{Fic Gintama Yaoi } [HijiGin]
5.3
เขียนโดย sakitsuke
วันที่ 27 มีนาคม พ.ศ. 2562 เวลา 18.09 น.
3 ตอน
2 วิจารณ์
12.00K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 27 มีนาคม พ.ศ. 2562 18.18 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น
3) {Fic Gintama Yaoi } [HijiGin] - คูุณกิน in Songkran day R-18
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความผู้คนที่เดินกันเต็มทั่วท้องถนน ในมือต่างก็ถืออาวุธคู่กายเตรียมพร้อมการโจมตีตลอดเวลา กระสุนถูกบรรจุไว้จนเต็มล้น ดวงตาหลายร้อยคู่จับจ้องไปยังเป้าหมายอย่างแน่วแน่ มือสาวชักด้ามเตรียมพร้อมที่จะทำสงคราม จากนั้นก็พากันลั่นไกโดยพร้อมเพรียง
สวัสดีวันสงกรานต์จ้า สุขสันต์วันสงกรานต์เด้อ เสียงร้องดังก้องไปทั่วของผู้คนที่ต่างก็พากันยกยิ้มอย่างมีความสุข ทั้งที่พากันยืนท่ามกลางสภาพอากาศที่อุณหภูมิสูงถึง35องศา
ในสภาพภูมิอากาศที่เช่นนี้ไม่ได้น่าอภิรมย์เลยสักนิด แต่ทว่าผู้คนที่รวมตัวกันตามท้องถนนต่างๆหาได้สนใจความรู้สึกร้อนอบอ้าวเช่นนั้นไม่ พวกเขากำลังหัวเราะแล่นละเล่นกันอย่างสนุกสนาน น้ำใสสะอาดถูกสาดฉีดใส่กันไปมา
“ให้ตายเหอะ วันนี้เป็นวันหยุดแท้ๆ ทำไมพวกเราถึงต้องยังมาทำงานอีกล่ะครับ” โซโกะบ่นเสียงครางยาน แต่ดวงตาสีน้ำตาลกลมก็ยังคงทำหน้าที่สอดส่องไปทั่วบริเวณ
“อย่าบ่นนักเลยน่า ฉันเองก็ไม่มีกะจิตกะใจอยากจะมาเหมือนกันนั่นแหละ” ฮิจิคาตะก็รู้สึกไม่ต่างกับอีกฝ่ายเท่าใดนัก
วันนี้สองหนุ่มหล่อแห่งชินเซ็นกุมิได้รับหมอบหมายให้มาตรวจแถบเมืองคาบูกิโชในย่านชินจูกุ แม้จะเป็นวันหยุดแต่พวกเขาก็จำเป็นที่จะต้องดูแลรักษาความปลอดภัยให้เรียบร้อย
หญิงสาวและหนุ่มน้อยต่างก็หันมาจับจ้องที่สองตำรวจหนุ่มไม่วางตา แม้จะอยู่ในเวลางานแต่พวกเขาก็ไม่ได้สวมใส่ชุดเครื่องแบบ กลับสวมเสื้อลายดอกผ้าโปร่งบางเพื่อให้เข้ากับเทศกาลในช่วงนี้
ผมสีดำที่เปียกลู่แนบกับใบหน้าอันหล่อเหลา ยิ่งขับให้น่ามองมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะยามที่เจ้าตัวเขา ยกมือเสยผมที่หล่นมาปรกหน้าให้ไปด้านหลัง ทำเอาสาวๆแถวนั้นกรี๊ดกร๊าดกันยกใหญ่
“ฮิจิคาตะซังเนี่ย เสน่ห์แรงจริงๆเลยน้า” คำยกยอของโซโกะไม่ได้ทำใช้ผู้ถูกชมดีใจแต่อย่างใด ทำเพียงแค่ปรายตามองเท่านั้น ก่อนจะมุ่งหน้าเดินตรวจตราไปรอบๆ
ตลอดเส้นทางที่ทั้งสองพากันเดินผ่าน ก็ถูกสาดน้ำใส่ฉีดน้ำใส่บ้างตามกาลละเล่นของเทศกาล สาวๆบางคนก็ใจกล้าเดินเข้ามาขอปะแป้งกับสองหนุ่ม แต่เมื่อได้สบกับดวงตาสีดำอันทะถมึงทึงนั้นก็พากันถอยร่นกลับอย่างรวดเร็ว
ซ่าาาา แล้วระหว่างที่ฮิจิคาตะกำลังทำหน้าบูดบึ้งไม่สบอารมณ์ จู่ๆก็มีใครบางคนสาดน้ำใส่เขา เขาคงทำเป็นเมินเฉยไม่สนใจอย่างที่ผ่านๆมาไม่ได้ ถ้าหากว่าผู้ที่สาดน้ำใส่เขานั้นไม่ใช่ใครคนนั้น
“ไง ขยันจริงนะพวกแก วันหยุดทั้งทีก็ยังทำงาน เหนื่อยแย่เลยนะ” เสียงใสๆของคนตรงหน้าพร้อมกับรอยยิ้มกว้างที่ส่งมา ทำให้หนุ่มผมดำถึงกับใจเต้นแรง ใครคนนั้นคือกินโทกิชายหนุ่มผมเงินผู้ที่สาดน้ำใส่เขา ศัตรูคูกัดกันมาแต่ไหนแต่ไร
ไม่ใช่เรื่องแปลกที่จะเห็นชายคนนี้ออกมาร่วมสาดน้ำเล่นสนุกกับคนอื่นเขา แม้จะเป็นพวกเบื่อโลกชอบทำตาแบบปลาตาย แต่เมื่อยามมีงานเทศกาลก็มักจะไหลกับชาวบ้านเขาไปเรื่อย
ฮิจิคาตะไล่สายตามองคนตรงหน้าตั้งแต่หัวจรดเท้า กินโทกินั้นเป็นคนที่มีผิวขาวอยู่แล้ว แม้ว่าเจ้าตัวจะตากแดดฝึกซ้อมดาบกลางแจ้งผิวขาวๆนั่นก็ไม่ได้ไหม้เสียแต่อย่างใด
เรือนผมสีเงินฟูยุ่งเหยิงมีหยดน้ำเกาะที่ปลายผม ให้มันลู่ลงแนบที่ใบหน้าขาวใส แก้มทั้งสองนั้นแดงปลั่งไม่รู้ว่าเพราะฤทธิ์ของแอลกอฮอล์หรืออากาศร้อนกันแน่ ฮิจิคาตะปรายตามองไปรอบๆ เห็นชายหนุ่มหลายคนกำลังมองมายังคนผู้นี้ด้วยแววตากรุ้มกริ่ม
จากการที่กินโทกิสวมเสื้อสีชมพูลายดอก บัดนี้นั้นเปียกปอนจนแนบเนื้อหนัง อวดเรือนร่างเพรียวได้รูปให้คนพวกนั้นได้เชยชม อีกทั้งยังสวมกางเกงขาสั้นกุดสีดำยิ่งขับให้เรียวขาขาวนั้นน่ามองยิ่งขึ้น
ท่านรองแห่งหน่วยชินเซ็นกุมิ จู่ๆก็รู้สึกอยากจะเอาดาบจ้วงแทงดวงตา ที่บังอาจจ้องมองมายังคนผู้นี้ให้มืดบอดไปหมดเสีย
“นี่ยัยหมวยเธอเอาสมองส่วนไหนคิด ถึงได้ใส่กางเกงขาสั้นปานนั้น จะอวดกล้ามขาอันทรงพลังให้ชาวบ้านเขาเห็นรึยังไง” ชายหนุ่มที่กำลังเหมือนจะพูดคุยกันอยู่นั้น ก็ได้หันหน้าไปตามทิศทางของเสียง
“ลื้อมีปัญหาอะไรกับอั้ว จะใส่แบบไหนมันจะทำไม ลื้อเป็นพ่ออั้วรึไง ขนาดคุณแม่อากินจังยังไม่ว่าอะไรอั้วสักคำ” เด็กสาวผมส้มคางุระ กล่าวจบก็ยกนิ้วชี้ไปยังชายผมเงินที่กำลังมองเธออยู่ จนอีกฝ่ายนั้นต้องแอบสะดุ้ง
“เออ ก็เป็นนะสิ พ่อทูนหัวไง” จากนั้นสงครามสาดน้ำของหนุ่มสาวทั้งสองก็ได้ดำเนินเริ่มขึ้น
ฮิจิคาตะถึงกับยกมือนวดขมับที่เห็นเด็กในปกครองยังทำตัวไม่รู้จักโต ทั้งที่อายุก็ปาไปสิบเจ็บสิบแปดแล้ว ส่วนกินโทกิก็ได้แต่ยิ้มแห้งๆกับพฤติกรรมของสองคนนั้น
“แวะพักที่ร้านทุ่งสวรรค์ชั้นฟ้ากันก่อนไหม น่าจะเดินมานานแล้วนะ” หนุ่มผมดำหันไปมองยังผู้พูด ที่กำลังแสดงท่าทีเขินอายออกมา ทั้งที่ตนนั้นเป็นฝ่ายเชิญชวนแท้ๆ
“อืม ก็ดี” ฮิจิคาตะตอบรับคำนั้น ก่อนที่จะเดินตามหลังของคนผมเงินไป
แม้ระยะทางจะไม่ไกลเท่าใดนัก แต่ด้วยจำนวนคนที่บดเบียดกันเต็มท้องถนน ทำให้การเดินผ่านไปนั้น ช่างยากลำบาก
“คุณซากาตะ ผมขอปะแป้งหน่อยนะครับ” ในระหว่างทางเดินจู่ๆก็มีชายหนุ่มคนหนึ่งเอ่ยร้องขอ ชายหนุ่มผมเงินก็ไม่ได้บอกปฏิเสธแต่อย่างใด ซ้ำยังยื่นแก้มขาวใสไปให้ฝ่ายนั้นได้ละเลงเสียอีก
“สุขสันต์วันสงกรานต์นะ” กินโทกิเอ่ยพร้อมรอยยิ้มกว้างให้ชายผู้นั้น โดยที่ไม่รู้เลยว่าความสดใสนั้นกระแทกเข้าดวงตาของอีกฝ่ายมากเพียงใด ฮิจิคาตะที่ยืนมองอยู่นานก็เริ่มจะหงุดหงิดขึ้นมาก เพราะมันเป็นเช่นนี้มาตลอดทั้งเส้นทาง
“ทำบ้าอะไรของแกเนี่ย” กินโทกิร้องโวยวายยกใหญ่ ทันทีที่พวกเขาสองคนมาถึงที่หมาย ฮิจิคาตะก็ตักน้ำในถังมาราดตั้งแต่หัวของชานหนุ่มผมเงินโดยไม่บอกกล่าวแต่อย่างใด
“หนวกหู ร่องรอยที่คนพวกนั้นได้ทำเอาไว้น่ะ ลบมันออกไปให้หมด” กล่าวจบหนุ่มผมดำก็ตักน้ำมาราดใส่อีกขันหนึ่ง พร้อมกับมือที่ลูบไปทั่วบนหน้าใส
ผู้ถูกกระทำก็ได้แต่ไอคอกแคกออกมา จากการที่น้ำมันไหลเข้าจมูก จนกระทั่งฝ่ายนั้นทำความสะอาดใบหน้านั้นจนพอใจขากนั้นสองหนุ่มเดินมานั่งพักตรงเก้าอี้ที่หน้าร้าน ซึ่งมีคนสองคนนั่งอยู่ก่อนหน้านี้แล้ว
“อ้าว ท่านฮิจิคาตะ มาเล่นแถวนี้เหมือนกันหรอครับเนี่ย” ชายหนุ่มหน้าตาดีผมทอง ผุ้เป็นเจ้าของร้าน เคียวชิโร่ กล่าวทักทาย เมื่อเห็นว่าทั้งสองคนได้ทำธุระส่วนตัวเสร็จสิ้นแล้ว
“เปล่า มาเดินตรวจเวร” หนุ่มผมดำตอบกลับเสียงราบเรียบเช่นปกติ ดวงตาคมเรียวจับจ้องที่กินโทกิอย่างไม่ลดละ เมื่อฝ่ายนั้นได้ยกแก้วเหยือกใหญ่กรอกน้ำสีอำพันไหลลงคอ
“เอามาอีกแก้วซิ” ฮาจิโร่ เมื่อเห็นว่านั้นแก้วนั้นว่างเปล่าแล้ว จึงเอ่ยสั่งกับคนผมเอฟโฟร่ที่ได้นั่งอยู่ในตอนแรก
ช่วงเทศกาลแบบนี้ การดื่มของมึนเมาถือเป็นเรื่องปกติในย่านแถบนี้ อีกทั้งร้านเหล้าและสถานให้ความบันเทิงมากมาย ต่างก็พากันเปิดร้านแบบเอ้าท์ดอร์ โดยการยกโต๊ะเก้าอี้ออกมาทั้งวางเรียงที่หน้าร้าน ให้ลูกค้าได้นั่งพักชมบรรยากาศเทศกาลของการหยุดยาวนี้
บางร้านก็มีการนำถังน้ำออกมาตั้งไว้ ให้ผู้ที่ต้องการมาเติมได้แบบไม่คิดตังค์ และยังมีการจัดแสดงชุดพิเศษของซือจัง ที่ถูกเคียวทาโร่จ้างมาโดยเฉพาะ ยิ่งสร้างบรรยากาศให้ย่านนี้สนุกครึกครื้นกันมากขึ้นไปอีก
“โอซือจางงงง” เสียงร้องตะโกนอันคุ้นหู เรียกให้กินโทกิหันไปมอง ก็พบว่าท่ามกลางกลุ่มผู้คนอันหนาแน่นนั้น ชายหนุ่มผมดำผู้สวมแว่นตาลูกจ้างอีกคนหนึ่งของร้าน ชินปาจิ กำลังส่งเสียงเชียร์คนบนเวทียกใหญ่ พร้อมกับมีลูกสมุนที่เป็นแฟนคลับกลุ่มเดียวกันส่งเสียงร้องช่วยอีกด้วย
กินโทกิมองภาพนั้นนิ่ง มุมปากยกยิ้มขึ้นอย่างถูกใจ ก่อนจะวางแก้วที่มีน้ำมึนเมาลงบนโต๊ะไม้ ลุกขึ้นยืนเต็มความสูง แล้วเดินก้าวขายาวเข้าไปหากลุ่มผู้คนเหล่านั้น
ฮิจิคาตะได้เข้าห้องน้ำทำธุระส่วนตัว แต่เมื่อออกมาอีกทีก็ไม่เจอคนผู้นั้นเสียแล้ว ชายหนุ่มตกใจนิดหน่อยเมื่อใครอีกคนนั้นได้หายตัวไปเสียแล้ว ดวงตาดุจเหยี่ยวกวาดตามองไปทั่ว แล้วในที่สุดก็ได้พบกับเป้าหมาย
ชายหนุ่มผมเงินกำลังโยกย้ายส่ายสะโพกเต้นใส่เพลงอย่างเข้าจังหวะ ซึ่งมีเหล่าชายหนุ่มมากหน้าหลายตายืนล้อมรอบ แล้วเขายังได้เห็นว่ามือของใครบางคนกำลังจับที่สะโพกเพรียวได้รูป โดยที่คนถูกกระทำนั้นไม่รู้ตัวเลยสักนิด
หนุ่มผมดำกำลังโกรธเลือดขึ้นหน้า เมื่อได้เห็นภาพที่เกิดขึ้น เขาจึงเดินเข้าไปหา สอดแทรกผู้คนอันแน่นหนามุดตัวไปยังใครอีกคน
“อ้าว ไม่คิดว่าคนอย่างนายก็อยากจะเต้นกับเขาเหมือนกันนะเนี่ย มาสิ มาเต้นกัน” กินโทกิเอ่ยขึ้นอย่างแปลกใจ
แทนที่หนุ่มผมเงินจะรับรู้ถึงอารมณ์อันบูดเบี้ยวที่เกิดขึ้น ก็หาได้เป็นอย่างนั้นไม่ ซ้ำยังยกสองแขนคล้องเข้าที่ลำคอของคนตัวสูงกว่า ก่อนจะขยับเคลื่อนไหวร่างกายอีกครั้งหนึ่ง
ท่วงท่าที่แสดงออกมาจากกินโทกิ ทำให้อารมณ์บูดบึ้งนั้นมลายหายไปทันที แต่กลับมีอารมณ์อย่างอื่นมาแทรกแซงเอาเสียได้ ก่อนที่อีกฝ่ายจะยื่นหน้าเข้าไปใกล้ แลบลิ้นไล้เลียบนริมฝีปากสีอ่อนนั้น
ฮิจิคาตะเมื่อเห็นการกระทำเช่นนั้นก็ยกยิ้มอย่างพอใจ หลงลืมไปเสียหมดแล้วว่าคราแรกนั้น ได้โกรธเคืองสิ่งใดกับคนตรงหน้า ยกมือทั้งสองของตนจับเข้าที่สะโพกเพรียวงาม ก่อนจะดึงรั้งร่างนั้นเข้ามาใกล้ แล้วบดจูบกลับคืนอีกฝ่ายไป
ในยามนี้ไม่มีใครจะมาสนอกสนใจพวกเขาหรอก แต่ละคนต่างก็จดจ่ออยู่กับจังหวะดนตรีที่กำลังบรรเลงอย่างสนุกสุดเหวี่ยง
สองร่างซึ่งบดเบียดกัน กำลังแลกลิ้นอย่างร้อนแรง รับรู้ได้ถึงการเสียดทานของบางสิ่งบางอย่างที่ส่วนล่าง กินโทกิร้อนวูบวาบไปทั่วตัว น้ำเย็นที่สาดกระทบก็ไม่ได้ทำให้มันดับมอดลงไปได้
ผู้คนมากมายกำลังโยกย้ายขยับไหวเรือนร่างไปมาตามจังหวะเพลง จึงเป็นการยากที่จะฝ่าเหล่าคนพวกนี้ออกไป ในยามนี้ร่างของคนทั้งสองกำลังมีความต้องการมากยิ่งขึ้น อยากที่จะกระทำในสิ่งที่มากและเกินไปกว่านี้
“ฮิจิ...คาตะ” เสียงแหบพร่าเอ่ยกระซิบที่ข้างหู ก่อนที่จะขบกัดมันอย่างหยอกล้อ ทำให้คนผมดำทนไม่ไหวอีกต่อไป
หนุ่มผมดำยกช้อนร่างของใครอีกคนในอ้อมแขน แล้วตัดสินใจเดินฝ่าออกมาทั้งอย่างนั้น แม้จะโดนแรกกระแทกจากรอบข้างเขาก็ไม่สน เพราะตอนนี้ความต้องการมันมากล้นจนจะทนไว้ไม่ไหว
ฮิจิคาตะพาคนในอ้อมแขนเดินขึ้นบันไดมายังชั้นบนของร้าน พาเข้าห้องซึ่งมีไว้สำหรับลูกค้าที่เมาหนัก จนไม่อาจเดินทางกลับไปได้
ทันทีที่ว่างร่างนั้นบนเตียงกว้าง หนุ่มผมดำก็กระโจนเข้าใส่อีกฝ่ายอย่างรวดเร็ว บดเบียดริมฝีปาก สอดแทรกเรียวลิ้นเข้าหากันตามแรงอารมณ์
มือลูบไล้เลิกเสื้อที่เปียกน้ำนั้นขึ้นด้านบน ก่อนจะก้มตัวไล้เลียที่จุดชมพูซึ่งตั้งชูชันนั้นอย่างอ้อยอิ่ง อีกข้างก็ใช้ปลายนิ้วสะกิดจนแข็งสู้มือ
กินโทกิเชิดหน้าขึ้นด้วยความเสียวซ่าน นิ้วมือสอดแทรกไปตามไรผมเพื่อระบายอารมณ์ ลำตัวโค้งแอ่นขึ้นให้อีกฝ่ายได้สัมผัสกับมันมากยิ่งขึ้น
“อื้ออ” ส่งเสียงในลำคอ เมื่อฮิจิคาตะลูบไล้ที่ส่วนโป่งพอง โดยไม่ถอดกางเกงขาสั้นดำนั้นออก ราวกำกังกลั่นแกล้งกันอยู่อย่างไรอย่างนั้น
เมื่อเห็นสีหน้าของคนใต้ร่างแสดงออกมาอย่างถูกอกถูกใจ ชานหนุ่มผมดำก็ตัดสินใจ ปลดเปลื้องอาภรณ์เหล่านั้นออกจนหมด ทั้งของตนเองและของคนใต้ร่าง
.
.
.
กินโทกิฟุบหน้าลงบนอกแกร่งกำยำหอบหายใจด้วยความเหนื่อยล้าแต่ปนด้วยความสุขสม ดวงตาสีแดงปรือขึ้นอย่างอ่อนแรง ก่อนที่จะหลับไปทั้งที่ยังมีสิ่งใดสอดแทรกภายในกาย
หนุ่มผมดำจึงถอดถอนแกนกายออกมา แล้วจัดท่าให้อีกฝ่ายนอนลงอย่างดิบดี แล้วเช็ดทำความสะอาดตามเรียวขาที่เปรอะเปื้อนไปด้วยคราบน้ำกาม แล้วล้มตัวนอนลงด้านข้าง ดึงรั้งร่างของอีกฝ่ายให้เข้ามาภายในอ้อมแขน ก่อนจะนอนหลับตามกันไป
และคาดการณ์ได้เลยว่า ช่วงหยุดยาวนี้ชายหนุ่มผมเงินคงจะไม่ได้ออกไปเล่นที่ไหน และใช้ช่วงเวลาวันหยุดกับการถูกอีกฝ่ายกกกอดอีกเป็นแน่
สุดท้ายนี้ สวัสดีวันสงกรานต์เด้ออออ
.................................................................
Nc ไปตามเอาเด้อ เขินแรงไม่กล้าลง
Twitter @sakitsuke แวะคุยกันได้น้าาาา
สวัสดีวันสงกรานต์จ้า สุขสันต์วันสงกรานต์เด้อ เสียงร้องดังก้องไปทั่วของผู้คนที่ต่างก็พากันยกยิ้มอย่างมีความสุข ทั้งที่พากันยืนท่ามกลางสภาพอากาศที่อุณหภูมิสูงถึง35องศา
ในสภาพภูมิอากาศที่เช่นนี้ไม่ได้น่าอภิรมย์เลยสักนิด แต่ทว่าผู้คนที่รวมตัวกันตามท้องถนนต่างๆหาได้สนใจความรู้สึกร้อนอบอ้าวเช่นนั้นไม่ พวกเขากำลังหัวเราะแล่นละเล่นกันอย่างสนุกสนาน น้ำใสสะอาดถูกสาดฉีดใส่กันไปมา
“ให้ตายเหอะ วันนี้เป็นวันหยุดแท้ๆ ทำไมพวกเราถึงต้องยังมาทำงานอีกล่ะครับ” โซโกะบ่นเสียงครางยาน แต่ดวงตาสีน้ำตาลกลมก็ยังคงทำหน้าที่สอดส่องไปทั่วบริเวณ
“อย่าบ่นนักเลยน่า ฉันเองก็ไม่มีกะจิตกะใจอยากจะมาเหมือนกันนั่นแหละ” ฮิจิคาตะก็รู้สึกไม่ต่างกับอีกฝ่ายเท่าใดนัก
วันนี้สองหนุ่มหล่อแห่งชินเซ็นกุมิได้รับหมอบหมายให้มาตรวจแถบเมืองคาบูกิโชในย่านชินจูกุ แม้จะเป็นวันหยุดแต่พวกเขาก็จำเป็นที่จะต้องดูแลรักษาความปลอดภัยให้เรียบร้อย
หญิงสาวและหนุ่มน้อยต่างก็หันมาจับจ้องที่สองตำรวจหนุ่มไม่วางตา แม้จะอยู่ในเวลางานแต่พวกเขาก็ไม่ได้สวมใส่ชุดเครื่องแบบ กลับสวมเสื้อลายดอกผ้าโปร่งบางเพื่อให้เข้ากับเทศกาลในช่วงนี้
ผมสีดำที่เปียกลู่แนบกับใบหน้าอันหล่อเหลา ยิ่งขับให้น่ามองมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะยามที่เจ้าตัวเขา ยกมือเสยผมที่หล่นมาปรกหน้าให้ไปด้านหลัง ทำเอาสาวๆแถวนั้นกรี๊ดกร๊าดกันยกใหญ่
“ฮิจิคาตะซังเนี่ย เสน่ห์แรงจริงๆเลยน้า” คำยกยอของโซโกะไม่ได้ทำใช้ผู้ถูกชมดีใจแต่อย่างใด ทำเพียงแค่ปรายตามองเท่านั้น ก่อนจะมุ่งหน้าเดินตรวจตราไปรอบๆ
ตลอดเส้นทางที่ทั้งสองพากันเดินผ่าน ก็ถูกสาดน้ำใส่ฉีดน้ำใส่บ้างตามกาลละเล่นของเทศกาล สาวๆบางคนก็ใจกล้าเดินเข้ามาขอปะแป้งกับสองหนุ่ม แต่เมื่อได้สบกับดวงตาสีดำอันทะถมึงทึงนั้นก็พากันถอยร่นกลับอย่างรวดเร็ว
ซ่าาาา แล้วระหว่างที่ฮิจิคาตะกำลังทำหน้าบูดบึ้งไม่สบอารมณ์ จู่ๆก็มีใครบางคนสาดน้ำใส่เขา เขาคงทำเป็นเมินเฉยไม่สนใจอย่างที่ผ่านๆมาไม่ได้ ถ้าหากว่าผู้ที่สาดน้ำใส่เขานั้นไม่ใช่ใครคนนั้น
“ไง ขยันจริงนะพวกแก วันหยุดทั้งทีก็ยังทำงาน เหนื่อยแย่เลยนะ” เสียงใสๆของคนตรงหน้าพร้อมกับรอยยิ้มกว้างที่ส่งมา ทำให้หนุ่มผมดำถึงกับใจเต้นแรง ใครคนนั้นคือกินโทกิชายหนุ่มผมเงินผู้ที่สาดน้ำใส่เขา ศัตรูคูกัดกันมาแต่ไหนแต่ไร
ไม่ใช่เรื่องแปลกที่จะเห็นชายคนนี้ออกมาร่วมสาดน้ำเล่นสนุกกับคนอื่นเขา แม้จะเป็นพวกเบื่อโลกชอบทำตาแบบปลาตาย แต่เมื่อยามมีงานเทศกาลก็มักจะไหลกับชาวบ้านเขาไปเรื่อย
ฮิจิคาตะไล่สายตามองคนตรงหน้าตั้งแต่หัวจรดเท้า กินโทกินั้นเป็นคนที่มีผิวขาวอยู่แล้ว แม้ว่าเจ้าตัวจะตากแดดฝึกซ้อมดาบกลางแจ้งผิวขาวๆนั่นก็ไม่ได้ไหม้เสียแต่อย่างใด
เรือนผมสีเงินฟูยุ่งเหยิงมีหยดน้ำเกาะที่ปลายผม ให้มันลู่ลงแนบที่ใบหน้าขาวใส แก้มทั้งสองนั้นแดงปลั่งไม่รู้ว่าเพราะฤทธิ์ของแอลกอฮอล์หรืออากาศร้อนกันแน่ ฮิจิคาตะปรายตามองไปรอบๆ เห็นชายหนุ่มหลายคนกำลังมองมายังคนผู้นี้ด้วยแววตากรุ้มกริ่ม
จากการที่กินโทกิสวมเสื้อสีชมพูลายดอก บัดนี้นั้นเปียกปอนจนแนบเนื้อหนัง อวดเรือนร่างเพรียวได้รูปให้คนพวกนั้นได้เชยชม อีกทั้งยังสวมกางเกงขาสั้นกุดสีดำยิ่งขับให้เรียวขาขาวนั้นน่ามองยิ่งขึ้น
ท่านรองแห่งหน่วยชินเซ็นกุมิ จู่ๆก็รู้สึกอยากจะเอาดาบจ้วงแทงดวงตา ที่บังอาจจ้องมองมายังคนผู้นี้ให้มืดบอดไปหมดเสีย
“นี่ยัยหมวยเธอเอาสมองส่วนไหนคิด ถึงได้ใส่กางเกงขาสั้นปานนั้น จะอวดกล้ามขาอันทรงพลังให้ชาวบ้านเขาเห็นรึยังไง” ชายหนุ่มที่กำลังเหมือนจะพูดคุยกันอยู่นั้น ก็ได้หันหน้าไปตามทิศทางของเสียง
“ลื้อมีปัญหาอะไรกับอั้ว จะใส่แบบไหนมันจะทำไม ลื้อเป็นพ่ออั้วรึไง ขนาดคุณแม่อากินจังยังไม่ว่าอะไรอั้วสักคำ” เด็กสาวผมส้มคางุระ กล่าวจบก็ยกนิ้วชี้ไปยังชายผมเงินที่กำลังมองเธออยู่ จนอีกฝ่ายนั้นต้องแอบสะดุ้ง
“เออ ก็เป็นนะสิ พ่อทูนหัวไง” จากนั้นสงครามสาดน้ำของหนุ่มสาวทั้งสองก็ได้ดำเนินเริ่มขึ้น
ฮิจิคาตะถึงกับยกมือนวดขมับที่เห็นเด็กในปกครองยังทำตัวไม่รู้จักโต ทั้งที่อายุก็ปาไปสิบเจ็บสิบแปดแล้ว ส่วนกินโทกิก็ได้แต่ยิ้มแห้งๆกับพฤติกรรมของสองคนนั้น
“แวะพักที่ร้านทุ่งสวรรค์ชั้นฟ้ากันก่อนไหม น่าจะเดินมานานแล้วนะ” หนุ่มผมดำหันไปมองยังผู้พูด ที่กำลังแสดงท่าทีเขินอายออกมา ทั้งที่ตนนั้นเป็นฝ่ายเชิญชวนแท้ๆ
“อืม ก็ดี” ฮิจิคาตะตอบรับคำนั้น ก่อนที่จะเดินตามหลังของคนผมเงินไป
แม้ระยะทางจะไม่ไกลเท่าใดนัก แต่ด้วยจำนวนคนที่บดเบียดกันเต็มท้องถนน ทำให้การเดินผ่านไปนั้น ช่างยากลำบาก
“คุณซากาตะ ผมขอปะแป้งหน่อยนะครับ” ในระหว่างทางเดินจู่ๆก็มีชายหนุ่มคนหนึ่งเอ่ยร้องขอ ชายหนุ่มผมเงินก็ไม่ได้บอกปฏิเสธแต่อย่างใด ซ้ำยังยื่นแก้มขาวใสไปให้ฝ่ายนั้นได้ละเลงเสียอีก
“สุขสันต์วันสงกรานต์นะ” กินโทกิเอ่ยพร้อมรอยยิ้มกว้างให้ชายผู้นั้น โดยที่ไม่รู้เลยว่าความสดใสนั้นกระแทกเข้าดวงตาของอีกฝ่ายมากเพียงใด ฮิจิคาตะที่ยืนมองอยู่นานก็เริ่มจะหงุดหงิดขึ้นมาก เพราะมันเป็นเช่นนี้มาตลอดทั้งเส้นทาง
“ทำบ้าอะไรของแกเนี่ย” กินโทกิร้องโวยวายยกใหญ่ ทันทีที่พวกเขาสองคนมาถึงที่หมาย ฮิจิคาตะก็ตักน้ำในถังมาราดตั้งแต่หัวของชานหนุ่มผมเงินโดยไม่บอกกล่าวแต่อย่างใด
“หนวกหู ร่องรอยที่คนพวกนั้นได้ทำเอาไว้น่ะ ลบมันออกไปให้หมด” กล่าวจบหนุ่มผมดำก็ตักน้ำมาราดใส่อีกขันหนึ่ง พร้อมกับมือที่ลูบไปทั่วบนหน้าใส
ผู้ถูกกระทำก็ได้แต่ไอคอกแคกออกมา จากการที่น้ำมันไหลเข้าจมูก จนกระทั่งฝ่ายนั้นทำความสะอาดใบหน้านั้นจนพอใจขากนั้นสองหนุ่มเดินมานั่งพักตรงเก้าอี้ที่หน้าร้าน ซึ่งมีคนสองคนนั่งอยู่ก่อนหน้านี้แล้ว
“อ้าว ท่านฮิจิคาตะ มาเล่นแถวนี้เหมือนกันหรอครับเนี่ย” ชายหนุ่มหน้าตาดีผมทอง ผุ้เป็นเจ้าของร้าน เคียวชิโร่ กล่าวทักทาย เมื่อเห็นว่าทั้งสองคนได้ทำธุระส่วนตัวเสร็จสิ้นแล้ว
“เปล่า มาเดินตรวจเวร” หนุ่มผมดำตอบกลับเสียงราบเรียบเช่นปกติ ดวงตาคมเรียวจับจ้องที่กินโทกิอย่างไม่ลดละ เมื่อฝ่ายนั้นได้ยกแก้วเหยือกใหญ่กรอกน้ำสีอำพันไหลลงคอ
“เอามาอีกแก้วซิ” ฮาจิโร่ เมื่อเห็นว่านั้นแก้วนั้นว่างเปล่าแล้ว จึงเอ่ยสั่งกับคนผมเอฟโฟร่ที่ได้นั่งอยู่ในตอนแรก
ช่วงเทศกาลแบบนี้ การดื่มของมึนเมาถือเป็นเรื่องปกติในย่านแถบนี้ อีกทั้งร้านเหล้าและสถานให้ความบันเทิงมากมาย ต่างก็พากันเปิดร้านแบบเอ้าท์ดอร์ โดยการยกโต๊ะเก้าอี้ออกมาทั้งวางเรียงที่หน้าร้าน ให้ลูกค้าได้นั่งพักชมบรรยากาศเทศกาลของการหยุดยาวนี้
บางร้านก็มีการนำถังน้ำออกมาตั้งไว้ ให้ผู้ที่ต้องการมาเติมได้แบบไม่คิดตังค์ และยังมีการจัดแสดงชุดพิเศษของซือจัง ที่ถูกเคียวทาโร่จ้างมาโดยเฉพาะ ยิ่งสร้างบรรยากาศให้ย่านนี้สนุกครึกครื้นกันมากขึ้นไปอีก
“โอซือจางงงง” เสียงร้องตะโกนอันคุ้นหู เรียกให้กินโทกิหันไปมอง ก็พบว่าท่ามกลางกลุ่มผู้คนอันหนาแน่นนั้น ชายหนุ่มผมดำผู้สวมแว่นตาลูกจ้างอีกคนหนึ่งของร้าน ชินปาจิ กำลังส่งเสียงเชียร์คนบนเวทียกใหญ่ พร้อมกับมีลูกสมุนที่เป็นแฟนคลับกลุ่มเดียวกันส่งเสียงร้องช่วยอีกด้วย
กินโทกิมองภาพนั้นนิ่ง มุมปากยกยิ้มขึ้นอย่างถูกใจ ก่อนจะวางแก้วที่มีน้ำมึนเมาลงบนโต๊ะไม้ ลุกขึ้นยืนเต็มความสูง แล้วเดินก้าวขายาวเข้าไปหากลุ่มผู้คนเหล่านั้น
ฮิจิคาตะได้เข้าห้องน้ำทำธุระส่วนตัว แต่เมื่อออกมาอีกทีก็ไม่เจอคนผู้นั้นเสียแล้ว ชายหนุ่มตกใจนิดหน่อยเมื่อใครอีกคนนั้นได้หายตัวไปเสียแล้ว ดวงตาดุจเหยี่ยวกวาดตามองไปทั่ว แล้วในที่สุดก็ได้พบกับเป้าหมาย
ชายหนุ่มผมเงินกำลังโยกย้ายส่ายสะโพกเต้นใส่เพลงอย่างเข้าจังหวะ ซึ่งมีเหล่าชายหนุ่มมากหน้าหลายตายืนล้อมรอบ แล้วเขายังได้เห็นว่ามือของใครบางคนกำลังจับที่สะโพกเพรียวได้รูป โดยที่คนถูกกระทำนั้นไม่รู้ตัวเลยสักนิด
หนุ่มผมดำกำลังโกรธเลือดขึ้นหน้า เมื่อได้เห็นภาพที่เกิดขึ้น เขาจึงเดินเข้าไปหา สอดแทรกผู้คนอันแน่นหนามุดตัวไปยังใครอีกคน
“อ้าว ไม่คิดว่าคนอย่างนายก็อยากจะเต้นกับเขาเหมือนกันนะเนี่ย มาสิ มาเต้นกัน” กินโทกิเอ่ยขึ้นอย่างแปลกใจ
แทนที่หนุ่มผมเงินจะรับรู้ถึงอารมณ์อันบูดเบี้ยวที่เกิดขึ้น ก็หาได้เป็นอย่างนั้นไม่ ซ้ำยังยกสองแขนคล้องเข้าที่ลำคอของคนตัวสูงกว่า ก่อนจะขยับเคลื่อนไหวร่างกายอีกครั้งหนึ่ง
ท่วงท่าที่แสดงออกมาจากกินโทกิ ทำให้อารมณ์บูดบึ้งนั้นมลายหายไปทันที แต่กลับมีอารมณ์อย่างอื่นมาแทรกแซงเอาเสียได้ ก่อนที่อีกฝ่ายจะยื่นหน้าเข้าไปใกล้ แลบลิ้นไล้เลียบนริมฝีปากสีอ่อนนั้น
ฮิจิคาตะเมื่อเห็นการกระทำเช่นนั้นก็ยกยิ้มอย่างพอใจ หลงลืมไปเสียหมดแล้วว่าคราแรกนั้น ได้โกรธเคืองสิ่งใดกับคนตรงหน้า ยกมือทั้งสองของตนจับเข้าที่สะโพกเพรียวงาม ก่อนจะดึงรั้งร่างนั้นเข้ามาใกล้ แล้วบดจูบกลับคืนอีกฝ่ายไป
ในยามนี้ไม่มีใครจะมาสนอกสนใจพวกเขาหรอก แต่ละคนต่างก็จดจ่ออยู่กับจังหวะดนตรีที่กำลังบรรเลงอย่างสนุกสุดเหวี่ยง
สองร่างซึ่งบดเบียดกัน กำลังแลกลิ้นอย่างร้อนแรง รับรู้ได้ถึงการเสียดทานของบางสิ่งบางอย่างที่ส่วนล่าง กินโทกิร้อนวูบวาบไปทั่วตัว น้ำเย็นที่สาดกระทบก็ไม่ได้ทำให้มันดับมอดลงไปได้
ผู้คนมากมายกำลังโยกย้ายขยับไหวเรือนร่างไปมาตามจังหวะเพลง จึงเป็นการยากที่จะฝ่าเหล่าคนพวกนี้ออกไป ในยามนี้ร่างของคนทั้งสองกำลังมีความต้องการมากยิ่งขึ้น อยากที่จะกระทำในสิ่งที่มากและเกินไปกว่านี้
“ฮิจิ...คาตะ” เสียงแหบพร่าเอ่ยกระซิบที่ข้างหู ก่อนที่จะขบกัดมันอย่างหยอกล้อ ทำให้คนผมดำทนไม่ไหวอีกต่อไป
หนุ่มผมดำยกช้อนร่างของใครอีกคนในอ้อมแขน แล้วตัดสินใจเดินฝ่าออกมาทั้งอย่างนั้น แม้จะโดนแรกกระแทกจากรอบข้างเขาก็ไม่สน เพราะตอนนี้ความต้องการมันมากล้นจนจะทนไว้ไม่ไหว
ฮิจิคาตะพาคนในอ้อมแขนเดินขึ้นบันไดมายังชั้นบนของร้าน พาเข้าห้องซึ่งมีไว้สำหรับลูกค้าที่เมาหนัก จนไม่อาจเดินทางกลับไปได้
ทันทีที่ว่างร่างนั้นบนเตียงกว้าง หนุ่มผมดำก็กระโจนเข้าใส่อีกฝ่ายอย่างรวดเร็ว บดเบียดริมฝีปาก สอดแทรกเรียวลิ้นเข้าหากันตามแรงอารมณ์
มือลูบไล้เลิกเสื้อที่เปียกน้ำนั้นขึ้นด้านบน ก่อนจะก้มตัวไล้เลียที่จุดชมพูซึ่งตั้งชูชันนั้นอย่างอ้อยอิ่ง อีกข้างก็ใช้ปลายนิ้วสะกิดจนแข็งสู้มือ
กินโทกิเชิดหน้าขึ้นด้วยความเสียวซ่าน นิ้วมือสอดแทรกไปตามไรผมเพื่อระบายอารมณ์ ลำตัวโค้งแอ่นขึ้นให้อีกฝ่ายได้สัมผัสกับมันมากยิ่งขึ้น
“อื้ออ” ส่งเสียงในลำคอ เมื่อฮิจิคาตะลูบไล้ที่ส่วนโป่งพอง โดยไม่ถอดกางเกงขาสั้นดำนั้นออก ราวกำกังกลั่นแกล้งกันอยู่อย่างไรอย่างนั้น
เมื่อเห็นสีหน้าของคนใต้ร่างแสดงออกมาอย่างถูกอกถูกใจ ชานหนุ่มผมดำก็ตัดสินใจ ปลดเปลื้องอาภรณ์เหล่านั้นออกจนหมด ทั้งของตนเองและของคนใต้ร่าง
.
.
.
กินโทกิฟุบหน้าลงบนอกแกร่งกำยำหอบหายใจด้วยความเหนื่อยล้าแต่ปนด้วยความสุขสม ดวงตาสีแดงปรือขึ้นอย่างอ่อนแรง ก่อนที่จะหลับไปทั้งที่ยังมีสิ่งใดสอดแทรกภายในกาย
หนุ่มผมดำจึงถอดถอนแกนกายออกมา แล้วจัดท่าให้อีกฝ่ายนอนลงอย่างดิบดี แล้วเช็ดทำความสะอาดตามเรียวขาที่เปรอะเปื้อนไปด้วยคราบน้ำกาม แล้วล้มตัวนอนลงด้านข้าง ดึงรั้งร่างของอีกฝ่ายให้เข้ามาภายในอ้อมแขน ก่อนจะนอนหลับตามกันไป
และคาดการณ์ได้เลยว่า ช่วงหยุดยาวนี้ชายหนุ่มผมเงินคงจะไม่ได้ออกไปเล่นที่ไหน และใช้ช่วงเวลาวันหยุดกับการถูกอีกฝ่ายกกกอดอีกเป็นแน่
สุดท้ายนี้ สวัสดีวันสงกรานต์เด้ออออ
.................................................................
Nc ไปตามเอาเด้อ เขินแรงไม่กล้าลง
Twitter @sakitsuke แวะคุยกันได้น้าาาา
คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น
✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง
✓ เรื่องนี้ไม่มีเจตนาทำให้บุคคลที่อ้างถึงเสียชื่อเสียง และฉันจะยอมรับผิดเมื่อบุคคลนั้นตำหนิหรือเตื่อนมา
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
10 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
2.5 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
3.5 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ