เพราะร้าย.. ถึงรัก
10) ตอนที่ 10
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความผ่านการฝึกงานมาได้ระยะหนึ่ง การทำงานช่วยทำให้สาวน้อยในวันวาน กลายเป็นผู้ใหญ่มากยิ่งขึ้น มีความรับผิดชอบมากขึ้น รู้จักอดทนอดกลั้น เพราะจากการฝึกงานที่ผ่านมาจนถึงตอนนี้ ก็เป็นเวลากว่า 3 เดือนแล้ว และเธอก็ได้ไปทำงานกับแผนกต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นงานด้านบุคคล งานการตลาด งานด้านบัญชีการเงิน งานจัดซื้อจัดหา แม้กระทั่งงานเลขา และตอนนี้ ก็จะต้องมาถึงงานสำคัญที่สุด นั่นก็คือเป็นผู้ช่วยท่านประธาน และวันนี้เป็นวันแรก ที่เธอจะต้องมานั่งทำงานภายในห้องเดียวกันกับชายหนุ่มที่แอบหลงรัก
“หนูนัญครับ เดี๋ยวเอาเอกสารพวกนี้ไปอ่านทำความเข้าใจก่อนนะ แล้วสงสัยอะไรก็มาถามพี่” รดิศเอ่ยขึ้น เมื่อเห็นว่าหญิงสาวพร้อมสำหรับการทำงานในวันนี้แล้ว
“ค่ะ” เธอพร้อมสำหรับการทำงานเสมอ เมื่อชายหนุ่มผู้มีฐานะเป็นเจ้านายมอบหมายงานให้ ก็พร้อมจะทำหน้าที่เสมอ
“อ่านให้ละเอียดนะรู้มั๊ย ถ้าสงสัยอะไรก็ถามพี่ได้ตลอดเลยนะ ไม่ต้องเกรงใจ แล้วก็ไม่ต้องเกร็งก็ได้ พี่โหดร้ายขนาดนั้นเลยหรอ หืม”
“เปล่าค่ะ งั้นหนูนัญเอากลับไปอ่านที่โต๊ะนะคะ” ว่าแล้วก็หมุนตัวกลับไปที่โต๊ะส่วนตัว ภายในห้องทำงานใหญ่โตของท่านประธาน เขาให้คนนำโต๊ะมาวางเพิ่มอีกหนึ่งตัวสำหรับเธอ โดยอ้างว่า เวลาสอนงานจะได้สะดวกมากขึ้น ซึ่งมันก็จริงอย่างที่เขาว่า เพราะเธอต้องช่วยงานทุกอย่างของชายหนุ่ม ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเอกสารต่างๆที่ต้องเซ็น เธอจะต้องตรวจสอบความเรียบร้อยก่อนที่จะส่งให้ชายหนุ่มลงชื่ออนุมัติ
เมื่อเวลาผ่านไปพักใหญ่ๆ ชายหนุ่มที่ก้มหน้าก้มตาทำงานก็จัดการกับเอกสารตรงหน้าจนหมด และก็พาลนึกห่วงสาวน้อยร่วมห้อง ถึงแม้ว่าเขาจะเอ่ยปากอนุญาตให้เธอสามารถซักถามพูดคุยกับเขาได้ แต่เธอก็ไม่ได้ทำเช่นนั้น กลับตั้งหน้าตั้งตาอ่านเอกสารที่เขามอบหมายอย่างตั้งใจ ดูๆไป หลังจากไม่ได้เจอกันเป็นเวลาหลายปี ทำให้เขาเห็นถึงการเปลี่ยนแปลงของสาวน้อยแสนเอาแต่ใจของเขา จากวันวานที่เคยเอาแต่ใจ ใช้อารมณ์ ไม่ยอมใคร กลับกลายเป็นหญิงสาวที่มีความมั่นใจ และมีความตั้งใจแน่วแน่ มุ่งมั่น ไม่อ่อนแอ ร้องขอความช่วยเหลืออยู่ตลอดเวลาเหมือนเช่นในวันวาน นอกจากนั้น ด้วยรูปร่างหน้าตาที่งดงาม ด้วยดวงตากลมโตใสราวลูกแก้ว ปากเล็ก จมูกเชิดรั้นๆนั่น บ่งบอกได้ว่า ถึงแม้ภายนอกจะดูสุขุมขึ้น แต่ก็ยังแฝงไว้ด้วยความเอาแต่ใจไม่น้อย รวมถึงรูปร่างที่ได้รูปทั้งส่วนเว้าส่วนโค้งที่มีพอเหมาะกับส่วนสูงไม่มากนัก แต่ก็ไม่น้อยจนเกินไป นั่นสินะ ไม่น่าแปลกใจเลยที่มารดาเคยเล่าให้ฟังว่า มีหนุ่มๆมาจีบเยอะแยะมากมาย แต่น่าแปลกใจ ว่าทำไมเธอถึงไม่เคยตกลงปลงใจคบกับใครสักคน
“พี่ดิศคะ เป็นอะไรหรือเปล่า” หลังจากที่อ่านเอกสารแฟ้มโตจบ สาวสวยก็ตั้งใจจะเอาเอกสารมาคืนให้กับเขา แต่แค่เพียงเงยหน้าขึ้นมา ก็ได้พบกับสายตาของชายหนุ่มร่วมห้องที่มองตรงมา แต่แปลก ทำไมถึงได้มองนานขนาดนั้น จนกระทั่งตอนนี้ที่เธอมาหยุดยืนอยู่ตรงหน้า เขาก็ยังไม่รู้สึกตัว หรือเขาจะคิดอะไรอยู่นะ
“ห๊ะ ครับ” ชายหนุ่มตอบรับด้วยความตกใจ แต่จะไม่ให้ตกใจได้อย่างไรก็ในเมื่ออยู่ดีๆ สาวน้อยที่เขากำลังนึกถึง กลับมายืนอยู่ตรงหน้าเขา นี่เขานั่งมองเธอและนึกถึงเรื่องของเธอจนทำให้เขาลืมตัวขนาดนี้เลยหรือเนี๊ย
“พี่ดิศเป็นอะไรไปหรือเปล่าคะ หนูนัญเห็นนั่งเหม่ออยู่ตั้งนานแล้ว เรียกยังไงก็ไม่ตอบ”
“เอ่อ เปล่าครับ หนูนัญมีอะไรหรือเปล่า สงสัยอะไรตรงไหนมั๊ย” หลังจากปรับอารมณ์ได้เรียบร้อย จึงหันไปถามเรื่องงานทันที
“เปล่าค่ะ หนูนัญอ่านเอกสารจบแล้ว ไม่สงสัยอะไรเลย แล้วนี่ก็จะเย็นแล้ว หนูนัญว่า” เมื่อตอบคำถามไปแล้ว แต่เมื่อจะเอ่ย
“ดิศคะ นิดคิดถึงคุณจังเลยค่ะ” เสียงหวานใสดังมาก่อนจะปรากฏตัว
เสียงที่ดังเข้ามา ทำให้ทั้งสองต่างชะงักมองหน้ากัน แล้วหันไปทางต้นเสียงนั่นคือ ประตู
“เอ่อ ดิศมีแขกหรอคะ ขอโทษค่ะ” เมื่อเห็นว่าชายหนุ่มคนรักไม่ได้อยู่เพียงลำพัง จึงทำให้สาวสวยที่เพิ่งก้าวเข้ามาตกใจเล็กน้อย
“ไม่เป็นไร ไม่ใช่แขกที่ไหน ว่าแต่นิดกลับมาตั้งแต่เมื่อไหร่” อดแปลกใจไม่ได้ ที่ได้เห็นนางแบบสาวที่นี่ เวลานี้ ก็ในเมื่อเธอบอกเขาว่า จะไปถ่ายแบบที่ทางเหนือหลายสัปดาห์ แต่นี่เพิ่งจะผ่านไปเพียงไม่กี่วัน ทำไมถึงได้กลับมารวดเร็วยิ่งนัก
“ก็มาถึงสองสามวันแล้วค่ะ ดิศใจร้ายจังไม่เห็นจะโทรหานิดบ้างเลย” แม้จะพูดคุยกับชายหนุ่ม แต่สายตาที่นางแบบสาวมองกลับส่งไปยังสาวน้อยอีกคนด้วยความไม่เป็นมิตรนัก ราวกับต้องการจะสำรวจและประเมินหญิงสาวตรงหน้าอีกคน
“ผมงานยุ่ง คุณก็รู้” คำตอบยอดฮิตของเขา เมื่อไม่รู้จะตอบอะไร ก็จะให้เขาติดต่อไปทำไม ในเมื่อเขาเองไม่ได้คิดถึงหรือมีเรื่องอะไรอยากจะคุยด้วย
“เอ่อ พี่ดิศคะ ถ้าไม่มีอะไรแล้วหนูนัญกลับก่อนนะคะ” เมื่อเห็นว่าเธอกลายเป็นส่วนเกินของห้องนี้ไปเสียแล้ว ก็ควรจะถึงเวลาที่จะต้องออกไปจากสถานการณ์กลืนไม่เข้าคายไม่ออกนี่เสีย ก็จะให้เธออยู่ไปเพื่ออะไรกันเล่า สายตาที่นางแบบสาวมองมาที่เธอ ราวกับจะตอกย้ำให้เธอรับรู้ว่า ฉันนี่แหละ คนรักของดิศ ส่วนเธอก็แค่คนนอก
“ครับ แล้วจะกลับยังไง เอารถมาหรือเปล่า” เมื่อสาวน้อยที่กลายมาเป็นผู้ช่วยเอ่ยขอตัวกลับบ้าน และนี่ก็ใกล้จะถึงเวลาเลิกงานแล้วด้วย จึงเอ่ยปากอนุญาต แต่ยังไม่วายห่วงใยตามประสาคนคุ้นเคย
“เอามาค่ะ ไปนะคะ สวัสดีค่ะ” รีบพาตัวเองออกมาก่อนดีกว่า จะอยู่เป็นส่วนเกินทำไมกันเรา
“ใครหรอคะดิศ” เมื่อประตูปิดสนิทลง นางแบบสาวก็ไม่ปล่อยให้คำถามคาใจอยู่นาน ต้องเอ่ยปากถามให้รู้คำตอบกันไปให้หายข้องใจ
“หนูนัญลูกสาวของอาพิภพ” เมื่อถามมา ก็ตอบไปไม่เห็นจะมีอะไร
“แล้วมาทำอะไรที่นี่ล่ะคะ” ลูกของเพื่อนพ่อ แล้วมาเกี่ยวอะไรกับชายหนุ่มคนรักของเธอ
“หนูนัญมาเรียนรู้งานที่นี่หนะ” เขาไม่ใช่คนที่จะมานั่งอธิบายอะไรมากมายนัก
“แล้วทำไมต้องทำงานในห้องนี้ล่ะคะ”
“ก็ตอนนี้หนูนัญมาเป็นผู้ช่วยผม ก็ต้องทำที่นี่”
“ดิศเสร็จงานหรือยังคะ ไปทานข้าวกันนะ” ถามคำตอบคำอยู่นาน นางแบบสาวจำเป็นต้องเปลี่ยนเรื่องจะดีกว่าหาเรื่องใส่ตัวเอง เพราะรู้อยู่แก่ใจว่า ชายหนุ่มไม่ชอบให้ใครมายุ่งวุ่นวายเรื่องส่วนตัวของเขามากนัก
“ไปสิ เรียบร้อยแล้วหละ” หลังจากปิดคอมพิวเตอร์ส่วนตัวเรียบร้อย ก็พร้อมจะออกไปข้างนอกแล้ว
อ่านจบตอนแล้ว โหวต+เม้นท์กันเยอะๆนะคะ
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ