*ศิลาเลือดต่างดาว*

-

เขียนโดย RATH

วันที่ 18 สิงหาคม พ.ศ. 2553 เวลา 02.13 น.

  5 chapter
  11 วิจารณ์
  14.50K อ่าน
แชร์นิยาย Share Share Share

 

4) บทที่ 4 การต่อสู่ กับ ผู้คุ้มกันศิลาเลือด

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

บทที่ 4

 

การต่อสู่ กับ ผู้คุ้มกันศิลาเลือด

 

 

ณ.  คฤหาสน์ 2 เดือนก่อน

 

 

            คฤหาสน์ เก่า ก่อ สร้างด้วยหิน ทั้งด้านนอก และด้านใน มองจากระยะไกล มันคือ ภูเขาลูกเล็ก สีน้ำตาล เมื่อเข้าไปใกล้ มันมีลักษณะเป็นสี่เหลี่ยมจัตุรัส บนยอดคฤหาสน์เป็นพื้นเรียบ เจ้าของคฤหาสน์ นำต้นไม้ ที่ชอบมาปลูกไว้ ถัดมาเป็นที่โล่งเหมาะสำหรับนอน ดูดาวบนท้องฟ้า คืนนี้เจ้า ของคฤหาสน์ มองท้องฟ้าที่เต็มไม่ด้วยแสงสี ของดวงดาว

 

              คืนนี้ เจ้าของคฤหาสน์ นอน รอใครบางคน ทุกๆหนึ่งวันของ เดือน คนที่เจ้าของคฤหาสน์ รอพบ จะเป็น ชายสวมหน้ากากยมทูต ที่มาพร้อมพระจันทร์ ดวงใหญ่ บนท้องฟ้า

 

             เจ้าของคฤหาสน์คือ ชายสูงอายุ ในวัย 95 ปี  มีทายาทด้วยกันสามคน เป็นผู้ชายทั้งหมด ทุกคนต่าง มีครอบครัว ผลิตลูก หลาน เหลน ให้แก่เจ้าของคฤหาสน์  ได้มีความสุขเป็นอย่างมาก ภรรยา คู่ชีวิตของเจ้าคฤหาสน์เสียไปนาน จนจำไม่ได้แล้ว วันนี้เจ้าคฤหาสน์ คิดถึงภรรยาที่เสียไป และคิดว่า เขาเองก็ใกล้จะตาย ตามภรรยาอันเป็นที่รักไป ในเวลาอีกไม่นาน  วันนี้ผู้ชาย คนที่เจ้าของคฤหาสน์รอ มาช้า กว่าครั้งที่แล้ว เจ้าของคฤหาสน์คิดในใจ

 

“ตาแก่ นอนคิด อะไรอยู่”

 

เสียงผู้ชาย ที่เจ้าคฤหาสน์รอพบพูดขึ้น จากริมกำแพงหิน

 

“ไม่ กลัวตก ลงไป รึ ไง”

 

เจ้าคฤหาสน์ ไม่ตอบคำถาม แต่ถามคำถาม กลับทันที เพราะจาก ริมกำแพง มองลงไปด้านล่างมัน สูง และ ลึก ถ้าตก ไปก็ คือความตาย

 

“ตาแก่ เจ้าโง่ หรือไง ข้าเป็นยมทูต ข้าตายไปแล้ว ไม่สามารถ ตายได้อีก ข้าถามแก ตาแก่ นอนคิดอะไรอยู่ ไอ้เฒ่า”

 

 

คนที่ถูกเรียกว่า ตาแก่ หรือไอ้เฒ่า มองผู้ถามคำถาม ในระยะ สายตาที่พอมองเห็น มันเป็นภาพเบลอ เหมือนเท สีน้ำมันหลายสี ลงละเลงในจานสี   เจ้าของคฤหาสน์ มองเห็น คนถามเป็น สีดำ กับ สีขาว เท่านั้น สิ่งที่มองเห็นจึงไม่ต่างกับ การมอง ยมทูต อย่างผู้ชาย ที่อ้างตัวว่าเป็นยมทูต บอกกับเจ้าคฤหาสน์  และเจ้าของคฤหาสน์ ก็จะยอมเชื่อ แบบนั้น

 

“ข้าคิดถึงภรรยาที่เสีย ไปแล้ว เมื่อไร ท่านถึงจะพา ข้าไปหา ภรรยาข้าเสียที”

 

“ทำไม ท่านถึงต้องการ ตายเร็วนักละ ตาแก่”

 

“ข้าอายุ จะครบ 100 ปีอยู่แล้ว พี่น้องข้าต่าง ก็ตายกันไปหมดแล้ว มันก็หน้าจะถึง เวลาของข้า ได้แล้ว เช่นกัน ท่านยมทูต”

 

“แต่ภรรยา ของท่านยัง ไม่ต้องการ จะพบท่านเร็วนัก ตาแก่”

 

“ทำไม ภรรยาของข้า ถึงไม่อยากจะพบ ข้า ท่านยมทูต”

 

“ภรรยา ท่านบอกว่า ท่านต้องอยู่ใช้กรรม ของท่านต่อให้หมดก่อน ท่านถึงจะไปพบภรรยา ท่านได้ ตาแก่”

 

“ข้าไม่ได้ ก่อกรรม อะไรไว้ ถึงจะต้อง อยู่ชดใช้ มันต่อไปอีก ท่านยมทูต”

 

“ท่านกำลังโกหก ตัวแทนของนรก อยู่นะ... เจ้าแก่มาก แล้วอาจจะลืมได้  ข้าจะใบ้ ปริศนา แก่ท่าน ให้ได้ คิดสักนิด แล้วถึงตอบข้าใหม่อีกครั้ง ตาแก่”

 

“ปริศนา อะไร ท่านยมทูต”

 

“เลือดสีแดงไหล เป็นสายน้ำ 25 ปีที่แล้ว มีคนตายมากมาย เพื่อสิ่งเดียวที่ท่านต้องการ ตาแก่ เจ้านึกได้หรือยัง ไอ้เฒ่า”

 

 

“ข้าไม่ได้ทำ ท่านยมทูต ศิลาเลือดต่างหาก ที่เป็นคนทำ มันเป็นของที่ท่านส่งมา ท่านต่างหาก ที่ต้องรับผิดชอบ ไม่ใช่ข้า  ข้าเป็นแค่เหยื่อของท่าน ข้าจะไม่รับผิดชอบ...  คนที่ต้อง รับผิดชอบคือท่านที่ นำของน่ากลัวแบบนั้น มาไว้ ยังโลกนี้...  ข้าถูกครอบงำ จากของที่ท่านส่งมา ข้าจึงไม่ต้องรับผิดชอบ  ท่านเอง ที่ต้องเป็นคนรับผิด ไม่ใช่ข้า.. ไม่ใช่ข้า..”

 

“เงียบไว้ตาแก่ ข้าจะรับผิดชอบในส่วนของข้า...  ท่านก็ต้องรับผิดในส่วน ของท่านเช่นกัน และวันนี้ข้า ก็จะมาทวงของ ที่ข้าได้ทำหาย  คืน และท่านต้องหา มันมาคืนให้แก่ข้า แล้วข้าจะพาท่านไปพบ ภรรยาของท่าน ดี มั้ย ตาแก่”

 

“เป็นไป ไม่ได้ มันไม่ได้อยู่ที่นี้  อีกแล้ว... ข้าคืนให้ท่านตอนนี้ ไม่ได้”

 

“ถ้าอย่างนั้น  ท่านก็ยังตาย ไม่ได้ตาแก่ ท่านจะต้องอยู่  จนกว่าจะหามันกลับมาคืน ให้ข้าได้... จนวันนั้น จะมาถึง ข้าจะให้ ชีวิตแก่ท่าน ต่อไปอีก อาจ  10 ปี หรือ 20 จนกว่าท่าน จะหาของมาคืนให้แก่ข้าได้ ตาแก่”

 

“ตกลง ข้าจะรีบหา มาคืนให้ ...ท่านยมทูต”

 

“แล้วข้าจะรอ ตาแก่ ...ออ.!!!.เกือบลืม..ภรรยาท่านฝากบอก ว่าสุขสันต์ วันเกิด ปี ที่ 96 ของท่านมาด้วย.... พร้อมบอกให้ข้าบรรเลงเพลง  ที่ท่านชอบ.. ให้ท่านได้ฟังด้วย...ข้าไปหามันจากห้องของภรรยาท่าน จึงมาพบ  ท่านช้า มันคือ เครื่องดนตรี ของภรรยาท่าน ท่านคงจำได้ และเพลงนี้... เป็นเพลงที่ท่าน อยากฟังในคืน นี้ ใช่หรือไม่  ตาแก่”

 

 

 

มันคือเครื่องไวโอลิน เมื่อ ยมทูต เริ่มบรรเลง เสียงมันบาดลึก เจ็บปวด อารมณ์ ทุกข์ทรมาน เหมือนตกลง สู่หลุมที่ ไม่มีจุดสิ้นสุด เจ้าคฤหาสน์ น้ำตาไหล ด้วยความดีใจ เหมือนได้อยู่ใกล้ กับภรรยาอีกครั้ง เมื่อเพลงจบลง ตาแก่เอามือปิดหน้า เหมือน มีความทุกข์ทรมาน ที่ไม่สามารถ จะเดินหนีได้ และเงยหน้า มองผู้เล่นไวโอลินอีกครั้ง

 

ตอนนี้ ตาแก่รู้แล้วว่าใคร คือผู้เล่นไวโอลินตัวนี้  ไม่ใช่ยมทูตอีกแล้ว  นอกจากภรรยาที่ตายไปแล้วมีคนเดียวเท่านั้น ที่สามารถเล่นมันได้ ภรรยา เจ้าคฤหาสน์ เป็น ครูสอนลูกศิษย์ เพียงคนเดียวให้เล่นเพลงนี้ ได้

 

“อากิระ นั้นเธอใช่ มั้ย” ไม่มีเสียงตอบจากยมทูต ข้างหน้า

 

“เป็นเธอจริงๆ ใช่ มั้ย ...  3 ปี เธอมาหาฉัน 3 ปี...  แต่ฉันจำเธอไม่ได้ เธอต้องการ ชีวิตฉัน ใช่มั้ย อากิระ” ไม่มีเสียงตอบ กลับ เหมือนเดิม

 

“ฉันขอโทษ อากิระ ยกโทษให้ฉันได้ มั้ย”

 

“ยังไม่ถึง เวลา ตาแก่...”

 

“เมื่อไร อากิระ..”

 

“เมื่อคุณได้อยู่เห็น ในสิ่งที่ผมได้เห็น เมื่อ 25 ปีที่แล้ว เลือดไหลเป็นสายน้ำ  และ มันจะเกิดขึ้นกับคุณ เมื่อถึงวันนั้น ...ผมจะยกโทษให้”

 

“อากิระ ฉันขอร้อง หยุดเถอะนะ”

 

“เอาศิลาเลือด  มาให้ผม ...แล้วผมจะลองคิดอีกที”

 

“ตกลง ฉันจะคืนให้....พรุ่งนี้ฉันจะบอกลูกชาย เอามัน มาคืนให้กับเธอ...อากิระ” ไม่มีเสียงตอบรับจากคนตรงหน้า

 

“อากิระ ถอดหน้ากาก ยมทูต ให้ฉันได้เห็นหน้าเธอ ได้มั้ย ฉันไม่เห็นหน้าเธอมา 25 ปีแล้ว ฉันอยากเห็น หน้าเธออีกครั้ง ได้มั้ย...อากิระ”

 

“ผมจะถอดมัน  เมื่อผมได้ศิลาเลือด แล้ว...”

 

“ตกลง ฉันจะรอ”

 

“ผมต้องกลับแล้ว และนี้....  เม็ดยา... สำหรับเดือนนี้ กินมันซะ คุณจะแข็งแรงไปอีก 1 เดือน เดือนหน้าผมจะมาหา อีก”

 

 

“ฉันจะคืนศิลาเลือด ให้เธอพรุ่งนี้ เธอมาพรุ่งนี้ไม่ได้ หรือ อากิระ”

 

“มันเป็นไปไม่ได้ หรอก ตาเฒ่า... ท่านแก่ เกินไปที่จะหา มันมาคืนให้ ผมได้แล้ว...”

 

“ถ้ารู้ฉันคืนให้ไม่ได้  แล้วมาหาฉันทำไม  อากิระ...”

 

“เพราะคุณจะตายไม่ได้...อย่างไรละ ตาเฒ่า”

 

“จริงสินะ”

 

ไม่มีคำพูดต่อไปเพราะเจ้าคฤหาสน์รู้เหตุใด เขาถึงยังตายไม่ได้...เขาต้องอยู่เห็น ความตาย...ที่กำลังจะเกิดขึ้น มันไม่ได้  เกิดกับตัวเขา แต่มันจะเกิด กับครอบครัวเขาต่างหาก.... 1 เดือนแต่มา...

 

 

ณ.. คฤหาสน์

 

 

“ข้ารอมา 1 เดือน แล้วนะ ตาแก่ ไหนละ...ศิลาเลือด ของข้า”

 

“อากิระ...ฉันพยายาม หาทางเอามัน มาคืนแล้ว  แต่ฉันทำไม่ได้”

 

“ทำไม ตาแก่”

 

“มันเป็นเหตุผล ของลูกชายฉัน เขาไม่ยอมอธิบาย อะไรกับฉัน  ชีวิตของฉัน ไม่มี ค่าอีกแล้ว อากิระ...ลูกชายฉันเท่านั้น ที่จะคืนมันให้แก่เธอได้”

 

“แล้วถ้าเขา ไม่ยอมคืนละ.. ตาแก่... ข้า สามารถที่จะ ฆ่าลูกชายเจ้า...ได้ใช่ มั้ย”

 

“อากิระ ข้าขอร้อง ถึงเขาไม่ยอมคืนให้ เธอก็สามารถ ไปเอามันคืนมาได้  โดยที่ไม่ต้อง ทำร้ายใคร”

 

“อย่างไร ตาแก่”

 

“มันถูกเก็บอยู่ที่ บริษัทประกัน และมันกำลังจะ ถูกประมูล...อากิระ...ฉันจะให้ข้อมูลแก่เธอทุกอย่าง...ที่เธอต้องการ...ด้วยฝีมือ และความฉลาด ของเธอ...อากิระ  เธอสามารถนำมันกลับ คืนมาได้”

 

“อย่างนั้น ก็ได้ตาแก่ ข้าต้องการข้อมูลทั้งหมด....แล้วข้า จะมา ถามเอากับเจ้า เมื่อข้าต้องการ และเจ้าต้องเตรียม หามันไว้ ให้ข้า เมื่อข้ามา”

 

“ได้ อากิระ..เธอจะได้ข้อมูลที่ต้องการ”

 

“อากิระ ข้าอยากฟัง เสียงไวโอลิน ของเจ้า อีกสักครั้ง ก่อนเจ้าไป ได้ มั้ย” มัน คือคำขอร้องที่ เศร้า ของตาแก่

 

“ได้  ส่งมันมา”

 

              ตาแก่ ส่งเครื่องดนตรี ให้ ยมทูตหนุ่มเล่น มันอีกครั้ง เสียงที่ได้ยิน มันคือเสียงของปีศาจโดยแท้ มันคือ ความคิดของสาวน้อย ที่หลบมุม มืดฟัง เสียงดนตรีที่บรรเลง จากกำแพง ของคฤหาสน์ เธอได้ฟังเสียง มันเป็นครั้งที่สองแล้ว เมื่อ 1 เดือนที่แล้ว เธอก็เคยได้ฟังเสียงดนตรีแบบ เดียวกันนี้ มันเป็นเสียงที่เศร้ามาก

 

               เธอสงสัย มาตลอดเวลา 3 ปี ในทุก ๆ วัน ของเดือน คุณปู่ ของเธอ ขึ้นมาทำอะไร บนยอด คฤหาสน์ ในตอนกลางคืน และห้ามทุกคน ขึ้นมาด้วยเด็ดขาด รวมถึงเธอด้วย วันนี้เธอรู้แล้วปู่เธอไม่ได้ขึ้นมาเพื่อ นอนดูดาวเท่านั้น แต่ปู่เธอนัดพบ กับใครบางคน และคนๆ นั้น ก็กำลังบรรเลงเพลง ที่เจ็บปวด และทรมาน มาก สำหรับมนุษย์บนโลก เธอสงสัยทำไม ปู่เธอถึงต้องการจะฟังมันนัก เพลงมันทำให้ปู่ ของเธอดีใจ หรือเศร้าใจ กันแน่ ถ้าปู่เธอไม่ชอบฟัง  คงไม่ขอร้องให้มนุษย์ปริศนา ที่ใส่หน้ากากยมทูต เล่นให้ฟังแน่ เขาเป็นใคร เขาขึ้นมา ถึงยอดคฤหาสน์ ได้อย่างไร โดยไม่มี ใครรู้เห็น เธออยากรู้ความจริง

 

วันนี้เธอจะต้องรู้ ให้ได้ เธอเดินกลับลง ไปด้านล่าง  เตรียมนักล่า ที่ได้รับพลังจาก กากศิลาเลือดไว้ 4 คน พวกเขาคือ คนที่พ่อ เธอเตรียมไว้สำหรับ คุ้มครองศิลาเลือด ในงานประมูลที่กำลังจะมาถึง อย่างน้อยวันนี้ ให้พวกเขาได้ทดลอง งานก่อนจะเริ่มงานจริง เธอคิด

 

 

“ตาแก่ ข้า เล่นเพลงจบแล้ว คืนนี้ ข้าต้องไปแล้ว”

 

“เธอจะมาอีก วันไหน..อากิระ”

 

“ไม่นาน ตาแก่ ท่านไม่ต้องรอข้า เป็นเดือนเหมือนแต่ก่อนอีกแล้ว ข้าจะมาหาท่าน เมื่อข้าอยากมา”

 

“ดี อากิระ... ฉัน จะขึ้นมารอเธอ ทุกวัน จนกว่าจะเที่ยงคืน ของทุกวัน”

 

ไม่มีเสียงตอบกลับ จากอีกฝ่าย แล้วยมทูต ก็หายไป จากริมกำแพงคฤหาสน์

 

 

ลานกว้าง หน้า คฤหาสน์

 

 

           มีชายแต่ง ชุดดำ 4 คน ถืออาวุธ ได้แก่ กระบี่ และดาบซามูไร  พวกเขา กำลังรอ คนปริศนา ที่เล่นเพลง บนกำแพงคฤหาสน์ มันคือ งานที่พวกเขา ไม่ต้องการจะทำ  เพราะไม่มีเหตุผล ที่ ต้องต่อสู่ กับคน ที่ไม่เป็นภัย ... คนปริศนา ที่เล่นไวโอลิน เสียงเพลงเศร้า...  ข้างบนเป็นแขก ของเจ้าคฤหาสน์ แม้พวก เขาไม่รู้เหตุผล ของ.. เจ้าคฤหาสน์ที่ไม่บอกใครเรื่องมีแขก มันทำให้ หลานสาวของเจ้าคฤหาสน์ ต้องการรู้จัก แขกปริศนาของ ปู่เธอ บอกให้พวกเขามาจับตัว ไปพบ...

 

ดังนั้นพวกเขา จึงยอมรับงานง่ายๆ นี้ ยืนคอย เพื่อจับตัวไว้... การรอคอยก็มาถึง คนปริศนา ที่เล่นดนตรี  เศร้า  เจ็บปวด ทรมาน  มาถึงแล้ว สิ่งที่พวกเราต้องการก็คือจับตัวไว้ และถอดหน้ากาก คนปริศนาให้ได้ แล้วนำไปส่งให้กับ หลานสาวเจ้าของบ้าน..

 

“หยุดก่อน เรา ต้องการ จะคุยด้วย”

 

นักล่า ผู้ได้รับพลังจาก กากศิลาเลือด คนแรกพูดขึ้น คนถูกออกคำสั่งหยุดยืน นิ่ง ไม่ไปไหนอีก  และไม่ตอบรับคำพูด ของคนที่ออกคำสั่ง

 

 

“เจ้าปีศาจเอย... หลานสาวเจ้าของ คฤหาสน์ ต้องการพบ เจ้า” ไม่มี เสียงตอบอีกครั้ง

 

“เดินตามเราไป ได้ มั้ย” ไม่มีเสียงตอบ จากคนปริศนา ตรงหน้า แต่มีการส่ายหน้าปฏิเสธ การจะเดินทางไปด้วย

 

“อย่างนั้นเรา ขอจับตัว  กลับไป เจ้า จะว่าอย่างไร” คนปริศนา สวม หน้ากาก ตรงหน้าเดินมาหนึ่ง ก้าวแล้วพูด

 

“เอาเป็น  ว่า  ข้า จะสู่กับพวกท่าน 10 นาที หากพวกท่านจับตัวข้ากลับไปได้ ข้าก็จะกลับไป แต่ 10 นาที แล้วยังจับข้า ไม่ได้ ข้าต้องขอตัวกลับบ้าน นอนก่อน...” มีเสียงหัวเราะ ดังออกมาจากปากนักล่า คนแรก

 

“ตลก จริง  10 นาที  มันมากไปด้วยซ้ำ แค่นาทีเดียวก็  หน้าจะพอ จับ ลูกหนูโสโครก  อย่างแก่... ได้แล้ว ไอ้วนิพก เอย”  ไม่มีเสียงตอบกับจาก วนิพก ที่นักล่า พูดถึง มีแต่เสียง บอกเวลาในการต่อสู่เท่านั้น

 

 

“ข้าจับเวลา นะ... หากพวกท่าน ไม่จับตัวข้า ใน 10 นาที ข้าก็จะไปเมื่อ ครบกำหนด  แต่หากพวกท่านจะรอให้เวลาเหลือ อีก 1 นาทีจึง จับข้า ก็แล้วแต่พวกท่าน” มีเสียงหัวเราะมาจากนักล่า คนที่สอง

 

“ดูไอ้ วนิพก มัน ไม่พอ ใจพี่ แล้วนะ... พี่วายุ เอาเป็นว่าผมจะทำหน้าที่แทนพี่เอง... พี่รอดูนะ.. พี่ยุ น้องรัก จะจับมันให้ดู”

 

“ตามใจ..อัส..น้องรัก...ของพี่” แล้วนักล่านามว่าน้องรัก ของพี่ ก็ วิ่งตรงเข้าหา วนิพกน้อย ทันที และนักล่า ใช่เวลาไม่นานก็ ประสบความสำเร็จ  จับแขน ได้หนึ่งข้าง

 

“ท่านพี่ ข้าจับมันได้แล้ว เห็น มั้ย ยังไม่ 1 นาทีเลย”

 

“ดีมากน้องรัก พา........” นักล่าคนพี่ ยังพูดไม่จบ ประโยค... คนน้องที่จับแขน วนิพกน้อยไว้ ถูกถีบ กระเด็น กระแทกต้นไม้ ขนาด เท่าเสาบ้านหักเป็น สองท่อน คนพี่อ้าปากค้าง เหมือนกับ จะ ถามน้องรัก ว่าเจ็บ มั้ย แต่ไม่ได้พูด

 

“อู๊ย...” เสียงคางเหมือนหมู ดังมาจากน้องรัก นักล่าสามคนมองเหมือนไม่เชื่อ สายตา

 

“พวกท่านเหลืออีก 5 นาที” เสียงวนิพกน้อยพูดออกมา ทำให้นักล่า ทั้งสามคนจ้อง  แล้วสองคน ที่ยืนดูเหตุการณ์อยู่  ก็พุ่งตัวตามเข้า ไปด้วย ....การต่อสู่ เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว ได้ยินเสียงต้นไม้หัก หลายสิบต้น ก้อนหินแตกเป็นฝุ่นผง ปลิวกระจาย เป็นบริเวณกว้าง แล้วมี เสียงหนึ่งดังขึ้น

 

“ตุบ!!!...”เป็นเสียงลูกเตะ ของวนิพก  ลูกเตะ เข้า กลางลำตัวของนักล่า กระเด็น ไปกระแทกต้นไม้ ขนาดเดียวกันกับ น้องรัก แล้วอีกไม่นานก็มีอีกเสียงดังต่อ เนื่องกัน

 

“ตุบ!!!.. ...”นักล่าคนที่สามถูกถีบ กลับหลังหันตัวปลิวไปกระแทกต้นไม้ขนาดเดียวกัน ทั้งสามคน

 

“อู๊ย...อู๊ย....อู๊ย...” เสียงคาง ของทั้งสามคนดัง มาจากคนละ ที่กัน แต่เสียงที่ได้ฟัง ดัง เท่ากัน

 

 

“ท่านเหลืออีก 1 นาที ท่านวายุ” นักล่าที่โดนเรียกว่า วายุจ้องมองคนตรงหน้า อย่างไม่อยากจะเชื่อ สายตา... ตอนนี้นักล่าไม่สนใจตอบรับเรื่องเวลาในการต่อสู่อีกแล้ว แค่อยากรู้ว่าไอ้วนิพก ตรงหน้ามันเป็นใคร พวกเขาสี่คน ได้รับพลังจากกากศิลาเลือด จนถึงระดับเก้า มีคนไม่มากที่จะสู่ หนึ่งในพวกเขาชนะเพียงแค่ 10 นาที แต่นี้สามคนโดนเล่นงานแค่ไม่กี่นาทีเท่านั้น

 

“แก่เป็น ตัวอะไรกันแน่...เป็นสัตว์ประหลาดหรือไง...” ไม่มีคำตอบ มีแต่เสียงหัวเราะจากอีกฝ่ายเท่านั้น

 

“แก่หัวเราะ อะไร...” นักล่าต้องการคำตอบ แต่สิ่งที่ได้รับ

 

“หมดเวลา แล้วนะท่านวายุ ไว้โอกาสหน้า...เรามาสนทนากันใหม่”

 

“หยุดนะ...”ยังพูดไม่จบประโยค ดี คนปริศนาตรงหน้า ก็หายไป แล้วนักล่าที่ต่อสู่กับคนปริศนาก็ ลุกเดินเข้ามาหาพี่ชายใหญ่

 

 

“พวกแก่เป็นบ้าอะไร...มีดาบ...มีมีด ...แล้วไอ้ดาบซามูไร..ของพวกแก่มันหายไปไหน” ทุกคนส่ายหน้า

 

“ตอนนี้มันมืดหาไม่เจอครับพี่” น้องรัก เป็นคนตอบ

 

“ไม่ต้องทำฉลาด ตอบ คำถามกู...”

 

“ไอ้สัตว์ประหลาด นั้นมันเป็นใครครับ พี่ยุ”

 

“กูไม่รู้ ถ้ามึงอยากรู้ก็ ไปถามเจ้าคฤหาสน์ดู...ตอนแรก ฉันคิดว่าคฤหาสน์พังๆ แบบนี้ จะมีแต่คนไม่เอาไหน...ไม่รู้จะให้พวกเรามาทำงานให้ทำไม...ในเมื่อมีสัตว์ประหลาดทำงาน ให้อยู่แล้ว..หน้ากลัวจริง  เจ้าของคฤหาสน์ บ้านี้”

 

“นั้นสิครับ พี่ใหญ่”

 

“ไม่ต้องมาประจบ”

 

 

“ครับ... แล้วถ้ามันมาอีกพี่  จะสู่กับมันหรือเปล่าครับ” น้องรักถาม

 

“มึงอยากให้มัน เตะ อีกหรือไง” น้องรักส่ายหน้า

 

“กู ก็ไม่อยาก”

 

“แต่พี่ยังไม่  โดนเลยนะครับ”

 

“แล้วมึงก็อยากเห็น กูโดนถีบด้วยอีกคนหรือไง” น้องรักพยักหน้า

 

“ไอ้..อัส..” พี่ชายใหญ่ ถีบน้องรัก แต่พลาด น้องรักกระโดดหลบ

“แล้วเราจะบอก หลานสาวเจ้าของคฤหาสน์อย่างไรครับ พี่ชาย” น้องรักถาม”

 

“บอก ว่าไม่เจอมัน”

 

“แต่หลับฐานที่พัง ยับเยินพวกนี้ละพี่”

 

“บอกว่ามัน วิ่งหนี จนชนต้นไม้หักก็ได้”

 

“โอโห้...พี่ฉลาดจัง”

 

“แล้วพี่ว่าเรา จะพบกับไอ้สัตว์ประหลาดนั้นอีกมัยครับ”

 

“ได้พบแน่.. และครั้งหน้าพวกเราสู่กับมันแบบ 1 ต่อ 4 เราต้องชนะแน่”

 

“พี่นี้เลวจริง...”

 

“ไม่ต้องชม...น้องรัก” 

 

1 เดือนต่อมา เหตุการณ์ปัจจุบัน ใกล้ วันขนย้ายศิลาเลือดครั้งที่สาม

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

อ่านนิยายเรื่องอื่น

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา