Fanfic สองรัก (บาส&บอล)

-

เขียนโดย ณัฐพล

วันที่ 10 ตุลาคม พ.ศ. 2563 เวลา 19.41 น.

  14 ตอน
  2 วิจารณ์
  13.98K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 6 มกราคม พ.ศ. 2564 20.13 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น

แชร์นิยายฟิคชั่น Share Share Share

 

1) บทที่ ๑ พ่อแม่แยกทางกัน

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

ปี2536

ชายหนุ่มร่างใหญ่ สวมชุดสูทสีเทาเข้ม ผูกเนคไทกางเกงสแล็คของเขาสีดำ เขามีนามว่า ‘ประวิทย์’เขาเป็นเจ้าของโรงงานผลิตอาหารกระป๋อง เขาเป็นคนเจ้าชู้มาก จึงมีหญิงมาพัวพันธ์กันหลายคน เขามีภรรยาชื่อ ‘จุติมา’ จุติมามีอาชีพช่างเย็บผ้า เขามีบุตรชายฝาแฝดอยู่สองคน ในตอนนี้บุตรชายของเขาอายุได้เพียง 2 ปี

“ประวิทย์ผัวฉันมันหายไปไหนเนี่ย ไม่มาเลี้ยงลูกเลย”เขาบ่นพึมพำก่อนจะมองหน้าบุตรชาย เธอแต่งงานกับประวิทย์มา 3 ปีกว่า จนมีบุตรชายฝาแฝด

เธอรอสามีของเธอจนดึกก่อนที่จะสั่งแม่บ้านให้พาลูกของเธอเข้านอน เธอคิดว่าจะเอาอะไรมอบของขวัญวันเกิดลูกของเธอ

“ลูกของเราเกิดวันที่ 17 กันยายนนี่ จะมอบอะไรให้เป็นของขวัญวันเกิดนะ”เธอเอ่ยขึ้นกับตัวเอง เธอหยิบแคทตาล็อคที่แม่บ้านตัดมาจากหนังสือการ์ตูนที่ส่งไปทางไปรษณีย์ทางบริษัทในตอนนี้แคทตาล็อคเล่มนี้ก่อนเปิดขึ้นมาดู

เปิดไปหน้าแล้วหน้าเล่าก่อนที่จะมองไปยังล็อกเก็ตสีเงิน เธอรีบหยิบปากกาขึ้นมาจดรหัสก่อนที่ส่งที่อยู่ของตนและบริษัทในกระดาษก่อนส่งไปทางไปรษณีย์และเขียนระบุย้ำว่า ‘ล็อกเก็ตอันหนึ่งมีรูปลูกบาส อีกอันมีรูปลูกบอล’ ก่อนสอดลงไปในซองจดหมาย เขายื่นจดหมายไปให้แม่บ้านที่กำลังจะออกไปแต่เช้าของวันพรุ่งนี้ เธอจึงนั่งเขียนสมุดบันทึกบางอย่างลงไปในนั้นว่า

‘แม่ภูมิใจมากที่มีลูกชายทั้งสองคน ถ้าหากวันหนึ่งเราแยกทางกัน แม่จะขอบอลมาอยู่กับแม่ ส่วนบาสไปอยู่กับพ่อเพราะลูกดูแลพ่อได้อยู่แล้ว รักนะลูกทั้งสองคนถ้าหากว่าเรากลับมาเจอกันอีก ก็จะเป็นครอบครัวที่อบอุ่นเหมือนเดิมถ้าหากว่าประวิทย์เลิกเจ้าชู้ฉันจะกลับมาหาเขาอีกครั้ง’ จุติมาวางปากกาในตอนนี้เธอร้องไห้จนน้ำตาคลอเบ้า แม่บ้านเดินกลับมาพอดีจึงเอ่ยขึ้น

“คุณมา ใครทำอะไรให้คุณมาเสียใจหรอคะ”เขาถามด้วยความเป็นห่วง ก่อนที่จุติมาจะใช้แขนปาดน้ำตาก่อนตอบ

“ไม่มีอะไรหรอกค่ะ คุณลิลี่ คือถ้าหากว่าวันหนึ่งเราทะเลาะกับประวิทย์ คุณต้องไปอยู่กับเขานะคะ”เธอสั่งก่อนที่แม่บ้านลิลี่จะพยักหน้า จุติมาเอ่ยถาม

“ลูกชายของฉันหลับหรือยัง”

“หลับแล้วค่ะ”แม่บ้านสาวตอบ

สักพักประวิทย์ก้าวเข้ามาในบ้านในสภาพที่เดินเซไม่เป็นจังหวะก่อนที่จุติมามองมายังประวิทย์ก่อนด่า

“นี่!ทำไมถึงกลับมาช้าละ”เสียงใสเอ่ยถามคนที่พึ่งมา

“ฉัน ไป งานเลี้ยงมา แล้วลูกละหลับยัง”เสียงเข้มเอ่ย ในสภาพใบหน้าแดงกล่ำ แม่บ้านพยักหน้าแทนคำตอบ

จุติมาตะคอก

“นี่คุณวิทย์ถ้าคุณไปเมามาก็ไปนอนซะ คุณลิลี่พาเขาไปนอนหน่อย”จุติมาวานให้คุณลิลี่พาไปส่งถึงเตียงนอน ก่อนที่จะนั่งลงที่เดิม

ก่อนมองลิลี่พยุงอีกฝ่ายไปห้องนอน เขานั่งอยู่บนโต๊ะตัวเดิมก่อนที่จะกุมขมับ สักพักลิลี่เดินเข้ามาปลอบใจอีกฝ่าย

“คุณผู้ชายเนี่ยมาดึกจริงๆ สงสารผู้มาจังเลยต้องรอแล้วรออีก”

จุติมาตัดบท

“ชั่งเขาเถอะ เขาอยากไปเมาที่ไหน หรือเขาอยากไปหาเมียน้อยก็ไป ถ้ามาเจอเมียน้อยต่อหน้าเขา มาจะขอหย่ากับเขา มาสัญญาว่าจะทำงานและไม่มีแฟนใหม่ แล้วเราจะให้เขากลับปัตตานี”จุติมาบอก

“งั้นคืนนี้มาจะนอนบนโต๊ะนี้ละกันนะลิลี่”จุติมาบอกก่อนนั่งทำงานเย็บผ้า โต๊ะที่จุติมานั่งเป็นโต๊ะยาวมีจักรเย็บผ้า และเป็นโต๊ะเปล่าวางข้างกัน ก่อนที่จะลุกขึ้นไปนั่งโต๊ะเปล่าก่อนที่จะหลับคาโต๊ะ

 เช้าวันรุ่งขึ้นเสียงไก่ขัน เธอรู้สึกตัวจึงลืมตาได้ไม่สุด เสียงๆ หนึ่งเอ่ยขึ้น

“แม่ครับ แม่ แม่ครับ”เสียงเล็กของเด็กชายเอ่ยขึ้นก่อนที่จะเขย่าตัวแม่

“บาสหรอลูกบอลละ”เขาเอ่ยถามกับบุตรชายคนโต

“ยังไม่ตื่นครับแม่”

จุติมาในตอนนี้ไม่เห็นซองจดหมายแล้ว ลิลี่แม่บ้านคงเอาไปส่งทางไปรษณีย์เสียแล้ว

“แล้วพ่อละ”

“ป้อ ไปทำงาน”เสียงเล็กของอีกคนเอ่ยขึ้น

ก่อนที่เธอจะมองมาที่นาฬิกาเป็นเวลาเก้านาฬิกา เขาเริ่มลุกไปล้างหน้าแปรงฟันจนเสร็จก่อนที่จะไปอาบน้ำหวีผมให้สวยก่อนที่จะมาทำงานตามเดิม ลูกค้ามาอีกคนแล้วบาสทำหน้าที่ต้อนรับแขก เป็นที่สะดุดตาของใครๆ ของที่สั่งมาอีกสองสามวันข้างหน้า ลูกค้าชื่นชมความขยันของทั้งสองคน เสียงโทรศัพท์บ้านดังขึ้นก่อนที่เสียงปลายสายเป็นชายหนุ่มจากบริษัทเอ่ยขึ้น

“ฮัลโหล สวัสดีครับนี่ใช่คุณจุติมาใช่ไหม”

“ใช่ค่ะ”

“ผมบริษัท เอ แอนด์ เอ ซิลเวอร์นะครับ คุณสั่งล็อกเก็ตใช่ไหมครับ”ปลายสายถามย้ำ

“ใช่ค่ะ”

“ทางผมส่งไปแล้วนะครับผมเลยแจ้งมาเพื่อให้ทราบครับ”

“ค่ะ งั้นแค่นี้นะคะ”

“ครับ”

ก่อนที่จะวางหูโทรศัพท์ตามเดิมของจะส่งมาถึงสองวัน ก่อนที่จะตั้งใจทำงานบาสกับบอลก็ตั้งใจบริการลูกค้าจนถึงคิวคนสุดท้าย ตอนนี้เวลาทุ่มกว่าๆ รอประวิทย์มาถึงบ้านจนดึกประวิทย์กลับมาถึงบ้านพอดี จุติมาเลยถาม

“มาดึกเชียวนะ ไปไหนมา”

ยังไม่ทันขาดคำหญิงสาวสูงโปร่ง ผมยาวปะบ่าเดินเข้ามาควงแขนประวิทย์

“อ๋อนี่ มากับหญิงอื่นหรอ เธอกล้าแย่งของฉันไม่มีปัญญาหาเองสินะ”จุติมาพูดประชดอีกฝ่าย

“อ๋อ นี่ยัยแก่ ฉันนะมีปัญญาหาเองได้ยะแต่หนุ่มไม่มาจีบฉันสักทีนี่”

“หน๊อย นี่กล้าเด็ดหัวฉันเลยหรือไงหา”จุติมาประชดประชันอีกฝ่าย

“ใช่จะทำไหม”อีกฝ่ายถาม

“ออกไปจากบ้านฉันเลย ไปทั้งคุณด้วย”จุติมาผลักประวิทย์ที่พาหญิงอื่นเข้ามาในบ้าน

“ได้ เราไปนอนที่อื่นดีกว่า”

“ไปดีกว่าค่ะพี่วิทย์”หญิงร่างสูงโปร่งเชิดหน้าขึ้นก่อนที่จะควงแขนอีกฝ่ายก่อนเดินออกไป

ลิลี่เดินเข้ามาก่อนเอ่ยขึ้น

“เขากลับมาแล้วหรอคะ”

จุติมาน้ำตาคลอเบ้าก่อนบอก

“ใช่ เขาพาหญิงอื่นมาด้วยฉันเลยไล่เขาไป”

ลิลี่เข้าไปนั่งใกล้ๆ จุติมา

“คุณผู้ชายก็เจ้าชู้ ชั่งมันเถอะค่ะคุณผู้หญิงปล่อยเขาไปแล้วทีนี้จะทำยังไงละคะ”

จุติมาตัดสินใจจึงบอกไป

“เราจะให้บาสไปอยู่กับเขาบาสเป็นคนรักเดียวใจเดียวบาสจะต้องอยู่ที่ปัตตานี ส่วนบอลอยู่กับฉัน”

 เช้าวันรุ่งขึ้นมีพัสดุส่งมาลิลี่เป็นคนรับก่อนที่จะถูกเปิด เป็นล็อกเก็ตสีเงิน มีรูปลูกบาสกับลูกบอล เขาเรียกลูกชายคนโตของเขา

“บาสมาหาแม่ มาสิ”

บาสเดินเข้าไปหาจุติมาก่อนเธอจะก้มตัวลงก่อนที่จะสวมล็อกเก็ตไว้ที่คอของบาส

“ส่วนนี่ของบอล”

เขาสวมให้บุตรชายอีกคนก่อนเอ่ย

“ใส่ไว้ติดตัวจนโตเลยนะลูก”

ก่อนที่จะโผเข้าโอบกอดบุตรชาย

วันนี้ประวิทย์สวมชุดซาฟารีก่อนจะจัดแจงให้พ่อบ้านเตรียมขนสัมภาระเตรียมที่จะออกเดินทางกลับปัตตานี

“นี่คุณผมจะกลับปัตตานีแล้วนะ”

จุติมาเรียกบาสให้เข้ามา

“บาสต้องไปอยู่กับพ่อนะและดูแลพ่อให้ดีด้วยนะถ้าลูกโตขึ้นก็ดูแลพ่อนะลูก”

เขาผลักเบาๆ ให้บาสได้ไปอยู่กับพ่อของเขา

ก่อนพ่อบ้านจะปิดประตูรถเพราะขนสัมภาระจนครบแล้ว รถยนต์ได้เคลื่อนออกไปตามถนน

จุติมาเหลียวตามหลังก่อนที่จะน้ำตาไหลนองอาบแก้มก่อนที่จะโอบกอดบอลไว้แน่น

 

 11ปีต่อมา

ปี2547

ในตอนนี้บอลอายุ 13ปี บอลนั้นอาศัยอยู่กับแม่ของเขา จุติมานั้นหยิบใบสมัครเรียนของโรงเรียนประจำขึ้นออกมาก่อนยื่นให้บุตรชายได้กรอก ก่อนที่จะเตรียมหลักฐานการสมัครเรียน

‘เด็กชายพงษ์เพ็ชร จักรสกุลวงศ์’ กรอกจนเสร็จก่อนยื่นให้มารดาของตน จุติมาวานใช้แม่บ้านให้ไปส่งตนที่โรงเรียนประจำก่อนยื่นหลักฐานจนครบพร้อมพาบอลมามอบตัว

ก่อนผอ. จะแนะนำห้องเรียนของโรงเรียน อาคารเรียนชั้นเดียวข้างหน้ามีสนามหญ้า หลังโรงเรียนมีกำแพงสูง ผอ.ชื่อ ลีลา เขาแนะนำสถานที่ห้องต่างๆ จนเสร็จก่อนโบกมือร่ำลาปล่อยให้บอลอยู่ในโรงเรียน ครูประจำชั้นเป็นหญิงสาวร่างสูงโปร่งเดินเข้ามาหาบอลก่อนที่จะบอก

“เธอชื่อบอลใช่ไหมไปนั่งที่ก่อนนะ”

เธอผายมือเชิญให้เด็กหนุ่มเข้าไปนั่งข้างใน

 ก่อนที่พ่อบ้านซึ่งเป็นผู้ดูแลของบาสเคลื่อนรถเข้ามาข้างในโรงเรียนก่อนที่จะพ่อบ้านเปิดประตูรถให้ก่อนที่มีคนลงมาจากรถ

“ขอบคุณครับ พล”

เขาเอ่ยกับพ่อบ้าน

“ดูแลตัวเองด้วยนะครับคุณหนู”พลบอกก่อนดึงตัวเด็กชายมาในอ้อมกอด

ก่อนที่จะผละตัวออกไปจากแขนของเขา เด็กชายคนนั้นรีบวิ่งไปที่ห้องก่อนพกกระเป๋าสะพายไป ก่อนหยิบแฟ้มผลงานก่อนจะเข้าไปห้องทะเบียน

“อ้าวน้องมาสมัครเรียนที่นี่หรอ”

บาสพยักหน้า

“ใช่ครับ”

ก่อนที่เจ้าหน้าที่ในห้องทะเบียนเอาหลักฐานในการสมัครเรียนขึ้นมาดู

“เธอมาจากปัตตานีหรอ”

บาสตอบ

“พ่อผมทำงานที่นั่นครับ”

“แม่ละ”

บาสเขาไม่เคยรู้เลยว่าแม่เป็นคนยังไง เขามีแต่พ่อ”

“แม่ทิ้งผมไปผมไม่มีแม่”

ก่อนที่จะเก็บสำเนาไว้กับตัวก่อนที่จะบอก

“งั้นเราจะพาน้องไปดูบริเวณโรงเรียนกันนะคะ”

เจ้าหน้าที่ระเบียนเดินมาก่อนที่หญิงสาวอีกคนจะเดินมา

“อ้าวพี่หลิน มาทำอะไรที่นี่หรอคะ”หญิงสาวในชุดสีกากีทักขึ้น

“พอดีพาเด็กมาเดินชมบริเวณนี่คะครูจูน”เจ้าหน้าที่สาวบอก

“งั้นมาให้เราช่วยแนะนำเลยละกันนะ”

ครูจูนเดินแนะนำก่อนที่เจ้าหน้าที่สาวจะเดินจากไป

“ชื่ออะไรหรอเรา”ครูสาวเอ่ยถามเด็กหนุ่ม

“ผมชื่อบาสครับ”เขาตอบ

“บาสหรอ งั้นห้องเรียนของเราอยู่ตรงนั้นนะ”ครูสาวชี้ไปทางห้องที่ยังมีนักเรียนยืนอยู่หน้าชั้นเรียน

“มาจากที่ไหนหรอ”

“ผมมาจากปัตตานีครับ”บาสตอบ ก่อนครูสาวจะเบิกตาโตก่อนตอบ

“มาไกลนี่ วันนี้เราจะมาเรียนพละกันนะ เราจะเรียนกระบี่กระบองกันนะ ตอนเวลาสิบสี่นาฬิกา”

ครูสาวบอกก่อนปล่อยให้เด็กหนุ่มรอคอย

 บอลกำลังนั่งมองไปนอกหน้าต่างก่อนที่เด็กชายอีกคนทักทาย

“สวัสดี นายชื่ออะไรหรอ”เสียงเข้มใสเอ่ยถามผู้ที่นั่งอยู่

“ฉันชื่อบอล แล้วนายละ”

“ฉันชื่อปาล์ม ยินดีที่ได้รู้จักนะ”

“ยินดีที่ได้รู้จักเช่นกัน”

ปาล์มยื่นมือเพื่อให้บอลจับมือกัน

เด็กชายอีกคนเดินเข้ามา

“นี่ปาล์มนั่นใครนะ”

“อ๋อ นี่คือบอลเพื่อนเรานะ”ปาล์มแนะนำให้อีกฝ่ายรู้จัก

“ฉันชื่อ เบ๊ป ยินดีที่ได้รู้จักนะ”

“เช่นกัน”

ก่อนที่บอลยื่นมือเพื่อจับมือกับอีกฝ่าย

 บาสรอก่อนที่จะมีเด็กชายอีกคนเอ่ยขึ้น

“นายมารออะไรหรอ”

“เปล่านะ เรากำลังหาเพื่อนอยู่พอดี”บาสบอก

“เราชื่อ อาร์ม และนี่คือ จอห์น”เขาแนะนำให้เพื่อนอีกคนก่อนถาม

“นายชื่ออะไรหรอ”

“เราชื่อบาสนะ”บาสบอก

“ยินดีที่ได้รู้จักกันนะ”

“เช่นกัน”

บาสบอกก่อนอาร์มจะยื่นขนมให้ เขารอให้เวลาสิบสี่นาฬิกา ส่วนบอลนั้นก็หยิบหนังสือขึ้นมาอ่าน ก่อนที่จะเขียนสมุดเฟรนซ์ชิป ลงไป

‘อยากรู้จังเพื่อนเรามีใครบ้างนะ’เขาบ่นในใจ

ในตอนนี้เป็นเวลาสิบสองนาฬิกา บอลหันซ้ายหันขวาเขาไม่มีสมาธิเลยเขาอยู่เฉยๆ ไม่ได้ ก่อนที่ครูมาตะโกนก่อนใช้โทรโข่ง

“ทุกคนมาทานข้าวกัน พอดีโรงอาหารของเราอยู่ทางโน้นเอาละ พอทานเสร็จเราจะมาเรียนวิชาพละเลย”ครูบอก

ก่อนที่นักเรียนทุกคนจะรีบวิ่งไปที่โรงอาหาร

บาสคุยกับเพื่อนๆ ที่พึ่งรู้จักกัน

“เราจะนั่งตรงไหนละ”

“เราว่าเราไปนั่งตรงนั้นดีไหมใกล้ร้านอาหาร”เพื่อนอีกคนเสริม

“ดีนะ”

บาสมุ่งตรงเข้าไปนั่งที่นั่งใกล้ร้านค้า ก่อนบอลจะเดินมากับเพื่อนของเขา

“นี่พวกนายจะนั่งตรงไหนละ”บอลถาม

เบ๊ปเสนอความคิด ก่อนมองไปยังโต๊ะถัดไปหลังบาสกับเพื่อนๆนั่งอยู่

“เราว่าเราไปนั่งโต๊ะนั้นดีกว่า”

“ดีเลย เราไปกันเถอะ”บอลบอก

ก่อนที่จะรีบเดินตรงไปก่อนที่จะนั่งลง ทั้งคู่ไม่มีอะไรเกิดขึ้น จนได้เวลาบ่ายโมง เสียงเรียกให้มารวมตัวกัน

“ทุกคนทานข้าวเสร็จแล้วเรามาเรียนวิชาพละกันนะ”

ทุกคนรีบออกมาจากโรงอาหาร ก่อนที่จะมองมา บาสตกใจที่เจอคู่เหมือนก่อนเดินเข้าไปหาคู่เหมือนแบบท้าทาย

“นี่นาย วิชาพละเรามาสู้กันไหมวิชากระบี่กระบอง”

บอลเลี่ยงก่อนที่จะปฎิเสธ

“ไม่อะ”

“เดี๋ยวถ้าใครแพ้ นายมาเป็นเบ้ฉันเอาไหม”

บอลยักไหล่ก่อนพยักหน้า

“เอาสิ ถ้านายแพ้ฉันนายก็ต้องเป็นทาสเราเอาปะ”

“เอาสิ ฉันขอท้า”

บาสเดินออกไปจากตรงนั้นก่อนที่บอลจะมองมาอย่างเสียอารมณ์

“บอล นายไปท้าเขาทำไม”เบ๊ปเอ่ยขึ้น

“ก็เราอยากรู้นี่ว่าใครจะเป็นทาสใคร”

“นายไม่รู้หรอว่า เขากับนายทำไมหน้าตาคล้ายกัน”

บอลส่ายหัวก่อนชวนเพื่อนของเขาออกมาจากโรงอาหาร

 เสียงนกหวีดดังขึ้น เพื่อส่งสัญญาณว่า เริ่มเรียนพละแล้ว

“ทุกคนมารวมตัวกันตรงนี้ วันนี้เราจะมาแข่งกระบี่กระบองเพื่อต่อสู้กัน คู่แรก บาสเด็กใหม่มาจากปัตตานี ส่วนอีกคนคือ บอลจากนครพนม”

ก่อนที่ครูประจำวิชาพละจะยื่นกระบี่กระบองส่งให้ทั้งสองคน ทำมาจากหวายก่อนที่จะเป่านกหวีดเพื่อเริ่มสู้กัน การต่อสู้บาสใช้กระบี่กระบองฟาดฟันกัน จนบอลเสียกระบวนท่า

“นายแพ้แล้ว นายต้องเป็นเบ้ฉัน”

บอลเองต้องจำใจเพราะบาสเคยใช้ไม้เบสบอลซ้อมมาก่อนก่อนที่จะบอลจะเอาคืน

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น

✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง

✓ เรื่องนี้ไม่มีเจตนาทำให้บุคคลที่อ้างถึงเสียชื่อเสียง และฉันจะยอมรับผิดเมื่อบุคคลนั้นตำหนิหรือเตื่อนมา

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

คุณคิดยังไงกับนิยายฟิคชั่นเรื่องนี้

* สามารถกรอกแบบสำรวจโดยไม่ต้องเป็นสมาชิกก็ได้ครับ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา