เพราะร้าย.. ถึงรัก
2) ตอนที่ 2
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความงานเลี้ยงภายในครอบครัวจัดขึ้นอย่างอบอุ่น เพื่อฉลองรางวัล นักธุรกิจดีเด่นประจำปี 2553 ซึ่งนำพาความภาคภูมิใจมาให้แก่คนในครอบครัว เนื่องด้วย จากวิกฤตเศรษฐกิจของประเทศที่ทรุดตัวลงอย่างต่อเนื่อง ทำให้ธุรกิจต่างๆพากันประสบภาวะขาดทุนกันเรียงแถว ยกเว้นแต่ บริษัท อมรพิริยะ คอนสตรัคชั่น กรุ๊ป ซึ่งนำโดยผู้บริหารนาม รดิศ อมรพิริยะสกุล ที่สามารถนำพาบริษัทก้าวผ่านห้วงวิกฤตนี้มาได้อย่างงดงาม เพราะฉะนั้น ในขณะนี้ ไม่มีใครไม่รู้จัก นักธุรกิจก่อสร้างชั้นแนวหน้าของเมืองไทย ซึ่งเหตุการณ์ในครั้งนี้ ทำให้รดิศเป็นที่รู้จักมากยิ่งขึ้น ทั้งในด้านการทำงาน ที่มีความคิดเฉลียวฉลาด ทั้งเป็นคนหนุ่มที่ทุ่มเทกับการทำงาน มากกว่าคนในวัยเดียวกันที่ยังคงเอาแต่เที่ยวเตร่ หาความสนุกสนานในชีวิต นอกเหนือจากนั้น ด้วยรูปร่างสูงถึง 185 เซนติเมตร ร่างกายกำยำจากการออกกำลังกายอย่างต่อเนื่อง ดวงหน้าได้รูปสวย ดวงตาคมดุจเหยี่ยวจ้องเหยื่อยามมอง คิ้วเข้ม ปากเป็นกระจับ อย่างที่สาวๆหลายๆคนพร่ำเพ้อว่าน่าจูบยิ่งนัก
“ยินดีด้วยนะคะพี่ดิศของหนูนัญ พี่ดิศเก่งที่สุดในโลกเลยค่ะ” สาวน้อยที่ไม่รู้ตัวเลยว่าตอนนี้ เธอไม่ใช่เด็กเล็กๆอย่างเมื่อก่อน ที่ไม่ว่าจะดีใจ เสียใจ หรือทุกข์ใจก็จะต้องวิ่งเข้าไปหาอ้อมกอดจากชายหนุ่มตรงหน้า วันนี้อีกเช่นกัน สาวน้อยรูปร่างแบบบางอ้อนแอ้น ด้วยส่วนสูง 156 เซนติเมตร ซึ่งเจ้าตัวบ่นตลอดเวลาว่าทำไมเธอถึงได้เหมือนคนแคระนักเวลาอยู่ข้างๆชายหนุ่ม ดวงหน้าหวานรูปไข่ ที่ประกอบไปด้วยตาโต แก้มป่องราวตุ๊กตา ผมยาวดัดลอนสีน้ำตาลยิ่งเสริมให้สาวน้อยน่าทะนุถนอมมากยิ่งขึ้น
“เข้าไปข้างในสิคะหนูนัญ คุณพ่อคุณแม่พี่ถามหาเราตั้งแต่เย็นแล้วว่าทำไมยังไม่มาอีก”
“หรอคะ คุณลุงคุณป้าถามหาหนูนัญหรอ แล้วอยู่ตรงไหนล่ะคะ หนูนัญยังมองไม่เห็นเลย” ว่าพรางชะเง้อคอมองหาเข้าไปภายในงาน
“นี่แนะ โตเป็นสาวแล้ว จะมาทำตัวเป็นเด็กๆได้ที่ไหนกัน นั่นไง คุณพ่อคุณแม่พี่ ก็นั่งอยู่กับน้าภพน้าทับทิมนั่นแหละ ที่โต๊ะด้านหน้าไง เข้าไปเร็ว เป็นเด็กอย่าให้ผู้ใหญ่คอยนาน มันไม่ดี” ไม่ว่าเปล่า ชายหนุ่มยังตีเข้าที่แขนเรียวสวยของสาวน้อย เนื่องจากกิริยาที่ชะเง้อชะแง้มองเข้าไปด้านใน
“ก็ได้ค่ะๆ โอ๊ะ ลืมไป นี่ค่ะ ของขวัญสำหรับนักธุรกิจดีเด่นสุดหล่อของหนูนัญ งั้นหนูนัญเข้าไปหาคุณลุงคุณป้าก่อนนะคะ พี่ดิศเองก็รีบตามเข้าไปนะคะ เป็นผู้ใหญ่ก็อย่าให้เด็กคอยนานนะคะ มันไม่ดี” ว่าจบก็รีบวิ่งเข้าไปภายใน ก่อนจะโดนผู้ใหญ่ตีให้กับการช่างยอกย้อน ในเมื่อทำอะไรตัวยุ่งไม่ได้ นอกจากส่ายหน้าระอากับความทะเล้น
“เห้ย ไอ้ดิศ ยินดีด้วยนะเว้ย แหมๆ ข้าภูมิใจจริงๆว่ะ ที่มีเพื่อนเก่งอย่างเอ็งเนี๊ย” วิษณุ สิริขจร ชายหนุ่มร่างสูง ผิวขาว เพื่อนสนิทกับรดิศตั้งแต่สมัยเรียนมหาวิทยาลัยที่เมืองไทยด้วยกัน ถึงแม้จะแยกย้ายกันไปเรียนต่อ คนละที่ แต่ก็ยังติดต่อกันเสมอๆ จนกระทั่งปัจจุบัน
“เออๆ ขอบใจๆ ว่าแต่เอ็งกลับมาเมื่อไหร่ว่ะ ไม่เห็นโทรมาบอกข้า จะได้ไปสังสรรค์กันหน่อย ไม่ได้เจอกันตั้งนาน”
“ข้าเพิ่งกลับมาถึงเมื่อวานนี่เอง ยังไม่ได้เจอพวกเราเลยว่ะ แล้วนี่มีใครมากันบ้างว่ะ” ว่าพรางชะเง้อสอดส่องผู้คนภายในสนามหญ้าภายใน เพื่อมองหาคนรู้จักในงาน
“ไอ้ภพกับไอ้เอก นั่งอยู่ตรงโต๊ะข้างๆคุณพ่อคุณแม่หนะ แกเข้าไปหาคุณพ่อคุณแม่ก่อนสิ บ่นถึงเอ็งบ่อยๆ”
“เออๆ เอ็งก็รีบๆตามเข้าไปแล้วกันล่ะ” ยังไม่ทันจบคำพูดก็เดินตัวปลิวเข้าไปยังโต๊ะของบิดามารดาเพื่อนสนิททันที
จนกระทั่งเวลาล่วงเลยจากหัวค่ำ จนตอนนี้เวลาบนนาฬิกาบอกเวลาว่ากำลังจะล่วงเลยเข้าสู่วันใหม่ บรรยากาศยังเต็มไปด้วยความสนุกสนาน แต่คงถึงเวลาอันสมควรที่งานเลี้ยงต้องมีวันเลิกรา แขกผู้ใหญ่ที่สนิทสนมกับบิดามารดาได้ลากลับกันไปหลายท่านแล้ว
“หนูนัญกลับได้แล้วมั๊ยคะลูก ดึกมากแล้วนะ พรุ่งนี้ หนูก็ต้องไปจัดการเรื่องเรียนต่อด้วย”
“เดี๋ยวนะครับ จัดการเรื่องเรียนของใครหรอครับน้าทับทิม”
“ตาดิศลืมไปแล้วหรอลูก ปีนี้น้องต้องเข้ามหาวิทยาลัยแล้วนะลูก โตเป็นสาวเต็มตัว ไม่ใช่เด็กตัวเล็กๆที่จะวิ่งตามลูกไปนั่นไปนี่แล้วนะ คราวนี้หละ คงไม่มีคนมากวนร้องตามพี่ดิศไปเที่ยวแล้ว” มารดาของรดิศเอ่ยแซวหลานสาวคนโปรด
“แล้วนี่ น้าทับทิมให้หนูนัญเรียนที่ไหนหรอครับ” ชายหนุ่มหาได้สนใจสิ่งที่มารดาเขาแซวไม่ เพราะใจเพียงแค่อยากรู้ว่า ทำไมเขาถึงไม่ได้รับรู้ความเคลื่อนไหวของสาวน้อยจอมยุ่งของเขาเลย
“น้องสอบได้มหาวิทยาลัย....จ๊ะ” เพียงแค่เอ่ยถึงชื่อมหาวิทยาลัยที่สาวน้อยจะเข้าไปเรียน ถึงกับทำให้รดิศอึ้ง เพราะคาดไม่ถึงว่าสาวน้อยที่แสนซนอย่างหนูนัญ จะสามารถสอบเข้ามหาวิทยาลัยรัฐบาลชื่อดังของประเทศได้ เพราะด้วยด้วยรู้ว่า สาวน้อยไม่ใช่คนที่เรียนหนังสือเก่งอะไรมากมาย แค่พอเอาตัวรอดได้
“พี่ดิศข๋า หนูนัญทำได้ พี่ดิศเห็นหรือยังคะ คราวนี้ พี่ดิศจะมาว่าหนูนัญ ว่าหนูนัญไม่ได้เรื่องไม่ได้แล้วนะ” ไม่พูดเปล่า สาวน้อยผุดลุกจากที่นั่ง มายืนเกาะแขนพร้อมกับเอาหน้าแนบแขนเขาไว้ กิริยาแบบนี้ ใช่ว่าจะไม่เคยเจอ แต่คราวนี้ มันแตกต่างจากที่เคยเป็น จะด้วยสาเหตุใดก็สุดจะรู้ได้ แต่ความรู้สึกของชายหนุ่มตอนนี้ ไม่อยากให้สาวน้อยเข้าใกล้เขา ทำตัวสนิทสนมกับเขาแบบนี้เลย
“หนูนัญ พี่ว่า เราหนะโตแล้วนะ อย่าทำกิริยาแบบนี้กับพี่อีก รู้มั๊ยหนูนัญ” ไม่พูดเปล่า ชายหนุ่มทำร้ายจิตใจเด็กสาวด้วยการพยายามแกะมือที่เกาะแขนเขาออก แล้วเดินหนีไป
“พี่ดิศเป็นอะไรไปคะ หนูนัญทำอะไรผิดหรอคะแม่ คุณป้า” เด็กสาวที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่งงกับท่าทีที่เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว
“ไม่มีอะไรหรอกลูก พี่เขาคงเหนื่อยหนะ ป้าว่า หนูนัญกลับไปพักผ่อนเตรียมตัวเป็นบัณฑิตใหม่ดีกว่านะลูก เรื่องพี่ดิศเดี๋ยวป้าถามให้นะลูก” ทำได้แค่นี้ เพราะคุณจิตตรี ก็ไม่รู้สาเหตุที่ลูกชายตัวดีแสดงออกแบบนี้เพราะอะไร
“ค่ะ งั้นหนูนัญลากลับก่อนนะคะคุณป้าคุณลุง สวัสดีค่ะ” เพราะรู้ว่าอยู่ไปก็ไม่สามารถทำอะไรได้ จึงต้องยอมทำตามที่ผู้ใหญ่เห็นสมควรโดยปราศจากการดื้อดึงเหมือนเช่นเคย
“งั้นดิฉันก็ลากลับก่อนนะคะ ไว้คุยกันค่ะคุณพี่ สวัสดีค่ะ” เมื่อเห็นลูกสาวสุดที่รักทำหน้าเศร้า คุณทับทิมเองก็ไม่อยากจะอยู่ต่อ เพราะสงสารลูกสาว
“กลับก่อนนะครับ” เมื่อทั้งภรรยาและลูกสาวลาแล้ว คุณพิภพก็จำต้องเอ่ยลา พร้อมพาภรรยาและลูกสาวคนโปรดขึ้นรถกลับบ้าน
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ