ซาตานดีไซน์รัก
8.2
1) ซาตานดีไซน์รัก 1
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ “อุ้ย ขอโทษค่ะ ”
“นี้คุณเดินภาษาอะไรนะ”
เสียงที่ต่อว่าวริญานั้นไม่ใช้เสียงของคนที่เธอเดินชนแต่หากเป็น
เสียงของผู้ชายตัวโตกล้ามใหญ่ที่มีท่าทางน่ากลัวที่เดินมาพร้อมกับ
เขา ผู้ชายตัวโตคนนั้นบอกเธอด้วยท่าทางเหมือนผู้ใหญ่กำลังสั่งสอน
เด็ก แล้วยังสายตาดุที่ส่งมาให้เธออีก
“กวีน ฉันไม่เป็นไรอย่าเสียมารยาท”
คำพูดของเจ้านายทำให้กวีนอดรู้สึกแปลกใจกับพฤติกรรมเจ้านาย
ของเขาไม่ได้ ปกติเจ้านายของเขาเองต่างหากที่จะแสดงอาการโกรธ
หากเจอเหตุการณ์แบบนี้ แต่ตอนนี้ไม่โกรธผู้หญิงคนนี้แถมยังออก
อาการเป็นห่วงเธออีกต่างหาก กวีนคิดว่าเจ้านายของเขาดูจะไม่ปกติ
เสียแล้ว
วุฒิภัทร วัชรศักย์ เป็นนักธุรกิจหนุ่มที่มีชื่อเสียงในตอนนี้ กิจการ
ของเขาไม่ว่าจะเป็นบริษัทส่งออกสินค้าไทย จีเวอร์รี่ หรือกิจการด้าน
โรงแรมที่กำลังไปได้ดีในขณะนี้ ซึ่งตอนนี้เขาได้สร้างโรงแรมขึ้นใหม่
อีกแห่งดำเนินการแล้วเสร็จไปกว่าครึ่งหนึ่งแล้วเหลือเพียงการตกแต่ง
ภายในเท่านั้น แต่ก็กลับล่าช้าเพราะหาบริษัทที่เขาถูกใจไม่ได้ ตอน
นี้เหลือเพียงบริษัทเดียวที่กวีนคิดว่าดีและน่าจะถูกใจเจ้านายของเขา
แต่กวีนก็ไม่แน่ใจมากนักเพราะขนาดบริษัทใหญ่ๆเจ้านายของเขายัง
ไม่ถูกใจเลย
“แล้วคุณเป็นอะไรหรือเปล่า”
“ฉันไม่เป็นไรค่ะ ขอตัวนะคะ”
วริญาบอกเขาแล้วรีบขอตัวเดินออกมาเพราะเธอรู้สึกว่ากลัวผู้ชาย
สองคนนี้ขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก นี่แค่เธอบังเอิญก้มดูของในกระเป๋า
เลยไม่ทันมองทางข้างหน้าเลยชนกับเขา ไม่ได้ตั้งใจจะเดินชนเขาซะ
หน่อยเธอยังโดนดุซะขนาดนี้เลย แล้วสมมุติว่าถ้าเธอตั้งใจจะทำร้าย
เขาจริงๆเธอคงตายเพราะนายกล้ามใหญ่ที่ยืนอยู่ใกล้ๆเขาแน่นอนเลย
“เดี๋ยว”
เสียงของวุฒิภัทรทำให้เธอตกใจ ทำให้เธอหยุดเดินแล้วค่อยๆ
หันกลับไปทางเขา ท่าทางของเธอทำให้เขารู้ว่าเธอกลัวเขา ยิ่งทำ
ให้รู้สึกไม่พอใจกับคนของเขาที่ทำให้เธอตกใจกลัวเขาไปเสียแล้ว
“มะ....มีอะ ไรหรือเปล่าค่ะ”
“นี้ของคุณหรือเปล่า”
วุฒิภัทรพูดพร้อมชูปากกาหมึกเจลล์ขึ้นให้หญิงสาวดู
“คะ.....ขอ.......ของฉันเองคะ....ค่ะ”
วริญาบอกเขาและเดินกลับไปทางเขาเพื่อจะรับปากกาคืน
“คุณชื่ออะไร”
เขาไม่ยอมคืนปากกาให้เธอ แต่ถามชื่อเธอแทน ตอนนี้เธอรู้สึก
กลัวผู้ชายสองคนนี้มากขึ้นเธอจะทำยังไงดีนะ
‘ตอบๆเขาไปเถอะเขาอาจแค่ถามชื่อดูคงไม่มีอะไรมาก’ เธอคิดในใจ
“วริญาค่ะ”
แต่วุฒิภัทรก็ยังไม่ยอมคืนปากกาให้เธอง่ายๆ ยิ่งเห็นเธอกลัวเขา
แบบนี้กับรู้สึกว่าอยากแกล้งเธอมากขึ้น
“ผมไม่เคยเห็นคุณมาก่อน เพิ่งมาทำงานที่นี้หรอ”
“ปะ...เปล่าค่ะ...ดิฉัน..ขะ......ขอปากกาคือ.....คืนด้วยค่ะ
นี้เขาจะเอายังไงเนี้ยถึงไม่ยอมส่งปากกาคืนให้เธอซักทีและก็นึก
โมโหตัวเองที่ทำไมตอนนี้ดันพูดติดอ่างซะได้ แต่นั้นก็เป็นเพราะเขา
นั้นแหละวริญาโทษเขาที่ทำให้เธอเป็นแบบนี้เพราะปกติเธอไม่ได้เป็น
แบบนี้ซะหน่อย ปกติแล้ววริญาจะเป็นคนที่พูดเก่งเพราะเธอต้องพูด
คุยกับลูกค้าที่เธอไปติดต่องานอยู่เสมอแต่วันนี้เธอเป็นอะไรนะทำไม
รู้สึกกลัวเขาก็ไม่รู้ อาจเป็นเพราะสายตาของเขาที่มองเธอก็เป็นได้
วริญาคิดว่าเขาอาจจะทำให้เธอหัวใจวายเพราะกลัวเขาก่อนหรือไง
แล้วเธอก็ตัดสินใจที่จะไม่เอาปากกาแล้ว และคิดว่าควรรีบเดินไปจาก
ตรงนี้ให้เร็วที่สุด เมื่อคิดได้ดังนั้นจึงตัดสินใจกับหลังหันและวิ่งออก
มาโดยไม่หยุดฟังเสียงที่ผู้ชายคนนั้นเรียกเธอ
เมื่อวิ่งออกมาไกลพอสมควรแล้วจึงหันกับไปมองก็ไม่มีใคร
ตามมาอีกและคิดว่าคงปลอดภัยแล้วจากผู้ชายสองคนนั้นจึง
หยุดพักหายใจหาย แล้วเธอก็ต้องตกใจอีกครั้งเพราะมือที่จับไหล่
ของเธอในตอนนี้
“มายืนตรงนี้ทำไมครับกิ๊ฟ”
เมื่อได้ยินเสียงและหันไปเห็นว่าเป็นใครก็รู้สึกโล่งอกหายใจคล่อง
ขึ้น วริญาคิดว่าหากเธอเป็นโรคหัวใจวันนี้เธออาจตายไปแล้ว เพราะ
วันนี้เธอเจอแต่เรื่องที่ทำให้เธอหัวใจวายได้เลย แต่เธอก็โชคดีที่ไม่
ได้เป็นโรคหัวใจอย่างที่ตัวเองคิดไว้
“มาเอาเอกสารค่ะ”
ภูธนิตน์ อนันสิรากุล ที่เธอมักเรียกผู้ชายคนนี้นอกเวลางานว่าพี่
ภูนั้นเคยเป็นรุ่นพี่ที่คณะของเธอสมัยเรียนทำให้ทั้งสองสนิทกันมาก
สามารถคุยกันได้ทุกเรื่องจนบางครั้งคนอื่นมองว่าทั้งสองเป็นคู่รักกัน
แต่ทั้งคู่ก็ไม่ได้สนใจกับคำพูดพวกนั้น โดยเฉพาะวริญายิ่งหมั้นใจ
มากว่าภูธนิตน์นั้นไม่คิดอะไรกับเธอแน่นอน ที่เธอแน่ใจก็เพราะว่าเขา
มีคนรักอยู่แล้วและทั้งคู่ก็รักกันมากด้วย อีกทั้งผู้หญิงคนนั้นก็ยังไม่ใช่
ใครที่ไหนเป็นพี่สาวของเธอเอง และตอนนี้ภูธนิตน์ยังได้กลายมา
เป็นเจ้านายของเธอยิ่งทำให้สนิทกันมากขึ้นกว่าเดิมสามารถคุยกันได้
ทุกเรื่องไม่ว่าจะเป็นเรื่องงานหรือแม้แต่เรื่องส่วนตัวเพราะเวลาที่ภู
ธนิตน์มีปัญหากับพี่สาวของเธอนั้นเขาก็มักจะมาปรึกษาเธอและขอ
ความช่วยเหลืออยู่เสมอ
“แล้วนี้บอสออกมาข้างนอกทำไมค่ะ”
“ก็กิ๊ฟออกมานานไม่ยอมกลับไปสักที พี่ก็คิดว่ามีใครฉุดไปแล้วนะ
ซิ กิ๊ฟนะยิ่งโก๊ะๆอยู่ด้วยเกิดมีคนมาหลอกไปพี่ก็โดนพี่สาวเราเล่นงาน
แย่นะซิ”
ภูธนิตน์พูดถึงนิสัยของวริญาที่มักจะทำอะไรโก๊ะๆโดยบางทีเจ้าตัว
ก็ยังไม่รู้ตัวว่าทำอะไรไป
“พี่ภูก็”
“ฮ่า.....พี่ล้อเล่นนะ”
วริญาทำท่าทางที่บอกว่าเจ้าตัวงอนเขาซึ่งเธอคงไม่รู้ตัวว่ามันน่า
รักแค่ไหนแต่กับภูธนิตย์นั้นเขาชินกับการกระทำนี้เสียแล้ว เพราะเธอ
จะทำแบบนี้กับเขาเสมอหากเขาทำให้เธอไม่พอใจหรือเวลาที่เขาคอย
หัวเราะเธอเวลาที่เธอทำเรื่องเบิ๋นๆ
ในสายตาของภูธนิตย์นั้นเธอเป็นน้องสาวที่เขารู้สึกรักและเป็นห่วง
แม้ว่าเธอจะเป็นแค่เพียงน้องสาวของแฟนสาวที่เขารักก็ตาม แต่เขา
กับรักและเป็นห่วงเธอเหมือนน้องสาวจริงๆเลยก็ว่าได้ วริญาเป็น
ผู้หญิงที่หน้าตาน่ารัก ผิวของเธอนั้นขาวอมชมพู ผมที่ดัดเป็นลอนนั้น
มีสีน้ำตาลเข้มรับกับใบหน้าของเธอได้เป็นอย่างดี ตาของเธอกลมโต
ยิ่งเวลาที่เธอตกใจนั้นดวงตาของเธอกับยิ่งกลมโตกว่าเดิมมันทำให้ใบ
หน้าของเธอดูมีเสน่ห์เพราะดวงตาของเธอดูใสซื่อบริสุทธขนตาที่ยาว
งอนโดยที่เจ้าตัวไม่ต้องคอยดัดเลย ริมฝีปากบางได้รูป ปลายจมูก
เล็กโด่งรันทำให้เขาคิดถึงเวลาที่เธอโกรธ วริญานั้นมีนิสัยที่น่ารัก
ใครอยู่ใกล้แล้วก็มีความสุขเช่นเดียวกับเข้า เมื่อมองหน้าวริญาแล้ว
ทำให้เขาคิดถึงผู้หญิงอีกคนที่มีน่าตาคล้ายกับวริญาแต่ผู้หญิงคนนั้น
เขาไม่ได้รักเธอแบบน้องสาวอย่างวริญา เขารักเธอแบบชายหญิงเธอ
เป็นคนรักของเขาและยังเป็นพี่สาวของวริญาอีกด้วย
“มองอะไรคะ ทำอย่างกับไม่เคยเห็นคนน่ารักอย่างนั้นละ”
วริญาพูดออกมาเมื่อเห็นว่าภูธนิตย์มองเธออยู่ ทำให้เขารู้ตัวว่า
มองหน้าเธอนานจนเธอรู้ตัว
“หรือว่ามองน่ากิ๊ฟแล้วคิดถึงหน้าใครอีกคน”
“เปล่าซักหน่อย พี่ว่าเรากลับไปที่ห้องดีกว่านะเหลืออีกสิบห้า
นาทีก็จะถึงเวลานัดแล้ว”
“เปล่าแล้วทำไมต้องหน้าแดงด้วยละค่ะบอส.....”
วริญาแซวคนที่รีบเดินหนีเธออย่างรู้ทันว่าเขากำลังคิดถึงใครอยู่
เมื่อเดินมาใกล้จะถึงห้องที่เธอเดินออกไปเพื่อเอาเอกสารที่ลืมไว้
ก็พอดีกับพนักงานตอนรับคนที่เธอเจอเดินส่งยิ้มมาให้และหยุดตรงน่า
ภูธนิตน์ ก่อนจะเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่ดูสุภาพสมกับตำแหน่งที่เธอทำอยู่
“ท่านประธานมาถึงแล้วค่ะ เชิญค่ะ”
ขอบคุณที่เข้ามาอ่านนะคะ ช่วยติชมด้วยนะคะจะได้นำไปปรับปรุงแก้ไขต่อไปค่ะ
“นี้คุณเดินภาษาอะไรนะ”
เสียงที่ต่อว่าวริญานั้นไม่ใช้เสียงของคนที่เธอเดินชนแต่หากเป็น
เสียงของผู้ชายตัวโตกล้ามใหญ่ที่มีท่าทางน่ากลัวที่เดินมาพร้อมกับ
เขา ผู้ชายตัวโตคนนั้นบอกเธอด้วยท่าทางเหมือนผู้ใหญ่กำลังสั่งสอน
เด็ก แล้วยังสายตาดุที่ส่งมาให้เธออีก
“กวีน ฉันไม่เป็นไรอย่าเสียมารยาท”
คำพูดของเจ้านายทำให้กวีนอดรู้สึกแปลกใจกับพฤติกรรมเจ้านาย
ของเขาไม่ได้ ปกติเจ้านายของเขาเองต่างหากที่จะแสดงอาการโกรธ
หากเจอเหตุการณ์แบบนี้ แต่ตอนนี้ไม่โกรธผู้หญิงคนนี้แถมยังออก
อาการเป็นห่วงเธออีกต่างหาก กวีนคิดว่าเจ้านายของเขาดูจะไม่ปกติ
เสียแล้ว
วุฒิภัทร วัชรศักย์ เป็นนักธุรกิจหนุ่มที่มีชื่อเสียงในตอนนี้ กิจการ
ของเขาไม่ว่าจะเป็นบริษัทส่งออกสินค้าไทย จีเวอร์รี่ หรือกิจการด้าน
โรงแรมที่กำลังไปได้ดีในขณะนี้ ซึ่งตอนนี้เขาได้สร้างโรงแรมขึ้นใหม่
อีกแห่งดำเนินการแล้วเสร็จไปกว่าครึ่งหนึ่งแล้วเหลือเพียงการตกแต่ง
ภายในเท่านั้น แต่ก็กลับล่าช้าเพราะหาบริษัทที่เขาถูกใจไม่ได้ ตอน
นี้เหลือเพียงบริษัทเดียวที่กวีนคิดว่าดีและน่าจะถูกใจเจ้านายของเขา
แต่กวีนก็ไม่แน่ใจมากนักเพราะขนาดบริษัทใหญ่ๆเจ้านายของเขายัง
ไม่ถูกใจเลย
“แล้วคุณเป็นอะไรหรือเปล่า”
“ฉันไม่เป็นไรค่ะ ขอตัวนะคะ”
วริญาบอกเขาแล้วรีบขอตัวเดินออกมาเพราะเธอรู้สึกว่ากลัวผู้ชาย
สองคนนี้ขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก นี่แค่เธอบังเอิญก้มดูของในกระเป๋า
เลยไม่ทันมองทางข้างหน้าเลยชนกับเขา ไม่ได้ตั้งใจจะเดินชนเขาซะ
หน่อยเธอยังโดนดุซะขนาดนี้เลย แล้วสมมุติว่าถ้าเธอตั้งใจจะทำร้าย
เขาจริงๆเธอคงตายเพราะนายกล้ามใหญ่ที่ยืนอยู่ใกล้ๆเขาแน่นอนเลย
“เดี๋ยว”
เสียงของวุฒิภัทรทำให้เธอตกใจ ทำให้เธอหยุดเดินแล้วค่อยๆ
หันกลับไปทางเขา ท่าทางของเธอทำให้เขารู้ว่าเธอกลัวเขา ยิ่งทำ
ให้รู้สึกไม่พอใจกับคนของเขาที่ทำให้เธอตกใจกลัวเขาไปเสียแล้ว
“มะ....มีอะ ไรหรือเปล่าค่ะ”
“นี้ของคุณหรือเปล่า”
วุฒิภัทรพูดพร้อมชูปากกาหมึกเจลล์ขึ้นให้หญิงสาวดู
“คะ.....ขอ.......ของฉันเองคะ....ค่ะ”
วริญาบอกเขาและเดินกลับไปทางเขาเพื่อจะรับปากกาคืน
“คุณชื่ออะไร”
เขาไม่ยอมคืนปากกาให้เธอ แต่ถามชื่อเธอแทน ตอนนี้เธอรู้สึก
กลัวผู้ชายสองคนนี้มากขึ้นเธอจะทำยังไงดีนะ
‘ตอบๆเขาไปเถอะเขาอาจแค่ถามชื่อดูคงไม่มีอะไรมาก’ เธอคิดในใจ
“วริญาค่ะ”
แต่วุฒิภัทรก็ยังไม่ยอมคืนปากกาให้เธอง่ายๆ ยิ่งเห็นเธอกลัวเขา
แบบนี้กับรู้สึกว่าอยากแกล้งเธอมากขึ้น
“ผมไม่เคยเห็นคุณมาก่อน เพิ่งมาทำงานที่นี้หรอ”
“ปะ...เปล่าค่ะ...ดิฉัน..ขะ......ขอปากกาคือ.....คืนด้วยค่ะ
นี้เขาจะเอายังไงเนี้ยถึงไม่ยอมส่งปากกาคืนให้เธอซักทีและก็นึก
โมโหตัวเองที่ทำไมตอนนี้ดันพูดติดอ่างซะได้ แต่นั้นก็เป็นเพราะเขา
นั้นแหละวริญาโทษเขาที่ทำให้เธอเป็นแบบนี้เพราะปกติเธอไม่ได้เป็น
แบบนี้ซะหน่อย ปกติแล้ววริญาจะเป็นคนที่พูดเก่งเพราะเธอต้องพูด
คุยกับลูกค้าที่เธอไปติดต่องานอยู่เสมอแต่วันนี้เธอเป็นอะไรนะทำไม
รู้สึกกลัวเขาก็ไม่รู้ อาจเป็นเพราะสายตาของเขาที่มองเธอก็เป็นได้
วริญาคิดว่าเขาอาจจะทำให้เธอหัวใจวายเพราะกลัวเขาก่อนหรือไง
แล้วเธอก็ตัดสินใจที่จะไม่เอาปากกาแล้ว และคิดว่าควรรีบเดินไปจาก
ตรงนี้ให้เร็วที่สุด เมื่อคิดได้ดังนั้นจึงตัดสินใจกับหลังหันและวิ่งออก
มาโดยไม่หยุดฟังเสียงที่ผู้ชายคนนั้นเรียกเธอ
เมื่อวิ่งออกมาไกลพอสมควรแล้วจึงหันกับไปมองก็ไม่มีใคร
ตามมาอีกและคิดว่าคงปลอดภัยแล้วจากผู้ชายสองคนนั้นจึง
หยุดพักหายใจหาย แล้วเธอก็ต้องตกใจอีกครั้งเพราะมือที่จับไหล่
ของเธอในตอนนี้
“มายืนตรงนี้ทำไมครับกิ๊ฟ”
เมื่อได้ยินเสียงและหันไปเห็นว่าเป็นใครก็รู้สึกโล่งอกหายใจคล่อง
ขึ้น วริญาคิดว่าหากเธอเป็นโรคหัวใจวันนี้เธออาจตายไปแล้ว เพราะ
วันนี้เธอเจอแต่เรื่องที่ทำให้เธอหัวใจวายได้เลย แต่เธอก็โชคดีที่ไม่
ได้เป็นโรคหัวใจอย่างที่ตัวเองคิดไว้
“มาเอาเอกสารค่ะ”
ภูธนิตน์ อนันสิรากุล ที่เธอมักเรียกผู้ชายคนนี้นอกเวลางานว่าพี่
ภูนั้นเคยเป็นรุ่นพี่ที่คณะของเธอสมัยเรียนทำให้ทั้งสองสนิทกันมาก
สามารถคุยกันได้ทุกเรื่องจนบางครั้งคนอื่นมองว่าทั้งสองเป็นคู่รักกัน
แต่ทั้งคู่ก็ไม่ได้สนใจกับคำพูดพวกนั้น โดยเฉพาะวริญายิ่งหมั้นใจ
มากว่าภูธนิตน์นั้นไม่คิดอะไรกับเธอแน่นอน ที่เธอแน่ใจก็เพราะว่าเขา
มีคนรักอยู่แล้วและทั้งคู่ก็รักกันมากด้วย อีกทั้งผู้หญิงคนนั้นก็ยังไม่ใช่
ใครที่ไหนเป็นพี่สาวของเธอเอง และตอนนี้ภูธนิตน์ยังได้กลายมา
เป็นเจ้านายของเธอยิ่งทำให้สนิทกันมากขึ้นกว่าเดิมสามารถคุยกันได้
ทุกเรื่องไม่ว่าจะเป็นเรื่องงานหรือแม้แต่เรื่องส่วนตัวเพราะเวลาที่ภู
ธนิตน์มีปัญหากับพี่สาวของเธอนั้นเขาก็มักจะมาปรึกษาเธอและขอ
ความช่วยเหลืออยู่เสมอ
“แล้วนี้บอสออกมาข้างนอกทำไมค่ะ”
“ก็กิ๊ฟออกมานานไม่ยอมกลับไปสักที พี่ก็คิดว่ามีใครฉุดไปแล้วนะ
ซิ กิ๊ฟนะยิ่งโก๊ะๆอยู่ด้วยเกิดมีคนมาหลอกไปพี่ก็โดนพี่สาวเราเล่นงาน
แย่นะซิ”
ภูธนิตน์พูดถึงนิสัยของวริญาที่มักจะทำอะไรโก๊ะๆโดยบางทีเจ้าตัว
ก็ยังไม่รู้ตัวว่าทำอะไรไป
“พี่ภูก็”
“ฮ่า.....พี่ล้อเล่นนะ”
วริญาทำท่าทางที่บอกว่าเจ้าตัวงอนเขาซึ่งเธอคงไม่รู้ตัวว่ามันน่า
รักแค่ไหนแต่กับภูธนิตย์นั้นเขาชินกับการกระทำนี้เสียแล้ว เพราะเธอ
จะทำแบบนี้กับเขาเสมอหากเขาทำให้เธอไม่พอใจหรือเวลาที่เขาคอย
หัวเราะเธอเวลาที่เธอทำเรื่องเบิ๋นๆ
ในสายตาของภูธนิตย์นั้นเธอเป็นน้องสาวที่เขารู้สึกรักและเป็นห่วง
แม้ว่าเธอจะเป็นแค่เพียงน้องสาวของแฟนสาวที่เขารักก็ตาม แต่เขา
กับรักและเป็นห่วงเธอเหมือนน้องสาวจริงๆเลยก็ว่าได้ วริญาเป็น
ผู้หญิงที่หน้าตาน่ารัก ผิวของเธอนั้นขาวอมชมพู ผมที่ดัดเป็นลอนนั้น
มีสีน้ำตาลเข้มรับกับใบหน้าของเธอได้เป็นอย่างดี ตาของเธอกลมโต
ยิ่งเวลาที่เธอตกใจนั้นดวงตาของเธอกับยิ่งกลมโตกว่าเดิมมันทำให้ใบ
หน้าของเธอดูมีเสน่ห์เพราะดวงตาของเธอดูใสซื่อบริสุทธขนตาที่ยาว
งอนโดยที่เจ้าตัวไม่ต้องคอยดัดเลย ริมฝีปากบางได้รูป ปลายจมูก
เล็กโด่งรันทำให้เขาคิดถึงเวลาที่เธอโกรธ วริญานั้นมีนิสัยที่น่ารัก
ใครอยู่ใกล้แล้วก็มีความสุขเช่นเดียวกับเข้า เมื่อมองหน้าวริญาแล้ว
ทำให้เขาคิดถึงผู้หญิงอีกคนที่มีน่าตาคล้ายกับวริญาแต่ผู้หญิงคนนั้น
เขาไม่ได้รักเธอแบบน้องสาวอย่างวริญา เขารักเธอแบบชายหญิงเธอ
เป็นคนรักของเขาและยังเป็นพี่สาวของวริญาอีกด้วย
“มองอะไรคะ ทำอย่างกับไม่เคยเห็นคนน่ารักอย่างนั้นละ”
วริญาพูดออกมาเมื่อเห็นว่าภูธนิตย์มองเธออยู่ ทำให้เขารู้ตัวว่า
มองหน้าเธอนานจนเธอรู้ตัว
“หรือว่ามองน่ากิ๊ฟแล้วคิดถึงหน้าใครอีกคน”
“เปล่าซักหน่อย พี่ว่าเรากลับไปที่ห้องดีกว่านะเหลืออีกสิบห้า
นาทีก็จะถึงเวลานัดแล้ว”
“เปล่าแล้วทำไมต้องหน้าแดงด้วยละค่ะบอส.....”
วริญาแซวคนที่รีบเดินหนีเธออย่างรู้ทันว่าเขากำลังคิดถึงใครอยู่
เมื่อเดินมาใกล้จะถึงห้องที่เธอเดินออกไปเพื่อเอาเอกสารที่ลืมไว้
ก็พอดีกับพนักงานตอนรับคนที่เธอเจอเดินส่งยิ้มมาให้และหยุดตรงน่า
ภูธนิตน์ ก่อนจะเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่ดูสุภาพสมกับตำแหน่งที่เธอทำอยู่
“ท่านประธานมาถึงแล้วค่ะ เชิญค่ะ”
ขอบคุณที่เข้ามาอ่านนะคะ ช่วยติชมด้วยนะคะจะได้นำไปปรับปรุงแก้ไขต่อไปค่ะ
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
8 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
8 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
8.5 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ