดันก้นๆๆ" อีกชุดประโยคที่มิ่งห้ามลืม สองชั่วโมงกลายเป็นสองศตวรรษเมื่อต้องพยายามทำอาการดังว่ามา
....... " ... เอาล่ะค่ะท่านผู้มีเกียรติทุกท่าน อีกไม่กี่นาทีข้างหน้านี้ เราจะได้ทราบผลของการประกวด มิสเฟอร์เฟคโปรแจ็ทประจำปี2010กันแล้วค่ะ......"
เสียงประกาศนี้ เหมือนจะยิ่งดันให้ความอดทนของมิ่งลดน้อยลงไปอีกอย่างช่วยไม่ได้
" เฮ้อ! เอาเถอะๆ มาซะทีๆ" นางสาวมิ่งขวัญยืนร่างระหงหน้ายิ้มงาม ท่ามกลางสาวงามจากหลายๆที่ แม้จะเหมื่อยแสนเหมื่อย แต่ก็ไม่มีทีท่าจะอ่อนแรงลงแม้แต่น้อย ในใจคิดเร่งเร้าขั้นตอนต่างๆให้จบสิ้นเร็วๆ
เมื่อสองเดือนก่อนพี่ของมิ่งสมัครเข้าประกวดมิสเฟอร์เฟคโปรเจ๊ทนี้ และเข้ารอบผ่านการคัดเลือกมาตลอด จนมาถึงรายการสุดท้ายคือคืนนี้ คืนที่ต้องออกมาอวดสายตากรรมการทุกคน คืนที่จะเห็นตัวจริงจะๆเป็นๆของผู้เข้ารอบสุดท้าย ที่ก่อนหน้านั้นจะมีเพียงเรียลลิตี้ที่ออกอากาศเหมือนรายการดังๆทั่วไป แล้วเรียกคะแนนโหวตจากผู้ชมทางบ้าน อาการปวดเอวและขาของมิ่งขวัญที่ต้องฝึกซ้อมหนักมานานติดๆกันหลายวันก็ส่อขึ้น ทำให้ไม่สามารถเดินได้ หมอสั่งให้งดเดินโดยเด็ดขาด
แต่ข่าววงในและเชื่อถือได้พากันกล่าวว่า นางสาวมิ่งขวัญมาเป็นอันดับหนึ่งแน่นอน ทำให้มิ่งขวัญไม่อาจละทิ้งโอกาสของเธอได้ จึงต้องขอร้องน้องของเธอเข้าประกวดแทน เพราะจากร่างที่สูงเพียว ซึ่งถือเป็นข้อสำคัญแล้วรูปร่างที่งามไร้ที่ตินั้นก็เหมาะสมกับการเป็นนางแบบที่ดีที่สุดของโลกด้วย อีกทั้งดวงหน้าที่แสนหวานและหยาดเยิ้มเหมือนลูกครึ่งแขกฝรั่ง อิตาลี หรือที่เค้าว่ากันว่า"แขกขาว" ยิ่งชวนให้ความงามของมิ่งโดดเด่นกว่าใครๆในค่ำคืนนี้
"ผู้ได้รับตำแหน่งมิสเฟอร์เฟคโปรแจ๊ทปี2010ได้แก่....
...........(ดนตรี)..................................นางสาวมิ่งขวัญค่า....สมกับที่พวกเราต่างลุ้นเลยนะคะ เธอสวยสมบูรณ์แบบจริงเลยค่ะ...ฯลฯ ...สารพัดคำพูดล้วนแต่ยกย่องเชิดชูในความงามหาที่ติไม่ได้ของมิ่งขวัญ ไม่รู้ว่าเธอโดนจับจ้องจากสายตากี่ร้อยกี่พันคู่ จากกล้อง จากนักข่าว จากพวกหัวงูทั้งหลาย " อื้มใกล้แล้วๆ" มิ่งคิด พลางส่งยิ้มหวานไปให้กล้องนับสิบๆตัว.... ในที่สุดคืนที่แสนโหดร้ายสำหรับมิ่งก็กำลังจะผ่านพ้นไปได้ด้วยดี
....ข่าวหน้าหนึ่งของหนังสือพิมพ์เกือบทุกฉบับในเช้าวันรุ่งขึ้น ลงข่าวอุบัติเหตุที่ไม่น่าเกิดขึ้น ของวงการความงามที่ถือว่าได้มาตรฐานที่สุดของเมืองไทย
เกิดเหตุไม่คาดฝัน มิสเฟอร์เฟคโปรเจ๊ท ตกบันไดเหล็กด้านหลังเวทีตอนไฟดับจนต้องหามส่งร.พ. คาดว่าคงเดินไม่ได้ไปนานกว่าสัปดาห์ แต่ทางกองประกวดเชื่อแน่ว่า ปีนี้ประเทศไทยต้องได้รับอย่างน้อยหนึ่งรางวัลแน่นอนจากเวทีโลก.
มิ่งเมืองสะพายเป้ใบใหญ่พร้อมหอบหนังสือพิมพ์2-3ฉบับ วิ่งตามขบวนรถไฟสายใต้ โดยมีเสียงเพื่อนร้องตะโกนเรียกอยู่บนขบวนรถ การเดินทางของมิ่งเมืองกำลังจะเริ่มขึ้นแล้ว ใต้เข้ามาเลย์แล้วค่อยไปอินเดีย ทริปเล็กๆใช้เวลาหนึ่งสัปดาห์ แลกกับการหลอกลวงเพื่อก่อผลประโยชน์ให้พี่สาวตัวเองและความสุขของการเที่ยวเตร่แบบลุยๆของมิ่งเมือง แผนการณ์ที่ไม่ซับซ้อนมากที่มาจากไอเดียแจ๋วๆของมิ่งขวัญผู้เป็นพี่สาวคู่แฝดแต่แตกต่างเพศ พร้อมกับเพื่อนๆที่ช่วยกันเป็นพี่เลี้ยงและตัวช่วยสับไฟให้ดับ ที่ต่างช่วยกันให้ความร่วมมืออย่างดีตั้งแต่ต้นจนจบ
" เฮ้...ดูดิไอ้ชัย...ไอ้มิ่ง แม่ง.......ง...ง..ขนคิ้วไม่มีว่ะ"
" เออ...พี่แกเป็นไงบ้างวะ ตกบันไดเหรอ เป็นน้องงัยว้า ปล่อยให้พี่สาวสวยๆตกได้ แต่พอแกไม่มีขนคิ้ว ข้าว่า แกก็ชักดูสวยๆเหมือนพี่แกอยู่นะ ถึงจะเป็นผู้ชายก้อดูสวยเหมือนกันนะเฟ้ย ไอ้มิ่ง แกน่ะ..5555..."
เอกกับชัยเพื่อนที่ไม่รู้ว่าเมื่อคืนมิ่งไปทำอะไรมา ต่างหัวเราะขำที่คิ้วของมิ่งหายไปกว่าครึ่งในความดกหนาที่เคยมี มิ่งคว้าเอาแว่นกันแดดมาสวมทับ พลางอมยิ้มเล็กๆที่มุมปาก นึกในใจว่า "ตอนใส่ชุดแนบกระชับรัดสัดส่วนแล้วยัดก้นปลอมน่ะ แย่กว่าขนคิ้วบางๆนี่ตั้งเยอะ".แล้วมิ่งก็เอนตัวกึ่งนั่งกึ่งนอนทอดสายตามองเส้นทางที่รถไฟวิ่งผ่าน.
จบค่ะ.
*---*
มิ่งเดินเยื้องย่างราวนางพญา พลาง กรีดกราย อย่างงดงามตามที่โดนสอนมาตลอดครอสสั้นๆ ยิ้มหวานละไมของมิ่ง ดั่งจะหยุดทุกสายตาให้หันมาชื่นชมในตัวเธอเพียงผู้เดียวในคำคืนนี้
ชุดสวยที่รุ่มร่ามเครื่องประดับตกแต่งอย่างเลิศหรูเกินที่คนธรรมดาสามัญจะสวมใส่เข้าไปได้ในวันปกติ ถูกพาเชิดด้วยร่างระหง สมส่วน และงามผ่องไปทั่วสรรพางค์ ใบหน้าที่หวานเป็นทุนอยู่แล้วพอมาเจอการแต่งแต้มสีสรรจากฝีมือที่เจนจัดของช่างระดับชาติอย่างเจ้ร้าฯคนดังของวงการความงาม ยิ่งเพิ่มดีกรีความงามเพริดพริ้งให้เธออย่างล้นเหลือ
แต่ในใจขณะที่เธอเดินนวยนาดและยิ้มหวานชวนเชิญคะแนนทั้งหลายอยู่นั้น ใจของเธอมันแทบจะเต้นตูมตามกระโดดลงสระน้ำที่ตกแต่งหรูให้กลายเป็นเวทีไปให้รู้แล้วรู้รอด.
"น่านะ...แกช่วยพี่หน่อยสิ พี่จำเป็นจริงๆ แกก็รู้" พี่คุ่แฝดของมิ่ง แทบจะลงทุนกราบไหว้มิ่ง เพื่อให้เธอมาปรากฎตัวในคืนนี้
"เจ้..เจ้ก็รู้นี่เวทีนี้มันโหดขนาดใหน? เค้าไม่ต้องกระอักเลือดเลยเหรอ ถ้าความแตกอ่ะ ทีน ท้างน้านเลยนะ." มิ่งอดสยองไม่ได้เมื่อหากมีคนจับได้
"อุ้ย..ไม่หรอก ทีมงานเราเนียนๆกันทั้งน้าน เชื่อดิ"
"เอางี๊ เงินนะให้หมดเลย...." ละแล้วสิ่งที่มิ่งอยากได้ก็ไหลออกมาจากปากพี่ในที่สุด มิ่งฝันอยากไปเที่ยวแบบลุยๆต่างประเทศบ้าง เหมือนเพื่อนบางคนที่ไปมาแล้ว เหมือนในหนังที่มิ่งได้ดู แค่ประเทศใกล้ๆอย่างภูฎานก็ยังดีมิ่งชอบความเงียบ ความหนาว ทิเบตก็ยิ่งอยู่ในฝัน และฝันนั้นก็ทำให้มิ่งมาก้าวย่างอยู่เหนือสระน้ำที่ปูด้วยกระจกใสแผ่นหนาที่พอจะรับน้ำหนักเป็นตันๆได้ ในคืนนี้
"อีกแค่สองชั่วโมงเท่านั้นๆ" มิ่งท่องเอาไว้ในใจ ก่อนที่จะเดินไปยืน"ยิ้มค้างปากกระตุก"ข้างๆสาวงามอีกคน "แอ่นอก เชิดหน้า ดันก้นๆๆ" อีกชุดประโยคที่มิ่งห้ามลืม สองชั่วโมงกลายเป็นสองศตวรรษเมื่อต้องพยายามทำอาการดังว่ามา
....... " ... เอาล่ะค่ะท่านผู้มีเกียรติทุกท่าน อีกไม่กี่นาทีข้างหน้านี้ เราจะได้ทราบผลของการประกวด มิสเฟอร์เฟคโปรแจ็ทประจำปี2010กันแล้วค่ะ......"
เสียงประกาศนี้ เหมือนจะยิ่งดันให้ความอดทนของมิ่งลดน้อยลงไปอีกอย่างช่วยไม่ได้
" เฮ้อ! เอาเถอะๆ มาซะทีๆ" นางสาวมิ่งขวัญยืนร่างระหงหน้ายิ้มงาม ท่ามกลางสาวงามจากหลายๆที่ แม้จะเหมื่อยแสนเหมื่อย แต่ก็ไม่มีทีท่าจะอ่อนแรงลงแม้แต่น้อย ในใจคิดเร่งเร้าขั้นตอนต่างๆให้จบสิ้นเร็วๆ
เมื่อสองเดือนก่อนพี่ของมิ่งสมัครเข้าประกวดมิสเฟอร์เฟคโปรเจ๊ทนี้ และเข้ารอบผ่านการคัดเลือกมาตลอด จนมาถึงรายการสุดท้ายคือคืนนี้ คืนที่ต้องออกมาอวดสายตากรรมการทุกคน คืนที่จะเห็นตัวจริงจะๆเป็นๆของผู้เข้ารอบสุดท้าย ที่ก่อนหน้านั้นจะมีเพียงเรียลลิตี้ที่ออกอากาศเหมือนรายการดังๆทั่วไป แล้วเรียกคะแนนโหวตจากผู้ชมทางบ้าน อาการปวดเอวและขาของมิ่งขวัญที่ต้องฝึกซ้อมหนักมานานติดๆกันหลายวันก็ส่อขึ้น ทำให้ไม่สามารถเดินได้ หมอสั่งให้งดเดินโดยเด็ดขาด
แต่ข่าววงในและเชื่อถือได้พากันกล่าวว่า นางสาวมิ่งขวัญมาเป็นอันดับหนึ่งแน่นอน ทำให้มิ่งขวัญไม่อาจละทิ้งโอกาสของเธอได้ จึงต้องขอร้องน้องของเธอเข้าประกวดแทน เพราะจากร่างที่สูงเพียว ซึ่งถือเป็นข้อสำคัญแล้วรูปร่างที่งามไร้ที่ตินั้นก็เหมาะสมกับการเป็นนางแบบที่ดีที่สุดของโลกด้วย อีกทั้งดวงหน้าที่แสนหวานและหยาดเยิ้มเหมือนลูกครึ่งแขกฝรั่ง อิตาลี หรือที่เค้าว่ากันว่า"แขกขาว" ยิ่งชวนให้ความงามของมิ่งโดดเด่นกว่าใครๆในค่ำคืนนี้
"ผู้ได้รับตำแหน่งมิสเฟอร์เฟคโปรแจ๊ทปี2010ได้แก่....
...........(ดนตรี)..................................นางสาวมิ่งขวัญค่า....สมกับที่พวกเราต่างลุ้นเลยนะคะ เธอสวยสมบูรณ์แบบจริงเลยค่ะ...ฯลฯ ...สารพัดคำพูดล้วนแต่ยกย่องเชิดชูในความงามหาที่ติไม่ได้ของมิ่งขวัญ ไม่รู้ว่าเธอโดนจับจ้องจากสายตากี่ร้อยกี่พันคู่ จากกล้อง จากนักข่าว จากพวกหัวงูทั้งหลาย " อื้มใกล้แล้วๆ" มิ่งคิด พลางส่งยิ้มหวานไปให้กล้องนับสิบๆตัว.... ในที่สุดคืนที่แสนโหดร้ายสำหรับมิ่งก็กำลังจะผ่านพ้นไปได้ด้วยดี
....ข่าวหน้าหนึ่งของหนังสือพิมพ์เกือบทุกฉบับในเช้าวันรุ่งขึ้น ลงข่าวอุบัติเหตุที่ไม่น่าเกิดขึ้น ของวงการความงามที่ถือว่าได้มาตรฐานที่สุดของเมืองไทย
เกิดเหตุไม่คาดฝัน มิสเฟอร์เฟคโปรเจ๊ท ตกบันไดเหล็กด้านหลังเวทีตอนไฟดับจนต้องหามส่งร.พ. คาดว่าคงเดินไม่ได้ไปนานกว่าสัปดาห์ แต่ทางกองประกวดเชื่อแน่ว่า ปีนี้ประเทศไทยต้องได้รับอย่างน้อยหนึ่งรางวัลแน่นอนจากเวทีโลก.
มิ่งเมืองสะพายเป้ใบใหญ่พร้อมหอบหนังสือพิมพ์2-3ฉบับ วิ่งตามขบวนรถไฟสายใต้ โดยมีเสียงเพื่อนร้องตะโกนเรียกอยู่บนขบวนรถ การเดินทางของมิ่งเมืองกำลังจะเริ่มขึ้นแล้ว ใต้เข้ามาเลย์แล้วค่อยไปอินเดีย ทริปเล็กๆใช้เวลาหนึ่งสัปดาห์ แลกกับการหลอกลวงเพื่อก่อผลประโยชน์ให้พี่สาวตัวเองและความสุขของการเที่ยวเตร่แบบลุยๆของมิ่งเมือง แผนการณ์ที่ไม่ซับซ้อนมากที่มาจากไอเดียแจ๋วๆของมิ่งขวัญผู้เป็นพี่สาวคู่แฝดแต่แตกต่างเพศ พร้อมกับเพื่อนๆที่ช่วยกันเป็นพี่เลี้ยงและตัวช่วยสับไฟให้ดับ ที่ต่างช่วยกันให้ความร่วมมืออย่างดีตั้งแต่ต้นจนจบ
" เฮ้...ดูดิไอ้ชัย...ไอ้มิ่ง แม่ง.......ง...ง..ขนคิ้วไม่มีว่ะ"
" เออ...พี่แกเป็นไงบ้างวะ ตกบันไดเหรอ เป็นน้องงัยว้า ปล่อยให้พี่สาวสวยๆตกได้ แต่พอแกไม่มีขนคิ้ว ข้าว่า แกก็ชักดูสวยๆเหมือนพี่แกอยู่นะ ถึงจะเป็นผู้ชายก้อดูสวยเหมือนกันนะเฟ้ย ไอ้มิ่ง แกน่ะ..5555..."
เอกกับชัยเพื่อนที่ไม่รู้ว่าเมื่อคืนมิ่งไปทำอะไรมา ต่างหัวเราะขำที่คิ้วของมิ่งหายไปกว่าครึ่งในความดกหนาที่เคยมี มิ่งคว้าเอาแว่นกันแดดมาสวมทับ พลางอมยิ้มเล็กๆที่มุมปาก นึกในใจว่า "ตอนใส่ชุดแนบกระชับรัดสัดส่วนแล้วยัดก้นปลอมน่ะ แย่กว่าขนคิ้วบางๆนี่ตั้งเยอะ".แล้วมิ่งก็เอนตัวกึ่งนั่งกึ่งนอนทอดสายตามองเส้นทางที่รถไฟวิ่งผ่าน.
จบค่ะ.
*---*
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9.6 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9.9 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ