เพราะร้าย.. ถึงรัก
8.7
5) ตอนที่ 5
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ“เปิดตัวสาวคนใหม่ของ รดิศ อมรพิริยะสกุล คราวนี้เป็นถึงนางแบบไฮโซ ไม่รู้จะควงกันกี่วัน แต่แว่วข่าวมาว่า คนนี้ควงมาแล้วไม่ต่ำกว่า 3 เดือน ไอ้ดิศ คนนี้เอาจริงหรือยังว่ะเนี๊ย ควงนานกว่า 3 เดือนได้ด้วยหรอว่ะ” ณุ หรือ วิษณุ สิริขจร ถามหลังจากอ่านพาดหัวข่าวสังคมไฮโซของหนังสือพิมพ์ฉบับหนึ่ง ภายในห้องทำงานของคนที่ตกเป็นข่าว วันนี้เขาตั้งใจจะมาชวนรดิศออกไปสังสรรค์กับบรรดาเพื่อนฝูง หลังจากที่กลับไปเรียนต่อจนจบและกลับมาอีกครั้ง หลังจากงานฉลองรับรางวัลนักธุรกิจดีเด่นของรดิศครั้งก่อน ทำให้คราวนี้เป็นการฉลองการเรียนจบกลับมาของเขาเอง
“ไม่มีอะไรหรอก ก็ลองคุยๆดู ยังไม่มีอะไรแน่นอนหรอก ว่าแต่เอ็งเหอะ อย่าบอกนะว่า ที่มาวันนี้ แค่จะมาอ่านข่าวนี้ให้ข้าฟัง ถ้าอย่างนั้น เอ็งก็กลับไปเลยไป ข้าจะทำงานต่อ” เจ้าของห้องเอ่ยหลังจากฟังเพื่อนสนิทอ่านข่าวที่เขาฟังมาหลายรอบแล้ววันนี้ ทั้งที่บ้านและที่ทำงาน
“งานอะไรของเอ็งว่ะ ข้าได้ข่าวจากพวกไอ้เอก ว่าเอ็งไม่ได้ออกไปสังสรรค์กับพวกมันนานมากแล้ว ข้าก็นึกว่าเอ็งติดนางแบบคนสวย ก็เลยไม่มีเวลาว่างให้เพื่อนอย่างพวกข้าซะแล้ว” แม้จะเห็นด้วยว่างานบนโต๊ะของเพื่อนรักนั้นมากมายแค่ไหน แต่ก็ยังอดแหย่เล่นไม่ได้
“ก็งานประมูลสร้างตึกอาคารสรรพสินค้าที่เป็นข่าวไง อย่าบอกนะว่าเอ็งไม่รู้เรื่อง” รดิศเอ่ยตอบด้วยน้ำเสียงเดาอารมณ์ไม่ถูกเช่นเคย
“รู้สิว่ะ จะไม่รู้ได้ยังไง ข่าวออกจะดังขนาดนั้น แล้วนี่เตรียมไปถึงไหนแล้วล่ะ ใกล้เรียบร้อยหรือยัง อีกไม่กี่วันแล้วนี่” ยิ่งเห็นเพื่อนทุ่มเทกับงานมากขนาดนี้ ก็ทำให้วิษณุนึกทึ่งกับเพื่อนรักเหลือเกิน ว่าเพื่อนในก๊วนเดียวกัน จะจริงจังกับงานมากขนาดนี้ เขานึกว่าผู้บริหารเพียงแค่นั่งตรวจเอกสารกับเซ็นต์อนุมัติก็พอแล้ว ไม่นึกว่าเพื่อนรักอย่างรดิศจะถึงกับลงมือเตรียมเอกสารเองแบบนี้
“จริงๆก็เสร็จแล้วหล่ะ นี่ก็เหลือแค่ตรวจสอบรายละเอียดอีกครั้งเท่านั้นแหละ ว่าไง ตกลงเอ็งจะบอกได้หรือยังว่ามาหาข้าถึงนี่ มีอะไรหรือเปล่า" หลังจากคุยกันพอประมาณแล้ว และจากการเป็นเพื่อนกันมานาน ทำให้รดิศรู้ได้ทันทีว่า หากไอ้ณุร่ายยาวขนาดนี้ คงไม่แค่แวะมาหาเฉยๆแน่นอน แล้วเขาก็เข้าใจถูกต้องเมื่อ
“ก็คือ ที่ข้ามาวันนี้เนี๊ย ก็จะมาชวนเอ็งไปด้วยกันคืนนี้ นัดกับพวกไอ้เอกไอ้ภพไว้ ไปด้วยกันนะ ฉลองที่ข้าเรียนจบกลับมาทำงานคราวนี้แหละ เฮ้อ อีกหน่อยข้าก็ต้องทำงาน โอ๊ย คิดแล้วเครียด ไปกินกันเหอะ” เข้าเรื่องสักที เมื่อรู้แล้วว่าตนเองไม่ได้มากวนเวลาทำงานสำคัญของเพื่อนรักมากนัก แต่เมื่อนึกถึงอนาคตของตนเอง ก็อดที่จะโอดคราญไม่ได้ เพราะในเมื่อตนเองเรียนจบแล้ว ก็คงถึงเวลาที่จะต้องเข้ามาช่วยบิดาบริหารธุรกิจโรงแรมของตนเองสักที
“เอ่อๆ ไปก็ไป แต่ข้าคงอยู่ไม่ดึกมากนักนะ ไม่อยากให้คุณแม่รอนาน”
“อะไรกันว่ะ โตป่านนี้แล้ว คุณแม่ยังจะรอส่งแกเข้านอนอีกหรอว่ะเนี๊ย”
“ไม่ใช่แบบนั้น คือ ตั้งแต่มีข่าวกับนิด ดูคุณแม่กังวลแปลกๆจนข้าเองก็ไม่แน่ใจ นี่รอข้ากลับทุกคืน จะดึกแค่ไหนก็รอ ขนาดบอกจะนอนที่คอนโดยังไม่ยอมเลย แถมยังซักประวัติซะเยอะแยะ ยังกะจะเอาไปประกวดนางงาม” เมื่อนึกถึงเรื่องราวช่วงที่ผ่านมา ก็ทำให้รดิศนึกกังวล และแปลกใจในสิ่งที่มารดาทำ เพราะตั้งแต่ไหนแต่ไรมาแล้ว ไม่ว่าเขาจะมีข่าวกับผู้หญิงคนไหนก็ตามแต่ มารดาของเขาก็ไม่เคยเข้ามาวุ่นวายหรือซักถามอะไรมากมายนัก บางคนถึงกับไม่เคยถามถึง แต่กับคนนี้ มารดาเขาดูจะให้ความสนใจมากเป็นพิเศษ ไม่ว่าจะเป็น รู้จักกันได้ยังไงลูก นิสัยเป็นยังไง เป็นลูกเต้าเหล่าใคร ทำงานแบบนี้จะมีเวลาให้กันหรอ หรือแม้กระทั่ง ดิศคิดจริงจังกับคนนี้แล้วจริงๆหรือว่าแค่คบเล่นๆเหมือนที่ผ่านๆมา เฮ้อ แค่คิดก็กลุ้ม
“สงสัยว่า คนนี้เข้าตาคุณแม่หน่ะสิ ไม่งั้นคงไม่ซักไซ้มากขนาดนี้หรอก เอาเหอะๆ จะกลับเร็วก็ไม่ว่า แต่ตอนนี้ข้าว่า เราสองคนรีบไปกันดีกว่า เดี๋ยวได้เอกกับไอ้ภพรอนาน มันจะสาปแช่งเอา”
“เอ่อๆ ไป”
แม้จะไม่อยากสนใจมากนัก แต่ก็อดไม่ได้ที่จะคิดตามที่เพื่อนบอก แต่จะให้กังวลอะไรไปให้มันเยอะนัก ในเมื่อก็ยังมองไม่เห็นว่ามันจะมีปัญหาอะไร ถ้ามารดาของเพื่อนรักจะสนใจในตัวผู้หญิงที่ลูกชายตนเองควงอยู่ตอนนี้ และที่สำคัญ ข่าวนั้นก็ใช่ว่าจะเบานัก ขนาดเขาอยู่ตั้งไกล ยังได้ยินข่าวอยู่เสมอๆ เกี่ยวกับตัวของหญิงสาวคนดังกล่าว แม้จะอยากเอ่ยปากเตือนเพื่อนมากแค่ไหน แต่ก็ยังไม่เห็นเหตุผลที่จะต้องเล่าในตอนนี้ ในเมื่อเธอคนนั้น อาจจะเข้ามาหาเพื่อนเขาด้วยความจริงใจก็ได้ แต่เอาเหอะ รอดูกันต่อไป ถ้าดีมา ก็ไม่เป็นไร แต่อย่ามาทำให้เพื่อนของเขาต้องผิดหวังก็แล้วกัน ไม่อย่างนั้นจะหาว่าไม่เตือน
อ่านแล้ว เม้นต์หากันบ้างนะคะ แล้วจะเอามาลงให้อ่านเรื่อยๆค่ะ ขอบคุณที่ติดตามนะคะ
“ไม่มีอะไรหรอก ก็ลองคุยๆดู ยังไม่มีอะไรแน่นอนหรอก ว่าแต่เอ็งเหอะ อย่าบอกนะว่า ที่มาวันนี้ แค่จะมาอ่านข่าวนี้ให้ข้าฟัง ถ้าอย่างนั้น เอ็งก็กลับไปเลยไป ข้าจะทำงานต่อ” เจ้าของห้องเอ่ยหลังจากฟังเพื่อนสนิทอ่านข่าวที่เขาฟังมาหลายรอบแล้ววันนี้ ทั้งที่บ้านและที่ทำงาน
“งานอะไรของเอ็งว่ะ ข้าได้ข่าวจากพวกไอ้เอก ว่าเอ็งไม่ได้ออกไปสังสรรค์กับพวกมันนานมากแล้ว ข้าก็นึกว่าเอ็งติดนางแบบคนสวย ก็เลยไม่มีเวลาว่างให้เพื่อนอย่างพวกข้าซะแล้ว” แม้จะเห็นด้วยว่างานบนโต๊ะของเพื่อนรักนั้นมากมายแค่ไหน แต่ก็ยังอดแหย่เล่นไม่ได้
“ก็งานประมูลสร้างตึกอาคารสรรพสินค้าที่เป็นข่าวไง อย่าบอกนะว่าเอ็งไม่รู้เรื่อง” รดิศเอ่ยตอบด้วยน้ำเสียงเดาอารมณ์ไม่ถูกเช่นเคย
“รู้สิว่ะ จะไม่รู้ได้ยังไง ข่าวออกจะดังขนาดนั้น แล้วนี่เตรียมไปถึงไหนแล้วล่ะ ใกล้เรียบร้อยหรือยัง อีกไม่กี่วันแล้วนี่” ยิ่งเห็นเพื่อนทุ่มเทกับงานมากขนาดนี้ ก็ทำให้วิษณุนึกทึ่งกับเพื่อนรักเหลือเกิน ว่าเพื่อนในก๊วนเดียวกัน จะจริงจังกับงานมากขนาดนี้ เขานึกว่าผู้บริหารเพียงแค่นั่งตรวจเอกสารกับเซ็นต์อนุมัติก็พอแล้ว ไม่นึกว่าเพื่อนรักอย่างรดิศจะถึงกับลงมือเตรียมเอกสารเองแบบนี้
“จริงๆก็เสร็จแล้วหล่ะ นี่ก็เหลือแค่ตรวจสอบรายละเอียดอีกครั้งเท่านั้นแหละ ว่าไง ตกลงเอ็งจะบอกได้หรือยังว่ามาหาข้าถึงนี่ มีอะไรหรือเปล่า" หลังจากคุยกันพอประมาณแล้ว และจากการเป็นเพื่อนกันมานาน ทำให้รดิศรู้ได้ทันทีว่า หากไอ้ณุร่ายยาวขนาดนี้ คงไม่แค่แวะมาหาเฉยๆแน่นอน แล้วเขาก็เข้าใจถูกต้องเมื่อ
“ก็คือ ที่ข้ามาวันนี้เนี๊ย ก็จะมาชวนเอ็งไปด้วยกันคืนนี้ นัดกับพวกไอ้เอกไอ้ภพไว้ ไปด้วยกันนะ ฉลองที่ข้าเรียนจบกลับมาทำงานคราวนี้แหละ เฮ้อ อีกหน่อยข้าก็ต้องทำงาน โอ๊ย คิดแล้วเครียด ไปกินกันเหอะ” เข้าเรื่องสักที เมื่อรู้แล้วว่าตนเองไม่ได้มากวนเวลาทำงานสำคัญของเพื่อนรักมากนัก แต่เมื่อนึกถึงอนาคตของตนเอง ก็อดที่จะโอดคราญไม่ได้ เพราะในเมื่อตนเองเรียนจบแล้ว ก็คงถึงเวลาที่จะต้องเข้ามาช่วยบิดาบริหารธุรกิจโรงแรมของตนเองสักที
“เอ่อๆ ไปก็ไป แต่ข้าคงอยู่ไม่ดึกมากนักนะ ไม่อยากให้คุณแม่รอนาน”
“อะไรกันว่ะ โตป่านนี้แล้ว คุณแม่ยังจะรอส่งแกเข้านอนอีกหรอว่ะเนี๊ย”
“ไม่ใช่แบบนั้น คือ ตั้งแต่มีข่าวกับนิด ดูคุณแม่กังวลแปลกๆจนข้าเองก็ไม่แน่ใจ นี่รอข้ากลับทุกคืน จะดึกแค่ไหนก็รอ ขนาดบอกจะนอนที่คอนโดยังไม่ยอมเลย แถมยังซักประวัติซะเยอะแยะ ยังกะจะเอาไปประกวดนางงาม” เมื่อนึกถึงเรื่องราวช่วงที่ผ่านมา ก็ทำให้รดิศนึกกังวล และแปลกใจในสิ่งที่มารดาทำ เพราะตั้งแต่ไหนแต่ไรมาแล้ว ไม่ว่าเขาจะมีข่าวกับผู้หญิงคนไหนก็ตามแต่ มารดาของเขาก็ไม่เคยเข้ามาวุ่นวายหรือซักถามอะไรมากมายนัก บางคนถึงกับไม่เคยถามถึง แต่กับคนนี้ มารดาเขาดูจะให้ความสนใจมากเป็นพิเศษ ไม่ว่าจะเป็น รู้จักกันได้ยังไงลูก นิสัยเป็นยังไง เป็นลูกเต้าเหล่าใคร ทำงานแบบนี้จะมีเวลาให้กันหรอ หรือแม้กระทั่ง ดิศคิดจริงจังกับคนนี้แล้วจริงๆหรือว่าแค่คบเล่นๆเหมือนที่ผ่านๆมา เฮ้อ แค่คิดก็กลุ้ม
“สงสัยว่า คนนี้เข้าตาคุณแม่หน่ะสิ ไม่งั้นคงไม่ซักไซ้มากขนาดนี้หรอก เอาเหอะๆ จะกลับเร็วก็ไม่ว่า แต่ตอนนี้ข้าว่า เราสองคนรีบไปกันดีกว่า เดี๋ยวได้เอกกับไอ้ภพรอนาน มันจะสาปแช่งเอา”
“เอ่อๆ ไป”
แม้จะไม่อยากสนใจมากนัก แต่ก็อดไม่ได้ที่จะคิดตามที่เพื่อนบอก แต่จะให้กังวลอะไรไปให้มันเยอะนัก ในเมื่อก็ยังมองไม่เห็นว่ามันจะมีปัญหาอะไร ถ้ามารดาของเพื่อนรักจะสนใจในตัวผู้หญิงที่ลูกชายตนเองควงอยู่ตอนนี้ และที่สำคัญ ข่าวนั้นก็ใช่ว่าจะเบานัก ขนาดเขาอยู่ตั้งไกล ยังได้ยินข่าวอยู่เสมอๆ เกี่ยวกับตัวของหญิงสาวคนดังกล่าว แม้จะอยากเอ่ยปากเตือนเพื่อนมากแค่ไหน แต่ก็ยังไม่เห็นเหตุผลที่จะต้องเล่าในตอนนี้ ในเมื่อเธอคนนั้น อาจจะเข้ามาหาเพื่อนเขาด้วยความจริงใจก็ได้ แต่เอาเหอะ รอดูกันต่อไป ถ้าดีมา ก็ไม่เป็นไร แต่อย่ามาทำให้เพื่อนของเขาต้องผิดหวังก็แล้วกัน ไม่อย่างนั้นจะหาว่าไม่เตือน
อ่านแล้ว เม้นต์หากันบ้างนะคะ แล้วจะเอามาลงให้อ่านเรื่อยๆค่ะ ขอบคุณที่ติดตามนะคะ
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
8.5 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
8.5 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ