ซาตานดีไซน์รัก

8.2

เขียนโดย น้องกิ๊ง

วันที่ 29 สิงหาคม พ.ศ. 2553 เวลา 16.16 น.

  6 ตอน
  41 วิจารณ์
  13.04K อ่าน
แชร์นิยาย Share Share Share

 

1) ซาตานดีไซน์รัก 1

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
ขนาดตัวอักษร เล็ก กลาง ใหญ่ ใหญ่มาก
     “อุ้ย  ขอโทษค่ะ ”
 
     “นี้คุณเดินภาษาอะไรนะ”
 
 
     เสียงที่ต่อว่าวริญานั้นไม่ใช้เสียงของคนที่เธอเดินชนแต่หากเป็น
เสียงของผู้ชายตัวโตกล้ามใหญ่ที่มีท่าทางน่ากลัวที่เดินมาพร้อมกับ
เขา  ผู้ชายตัวโตคนนั้นบอกเธอด้วยท่าทางเหมือนผู้ใหญ่กำลังสั่งสอน
เด็ก  แล้วยังสายตาดุที่ส่งมาให้เธออีก  
 
    
     “กวีน  ฉันไม่เป็นไรอย่าเสียมารยาท” 
 
    
     คำพูดของเจ้านายทำให้กวีนอดรู้สึกแปลกใจกับพฤติกรรมเจ้านาย
ของเขาไม่ได้  ปกติเจ้านายของเขาเองต่างหากที่จะแสดงอาการโกรธ
หากเจอเหตุการณ์แบบนี้  แต่ตอนนี้ไม่โกรธผู้หญิงคนนี้แถมยังออก
อาการเป็นห่วงเธออีกต่างหาก  กวีนคิดว่าเจ้านายของเขาดูจะไม่ปกติ
เสียแล้ว 
 
 
     วุฒิภัทร  วัชรศักย์ เป็นนักธุรกิจหนุ่มที่มีชื่อเสียงในตอนนี้ กิจการ
ของเขาไม่ว่าจะเป็นบริษัทส่งออกสินค้าไทย  จีเวอร์รี่  หรือกิจการด้าน
โรงแรมที่กำลังไปได้ดีในขณะนี้  ซึ่งตอนนี้เขาได้สร้างโรงแรมขึ้นใหม่
อีกแห่งดำเนินการแล้วเสร็จไปกว่าครึ่งหนึ่งแล้วเหลือเพียงการตกแต่ง
ภายในเท่านั้น  แต่ก็กลับล่าช้าเพราะหาบริษัทที่เขาถูกใจไม่ได้   ตอน
นี้เหลือเพียงบริษัทเดียวที่กวีนคิดว่าดีและน่าจะถูกใจเจ้านายของเขา
แต่กวีนก็ไม่แน่ใจมากนักเพราะขนาดบริษัทใหญ่ๆเจ้านายของเขายัง
ไม่ถูกใจเลย
 
 
     “แล้วคุณเป็นอะไรหรือเปล่า”
              
      “ฉันไม่เป็นไรค่ะ ขอตัวนะคะ”
 
 
     วริญาบอกเขาแล้วรีบขอตัวเดินออกมาเพราะเธอรู้สึกว่ากลัวผู้ชาย
สองคนนี้ขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก  นี่แค่เธอบังเอิญก้มดูของในกระเป๋า
เลยไม่ทันมองทางข้างหน้าเลยชนกับเขา  ไม่ได้ตั้งใจจะเดินชนเขาซะ
หน่อยเธอยังโดนดุซะขนาดนี้เลย  แล้วสมมุติว่าถ้าเธอตั้งใจจะทำร้าย
เขาจริงๆเธอคงตายเพราะนายกล้ามใหญ่ที่ยืนอยู่ใกล้ๆเขาแน่นอนเลย
 
    
      “เดี๋ยว”
 
 
     เสียงของวุฒิภัทรทำให้เธอตกใจ   ทำให้เธอหยุดเดินแล้วค่อยๆ
หันกลับไปทางเขา  ท่าทางของเธอทำให้เขารู้ว่าเธอกลัวเขา  ยิ่งทำ
ให้รู้สึกไม่พอใจกับคนของเขาที่ทำให้เธอตกใจกลัวเขาไปเสียแล้ว
 
 
     “มะ....มีอะ   ไรหรือเปล่าค่ะ”
 
     “นี้ของคุณหรือเปล่า”
 
 
     วุฒิภัทรพูดพร้อมชูปากกาหมึกเจลล์ขึ้นให้หญิงสาวดู
 
     “คะ.....ขอ.......ของฉันเองคะ....ค่ะ”
 
     วริญาบอกเขาและเดินกลับไปทางเขาเพื่อจะรับปากกาคืน
 
      “คุณชื่ออะไร”
 
 
     เขาไม่ยอมคืนปากกาให้เธอ แต่ถามชื่อเธอแทน  ตอนนี้เธอรู้สึก
กลัวผู้ชายสองคนนี้มากขึ้นเธอจะทำยังไงดีนะ  
 
      ‘ตอบๆเขาไปเถอะเขาอาจแค่ถามชื่อดูคงไม่มีอะไรมาก’  เธอคิดในใจ 
 
     “วริญาค่ะ”
 
 
     แต่วุฒิภัทรก็ยังไม่ยอมคืนปากกาให้เธอง่ายๆ  ยิ่งเห็นเธอกลัวเขา
แบบนี้กับรู้สึกว่าอยากแกล้งเธอมากขึ้น
 
     “ผมไม่เคยเห็นคุณมาก่อน  เพิ่งมาทำงานที่นี้หรอ”
 
     “ปะ...เปล่าค่ะ...ดิฉัน..ขะ......ขอปากกาคือ.....คืนด้วยค่ะ
 
 
     นี้เขาจะเอายังไงเนี้ยถึงไม่ยอมส่งปากกาคืนให้เธอซักทีและก็นึก
โมโหตัวเองที่ทำไมตอนนี้ดันพูดติดอ่างซะได้  แต่นั้นก็เป็นเพราะเขา
นั้นแหละวริญาโทษเขาที่ทำให้เธอเป็นแบบนี้เพราะปกติเธอไม่ได้เป็น
แบบนี้ซะหน่อย   ปกติแล้ววริญาจะเป็นคนที่พูดเก่งเพราะเธอต้องพูด
คุยกับลูกค้าที่เธอไปติดต่องานอยู่เสมอแต่วันนี้เธอเป็นอะไรนะทำไม
รู้สึกกลัวเขาก็ไม่รู้  อาจเป็นเพราะสายตาของเขาที่มองเธอก็เป็นได้ 
วริญาคิดว่าเขาอาจจะทำให้เธอหัวใจวายเพราะกลัวเขาก่อนหรือไง 
แล้วเธอก็ตัดสินใจที่จะไม่เอาปากกาแล้ว  และคิดว่าควรรีบเดินไปจาก
ตรงนี้ให้เร็วที่สุด  เมื่อคิดได้ดังนั้นจึงตัดสินใจกับหลังหันและวิ่งออก
มาโดยไม่หยุดฟังเสียงที่ผู้ชายคนนั้นเรียกเธอ 
 
 
     เมื่อวิ่งออกมาไกลพอสมควรแล้วจึงหันกับไปมองก็ไม่มีใคร
ตามมาอีกและคิดว่าคงปลอดภัยแล้วจากผู้ชายสองคนนั้นจึง
หยุดพักหายใจหาย  แล้วเธอก็ต้องตกใจอีกครั้งเพราะมือที่จับไหล่
ของเธอในตอนนี้
 
      “มายืนตรงนี้ทำไมครับกิ๊ฟ”
 
 
     เมื่อได้ยินเสียงและหันไปเห็นว่าเป็นใครก็รู้สึกโล่งอกหายใจคล่อง
ขึ้น  วริญาคิดว่าหากเธอเป็นโรคหัวใจวันนี้เธออาจตายไปแล้ว  เพราะ
วันนี้เธอเจอแต่เรื่องที่ทำให้เธอหัวใจวายได้เลย  แต่เธอก็โชคดีที่ไม่
ได้เป็นโรคหัวใจอย่างที่ตัวเองคิดไว้
 
 
     “มาเอาเอกสารค่ะ”
 
 
     ภูธนิตน์  อนันสิรากุล  ที่เธอมักเรียกผู้ชายคนนี้นอกเวลางานว่าพี่
ภูนั้นเคยเป็นรุ่นพี่ที่คณะของเธอสมัยเรียนทำให้ทั้งสองสนิทกันมาก
สามารถคุยกันได้ทุกเรื่องจนบางครั้งคนอื่นมองว่าทั้งสองเป็นคู่รักกัน 
แต่ทั้งคู่ก็ไม่ได้สนใจกับคำพูดพวกนั้น  โดยเฉพาะวริญายิ่งหมั้นใจ
มากว่าภูธนิตน์นั้นไม่คิดอะไรกับเธอแน่นอน  ที่เธอแน่ใจก็เพราะว่าเขา
มีคนรักอยู่แล้วและทั้งคู่ก็รักกันมากด้วย  อีกทั้งผู้หญิงคนนั้นก็ยังไม่ใช่
ใครที่ไหนเป็นพี่สาวของเธอเอง       และตอนนี้ภูธนิตน์ยังได้กลายมา
เป็นเจ้านายของเธอยิ่งทำให้สนิทกันมากขึ้นกว่าเดิมสามารถคุยกันได้
ทุกเรื่องไม่ว่าจะเป็นเรื่องงานหรือแม้แต่เรื่องส่วนตัวเพราะเวลาที่ภู
ธนิตน์มีปัญหากับพี่สาวของเธอนั้นเขาก็มักจะมาปรึกษาเธอและขอ
ความช่วยเหลืออยู่เสมอ
 
 
     “แล้วนี้บอสออกมาข้างนอกทำไมค่ะ”
 
     “ก็กิ๊ฟออกมานานไม่ยอมกลับไปสักที พี่ก็คิดว่ามีใครฉุดไปแล้วนะ
ซิ  กิ๊ฟนะยิ่งโก๊ะๆอยู่ด้วยเกิดมีคนมาหลอกไปพี่ก็โดนพี่สาวเราเล่นงาน
แย่นะซิ”
 
 
     ภูธนิตน์พูดถึงนิสัยของวริญาที่มักจะทำอะไรโก๊ะๆโดยบางทีเจ้าตัว
ก็ยังไม่รู้ตัวว่าทำอะไรไป
 
     “พี่ภูก็”
 
     “ฮ่า.....พี่ล้อเล่นนะ”
 
 
     วริญาทำท่าทางที่บอกว่าเจ้าตัวงอนเขาซึ่งเธอคงไม่รู้ตัวว่ามันน่า
รักแค่ไหนแต่กับภูธนิตย์นั้นเขาชินกับการกระทำนี้เสียแล้ว  เพราะเธอ
จะทำแบบนี้กับเขาเสมอหากเขาทำให้เธอไม่พอใจหรือเวลาที่เขาคอย
หัวเราะเธอเวลาที่เธอทำเรื่องเบิ๋นๆ  
 
 
     ในสายตาของภูธนิตย์นั้นเธอเป็นน้องสาวที่เขารู้สึกรักและเป็นห่วง
แม้ว่าเธอจะเป็นแค่เพียงน้องสาวของแฟนสาวที่เขารักก็ตาม  แต่เขา
กับรักและเป็นห่วงเธอเหมือนน้องสาวจริงๆเลยก็ว่าได้  วริญาเป็น
ผู้หญิงที่หน้าตาน่ารัก ผิวของเธอนั้นขาวอมชมพู ผมที่ดัดเป็นลอนนั้น
มีสีน้ำตาลเข้มรับกับใบหน้าของเธอได้เป็นอย่างดี ตาของเธอกลมโต
ยิ่งเวลาที่เธอตกใจนั้นดวงตาของเธอกับยิ่งกลมโตกว่าเดิมมันทำให้ใบ
หน้าของเธอดูมีเสน่ห์เพราะดวงตาของเธอดูใสซื่อบริสุทธขนตาที่ยาว
งอนโดยที่เจ้าตัวไม่ต้องคอยดัดเลย  ริมฝีปากบางได้รูป  ปลายจมูก
เล็กโด่งรันทำให้เขาคิดถึงเวลาที่เธอโกรธ   วริญานั้นมีนิสัยที่น่ารัก
ใครอยู่ใกล้แล้วก็มีความสุขเช่นเดียวกับเข้า  เมื่อมองหน้าวริญาแล้ว
ทำให้เขาคิดถึงผู้หญิงอีกคนที่มีน่าตาคล้ายกับวริญาแต่ผู้หญิงคนนั้น
เขาไม่ได้รักเธอแบบน้องสาวอย่างวริญา  เขารักเธอแบบชายหญิงเธอ
เป็นคนรักของเขาและยังเป็นพี่สาวของวริญาอีกด้วย
 
     “มองอะไรคะ  ทำอย่างกับไม่เคยเห็นคนน่ารักอย่างนั้นละ”
 
 
     วริญาพูดออกมาเมื่อเห็นว่าภูธนิตย์มองเธออยู่   ทำให้เขารู้ตัวว่า
มองหน้าเธอนานจนเธอรู้ตัว
 
     “หรือว่ามองน่ากิ๊ฟแล้วคิดถึงหน้าใครอีกคน”
 
     “เปล่าซักหน่อย  พี่ว่าเรากลับไปที่ห้องดีกว่านะเหลืออีกสิบห้า
นาทีก็จะถึงเวลานัดแล้ว”
 
     “เปล่าแล้วทำไมต้องหน้าแดงด้วยละค่ะบอส.....”
 
     วริญาแซวคนที่รีบเดินหนีเธออย่างรู้ทันว่าเขากำลังคิดถึงใครอยู่
 
      เมื่อเดินมาใกล้จะถึงห้องที่เธอเดินออกไปเพื่อเอาเอกสารที่ลืมไว้
ก็พอดีกับพนักงานตอนรับคนที่เธอเจอเดินส่งยิ้มมาให้และหยุดตรงน่า
ภูธนิตน์  ก่อนจะเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่ดูสุภาพสมกับตำแหน่งที่เธอทำอยู่
 
     “ท่านประธานมาถึงแล้วค่ะ  เชิญค่ะ”
 
 
     ขอบคุณที่เข้ามาอ่านนะคะ  ช่วยติชมด้วยนะคะจะได้นำไปปรับปรุงแก้ไขต่อไปค่ะ

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
8 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
8 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
8.5 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา