เนตรสังหารนักล่าวิญญาณ

10.0

เขียนโดย Keng

วันที่ 22 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553 เวลา 03.19 น.

  5 chapter
  19 วิจารณ์
  11.68K อ่าน
แชร์นิยาย Share Share Share

 

5) ติดต่อสมาคมคันไซ

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

ชาญในตอนนี้เริ่มรู้สึกกลัวกับสิ่งที่เกิดขึ้นเพราะว่า เมื่อสัมผัสทั้ง 5 ถูกตัดไปทำให้ชาญเวิ้งว้าง มิราชิเองก็รอเวลาอยู่เช่นกัน

                “หลังจากนี้ต่อไปราวอีก 24 ชั่วโมงคงจะได้เวลา”มิราชิพูดก่อนจะเดินกลับขึ้นไปด้านบน

มิราชิเดินตรงไปยังห้องทำงานของเขา และได้ทำการใช้วีดีโอคอนเฟอร์เรนซ์ ติดต่อไปยังสมาคมคันไซที่กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น การจะเข้าระบบของสมาคมคันไซได้นั้นจะต้องมีรหัสสมาชิก และ รหัสผ่าน ที่ทางสมาคมได้กำหนดเอาไว้ เหตุผลก็เพราะว่ามีหลายคนคิดว่าสมาคมแห่งนี้ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อหลอกลวงประชาชน จึงทำให้มีการต่อต้านจากกลุ่มนักวิจัยต่างๆ แต่นั้นก็ไม่ได้ทำให้องค์กรเกิดผลกระทบใดๆมากนัก

                “สวัสดี ทุกคน”มิราชิทักทายกับสมาชิกทุกคนทันที่ที่สัญญาณเข้าสู่ระบบ

ที่ศูนย์ใหญ่กรุงโตเกียวนั้นมีห้องวิจัยต่างๆเกี่ยวกับโซลเลส และ นักวิทยาศาสตร์ที่มีพลังของเนครส่องวิญญาณมากมาย ที่กำลังทำการวิจัยต่างๆ อยู่ในห้องวิจัย ซึ่งนั่นก็รวมไปถึง อิวาราชิ เก็นคุโซ ประธานสมาคนรุ่นที่ 7 ของสมาคมคันไซ ทุกคนที่อยู่ในห้องวิจัยของสมาคมต่างหันไปที่จอมอนิเตอร์แสดงผลการติดต่อจากมิราชิ

                “สวัสดี มิราชิ ไม่ได้ติดต่อมาซะนานเลยนิ”เก็นคุโซพูดทักทายตอบ

                “สวัสดีท่านประธาน ที่ผมติดต่อมาก็เพราะมีเรื่องประหลาดอย่างหนึ่งอยากจะเล่าให้ฟัง”

                “เรื่องอะไรงั้นเหรอ”เก็นคุโซถามขึ้น

                “ผมพบกับเด็กที่มีพลังของเนตรส่องวิญญาณคนนึ่ง”มิราชิเริ่มเล่าเรื่องที่เกิดขึ้น

                “ก็แค่เด็กที่มีพลังของเนตรส่องวิญญาณที่ไหนก็มี เรื่องแค่นี้ไม่เห็นต้องรายงานทางสมาคมเลยนิมิราชิ หรือว่าไปอยู่ที่อื่นนานจนลืมไปแล้วว่าเรื่องที่ต้องรายงานสมาคมน่ะ ต้องสำคัญมากกว่านี้”เก็นได น้องของประธานเก็นคุโซ และเป็นรองประธานสมาคมที่ไม่ค่อยจะกินเส้นกับมิราชิพูดตัดบทขึ้น

                “แล้วถ้าเกิดว่าเด็กนี่มีความสำคัญมากพอที่จะทำให้อสูรล่าวิญญาณข้ามเขตมาล่าเด็กคนนี้ มันจะสำคัญพอไหมล่ะ ถ้านั่นยังไม่สำคัญพอก็ให้ลองดูนี่แล้วกัน”มิราชิตอบกลับไป ก่อนจะส่งภาพให้กับทางสมาคม นั่นเป็นภาพของกล้องวงจรปิดที่มีเลนส์พิเศษที่ได้จากการวิจัยของทางสมาคมทำให้มองเห็นโซลเลสได้ ส่งให้กับทางสมาคมโดยนำขึ้นบนหน้าจอ

                “นั่นมัน..... อะไรกัน”เก็นไดพูดขึ้นด้วยท่าทีที่ตกใจเล็กน้อย ต่อภาพที่ได้เห็นนั่นคือภาพในคอนที่ชาญต่อสู้กับเคียวคุในบ้านของมิราชิ

                “พลังของเด็กนี่คืออะไรกันงั้นเหรอมิราชิ ช่วยส่งรายละเอียดมาให้มากกว่านี้หน่อยได้ไหมเพื่อเป็นประโยชน์ในการวิจัย”ทัตสึโนะ หัวหน้านักวิจัยของสมาคมถามขึ้น

                “ชั้นเองก็ไม่มีข้อมูลอะไรมาก แต่จากข้อมูลเบื้องต้นนี้ฝากพวกนายวิเคราะห์ให้ทีละกัน”มิราชิพูดขึ้น

                “แล้วเจ้าอสูรกลืนวิญญาณเคียวคุไปยังที่นั่นได้อย่างไง แล้วตอนนี้เด็กนั่นอยู่ไหน”เก็นคุโซเริ่มซักถามขึ้น

                “เรื่องนั้นไม่แน่ใจเหมือนกัน แต่ว่าดูแล้วเจ้านั่นคงจะไม่สามารถออกอาละวาดได้อีกซักพักใหญ่เลยล่ะ ส่วนเด็กนั่นในตอนนี้ผมกำลังให้ฝึกวิชาล่าวิญญาณอยู่ แต่ว่าผมในตอนนี้บาดเจ็บอยู่เลยอยากจะขอคนจากทางสมาคมมาช่วยในการฝึกเด็กคนนี้ชั่วคราวน่ะครับ”

                “ได้ชั้นจะส่งเก็นไดไปที่เมืองไทยก็แล้วกัน “เก็นคุโซพูดขึ้น

                “พี่! ได้อย่างไงกัน”เก็นไดร้องอุทานออกมา

                “ชั้นสั่งแกในฐานะของประธานสมาคม เพราะฉะนั้นแกไม่มีสิทธิปฏิเสธ!”เก็นคุโซพูดด้วยท่าทีที่แข็งกร้าวและเอาจริงเอาจัง

มิราชิยังไม่ทันจะได้สนธนาตอบกลับไป ที่บ้านของเขาก็เกิดแรงสั่นสะเทือนเป็นอย่างมาก ทำให้สัญญาณถูกตัดขาดจากทางด้านสมาคมคันไซไป “สัญญาณขาดไปแล้วครับ”ทัตสึโนะบอกกลับเก็นคุโซ

“คงจะมีเรื่องบางอย่างเกิดขึ้นสินะ จัดการจองตั๋วเครื่องบินให้ด้วย ชั้นจะส่งเจ้าเก็นไดไปเมืองไทย”

“ค่ะ ท่านประธาน”เลขาสมาคมรับคำสั่งแล้วไปทำตาม

 

กลับมาทางด้านของมิราชิ ที่เกิดตัดสัญญาณไปจากทางสมาคม

                “นี่มันอะไรกัน”มิราชิพูดขึ้นพร้อมมองไปรอบๆ ทั่วทั่งบ้านของเขาสั่นสะเทือนราวกับเกิดแผ่นดินไหว จนทำให้เขาสงสัยต่อสิ่งที่เกิดขึ้น จึงรีบวิ่งลงไปดูที่ห้องลับใต้ดิน ภายให้ห้องลับใต้ดิน ห้วงมิติที่มิราชิสร้างเอาไว้เพื่อกักกั้นสัมผัสของชาญเอาไว้ เริ่มเกิดรอยร้าวเหมือนจะแตกออก และมีมวลพลังที่พวยพุ่งออกมา

                “อย่ามากบอกนะว่าเด็กนั่นทำได้แล้ว ไม่จริงน่ะ เจ้านี่ทำลายสถิติที่เคยมีมา เจ้าเด็กนี่เป็นใครกันแน่นะ”มิราชิที่ยินดูอยู่ด้านนอกพูดขึ้นเพราะว่านี่เกินความคาดหมายของเขาเอาไว้มาก จากที่คาดว่าจะใช้เวลา 24 ชั่วโมงแต่นี่เวลาผ่านไปยังไม่ถึง 24 นาทีด้วยซ้ำ ห้วงมิติแตกและระเบิดออกในที่สุด มิราชิใช้มือบังใบหน้าของตนเองเอาไว้ด้วยสัญชาตญาณ ท่ามกลางความมืดของห้องใต้ดินที่ไฟฟ้าดับไปเพราะได้รับผลกระทบจากพลังที่พวยพุ่งออกมามีจุดดวงไฟสีขาวสองจุดปรากฏขึ้นอยู่ห่างจากตัวมิราชิพอสมควร นั่นทำให้มิราชิต้องเรียกอาวุธประจำตัวออกมาเพื่อใช้ป้องกันตัวเพราะเขาไม่รู้ว่าชาญจะควบคุมพลังได้หรือไม่

                “เก็บดาบเถอะครับ นี่ผมเอง”เสียงของชาญพูดขึ้น

                “เธอเห็นได้อย่างไงว่าชั้นเรียกดาบออกมา”มิราชิถาม

                “ก็คงเป็นเพราะเนตรส่องวิญญาณนี่แหละมั้ง”ชาญพูดแล้วเดินเข้ามาใกล้มิราชิ

                “นี่เธอใช้เนตรส่องวิญญาณได้แล้วงั้นเหรอ”มิราชิถามขึ้นด้วยความไม่แน่ใจเล็กน้อย

                “ก็จริงน่ะสิครับ”ชาญพูดเสร็จไฟในห้องใต้ดินก็สว่างขึ้นมาอีกครั้ง แสงไฟที่ส่องออกมาจากดวงตาของชาญค่อยจางหายและดับลงไปในที่สุด

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
10 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
10 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
10 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา