ซาตานดีไซน์รัก
3)
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความเสียงรถที่วิ่งเข้ามาภายในบ้านหลังใหญ่สีฟ้าสดใส บริเวณ
รอบๆเต็มไปด้วยต้นไม้เล็ก ใหญ่ และดอกไม้นานาชนิดเพราะคน
เป็นเจ้าของบ้านสรรหามาปลูกไว้ มองดูแล้วปลอดโปร่งสบายตา
บรรยากาศในบ้านให้ความรู้สึกอบอุ่น ส่วนการตกแต่งภายในนั้นเป็นฝี
มือของวริญาเกือบทั้งหมด เพราะเมื่อเธอเรียนจบออกมาท่านนายพล
วรากร อัครบดิณ ก็ลงทุนให้เธอได้ออกแบบใหม่ทั้งหมดด้วยอยาก
เห็นฝีมือของลูกสาวคนเล็กของท่าน
“กลับมาแล้วค่า........”
เสียงของวริญาทำให้วนิญาที่เดินออกมารับนั้นอดยิ้มในความสด
ใสของน้องสาวเธอไม่ได้
“เสียงดังมาเชียวนะเราน่ะ”
คนถูกว่าอมยิ้มแล้วเดินมาทางพี่สาวที่เธอทั้งรักและเคารพ
“วันนี้ไปก่อเรื่องที่บริษัทมาอีกรึเปล่าเราน่ะ”
“เปล่านะคะ ไม่เชื่อถามพี่ภูดูก็ได้ จริงไหมคะพี่ภู”
วริญาตอบเสียงสดใสพร้อมหันไปขอความช่วยเหลือคนที่เพิ่งจะ
เดินมายืนข้างๆเธอ
“จริงครับวันนี้ไม่ได้ก่อเรื่องที่บริษัทเลยครับ”
ภูธนิตย์ตอบคำถามของหญิงสาวที่ถามเขา
“ไม่ได้ก่อเรื่องที่บริษัทงั้นก็แสดงว่าไปก่อเรื่องที่อื่นนะสิ ใช่ไหม
คะคุณภู”
“พี่กิ่งคะ กิ๊ฟหิวจังเลยค่ะมีอะไรทานบ้างคะวันนี้”
วริญารีบเปลี่ยนเรื่องพร้อมเข้าไปเกาะแขนพี่สาวเพราะกลัวคนที่
ยืนยิ้มข้างๆเธอจะพูดอะไรที่ทำให้เธออาย และมันก็ได้ผลเมื่อวนิญา
ไม่ได้สนใจถามอะไรอีกแต่หันมาสนใจคนที่บอกว่าหิวแทน
“วันนี้มีแกงจืดเต้าหู น้ำพริกมะขาม ไข่เจียวหมูสับ ปลาสาม
รส แล้วก็หน่อไม้ฝรั่งผัดน้ำมันหอยจ๊ะ”
วนิญาตอบน้องสาวเสียงอ่อนโยน
“หน่อไม้ฝรั่งผัดน้ำมันหอยนี้ของโปรดใครน๊า”
วริญาพูดขึ้นพร้อมหันไปมองหน้าภูธนิตน์
“พูดมากไปแล้วนะเราน่ะ รีบไปที่ห้องอาหารได้แล้วคุณพ่อกับ
คุณแม่รอทานข้าวอยู่ ”
คนเป็นพี่สาวรีบพูดเพื่อหยุดเสียงที่ช่างพูดของน้องสาวที่ทำให้
เธออายจนหน้าแดงแล้ว
“เชิญที่ห้องอาหารดีกว่าค่ะคุณภู”
“ครับ”
เมื่อเดินมาถึงห้องอาหารก็พบว่าท่านนายพลวรากร และคุณหญิง
อินทุอร อัครบดิณรออยู่ที่โต๊ะอาหารเรียบร้อยแล้ว โดยมีนมแจ่มยืนคุม
สาวใช้ที่นำอาหารมาตั้งโต๊ะ
“สวัสดีครับคุณพ่อ คุณแม่”
เสียงของภูธนิตย์กล่าวสวัสดีผู้อาวุโสกว่าด้วยความเคารพ
“สวัสดีจ๊ะ มานั่งก่อนสิพ่อภู”
เสียงของคุณหญิงอินทุอรกล่าวทักทายกับมาด้วยความเอ็นดูชาย
หนุ่มที่ในอนาคตอันใกล้นี้จะมาเป็นคนในครอบครัวเดียวกัน
“วันนี้หนูกิ๊ฟก่อเรื่องอะไรหรือเปล่า”
คำเดิมที่คนเป็นพี่สาวถามนั้นถูกถามขึ้นมาอีกครั้ง
“คุณแม่ก็กิ๊ฟไม่ใช่เด็กแล้วนะคะ”
วริญาพูดขึ้นแล้วเดินไปกอดเอวคุณหญิงอินทุอรเอาไว้ด้วยความ
รัก
“ไม่รู้ซิก็ทุกทีแม่เห็นพี่ภูเขามาเล่าให้ฟังว่าเราชอบก่อเรื่องยุ่งๆไม่
เว้นแต่ละวัน”
“จริงรึเปล่าคะ พี่ภู”
วริญาพูดพร้อมกับส่งสายตาพิฆาตมาทางภูธนิตย์
“ใช่ซิ ก็กิ๊ฟน่ะไม่ได้น่ารักเหมือนพี่กิ่งนี่นา”
วริญาพูดประชดภูธนิตน์ขึ้นมา ทำให้ท่านนายพลวรากรถึงกับส่าย
หัวด้วยความเอ็นดูบุตรสาวคนเล็กของตนที่มองยังไงเธอก็ยังไม่ยอม
โตสักที
“มาทานข้าวกันดีกว่านะ”
เสียงของท่านนายพลวรากร อัครบดิณ พูดขึ้นทำให้ทุกคนหันมา
สนในกับอาหารตรงหน้าแทน
หลังรับประทานอาหารเย็นเรียบร้อยแล้วท่านนายพลวรากร
และคุณหญิงอินทุอรก็ขอตัวขึ้นข้างบนหลังจากอยู่คุยได้สักพัก
ปล่อยให้หนุ่มสาวคุยกันต่อ
“กิ๊ฟขอตัวไปอาบน้ำก่อนนะคะ เหนี่ยวตัวจะแย่แล้วค่ะ”
วริญาพูดขึ้นเพราะรู้ว่าภูธนิตย์คงอยากจะอยู่กับพี่สาวเธอตาม
ลำพังมากกว่า เธอจึงเลือกที่จะเดินขึ้นไปชั้นบนเพื่อเข้าห้องนอนของ
ตัวเอง เปิดโอกาสให้ทั้งสองได้มีเวลาอยู่กันตามลำพัง
เมื่อเดินมาถึงหน้าห้องของตัวเอง เธอก็เอื้อมมือไปบิดลูกบิด
เพื่อเปิดประตูเข้าไปข้างใน วันนี้เธอคิดว่าจะเข้านอนแต่หัววันเพราะ
ทำงานมาทั้งวันทำให้ร่างกายเธออ่อนเพลีย จึงเดินไปที่ตู้เสื้อผ้าที่
เธอเป็นคนเลือกแบบกับมือ ตู้เสื้อผ้า Built - in สร้างได้พอเหมาะ
กับที่ว่างที่มีอยู่ มันช่วยปิดมุมเสาทำให้ห้องดูนุ่มนวลลงขึ้นมาได้
ประตูตู้เป็นแบบบานเลื่อน วริญาเลือกชุดนอนสีชมพูตัวโปรดที่ใส่
บ่อยๆ แล้วเดินหายเข้าไปในห้องน้ำ
วริญาเดินมาหยุดอยู่หน้าประตูห้องของภูธนิตย์ที่เขาบอกให้เลขา
โทรตามเธอมาพบเธอเคาะประตูเพื่อเป็นสัญญาณให้คนข้างในรับรู้
“เชิญครับ”
เสียงของภูธนิตย์ตอบกับมาด้วยน้ำเสียงที่สุภาพเหมือนทุกครั้ง
วริญาจึงเปิดประตูเข้าไปในห้อง ภายในห้องตกแต่งด้วยโทนสีอ่อน
สบายตาบ่งบอกถึงความเป็นตัวตนของเจ้าของห้องได้เป็นอย่างดี
เฟอร์นิเจอร์ตกแต่งนั้นใช้ฟอร์นิเจอร์บิวล์อินแบบไม่มีโครงคร่าว ใช้
วัสดุแผ่นที่มีส่วนของเส้นใยไม้ ผสานด้วยกาวสังเคราะห์แล้วอัดให้
เป็นเนื้อเดียวกัน อย่างแผ่น MDF และพาร์ทิเคิลบอร์ดที่มีความ
หนามากๆ สามารถรับน้ำหนักได้ดี รูปแบบโครงสร้างของเฟอร์นิเจอร์
แต่ละชิ้นนั้นดูแปลกตา อีกทั้งการจัดวางเฟอร์นิเจอร์ก็ลงตัวดูเหมาะ
สมกับส่วนที่ต้องการใช้งานได้เป็นอย่างดี สมกับเป็นห้องของประธาน
บริษัท ภูธนิตน์ เดคคอร์ ดีไซน์ จริงๆ
“สวัสดีค่ะบอส”
“สวัสดีครับ เชิญนั่งก่อนครับสาวน้อย”
"ขอบคุณคะบอส มีเรื่องอะไรหรือเปล่าค่ะถึงตามกิ๊ฟมา”
วริญาถามชายหนุ่มกับไปหลังกล่าวทักทายและขอบคุณขอบคุณ
เขาเรียบร้อยแล้ว
“ก็เรื่องตกแต่งโรงแรมของคุณวุฒิภัทร์นะ พอดีว่าคุณกวีนติดต่อ
มาให้ไปคุยรายละเอียดแล้วก็ดูสถานทีพรุ่งนี้ได้เลย”
“ค่ะ กี่โมงคะ”
“เก้าโมงครับ”
“แล้วเราจะเจอกันที่บริษัทหรือว่าบอสจะไปรับกิ๊ฟที่บ้านคะ”
“ก็เรื่องนี้ล่ะที่พี่จะบอกเราน่ะ”
ภูธนิตน์มีท่าทางที่ดูลำบากใจ ทำให้วริญารู้สึกแปลกใจกับท่า
ทางของเขา
“เรื่องอะไรคะ”
เธอถามออกมาด้วยความสงสัยกับท่าทางของเจ้านายหนุ่ม
“พรุ่งนี้พี่ต้องไปประชุมที่แม่ฮ่องสอนไปกับกิ๊ฟไม่ได้แล้วครับ”
“นึกว่าเรื่องอะไร ก็ให้พี่เต้ไปกับกิ๊ฟก็ได้นี่คะ”
วริญาหมายถึงเพื่อนร่วมงานรุ่นพี่ที่ทำงานตำแหน่งเดียวกับเธอ
และเธอก็วสนิทกับรุ่นพี่คนนี้อยู่มากเพราะเวลามีปัญหาเรื่องงานก็มักจะ
ปรึกษากันเสมอ และที่สำคัญที่ทำให้เธอไว้ใจที่จะเดินทางไปกับรุ่นพี่
คนนี้แม้ว่าคนอื่นอาจจะมองว่าเขาเป็นผู้ชายก็ตาม แต่จริงๆแล้วเธอรู้
ว่าจิตใจของเขานั้นกับเป็นหญิงไม่ได้เป็นผู้ชายอย่างที่คนอื่นเข้าใจ
แต่เธอก็ไม่ได้รู้สึกรังเกียจเขาแม้แต่นิด หากแต่มันกลับทำให้เธอสนิท
กับเขามากว่าเดิมเสียอีก มีเรื่องอะไรก็มักจะเล่าให้เขาฟังหรือบางทีที่
มีปัญหาทุกข์ใจก็มักจะปรึกษาเขาและทุกครั้งก็จะได้ทางออกที่ดีเสมอ
“กิ๊ฟต้องไปคนเดียวแล้วล่ะครับ เพราะคุณเต้เค้าไม่ว่างครับต้อง
ไปติดต่อลูกค้าที่หัวหินเหมือนกัน”
“สรุปว่ากิ๊ฟก็ต้องไปคนเดียวจริงๆใช่ไหมคะ”
“ครับ คงต้องไปคนเดียวเพราะไม่มีใครว่างเลย”
“ไปได้ใช่ไหมครับ”
“ถ้าบอกว่าไม่ได้ล่ะค่ะ”
ชายหนุ่มทำท่าคิดนิดหน่อยก่อนจะตอบมาด้วยใบหน้าไม่ทุกข์
ร้อนอะไร
“เราก็คงต้องเสียลูกค้ารายใหญ่ก็เท่านั้นเองครับ”
ภูธนิตย์พูดทีเล่นทีจริง เพราะรู้ว่ายังไงวริญาก็ต้องยอมไปอยู่แล้ว
ในเรื่องการทำงานของวริญานั้น เขาไม่เคยต้องเป็นห่วงเนื่องจากวริ
ญานั้นมีความรับผิดชอบที่สูงมากและทำงานได้รอบคอบเสมอ หากจะ
เป็นห่วงเขาก็จะห่วงแค่เวลาที่เธอจะต้องเดินทางไปดูงานเพียงลำพัง
ท่านั้น ถึงแม้ว่าจะมีหลายครั้งที่แล้ววริญาต้องไปดูงานเพียงลำพัง
โดยไม่มีเขาไปด้วย แต่เขาก็ยังอดรู้สึกเป็นห่วงเธอไม่ได้อยู่ดี
“เฮ้อ.....กิ๊ฟไม่มีสิทธิ์เลือกใช่ไหมคะ”
วริญาแกล้งถอนหายใจออกมาเหมือนจะบอกว่าเธอถูกบังคับและ
ไม่มีทางเลือกจริงๆ วริญาคิดว่าแม้เธอจะเคยไปดูงานเพียงคนเดียวมา
แล้วหลายครั้งแต่ครั้งนี้เธอรู้สึกหวั่นๆชอบกลเธอไม่ได้หวั่นใจกับเรื่องที่
ต้องไปคนเดียวสักนิดแต่เป็นเพราะผู้ชายคนนั้นต่างหากล่ะ เมื่อคิดถึง
คนที่เป็นเจ้าของโรงแรมที่เธอจะต้องไปพบแล้วก็ทำให้เธอไม่อยากจะ
ไปขึ้นมาเสียแล้ว แต่เพราะเป็นเรื่องงานจึงทำให้ไม่สามารถปฏิเสธได้
“เอาเป็นว่าวันนี้พี่เลี้ยงข้าวกลางวันแล้วกัน ไถ่โทษที่ต้องปล่อย
ให้สาวน้อยที่น่ารักต้องไปทำงานเพียงลำพังดีไหมครับ”
“ดีที่สุดเลยคะ กิ๊ฟจะสั่งให้กระเป๋าฉีกเลยคอยดูสิ”
“งั้นไปกันเลยดีกว่าไหมจะเที่ยงแล้ว พี่ให้กิ๊ฟเลือกร้านได้ตาม
สบายเลยโอเคไหมครับ”
ภูธนิตน์พูดเอาใจสาวน้อยที่ตอนนี้กำลังอมยิ้มอย่างพอใจกับการ
ที่เขายอมเป็นเจ้ามือเลี้ยงอาหารกลางวันเธอ
“งั้นกิ๊ฟเลือกร้านคาซา เดล นะคะ”
วริญาเลือกร้านอาหารที่เธอชอบไปเป็นประจำ เพราะรู้จักเจ้าของ
ร้านเป็นอย่างดีด้วยว่าเธอเป็นคนตกแต่งร้านให้เขาใหม่ เมื่อไม่กี่เดือน
ที่ผ่านมานี้เอง
ภาพหญิงสาวที่คอยรบกวนหัวใจของเขามาหลายวันตอนนี้
กำลังก้าวเข้ามาในร้านอาหาร เธอมากับชายหนุ่มที่มีท่าทาง
สนิทกันมากจนดูแล้วเกินคำว่าเจ้านายกับพนักงานในบริษัทอย่างที่
เขาเคยเข้าใจในตอนแรก ตอนนี้เขาไม่อาจละสายตาไปไหนได้แม้แต่
วินาทีเดียว ตอนนี้ความรู้สึกของเขาดูจะสับสนไปหมดเพราะหญิงสาว
ที่ก้าวเข้ามาในร้านคนนั้น
ช่วยติชมด้วยนะคะ ถ้าตรงไหนพิมพ์ผิดหรือขาดตกก็ช่วยบอกด้วยนะคะจะรีบแก้ไขทันทีค่ะ
(ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านนะคะ)
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ