FATE/BROKEN SPIRITS (fate fanfiction)
7.3
เขียนโดย gilos
วันที่ 30 มีนาคม พ.ศ. 2563 เวลา 20.35 น.
7 ตอน
1 วิจารณ์
9,081 อ่าน
แก้ไขเมื่อ 25 พฤษภาคม พ.ศ. 2563 15.45 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น
7) นักรบไร้นาม
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ'เมื่อ3สัปดาห์ก่อนตอนที่ผมได้เจอกับarcherครั้งแรกผมคิดว่ามันคือปาฏิหาริย์แต่ผมคิดผิดมันไม่ใช่ฏิหาริย์หรอกแต่มันคือชะตากรรมต่างหาก'
ชายหนุ่มที่นั่งวิลแชร์ลืมตาขึ้นมาท่ามกลางการต่อสู้ของชาวไวกิ้งปริศนากับชายผมแดงarcher การต่อสู้ของทั้ง2เป็นไปอย่างดุเดือดพวกเขาเข้าปะทะกันจนเสียงของดาบและขวานที่กระทบกันและเสียงคำรามของชาวไวกิ้งที่เข้าโจมตีอย่างบ้าคลั่งมันดังก้องไปทั่วบริเวณสวนสาธารณะ
"ข้ามิได้สนใจจอกแต่อย่างใด เจ้ารนหาที่เองแท้ๆ!!"
archerเรียกธนูออกมาและยิงมันขึ้นฟ้า แสงสีทองปรากฏขึ้นบนท้องฟ้าและห่าฝนธนูนับพันก็โปรยลงมาบนพื้นแต่ชาวไวกิ้งคนนั้นก็วิ่งผ่าฝนธนูเข้ามาเรื่อยๆด้วยการใช้โล่ไม้ของเขาป้องกันเอาไว้จนเขาสามารถเข้าถึงตัวของarcherพร้อมกับขวานที่เหวี่ยงมาจากด้านข้างแต่archerก็สามารถหลบได้แต่แรงลมจากการเหวี่ยงก็ทำให้เขาเสียการทรงตัวเล็กน้อย archerที่เห็นว่าคู่ต่อสู้ของเขาไม่ธรรดาก็เริ่มเอาจริงเขารวบผมมัดและถอยหลังกลับไปเขายืนนิ่งสักพักก่อนที่จะเรียกคันธนูสีเงินออกมา
"ไตรพรอิศวร..คันศรทั้งสามเอ๋ยจงประจักร ศรพลายวาต..จงยินดีเสียข้ายอมรับเจ้าในฐานะนักรบ จงเอ่ยนามออกมา"
"....."
"หือ..ความหยิ่งทะนงงั้นหรือ ย่อมได้นักรบไร้นามเอ๋ยจงรับศรแห่งการทำลายนี้เสีย พลายวาตกุนตรี!!"
archerที่ไม่ได้คำตอบก็แผลงศรทันที ชาวไวกิ้งยกโล่ขึ้นมาป้องกันแต่ลูกศรสีเงินพุ่งทะลุโล่ตรงเข้าหัวใจของชาวไว กิ้งอย่างง่ายดายและด้วยความรุนแรงและความเร็วของทำให้ลูกศรพุ่งทะลุออกมาพร้อมกับพาเอาหัวใจของชาวไวกิ้งออกมาด้วย archerลดคันธนูลงแต่ชาวไวกิ้งที่ควรจะตายจากการโจมตีนั้นกลับเงยหน้าขึ้นมาร่างกายของเขาเริ่มมีควันออกมาและสิ่งที่เคยเป็นเลือดที่ไหลก็กลายเป็นของเหลวสีแดงเดือด
"ฟรูมาเชีย!!!"
ชาวไวกิ้งกู่ร้องออกมาและพุ่งเข้าโจมตีทันที archerที่โดนโจมตียังคงหลบได้แต่เขาก็ต้องตกใจพลังการทำลายของมันมากขึ้นกว่าเดิม archerที่เห็นท่าไม่ได้ก็คิดที่จะถอยไปตั้งหลักแต่ไวกิ้งคนนั้นก็พุ่งมากระแทกarcherด้วยโล่ archerที่ถูกกระแทกก็กระเด็นออกไปไกลจนเกือบชนเข้ากับมาสเตอร์ของเขา
"เป็นอะไรหรือป่าวarcher"
"ข้าต้องขอโทษด้วยมาสเตอร์ ข้าขออนุญาตเสียดังหน่อยได้หรือไม่มาสเตอร์"
มาสเตอร์ของเขาไม่ตอบอะไรเพียงแค่พยักหน้า archerจึงได้พุ่งเข้าหาชาวไวกิ้งอีกครั้งแต่ครั้งนี้archerไม่สามารถปะทะกับชาวไวกิ้งตรงๆได้อีกต่อไปเพราะว่าพละกำลังที่เพิ่มขึ้นอย่างมหาศาลของชาวไวกิ้ง เพียงแค่การเหวี่ยงขวานครั้งเดียวก็สามารถทำให้archerที่ใช้ดาบป้องกันถึงกับทรุดลงกับพื้นได้อย่างง่ายดาย archerที่รู้ว่าตนไม่สามารถสู้ระยะประชิดได้ก็ถอยหลังกลับมาและเรียกคันธนูสีแดงออกมา
"ศรอัคนิวาต...เพลิงผลาญแห่งสุริยะจงมอดไหม้ศัตรูของข้าให้กลายเป็นเถ้าถ่านเสีย อัคนิวาตสุริยันต์!!"
ศรสีแดงพุ่งตรงไปหาชาวไวกิ้งแต่ครั้งนี้ชาวไวกิ้งสามารถป้องกันได้ด้วยโล่และในขณะที่ชาวไวกิ้งกำลังจะพุ่งเข้ามาเปลวไฟก็เริ่มรุกลามไปทั่วโล่ไม้ของชาวไวกิ้งแต่เขาก็ไม่ได้สนใจอะไรยังคงพุ่งเข้ามาหาarcherอย่างบ้าคลั่ง archerก็ไม่ได้ตอบโต้อะไรเพียงแต่หลบการโจมตีอันบ้าคลั่งของชาวไวกิ้งไปเรื่อยๆจนไฟนั้นรุกลามไปทั่วตัวของชาวไวกิ้ง
"ไม่ว่าจะเป็นผู้ใดจะโดนศรอัคนิวาต มันจะเผาผลาญผู้นั่นจนดับสิ้น"
ชาวไวกิ้งที่โดนเผาก็ล้มลงบนพื้นและไฟก็หยุดไหม้แต่archerยังไม่หยุดเพียงแค่ศรสีแดงเขาเรียกคันธนูสีเขียวออกมาและยิงใส่ชาวไวกิ้งที่นอนอยู่ทันที
"ด้วยคำแนะของฤาษีโคศกการสู้กับผู้อมตะเช่นเจ้ามันเป็นเรื่องง่ายดายนัก จงทรมานนับแสนโกฏิปีด้วยศรนี้เสีย กกสาโคศก!!"
ศรสีเขียวพุ่งตรงปักร่างของชาวไวกิ้งที่นอนอยู่และไม่นานลูกศรก็ค่อยๆกลายเป็นรากไม้พันธนาการชาวไวกิ้งไว้ archerมองไปที่ชาวไวกิ้งที่นอนแน่นิ่งอยู่ก่อนที่จะลดคันธนูลงและเดินกลับไปหามาสเตอร์ของเขา
"ข้าต้องขอโทษที่เสียงดังมาสเตอร์ ท่านคงไม่ถือโทษข้าหรอกใช่หรือไม่"
archerเดินมาคุกเข่าตรงหน้ามาสเตอร์ของเขา
"ละ ลุกขึ้นเถอะarcherชั้นไม่ว่าอะไรนายหรอก"
archerลุกขึ้นมาและดันวิลแชร์ของมาสเตอร์ออกไปแต่ทันใดนั้นarcherก็ต้องตกใจเพราะว่าเขาสามารถรับรู้ได้ถึงพลังอันมหาศาลที่อยู่ด้านหลังของเขา archerรีบเข็นมาสเตอร์ออกจากรัศมีการโจมตีแต่ดูเหมือนว่าarcherจะโดนการโจมตีเข้าเต็มๆ ขวานถูกเขวี้ยงมาจากชาวไวกิ้งที่มีควันไอเต็มตัวและเลือดเดือดๆของเขาทำให้พื้นหญ้าถึงกับไหม้เลยทีเดียว archerทีโดนขวานซัดกระเด็นไปก็กระแทกเข้ากับต้นไม้นับไม่ถ้วนจนมาหยุดที่ต้นไม้ต้นใหญ่ archerที่โชคดีไม่โดนคมขวานก็ลุกขึ้นมาแต่ก็เจ็บไปทั่วทั้งตัวเพราะแรงกระแทกเขารีบวิ่งกลับไปหามาสเตอร์ของเขาทันทีแต่ก็โดนโล่ของชาวไวกิ้งที่ดักอยู่หลังต้นไม้ฟาดเข้าเต็มๆจนarcherล้มลงอีกครั้ง ชาวไวกิ้งเดินไปดึงขวานออกมาจากต้นไม้และเดินตรงมาที่archerและกำลังจะฆ่าเขา
"พรหมมาสตร์"
แสงสีทองระเบิดออกมาจากตัวของarcherทำให้ชาวไวกิ้งกระเด็นออกไป และarcherค่อยๆลอยขึ้นไปบนอากาศแสงสีทองเปล่งประกายออกมาจากคันธนูสีทองขนาดใหญ่archerลืมตาขึ้นและศรสีทองก็ค่อยๆปรากฏขึ้นในมือของเขา
"ไตรพรอิศวร...ศรนี้จักพิฆาตศัตรูของข้าให้ดับดิ้น อำนาจแห่งการทำลายชิ้นสุดท้ายของข้า พรหมมาสตร์!!"
archerง้างธนูและแสงสีทองทั้งหมดก็มารวมตัวกันที่ลูกศร
"วัลฮัลล่า!!!!"
ชาวไวกิ้งทุบโล่ของเขาด้วยขวานและตะโกนออกมาสุดเสียงและกระโดดเข้าหาarcherด้วยพละกำลังอันมหาศาล
เสียงระเบิดดังขึ้นบนเครื่องบิน ริน หนิง ลูเวีย และคนอื่นก็ตกใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นเพราะลูกโลกที่หนิงไปจับมันได้ระเบิดออกและสิ่งที่น่าตกใจกว่าคือสิ่งที่ทุกคนบนเครื่องเห็นก่อนที่จะเกิดเหตุขึ้น
"ชั้นไม่เคยเห็นจุดใหญ่ขนาดนั้นมาก่อนเลย..นั่นมันอะไรกัน"
รินตกใจกับสิ่งที่เห็นมาก แล้วกิลกาเมลก็ลุกขึ้นมาและเรียกสมุดหินอ่อนออกมา
"นั่นมันวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ ข้าว่าสงครามครั้งนี้ไม่ธรรมดาแล้วล่ะ"
EP 7 END
ชายหนุ่มที่นั่งวิลแชร์ลืมตาขึ้นมาท่ามกลางการต่อสู้ของชาวไวกิ้งปริศนากับชายผมแดงarcher การต่อสู้ของทั้ง2เป็นไปอย่างดุเดือดพวกเขาเข้าปะทะกันจนเสียงของดาบและขวานที่กระทบกันและเสียงคำรามของชาวไวกิ้งที่เข้าโจมตีอย่างบ้าคลั่งมันดังก้องไปทั่วบริเวณสวนสาธารณะ
"ข้ามิได้สนใจจอกแต่อย่างใด เจ้ารนหาที่เองแท้ๆ!!"
archerเรียกธนูออกมาและยิงมันขึ้นฟ้า แสงสีทองปรากฏขึ้นบนท้องฟ้าและห่าฝนธนูนับพันก็โปรยลงมาบนพื้นแต่ชาวไวกิ้งคนนั้นก็วิ่งผ่าฝนธนูเข้ามาเรื่อยๆด้วยการใช้โล่ไม้ของเขาป้องกันเอาไว้จนเขาสามารถเข้าถึงตัวของarcherพร้อมกับขวานที่เหวี่ยงมาจากด้านข้างแต่archerก็สามารถหลบได้แต่แรงลมจากการเหวี่ยงก็ทำให้เขาเสียการทรงตัวเล็กน้อย archerที่เห็นว่าคู่ต่อสู้ของเขาไม่ธรรดาก็เริ่มเอาจริงเขารวบผมมัดและถอยหลังกลับไปเขายืนนิ่งสักพักก่อนที่จะเรียกคันธนูสีเงินออกมา
"ไตรพรอิศวร..คันศรทั้งสามเอ๋ยจงประจักร ศรพลายวาต..จงยินดีเสียข้ายอมรับเจ้าในฐานะนักรบ จงเอ่ยนามออกมา"
"....."
"หือ..ความหยิ่งทะนงงั้นหรือ ย่อมได้นักรบไร้นามเอ๋ยจงรับศรแห่งการทำลายนี้เสีย พลายวาตกุนตรี!!"
archerที่ไม่ได้คำตอบก็แผลงศรทันที ชาวไวกิ้งยกโล่ขึ้นมาป้องกันแต่ลูกศรสีเงินพุ่งทะลุโล่ตรงเข้าหัวใจของชาวไว กิ้งอย่างง่ายดายและด้วยความรุนแรงและความเร็วของทำให้ลูกศรพุ่งทะลุออกมาพร้อมกับพาเอาหัวใจของชาวไวกิ้งออกมาด้วย archerลดคันธนูลงแต่ชาวไวกิ้งที่ควรจะตายจากการโจมตีนั้นกลับเงยหน้าขึ้นมาร่างกายของเขาเริ่มมีควันออกมาและสิ่งที่เคยเป็นเลือดที่ไหลก็กลายเป็นของเหลวสีแดงเดือด
"ฟรูมาเชีย!!!"
ชาวไวกิ้งกู่ร้องออกมาและพุ่งเข้าโจมตีทันที archerที่โดนโจมตียังคงหลบได้แต่เขาก็ต้องตกใจพลังการทำลายของมันมากขึ้นกว่าเดิม archerที่เห็นท่าไม่ได้ก็คิดที่จะถอยไปตั้งหลักแต่ไวกิ้งคนนั้นก็พุ่งมากระแทกarcherด้วยโล่ archerที่ถูกกระแทกก็กระเด็นออกไปไกลจนเกือบชนเข้ากับมาสเตอร์ของเขา
"เป็นอะไรหรือป่าวarcher"
"ข้าต้องขอโทษด้วยมาสเตอร์ ข้าขออนุญาตเสียดังหน่อยได้หรือไม่มาสเตอร์"
มาสเตอร์ของเขาไม่ตอบอะไรเพียงแค่พยักหน้า archerจึงได้พุ่งเข้าหาชาวไวกิ้งอีกครั้งแต่ครั้งนี้archerไม่สามารถปะทะกับชาวไวกิ้งตรงๆได้อีกต่อไปเพราะว่าพละกำลังที่เพิ่มขึ้นอย่างมหาศาลของชาวไวกิ้ง เพียงแค่การเหวี่ยงขวานครั้งเดียวก็สามารถทำให้archerที่ใช้ดาบป้องกันถึงกับทรุดลงกับพื้นได้อย่างง่ายดาย archerที่รู้ว่าตนไม่สามารถสู้ระยะประชิดได้ก็ถอยหลังกลับมาและเรียกคันธนูสีแดงออกมา
"ศรอัคนิวาต...เพลิงผลาญแห่งสุริยะจงมอดไหม้ศัตรูของข้าให้กลายเป็นเถ้าถ่านเสีย อัคนิวาตสุริยันต์!!"
ศรสีแดงพุ่งตรงไปหาชาวไวกิ้งแต่ครั้งนี้ชาวไวกิ้งสามารถป้องกันได้ด้วยโล่และในขณะที่ชาวไวกิ้งกำลังจะพุ่งเข้ามาเปลวไฟก็เริ่มรุกลามไปทั่วโล่ไม้ของชาวไวกิ้งแต่เขาก็ไม่ได้สนใจอะไรยังคงพุ่งเข้ามาหาarcherอย่างบ้าคลั่ง archerก็ไม่ได้ตอบโต้อะไรเพียงแต่หลบการโจมตีอันบ้าคลั่งของชาวไวกิ้งไปเรื่อยๆจนไฟนั้นรุกลามไปทั่วตัวของชาวไวกิ้ง
"ไม่ว่าจะเป็นผู้ใดจะโดนศรอัคนิวาต มันจะเผาผลาญผู้นั่นจนดับสิ้น"
ชาวไวกิ้งที่โดนเผาก็ล้มลงบนพื้นและไฟก็หยุดไหม้แต่archerยังไม่หยุดเพียงแค่ศรสีแดงเขาเรียกคันธนูสีเขียวออกมาและยิงใส่ชาวไวกิ้งที่นอนอยู่ทันที
"ด้วยคำแนะของฤาษีโคศกการสู้กับผู้อมตะเช่นเจ้ามันเป็นเรื่องง่ายดายนัก จงทรมานนับแสนโกฏิปีด้วยศรนี้เสีย กกสาโคศก!!"
ศรสีเขียวพุ่งตรงปักร่างของชาวไวกิ้งที่นอนอยู่และไม่นานลูกศรก็ค่อยๆกลายเป็นรากไม้พันธนาการชาวไวกิ้งไว้ archerมองไปที่ชาวไวกิ้งที่นอนแน่นิ่งอยู่ก่อนที่จะลดคันธนูลงและเดินกลับไปหามาสเตอร์ของเขา
"ข้าต้องขอโทษที่เสียงดังมาสเตอร์ ท่านคงไม่ถือโทษข้าหรอกใช่หรือไม่"
archerเดินมาคุกเข่าตรงหน้ามาสเตอร์ของเขา
"ละ ลุกขึ้นเถอะarcherชั้นไม่ว่าอะไรนายหรอก"
archerลุกขึ้นมาและดันวิลแชร์ของมาสเตอร์ออกไปแต่ทันใดนั้นarcherก็ต้องตกใจเพราะว่าเขาสามารถรับรู้ได้ถึงพลังอันมหาศาลที่อยู่ด้านหลังของเขา archerรีบเข็นมาสเตอร์ออกจากรัศมีการโจมตีแต่ดูเหมือนว่าarcherจะโดนการโจมตีเข้าเต็มๆ ขวานถูกเขวี้ยงมาจากชาวไวกิ้งที่มีควันไอเต็มตัวและเลือดเดือดๆของเขาทำให้พื้นหญ้าถึงกับไหม้เลยทีเดียว archerทีโดนขวานซัดกระเด็นไปก็กระแทกเข้ากับต้นไม้นับไม่ถ้วนจนมาหยุดที่ต้นไม้ต้นใหญ่ archerที่โชคดีไม่โดนคมขวานก็ลุกขึ้นมาแต่ก็เจ็บไปทั่วทั้งตัวเพราะแรงกระแทกเขารีบวิ่งกลับไปหามาสเตอร์ของเขาทันทีแต่ก็โดนโล่ของชาวไวกิ้งที่ดักอยู่หลังต้นไม้ฟาดเข้าเต็มๆจนarcherล้มลงอีกครั้ง ชาวไวกิ้งเดินไปดึงขวานออกมาจากต้นไม้และเดินตรงมาที่archerและกำลังจะฆ่าเขา
"พรหมมาสตร์"
แสงสีทองระเบิดออกมาจากตัวของarcherทำให้ชาวไวกิ้งกระเด็นออกไป และarcherค่อยๆลอยขึ้นไปบนอากาศแสงสีทองเปล่งประกายออกมาจากคันธนูสีทองขนาดใหญ่archerลืมตาขึ้นและศรสีทองก็ค่อยๆปรากฏขึ้นในมือของเขา
"ไตรพรอิศวร...ศรนี้จักพิฆาตศัตรูของข้าให้ดับดิ้น อำนาจแห่งการทำลายชิ้นสุดท้ายของข้า พรหมมาสตร์!!"
archerง้างธนูและแสงสีทองทั้งหมดก็มารวมตัวกันที่ลูกศร
"วัลฮัลล่า!!!!"
ชาวไวกิ้งทุบโล่ของเขาด้วยขวานและตะโกนออกมาสุดเสียงและกระโดดเข้าหาarcherด้วยพละกำลังอันมหาศาล
เสียงระเบิดดังขึ้นบนเครื่องบิน ริน หนิง ลูเวีย และคนอื่นก็ตกใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นเพราะลูกโลกที่หนิงไปจับมันได้ระเบิดออกและสิ่งที่น่าตกใจกว่าคือสิ่งที่ทุกคนบนเครื่องเห็นก่อนที่จะเกิดเหตุขึ้น
"ชั้นไม่เคยเห็นจุดใหญ่ขนาดนั้นมาก่อนเลย..นั่นมันอะไรกัน"
รินตกใจกับสิ่งที่เห็นมาก แล้วกิลกาเมลก็ลุกขึ้นมาและเรียกสมุดหินอ่อนออกมา
"นั่นมันวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ ข้าว่าสงครามครั้งนี้ไม่ธรรมดาแล้วล่ะ"
EP 7 END
คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น
✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง
✓ เรื่องนี้ไม่มีเจตนาทำให้บุคคลที่อ้างถึงเสียชื่อเสียง และฉันจะยอมรับผิดเมื่อบุคคลนั้นตำหนิหรือเตื่อนมา
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
10 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
7 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
5 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ