Lipsticks Shoes and Liars

-

เขียนโดย jaimeNEWYORK

วันที่ 19 กันยายน พ.ศ. 2553 เวลา 00.59 น.

  2 chapter
  7 วิจารณ์
  6,425 อ่าน
แชร์นิยาย Share Share Share

 

2)

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

ฉันหกล้มกลาง catwalk เพราะไอ้รองเท้าเฮงซวยบวกกับกระโปรงที่ยาวมากและคับมาก ฉันเลยโดนกักบริเวณ ไม่ให้ออกไปไหน ไม่ให้ใช้โทรศัพท์ ไม่ให้ใช้คอมพิวเตอร์ เฮ้อ คุณลองคิดดูสิ ชีวิตฉันนี่ตื่นเต้นดีนะ เด็กคนอื่นคงไม่โดนกักบริเวณตอนที่เดินล้มบน catwalk หรอก

 

“ดูนี่สิ!!!” มาโยนหนังสือพิมพ์มาที่บนเตียงฉันตอนเช้ามืด ขอบอกว่าแม่แทบคลั่ง ขนาดแมเรียนหมาพันธุ์ชิวาวาที่แม่รักมากกว่าฉัน มันยังไม่กล้าเข้าใกล้เลย ฉันล่ะนับถือสัญชาตญาณของพวกสัตว์จริงๆ ความจริงคนเราน่าจะมีเรด้าตรวจจับอารมณ์คนอื่นนะ ฉันล่ะเบื่อจริงๆเวลาที่มนุษย์เราคิดว่าเวลาจะตัวเองยิ่งใหญ่ที่สุด แต่ขนาดเกิดภัยธรรมชาติยังหนีพวกสัตว์ไม่ทัน

 

ฉันทำเป็นแกล้งงัวเงียไม่ลืมตามาดูความอัปยศครั้งยิ่งใหญ่ของตัวเอง ซึ่งในที่นี้ ฉันไม่คิดว่ามันจะน่าขายหน้าเท่าไหร่เลย มันช่างไร้สาระ คนเราทุกคนก็เคยทำพลาดทั้งนั้นล่ะให้ตายสิ กะอีแค่เดินหกล้ม มันจะอะไรกันนักหนา

 

“ลุกขึ้นมาเดี๋ยวนี้นะ แอชช่า เฮเลน เพิร์ล พอร์ชลี่” แม่เรียกชื่อเต็มฉันซึ่งนั่นแปลว่า โกรธจัดจนลมแทบออกหู ฉันเลยแกล้งทำเป็นสะลึมสะลืออย่างแรง แต่แม่ก็รู้ทันอยู่ดีว่าฉันคงตื่นนานแล้ว ก็แหงล่ะ เสียงแม่ดังลั่นขนาดนี้ ขอบอกว่าอาจจะดังเท่ากับเสียงเครื่องบินไอพ่นเลย ฉันก็เลยต้องฝืนใจลืมตาขึ้นมา พอเห็นหน้าแม่ฉันก็รู้ได้เลยว่า ชีวิตฉันจบสิ้น แล้ว อวสาน……………..

 

เฮ้ คิดว่าฉันจะตายตอนนี้หรอ ไม่หรอก ยังไม่ถึงเวลานั้น อย่างที่ฉันบอกเรื่องนี้มันไร้สาระ กะอีแค่เดินหกล้ม

 

“ของแบบนี้มันพลาดกันได้ค่ะ” ฉันพูดพร้อมส่งสายตาออดอ้อนสุดใจขาดดิ้น แต่ไม่ได้ผลแม้แต่น้อย แม่เอาแต่ทำหน้ายักษ์และบ่นว่า แม่จะขายหน้าแค่ไหน แม่จะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน คนแถวนี้จะมองบ้านเราว่ายังไง ฉันไม่เข้าใจคนแบบแม่และพวกผู้คนแถบย่านนี้เลย วันๆเอาแต่แต่งตัว ทำตัวงี่เง่าไปวันๆ ออกไปเที่ยว ซื้อของ นินทาคนอื่นไปเรื่อย ฉันว่าชีวิตเรามีอะไรมากกว่านั้นนะ ฉันว่าคนเราเกิดมาเท่ากัน พวกเราแค่ดันบังเอิญโชคดีกว่าคนอื่น แทนที่จะทำประโยชน์ให้กับสังคม เฮ้อ พอพูดเรื่องนี้ฉันก็นึกขึ้นมาได้ วันนี้ฉันมีนัดกับ กลาสดีส์ เพราะวันนี้เราต้องไปช่วยชมรมอนุรักษ์ของเราเก็บขยะตามชาดหาด ให้ตายสิ แล้วฉันก็มาโดนกักบริเวณด้วย แต่ฉันว่าเธอคงรู้แหละว่าฉันต้องเผชิญกับอะไรบ้างในตอนนี้

 

“ไม่ให้ออกไปไหน ไม่ให้ใช้โทรศัพท์ ไม่ให้ใช้คอมพิวเตอร์…..เด็ดขาด” ฉันมองหน้าแม่ตาปริบๆ แบบว่าฉันก็รู้อยู่หรอกนะว่าต้องโดนแบบนี้ เลยไม่ค่อยแปลกใจเท่าไหร่ ฉันไม่ชอบที่จะปั่นหัวแม่หรอกนะ เพราะแม่น่ากลัวจะตาย แม่ฉันเป็นเจ้าของนิตยสารชื่อดังมากกกก ประมาณว่าแม่น่ะแฟชั่นจ๋าสุดๆ แต่ฉันไม่ใช่เลย ตั้งแต่เด็กฉันโดนจับแต่งตัว โดนจับเดินแบบมาหลายรอบมาก ฉันกับรองเท้าส้นเตี้ยแทบไม่เคยรู้จักกันเลย ชีวิตฉันมีแต่รองเท้าส้นสูง ซึ่งเป็นอะไรที่มันแย่มาก มีครั้งนึงฉันตอนฉันอายุ 10 ขวบ ฉันเคยหกล้ม ขาพลิก เพราะไอ้รองเท้าส้นสูงเฮงซวยที่แม่ยัดเยียดให้ใส่ ต้องเย็บถึง 15 เข็ม ฉันเลยได้ใส่รองเท้าแตะ มันเป็นอะไรที่ยอดเยี่ยมมาก ฉันไม่ต้องคอยเดินเขย่งตลอดเวลาเลย ฉันว่าฉันยอมแลกที่จะเป็นแผลดีกว่าใส่ส้นสูงนะ

 

จากแผลครั้งนั้นแม่ฉันก็พาไปศัลยกรรมที่เท้า เพราะมันเป็นรอยแผลเป็น ฉันดิ้นแทบตาย ไม่อยากจะทำหรอก คือคุณจะว่าฉันงี่เง่าก็ได้นะ แต่ฉันรู้สึกว่าแผลเป็นนั้นเป็นเครื่องหมายเตือนใจถึงเวลาดีๆ เป็นเหมือนส่วนนึงในชีวิตที่เล่าเรื่องราวชีวิตของฉันน่ะ

 

“อาหารเช้าอะรับเป็นอะไรดีจ้ะ” โลลาเดินเข้ามาถามหลังจากที่แม่เดินออกไปแล้ว ก็แหงล่ะ แม่น่ากลัวสุดๆ ฉันเลยบอกเธอไปว่าเอามาเยอะๆเลย เพราะฉันคงจะกินทั้งวัน เพราะมั้นไม่มีอะไรจะทำแล้ว คือ โลลาคนนี้น่ะเป็นผู้จัดการส่วนตัวของฉัน ความจริงเธอเป็นพี่เลี้ยง แต่เธอบอกว่าพี่เลี้ยงมันไม่เท่ห์ อยากให้ฉันเรียกว่าผู้จัดการส่วนตัว ฉันเลยจัดให้ เพราะฉันเองก็ไม่ชอบพี่เลี้ยงเหมือนกัน คิดดู ฉันอายุ 17 แล้วนะ ทำไมยังต้องมีพี่เลี้ยง แต่แม่น่ะสิไม่ยอม แม่ว่าฉันต้องมีพี่เลี้ยง

 

แม่ฉันเป็นจอมบงการขนานแท้เลย ฉันล่ะอยากให้พ่ออยู่ด้วยจริงๆเลยจะได้มีพวก แต่พ่อฉันน่ะ จากไปตั้ง 5 ปีแล้ว แล้ว5 ปีล่าสุดที่ฉันเจอมานี่ก็ห่วยสิ้นดี พ่อฉันน่ะไม่มีอะไรเหมือนแม่เลย ทั้งใจดี มีเหตุผล และเป็นคนติดดิน ฉันล่ะสงสัยจริงๆ ทำไมแม่ถึงแต่งงานกับพ่อ คือ แม่ฉันน่ะ ไม่เคยจะมีวันไหนที่จะออกจากบ้านแบบไม่สวยเนี๊ยบ คิดดูว่าแม่แต่งตัวแต่งหน้า 2 ชั่วโมงอย่างต่ำก่อนออกจากบ้านทุกครั้ง แม่เป็นพวกสวยเนี๊ยบ แต่พ่อเป็นประเภทอะไรก็ได้ คนแบบแม่ไม่น่าจะชอบคนแบบพ่อได้ และพ่อก็ไม่ได้รวยขนาดนั้นด้วยนะ ตอนนี้ฉันน่ะโดนแม่คุมเข้มเรื่องคบผู้ชาย แม่บอกว่า “ต้องคบคนที่เหมาะสมกับเราเท่านั้น แม่ให้คบกับยัยกลาสซี่อะไรนี่เป็นเพื่อน ก็บุญแล้วนะ” ฉันเลยบอกไปว่าเธอชื่อ กลาสดีส์ เธอเป็นคนที่ดีที่สุดเท่าที่ฉันเคยเจอมาด้วย ทุกครั้งที่เราพูดถึงกลาสดีส์เราต้องทะเลาะกันตลอด แต่คุณก็รู้ฉันแพ้เสมอ แต่เฮ้! อย่างน้อยฉันก็ยังมีเพื่อนที่ดี และจริงใจกับฉันที่สุดก็แล้วกัน

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา