ซาตานดีไซน์รัก

8.2

เขียนโดย น้องกิ๊ง

วันที่ 29 สิงหาคม พ.ศ. 2553 เวลา 16.16 น.

  6 ตอน
  41 วิจารณ์
  13.05K อ่าน
แชร์นิยาย Share Share Share

 

5)

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
ขนาดตัวอักษร เล็ก กลาง ใหญ่ ใหญ่มาก
       ตอนแรกวุฒิภัทรคิดว่าจะขอโทษเธอกับเรื่องที่กวีนเสีย
มารยาทกับเธอในครั้งก่อนแต่พอได้ฟังน้ำเสียงของหญิงสาวที่
เอ่ยชื่อของชายหนุ่มอีกคนอย่างสนิทสนมนั้นก็ทำให้เขาเกิดความรู้สึก
หงุดหงิดขึ้นมาเสียดื้อๆจนทำให้เขาลืมความตั้งใจที่จะขอโทษเธอใน
ตอนแรกไป
 
       เมื่อหญิงสาวเดินมาหยุดรอวุฒิภัทรอยู่หน้าห้องเขาจึงเดินออก
มาจากห้องแล้วปิดประตูก่อนจะเดินนำเธอไปก่อนพร้อมกับเริ่มอธิบาย
ให้เธอฟังถึงขนาด  ที่ตั้งและรูปร่างของโรงแรม  รูปแบบ  สไตล์ที่ที่
เขาชอบ  ความต้องการและประโยนช์ใช้สอยที่เขาต้องการจากพื้นที่
ต่างๆ
 
       วริญาหยิบสมุดขึ้นมาจดข้อมูลที่ชายหนุ่มบอกอย่างตั้งใจเพราะ
นขั้นตอนนี้เธอต้องปรับความเข้าใจให้ตรงกับความต้องลูกค้าเพื่อใช่
ในการออกแบบ 
 
“อุ้ย....”
 
       วริญาที่มัวแต่จดข้อมูลอย่างตั้งใจทำให้มองไม่เห็นว่าวุฒิภัทรนั้น
หยุดเดินจึงได้ชนกับเขาเข้าอย่างจัง  ทำให้เสียการทรงตัวจนเกือบ
หงายหลังไปหากว่าเขาไม่เอื้อมมือมาช่วยรับไว้ได้ทัน  ทำให้ตอนนี้วริ
ญาเข้าไปอยู่ในอ้อมกอดของวุฒิภัทรโดยปริยาย  อีกทั้งจมูกของเขาก็
ยังสัมผัสโดนแก้มของเธออีกด้วย  วริญามองเขาอย่างตะลึง  ดวงตา
ของเขาทำให้ร่างกายของเธอแข็งทื่อ  ไม่อาจขยับเขยื้อนหนีไปไหน
ได้ 
 
“คุณเป็นอะไรหรือเปล่า”
 
       วุฒิภัทรเอ่ยถามหญิงสาวที่มองเขาอย่างตะลึง  เขารู้สึกว่าคนตัว
เล็กที่อยู่ในวงแขนของเขานี้ช่างน่าทะนุถนอม  สายตาที่ดูใสซื่อ  แก้ม
ของเธอที่เขาเพิ่งจะได้สัมผัสไปเมื่อครู่นี้   ซึ่งตอนนี้กลายเป็นสีแดง
จนทำให้เขาอยากจะก้มลงไปสัมผัสอีกสักครั้ง  โดยเฉพาะริมฝีปาก
บางที่มีสีลิปสติกสีชมพูเคลือบอยู่  แต่เขาก็กลัวว่าเธอจะตกใจและ
พลอยเกลียดขี้หน้าเขาได้  จึงต้องระงับความรู้สึกที่มีเอาไว้แล้วค่อยๆ
ปล่อยร่างบางออกจากวงแขนด้วยความเสียดาย
 
“เปล่าค่ะ  ฉะ.....ฉันไม่เป็นไร  ขะ........ขอบคุณนะคะ”
 
     เสียงของคนที่เพิ่งจะปล่อยเธอออกมาจากวงแขนทำให้วริญาได้
สติจึงได้ตอบคำเขาไปพร้อมทั้งกล่าวขอบคุณเขาที่ช่วยเธอไม่ให้ล้ม
หงายหลังไป  ตอนนี้เธอรู้สึกว่าหัวใจของเธอเต้นแรงเหมือนจะหลุด
ออกมาข้างนอกได้อยู่แล้ว  ก็เธอเพิ่งจะโดนผู้ชายที่แสนเย็นชาคนที่
อยู่ตรงหน้าเธอกอด  แถมยังโดนเขาขโมยหอมแก้มอีกต่างหากถึงแม้
ว่าเขาจะไม่ได้ตั้งใจก็เถอะ  แต่เหตุการณ์ที่เพิ่งผ่านมามันทำให้เธอไม่
อยากจะอยู่ใกล้ผู้ชายคนนี้อีกเพราะว่าเธอใกล้เขาทีไรเป็นต้องมีเรื่องที่
ทำให้หัวใจของเธอทำงานนักทุกทีสิน่า  แล้วนี้เธอจะทำหน้ายังไงดี
 
“ผมว่าเราไปดูมุมโน้นต่อดีกว่านะ”
 
   “ค่ะ”
               
 
 
“ผมว่าเราไปหาอะไรทานดีกว่านะ  เพราะว่านี้ก็ใกล้จะเที่ยง
แล้ว”
 
 
       วุฒิภัทรพูดขึ้นหลังจากเดินดูสถานที่จนทั่วแล้ว  และ
อธิบายถึงความต้องการของเขาเรียบร้อยแล้วจะเหลือก็แต่ราย
ละเอียดในบางเรื่องที่ไม่จำเป็นต้องดูสถานที่ก็ได้
 
 
“แต่ว่าเรายังไม่ได้คุยเรื่องงบประมาณของโครงการกันเลยนะคะ”
 
 
       วริญารีบพูดขึ้นเธออยากจะทำงานของตัวเองให้เสร็จเร็วๆจะได้
รีบกลับ  เพราะเธอรู้สึกว่าไม่อยากจะอยู่ใกล้ผู้ชายคนเอาเสียเลย  มัน
ทำให้เธอไม่เป็นตัวของตัวเองจนน่าโมโหนัก  อีกอย่างเธอก็มีนัดส่ง
งานให้วิชาญซึ่งเป็นลูกค้าคนสำคัญของบริษัทอีกรายหนึ่ง  
 
“เอาไว้คุยตอนทานข้าวละกัน  ไปกันเถอะผมหิวแล้ว”
 
“แต่ว่าฉันมี.......”
 
“หรือว่าคุณรังเกียจผมจนไม่อยากนั่งร่วมโต๊ะด้วย”
 
“ไม่ใช่นะคะ   แต่ว่าฉันมี...”
 
“ถ้าไม่รังเกียจก็ไปกันได้แล้ว  ผมหิว”
 
 
       วุฒิภัทรพูดตัดบทเมื่อเห็นว่าเธอกำลังจะปฎิเสธเขา  เมื่อเขาหัน
หลังกลับเพื่อจะเดินนำหญิงสาวไปนั้นเสียงโทรศัพท์ของชายหนุ่มก็ดัง
ขึ้นทำให้เขาหยิบโทรศัพท์รุ่นใหม่ล่าสุดออกมาจากกระเป๋ากางเกงสี
ดำขึ้นมาดูชื่อที่ปรากฏตรงหน้าจอ  ก่อนจะกดรับและกลอกเสียงลงไป
 
 
“มีอะไรกวีน”
 
 ‘ท่านประทานครับพอดีว่าคนขับรถของคุณวริญามีเรื่องจะคุยกับเธอ
นะครับ  คือเขาบอกว่าเธอลืมโทรศัพท์ไว้ในรถนะครับเลยติดต่อกับ
เธอไม่ได้  ผมก็เลย....’
 
“มีเรื่องอะไร”
 
 
       วุฒิภัทรพูดขึ้นโดยไม่ได้เอาโทรศัพท์ให้คนที่เดินตามเขามา 
เพียงแต่หันไปมองเธอเล็กน้อย
 
‘อ้อ...คนขับรถของคุณวริญามีปัญหาต้องรีบกลับด่วนนะครับ  เขาก็
เลยจะขออนุญาตกลับก่อนแล้วจะฝากกุญแจไว้ให้คุณวริญานะครับ
ท่าน’
 
“ให้เขาเอารถไปได้เลย  แล้วนายก็กลับไปกับเขาได้เลยก่อนที่ฉันจะ
ลงถึงข้างล่าง อ้อ..เอากุญแจรถฝากไว้ที่ยามด้วย”
 
 
       วุฒิภัทรพูดจบก็ตัดสายทันทีไม่สนใจที่จะฟังเสียงของกวีนที่
กำลังจะถามอะไรอีก เขาเดินนำหญิงสาวมาและเมื่อหันไปมองคนตัว
เล็กข้างหลังก็เห็นว่าเธอเดินตามเขามาห่างๆ  จึงหยุดรอเธอเขารู้ว่า
เธอนั้นพยายามจะเดินทิ้งระยะให้ห่างจากเขา  ยิ่งเห็นใบหน้าหวานที่
ตอนนี้เดินช้าลงกว่าเดิมเมื่อเห็นว่าเขาหยุดรอ
 
“คุณช่วยเดินให้เร็วกว่านี้อีกนิดได้ไหม”
  
        เสียงของเขาทำให้วริญารู้สึกไม่พอใจที่เขาใช้น้ำเสียงเหมือนกับ
ว่าเธอเป็นเด็กแบบนี้  แต่ก็ทำอะไรไม่ได้
 
‘มีสิทธิ์อะไรมาทำเสียงดุกับฉันแบบนี้เนี้ยตาบ้านี่  ฉันไม่ใช้ลูกน้องของ
นายนะ’ 
 
        วริญาเพียงแต่คิดเท่านั้นก็ใครจะกล้าพูดออกไปเล่าก็ดูหน้าเขา
สิดุอย่างกับอะไรสงสัยจะโมโหหิว   แต่ก็ไม่สามารถทำอะไรได้นอก
จากรีบเดิน ‘แล้วทำไมฉันต้องทำตามที่คุณบอกด้วยเนี้ย’  วริญาคิด
อย่างไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่าทำไมต้องยอมทำตามที่เขาพูดด้วย
 
 
     เมื่อเดินมาถึงชั้นล่างวริญาพยายามจะมองหาคนขับรถของบริษัท
ที่เธอให้เขารออยู่แถวนี้ 
 
“กุญแจรถครับท่านประธาน”
 
       ยามรักษาความปลอดภัยคนที่เธอเห็นตอนเข้าประตูโรงแรมเมื่อ
เช้ายื่นกุญแจให้วุฒิภัทรด้วยความนอบน้อมก่อนจะยื่นโทรศัพท์ให้เธอ
 
“อ่าวแล้วคนขับรถของบริษัทฉันไปไหนแล้วละค่ะ”  วริญาถามยามคน
เดิม
 
“กลับไปแล้วครับเห็นบอกว่ามีธุระด่วนนะครับ”
 
“กลับไปแล้วอย่างนั้นเหรอ”
 
“ผมให้เขากลับไปเองละ”
 
“คุณให้เขากลับได้ยังไง  แล้วทีนี้ฉันจะกลับยังไง  ฉันต้องไปพบ
ลูกค้าอีกนะ”
 
       วริญาเริ่มทนไม่ไหวกับความเจ้ากี้เจ้าการของผู้ชายที่ทำหน้าเย็น
ชาคนนี้  เขาทำเหมือนกับว่าตัวเองไม่ได้ทำอะไรลงไปทั้งๆที่กำลังจะ
ทำให้เธอเดือดร้อนได้ 
 
“ก็ไปกับผมไงไม่เห็นยากตรงไหนเลย  แต่หลังจากที่คุณไปทานข้าว
กับผมนะ  ไปกันเถอะผมหิวแล้ว”
 
“คุณ....”
 
 
       วุฒิภัทรพูดขึ้นพร้อมยื่นมือไปจับข้อมือเล็กแล้วจูงไปที่รถของเขา
โดยไม่ยอมฟังว่าเธอจะพูดอะไรอีก  วริญาพยายามแกะมือใหญ่ของ
เขาออกแต่เหมือนว่ามันจะไม่มีผลอะไรเลยไม่ว่าเธอจะพยายามสลัด
หรือออกแรงดึงมือตัวเองเพื่อจะให้ออกจากการมือเขาแต่มันก็ไม่ยอม
หลุดสักที จึงได้แต่มองคนตรงหน้าเธอด้วยความไม่พอใจ
 
 
       เมื่อวุฒิภัทรเดินจูงหญิงสาวมาถึงรถสปอร์ตเอจีคาร์สสีขาวคู่ใจ
เขา  จึงเอื้อมมือไปเปิดประตูให้หญิงสาวที่ตอนนี้คงจะโกรธเขาเข้า
แล้วเพราะสายตาของเธอที่มองมาทางเขาเหมือนเธออยากจะทำร้าย
ร่างกายเขาเต็มที่ แต่เขาก็ทำเป็นไม่รับรู้อาการโกรธของเธอ
 
“เชิญครับ”
 
“ก็ปล่อยแขนฉันก่อนสิ”
 
 
       ตอนนี้วริญาโกรธเขามากจนไม่รู้จะทำอะไรแล้ว  เธอคิดว่ายอมๆ
เขาไปก่อนแล้วกัน  และคิดว่าหลังจากทานข้าวและคุยเรื่องงานใน
ครั้งนี้เสร็จเธอจะขอให้ภูธนิตน์เปลี่ยนให้คนอื่นมาทำงานแทนเธอ 
แล้วเธอก็จะไม่ขอเข้าใกล้ผู้ชายคนนี้อีกต่อไป
 
 
       วุฒิภัทรยิ้มให้คนตรงหน้าก่อนจะปล่อยมือจากข้อมือเล็กที่มีผิว
นุ่มน่าทะนุถนอมของเธอเมื่อเห็นว่าเธอเข้าไปนั่งเรียบร้อยแล้วจึงปิด
ประตูรถก่อนจะเดินไปทางด้านคนขับแล้วเปิดประตูเข้าไปนั่ง
ประจำที่แล้วขับออกไป 
 
“คุณจะทานอะไรดีครับ”
 
เงียบ
 
“ผมเรียกชื่อเล่นคุณได้ไหม”
 
เงียบ
 
“แล้ววันนี้กิ๊ฟมีนัดตอนกี่โมงละ”
 
        เมื่อเห็นว่าเธอไม่ตอบรับเขาจึงเปลี่ยนมาเรียกชื่อเล่นของเธออย่างสนิทสนมโดยไม่รอฟังคำอนุญาตจากเจ้าของชื่อก่อน
 
“กิ๊ฟจะไม่ยอมพูดกับผมจริงๆเหรอ”
 
เงียบ
 
เมื่อเห็นว่าเธอไม่ยอมคุยกับเขาจึงไม่ถามอะไรอีก  เขาจึงขับรถไป
เงียบๆและพยายามใช้ความคิดหาทางให้คนตัวเล็กที่นั่งเงียบอยู่หาย
โกรธ  แต่คิดไม่ออกสักทีก็เขาเคยง้อใครที่ไหนกันเล่าโดยเฉพาะ
ผู้หญิงยิ่งไม่คิดจะทำ  แต่ตอนนี้เขาอยากจะทำให้เธอหายโกรธแต่ก็
ไม่รู้จะทำยังไง
 
 
       วริญามองออกไปข้างทางโดยไม่สนใจที่จะตอบคำถามหรือแม้
แต่จะมองหน้าคนจอมบ่งการที่ตอนนี้เงียบไปแล้วหลังจากที่พยายาม
จะชวนเธอคุย
 
       เมื่อรถวิ่งมาได้สักพักก็มาจอดอยู่หน้าร้านอาหารแห่งหนึ่ง  วุฒิ
ภัทรเดินอ้อมมาเปิดประตูรถให้วริญา  เมื่อเธอลงมาจากรถเรียบร้อย
แล้วเขาจึงปิดประตูและกดล็อกรถด้วยรีโมทที่ถืออยู่ในมือ  ก่อนจะจูง
มือหญิงสาวที่มีท่าทีว่าจะไม่ยอมเดินเข้าไปในร้านพร้อมกับเขา
 
 
       วริญาเดินตามแรงจูงของคนที่เธอโกรธเขาอยู่    หน้าร้านมีป้าย
ชื่อร้านแขวนอยู่ ‘ปวีญา’และ เมื่อเข้ามาภายในร้านอาหารก็พบกับการ
ตกแต่งร้านในสไตล์โคโลเนียลโทนสีขาว  ดูสะอาดสบายตาโดย
รอบๆร้านจะเป็นกระจกเมื่อมองออกไปจะพบสวนสีเขียว  เฟอร์นิเจอร์ที่
นี่ถูกจัดวางได้อย่างลงตัว
 
“สวัสดีค่ะ  คุณวุฒิภัทรวันนี้พาใครมาเนี่ยน่าตาน่ารักเชียว  แฟนเหรอ
ค่ะเนี่ย”
 
       เสียงของหญิงสาวที่เดินมาทักทายวุฒิภัทรทำให้วริญาหันไป
มองเธอเพราะคำถามที่คนมาใหม่เอ่ยทักขึ้นและคิดว่าจะตอบปฎิเสธ
ไปแต่วุฒิภัทรก็พูดแนะนำตัวเธอขึ้นมาเสียงก่อน
 
“นี้กิ๊ฟครับ  น่ารักใช่มั้ยละครับพี่วีญา”
 
“ค่ะ  น่ารักมากทีเดียว”
 
 
     ปวีญาพูดด้วยความรู้สึกจริงๆไม่ได้แกล้งพูดเพื่อเอาใจแขกประจำ
ของร้านเธอ
 
“กิ๊ฟครับ  นี้คุณปวีญาเจ้าของร้านครับ”
 
วริญายกมือไหว้เจ้าของร้านที่อายุมากกว่าเธอ เมื่อเขาแนะนำจบ
 
“เชิญนั่งก่อนดีกว่าค่ะ”
 
 
       เจ้าของร้านเดินนำไปที่โต๊ะที่เขาเคยนั่งเป็นประจำเวลาที่เขามา
ที่ร้านนี้   โต๊ะที่เขาเลือกนั่งเป็นประจำนั้นอยู่ตรงมุมร้านที่สามารถมอง
เห็นได้ทั่วทั้งร้าน  ร้านนี้เขาเจอเข้าโดยบังเอิญในช่วงที่ต้องมาดูงาน
ก่อสร้างของโรงแรมเมื่อปีที่แล้วที่และรู้สึกชอบบรรยากาศของร้านมาก
อีกทั้งเจ้าของร้านที่ดูเป็นกันเองและคุยสนุก  จนตอนนี้เขาเริ่มสนิทกับ
เธอมากขึ้นจนนับถือกันเหมือนพี่น้องเลยทีเดียว  
 
 
       เมื่อนั่งเรียบร้อยแล้วเจ้าของร้านก็นำเมนูอาหารมาส่งให้ทั้งสอง
ก่อนจะเรียกเด็กในมาร้านให้มาดูแลแขกคนสำคัญของเธอ  ก่อนที่เธอ
จะไปดูแลแขกที่เพิ่งเดินเข้ามาภายในร้าน
 
       วริญามองออกไปด้านนอกของร้านที่มีน้ำพุตกแต่งไว้อย่างสวย
งาม  ดูแล้วให้ความรู้สึกสดชื่นจนทำให้ลืมเลยว่ากำลังโกรธผู้ชายคน
ที่ทำหน้าตายเหมือนไม่เคยทำอะไรผิด  อีกทั้งยังเรื่องที่เขาไม่ยอม
อธิบายกับเจ้าของร้านว่าเธอไม่ใช่แฟนของเขาอย่างที่เจ้าของร้านสาว
เข้าใจ
 
“กิ๊ฟจะทานอะไรดีครับ”
 
       เสียงของวุฒิภัทรที่ถามทำให้วริญาละสายตาจากบรรยากาศข้าง
นอกมาทางเขา  จึงได้เห็นว่าเขามองเธออยู่แล้ว  และยังมีรอยยิ้มที่
เขาส่งมาให้เธอในตอนนี้อีกมันทำให้เขาดูโอนโยนมากทีเดียวต่างกับ
ตอนที่เขาไม่ยิ้มราวกับเป็นคนละคน  ใบหน้าของเขาตอนนี้เหมือน
หนุ่มน้อยที่มีแต่ความอ่อนโยน  อีกทั้งยังสายตาที่ดูแล้วอบอุ่นนั้นมัน
ทำให้เธอรู้สึกว่าไม่อาจละสายตาไปไหนได้
 
“หน้าผมมีอะไรติดอยู่หรือเปล่าครับ”               
 
“ปะ...เปล่าค่ะไม่มีอะไร”
 
“ไม่มีก็ดีแล้ว  ผมถามว่าคุณจะทานอะไรจะได้สั่งถูก”
 
“อะไรก็ได้ค่ะ”
 
       วริญาพยายามทำเสียงให้เป็นปกติเมื่อถูกจับได้ว่าเผลอมองหน้า
วุฒิภัทรเข้า  จึงแกล้งทำเป็นยังโกรธเขาเพื่อกลบเกลื่อนความอาย 
แต่เธอคงไม่รู้หรอกว่าตอนนี้หน้าของเธอนั้นมันปิดไม่มิดเอาเสียเลย
เพราะตอนนี้มันแดงจนคนที่นั่งเก้าอี้ฝั่งตรงข้ามกับเธอรู้ทันเธอเสียแล้ว
 
 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
8 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
8 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
8.5 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา