THE RED EYE

5.8

เขียนโดย RATH

วันที่ 28 กรกฎาคม พ.ศ. 2553 เวลา 16.37 น.

  8 chapter
  16 วิจารณ์
  16.65K อ่าน
แชร์นิยาย Share Share Share

 

1) บทนำ

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

THE  RED EYE


บทนำ


                ไฟ  จุด เล็ก เล็ก หลาย จุด รวมตัวกันเป็น แสงที่ลุกโชติ   ความร้อนอันมหาศาลที่ปลดปล่อยออกมา    มันเหมือนเงาสีแดง  สีเลือด ของผู้คน  ที่ร้องด้วยความเจ็บปวดทุกข์ ทรมาน อยากให้ภาพที่เห็นเป็นเพียงเรื่องของความฝัน เป็นเรื่องที่จินตนาการ  แต่ทำไหม  ดวงตาถึงได้ร้อนนัก น้ำตาถึงได้ไหล  เช็ดเท่าไหร่ก็ไม่หยุด มันคือเรื่องจริง   ไม่ใช่ความฝัน   ทุกคน อยู่ในความร้อนอันมหาศาลนั้น  ทุกคนกำลังจะตาย นั้นใครกัน ทำไหมถึงจำไม่ได้   อยากช่วยเขา แต่ไม่มีแรงขยับ เขากำลังวิ่งตรงมาทางนี้  ได้โปรดให้เขาหนีจากความร้อนอันมหาศาลนั้นด้วย

 


               “เจอเด็กทางนี้  เด็กผู้ชาย ยังหายใจ” เสียงตระโกนสุดเสียงเท่าที่ผู้ชายตัวโตคนหนึ่งจะตระโกนได้ แต่ด้วยสภาพของความวุ่นวาย  การหลบหลีก หาที่ปลอดภัย ทำให้เสียงที่ตะโกน หายไปกับสายลม และความร้อนอันมหาศาล  “เด็กน้อย หนูปลอดภัยแล้วนะ” เขากระซิบปลอบเด็กที่ เขาอุ้มไว้ในอ้อมแขน เขาอยากให้เด็กเชื่อในคำพูดที่กระซิบปลอบ น้ำตาที่อุ่น ดวงตาที่แดงชาด ช่างโศก แต่มีพลัง ดวงตาสามารถบอกเป็นคำพูดได้หลายร้อย หลายพันคำ ดวงตา ดวงนี้ไม่มีแววของความกลัวแน่นอน เป็นคำพูด  ที่เขาฟังได้จากดวงตาที่มีขนาดเล็กนี้  เขารู้ว่าต้องมีคำพูดอีกมากมายจากดวงตาแดงชาดนี้   แต่ตอนนี้ไม่ใช้เวลาฟังเสียงอะไรทั้งนั้น แม้แต่เสียงของเด็กน้อยคนนี้ เขาต้องพาตัวเองและเด็กหลบไปให้ห่างจากไอ ความร้อน และเสียง ที่ดังอยู่รอบข้าง เขาอุ้มเด็ก แล้ววิ่งหลบหลีกสิ่งกรีดขวาง  ไม่รู้ทิศทางที่แน่นอน ปลายทางของการหลบหลีก คือ ลำธาร  อย่างน้อย   เขาก็มาถูกทิศ มากกว่าที่ได้ตั้งใจไว้ “เขาและเด็กปลอดภัยแล้ว” เป็นความคิดที่บอกกับตัวเอง แต่ยังมีคำถาม อีกมากมายที่เกิดขึ้นข้างบนนั้น  ไฟที่เผาบ้าน  เผาผู้คน  ใครเป็นคนทำ หรือแค่อุบัติเหตุ คำตอบของคำถาม  อาจมีคำตอบ จากเด็กที่เขาอุ้มมาด้วยก็ได้...20 ปีต่อมา

 

 

 

 

บทที่ 1

  

จุดเริ่มต้น การสอบสวน

 

สำนักงานตำรวจแห่งชาติ  

 

               “ถอดแว่นตาด้วย” เสียงเล็ก  ไม่ดังมาก และไม่ใช่เสียงกระซิบ  แน่นอนว่ามันเป็นเสียงออกคำสั่งที่ไพเราะมาก  เสียงเพาะๆ ก็ต้องคู่กับผู้หญิงสวย ผมคิด หากผมถอดแว่นตาออกก็คงต้องเจอหน้าคนออกคำสั่งแน่นอน แต่บังเอิญ วันนี้อารมณ์ผมไม่ค่อยจะดีนัก จึงไม่อยากจะใส่ใจกับเสียงที่ไพเราะ หรือนางฟ้าแสนสวยองค์ไหนๆ อารมณ์ตอนนี้ของผม  คือสร้างความเจ็บปวดให้ใครสักคน ถ้าไม่ได้ทางร่างกายก็ขอเป็น ในด้านจิตใจแล้วกัน อย่างน้อยยัย เสียงเพาะคนนี้ก็พอแก้ขัดได้  

  

               “ถอดแว่นตาด้วย” เสียงเล็ก  ดังกว่าครั้งแรกมาก และไม่ใช่เสียงกระซิบ มองจากหลังแว่นตานอกจากจะเสียงดังกว่าเดิม ท่าทางการเคลื่อนไหว  การใช่มือ การขยับทรงผม  การขยับเท้า บอกได้ว่าเอาจริง และมีความโกรธเล็กน้อยในดวงตา และคิ้วเล็ก นั้น  ตะโกนเข้าไปซิ  โกรธเข้าไปซิ  โมโหเข้าไปซิ ผมไม่คิดจะสนใจอยู่แล้ว ผมอยากจะให้เธอแสดงความโกรธมากกว่านี้อีก อยากให้เธอเจ็บปวดมากกว่านี้อีก  แต่เธอจะรู้สึกจริงๆ หรือ ถ้าไม่รู้สึกผม ก็จะทำให้รู้สึกเองแล้วกัน

  

               “ถอดแว่นตาด้วย  ไอ้เหี้ย ”  อยากพูดคำนี้ดังๆ สักทีเพื่อผู้ชายหูตึง ข้างหน้าเธอ จะทำตามที่เธอบอก แต่ก็แค่ความคิดของอารมณ์ เท่านั้น ใครจะกล้าสอบสวน สักถาม คนด้วยภาษารุนแรงแบบนี้ ถึงแม้ตัวเหี้ยจะเป็นสัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำก็ตาม ไม่ใช่ความผิด ของมัน  สงสารมัน ที่ใช่ชื่อของมัน โดยไม่ได้รับอนุญาต แล้วจะทำอย่างไรกับผู้ชายตรงหน้าดี หรือจะปล่อยให้สวมแว่นตาไว้แบบนั้น หรือจะเดินเข้าไปดึงออกมา  ตกลงเอาอย่างหลังแล้วกัน  ดึงมันออกมาเลยแล้วกัน  ดูซิว่าผู้ชายตรงหน้ายังกล้านั่งเฉย ได้หรือเปล่า

 

              “โอ้ย”   สุดท้ายฉันก็ได้มันมา เป็นคำพูดที่เกิดขึ้นจากความคิดในใจ และ  สะใจเล็กน้อยที่ทำให้ผู้ชายตรงหน้าร้องได้ แม้จะไม่ดังมากนัก แต่ก็ร้อง  ขอดูหน้าชัดๆ หน่อยซิ จะยังก้มหน้า อยู่อีก เธอคิด

 

           ผู้ชายตรงหน้าเธออย่างไร  ก็ต้องยอมเธออย่างแน่นอน ยังจะทำอะไรได้อีก  คิดจะทำร้าย เธอ ไม่มีทางอยู่แล้ว คิดจะลุกขึ้นเดินหนี ก็ทำไม่ได้อีก เพราะประตูปิด จากด้านนอก มีทางเดียวก็คือพังประตูออกไป แต่ด้วยรูปร่าง มือเปล่า เท้าเปล่ายิ่ง ไม่มีทาง  ถัดจากห้องเธอไปจนสุดทางเดินต้องผ่านระบบรักษาความปลอดภัยมากมาย ทั้งจากระบบรักษาความปลอดภัยด้วยคอมพิวเตอร์  ทั้งจากตำรวจ  ในและนอกเครื่องแบบประจำอยู่ที่จุดต่างๆ ตามทางเดิน  มีแต่มดเท่านั้น ถึงจะออกไปได้ ผูชายตรงหน้าต้องโกรธเธอแน่  เขาอยากโกรธก็โกรธไป เธอเจอแบบนี้ทุกวันอยู่แล้ว และเธอจัดการได้เรียบร้อย  และวันนี้ก็เป็นแค่อีกวันที่ต้องเจอเรื่องแย่ๆ คนแย่ๆ แต่สุดท้ายเธอก็จัดการได้  ต่อไปนี้ก็เริ่มการสอบสวนผู้ชายตรงหน้าได้สักที  ผู้ชายที่ปราศจากแว่นตาอันใหญ่  ในห้องที่ไม่มีแสงแดด มีแต่แสงไฟ ในห้องสอบสวน เธอเอาแว่นตาอันใหญ่เก็บเข้า กระเป๋าเสื้อเรียบร้อย และคิดจะคืนให้กับผู้ชายตรงหน้าเมื่อการสอบสวนเรียบร้อยแล้ว

  

“ฉันจะคืนให้หลังจากการสอบสวนเสร็จสิ้น

 

เธอพูดกับผู้ชายที่นั่งอยู่ตรงหน้าถึงแม้เขายังนั่งก้มหน้าอยู่ก็ตาม “คุณได้ยินไหม ฉันบอก ฉันจะคืนให้”

 

เธอใช่น้ำเสียงในการพูดสุภาพ และเป็นจังหวะ มีน้ำหนัก แต่ละคำสม่ำเสมอ ไม่เสียงดัง 

 

“เลิกก้มหน้า  และมองหน้าฉัน”

 

เสียงออกคำสั่ง ดังมากกว่าประโยตแรก เป็นเสียงที่จริงจัง

 

“คุณได้ยินไหม ฉันบอกให้มองหน้าฉัน”

 

             เป็นเสียงออกทำสั่ง อีกแล้ว เสียงดังกว่า คำสั่งเมื่อกี่เล็กน้อย ตะโกนให้ดังกว่านี้อีก ผมไม่สนใจอยู่แล้ว ถ้าเธอ อยากให้ผมมองหน้า ผมก็จะมอง ผมเสียแว่นตาอันแรกไป  เพราะ ผมระวังตัวไม่ดีนัก ผมขยับตัวได้ในพื้นที ที่จำกัด  เก้าอี้ตัวนี้ก็อยู่ในทีอับ  ขยับไปข้างหน้าก็ไม่ได้ มันติดโต๊ะ ถอยไปข้างหลังก็ติดกำแพง แต่ครั้งนี้ผมจะลุกขึ้นและอาจจะต้องใช้กำลังเล็กน้อยเพื่อรักษาแว่นตาอันที่สอง  ที่ผมพกมาสำรองไว้ ผมสวมแว่นตา และมองหน้าผู้หญิง ที่นั่งอยู่ข้างหน้า  ผมเห็นเธอตกใจเล็กน้อย หรือจะโกรธมาก กันแน่ แต่ใครจะสน การทำให้คนอื่นเจ็บปวดมันคือความสุข ของผม วันนี้อารมณ์ผมก็ยังไม่ดีขึ้น ยิ่งต้องมาเจอเรื่องนี้อีกอารมณ์ของผมทบทวี อยากระบายกับอะไรสักอย่าง หากผมอยู่ที่บ้าน เริ่มแรก ผมก็จะพังชั้นวางหนังสือ  ทุบแจกัน ทุบกระปุกออมสิน หรืออาจจะไล่เตะหมา ของเพื่อนบ้าน  แต่ตอนนี้ ผมอารมณ์เสียง มีแค่ ห้อง ผู้หญิง โต๊ะ เก้าอี้ และตัวของผมเอง การระบายกับห้อง โต๊ะ เก้าอี้ ผมขอผ่าน ที่เหลือก็ยัยผู้หญิงเสียงเพาะ ที่พอระบายได้ และวันนี้เธอ จะไม่มีทางได้ข้อมูลอะไรจากผม แน่นอน นอกจากอารมณ์โกรธของผม ผมอยากจะรู้ว่าเธอจะทำอะไรต่อไป ผมมองหน้าเธอจากหลังแว่นตาอันใหม่ และใหญ่กว่าเดิม  ด้วยความสะใจเล็กน้อย และพร้อมระวังตัวจากการชก เอาแว่นตาของผมไปอีก ครั้งที่แล้วผมเสียมันไปพร้อมเส้นผมสองสามเส้นมันเจ็บๆ คันๆ แต่ครั้งนี้ผมจะดึงเส้นผมของเธอบ้าง ดูซิเธอจะทำอย่างไร ผมจ้องหน้าเธอ แบบท่าทาย และยิ้มที่มุมปากเล็กน้อย เป็นการยิ้มเยอะคู่ต่อสู่ และมีเสียงหาวเล็กน้อย จากการง่วงนอน  การหาวมันไม่ใช่ การแสร้งทำ มันง่วงจริงๆ แต่ยัยผู้หญิงเสียงเพาะนั้น คงคิดเป็นการท่าทายอีกแบบแน่  แต่ผมก็ขอให้เธอคิด ให้เป็นแบบหลังมากกว่า เพราะเรื่องนี้จะได้สนุกขึ้นอีกนิด หาวเสร็จผมกลับมาจ้องหน้าเธอตรงๆ อีกครั้ง ดูซิเธอจะทำอย่างไร

 

              เวลาผ่านไป 30 นาที ครึ่งชั่วโมงแล้ว เธอยังไม่ได้อะไรเลย  เธอบอกให้ผู้ชายตรงหน้า ถอดแว่นตา เขาไม่ทำ เธอต้องไปดึงออกมาเอง เธอบอกจะคืนแว่นตาให้เขาเมื่อการสอบสวนเสร็จสิ้น เขาก็ดูจะไม่สนใจ แต่สุดท้ายเธอบอกให้เขา มองหน้าเธอ สุดท้ายเขาก็ย่อมทำตาม มันคือการเริ่มต้นที่ดี ต่อไปนี้เธอจะใช้เวลาที่เหลือทำการสอบสวนผู้ชายแย่ๆ คนนี้สักที ผู้ชายที่ปราศจากแว่นตาอันใหญ่ที่แย่ๆ  อะไรกันนี้ แว่นตามันอยู่ในกระเป๋าเธอแล้ว ที่เขาสวมอยู่นั้น มันมาจากไหนอีก ไอ้ผู้ชายชั่วนั้น มันท่าทายเธอ เธอคิด 

 

               มันดูอันใหญ่กว่าอันเก่าเล็กน้อย เธอเจอผู้ชายชั่วมามาก แต่นี้ มันชั่วกว่าคนก่อนๆ  ที่เธอเคยสอบสวนมา รอยยิ้มท่าทาย ลักษณะการหาว ที่ไม่ยอมเขามือปิดปาก มันทำให้เธอเห็นฟันเกือบครบ 32 ซี ไอ้ชั่วนี้มันกำลังกวน ประสาทเธอแน่นอน  เธอจะทำอย่างไรดี เธอจะบอกให้ เขาถอดแว่นตาอีกไหม ไม่มีทางเขาไม่ทำแน่ หรือเธอจะเข้าไปชกมาอีก แต่มันจะได้ผลเหมือนครั้งแรกไหม ครั้งนั้นเขาไม่ทัน ระวังเธอเลย ได้มาง่ายๆ แต่ครั้งนี้เขาต้องป้องกันตัวแน่ และการทำอย่างนั้นเวลาที่เธอต้องสอบสวนก็จะเสียไปอีกโดยเธอไม่ได้อะไรเลย จะทำอย่างไรกับไอชั่วนี้ดี 

 

                 ตอนนี้เธออยากจะระบายความโกรธจริงๆ แล้วกับใครละ แล้วเธอก็นึก ออก ก็ไอ้พวกข้างนอกอย่างไรละ มันส่งไอ้ชั่วนี้ เข้ามาโดยไม่คิดจะค้นหาแว่นตาก่อนเลย ไม่ใช่แค่อันเดียวแต่มีสองอัน หรืออาจจะมี มากกว่านี้ ไอ้ชั่วนี้ มันทำงานอะไร มันเป็นพ่อค้าขายแว่นตาหรือเปล่า เธอรู้มันไม่ใช่แน่ ผู้ชายแบบไหนกันพกแว่นตาครั้งละสองอัน แล้วจะเริ่มพูดอย่างไร กับไอ้ชั่วนี้ดี  ให้คนข้างนอกเข้ามาค้นตัวแล้วช่วยเอาแว่นตาออกไป หรือจะเลิกสนใจไอ้แว่นตานั้นแล้วเริ่มสอบสวน เธอจำใจต้องเลือกอย่างหลัง ให้ไอ้กวนประสาท สวมแว่นตาแย่ๆ ต่อไป และเริ่มการสอบสวน แต่ก่อนที่เธอจะได้ทำอะไร เสียงเล็กๆจากหูฟัง ก็ดังขึ้นมันเป็นเครื่องมือสื่อสารระหว่างคนข้างในห้อง และคนข้างนอกห้อง  เธอได้ยินคนเดียวในห้องนี้ โดยไอ้ผู้ชายกวนประสาทนั้นไม่ได้ยินแน่นอน

  

“ให้ผมเข้าไปช่วยไหม  คุณเสียเวลาไปมากแล้วนะ”

 

          เธอนึกทวนคำพูด ในใจ ให้ผมเข้าไปช่วยไหม เขาช่างเป็นคนน่ารักและมีน้ำใจ แต่ คำพูดท่อนหลังนี้สิ คุณเสียเวลาไปมากแล้วนะ มันคือคำพูดดูถูกความสามารถเธออย่างให้อภัยกันไม่ได้เลย เธอจะทำอย่างไรดี ตอบขอบคุณ และปฏิเสธ  หรือ ตอบขอบคุณและตกลง ให้พวกข้างนองเข้ามาช่วยดี แต่ในความเป็นจริงเธอใช้เวลาไปอย่างเปล่าประโยชน์จริง เธอไม่อยากจะเสียเวลาอีกแล้ว เธอขอเลือกอย่างหลังแล้วกัน เธอหันกลับหลัง  แล้วแสดงสัญญาณมือที่หมายถึงการตกลง ให้ผู้ชายใจดีข้างนอก  โดยผ่านกระจกบานใหญ่ในห้องสอบสวน  ให้ เข้ามาช่วยจัดการกับผู้ชายแย่ๆ อีกคนในห้อง ดูสิผู้ชายแย่ๆ คนนี้จะมีลูกเล่นอะไรอีก ดูจากหน้าตาเขาคงไม่ยอมให้ความร่วมมือแน่ และยิ่งตอนนี้  ผู้ชายตรงหน้ายิ่งแสดงอาการหงุดหงิด เขาคงรู้ว่า เธอให้คนข้างนอกเข้ามาเพิ่มอีกคน  เธอมีความสุข และสบายใจมากขึ้น ที่ได้เห็นผู้ชายตรงหน้า ไม่สบายใจ และก่อนที่คนข้างนอกจะเข้ามาเธอก็อยากจะให้เขา เจ็บปวดใจเล่นสักนิด

 

  

ฉันเรียกคนข้างนอกเข้ามาค้นตัวคุณ  หาอาวุธ และแว่นตา”

 

             เธอแน่นคำว่า หาอาวุธ เป็นเสียงสูงและดังกว่าปกติ เพื่อให้ผู้ชายแย่ๆ ไอ้ผู้ชายชั่ว คนนี้เจ็บใจเล่น และ คำว่า และแว่นตา  เธอใช้คำพูดลากยาวพร้อมการแสดงท่าทางท้าทาย โดยการลวงมือลงไปในกระเป๋าเสื้อหยิบแว่นตาอันแรกให้เขาดู แล้ววางลงบนโต๊ะข้างหน้าของผู้ชายตรงหน้าเธอ แล้วเธอก็ก้มหน้าลงไปกระซิบ ใกล้หูของเขา เพื่อทำให้เขาไม่สบายใจยิ่งขึ้น เธอคงอยาก เห็นผู้ชายแย่ๆ ข้างหน้าเธอโกรธ มันได้ผลเขาแสดงความหงุดหงิดจริงๆล

 

 

ผมคงได้ยินไม่ผิดแน่ เธอกระซิบบอกผมว่า “แก่มันไอ้คนเฮงซวย ไอ้ชั่ว แก่มันโจร ฉันจะเอาแก่เข้า ไปนอนในคุก กับแว่นตาเฮงซวย ของแก่ ไอ้ชั่ว”  

 

             ผมมาเจอกับตำรวจโรคจิตหรือนี้  ทำไหมวันนี้ ของผมมันแย่อย่างนี้ ผมเจอคนแย่ๆ มาทั้งวัน แล้วยังต้องมาเจอ กับตำรวจแย่ๆ อีก ผมจะทำอย่างไรดี ตอนนี้อารมณ์ของผม ก็ดีกว่าเมื่อครึ่งชั่วโมงก่อนเล็กน้อยแล้ว เมื่อหลีกเลี่ยงไม่ได้ก็คงต้องไหลตามน้ำ  ไปแล้วกัน โดนสอบสวนก็ทำให้มันจบๆ ไปแล้วกัน มันมีทางเลือกไม่มากนัก ผมถอดแว่นตาออก วางไว้คู่กับแว่นตาอันแรก แล้วมองหน้าผู้หญิงตรงหน้า ตาสองคู่จองมองกัน แน่นอน เธอสวย แล้วไง เธอเป็นตำรวจ และเธอจะเอาผม เข้าไปนอนในคุกพร้อมแว่นตาของเขา ดังนั้นเขาจึงมองข้าม ความสวยของเธอและพูดในสิ่งที่เธออยากได้ยิน

 

  

 “ผมจะให้ความร่วมมือทุกอย่าง คุณอยากจะรู้เรื่องอะไร”

 

              ผู้ชายแย่ๆ ไอ้ชั่ว คนนี้ก็หล่อดี น้ำเสียง ดูทรงพลัง ท่าทางรูปร่าง งดงามเหมือนสิงโต  ดวงตาสีแดงชาด คงเกิดจากการอดนอน ดวงตาผู้ชายคนนี้ มันสามารถบอกเรื่องราวได้หลายร้อยหลายพัน และ ดวงตานี้ ไม่มีแววของความกลัวแน่นอน เธอกำลังเจอกับคนแบบไหนกันนะ เธอไม่เคยกลัวสายตาของใครมาก่อน แต่เธอกลัวเขา เธออยากหยิบแว่นตาบนโต๊ะ ให้เขาใส่ไว้เหมือนเดิม เธอมองที่แว่นตา และอยากจะบอกให้เขาใส่ไว้เหมือนเดิม แต่เธอก็ไม่ได้บอก

 

 

 

“มันไม่สุภาพ ที่คุณใส่แว่นตาในห้องสอบสวน  เรามีกฎ ระเบียบ ที่ต้องปฏิบัติตาม เรามีคนอยู่ข้างนอก กำลังมองดูเราอยู่ พวกเขาต้องการเห็นทุกอย่างในห้องนี้ และ มันรวมถึงคุณด้วย  ข้างนอกมีหมอ ตำรวจ และนักจิตวิทยา  หากคุณต้องการจะโกหก ขอให้เลิกคิดไปได้เลย”

 

 

 

                เธอพูดเพื่ออธิบาย ให้ผู้ชายที่มีดวงตาสีชาด คนนี้ฟัง แต่รู้สึกเขาจะไม่สนใจเลย เมื่อเขาไม่สนใจเธอก็คงต้องถามคำถามยากๆ ที่เป็นจุดมุ่งหมายของการสอบสวนของวันนี้เลยแล้วกัน  ........เรื่องราวก่อนหน้า

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
5 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
7.5 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
5 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา