หวานใจนายซุปตาร์

-

เขียนโดย AIBERRY

วันที่ 6 พฤษภาคม พ.ศ. 2564 เวลา 15.50 น.

  23 ตอน
  9 วิจารณ์
  16.24K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 6 พฤษภาคม พ.ศ. 2564 15.54 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น

แชร์นิยายฟิคชั่น Share Share Share

 

11) การปลอบโยน

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
ณ ร้านหนังสือแห่งหนึ่ง  15 สิงหาคม 2549
วันนี้ฉันมาร้านหนังสือกับพี่เนย์ เพื่อซื้อหนังสือภาษาเกาหลีเบื้องต้น เพื่อจะได้เตรียมตัวก่อนเรียนจริง พี่เนย์เดินดูหนังสือภาษาเกาหลี ส่วนฉันไม่รู้จะทำอะไร เดินดูอะไรไปเรื่อยเปื่อย จนมาหยุดอยู่ที่สมุดบันทึกเล่มเล็ก ลายดอกเดซี่ ฉันไม่ลังเลที่จะหยิบมัน  
// เราควรจะมีสมุดบันทึกซักเล่ม ไว้เขียนถึงเขา เพราะไม่รู้เราจะได้เจอกันอีกไหม ฉันแค่ไม่อยากให้ความทรงจำของเรามันหายไปตามกาลเวลา //
หลังจากที่เราจ่ายเงินที่เค้าเตอร์ ฉันกันพี่เนย์แวะไปหาอะไรทานแล้วก็กลับหอ ฉันกลับมาที่หอ ไม่รอช้าที่จะลงมือเขียนบันทึกเรื่องราวทั้งหมดของเราลงไป
// ฉันไม่รู้หรอก ว่าคุณจะมีตัวตนจริงๆหรือเปล่า แต่ฉันก็อยากจะเชื่อว่าเรื่องราวของเรามันคือความจริง ฉันได้แต่หวังว่าขอให้คุณได้ไปเกิดใหม่และได้ใช้ชีวิตตามที่ตัวเองต้องการ ได้ทำตามฝันเหมือนที่คุณเคยเล่าให้ฉันฟัง ฉันอยากให้คุณมีความสุข ถึงจะมีแค่ฉันที่จำเรื่องราวทั้งหมดได้ ก็ไม่เป็นไร //
ฉันเขียนเรื่องราวของเราทั้งหมดลงไปในสมุดบันทึก เรื่องราวตลอดเวลาที่เราเจอกัน และจากกัน และหลังจากนี้ี้
 
error loaded
 
พิมพ์คำอธิบายที่นี่
//ฉันคิดถึงคุณเหลือเกิน รอยยิ้มและอ้อมกอดของคุณฉันยังจำมันได้เสมอ.................ฉันรักคุณ...... จียง//

ตอนเย็นฉันกับพี่เนย์ ไปซื้อของมาทำเนื้อยางเกาหลีกินที่หอ ด้วยความที่แกเป็นคนชอบเกาหลี และชอบทำอาหาร ทำให้ฉันได้อานิสงในการชอบอาหารเกาหลีไปด้วย และที่ฉันชอบกินมากที่สุดก็คงจะเป็นกิมจิค่ะ และแน่นอนค่ะ ว่าพี่เนย์แกทำกิมจิเป็น ฉันทึ่งในความรักเกาหลีของแกมาก ประดุจเหมือนกับบ้านเกิดของแกเลยทีเดียวค่ะ แกเคยบอกฉันว่า ตอนแก่ อยากจะไปอยู่เกาหลี
ฉันไม่ค่อยจะเข้าใจเท่าไหร่ค่ะ กับความรู้สึกการรักโอปป้าของแก และการเป็นติ่งเกาหลีของแก แต่เท่าที่ดูมันก็ไม่สร้างสิ่งที่ไม่ดีอะไร ความรักแบบนี้มันกลับสร้างแรงผลักดันทำให้แกอะไรหลายๆอย่างในชีวิต อย่างเช่นการลากฉันไปเรียนภาษาเกาหลีนี้ละคะ   
หลังจากซื้อของเสร็จเราก็กลับมาทำอาการกันที่ห้อง เราช่วยกันจัดเตรียมจนเสร็จค่ะ ใช้เวลาไม่นานนักเพราะว่า นี้ไม่ใช่ครั้งแรกที่เราทำเนื้อย่างเกาหลีค่ะ
พี่เนย์ >> “เดซี่โทรบอกพวกนั้นด้วยนะว่าเสร็จแล้ว เรียนเสร็จรีบมากิน”
เดซี่  >> “ได้เลยค่ะเจ้”
ฉันทำเสียงประชดแกเหมือนเด็กเสริฟในร้าน พี่เนย์หันมามองแล้วยิ้มกับคำนั้น ฉันโทรไปยัยเอม มาย บิ้ว และแยม ไม่ถึง 20 นาทีพวกมันก็โผล่มา พร้อมชุดนักศึกษาที่ยังไม่ได้เปลี่ยน
แยม >> “เย้ วันนี้เนื้อย่างเกาหลี  กำลังหิวพอดีเลยค่ะพี่เนย์คนสวย”
พี่เนย์  >> “แหม พอเป็นเรื่องกินปากหวานเชียวนะ ปกติไม่เคยเห็นหน้าเลย”
แยม  >> “แหะๆ ช่วงนี้หนูยุ่งค่ะ”
เดซี่ >> “หรา  ไม่ใช่เพราะไปอยู่บ้านแฟนเหรอ”
แยม >> “มึงนี้......รู้ทันกูอีกแระ”
มาย >> “พวกมึงคุยกันไปนะ กูกินก่อนแระ”
บิว >> “มึงนี้เหมือนตายอดตายอยากเลยนะ”
เอม >> “พี่เนย์ เรียนจบไปเปิดร้านอาหารไหม เดี่ยวพวกหนูไปเป็นเด็กเสิร์ฟให้”
เดซี่  >> “อืมมม ใช่ๆ เหมาะมากเลยค่ะ เดี่ยวช่วยด้วยคนนะเจ้”
พี่เนย์  >> “เดี่ยวเถอะ เจ้อีกแระนะ กิมจงกิมจิ ไม่ต้องกินมันแระนะ”
เดซี่  >> “แงๆ หนูหยอกนะค๊า”
พวกเราพวกกินเนื้อย่าง อยากสนุกสนาน ทำให้ฉันหายเศร้าไปได้ซักพัก ฉันมองเพื่อนๆของฉันแล้วก็ได้แต่ยิ้ม ถ้าไม่มีพวกเขาฉันก็คงต้องนั่งเศร้าและจนถึงตอนนี้ก็คงร้องไห้ยังไม่หยุดแน่ๆ
// ขอบคุณนะ....ทุกคน//
// จียงคะ ฉันมีเพื่อนที่ดีมากๆเลยละ ฉันอยากให้คุณได้รู้จักพวกเขา //
 
(18 สิงหาคม 2549)
นี้ก็ผ่าน 5 วันแล้วที่ฉันได้กลับมาเรียน หลายๆอย่างเริ่มเข้าที่....แต่ฉันยังไม่หายเศร้า ยังมีเหม่อลอย ใช่เพราะฉันคิดถึงเขา เวลาที่เราอยู่ด้วยกัน ณ ที่แห่งนั้น มันไม่ใช่ระยะเวลาแค่ 1 เดือน เพราะฉันรู้สึกเหมือนมันนานมากๆ  ความผูกพันและความรักของเรามันไม่ได้เกินขึ้นแค่ 1-2 วัน มันมากกว่านั้น มันเลยยากที่จะทำให้ฉันลืมได้ ถึงแม้ว่าตอนนี้ฉันเองไม่รู้ว่าเขาอยู่ที่ไหน แต่ทำไมกันนะฉันกลับรู้สึกถึงเขาเสมอ
บิว >> “เดซี่  เดซี่................ยัยเดซี่”
เดซี่>> “ห่ะ มีอะไร”
บิว>> “กูเรียกมึงเป็นชาติแล้วนะ เป็นอะไร ยังไม่หายเศร้าอีกเหรอ เมื่อไหร่มึงจะเล่าให้พวกกูฟังซะที ว่ามันเกิดอะไรขึ้น”
มาย>> “นั้นซิ ถ้ามึงไม่เล่า พวกกูก็ช่วยปลอบมึงไม่ได้นะ”
เอม >> “มึงสองคนก็อย่าไปคาดคั้นมันเลย มันอาจจะลำบากใจที่จะเล่าก็ได้”
 แยม>> “อืม ถ้ามึงอยากเล่าก็บอกพวกกูนะ กูอยู่ไหนก็จะรีบมาหามึงเลย”
ฉันคิดอยู่นานว่าควรจะเล่าดีไหม สำหรับคนอื่นมันอาจจะฟังดูเหมือนเรื่องเพ้อเจ้อไร้สาระ ฉันไม่อยากให้ใครมาหัวเราะเยาะเรื่องของเรา แต่สำหรับเพื่อนๆของฉัน ฉันอยากจะลองเชื่อใจในความห่วงใยของพวกเขาดู
เดซี่>> “ถ้ากูเล่า พวกมึงต้องสัญญากับกูก่อนว่าจะไม่ขำ ไม่ตลก เพราะกูซีเรียส”
มาย/เอม/แยม/บิว >> “ได้ สัญญา!!!!!”
เดซี่>> “งั้นคืนนี้อาบน้ำเสร็จมาที่ห้องกูนะ กูจะเล่าให้ฟัง”
เวลา 20.00 ที่ห้องของฉัน
ทุกคนมาพร้อมเพียงกัน และตั้งใจที่จะฟังสิ่งที่ฉันเล่าจริงๆ ฉันย้ำกับทุกคนอีกครั้ง ว่าไม่ว่าจะคิดยังไง อย่าพูดออกมา แค่ฟังก็พอ รวมถึงพี่เนย์เองก็สัญญาว่าจะรับฟังอย่างเปิดใจ
ฉันสูดหายใจเข้าลึกๆ ก่อนจะเล่าเรื่องทั้งหมดให้เพื่อนๆฟัง
“เรื่องมันเริ่มมาจากที่ฉันประสบอุบัติเหตุ และนอนสลบไป 1 เดือน จากนั้นฉันพบว่าตัวเองตื่นมาที่.............................................”
ตลอดเวลา 2 ชั่วโมงที่ฉันเล่าให้เพื่อนๆฟัง ไม่มีใครเลยที่จะไม่ตั้งใจฟัง พวกเขาตั้งใจฟังสิ่งที่ฉันเล่า และบ้างคนมีน้ำตาคลอกับเรื่องของฉันที่เกิดขึ้น ด้วยความที่เราเป็นคนพุธ เลยอาจจะทำให้ไม่ใช่เรื่องยากที่จะเชื่อเรื่อง วิญญาณออกจากร่าง และไปยังที่ที่นึง และทุกครั้งที่ได้กลับมานึกถึงเหรอเล่าออกมา ฉันจะปวดใจและร้องไห้ทุกครั้ง แต่ครั้งนี้มันเป็นความรู้สึกดีๆที่มีคนคอยรับฟัง  หลังจากฉันเล่าจบ ทุกคนน้ำตาคลอ และเข้ามากอดฉัน และบอกกับฉันว่า พวกเขาเชื่อสิ่งที่ฉันพูด ถึงไม่รู้ว่าพวกเขาพูดจริงไหม แต่มันก็เป็นคำที่ทำให้ฉันน้ำตาไหลอีกครั้ง
พวกเขาปลอบฉันจนดึก หวังว่าฉันจะสามารถใช้ชีวิตที่ปราศจากความเศร้าได้ในซักวันนะ.....................จียง  ถ้าคุณยังมีชีวิตอยู่ หรือไม่ว่าอยู่ที่ไหน ฉันก็หวังว่าคุณจะมีความสุขอยู่ที่ไหนซักแห่ง

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น

✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง

✓ เรื่องนี้ไม่มีเจตนาทำให้บุคคลที่อ้างถึงเสียชื่อเสียง และฉันจะยอมรับผิดเมื่อบุคคลนั้นตำหนิหรือเตื่อนมา

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

คุณคิดยังไงกับนิยายฟิคชั่นเรื่องนี้

* สามารถกรอกแบบสำรวจโดยไม่ต้องเป็นสมาชิกก็ได้ครับ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา