นางสาวใบบัวบก...ผมรักคุณ

9.0

เขียนโดย RATH

วันที่ 8 กันยายน พ.ศ. 2553 เวลา 21.04 น.

  3 ตอน
  27 วิจารณ์
  8,917 อ่าน
แชร์นิยาย Share Share Share

 

3) บทที่ 2 พินัยกรรม

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

บทที่ 2 

 

 

พินัยกรรม

  

 

ข่าวบันเทิง...ประจำวันนี้ 

 

 

หัวข้อข่าว: สาวน้อย..เจ้าของงานเพลงชุดใหม่...หนูไม่โดนทิ้ง...ถูกแฟนหนุ่มสลัดรักสวนกะแส...งานเพลง

 

รายละเอียด: ข่าวโปรโมต หรือเรื่องจริง..ข่าวนี้ได้รับการยืนยัน..นั่งยัน...นอนยันจากซ้อ 7.1 มันคือความจริง สาวน้อยผู้โด่งดังมาจากงานเพลงชุดนี้.....และอีกไม่นานจะมีผลงานละครกับคนรักต่างวัย...ให้ได้ติดตามทีมงานละครได้วางตัวพระเอกหนุ่ม...ทายาทตระกูลดังเกียรติภูผา...คู่รักของ...สาวน้อย...ข่าววงในยืนยันแล้ว...พระเอกหนุ่มสลัดรักสาวน้อยจริง...แฟนละครที่ต้องการจะชมละครของทั้งคู่ระหว่างพระเอกหนุ่มนักธุรกิจและสาวน้อย...ที่กำลังจะร่วมแสดงละครด้วยกันเตรียมหาผ้าเช็ดหน้าซับน้ำตา...ร้องไห้กันได้เลย...เพราะละครเรื่องนี้...ไปได้ไม่ถึงดวงดาว...สาวน้อยฉีกสัญญาทิ้งเป็นที่เรียบร้อย...ทีมข่าวปากปลาร้ารายงานคะ...ทีมงานข่าวจะรายงานข่าวความคืบหน้าต่อไปหากมีการเปลี่ยนแปลง...จบข่าว 

 

 

ณ  โรงอาหารของโรงเรียนรัฐบาลแห่งหนึ่ง 

 

              เมื่อเช้าก่อนออกจากบ้านเธอยืนมองพาดหัวข่าวบันเทิงเกี่ยวกับน้องสาวฝาแฝดของเธอ...น้องสาวเติบโตมาพร้อมกับเธอ...จนเมื่อสามปีที่แล้วมารดาได้แยกน้องสาวไปจากเธอและบิดาบุญธรรม....ถึงเธอกับน้องสาวจะไม่ใช่ลูกแท้ๆ ที่ท่านได้ให้กำเนิด...ท่านก็รักและห่วงใยเธอและน้องสาวเหมือนลูก...ให้การอบรม ให้การศึกษา ให้ความรัก การดูแลเอาใจใส่จนวาระสุดท้ายของลมหายใจของท่าน...ท่านจากไปด้วยความสงบ ด้วยโรคร้ายที่ไม่สามารถรักษาให้หายได้ เธอจำลมหายใจสุดท้ายของพ่อบุญธรรมที่มองหน้าเธอได้...ท่านน้ำตาไหล ท่านคิดถึงคนรัก...มารดาเธอควรที่จะอยู่เคียงข้างบิดาและน้องสาวของเธอด้วยเช่นกัน...ท่านยิ้มให้เธอแต่น้ำตาท่านยังไหลไม่หยุด...แม้ลมหายใจจะหยุดเต้นแต่น้ำตา...ยังคงไหลเป็นเวลานาน...วันนั้นเธอยังจำได้ไม่เคยลืม...ได้รู้ว่าน้ำตาแห่งความเศร้าและเสียใจเป็นเช่นไร...มันเป็นเช่นน้ำตาของบิดาบุญธรรมเธอนั้นเอง

 

จากสิ่งที่มารดาเธอเล่าให้ฟังบิดาผู้ให้กำเนิดเธอเป็นนักธุรกิจ....เป็นคนร่ำรวยมีหน้ามีตาในวงสังคม...มารดาเธอเป็นดาราดังดาวค้างฟ้า...พบรักกับบิดาผู้ให้กำเนิดท่านทั้งสองแต่งงานกันอย่างมีความสุข...ไม่นาน...บิดาเธอก็ประสบปัญหาทางธุรกิจเงินที่ลงทุนไปจมหาย...ใกล้ล้มละลาย... ผู้ที่ยื่นมือเข้าช่วยคือบิดาบุญธรรมของเธอ...ระหว่างที่บิดาเธอกำลังสร้างเนื้อสร้างตัวมารดาเธอได้เลิกราจากบิดาผู้ให้กำเนิดมาอยู่กับบิดาบุญธรรม... 

 

จากนั้นไม่นานมารดาเธอได้ตั้งท้อง....เด็กที่เกิดมาเป็นเด็กน้อยฝาแฝดสองคนมีชื่อว่า หนูมะลิวัน และ หนูมะลิซ้อน... จนเมื่อสามปีที่แล้วมารดาของเธอได้เลิกรากับบิดาบุญธรรม...ได้พาน้องสาวของเธอกลับไปหาบิดาผู้ให้กำเนิด...ทิ้งให้เธออยู่กับพ่อเลี้ยงบุญธรรม...อาจจะเป็นไปได้ว่า ณ ขณะนี้บิดาผู้ให้กำเนิด...กลับมามีเงินทองร่ำรวย...มีหน้ามีตาในวงสังคมอีกครั้ง...มันเป็นความคิดของเธอ ณ ตอนนี้ส่วนเรื่องจริงระหว่างมารดาเธอ บิดาผู้ให้กำเนิด บิดาบุญธรรม ...จะเป็นอย่างไรเธอไม่คิดจะหาคำตอบ...แต่มีสิ่งหนึ่งก็คือ สำหรับเธอบิดาของเธอมีได้แค่คนเดียวเท่านั้น เธอยังทำใจที่จะไปอยู่กับมารดาเธอ บิดาผู้ให้กำเนิด และน้องสาวไม่ได้ด้วยเช่นกัน...เมื่อเธอเรียนจบมัธยมศึกษาปีที่สาม... 

 

เธอใช้เงินที่บิดาเหลือไว้ให้มาซื้อบ้านหลังใหม่ เปลี่ยนชื่อใหม่ และย้ายโรงเรียนใหม่ เปลี่ยนการแต่งตัวปกปิดหน้าตาของเธอที่เหมือนกับดารานักร้อง ชื่อดัง...วันนี้เธอได้เห็นหน้าน้องสาวในหนังสือพิมพ์ถูกหนุ่มนักธุรกิจสลัดรัก...เธอขอให้มันเป็นแค่เรื่องโกหกเพื่อ...โปรโมต ละครเท่านั้นอย่าให้น้องสาวเธอต้องเสียงใจจริงๆ เลย...ถึงแม้น้องสาวเธอจะร้องเพลงเก่ง แต่เรื่องความอ่อนไหวของจิตใจ...เธอไร้เดียงสายิ่งนัก...รับมือเรื่องความรัก ความผูกพันระหว่างชายหญิงอ่อนต่อโลกมากนัก..เธอมองขึ้นไปดูทีวี...ในโรงอาหารรายงานข่าวบันเทิง...มันคือข่าวที่เธออ่านเมื่อเช้านี้...สงสัยเรื่องที่อ่านมันจะเป็นความจริง....เธอนั่งทานอาหาร..และนั่งคิดไปด้วย...นั่งฟังโต๊ะข้างๆ คุยกันไปด้วย...พวกกลุ่มแรดกำลังคุยอะไรกันนะ... 

 

“หนูเห็ด... หนูกุ้ง... พวกเธอสองคนจงฟังฉันให้ดี ต่อแต่นี้พวกเราจะไม่แรดกันอีกต่อไปแล้วเข้าใจมั้ย”  

 

เสียงอ่อนหวานจากหัวหน้ากลุ่มทำให้สองสาวเคลิบเคลิ้ม....ทั้งสองสาวนั่งกินขนมอบกรอบลดความอ้วน...หรืออาหารขยะ ไม่มีคุณประโยชน์ต่อร่างกาย กินแค่เอามัน..เอากรอบเท่านั้น...นานๆที ก็จะพยักหน้า และนั่งฟังหัวหน้ากลุ่มพูดต่อ...หนูต้นหอม เห็นอาการของเพื่อนสาวแสดงความเข้าใจที่ตนพูด...จึงอธิบายเหตุผลต่อ... 

 

“เริ่มจาก...คำง่ายๆ ก่อน เช่น ห้ามเรียกคำที่ขึ้นต้นด้วย...ยัย... ยัยเห็ด  ยัยกุ้ง ห้ามพูด..และห้ามแต่งเติมชื่อเพิ่มอีกโดยเด็ดขาดเช่น... เห็ดเน่า เห็ดสด หรือกุ้งแห้ง และชื่อของฉัน หอมหวน...ห้ามเรียกอีกต่อไปเข้าใจนะ...พวกหล่อน... เราจะเริ่มต้นเป็นสาวน้อยผู้มีจิตใจดีงาม...อ่อนหวาน ทำให้หนุ่มตกหลุมรัก...อย่างเช่นหนุ่มหล่อที่เพิ่งย้ายมาเรียนเมื่อเช้านี้...เข้าใจกันใช่มั้ย...  หนูเห็ด หนูกุ้ง”  

 

ทั้งสองพยักหน้า แล้วพูดพร้อมกัน 

 

“เข้าใจ...คุณหนูต้นหอม” 

 

“ดีมาก...พวกหล่อน...” 

 

“คุณหนูต้นหอม...เรายังมีปัญหา” หนูเห็ดพูดขึ้น 

 

“เรื่องตะเข้ กับ ตัวเหี้ย...เราต้องเตรียมตัวเรียกพวกมันใหม่...หากอยู่ต่อหน้าพวกมันเราเรียกมัน พี่ดล พี่บอล อยู่แล้ว ...แต่ เวลา...ปลอดโปร่ง...ไม่มีใครเห็นเรามักเรียกมันทั้งสอง... ไอ้ตะเข้ ไอ้เหี้ย หรือ ไอ้ดล ไอ้บอล...เราจะต้องเปลี่ยนเรียกมันใหม่ด้วยมั้ย”  

 

หนูเห็ดพูดจบ หนูกุ้งพูดต่อทันที 

 

“จริงด้วยหนูต้นหอม...ฉันละกลุ้ม...กับไอ้สองตัวนี้จริงๆ มันสองคนต้องทำให้พวกเราขาดสติแน่เลย...การที่เราจะเป็นคนดี...มีน้ำใจดีงาม...มันก็อาจจะไม่สำเร็จก็ได้...ถ้าไอ้สองสัตว์นี้ยังเข้ามาก่อกวนพวกเรา” 

 

หนูกุ้งพูดจบ...หนูต้นหอมพูดต่อทันที

 

“หนูกุ้ง...หนูเห็ด...เอาไอ้สัตว์สองตัวนี้ปล่อยสวนสัตว์ไปเถอะ...อดทนเรียกพวกมันต่ออีกไม่กี่เดือน...ทั้งต่อหน้า...และลับหลัง...ถึงพวกมันจะก่อกวน ...จะก่อกองไฟเอาพวกเราไปเผาจนใกล้ตาย...เราก็จะอดทนเรียกพวกมันอย่างสาวน้อยใจดี มีเมตตา  ผู้มีจิตใจอ่อนโยน....เข้าใจมั้ย...ไม่อย่างนั้นสิ่งที่พวกเราหวังไว้ได้ติดปีกบินหนีไปแน่...”  

 

ทั้งสองสาวพยักหน้าและพูดพร้อมกัน 

 

“เข้าใจแล้ว...คุณหนูต้นหอม...” 

 

“พวกเราไปหาอะไรกินกันเถอะฉันหิวแล้ว...พวกเธอสองคนเลิกกินไอ้ขยะนี้ได้มั้ย...ไอ้ขนมพวกนี้...มันจะทำให้พวกเราดูขาด...บุคลิกของคนที่ฉลาด...คนฉลาดไม่กินอาหารขยะ...และอย่าให้ฉันเห็นพวกเธอ...ไปซื้อมากินต่อหน้าฉันอีก...เข้าใจมั้ย....”  

 

ทั้งสองคนพยักหน้าและพูดพร้อมกัน 

 

“เข้าใจจะคุณหนูต้นหอม...” 

 

“แล้วพวกเราจะแบ่ง...ไอ้หน้าหล่อกันอย่างไรกันดีละ...หนูต้นหอม” 

 

“ก็ตัดแยกหัว แยกแขน แยกขา แบ่งกันสิ....จริงมั้ย...ต้นหอม” 

 

“อี..แ...ร...” 

 

“หยุด...ฉันลืมบอกพวกหล่อน...หากใครพูดคำต้องห้าม...ต้องจ่ายเงินมาคำละ 500 บาท”  

 

หนู ต้นหอมพูดขึ้น  สองเพื่อนสาวเอามือปิดปาก...อย่างตกใจ...หรือกลัวจะต้องเสียเงินกันแน่ก็ไม่สามารถบอกได้..

 

“จริงหรือต้นหอม..” ทั้งสองสาวพูดพร้อมกัน 

 

“จริง....และจริง...พวกหล่อนเตรียมแลกแบงค์ห้าร้อย...ไว้ได้เลย” 

 

“ว้าย...ฉันต้องรวยแน่เลย...ยัยเห็ด” หนูกุ้งพูดขึ้น

 

“เธอจ่ายฉันมา...หนูกุ้ง...”

 

“อะไร....”

 

“เธอเพิ่งเรียกฉันว่า....ยัยเห็ด”

 

“เธอสองคนจ่ายฉันมาคนละ 500 เธอทั้งสองต่างก็พูดคำต้องห้าม”

 

“ไม่จริง....” สองเพื่อนสาวพูดพร้อมกัน

 

“จริง....และต่อไปหากใครพูดผิด...บอกกันแค่ว่า...คำต้องห้าม 500...ไม่ต้องทวน...คำต้องห้าม...มิฉะนั้นต้องจ่ายเหมือนกัน...”

 

“หนูต้นหอมเมื่อกี่คิดเสียว่า...เป็นละครตัวอย่างได้มั้ย....”

 

สองสาวพูดพร้อมกัน

 

“ไม่ได้...จ่ายมาคนละ 500...”

 

สองสาวล่วงกระเป๋าหยิบเงินยื่นให้หัวหน้ากลุ่ม...และคิดในใจ...วันพระไม่ได้มีหนเดียว...อย่างไรหนูต้นหอม...ต้องพูดคำต้องห้ามแน่คอยดู....ทั้งสองเพื่อนสาวยิ้มและพยักหน้าให้แก่กัน...และจ้องไปยังหนูต้นหอม...พร้อมที่จะทวงเงินที่เสียไปคืน...

 

“พวกหล่อนยิ้มอะไรกัน...เสียเงินนิดหน่อยสมอง...เพี้ยนหรือไง”

 

สองสาวส่ายหน้าไม่พูดออกมา...ยิ่งพูดน้อยเปอร์เซ็นต์จ่ายเงินก็น้อยลงไปด้วย...

 

“ดี...ไม่พูดก็ดี...พวกหล่อนทำให้ได้ตลอดไปแล้วกัน...”

 

หัวหน้ากลุ่มพูดจบและเดินไปหาอะไรทานสองเพื่อนสาวเดินตาม...จ้องอยากจะกินเลือดกินเนื้อ...และนึกในใจฉันต้องได้เงินคืน....ต้องได้เงินคืน..แน่..

 

“หนูต้นหอมวันนี้เธอต้องเลี้ยงพวกเรานะ...”

 

“ได้...วันนี้ฉันรวย...ฉันเลี้ยงเอง...”

 

ทั้งสองสาวคิด...มันก็เงินของฉัน...ทั้งนั้น

 

สาวน้อยใบบัวบก...มองสามสาวกลุ่มแรดอย่าง...ไม่อยากจะเชื่อสายตา...และคิดว่าพวกกลุ่มแรดจะทำไปได้สักกี่วันกันเชียว...ความสนใจของเธอมุ่งตรงไปยังประตูทางเข้าโรงอาหาร....ชายหนุ่มที่สามสาววางแผนตัดหัว ตัดขา และแขนแบ่งกัน เดินเข้ามาแล้ว...ในห้องเรียนชายหนุ่มรูปหล่อ...นั่งมอง และจ้องเธอทุกๆ สอง สามนาที....สงสัยจะแอบปลื้มเธออีกคน...เธอเลิกสนใจและทานข้าวต่อ...และคิดถึงน้องสาวของเธอตอนนี้จะเป็นอย่างไรบางนะ

 

.........................................

 

ณ บ้านตระกูลศรีวิกรณ์

 

สาวน้อยมะลิวัน...วงการบันเทิงรู้จักเธอในชื่อ... วีนัส... เป็นชื่อเทพีแห่งเทพที่เกี่ยวข้องโดยตรงกับความรักและความงามสาวน้อยขังตัวเองอยู่ในห้องนอน...สภาพภายในห้องเศษกระจกแตกเต็มพื้น เสื้อผ้าราคาแพง ของเล่น ตุ๊กตา...หลายสิบตัว...ถูกกรรไกรตัดขาดละออง หนุ่น...สีขาว..เศษขนเป็ด ขนหาน ขนนกกระจายลอยทั่วห้อง...ห้องถูกตกแต่งใหม่เป็นสีขาว...เหมือนห้องนอนเจ้าหญิงในเทพนิยาย...แต่ในความเป็นจริง...มันคือสงครามทางอารมณ์ของสาวน้อยนามว่าวีนัส......ได้เปลี่ยนตัวเองเป็นเทพีแห่งการทำลายล้างไปเสียแล้ว....

 

สาเหตุมาจากถูกชายที่ตนหลงรัก...กล่าวตัดสัมพันธ์...เพียงไม่กี่วันพวกปากหอย ปากปู...ต่างเสนอข่าว...จนรู้ทั่วกันทั่วทั้งประเทศ...สาวน้อยวีนัสไม่กล้าออกไปไหน...ขังตัวเองอยู่แต่ในห้อง... นอนร้องไห้เสียใจ...มารดาของสาวน้อย...ขอร้องเท่าไรก็ไม่ยอมออกมา...จนหมดทางอ้อนวอนลูกบังเกิดเกล้า...จึงปล่อยให้นอนร้องไห้อยู่คนเดียวในห้อง....มารดาสาวน้องมานั่งกลุ้มใจอยู่ในห้องนั่งเล่นไม่รู้จะทำอย่างไรดี...เพื่อแก้สถานการณ์...ของลูกสาวตอนนี้...

 

งานที่ลูกสาวติดต่อไว้หลายสิบงานต้องยกเลิก...ถูกโทรต่อว่าจนต้องดึงสายโทรศัพท์ทิ้ง...แล้วพรุ่งนี้อีกงานที่ติดต่อไว้จะทำอย่างไรดี...เงินทอง ความร่ำรวยตอนนี้เธอมีมันหมดแล้ว...แต่ชื่อเสียง ในวงสังคมเธอต้องรักษามันไว้ให้ได้...เธอนั่งคิดอยู่นานผลสุดท้ายก็คิดออก...มะลิซ้อน...ลูกแม่ต้องแก้ปัญหาให้แม่ได้แน่นอน เธอรู้ว่าสามปีมานี้ลูกสาวพยายามหนีเธอ...หากเธอต้องการจะตามหาจริงๆ มีหรือเธอจะหาไม่พบ...แต่เธอต้องการให้ลูกได้ทำใจยอมรับการตายของพ่อบุญธรรมได้เสียก่อน....และตอนนี้เธอก็ให้เวลาลูกสาวเธอมานานแล้ว หมดเวลาที่เธอได้มอบให้แก่ลูกสาวคนโตแล้ว....ลูกสาวคนโตต้องช่วยเธอแก้ปัญหานี้  เธอคิด แล้วหยิบโทรศัพท์โทรหาเพื่อนลูกสาวเธอ...สาวน้อยมีชื่อว่า มินตรา...เป็นดารานักแสดง...เธอได้ทำการอุปถัมภ์ค้ำชูจนมีชื่อเสียงโด่งดัง...และเป็นเพื่อนสนิทของลูกสาวเธอมานานหลายปี....ทั้งสองคนอยู่ด้วยกัน....เธอกดหมายเลขโทรศัพท์ติดต่อทันที....

 

“สวัสดีมินตรา...นี้แม่เองนะ...แม่ต้องการพบมะลิซ้อน...วันนี้พาแม่ไปพบได้มั้ย”

 

“ได้คะคุณแม่....เดี๋ยวหนูไปพบคุณแม่ที่บ้านนะคะ...แล้วคุณแม่ติดรถหนูไปหามะลิ...ด้วยกัน...”

 

“จะหนูมินตรา...แม่จะรอ”

 

มินตราเพื่อนสนิทของ...มะลิซ้อน...หรือมะลิ...เมื่ออยู่กันสองคนกับเพื่อนสนิทเธอจะเรียกแค่ ..มะลิ...และเรียกแม่ของเพื่อนว่า...คุณแม่...อย่างให้เกียรติเพราะเธอซาบซึ้งในน้ำใจมารดาเพื่อน...ที่พาเธอเข้าวงการบันเทิงจนมีชื่อเสียงโด่งดัง...ถึงเธอจะได้รับบท...ตัวร้าย...หรือ...เพื่อนนางเอก...เธอก็พอใจ...เมื่อมารดาเพื่อนโทรมาหา...และให้พาไปพบลูกสาว...เธอหรือจะปฏิเสธได้...ถึงแม้เพื่อนรักจะสั่งห้ามไว้แล้วก็ตาม...มินตรา รักเพื่อนมากและก็เคารพมารดาของเพื่อนด้วย...เธอจึงไม่สามารถอยู่ข้างใครได้...เธอขอวางตัวเป็นกลางแล้วกัน...เธอคิด ในเวลาต่อมาเธอขับรถมาจอดยังหน้าบ้านของตระกูลศรีวิกรณ์....เพื่อจะพามารดาและน้องสาวของเพื่อนไปพบ....เพื่อนสนิท..

 

...........................................

 

ณ ตระกูลเกียรติภูผา

 

นาคิน เกียรติภูผา หนุ่มหล่อที่เพิ่งเลิกราจากดาราสาวน้อยไปหมาดๆ...ต้องมีเรื่องให้กลุ้มใจอีกแล้ว...เมื่อเขาได้ทราบข้อความในพินัยกรรมฉบับใหม่ของคุณยาย...ที่ต้องการให้เขาแต่งงานกับสาวน้อยที่มีชื่อว่ามะลิซ้อน...ก่อนท่านจะเสียชีวิต...และท่านต้องการจะเห็นหน้าหลานก่อนตาย...มิฉะนั้นทรัพย์สินจะถูกมอบให้แก่การกุศล...เงินทองและทรัพย์สินตั้งมากมาย...มันเป็นของเขาเรื่องอะไรจะให้คุณยายยกให้กับการกุศล...จะให้เขาแต่งงานกับลิงเขาคงต้องยอม  และหาเรื่องหย่ากันในภายหลัง....ชายหนุ่มเห็นคุณพ่อเดินเข้าประตูมา...ตอนนี้เขาต้องการใครสักคนเอาอกเอาใจ โดยเฉพาะกับพ่อ แม่...และต้องการให้พ่อและแม่ช่วยแก้ปัญหาให้ด้วย

 

“คุณพ่อครับ...ผมแย่แล้ว...คุณยายจะให้ผมแต่งงาน....คุณพ่อช่วยผมด้วย”

 

บิดาชายหนุ่มยิ้ม..

 

“พ่อช่วยลูกไม่ได้หลอก....พ่อแต่งงานแล้ว...ไอ้ลูกชาย”

 

“ก็หย่าสิครับ...แล้วแต่งงานแทนผม...ไอ้คุณพ่อ”

 

“แก...ไปถามแม่แกก่อน...แม่แกตกลงพ่อก็ตกลง...”

 

“คุณพ่อ...อย่ามัวแต่พูดเล่นสิครับ...ผมจริงจังนะครับ...”

 

“นาคิน...พ่อช่วยไม่ได้...พ่อโทรคุยกับคุณยายแล้วท่านยืนยันเสียงแข็งมาก...ยอมยายท่าน...เถอะนาคิน...นึกว่าสงสารคนแก่...”

 

“นี้...ตกลงผมต้องแต่งงานจริงๆ ใช่มั้ย ครับคุณพ่อ”

 

“จริงแท้แน่นอน...ไอ้ลูกชาย”

 

“รู้อย่างนี้ผมแต่งกับ...”

 

บิดายิ้ม....และพูดต่อให้...

 

“สาวน้อยที่แก่เพิ่งทิ้งเขา...จนคนทั้งประเทศรู้กันหมดแล้วอย่างนั้นรึไง”

 

“ครับคุณพ่อ....”

 

ชายหนุ่มพูดจบ...แล้วเดินจากไป...เดินตรงไปยังรถที่จอดรออยู่ข้างนอก...เขาคิดจะไปหาเหล้าดื่มแก้กลุ้มเสียหน่อย...แล้วนาคินหนุ่มสุดฮอท...ก็ขับรถตรงไปหาอบายมุขทันที

 

.......................................

ณ  บ้านหลังน้อยของสาวมะลิซ้อน

 

วันนี้เธอเรียนเสร็จและตรงกลับบ้านทันที...เธอซื้อบ้านหลังนี้...มาได้สามปีแล้วเธออาศัยอยู่กับเพื่อนที่เป็นดาราดาวร่วง...ตามจริงแล้วยังไปไม่ถึงดวงดาวแค่อยู่ระหว่างชั้นบรรยากาศ...และตกลงมาเสียก่อน...เพื่อนของเธอหน้าตาสวยแต่ยังไม่ได้มาตรฐานจะรับบทนางเอก...เป็นได้ใกล้เคียงแค่บทเพื่อนรักนางเอก..ในบางวันหากเธอไม่ทำอะไร..เพื่อนสาวก็จะให้เธอรับบทนางเอกเพื่อต่อบทละครให้เพื่อน...บางครั้ง...มินตรา...หรือ มิน..หากอยู่กันสองคนเธอจะเรียก..แค่..มิน...จะพูดกับเธอเสมอว่า...

 

“ยัยมะลิ...แกไปแสดงละครเถอะ..แกเก่งมาก ตีบทแตกกระจายเลย...ยัยนางเอกที่ฉันแสดงด้วย...ฉันไม่อยากจะพูดถึง...บางครั้งฉันคิดว่าฉันแสดงอยู่กับ ตอไม้  หรือท่อนไม้ด้วยซ้ำ....”

 

เธอจะหัวเราะและส่ายหน้าตลอด...น้องสาวเธออยู่วงการบันเทิง...ตอนนี้น้องเธอคือดาวจรัสแสง...หากเธอเข้าแทรกอีกคน...น้องสาวเธอคงไม่พอใจแน่...และเธอก็ไม่ต้องการเดินตามรอยเท้าของผู้เป็นมารดาด้วย....เธอเดินใจลอยมาจนถึงหน้าบ้าน...วันนี้เธอรู้สึกว่ามีอะไรแปลกไป...เธอเปิดประตูเข้าไป เธอเจอกับเธออีกคน...เหมือนเธอเจอทุกวันในกระจก... แต่วันนี้มันต่างออกไป...เธอจำได้น้องสาวของเธอเอง...วิ่งเข้ามาหาเธอและกอดไว้แน่น...ร้องไห้เสียใจ...

 

“พี่คะช่วยหนูด้วย....”

 

น้องเธอพูดไปร้องไห้ไป เธอไม่รู้ว่าน้องสาวต้องการให้เธอช่วยอะไร....แต่ขณะที่ได้เห็นน้ำตาน้องสาว...เธอจะใจแข็งไม่ช่วยได้หรือ

 

“น้องวัน....มีอะไร...ถ้าพี่ช่วยได้พี่ก็จะช่วย...ไปนั่งลงพูดกันก่อนดีมั้ย”

 

น้องสาวคลายอ้อมกอดออกแล้วจับมือเธอเดินไปยังโซฟาห้องรับแขกเล็กๆ ที่โชฟา...เธอพบมารดานั่งรออยู่พร้อมเพื่อนสาว..มินตรา..ยิ้มให้เธออย่างขอโทษที่ฟื้นข้อห้ามของเธอ...ที่ไม่ให้พามารดาเธอมาที่บ้านหลังนี้...เธอไม่สนใจรอยยิ้มขอโทษของเพื่อนรัก...เธอสนใจมารดาเธอที่ยืนยิ้มรับเธออยู่ต่างหากเธอยกมือขึ้นไหว้อย่างเคยชิน....แม่เธอเดินเข้ามากอดไว้แน่นมาก....

 

“มะลิ....ลูกแม่...แม่คิดถึงลูกมาก...รู้มั้ย”

 

เธอไม่เชื่อคำพูดของมารดาเธอเท่าไร...เพราะตลอดเวลาเธอรู้แม่เธอชอบพูดโกหก...กับเธอ กับบิดาบุญธรรมของเธอ และอาจจะน้องสาวเธอด้วย...

 

“คะแม่...หนูก็คิดถึงแม่คะ”

 

เธอหลุดปากพูดออกไป...อยากเรียกคำพูดคืนจังเลย เธอคิด

 

“จริงหรือจะ...ลูกรัก...แม่คิดอยู่แล้ว...ว่าลูกต้องอยากพบแม่...มาลูกรัก...มานั่งข้างๆ แม่นี้...แม่มีเรื่องจะพูดด้วย”

 

มารดาเธอจูงมือเดินไปด้วยกัน...และนั่งลงระหว่างกลาง...เธอและน้องสาว...เธอมองหน้าน้องสาวยังมีน้ำตาไหลออกมา....และเธอก็เดาได้คงเป็นข่าวที่เธอได้อ่านเจอเมื่อเช้านี้แน่....น้องเธอถูกผู้ชายทิ้ง....เธอไม่รู้ทำไมผู้ชายถึงทิ้งน้องของเธอได้...น้องเธอเป็นสาวน้อย...แสนสวย...มีข้อเสียอยู่อย่างเดียว...น้องเธอขาดการศึกษาเรียนรู้...หลังจากจบมัธยมศึกษาปีที่สาม มารดาเธอก็พาน้องเธอเข้าวงการบันเทิงทันที...การเรียน การศึกษาจึง เรียนไปหยุดไปสุดท้ายก็ต้องหยุดเรียน...น้องเธอได้รับปริญญาชีวิต...แต่ไม่ได้ใบประกาศผลการศึกษาระดับมัธยมปลาย...ส่วนเธออีกไม่กี่เดือนก็จะได้รับใบประกาศแล้ว....เธอรู้สึกดีใจจัง  เธอคิดเสียงมารดาเธอพูดขึ้น...ทำให้เธอหยุดคิดและฟังที่มารดาเธอพูด...

 

 

“มะลิ...ลูกรักลูกต้องช่วยแม่กับน้องนะลูก....ตอนนี้น้องเสียใจมากทำอะไรไม่ได้เลย...งานที่รับไว้ก็ไม่มีสมาธิจะทำ..ต้องยกเลิกงานไปมากมาย..พรุ่งนี้ก็อีกเป็นสิบงาน..แม่กับน้องกลุ้มใจมาก....ไม่รู้จะไปพึ่งใคร...นอกจากลูกมะลิของแม่เท่านั้น”

 

เธอไม่เข้าใจเรื่องที่มารดาเธอพูด...นี้แม่เธอคงไม่คิดจะให้เธอไปทำงานแทนน้องสาวของเธอหรอกนะ...ถ้ามันคือความจริง...แล้วเธอจะต้องทำอย่างไรเธอกำลังจะเรียนจบในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า...แม่เธอคงไม่คิดจะให้เธอหยุดเรียนเพื่อไปทำงานแทนน้องเธอหรอกนะ....

 

“แม่คะ...แม่คงไม่ได้จะขอให้หนูไม่ทำงานแทนน้องวันหรอกนะคะ...”

 

เธอมองดวงตาแม่เธอและเข้าใจคำตอบก่อนที่แม่เธอจะตอบเธอด้วยซ้ำ

 

“ลูกมะลิจะ...แค่ไม่กี่วันเองพอน้องหายเศร้าเสียใจ...แล้วน้องก็จะกลับไปทำงานเหมือนเดิม”

 

เธอรู้ว่าแม่เธอโกหก ไม่กี่วัน..ในตอนนี้หากเธอรับปาก...หากน้องเธอตัดสินใจหยุดทำงานไปอีกยาว...เธอก็ต้องต่อเวลาให้มารดาเธอไปอีกเรื่อยๆ เธอทำไม่ได้แน่...แต่เสียงสะอื้นของน้องสาวเธอก็ต้องทำให้เธอใจอ่อน...

 

“พี่คะ...ช่วยหนูด้วยนะคะ....หนูไม่กล้าไปเจอหน้าใครเลย....พวกเขาต่างก็รอหัวเราะเยอะหนู...สมน้ำหน้าหนู...พวกนั้นอิจฉาหนู...พวกมันบอกว่าจะรอสมน้ำหน้าหนูหากหนู...ถูกทิ้ง....หนูบอกพวกมันว่าไม่มีวันที่หนูจะโดนทิ้ง...หนูให้นักแต่งเพลงแต่งเพลงให้...ชื่อว่าเพลง หนูไม่โดนทิ้ง...และร้องให้พวกมันฟังกัน...จนเพลงเกิดดังขึ้นมา....ทำรายได้ทะล้มทะลาย....แต่ไอ้ผู้ชายบ้านั้นมันกับทิ้งหนู...สวนกระแสงานเพลงหนู....หนูไม่กล้าสู่หน้าใคร...งานละครรับไว้ก็ไม่กล้าไปแสดง...หนูไม่กล้าสู่หน้าเขาคะพี่”

 

น้องเธอพูดไปร้องไห้... สะอื้นไป...คงเสียใจมาก...ทางออกของน้องเธอคือไม่กล้าที่จะไปเผชิญความจริง...จึงคิดจะส่งเธอให้ไปช่วยแก้ไข..และเผชิญหน้าเรื่องที่น้องเธอไม่ต้องการจะเจอ...แต่เธอต้องแก้ปัญหาของเธอก่อน...โดยเฉพาะเรื่องเรียนเธอจะทำอย่างไรดี...เธอมองไปที่น้องสาว ปัญหาก็ถูกแก้ไขทันที...

 

“พี่จะช่วยเธอกับแม่...แต่เธอกับแม่ก็ต้องช่วยพี่ด้วย”

 

แม่เธอไม่รอฟังสิ่งที่เธอจะบอกด้วยซ้ำ พูดขึ้นทันที..

 

“ได้จะ...ลูกมะลิ...แม่กับน้องยินดีช่วยลูกทุกอย่างเลยจะ”

 

“จริงจะพี่...มะลิ...น้องยินดีช่วยพี่...เรื่องอะไรขอให้พี่...บอกมา...น้องยินดีช่วยจะ..”

 

เธอพยักหน้าและพูดต่อทันที

 

“เธอต้องไปเรียนหนังสือแทนพี่...เพราะพี่ใกล้จะเรียนจบแล้ว...แค่ไปเข้าเรียน..ในชื่อของพี่...และพี่ขอบอกเธอชีวิตของพี่ไม่ใช่เรื่องง่ายเช่นกัน...หากเธอทนไม่ไหว...ก็บอก...พี่ยินดีจะกลับมาเรียนเหมือนเดิม...เธอกับแม่ก็กลับไปใช่ชีวิตของเธอเหมือนเดิม”

 

“ได้จะพี่มะลิ..หนูต้องปลอมตัวเป็นพี่...ใช่มั้ย...หนูทำได้..ไม่มีปัญหาจะพี่...”

 

“ใช่...เธอต้องปลอมตัวเป็นพี่...และพี่มีชื่อว่า..ใบบัวบก....”

 

และเธอก็เล่าเรื่องของเธอให้น้องสาวฟัง...ตั้งแต่เธอย้ายมาเรียนที่นี้เมื่อสามปีก่อน...และเล่าถึงคุณยายที่เธอสนิทด้วย...ให้น้องสาวและแม่ได้ฟัง...แต่สิ่งที่นางสาวใบบัวบกยังไม่รู้ก็คือ...ยาย...เพื่อนสนิทต่างวัยกำลังวางแผนจับเธอแต่งงานกับหลานชายนามว่า..นาคิน เกียรติภูผา ...สุดท้ายเธอจะได้แต่งงานกับหนุ่มหล่อหรือน้องสาวผู้ที่เพิ่งถูกคนรักทิ้งมาหมาดๆ จะได้แต่งงานแทนเธอกันแน่...มีแต่สวรรค์เท่านั้นถึงจะตอบคำถาม..นางสาวใบบัวบกได้...

 

จบบทที่ 2 ต่อบทที่ 3 นางสาวใบบัวบก...ตัวปลอม

 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
8 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
10 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา