Candine The Poserry
10.0
2) ตอนที่ 1 จุดเริ่มต้นของการเดินทาง
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความΨrannaΨ
สวัสดีค่ะ
ก่อน อื่นต้องขอขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านนะค่ะ นี่เป็นเรื่องแรกที่รันน่าเขียนเลย ช่วยแวะมาอ่านกันหน่อยนะค่ะ แล้วก็จะดีใจมากเลยที่มีคนติดตาม เพราะการที่มีคนชอบนิยายเรา ถือเป็นความภูมิใจของรันน่าและนักเขียนทุกคนค่ะ มีอะไรดีไม่ดีหรือสงสัยอะไรถามได้นะค่ะทักทายกัน แค่นี้ก่อนนะค่ะ ไปดูตอนที่หนึ่งของเรื่องนี้กันเลยค่ะ รักคนอ่านทุกคนค่ะ♥
ByΨrannaΨ
----------------------------------------------------------
+ ตอนที่ 1 จุดเริ่มต้นของการเดินทาง +
เอี๊ยด! เสียงเปิดประตูดังขึ้น พร้อมกับเด็กสาวผู้มีผมสีเงินสลวย เดินออกมา "ท่านพ่อ ท่านแม่ เซรี่ ข้าไปก่อนนะค่ะ" เอลฟ์สาวที่มี ผมยาวสีเงิน ตาสีเงิน ผิวสีขาว มีรูปร่างผอมเรียว สูง พูด "ท่าน พี่ ระวังตัวด้วยล่ะ ข้าคงเหงาแย่เลย แต่จะเอาใจช่วยนะ"เซรี่ ที่มี ผมสั้นสีเงิน ตาสีมรกต ผิวสีขาว ผอมเรียว เล็ก จากที่ดู อายุประมาณ 7 ปี ที่ดูเหมือนจะเป็นน้องสาวของเอลฟ์สาวตนนั้น "อืม ข้าจะระวังตัวนะ" เอลฟ์สาวพูด พร้อมกับยิ้มให้ กับหน้าตาที่ดูเหงาหงอยของเซรี่เหมือนไม่อยากให้ไป "ดูแล สุขภาพตัว เองด้วยนะแคนดี้" แม่ของแคนดี้ มีผมยาวสีเงิน ตาสี มรกต ผอม เพรียว สูง เป็นมนุษย์ และดูเหมือนจะเป็นห่วงแคนดี้มาก เพราะต้องเดินทางไกล "ค่ะ ไม่ต้องเป็นห่วงข้าหรอกท่านแม่" แคนดี้ตอบ พร้อมโผเข้าไปกอดแม่เหมือนจะบอกว่าตนไม่เป็นไรหรอก "เจ้าเอาลูก แก้วไปรึยัง" พ่อของแคนดี้เอ่ยขึ้น พ่อของแคนดี้มี ผมยาวสีเงินมัดผมด้วยเชือก มีผิวสีแทน อวบ สูง ตาสีเงิน "ค่ะ" แคนดี้ขานตอบพ่อ "เส้น ทางที่ลูกแก้วชี้ไปล่ะ" แคนดี้ยื่นมือไปที่กระเป๋า และควักแผนที่ออกมา ชี้เส้นทางที่จะไปให้พ่อดู แคนดี้มองแผนที่ แล้วหันไปหาพ่อพร้อมตอบว่า "ดูตามแผนที่ๆท่านพ่อให้ข้า เส้นทางที่ชี้ไปคือ เมืองแห่งนํ้า มิซุขิโตะ" "อืม เป็นที่ๆสวยงามมากเลยล่ะ ที่นั่น" พ่อของแึคนดี้หันหน้ามองท้องฟ้า และทำเหมือนคิดย้อนเรื่องราวต่างๆเกี่ยวกับเมืองนั้น "งั้นหรอค่ะ ท่านพ่อ" แคนดี้เห็นพ่อคิดย้อนทำหน้าเหมือนจะบอกว่าสวยงามมาก แต่ตนก็ไม่เคยเห็นจึงไม่เข้าใจว่าที่นั้นมันสวยยังไง "แคนดี้ เจ้าไปแล้วจะรู้เองว่าเพราะอะไรที่นั่นถึงได้ชื่อว่าเมืองแห่งนํ้า" พ่อของแคนดี้เอ่ยขึ้นเมื่อเห็นแคนดี้ทำหน้าสงสัย "ท่านพ่อ ท่านเคยไปมาแล้วซินะค่ะ" แคนดี้หันไปถามพ่อ "อืม ก็พ่อเป็นหัวหน้าเผ่านี่ ต้องเคยไปอยู่แล้วไปทักทายองค์ราชาน่ะ" "ได้ เจอกับองค์ชายด้วย จากที่ดูตอนนี้น่าจะอายุเท่าเจ้าในตอนนี้เลย" "งั้น ก็ อายุ 18 ซินะค่ะ งั้นข้าไปนะค่ะท่านพ่อ ก่อนที่จะคุยกันเพลินจนพระอาทิตย์ตกดินเหมือนเมื่อวานจนกำหนดการออกเดินทาง ต้องเลื่อนเป็นวันนี้น่ะค่ะ" "อืม ขอให้โชคดี แล้วไปถึงอย่าลืมทักทายองค์ราชาก่อนนะ" ------------------------------------------------------ ที่แคนดี้ต้องออกเดินทางเพราะ เป็นกฎของหมู่บ้าน ที่ศิลาจารึกบนแท่นหินกลางหมู่บ้านว่าทุกคนที่มีอายุ 18 ปีนั้น หลังจากอายุ 18 ปี ถ้ามีฝนตก มีสายฟ้าฟาดลงมาที่ศิลจารึก ให้ออกเดินทางตามหามังกรคู่หูของตน ด้วยลูกแก้วโบราณของหมู่บ้าน จากที่เขียนบนศิลาจารึกว่าไว้ว่า ให้เดินทางหลังฝนตก มีสายฟ้าฟาดโดยให้เลือกคนที่มีอายุ 18 ปีของหมู่บ้านที่มีพลังวิญญาณสูงในทั้งหมด ให้เดินทางไปตามที่ลูกแก้วชี้นำทางจนเจอกับมังกรของตนแล้วจึงจะกลับได้ ตามที่เขียนไว้ถ้าผ่านไป 1 ปียังไม่มีคนที่ได้รับเลือกให้ออกเดินทางไป กล่าวว่า หมู่บ้านสีเขียวขจี หมู่บ้าน เอิล แห่งนี้จะต้องพบกับหายนะ แต่ตลอด 600 ปีที่ผ่านมา ตอนที่มีเอลฟ์ตนใดอายุ 18 ปี ไม่เคยมีฝกตกถึงขนาดมีสายฟ้าฟาดลงมาเลย จนกระทั่งปีที่แล้วแคนดี้อายุ 15 ปี ตอนนั้นแคนดี้มีพี่ชายชื่อ เกรย์ อายุ 18 ปี ที่มีหน้าตาเหมือนมนุษย์ธรรมดา ตาสีเงิน ผมสีนํ้าตาล ผิวสีแทน สูงเรียว เกรย์ได้รับสายเลือดจากแม่ จึงมีหน้าตาเหมือนมนุษย์ แต่มีพลังวิญญาณอันมหาศาลเหมือนเอลฟ์อยู่ด้วย ตอนนั้่นเองได้เกิดฝนตกสายฟ้าฟาดมาที่ศิลาจารึกได้กล่าวไว้ โฮเอ็นจึงตัดสินใจทำตามที่ศิลาของหมู่บ้านกล่าวไว้โดยเลือก เกรย์ ที่อายุ 18 ปี และมีพลังวิญญาณสูงสุดในนั้น วันต่อมาเกรย์ก็ออกเดินทางในฐานะผู้ถูกเลือก และได้พูดบอกก่อนจะไปกับแคนดี้ว่า "ข้าไปก่อนนะ ข้าสัญญาก่อนเลยว่าข้าจะกลับมาพร้อมกับมังกรของข้าให้ทันก่อนเจ้าอายุ 18 ปีนะ" เกรย์ยื่นนิ้วก้อยสัญญากับแคนดี้ด้วยสีหน้ายิ้มแย้มแล้วก็จากไป หลังจากนั้นผ่านมาจนวันครบรอบ 18 ปี ของแคนดี้เกรย์ก็ไม่ได้่กลับมาตามสัญญา และไม่มีใครที่ผ่านมาได้ข่าวคราวของเกรย์เลย และในตอนนั้นเอง เกิดฝนตกฟ้าฟาดอีกครั้ง แคนดี้ถูกเลือกเป็นคนต่อไปแคนดี้ก็ตัดสินใจและบอกพ่อ แม่ และ เซรี่อย่างมั่นใจว่า "ข้าจะไปตามหามังกรของข้าพร้อม กับพาตัวพี่เกรย์กลับมาด้วยค่ะ" แคนดี้พูดออกมาอย่างแน่วแน่ แต่กลับพ่อ แม่ ของแคนดี้สิ่งที่คิดคือเป็นห่วงมาก และ เซรี่ที่ไม่เคยเห็นหน้าพี่คนโตจึงหันไปมองแท่นศักดิ์สิทธิ์แล้วอธิษฐานว่า "ขอให้ได้เจอพี่เกรย์ และขอให้พี่แคนดี้กลับมาอย่างปลอดภัยด้วยเถิดท่านเทพเซริวผู้ปกป้องเมืองนี้ ช่วยปกปักษ์รักษาพี่แคนดี้ด้วย" เซรี่วิงวอนกับแท่นศักดิ์สิทธิ์เพราะหวังว่าจะสมความปรารถนา ทุกคนในหมู่บ้านเองก็อธิษฐานอย่างเดียวกับเซรี่ และก็รอวันที่แคนดี้จะกลับมาด้วย ทุกคนในหมู่บ้านบอกลาด้วยใบหน้าอันยิ้มแย้มที่เต็มไปด้วยความหวังว่าแคนดี้ จะปลอดภัย และพามังกรกลับมา ทุกคนยิ้มและโบกมือส่งแคนดี้จนลับตาไป แคนดี้เดินทางผ่านป่าเรียบแม่นํ้ามาได้ซักพักก็มาถึงเส้นทางเดินไปยังท่า เรือในระหว่างที่เดินไปยังท่าเรือก็มีสัตว์ตัวน้อยใหญ่ในป่า เช่น ลูกเปกาซัส กระรอกบิน แม้กระทั่ง นกตัวน้อยๆที่เมื่อก่อนเคยเล่นกับแคนดี้ก็บินมาส่งด้วย พอใกล้จะถึงท่าเรือแคนดี้ก็หันมายิ้มให้เหล่าเพื่อนตัวน้อยใหญ่แล้วก็พูด ขึ้นว่า "พวกเจ้ามาได้สุดแค่นี้แหละ งั้นข้าไปก่อนนะ" ในใบหน้ามี่ยิ้มแย้มนั้น เหล่่าสัตว์ทั้งหลายรู้ว่าความจริงแคนดี้ทั้งเศร้าที่ต้องจากหมู่บ้านเอิลไป และเหงาที่ต้องไปคนเดียวเมื่อทุกตัวรู้ดีจึงวิ่งเข้ามาซบแคนดี้เป็นเชิงว่าต้องการจะปลอบแคนดี้เพราะรู้ว่าแคนดี้รู้สึกยังไง "ฮึ" แคนดี้หันมายิ้มและลูบหัวเหล่าสัตว์ที่วิ่งเข้ามาซบตนและพูดว่า "ไม่เป็นไร ไม่ต้องห่วงข้าต้องกลับมาแน่พวกเจ้าและข้าต้องทนเหงาไม่นานหรอก" ใช่ไม่นานหรอก ตึงงง! "อ๊ะ เรือเทียบท่าแล้วข้าไปก่อนนะทุกคน" แคนดี้เบิกตาขึ้นเล็กน้อยกับเสียงที่ได้ยิน แล้วหันไปโบกมือให้กับเหล่าเพื่อนสัตว์ของเธอแล้วมุ่งหน้าไปที่เรือ จากนั้นทุกตัวก็ได้แต่มองแผ่นหลังของแคนดี้ที่เดินจากไป "ว่าไงสาวน้อย เจ้าจะเดินทางไปที่ไหนดีจ๊ะ" เสียงชายวัยกลางคนที่มี ผมสีดำ ตาสีดำ อวบ สูง และเป็นมนุษย์พูด "แหม กัปตันล่ะก็ แกล้งกันอีกแล้ว ฮึ่ม!" แคนดี้แกล้งทำเป็นงอนแก้มป่อง และหันหลังให้ไม่ยอมสบตาด้วย "ล้อเล่นน่ะล้อเล่น" กัปตันทำหน้ายิ้มแย้มเมื่อได้แกล้งแคนดี้ แล้วเปลี่ยนเป็นสีหน้าจริงจังก่อนจะพูดว่า "แคนดี้เจ้า จะเดินทางไปที่ไหนล่ะ จุดเริ่มต้นของเจ้าน่ะ ข้าพอจะเดาออกว่าทำไมเจ้าถึงได้ต้องมาขึ้นเรือข้าเพราะฟ้าผ่าเมื่อ 2 วันก่อนซินะ แต่ความจริงแล้วต้องขึ้นเรือข้าตั้งแต่เมื่อวานซินะเรื่องนี้ข้าก็พอจะเดา ออกเลยไม่รอน่ะไม่งั้นพลบคํ่าแน่ ฮึ" คงจะเป็นเพราะโฮเอ็นซินะคิดแล้วนึกภาพตามได้เลย "เมืองแห่งนํ้า มิซุขิโตะค่ะ" แคนดี้ยังทำเป็นงอนแก้มป่องต่อเพราะตั้งใจจะแกล้งกัปตันคืน "แหมเจ้าเนี่ยนะ" กัปตันเหนื่อยใจนิดหน่อยในความเป็นเด็กขี้งอนไม่เลิกทั้งที่โตแล้ว แล้วจากนั้นกัปตันก็พูดขึ้นว่า "งั้นหรอ เมืองแห่งนํ้าที่ได้ชื่อว่าเป็นเมืองที่มีลำธารงดงามที่สุด" ในระหว่างที่กัปตันเริ่มทำถ้าจะสาธยายต่อก็มีคนเข้ามาแทรกแล้วพูดว่า "เอาล่ะจบการสนธนากันแต่เพียงเท่านี้ล่ะ รีบขึ้นกันมาได้แล้วจะได้ออกเรือซะทีลูกเรือคนอื่นเค้ารออยู่นะ" "ค่ะ รองกัปตัน" รองกัปตันเป็นเอลฟ์ในหมู่บ้านของแคนดี้ที่ออกมาทำงานเป็นลูกทะเลข้างนอก รองกัปตัน เป็นเอลฟ์ที่ได้ชื่อว่ารูปงามมากในเหล่าเอลฟ์ในหมู่บ้านเลย มีดวงตาสีเงิน ผมยาวสีเงิน ขัดกับผิวสีแทน ตอนออกจากหมู่บ้านเอลฟ์สาวทั้งหลายจึงปล่อยโฮกันใหญ่ หลังจากนั้นแคนดี้ก็ขึ้นเรือและเรือก็ได้ออกจากท่า---------------------------------------------------- ผ่านไปประมาณ 30 นาที แคนดี้ที่ขึ้นเรือไปนอนอยู่ในห้องพักบนเรือได้ซักพัก ก็เดินออกมาจากห้อง เเล้วไปที่ห้องอาหารที่กำลังเตรียมอาหารสำหรับแขก แคนดี้พบว่่า มีคนมาอยู่ที่นี่ก่อนแล้วรวมตัวเธอเข้าไปด้วยแล้วมี 5 คน คนแรกดูแล้วน่าจะเป็น เผ่าพันธุ์ สมิง ที่ดูจากลักษณะเด่นของพวกเผ่าสมิง คือมีหูสัตว์งอกออกมาจากหัว มีหางงอก เผ่าพันธุ์สมิงมีแยกออกเป็นเผ่าย่อยอีกหลายเผ่า เช่น เผ่าจิ้งจอก เผ่าทานุกิ เผ่าโบอา เผ่าหมาป่า ฯลฯ แล้วในแต่ละเผ่า ก็ยังมีแยกออกไปอีก เผ่าพันธุ์นี้จึงมีอยู่ทั่วโลก แต่มีอยู่เผ่าพันธุ์หนึ่งที่พบเจอได้ยาก คือ เผ่า่หมาป่าอสูรสีดำ ซึ่งหลงเหลืออยู่น้อยมาก เพราะเกิดการต่อสู้กันระหว่างเผ่าสมิงด้วยกันเอง เผ่าพันธุ์สมิงนี้ในบรรดาเผ่าอื่นๆถือเป็นเผ่าที่ดูเหมือนจะชอบการต่อสู้ มากรองจากเผ่าปีศาจที่ชอบต่อสู้ขยายอาณาเขตของตนเองเลย และคนที่แคนดี้มองดูอยู่นี้แคนดี้คิดว่า ถ้าจำไม่ผิด ดวงตาสีนิล ผมสีดำ และมีหาง และหูสีดำแบบนี้ หรือว่าจะเป็น เผ่าหมาป่าอสูรสีดำ ถ้าสิ่งที่ท่านพ่อเคยสอนมาไม่ผิด ชายคนที่แคนดี้กำลังมองดูอยู่รู้ว่าแคนดี้มองอยู่ เมื่อแคนดี้ว่าเขารู้สึกตัว จึงเดินไปที่เก้าอี้ว่างๆตัวหนึ่่ง แล้วหันไปสนใจลูกเรือคนอื่นๆแทน แล้วเมื่อแคนดี้ดูอีก 3 คนที่ีเหลือจึงรู้ได้ทันทีว่า พวกเขาเป็นมนุษย์ เพราะ มีหูเป็นปกติ ไม่มีหางงอกออกมา สัมผัสไม่ได้ถึงกลิ่นไอของพลังวิญญาณ จึงรู้ได้ทันที่ว่าที่เหลือเป็นแค่มนุษย์ธรรมดา ที่ไม่ทั้งพลังเวทย์ และพลังวิญญาณ ผู้หญิง คนแรก ตามีสีนํ้าตาล มีผมสีดำ ผมยาว ผิวสีขาว อีก 2 คน ผมสั้นทั้งคู่ คนนึงผมสีนํ้าตาลเข้ม อีกคน ผมสีดำ ตามีสีนํ้าตาลทั้ง 2 คน ทั้ง 3 กำลังคุยกันอยู่ ดูจากท่าทางแล้วน่าจะมาด้วยกัน สำหรับแคนดี้แล้วนี่คือการออกจากหมู่บ้านออกเดินทางครั้งนี้เป็นครั้งแรกในชีวิตของเธอ เธอจึงไม่เคยเห็นเคยเผ่าพันธุ์อื่น นอกจากเผ่าพันธุ์เอลฟ์ และ มนุษย์ เธอจึงสนใจที่จะมองคนรอบข้างมาก แต่ซักพักก็เริ่มเบื่อแล้ว หลังกินข้าวเช้าเสร็จ เธอจึงออกมาตากลมข้างนอก แต่อยู่ดีๆก็รู้สึกแปลกจึงหันไปมองเมฆที่มืดครึ้มทั้งที่เป็นตอนกลางวัน และเสียง ฝูงนกที่กำลังร้อง โหวกเหวกบินวนไปวนมาแถวๆนี้เหมือนกำลังแตกตื่น และมีนกอยู่ตัวหนึ่งบินเข้ามาเกาะไหล่ของแคนดี้ดูเหมือนจะรู้จักกันป็นอย่างดี นกตัวนั้นเหมือนบอกอะไรบางอย่างกับแคนดี้ ระหว่างที่แคนดี้ฟังนกตัวนั้นพูดกัปตันก็แตกตื่นออกมาจากโรงอาหารในเรือ โดยที่มี อาการเหนื่อยหอบ เหงื่อออกเต็มตัว ดูท่าทางร้อนรน เพราะได้ยินเสียงของฝูงนกข้างนอก และ หันไปถามกับแคนดี้ว่า "แฮ่ก แฮ่ก เกิด..อะ...ขึ้น...ดี้ แฮ่ก แฮ่ก" กัปตันหันไปถามแคนดี้ด้วยนํ้าเสียงแหบแห้งเหนื่อยพูดออกมาไม่เป็นภาษาพูด เพราะรีบวิ่งออกมา ระหว่างที่กัปตันถาม แคนดี้ที่ฟังนกพูกเสร็จก็เบิกตากว้างด้วยความตกใจ จนทำให้แม้แต่กัปตันก็รู้สึกตกใจไปด้วย เมื่อแคนดี้ตั้งสติได้จึงหันไปบอกกับกัปตันเรือว่า "แย่แล้วค่ะกัปตันมีพายุลูกใหญ่กำลังพัดมาทางนี้" กัปตันเบิกตากว้างไปกับคำพูดของแคนดี้ไปในทันที
------------------------------------------------------
ขอขอบคุณทุกคนที่ติดตามชมนะค่ะ
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
10 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
10 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
10 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ