ตามล่า

 
       
           “ที่นี่ดูขนลุก ดูสยดสยองเย็นยะเยือกต่างจากครั้งที่แล้วมาก ครั้งที่แล้วมันก็หนาวแต่ว่าหนาวเฉพาะร่างกาย แต่ครั้งนี้ถึงแม้ว่าร่างกายจะไม่รู้สึกถึงความหนาวเย็นเท่าไร แต่ว่าในจิตใจเหมือนมันกำลังดำดิ่งลงไปสู่ความมืด ถ้าให้ผมนั่งนิ่งๆ เงียบๆ อย่างนี้อีกนานมากกว่านี้ล่ะก็ อกแตกตายแน่ เรามาหาเรื่องคุยกัน พอให้บรรยากาศคึกครื้นขึ้นมาหน่อยแล้วกันนะครับทุกคน ”     คำพูดหนึ่งกล่าวขึ้นหลังจากที่ทุกคนในที่ประชุมเงียบกันไปยาวนานกว่า 12 นาที ซึ่งมาจากไอคาคูรอส หัวหน้าเขตขั้วโลกเหนือ
 
       
           “ผมก็เห็นด้วย ถึงแม้สถานที่แห่งนี้เป็นสถานที่ที่ผมมาบ่อยๆ แต่ครั้งนี้ดูเหมือนว่ามันวังเวงชอบกล ผมว่าชักจะมีอะไร ไม่ชอบมาพากลแล้วซิ” หลังจากไม่กี่อึดใจที่กราเซียพูดจบ ทันใดนั้นแสงประหลาดประกายสีแดง ก็พุ่งตรงมายังที่ประชุม แสงนั้นมาหยุดอยู่ต่อหน้าทุกคน และเปลี่ยนจากลำแสงกลายเป็นรูปร่างของคน ซึ่งรูปร่างที่ปรากฏขึ้นนั้นเป็นหัวหน้าใหญ่ ทุกคนตกใจในสิ่งที่ได้เห็นเอามาก นี่จะเป็นการทำให้ประหลาดใจของผู้เป็นหัวหน้า หรือเป็นเหตุอย่างอื่นกันแน่ ทุกคนต่างก็คิดไปต่างๆ นานา  
 
       
            “ดูเหมือนว่าเจ้านรกฮาเดส เค้ากลับมาจุติแล้วนะ เมื่อกี้ฉันได้ทำสุดความสามารถในการต่อสู้กับเทพเจ้า แต่ว่าของวิเศษที่ติดตัว ฮาเดส ทุกคนก็รู้กันอยู่ว่าคือหมวกล่องหน แม้แต่เทพเจ้าองค์อื่นๆ ก็ทำอะไรไม่ได้ ตอนนี้ร่างกายฉันถูกผนึกไว้ในห้องโถงพระราชวังกลางในนรก ฉันหนีมาได้แต่วิญญาณนี่แหละ รู้สึกว่าจะมีใครปลุกชีพเทพเจ้าขึ้นมาก่อนเวลาอันควร พลังของเทพเจ้าเลยมีครึ่งหนึ่ง จึงทำให้ฉันสู้เทพเจ้าได้ ฉันจึงเอาตัวรอดมาได้
แต่อย่างน้อยๆ ตอนนี้ฉันใช้พลังที่ฉันมีปิดพระราชวังกลางของเจ้านรกไปชั่วเวลาหนึ่งแล้ว จนกว่าพลังเขาจะฝืนคืน เราต้องรีบเอาร่างฉันคืนมา แต่ตอนนี้ต้องประชุมกันก่อน เพื่อแบ่งหน้าที่กัน และการประชุมครั้งนี้จะเป็นจุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนแปลงมนุษยชาติ ขอเปิดการประชุมครั้งนี้เลยแล้วกัน”  หัวหน้าใหญ่กล่าว เขามาในชุดสีดำทมิฬพร้อมมีหมวกคุมหัว ไม่มีผู้ใดเห็นหน้าเค้าได้ชัดเจน แต่ร่างที่ปรากฏต่อหน้าทุกคนนั้นเป็นเพียงวิญญาณ และทุกคนก็มั่นใจว่านี่คือหัวหน้าใหญ่ เพราะสามารถจับสัมผัสถึงวิญญาณที่มีอยู่จริงของหัวหน้าใหญ่ได้ ซึ่งระดับหัวหน้าในองค์กรสามารถจับสัมผัสรูปแบบวิญญาณของกันและกันได้ด้วย
       
       
           “ปอม เธอก่อน ครั้งที่แล้วประชุมมีอะไรค้างไว้บ้างที่ยังไม่พิจารณา” หัวหน้าใหญ่กล่าว
       
       
           “ค่ะ ครั้งที่แล้วเรื่องที่ยังค้างไว้พิจารณาคือเรื่อง
การกำจัดกลุ่มต่อต้านองค์กรเรา ที่คอยปลุกปั่นให้มนุษย์ไม่เชื่อในคำสั่งสอนเรา เห็นจะมีพวกทหารสากล กับบางประเทศ และก็ที่สำคัญคือ ปีกแห่งนางฟ้า ที่มักร่วมมือกับทหารสากล คอยขัดขวางแผนการเรา ครั้งที่แล้วเราตั้งประเด็นให้ สืบหาแหล่งที่อยู่ ความเคลื่อนไหวของฝ่ายปีกแห่งนางฟ้า ซึ่งเราได้รู้ข้อมูลที่สำคัญของบุคคล 3 คน คือ
หัวหน้าองค์กร เรารู้แต่เพียงชื่อนามแฝงว่า ดีวี ซึ่งเป็นมนุษย์ธรรมดาไม่ได้มีพลังวิเศษอะไร แต่มีระดับไอคิว อันมหาศาลเป็นอาวุธ
คนต่อมา รององค์กรคนใหม่แทนที่รองหัวหน้าองค์กรคนเก่าที่หายสาบสูญคือ ไนท์ ซึ่งเป็นนักสืบชื่อดังแห่งยุคนี้ เป็นมนุษย์ธรรมดา แต่ระดับไอคิวที่มากมายไม่ต่างกับ ดีวี
อีกคนเป็นรองหัวหน้าคนก่อนที่หายสืบสูญ คือ โนอา    ตอนนั้นหลังจากที่เราทำการตามติดตามสืบดู ได้ข่าวว่าเขาก็เป็นหนึ่งในพวกที่มีพลังวิเศษเช่นเรา แต่ไม่ทราบรายละเอียดมากนัก
ดิฉันได้ทำการติดตามคนสามคนนี้ คือคนสำคัญขององค์กรนั้น จนกระทั้งเมื่อเช้าวันนี้เอง เป็นเรื่องบังเอิญมากที่ ดีวี ปรากฏตัว โดยไม่ได้ระวังอันตรายอะไรทั้งสิ้น ฉันเลยสั่งลูกน้องฉันจัดการ ตามคาดของฉัน ดีวี ตายแล้ว แต่เพื่อความแน่ใจ ฉันจะประสานกับ กราเซีย เพื่อไปดูว่า ในรายชื่อในยมโลกมีคนตายที่เป็น ดีวี หรือไม่
ส่วนอีกสองคนยังหาตัวไม่พบ แต่ฉันสืบทราบมาว่า หลังจากที่ ดีวี ตาย สถานที่ต่างๆ บนโลกในบางจุดในหลายประเทศ เกิดระเบิดขึ้นพร้อมๆ กัน แสดงว่าสถานที่เหล่านั้นเป็น สถานที่ลับของปีกแห่งนางฟ้าอย่างแน่นอน และ อาจจะสรุปได้ว่า ดีวี ตายไปแล้วจริงๆ นี่คือทั้งหมดที่ฉันรับหน้าที่จากการประชุมครั้งที่แล้ว และเรื่องที่ค้าง”     ปอมรายงานผลทั้งหมดต่อจากการประชุมครั้งที่แล้ว และ รายงานความคืบหน้า
 
         “อือ ก็ดีเมื่อได้รู้อย่างนี้ แต่เราต้องพิสูจน์ให้แน่ใจ และต้องจัดการพวกปีกแห่งนางฟ้าให้สิ้นซาก
สำหรับวันนี้ เราจะประชุมอะไรกัน กราเซีย”     หัวหน้าใหญ่กล่าวหลังจากที่ ปอม รายงานเรื่องราวที่เกิดขึ้นทั้งหมด
 
          
          “ครับ สำหรับวันนี้ เรื่องเร่งด่วนที่ต้องทำคือ ต้องรีบชิงร่างกายของท่านหัวหน้าออกมาให้ได้ เรื่องต่อมาการแสดงให้เห็นว่า พวกเราทำอะไรได้บ้างต่อสายตา ชาวโลก แต่ก่อนอื่นต้องกำจัดองค์กรทั้งหมดที่คอยเป็นตัวขัดขวาง และต่อต้านเราทั้งหมดเสียก่อน“          กราเซียกล่าว
 
 
โปรดติดตามตอนต่อไป