สงครามใจ
7)
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความตอน 7
ชมัยรู้สึกอึดอัด และไม่พอใจ ท่ามกลางโต๊ะอาหาร ยิ่งเห็นหญิงสาว ซ่อนกลิ่น และ ดาว อยู่ใกล้คนรักของหล่อน ความคิดของหล่อนก็ยิ่งจะเพิ่มขึ้นหวาดระแวงไปหมด หล่อนรู้สึกไม่ไว้ใจคุณพลูของหล่อนเสียแล้ว ทุก ๆ นาที ที่รับประทานอาหาร หล่อนก็พยายามจะแสดงความเป็นเจ้าของพลูแบบไม่เกรงใจสายตาพ่อเลี้ยงและ พา อย่างไรก็แล้วแต่หล่อนจะต้องหาทางแก้ไขเรื่องนี้ให้ได้
"ซ่อนกลิ่น กับ ดาว เก่ง มากเลยนะคะ ดูอาหารบนโต๊ะ ไม่เหลือเลย อิ่มมากเลยค่ะคุณพ่อ"
พาเอ่ยปากชมเด็กสาวทั้งสอง พ่อเลี้ยงยิ้มกว้างอย่างมีความสุขสีหน้าของพ่อเลี้ยงดูสดใส รับประทานอาหารได้เยอะ
"เด็กสองคนนี้ใช่ได้เลย...ดูพ่อพุงจะแตกอยู่แล้ว นานแล้วที่ไม่ได้ทานอาหารแบบนี้ เก่ง ๆ"
พ่อเลี้ยงใช้มือข้างหนึ่งลูบไปที่ศรีษะ ดาวเบา ๆ ท่ามกลางสายตาทุกคน พลูและพา หันมาสบตากันเล็กน้อย ดูพ่อเลี้ยงจะเอ็นดูหล่อนเกินหน้าเกินตาเสียจริง
"ฝีมือซ่อนกลิ่น...ไม่ตกจริง ๆ นะ" พลูออกปากชม มองหน้าหวานของซ้อนกลิ่นและส่งยิ้ม ชมัยเห็นเข้าพอดี หล่อนทิ้งช้อนลงบนจานดัง...จนทุกคนเงียบ
"อุ้ย..งานนี้คุณพลูชมผิดคนแล้วหละ...คนโน้นต่างหาก..ซ่อนกลิ่นไม่รู้ใจทุกคนเท่ากับดาวหรอกค่ะ..." หล่อนบอก ทุกคนหันไปมอง ดาวอย่างสงสัย พลูทำที พยักหน้ารับรู้เท่านั้น พ่อเลี้ยงยิ่งแสดงอาการพอใจเข้าไปอีก ชมัยลุกขึ้นกระทันหัน
"พลูคะ...ชมัยอยากไปที่ทุ่งทานตะวัน พาชมัยไปหน่อยซิคะ นะ ..นะ" หล่อนรู้สึกหมั่นไส้หญิงสาวทั้งคู่
"อ๋อจ๊ะ.." เขาถูกดึงออกไปจากโต๊ะอาหาร พาและพ่อเลี้ยงยิ้มเห็นจะรู้ว่าอะไรกำลังจะเกิด
"คุณพา จะขึ้นข้างบนหรือเปล่าคะ..เดี๋ยวดาวพาไปค่ะ " หล่อนถาม พาพยักหน้ายิ้มและพากันลุกหยิบกระเป๋า เดินออกไป เหลือเพียงซ่อนกลิ่นที่เตรียมเก็บทำความสะอาด พ่อเลี้ยงเดินออกไปนั่งชมบรรกาศข้างนอกตามลำพัง
"ซ่อนกลิ่น" "ดาว" "พา"
หล่อนทั้งสาม เข้ากันได้ดี เสียงหัวเราะคุยกันดังมาถึงชั้นล่าง พ่อเลี้ยงหันไปมอง และยิ้มอย่างมีความสุข นายสมชายออกมาคุยเป็นเพื่อนกับพ่อเลี้ยงหลังที่ตะวันเริ่มต่ำลงมาทุกนาที อากาศหนาวเย็นเข้าไปทุกขณะ
"พรุ่งนี้จะพาคุณพาไปเที่ยวแต่เช้า คุณพาพร้อมหรือเปล่าคะ ถ้าเราจะตื่นตั้งแต่ 6 โมง" ซ่อนกลิ่นถามขณะช่วยพาแขวนเสื้อผ้าเข้าตู้ขนาดใหญ่
"พร้อมอยู่แล้ว ฉันไม่ค่อยได้มาที่นี่ ตั้งแต่ที่คุณแม่เสีย ก็เพิ่งมานี่แหล่ะ ฉันอยากเดินเล่น แล้วถ่ายรูปเอาไว้"
พายิ้มและดีใจอย่างมีความสุข
"เอ...แต่พรุ่งอาจจะมีฝนเล็กน้อยนะต้องเอาร่มไปด้วย เดี๋ยวจะป่วย" ดาวบอกทุกคนเห็นพร้องกันเป็นไปตามนั้น
"พลูคะ...เด็กนั่น...จะเป็นว่าที่แม่เลี้ยงคุณจริงรึ...เห็นพ่อคุณหลงนักหลงหนา ก็แค่ลูกคนงานเก่า พ่อคุณรสนิยมแปลก ๆ " หล่อนเอ่ย...ถามขณะเดินเกาะแขนพลูชมทิวทัศน์ไปตามทางเวลาพลบค่ำ
"ไม่มีทาง เป็นไปไม่ได้ผมไม่ยอมแน่ " เขาตอบทันควัน
"อ้าว...แล้วจะทำยังงัยคะ...ดูเด็กนั่นออดอ้อนพ่อคุณซะขนาดนั่น คนแก่หลงตาย.." หล่อนพูด
"ผมกำลังหาวิธีอยู่ ให้ผมมีแม่เลี้ยงรุ่นเดียวกับน้องสาว ผมรับไม่ได้ให้ตายเถอะ" เขาบ่น
"ชมัย ก็รับไม่ได้หรอกคะ ที่แม่เลี้ยงคุณอายุน้อยกว่าชมัย" หล่อนบอกและทำท่าทางคิดหาวิธีเช่นกัน
"ตอนนี้...ตัวแสบนั่นกำลังได้ใจ ขออะไรคุณพ่อก็ตามใจทุกอย่าง อยากจะรู้นักว่าเวลาคุณพ่อไม่สนใจมัน...มันจะทำหน้ายังไง" เขาคิด สายตาของชมัยจับจ้องมาที่ดวงตาคู่คมของเขา
"ว่าแต่....เด็กดาว...ก็น่ารัก ชมัยคิดว่าคุณคงไม่พลอยหลงมันไปอีกคนนะคะ เด็กซ่อนกลิ่นเพื่อนของนังดาวด้วย สวยขนาดนั้น ชมัยไม่ไว้ใจคุณจริง ๆ นะคะ คือ ชมัยคิดมากน่ะคะ" หล่อนถามโดนใจเขาจริง ๆ ใช่เขาสนใจ ซ่อนกลิ่น ถึงไม่ค่อยมีเวลาพบกับซ่อนกลิ่นนัก แต่แค่ได้เห็นหน้ากับรอยยิ้ม พลูก็สดชื่น แต่คงเป็นแบบน้องสาวซ่ะมากกว่า
"คิดมาก...ผมทำงานหนักมากนะ ที่นี่กำลังเป็นช่วงท่องเที่ยว ผมไม่มีเวลาไปสนใจใครหรอก ...ยิ่งเป็นเด็กสองคนนั้น คุณอย่าทำให้ผมหงุดหงิดดีกว่านะครับ" เขาบอก ชมัยไม่ค่อยเชื่อคำพูดของพลูเท่าไหร่ เพราะเวลานี้หล่อนก็ยังไม่มั่นใจในตัวเขาเช่นกัน ลูกพ่อเลี้ยงพิชิต สาว ๆ ก็อยากจะมีไว้ครอบครองกันทั้งนั้น หล่อนไม่ยอมเสียเขาไปง่าย ๆ แน่ ......
สายหมอกหนาปกคลุ่มพื้นที่ทั้งหมดท้องฟ้า ภูเขา บ้านพักแทบจะมองไม่เห็นว่าอะไรเป็นอะไร เส้นทางได้ยินแต่เสียงรถวิ่ง กว่าจะเห็นว่าสีอะไร ก็เกือบจะถึงตัว บรรยากาศหนาวเย็นขึ้นทุกเช้า นักท่องเที่ยวคงจะไม่อยากตื่นเป็นแน่ สายฝนปอย ๆ รินลงมาเป็นระยะ ๆ รุ่งอรุณวันใหม่ พา ซ่อนกลิ่น และดาว พากันเดินออกจาก บ้านเรือนไทย กัน เกือบ 8 โมง ไม่ได้เป็นไปตามนัดของเมื่อวาน เพราะหล่อนทั้งสามแทบไม่อยากจะลุกออกมาจากเตียงเลย เมื่อคืน หล่อนทั้งสามคนก็นอนห้องเดียวกัน คุยกันจนดึก ซ่อนกลิ่นติดฝน เลยนอนที่เรือนไทยด้วยกัน
" อุ้ย...ดอกกล้วยไม้ ที่พ่อเลี้ยงอยากได้ เดี๋ยว ไปเก็บก่อนนะ เดินกันไปก่อน หายากด้วย" หล่อนตื่นเต้น เห็นกล้วยไม้ป่า อยู่ไม่ห่างจากที่หล่อนกำลังเดิน
"ดาว..รู้ใจคุณพ่อฉันจริง ๆ นะ อย่างนี้นี่เองพ่อฉันถึงได้ตามใจหล่อนขนาด พี่พลูเลือดขึ้นหน้าเชียว" พาพูด มองร่างนั้นจนสุดสายตา ซ่อนกลิ่นยิ้ม แต่ในใจก็อดเป็นห่วงดาวอยู่เล็กน้อย
"ดาว..กับ พี่ชายคุณพา ดูไม่ค่อยจะลงรอยกันหรอกค่ะ เท่าทีซ่อนกลิ่นเห็น และได้ยิน ทะเลาะกันเป็นประจำ แต่มาระยะหลังคุณพลูไม่ค่อยอยู่ที่นี่ ก็เบาหูไปหน่อยค่ะ" หล่อนบอก พาหยุดมองหน้าสวย ๆ ของ ซ่อนกลิ่น
"อ้าว หยุดเดินทำไมคะ..มีอะไรหรือเปล่าคะคุณพา" ซ่อนกลิ่นสงสัย
"งั้น...ขอถามหน่อยได้มั้ยซ่อนกลิ่น" พาพูดมองหล่อนอย่างอยากรู้อะไรสักอย่าง
"พ่อฉันโทรมาหาดาวบ่อยหรือเปล่า"
"ก็ทุกอาทิตย์นะ...ส่วนใหญ่ดาวจะโทรหาพ่อเลี้ยง เพราะว่าพ่อเลี้ยงระยะหลังท่านป่วย"
"เหรอ...เธอว่าพ่อฉันคิดยังไงกับดาว..?" พาถามตรง ๆ
"คิดยังไง...ซ่อนกลิ่นเข้าใจ..ความรู้สึกของทุกคนนะคะ ซ่อนกลิ่นคิดว่า พ่อเลี้ยงท่านเอ็นดูดาวมากกว่าที่เอาเป็น เออ...ว่าที่แม่เลี้ยงของคุณ กับคุณพลู น่ะคะ" คำตอบนั้นทำให้พาโล่งอกไปเยอะ หล่อนก็ยังสงสัยต่อไม่หยุด
"เออ...งั้นดาวก็ต้องมีแฟนแน่ ๆ ใช่มั้ย สวยน่ารักแบบนั้น เธอเป็นเพื่อนกัน อย่าปิดฉัน...ฉันรู้..." พาถาม ซ่อนกลิ่นทำท่าทางอึดอัดใจ จนหายใจสะดุด
"เล่นถามแบบนี้ ...เอาไว้ถามเจ้าตัวเขาเองดีกว่าค่ะ..." หล่อนไม่ตอบ
"ไม่... ทำท่าทางแบบนี้ ไม่ต้องเดา ดาวมีหนุ่มอยู่ในใจเป็นแน่...ลูกผู้หญิงด้วยกันจะปิดทำไม บอกมาตามตรงดีกว่า ฉันสัญญา ฉันจะไม่บอกเขาหรอก...ในฐานะที่ฉันก็เปรียบเสมือนนายจ้างห่าง ๆ เธอ จะบอกตรง ๆ มั้ย" หล่อนจับแขนซ่อนกลิ่น ขณะเดียวกันกับซ่อนกลิ่นกำลังจะเดินหนี
"คือ...ค่ะ กะ ก้อ..มีค่ะ ทั้งหล่อทั้งรวยค่ะ" หล่อนตอบ พายิ้มอย่างพอใจ
"ก็แค่เนี้ยะ...ทำอ่ำอึ่งอยู่ได้"
"อ้าว..!.แล้วคุณพาอยากรู้ไปทำไมคะ..." หล่อนตะโกนถาม เมื่ออีกฝ่ายเดินนำหน้าไป ทิ้งให้หล่อนคุ้นคิดอยู่อย่างนั้นก่อนจะก้าวขาตามไป
ดาว หล่อนยังคงเดินลัดเลาะไปตามป่าทึบ ที่มีสีสันของกล้วยไม้นานาพันธุ์ ซ่อนไว้ตามต้นไม้ใหญ่ หล่อนรู้สึกหนาวเข้าไปทุกที ถุงและตระกร้าที่หล่อนเอาอาหารเตรียมมาทาน ตอนนี้ถุงใบนั้นเต็มไปด้วยกล้วยไม้เครือใหญ่ และต้นไม้เล็ก ๆ อีกหลายต้น หล่อนจะเอาไปปลูกเพาะในกระถาง เหมือนที่หล่อนเคยทำที่ไร่ป่าสัก ว่าแล้วหล่อนก็อดคิดถึงที่นั่นขึ้นมา นั่นซิ นี่หล่อนเดินมาไกลแค่ไหนแล้ว หล่อนสะดุ้งสุดตัว เมื่อนึกขึ้นได้ว่าหล่อนใช้เวลาไปเกือบ 2 ชั่วโมงเศษ หล่อนควรจะกลับตั้งแต่ 1 ชั่วโมงที่แล้วต่างหาก หล่อนรู้สึกกังวล มากขึ้น ตื่นตระหนกเล็กน้อย หล่อนยืนนิ่ง มองไปรอบ ๆ ตัวเอง นี่หล่อนอยู่ในป่านี้ได้อย่างไร ต้นไม้ใหญ่สูงตระหง่าน บดบังแสงอาทิตย์ได้ดีทีเดียว หล่อนเดาไม่ผิดหรอกหล่อนเดินมาทางนี้แน่นอน หล่อนจะต้องเดินออกจากที่นี่ก่อนเที่ยงให้ได้ พระเจ้าช่วย หล่อนบ่น และรีบเร่งเดินไปตามเส้นทางนั้นอย่างมั่นใจ
"บ้าจริง..เราเดินมาไกลแค่ไหน จะกลับถูก?" หล่อนเริ่มใจคอไม่ดี เมื่อรู้ว่าเดินมาผิดทาง เพราะตอนที่หล่อนเดินมา หล่อนไม่ได้ข้ามลำธารสายที่อยู่ตรงหน้าแน่นอน หล่อนจะทำอย่างไร มือถือหล่อนก็อยู่ที่กระเป๋าของซ่อนกลิ่นอีก....ใบหน้าซีดเริ่มเครียดแก้มชมพูเริ่มเปอะเปื้อนเล็กน้อย หล่อนยังเริ่มต้นเดินต่อ ที่บ้านเรือนไทยนั่นคือที่หมาย นี่ทุกคนคงเป็นห่วงกันหมด ที่หล่อนหายเข้ามาในป่านี้นานมาก...หล่อนรู้สึกเจ็บที่ข้อเท้าข้างซ้าย เพราะใบไม้อันคมบาดเข้าที่ขาเรียวยาว กางเกงขาสั้นสามส่วนดูสกปรก เมื่อหล่อนล้มคลุกคลานเล็กน้อย หล่อนหายใจติดขัด และหวาดระแวง นี่ป่าดงดิบชื้นชัด ๆ หล่อนแหงนมองไปรอบ ๆ หูตาเริ่มพร่ามัว เหงื่อไหลเต็มใบหน้านวลนั้นจนซีดโทรมอย่างเห็นได้ชัด ..
พลู..ตัดสินใจเข้าไปในป่าทึบนั้น กับ คนงานอีก 5-6 คนที่ชำนาญเส้นทางทาง นุชา หนุ่มน้อยหน้าใส เป็นบุคคลที่ ทุกคนสงสัยว่าน่าจะเป็นคนสำคัญของ ดาว เขาเดินตามมาติด ๆ และดูนุชา จะเป็นห่วงดาวมากกว่าคนอื่น คล่องแคล้วว่องไว ไม่พอเขายังส่งเสียงเรียก ดาว มาเป็นระยะ...
"คุณพลูครับ ผมว่าเราต้องแยกกันหาดีกว่าครับ...เดินตามกันแบบนี้คงจะมืดแน่ นี่ครับ คุณ..." ชายกลางคน ยื่นมีดเล็กๆ และไฟฉาย ให้กับนุชา
"นุชาครับ ผมว่าดีเหมือนกัน" นุชารับ
"คุณนุชา...ไปทางลำธารเส้นฝั่งซ้ายดีกว่าครับ นี่ครับเชือก ทำสัญญาลักษณ์ไว้ตลอดทางนะครับจะได้ไม่หลงส่วนคุณพลู...ไปตามลำธารเส้นขวานะครับ ทำอย่างที่ผมบอก ผมคิดว่าน่าจะหาตัวพบก่อนค่ำ ส่วนพวกผม จะเดินขึ้นเขาไปทางนี้ และแยกกันตามหา เรากลับมาพบกันตรงนี้นะครับ...ที่เดิม...ระวังตัวด้วยนะครับ" ชายวัยกลางคนบอก นุชา และ พลู เข้าใจตามนั้น พลูหันมามองนุชา
"ขอให้พบ....ดาวเธออยู่ตรงไหน" นุชา บ่นอยู่ในลำคอ
"ดูนายจะเป็นห่วง ดาวมาก เป็นเพื่อน หรือเป็นมากกว่านั้น " เสียงแข็งนั้นถามนุชาตรง ๆ นุชา หันมาสบตาเขาอย่างเป็นมิตร
"ดาวเป็นผู้หญิงที่พิเศษมากกว่าเพื่อนครับ ขอตัวนะครับ เราต้องรีบเดินทาง" นุชา ตอบ พลูกำมือแน่น..นี่หล่อนคิดไม่ซื่อ...กับบิดาของเขาจริง ๆ ทุกคนแยกย้ายกันออกตามหา ตามคำที่คนงานแนะนำ
ร่างสาวน้อยยังคงล้มลุกคุกคลานไปตามเส้นทาง สายฝนตกกระหน่ำมาอย่างหนัก หล่อนร้องโฮ ออกมาอย่างท้อแท้...เนื้อต้วเปียกโชก หล่อนตะโกนขอความช่วยเหลือ แต่คงไม่มีใครได้ยิน...เสียงแหบแสบคอจนต้องหยุดตะโกน..เสียงสะอึกสะอื้นดังขึ้นเรื่อย ๆ อย่างน่าสงสาร เรียวขาว เรียวแขน มีรอยหญ้าคมบาดจนเลือด หล่อนเจ็บแสบไปทั้งแขนและขา หล่อนเดินต่อไปอย่างพยายาม หล่อนอ่อนเพลียทั้งแขนและขา เหน็บหนาวเข้าไปในขั้วหัวใจ ร่างหล่อนเริ่มสั่นขึ้น ๆ เมื่อทั้งลมและฝนปะทะร่างน้อยนั้นกลางป่า ไม่ได้ยินเสียงใด ๆ นอกจากกระแสลมและฝนเท่านั้น หล่อนพยามรักษากล้วยไม้งาม ๆ นั้นเป็นอย่างดี ริมฝีปากชมพูซีดลง หล่อนเม้มปากจนแน่น ดวงตาแสบเจ็บเพราะทั้งน้ำตาหล่อนและน้ำฝนเข้าตาหล่อนอยู่เรื่อย ๆ
"พ่อจ๋า แม่จ๋า ช่วยดาวด้วย....!" หล่อนตะโกนสุดเสียง พร้อมกับค่อย ๆ นั่งทรุดลงกอดร่างตัวเองอย่างโอดครวญ หล่อนหันไปมองรอบ ๆ บริเวณนั้นจนทั่ว เพื่อหาที่หลบฝนก่อน หล่อนมองเห็นต้นไม้ใหญ่มีหินก้อนโตซ้อน ๆ กัน พอที่ร่างหล่อนจะสอดเข้าไปหลบฝนได้แน่ ๆ
...........................................................................................................
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ