365 วัน มหัศจรรย์แห่งรัก

10.0

เขียนโดย bowkily

วันที่ 25 พฤษภาคม พ.ศ. 2553 เวลา 00.06 น.

  3 ตอน
  12 วิจารณ์
  8,897 อ่าน
แชร์นิยาย Share Share Share

 

3) ต่อความเดิม

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
ขนาดตัวอักษร เล็ก กลาง ใหญ่ ใหญ่มาก
“อ้าว  หนูดา  มาตั้งแต่เมื่อไหร่ล่ะ” เสียงใครคนหนึ่งกล่าวทัก
“สวัสดีค่ะ   ดากำลังจะถามถึงป้าอรพอดีเลย ” ยกมือไหว้อ่อนน้อม
“ป้าไปข้างนอกมาจ๊ะ  เลยต้องรบกวนคุณภาคภูมิอยู่เป็นเพื่อนพิมแทนป้าสักประเดี๋ยว  นี่คงจะทำความรู้จักกันแล้วใช่ไหม”
“ค่ะ  เรารู้จักกันแล้ว   ดูป้าอรอิดโรยจังนะค่ะ   ดาว่าป้าอรกลับไปพักก่อนดีกว่า  เดี๋ยวยัยพิมดาจะอยู่เฝ้าให้เอง  ถ้าเกิดป้าอรไม่สบายมาอีกคน  จะลำบากนะค่ะ” เธอจับมือมารดาของเพื่อนรัก  ด้วยความเป็นห่วง
“แล้วนี่เราไม่ต้องกลับไปทำงานหรอ  ป้าว่าจะเสียเวลางานเปล่าๆ”
“หายห่วงได้เลยค่ะ   ดาลาพักร้อนเพื่อมาอยู่ดูแลพิมโดยเฉพาะ ” เธอยิ้มร่า
“ขอบใจดามากนะลูก  อย่างน้อยพิมจะได้ไม่เหงา  ป้าไม่แปลกใจเลยว่าทำไมพิมเขา  ถึงได้รักหนูมากกว่าเพื่อนคนอื่น” ป้าอรเอื้อมมือลูบผมดาอย่างเอ็นดูและซึ้งใจ จนแทบจะกลั้นน้ำตาไม่อยู่
“อย่าพูดอย่างนั้นสิค่ะป้าอร   ดากับพิมเราเป็นเพื่อนรักกันมานาน  เรื่องแค่นี้เล็กน้อยค่ะ”
‘งั้นป้าจะกลับไปเก็บของใช้จำเป็นก่อน   เจ้าสาลี่ก็คงจะหิวข้าวแย่แล้ว  น่าสงสารอยู่เฝ้าบ้านตัวเดียว รบกวนดาอยู่เฝ้าพิมด้วยนะ   ทำอะไรเสร็จแล้วป้าจะรีบมา”
“ไม่ต้องรีบมาหรอกค่ะ   ป้าอรนอนพักเยอะๆ  จะได้มีแรง  แล้วพรุ่งนี้เช้าค่อยมา  ดาอยู่ทั้งคน  ป้าอรยังจะเป็นห่วงอะไรอีกล่ะค่ะ  เราสองคนไม่แอบหนีเที่ยวหรอกค่ะ” เสียงออดอ้อนปนทะเล้น
“เอ่อ....เดี๋ยวผมไปส่งคุณป้าให้นะครับ” ภาคภูมิอาสาไปส่ง
“อุ๊ยตาย!! คุณยังอยู่อีกหรอเนี่ย  ลืมไปเลย” ดาหัวเราะคิก  มือแตะริมฝีปาก  ทำเอาชายหนุ่มเก้ๆกังๆทำอะไรไม่ถูก    เสียงโทรศัพท์มือถือดังขึ้น  ทั้งสามคนยืนนิ่งหันมองหน้ากัน   ป้าอรเห็นแสงไฟกระพริบถี่ๆ  อยู่ในกระเป๋ากางเกงของภาคภูมิ
“โทรศัพท์คุณหรือเปล่าค่ะ” เธอชี้นิ้ว
“อ่ะ  ขอโทษครับ” เขารีบรับสายโทรเข้าทันทีด้วยกลัวว่าจะทำให้พิมตื่น
“ฮัลโหล  อืม แกเข้ามาจัดการได้เลย  เสร็จแล้วก็รอฉันที่นี่ล่ะ  เดี๋ยวฉันไปส่งคุณป้าเธอก่อน  แล้วจะรีบมาเจอแก” หลังจากวางสาย  เขาก็หันมาบอกว่าเพื่อนที่เป็นตำรวจ  จะเข้ามาทำประวัติของผู้เสียหาย   เพื่อปิดคดีนี้  อย่างไรก็ให้ดาเป็นคนกรอกข้อมูลของพิมให้ด้วย  มีแค่ข้อมูลพื้นฐานธรรมดา  ซึ่งเพื่อนรักก็น่าจะรู้อยู่แล้ว   ป้าอรจะได้กลับไปพักไม่ต้องอยู่ให้ข้อมูล  เนื่องจากเป็นคดีที่ผู้เสียหายยอมความ   และผู้กระทำได้รับผิดและพร้อมจะรับผิดชอบ   ในทุกเรื่อง 
 
                                ที่หน้าโรงพยาบาลขณะรอภาคภูมิ   มารดานึกขึ้นมาได้ว่าลืมบอกสิ่งสำคัญกับดาไป
“ดา  ป้าลืมบอกหนูอีกเรื่อง  คือถ้าพิมตื่นขึ้นมาคราวนี้  เธออาจจะจำหนูไม่ได้นะ”
“ทำไมล่ะค่ะ   พิมอาการสาหัสขนาดนั้นเลยหรือค่ะ” เธอโพล่งออกมา
“ก็ไม่เชิงหรอกจ๊ะ  คือสมองพิมถูกกระเทือนอย่างแรง  เลยทำให้ความจำเสื่อม  จำไม่ได้แม้กระทั่งตัวเอง  อย่างไรแล้วก็อย่าเค้นให้พิมพยายามนึกอะไรมากนะ   คุณหมอต้องการให้สมองได้พักรักษาตัวมันเองก่อน  ส่วนช่วงเย็นๆจะมีพยาบาลพิเศษมาดูแล 24 ชั่วโมง ถ้าเหนื่อยก็กลับบ้านได้นะดา  ป้าไม่ว่าอะไรหรอก” จับมือปลอบใจเพื่อนลูกเบาๆ  ตอนนี้ดาตกใจสุดขีด  เบิกตากว้าง ไม่นึกฝันว่าอาการของเพื่อนสาวจะรุนแรงขนาดนี้  ทีแรกที่ป้าอรโทรมาบอกว่าพิมเกิดอุบัติเหตุ  แต่พ้นขีดอันตรายแล้ว  ฟังแค่นั้นเธอก็รีบวางสาย ลางาน และบึ่งมาทันที    รถบีเอ็มดับบลิวสีน้ำเงินมาจอดเทียบข้างสองสาว   กระจกข้างคนขับค่อยๆลดระดับลง
“คุณป้าขึ้นมาเลยครับ” ภาคภูมิยืดแขนไปเปิดประตูข้างซ้ายของเบาะหลัง   โดยตัวเขาเองนั่งเบาะขวาหลังคนขับ  แค่นี้เธอก็พอจะเดาได้ว่าชายหนุ่มอยู่ชนชั้นไหน   หลังจากส่งคนทั้งคู่เรียบร้อยแล้ว  ดาเข้ามาหาพิมด้วยความรู้สึกที่ต่างกับเมื่อกี้โดยสิ้นเชิง  เธอหยิบมือถือออกมาเปิดดูรูปที่ได้ถ่ายไว้สมัยที่เพิ่งเข้าทำงาน  ส่วนมากเป็นรูปของเธอกับพิมถ่ายคู่กันในอิริยาบถต่างๆ  ทั้งทำหน้าบู้บี้  ตาเหล่  ท่าทางแปลกๆสะสมเป็นคอลเลคชั่นตามธรรมดาของผู้หญิงบ้าถ่ายรูป   ยิ่งกดเลื่อนดูมากเท่าไหร่   ยิ่งทำให้น้ำตาพาลจะไหลเท่านั้น  เธอยกนิ้วค่อยๆปาดหัวตาและใต้ตาทีละนิด  เพราะถ้ามาสคาร่าเปรอะเลอะตา   เกิดพิมเห็นเข้าอาจจะจำเพื่อนคนนี้ไม่ได้  ต้องสวยตลอดเวลา  จนกระทั่งเข้านอนนี่คือคอนเซ็ปของเพื่อนซี้คู่นี้   ดารีบเข้าห้องน้ำเช็คหน้าเช็คตาให้คงสภาพเด้งทุกขุมขนไว้ต้อนรับพิม  อย่างน้อยบรรยากาศจะได้ดูสดใส  ไม่หดหู่จนเกินไป   จนกระทั่งเสียงประตูถูกเค๊าะ
“ขอโทษนะครับ  ผมเป็นเพื่อนกับภาคภูมิ  เป็นตำรวจครับ” เสียงเล็ดลอดออกมาฟังดูคุ้นพิกล
“เข้ามาได้เลยค่ะ  เดี๋ยวดิฉันออกไปให้ข้อมูลนะค่ะ  คุณนั่งรอในห้องรับรองแป๊ปนึงนะ” เธอพูดผ่านประตูห้องน้ำออกมา
เขาเดินไปนั่งรอในห้องรับรองที่ถูกแบ่งไว้จากโซนเตียงคนไข้  เพื่อความสะดวกสำหรับคนรวยที่ยอมจ่ายค่าห้องแบบ  วีไอพี  วันละเหยียดหมื่น  เพียงแค่ว่าไม่อยากนอนรวมกับใคร   หรือให้ญาติที่มาเฝ้าได้มีห้องไว้ทานอาหาร  นั่งดูทีวี  หรือคุยกันเสียงดังโดยไม่รบกวนผู้ป่วย   
“รอนานไหมค่ะ   ดิฉันพร้อมจะให้ข้อมูลแล้วค่ะคุณตำรวจ” เสียงมาก่อนที่ตัวจะก้าวเข้ามาด้วยซ้ำ
“เขาเตรียมเอกสารในกระเป๋าวางบนโต๊ะ  ก่อนจะเงยหน้าขึ้น” ทันทีที่ต่างฝ่ายต่างสบตา  ก็ประสานเสียงพร้อมกัน
“เฮ้ย  เธอ”
“เฮ้ย   นาย”
“นี่ไอ้โรคจิต  แกเข้ามาทำไม” เธอชี้หน้า  สายตาระวังตัวแจ
“อย่าบอกนะ ว่าเธอคือ คุณดาเพื่อนคุณพิมน่ะ” เขาชี้หน้าเธอกลับบ้าง
“ถ้าใช่   แล้วมันไปหนักส่วนไหนของแกล่ะ  เฮ้ย!! อย่าบอกนะว่า  แกก็คือตำรวจเพื่อนคุณภาคภูมิ”
“แหม   ดวงเรานี่มันสมพงศ์กันดีจังนะ   หรือไม่....ฟ้าก็คงเป็นใจให้ฉันได้เอาคืนเธอบ้าง” ยิ้มมุมปาก  ตาเป็นประกาย
ดาเห็นท่าไม่ดี  จึงหันตัวควับเพื่อออกจากห้อง  แต่คงไม่ไวพอเมื่อมือหนึ่งยันประตูไม่ให้เปิดออกไปได้   เธอพลิกตัวอย่างไวชิดหลังแนบประตู  คราวนี้คงเอาตัวรอดได้ยาก  เพราะเขาดึงตัวเธอเข้ามากอดแน่นไม่ให้มีช่องว่างที่จะเคลื่อนไหวส่วนต่างๆได้   ครั้งนี้ตำรวจอย่างเขาคงไม่พลาดเป็นเป้านิ่งหลงกลอีกแน่ 
“เอาสิ  เก่งนักไม่ใช่หรอ  ไหน   ขอดูหน่อยว่าเธอจะทำอะไรฉันได้ ” เขากระซิบข้างหู
“นี่  นายเป็นตำรวจนะ  ตำรวจเขาไม่ทำร้ายประชาชนโดยเฉพาะผู้หญิงหรอก”
“เว้นเธอเป็นกรณีพิเศษ    ถึงฉันทำอะไรเธอในนี้ก็ไม่มีใครรู้หรอก  ห้องนี้เก็บทั้งเสียงเก็บทั้งกลิ่น” พูดพร้อมเอาจมูกเข้าไปใกล้ๆซอกคอ  จนอีกฝ่ายหลับตาปี๋  ยิ่งทำให้ชายหนุ่มสนุกขึ้นไปอีกเมื่อเห็นว่าเธอก็กลัวอยู่เหมือนกัน  
“อย่านึกว่าฉันเป็นผู้หญิงแล้วจะสู้นายไม่ได้นะ ” จบประโยค  ดาก็รวบรวมลมที่อยู่ในปอด   เปล่งเสียงวี๊ดแหลมออกมาอย่างสุดจะทำลายโสตประสาท   
“เงียบ   เงียบเดี๋ยวนี้นะ  โอ้ย  ปวดหู  ถ้าเธอไม่เงียบ  ฉันจะจูบ” เขาตะโกนขู่  เสียงกรี๊ดมันกลบจนฟังไม่รู้ว่าอีกฝ่ายพูดอะไร  เห็นท่าไม่ดี   ชายหนุ่มจึงโน้มคอประกบปากเธอทันที   มันแนบสนิทจนได้ยินแต่เสียง  อู้อี้  ในลำคอ    ดาพยายามดิ้น  ใช้แรงที่มีทั้งหมดต่อสู้กับสิ่งที่เหนือกว่า    เหมือนแมลงที่ติดใยแมงมุม   ยิ่งใช้กำลังตัวเธอเองก็ยิ่งถูกมัดแน่น  เมื่อรู้ว่าไม่เป็นผล  ดาต้องจำใจหยุดทุกความเคลื่อนไหว   โดยปล่อยให้อีกฝ่ายทำตามอำเภอใจ    ไม่นานเขาก็ค่อยๆถอนจูบออก   ฝ่ายหญิงหมดแรงก้มหน้าหอบหายใจ     เขาคลายอ้อมกอดแล้วถอยหลังสองก้าว    ควบคุมสถานการณ์อยู่ไม่ห่าง
“ไอ้คนฉวยโอกาส” หลังจากหายเหนื่อยก็ปรี๊ดระรอกใหม่
“ก็ผมบอกคุณแล้วไง  ว่าถ้าไม่เงียบ  ผมจะจูบ”
“หรอ  ตอนไหนล่ะ  ฉันไม่เห็นได้ยินเลย”  เธอฉุนกึก  
“จะไปได้ยินยังไง   ก็เล่นแหกปากไม่หยุด ”
“ก็ถ้านายไม่ลวนลามฉันก่อน   ฉันก็คงไม่ร้อง   เรียกให้คนอื่นมาช่วยหรอก”
“แล้วทีคุณทำร้ายผมในลิฟท์ล่ะ   ถือว่าหายกันไปแล้วกัน” เขาท้าวสะเอว   ยกมือบอกปัด

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
10 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
10 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
10 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา