{Fic Free!} [SouRin]

10.0

เขียนโดย sakitsuke

วันที่ 28 มีนาคม พ.ศ. 2562 เวลา 22.01 น.

  3 ตอน
  0 วิจารณ์
  8,612 อ่าน

แก้ไขเมื่อ 28 มีนาคม พ.ศ. 2562 22.07 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น

แชร์นิยายฟิคชั่น Share Share Share

 

2) {Fic Free! } [SouRin] Omegaverse - Get me out of here. Part 2 NC18+

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

 

 

 

                                     

 

เสียงของรถไฟที่เสียดสีกับรางดังมาตลอดทาง ตั้งแต่ที่มันเริ่มเคลื่อนที่ออกจากสถานีต้นทางมาจนกระทั่งถึงปลายทางที่ตัวเมืองใหญ่ที่มีตึกสูงระฟ้า

 

ทันทีที่ผมก้าวขาลงจากรถไฟคันยาว ก็ได้เห็นผู้คนต่างก้มหน้าก้มตาเดินเร่งรีบเพราะเดี๋ยวจะขึ้นรถกันไม่ทัน เสียงจราจรดังอื้ออึงที่มาพร้อมกับฝุ่นควันของมลพิษ

 

เป็นครั้งแรกที่ผมได้เดินทางมาไกลขนาดนี้ด้วยตัวคนเดียว แต่ทำยังไงได้ล่ะครับ ในเมื่อหัวใจมันเรียกร้อง ฮ่าฮ่า เปล่าหรอกครับ จริงๆแล้วผมได้ย้ายมาเรียนต่อม.ปลายที่นี่น่ะ

 

อ่า ปวดเมื่อยตัวไปหมดเลยแฮะ ผมขอไปนอนพักเอาแรงก่อนแล้วกันนะครับ

 

.

สายลมเย็นพัดเอื่อยๆ ให้ได้รับอากาศเย็นสบาย ถนนโล่งยาวเพราะยังเช้าอยู่จึงไม่มีผู้คนออกมาเดินเล่น แสงอาทิตย์ที่ตกกระทบกับแม่น้ำ ทำให้ผมได้รู้สึกหวนคิดถึงบ้าน

 

ตอนอยู่ที่นู้นช่วงเช้าๆผมมักจะออกไปวิ่งแถวริมทะเลเป็นประจำ ผมชอบที่จะได้เห็นผืนน้ำทะเลต้องแสงส่องประกายจากพระอาทิตย์ มันสวยงามมากเหมือนกับรอยยิ้มของใครบางคน คนที่เป็นเหมือนกับแสงสว่างให้ผมมีชีวิตชีวา  

 

แต่พระอาทิตย์ก็ส่องสว่างให้เห็นแค่เพียงตอนกลางวัน พอตกค่ำมันก็ลาลับขอบฟ้าไป แล้วแสงสว่างของผมก็เป็นเช่นนั้นเหมือนกัน

 

เขาคนนั้นเป็นเพื่อนสมัยประถมของผม แต่แล้วเขาก็ได้ย้ายโรงเรียนไป ช่วงแรกๆก็ส่งจดหมายมาคุยกันบ้าง แต่พอผมขึ้นมาก็ไม่ได้รับจดหมายจากเขาอีกเลย

 

คิดแล้วก็เศร้าครับ แต่ผมก็รู้ว่าเขาพยายามอย่างหนักเพื่อที่จะได้ทำตามความฝันของตนเอง แล้วเพราะความฝันของเขา มันได้ผลักดันให้ผมเลือกที่จะเดินบนเส้นทางเดียวกันกับเขา ด้วยหวังว่าซักวันพวกเราจะได้พบกันอีกครั้ง

 

อย่างที่ได้กล่าวในตอนต้นว่าผมได้ย้ายโรงเรียนมา ซึ่งโรงเรียนนั้นชื่อว่าซาเมะสึกะครับ ผมสอบได้โควต้านักกีฬาที่นี แน่นอนว่ามันเป็นโอกาสที่ดี

ผมจึงยอมที่จะเดินทางมาไกล เพื่อที่จะพัฒนาให้ความสามารถของผมดียิ่งขึ้น แม้ว่าจะมีเรื่องผิดใจกับคนที่บ้านก็ตามที

 

แล้วระหว่างที่ผมกำลังตอยู่ในห้วงความคิดตัวเองอยู่นั้น จู่ๆก็เกิดไปชนกับใครคนนึงเข้า ผมตกใจเล็กน้อย ก่อนจะรีบคว้าร่างของใครคนนั้นเข้าไว้ไม่ให้ล้มลง แต่ดูเหมือนจะดึงแรงไม่หน่อยก็เลยกลายเป็นซุกเข้าที่หน้าอกผมซะงั้น

 

ชั่วพริบตาก่อนที่ผมจะดึงร่างนั้นเข้ามา เขาคนนี้มีเรือนผมสีแดงงามเหมือนกับใครคนนั้น ทำให้ผมเห็นภาพของเขาซ้อนทับขึ้นมา ก็เลยเป็นอย่างที่เห็นนั่นแหละครับ

 

เขามีกลิ่นที่ผมรู้สึกคุ้นเคย กลิ่นที่ผมเคยได้อยู่อย่างชิดใกล้ เคยได้แอบล่วงเกินสัมผัสยามที่ใครคนนั้นหลับใหลอยู่ข้างกาย

 

 

"เอ่อ ขอโทษด้วยนะครับ แล้วก็ขอบคุณที่ช่วยไว้" เขาก้มตัวโค้งให้ผม ทั้งยังเอ่ยขอบคุณโดยที่ไม่มองหน้าผมเลยด้วยซ้ำ พอเขาเงยหน้าขึ้นมาก็ยิ่งทำให้ผมเห็นใบหน้านั้นได้ชัดเจนยิ่งขึ้น

 

ชายหนุ่มที่ตัวเล็กกว่าผม แต่ก็มีร่างกายที่แข็งแรงเห็นได้จากมัดกล้ามที่เผยให้เห็นจากการที่คนผู้นี้สวมเสื้อแขนสั้นกุด เรือนผมเงางามสีแดง ยิ่งขับให้ใบหน้านั้นมีเสน่ห์มากยิ่งขึ้น ทั้งยังขึ้นสีแดงน้อยๆดูน่ารัก

 

ผมยิ้มกับตัวเองเล็กน้อย โดยที่คนตรงหน้ามองไม่เห็นเพราะมัวแต่ก้มมองพื้นอยู่นั่น ก่อนจะเอ่ยเรียกชื่อเขา

 

“ริน” อีกฝ่ายที่มัวแต่ก้มหน้า ก็รีบเงยขึ้นมามองหน้าผมทันที ดูท่าจะตกใจไม่น้อย ทำหน้าตาเหรอหราน่าเอ็นดู หรือบางทีเขาอาจจะจำผมไม่ได้กันนะ

อ๋อ!!! ผมสวมฮู้ดอยู่นี่เอง ถอดออกแล้วกันเผื่อจะทำให้นึกได้มากขึ้น

 

 

”โซสึเกะ” เมื่อได้ยินชื่อของตัวเองหลุดออกมา ก็ยิ้มสิครับ ยิ้มจนปากแทบจะฉีกถึงหู ก่อนจะคว้าคนตรงหน้าเข้ามาอยู่ในอ้อมกอดอีกครั้ง

ในที่สุด ในที่สุดเราก็ได้พบกับแล้วครับ คนที่ผมเฝ้ารอมานานหลายปี แล้ววันนี้ก็ได้กลับเข้ามาอยู่ในอ้อมแขนของผมคนนี้แล้ว

 

"รินจริงๆด้วย ทำไมไม่ติดต่อมาหาบ้าง ชั้นเป็นห่วงแทบแย่" ผมกอดรัดอีกฝ่ายแน่นอย่างโหยหา แอบน้อยใจเขานิดหน่อยครับ ที่เขาไม่ได้ติดต่อมาหาอีกเลย แต่ไม่เป็นไรเพราะถึงยังไงเราก็หากันเจอแล้ว

 

ผมยกมือลูบผมสีแดงสวยนั้นอย่างถวิลหา แถมยังรับรู้ได้ถึงฟีโรโมนที่ออกมาจากรินได้เล็กน้อย แต่มันบางเบามากครับ ทำให้ผมรู้ได้ว่าเขาเป็นโอเมก้า

 

แล้วจู่คนในอ้อมแขนก็ซุกหน้าเข้ากับอกของผม รู้สึกจั๊กจี้นิดหน่อย แต่ทว่าฟีโรโมนที่ผมรู้สึกได้ในตอนแรก บัดนี้มันกลับแรงมากกว่าเดิมขึ้นไปอีก มือของรินก็จับเข้าที่แขนเสื้อผมแรงมากขึ้นเช่นกัน ดูท่าจะไม่ดีแล้วสิ

 

“ริน” ผมก้มลงไปเอ่ยเรียกอีกฝ่ายแผ่วเบาที่ข้างใบหู ผมไม่ได้จงใจแกล้งอีกฝ่ายหรืออะไรนะครับ ไม่เลยจริงๆ

 

จากนั้นรินก็ผละออกห่างจากตัวผมทันที ใบหน้าของเขาขึ้นสีแดงเล็กน้อย แถมยังหายใจหอบนิดๆ ปากบางของอีกฝ่ายอ้าออกเล็กน้อย เพื่อสูดอากาศเข้า ผมจ้องมองใบหน้านั้นไม่วางตา

 

ไม่เจอกันหลายปี รินก็ยังคงเหมือนเดิม สวยเหมือนเดิมเลยครับ แต่ที่เปลี่ยนก็คงจะเป็น แววตาที่กำลังสั่นไหวดูยาดเยิ้มแพรวพราว ราวกับเชิญชวน

 

อ่า...ให้ตายสิ ผมรู้สึกอยากจะกระโจนเข้าหาผมแดงคนตรงหน้าเสียจริง ไหนจะกลิ่นฟีโรโมนที่โชยออกมานี้อีก

 

แต่ก็ต้องหักห้ามใจไว้ ถึงยังไงเราก็เป็นแค่เพื่อนกันครับ ครับแค่เพื่อนกัน เพื่อนจะห่วงหากันมันผิดตรงไหน  มันออกจะเป็นเรื่องปกติมากเลยนะพวกคุณ แต่ทว่า...

 

"ปะ..ไปคุยกันที่บ้านหน่อยไหม" อ่า บางทีคนเรายอมกลืนน้ำลายตนเองซักเรื่องมันคงไม่ผิดมากหรอกใช่ไหมครับ

 

 

...................................................................

 

 

ตอนนี้ผมนั่งอยู่ในห้องรับแขกของบ้านมัตสึโอกะ ส่วนรินก็ขอตัวไปอาบน้ำ

 

หึ เขาโกหกครับ ห้องอาบน้ำมันอยู่ชั้นล่างแต่เจ้าของบ้านกลับเดินขึ้นไปชั้นบนเสียอย่างนั้น

 

เอ๊ะ! คุณคิดว่าบางทีเขาอาจจะลืมของก็ได้หรอ อือ...นั่นสินะ ผมก็ควรที่จะทำตัวเป็นแขกที่ดี ในเมื่อเจ้าบ้านมีปัญหาผมก็ควรจะต้องช่วยเขา เป็นคนดีใช่ไหมล่ะครับ

 

ว่าแล้วผมก็เดินขึ้นมายังชั้นบน ก่อนที่จะเดินตามหาอีกฝ่ายโดยใช้กลิ่นฟีโรโมนที่หลงเหลืออยู่เป็นตัวนำทาง

 

แล้วมาหยุดที่หน้าห้องหนึ่ง รับรู้ถึงกลิ่นฟีโรโมนซึ่งรุนแรงมาก ก่อนที่ผมจะเปิดประตูเข้าไปด้านในอย่างง่ายดาย มันไม่ได้ล็อคครับ นี่เขาคงจะต้องการความช่วยเหลือจากผมจริงๆสินะ

 

“ริน” ผมเอ่ยเรียกเมื่อเห็นเขากำลังหาอะไรบางอย่างภายในลิ้นชัก คิดถูกจริงๆครับที่ยอมเดินตามอีกฝ่ายมา เพราะดูท่าแล้วคงจะสาหัสสากันเอาเรื่องอยู่

 

“ไหวรึเปล่า” ผมเดินก้าวเข้าไปหาเขาด้วยความเป็นห่วง แต่ดูเหมือนเขาจะไม่อยากรับเท่าไหร่ ยิ่งเดินเข้าใกล้อีกฝ่ายก็ยิ่งถอยไปเรื่อยๆ

 

รินตัวสั่นระริก ปากสีสวยอ้าออกโกยเอาอากาศเข้าหอบใหญ่ หน้าขึ้นสีแดงระเรื่อ เหงื่อไหลโชกจนเสื้อแขนสั้นกุดนั้นแนบเนื้อจนเห็นรูปร่างของอีกฝ่ายได้อย่างชัดเจน มันช่าง...

 

ผมเป็นห่วงเขาจริงๆนะครับ อยากจะเดินเข้าไปช่วยประคองขึ้นบนเตียงดีๆ จากนั้นก็ถอดเสื้อผ้าอีกฝ่ายออก เช็ดเนื้อเช็ดตัวให้ แล้วปรนเปรอ...เอ๊ย! ปรนนิบัติดูแลเป็นอย่างดี แต่เขากลับดูเหมือนจะกลัวผมยังไงก็ไม่รู้ เลยล้มลงไปนั่งกับพื้นที่ข้างเตียง

 

"อย่า...เข้ามา" เสียงอันแหบแห้งนั้นเอ่ยออกมา ผมว่าผมควรที่จะรีบเอาน้ำมาให้เขาดื่มกินดับกระหาย ครับแน่นอนอยู่แล้ว ผมเป็นคนดีครับ ดังนั้นผมก็จะเอาน้ำ ของตนเองเนี่ยแหละ ให้เขาดื่ม

 

 

 

เสียงหอบครางกระเส่าของรินดังไปทั่วห้อง บวกกับฟีโรโมนที่ปล่อยแกมานั้น ยิ่งทำให้ผมแทบคุมร่างกายเอาไว้ไม่อยู่

 

เสื้อแขนสั้นกุดที่บัดนี้ไม่ได้สวมอยู่บนตัว แต่กลับถูกเอาไปใช้มัดมือของคนใต้ร่างผมให้ขึ้นเหนือศีรษะ กางเกงขาสั้นของอีกฝ่ายก็ถูกถอดออกขว้างลงที่ข้างเตียง เหลือเพียงชั้นในสีแดงเหลือหมูที่ปกปิดส่วนนั้นไว้

 

“อื้อ..โซ..สึเกะ”  รินเอ่ยเรียกผมเสียงสั่น หน้าตาที่บิดเบี้ยวอย่างเสียวกระสัน เพราะถูกผมกระทำที่ยอดอกสีชมพูชูชันอย่างแผ่วเบา ด้วยการใช้นิ้วสะกิดมันเบาๆ ก่อนที่จะบดคลึงมันให้อีกฝ่ายรู้สึกเสียวซ่าน

ส่วนอีกข้างก็ใช้ลิ้นแตะสะกิดมัน จนคนผมแดงใต้ร่างสะดุ้ง ก่อนจะร้องครางออกมาอีกครั้งเมื่อผมดูดดันมันเต็มปาก

 

“ยะ..อย่..หยุด...” ดูเหมือนเขาจะชอบมันนะครับ ในเมื่อกล้าเอ่ยขอร้อง ผมก็พร้อมสนองอย่างเต็มที่ครับ

 

ผมเคลื่อนใบหน้าขึ้นไปหาเขาในระดับเดียวกัน ก่อนที่จะประกบปากสอดแทรกเรียวลิ้นเข้าไปด้านใน รินเองก็ตอบรับมันอย่างดี สองลิ้นแลกเปลี่ยนเกี่ยวกระหวัดมันไปมาอย่างไม่มีใครยอมใคร

 

แล้วรินก็ยกมือที่ถูกมัดนั้นมาคล้องคอผมไว้ ดึงรั้งให้ปากสัมผัสกันมากยิ่งขึ้น มือของผมก็บีบคลึงที่หน้าอกของรินสะกิดแตะแผ่วเบาอย่างหยอกล้อ  ก่อนที่จะผละออกเล็กน้อยให้อีกฝ่ายได้กอบโกยอากาศเข้า แล้วประกบเข้าลงไปใหม่อย่างร้อนแรง

 

ร่างกายร้อนผ่าวไปทั่วร่าง ส่วนมืออีกข้างก็เลื่อนลงต่ำพยายามที่จะปลดปราการขั้นสุดท้ายนั้นออก แต่ดูเหมือนจะลำบากเล็กน้อย ผมเลยเป็นฝ่ายผละริมฝีปากนั้นออกมา

 

ก่อนจะเลื่อนตัวต่ำลง ไล้จูบขบกัดที่ต้นคอขาวให้ขึ้นรอยแดง รินไม่ได้สวมปลอกคอ ทำไมถึงเป็นคนไม่รอบคอบอย่างนี้ ถ้าผมเกิดเผลอกัดตีตราคู่เข้าจะทำยังไงล่ะ แต่ถึงยังไงผมก็พร้อมทั้งตัวทั้งใจที่จะรับผิดชอบอีกฝ่ายอยู่แล้วล่ะครับ

 

ผมมองไหปลาร้าขึ้นรูปของอีกฝ่าย มันดูมีเสน่ห์มากครับ ก่อนที่จะใช้ริมฝีปากกดจูบฝากรอยทิ้งเอาไว้  แล้วเงยตัวขึ้นก้มมองคนผมแดงใต้ร่างที่บิดตัวไปมาด้วยกามตัณหา

 

ผมอยู่กลางหว่างขาของริน รู้สึกได้ว่าอีกฝ่ายนั้นต้องการที่จะให้ผมช่วยเหลือมากขนาดไหน ส่วนโป่งพองที่นูนขึ้นมาจากชั้นในสีดำซึ่งถูกเลื่อนลงต่ำเล็กน้อย ลำตัวที่บิดเอียง พร้อมกับช่วงอกที่แอ่นด้วยความวาบหวามขึ้นกับสองแขนที่ถูกมัดวางไว้เหนือหัว ไม่ไหว ผมทนแทบจะไม่ไหวแล้ว

 

คุณอาจจะสงสัยว่าทำไมผมถึงยังดูใจเย็นและควบคุมตนเองได้อยู่สินะ อ่า จะว่าไงดี บางครั้งเราก็ไม่จำเป็นที่จะต้องให้ร่างกายขยับตามสัญชาติญาณ แต่ให้ร่างกายขยับตามความคิดที่ประเมินผลแล้วเป็นความต้องการแทน และผมก็อยากที่จะกระทำบทรัก ไม่ใช่เซ็กส์ที่ต้องปล่อยให้ความปารถนาเบื้องลึกนั้นกัดกินจิตใจ

 

ผมเอื้อมมือไปปลดชั้นในสีดำนั้นออก ยกขาเรียวทั้งสองขึ้นชี้ฟ้าเพื่อให้มันหลุดออกไปให้พ้นทาง

“แก้มัด...แก้มัดให้ที” รินเอ่ยขอร้องพร้อมกับน้ำใสๆปริ่มที่ขอบตา ใบหน้าที่เหมือนจะร้องไห้ จนผมต้องปล่อยให้ขานั้นลงโดยที่มีผมแทรกอยู่ตรงกลางเช่นเดิม ก่อนที่จะโน้มตัวไปจุ๊บแก้มสีแดงแจ๋นั้นเบาๆ พร้อมกับมือที่ปลดเสื้อซึ่งพันธนาการข้อมือบางนั้นออก  

 

รินจับใบหน้าของผมขึ้น เราสบตากันและกันอย่างโหยหา ดวงตาสีแดงงามที่แสนจะคิดถึง ทั้งคนใต้ร่างและดวงตาคู่สวยนี่ที่ผมเฝ้าห่วงหามานานหลายปี ผมซึ่งใช้แขนทั้งสองข้างค้ำยันกับเตียงไว้ ไม่ให้โถมน้ำหนักลงไปมาก

 

จากนั้นรินก็เลื่อนมือไปที่หลังคอผม ก่อนที่จะกดมันลงมาประกบจูบแลกลิ้นกันและกัน ผมตอบรับสัมผัสนั้นอย่างเต็มใจ พร้อมกับมือขวาที่เลื่อนลงไปกอบกุมส่วนอ่อนไหวนั้น สัมผัสมันแผ่วเบาจนรินต้องครางฮือที่ลำคอ ผมยิ่งได้ใจ ใช้มือรูดรั้งสัมผัสมันให้แรงยิ่งขึ้น สัมผัสได้ถึงน้ำที่เริ่มเปียกชื้นแฉะมาจากส่วนปลาย

 

ผมมองรินที่หลับเปลือกตาลง แต่ปากกลับเปิดอ้าเพื่อให้ลิ้นของผมได้แทรกสอดเข้าไป ก่อนที่จะผละตัวออกมาอีกรอบ

 

ผมนั่งคุกเข่าปลายเท้ายกชันขึ้น สะโพกของรินวางชันกับหน้าขา และเมื่อผมเงยตัวขึ้นมาทำให้ขาทั้งสองข้างเปิดอ้าออกยิ่งกว่าเดิม เผยให้เห็นถึงช่องทางรักที่มีน้ำสีใสไหลที่ออกมา มันช่างดูโซฮอทมากเลยครับ

 

ปกติแล้วโอเมก้าเมื่อพร้อมที่จะสืบพันธุ์พวกเขาจะขับสารน้ำหล่อลื่นนั้นออกมา เพื่อระงับความเจ็บปวดหรือไม่ก็เพื่อให้ผู้ล่วงล้ำสอดใส่ได้ง่ายยิ่งขึ้น

 

มือขวาก็รูดรั้งส่วนนั้นไปมีหยุด คนใต้ร่างร้องครางอย่างเสียวกระสัน ผมเองก็คับแน่นตุงเต็มไปหมดแล้วเช่นกัน จึงเคลื่อนตัวสอดเข้าหว่างขาอีกฝ่ายให้มากยิ่งขึ้น จนส่วนที่คับแน่นของผมอยู่ระหว่างช่องทางสีหวานนั้นพอดิบพอดี

 

ผมขยับสะโพกกระแทกเข้าใส่ร่างอีกฝ่ายอย่างกลั้นแกล้ง ให้ส่วนนั้นที่อยู่ใต้ชั้นในของผมสัมผัสกับช่องทางที่น้ำใสนั้นไหลออกมา ผ่านผ้าผืนบาง พร้อมกับมือนั้นที่รูดรั้งไว้ไม่หยุด

เอ่อผมเองก็ยังงงเหมือนกันว่า นี่แกล้งคนใต้ร่างหรือแกล้งตัวเองกันแน่วะเนี่ย แต่...ไม่เป็นไรครับมันก็เสียวดีไปอีกแบบ

 

“อ๊า...มัน...อ๊ะ...” รินครางยกใหญ่ท่าทางจะชอบใจไม่น้อย แล้วดูเหมือนคนใต้ร่างพร้อมที่จะปลดปล่อยออกมา เห็นดังนั้นผมก็หยุดชะงักการกระทำทั้งตัวและมือนั้นทันที

 

“อื้อ...โซ ครับผม” ร้องเรียกทำไมหืม...  ไม่ยอมให้ไปง่ายหรอกนะ หายไปตั้งหลายปีต้องลงโทษซะบ้างจะได้ไม่ทำอีก

 

“อ๊าาา อ่า” เสียงครางสั่นระริกนั้นร้องออกมาอย่างตกใจ เมื่อผมใช้มือจับเข้าที่ขาหนีบทั้งสองข้าง ก่อนจะเคลื่อนตัวถอยออกมาเล็กน้อยแล้วยกชันขาทั้งสองของคนใต้ร่างขึ้น ก้มหน้าต่ำลงไป แล้วใช้ปลายลิ้นไล้เลียวนรอบรอยจีบนั้น ขาสองข้างของรินสั่นระริกจนผมรู้สึกได้ ก่อนสอดแทรกมันเข้าที่ช่องทางนั้น ขยับเข้าออกเพื่อคนถูกกระทำจะครางเสียงหวานให้ได้ยิน

 

“อ๊ะ...อื้อ...โซพอแล้ว...ไม่ไหว” ผมเงยหน้าขึ้นมาทันที มองหน้าคนที่ต้องการจะปลดปล่อยอย่างสุดขีดนั้น อย่างนึกเอ็นดู แล้วแลบลิ้นเลียริมฝีปากของตนเล็กน้อย ก่อนจะเคลื่อนตัวขึ้นไปกระซิบที่ข้างใบหู

 

“ถุงยางล่ะ” เอ่ยถามเช่นนั้นพร้อมกับเป่าลมเข้าใส่เล็กน้อยอย่างหยอกเล่น

 

“อื้อ..อยู่ในลิ้นชัก” อีกฝ่ายครางเล็กน้อย ก่อนที่จะเอ่ยปากตอบ ผมก็เอื้อมตัวไปเปิดลิ้นชักตัวเตี้ยที่หัวเตียง

 

อือ...49หรอ ขนาดมันเล็กไปหน่อย แต่...คงใส่ได้แหละมั้ง ผมแค่52หน่อยๆเอง 

เอ๊ะ! จะบอกว่าอย่าขิงหรอครับ ผมไม่ได้ขิงนะ ก็มันเป็นเรื่องจริงนี่คุณ

 

ผมแกะมันอย่างระมัดระวัง จะใช้ปากฉีกให้ดูเซ็กซี่เร่าร้อนก็กลัวฟันไปโดนแล้วมันขาดครับ ก่อนจะสวมมันเข้าที่ส่วนชูชันสีสวยของคนใต้ร่าง

 

พวกคุณเองก็จำเอาไว้นะครับ จะทำอะไรก็ต้องรู้จักระมัดระวัง ไม่ใช่ว่าผมรังเกียจรินหรืออะไรนะ ถ้าผมรังเกียจเขา ผมก็คงไม่ก้มลงไปเลีย***เขาหรอกจริงไหมครับ ผมเป็นห่วงอนาคตของเขามากกว่า ดังนั้นป้องกันไว้ก่อนนั่นแหละดีแล้ว

 

ผมถอดชั้นในสีดำลายขอบ Under Armourอันแสนเซ็กซี่ของตนออก ก่อนชักรูดมันขึ้นลงอย่างหื่นกระหาย จนคนผมแดงใต้ร่างที่กำลังมองอยู่ต้องหันหน้าหนีอย่างเหนียมอาย

 

“เขินทำไมล่ะ เพราะถึงยังไงมันนายก็กลืนกินหมดอยู่แล้ว” พูดจบคนที่กำลังขวยเขินก็หันหน้ามามองผมขวับ พร้อมกับดวงตาสีแดงสวยที่ถลึงใส่ผมด้วยทั้งโกรธจัดและเขินสุดขีด

 

จากนั้นก็ฉีกถุงยางกลิ่นสตรอเบอร์รี่ หยิบมันออกมาบีบปลายมันเล็กน้อยเพื่อไล่อากาศ ก่อนที่จะสวมใส่เข้าที่ส่วนแข็งขืนของตน ไม่ต้องสงสัยครับว่าสวมมันเข้าไปได้ยังไง เผอิญว่าเหลือบไปเห็นอีกไซส์หนึ่งพอดี รีบคว้าหยิบมาซะเลยครับ

 

ก้มตัวลงไปจูบริมฝีปากนั้นพร้อมกับเรียวลิ้นแทรกสอดกวัดเกี่ยวกันไปมา โดยที่รินก็ยกแขนคล้องเข้าที่คอของผมไว้ ส่วนแข็งขืนอุ่นร้อนของผมก็สัมผัสถูไถช่องทางนั้นอย่างกลั้นแกล้ง ครับแกล้งอีกแล้วครับ หมั่นเขี้ยว

 

“อื้อออ” รินครางในลำคอ พร้อมกับสะโพกของตนที่ส่ายไหวไปมาให้ส่วนนั้นของผมเสียดสีมากยิ่งขึ้น พร้อมกับขาเรียวยาวกับไขว้ไปด้านหลังของผมกดให้สะโพกผมลงแรงมากยิ่งขึ้น

 

“ให้ตายเถอะ อย่าให้ชั้นต้องสติแตกนะริน” ถึงจะพอมีประสบการณ์อยู่บ้างแต่ว่าแบบนี้มัน ต้องเรียกว่าเกินกว่าที่เคยจินตนาการไว้อีกครับ

 

“สติอย่างเดียวหรอ แล้วอย่างอื่นล่ะ”บึ้มมม ดาเมจแอทแทคพร้อมติดคริติคอลคูณคริติคอลดาเมจไปอีกครับคุณ เอ่ยปากเชิญชวนอย่างเดียวไปพอ การกัดปากล่างพร้อมส่งสายตาสุดเซ็กซี่นั่นมันอารายยย

 

ผมยกยิ้มมุมปาก หัวเราะหึ ในลำคอ รอช้าอยู่ใย คำถามนั้นเป็นคำถามเชิงวาทศิลป์ครับ คำถามที่ไม่ต้องการคำตอบ ดังนั้นก็รับรู้โดยการกระทำเสียเถอะ

 

ผมกอบกุมส่วนที่แข็งขืนของตนจ่อที่รอยจีบนั้น และรินเองก็ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดีครับ โดยการจับที่บั้นท้ายงามงอนของตนเอง เปิดอ้าแย้มออกเพื่อให้ส่วนนั้นสามารถเข้าไปได้โดยง่าย

 

“อ๊าาา” เสียงครางกระเส่าของรินดังลั่นไปทั่วห้อง พร้อมกับแอ่นหน้าอกขึ้น เมื่อผมสอดใส่ส่วนนั้นเข้าไปได้จนสุดมิดลำ แช่ค้างไว้เล็กน้อยให้คนด้านล่างได้ปรับตัว

 

ช่องทางสีหวานของรินนั้นอุ่นร้อน และยังตอดขมิบส่วนนั้นของผมจนแทบขยับไม่ได้ จึงก้มตัวลงไปดูดคลึงที่หน้าอกของคนใต้ร่างหวังให้ผ่อนคลายอพร้อมกับนิ้วมือก็บดคลึงอีกข้างเช่นกัน

 

เมื่อรู้สึกว่าแรงตอดรัดนั้นผ่อนลงเล็กน้อยแล้ว ผมก็ยกลำตัวขึ้นแล้วจับเข้าที่สะโพกของอีกฝ่ายให้ยกสูงขึ้นเล็กน้อย

 

“อ๊า..อื้อ” รินร้องครางเมื่อผมขยับสะโพกจนอีกฝ่ายขยับขึ้นลง ขาเรียวก็เกี่ยวกวัดไปที่ข้างหลังผม

 

จากนั้นคนใต้ร่างก็ยกสองแขนขึ้น ผมก้มตัวลงไปอย่างรู้งาน ก่อนที่จะบดจูบบนริมฝีปากนั้นพร้อมกับรินที่ใช้แขนนั้นคล้องคอผม กระแทกกระทั้นสะโพกใส่อีกฝ่ายให้เสร็จสมกับความต้องการ

 

 

 

ไม่รู้ว่าทั้งสองนั้นเสร็จสมแตะสวรรค์ไปแล้วกี่รอบ รู้เพียงแต่ว่าเขาทั้งสองต่างโหยหาต้องการเติมเต็มกันและกัน ส่วนแข็งขืนของคนด้านบนยังคงขยับเข้าออกไม่หยุดหย่อน เสียงครางหวานของคนผมแดงใต้ร่างก็ดังระงมไปทั่วห้อง โดยที่ไม่สนเลยว่าจะมีใครผ่านมาแล้วได้ยินมันเข้า

 

บางทีรินก็อาจจะลืมไปว่าบ้านนี้ตนนั้นไม่ได้อยู่เพียงลำพัง แต่ยังมีน้องสาวแสนสวยอาศัยอยู่ในบ้านหลังนี้ด้วย และโซสึเกะอาจจะลืมหรือไม่ก็อาจจงใจที่จะไม่ล็อคประตูจนมันเปิดแง้มไว้

 

จนทำให้เด็กสาวผมแดง ซึ่งพึ่งจะกลับเข้ามาถึงบ้านต้องรับรู้ถึงฟีโรโมนอันร้อนแรงที่อบอวนไปทั้งบ้านและเสียงครางกระเส่าของพี่ชายที่ดังลอดออกมาจากห้องนั้น โดยตั้งแต่แรกเริ่ม

 

งานนี้โกวจังคงไม่ต้องพึ่งพาเครื่องตรวจเพศสภาพแล้วแหละ เพราะเธอรู้ได้ด้วยตนเองแล้วว่า เธอนั้นเป็นอัลฟ่า...

 

 

 

 

 ..............................................................................................

rule มันไม่มีไรมาก โซสึเกะเป็นคิงอัลฟ่า ดังนั้นเลยคุมสติตัวเองได้ค่อยข้างดี เวลาที่ได้รับฟีโรโมนโอเมก้า 

พึ่งแต่งแนวนี้เป็นครั้งแรก พวกฟีโรโมนก็เลยไม่ค่อยได้บรรยายเท่าไหร่//กุมขมับ

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น

✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง

✓ เรื่องนี้ไม่มีเจตนาทำให้บุคคลที่อ้างถึงเสียชื่อเสียง และฉันจะยอมรับผิดเมื่อบุคคลนั้นตำหนิหรือเตื่อนมา

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
10 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
10 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
10 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

คุณคิดยังไงกับนิยายฟิคชั่นเรื่องนี้

* สามารถกรอกแบบสำรวจโดยไม่ต้องเป็นสมาชิกก็ได้ครับ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา