ตราบาปสีขาว
เขียนโดย Chapond
วันที่ 6 สิงหาคม พ.ศ. 2561 เวลา 14.10 น.
แก้ไขเมื่อ 19 พฤศจิกายน พ.ศ. 2561 10.52 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น
24) 24 เรื่องบ้าๆไม่จบสิ้น
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
“ตกลงที่ลูกหนี้พ่อเราบอกมามันจริงใช่มั้ย เราไปข่มขืนลูกสาวบ้านเค้าจนท้องแบบนั้น”แม่โทโมะถามทันทีที่เห็นลูกชายเดินกลับมาในบ้าน “
จริงครับ แต่ผมทำไปเพราะอยากเอาชนะยัยนั่นจนเผลอทำเรื่องนั้นขึ้นมา เอ่อ แล้วที่แม่บอกไปพวกนั้นคือลูกหนี้ของพ่อที่พ่อยกหนี้ให้เมื่อ3ปีก่อนนี่คือ
ความจริงงั้นหรอครับ”โทโมะตอบแม่ก่อนที่จะถามกลับ
“ใช่ ก่อนพ่อเราเสีย พ่อเรายกหนี้ให้ทั้งหมด ตอนที่เราโทรมาหาแม่แล้วเล่าว่าโดนจับตัวไป แถมความจำเสื่อมไปช่วงนึงแม่โกรธมาก พอรู้ว่าเราอยู่
ที่ไหนเลยลองไปค้นแฟ้มเอกสารของพ่อเรา เลยรู้ว่าไอ้ค่ายนมวยซอมซ่อนั่นเคยติดหนี้เรา ในฐานะที่มันทำกับลูกแม่ แค่นี้ยังน้อยไป ไม่จับเข้าคุกกัน
ทั้งบ้านก็บุญหัวเท่าไหร่แล้ว เห้อ กลับมาก็ดีแล้วนะลูก ดีนะที่มันไม่ทำอะไรลูกของแม่มากกว่านี้”แม่โทโมะพูดพลางลูบผมลูกชายด้วยความรัก
“แล้วน้ำหนึ่งล่ะครับ เค้าเป็นลูกผมกับแก้ว”โทโมะพูด “ผู้หญิงคนนั้นกับแกไม่ได้รักกันสักหน่อย แกเผลอไปทำแม่นั่นท้องจนมีเด็กขึ้นมา ถ้าจะให้
แต่งงานเอาเข้าบ้านไม่ไหวหรอก คนแบบนั้นจะมาหลอกจับพวกเรารึเปล่าก็ไม่รู้ จะคิดมากทำไมไม่ได้รักกัน ถ้าแกอยากได้ลูกมาเลี้ยงก็โยนๆเงินให้ไป
แล้วเอาลูกมาเลี้ยงก็จบๆไป”แม่โทโมะพูดจบแล้วเดินเข้าบ้านไป
“ตั้งแต่กลับมาก็เอาแต่เหม่อตลอดแบบนี้ แกจะเล่ารึยังว่าใครลักพาตัวแกไปแล้วต้องจับเข้าคุกเลยมั้ยวะ”ป๊อปปี้ถามเพื่อนชายจณะที่นัดกันมาทานข้าว
แล้วพูดคุยกัน
“เมีย เอ่อ ช่างมันเถอะ แค่ยัยเด็กที่ชั้นเคยไปมีเรื่องน่ะ ยัยนั่นเป็นลูกหนี้ชั้นเอง ตอนนี้โดนแม่ชั้นจัดการไปละว่าแต่แกล่ะป๊อป นี่ง้อแคทสำเร็จแล้วรึไง
เมื่อกี้แคทถึงแวะเอาเอกสารมาให้เมื่อกี้นี้”โทโมะเปลี่ยนเรื่องคุยก่อนที่จะถามเพื่อนชายกลับไป
“ยังน่ะ พูดเรื่องง้อทีไรแคทก็หนีตลอด นี่แค่คุยเรื่องงานน่ะ”ป๊อปปี้ถอนหายใจก่อนที่จะตอบกลับ
“พวกเราคงทำเลวกันมามาก ตอนนี้เวรกรรมในอดีตไล่ตามพวกเราจนติดแบบนี้ ไหน เอกสารอะไรวะ ขอดูหน่อย”โทโมะคิดถึงเรื่องแก้วแล้วพูดออกมา
ก่อนที่จะขอดูเอกสารของป๊อปปี้ทันที
“เห้อ ชั้นต้องบ้าแน่ๆที่แอบตามอีตานั่นมาถึงที่นี่ เค้าคงคืนดีกับแคทไปแล้ว”ฟางถอนหายใจพลางเดินทอดน่องมาเรื่อยๆแล้วคิดถึงวันนี้ที่เธอแอบ
สะกดรอยตามป๊อปปี้แล้วพบว่า เขานัดกับแคทที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งไม่ไกลจากมหาลัยเก่าของเธอ
“เค้าทั้งเพอเฟ้คไปซะทุกอย่างถ้าเทียบกับชั้นตอนนั้น”ฟางคิดถึงอดีตของตัวเองแล้วยิ่งเศร้าลงไป ก่อนที่จะต้องวิ่งไปหลบฝนที่หน้าร้านอาหารข้าง
ทางร้านหนึ่ง
“อ้าวหนู เคยเรียนมหาลัยนี้มาก่อนใช่มั้ย ป้าจำได้”แต่แล้วมีป้าเจ้าของร้านคนหนึ่งที่กำลังเก็บร้านมาเจอฟางเข้าก็ร้องทักก่อนที่จะชีไปยังรูปนักศึกษาที่
เคยมาทานข้าวที่ร้านที่ติดริมฝาผนังให้ฟางดู รูปของเธอที่นั่งกิน
“ทำไมทำหน้าเหมือนไม่อยากกินแบบนั้นล่ะคะ เปลี่ยนร้านได้นะคะ”ฟางถามเมื่อเห็นป๊อปปี้นั่งมองข้าวหมูแดงที่ถูกเสิร์ฟมาไม่ยอมกิน “
เปล่าน่ะ ปกติพี่ไม่ค่อยกินร้านแบบนี้ นี่เป็นครั้งแรกของพี่เลยนะฟาง แล้วนี่ปกติฟางมากินประจำหรอ”ป๊อปปี้พูดและถามต่อ
“ไม่หรอกค่ะไม่บ่อย ปกติฟางจะชอบทำกับข้าวกินเองที่หอ เป็นการประหยัดไปในตัวด้วยน่ะค่ะ พอดีฟางเป็นแค่นักเรียนทุนเลยไม่ค่อยมีเงินมากพอที่
จะใช้จ่ายสุรุ่ยสุร่าย”ฟางพูดแล้วยิ้มให้กับป๊อปปี้แต่สายตาแอบเศร้าเมื่อคิดถึงที่บ้านพลางคิดถึงแม่เธอที่ต้องอยู่ที่บ้านคนเดียวแล้วเธอมาเรียนแบบ
นี้“
งั้นมื้อต่อไปฟางไม่ต้องพาพี่มากินข้าวอีกแล้วนะ ไหนๆเราก็อยู่หอเดียวกันแล้ว พี่อยากลองกินกับข้าวฝีมือฟางมากกว่า”ป๊อปปี้พูดแล้วจ้องตาคนตัว
เล็กที่นั่งตรงข้ามทำให้ฟางอึ้งใจเต้นรัวกว่าเดิมก่อนที่จะยิ้มแล้วตักข้าวเข้าปากด้วยความเขิน
“หึ นี่คงจะเป็น1ในแผนการเลวๆด้วยสินะ”ฟางมองภาพนั้นแล้วกำมือแน่นหวนคิดถึงตอนที่ป๊อปปี้อยากให้เธอแนะนำร้านข้าวใกล้ๆหอพักจนมาเจอร้าน
นี้ ร้านข้าวหมูแดงเล็กๆไม่ได้หรูหราถ้าเทียบกับร้านอาหารที่พวกของป๊อปปี้ชอบไปกัน
“จะว่าไปแฟนหนูเค้ามากินข้าวร้านป้าบ่อยอยู่นะ เค้าบอกมาแล้วทำให้คิดถึงความทรงจำดีๆกับคนที่เคยพามากินสงสัยคิดถึงหนูแน่ๆ”ป้าเจ้าของร้าน
พูดแซว
“คงไม่น่าจะใช่นะคะป้าเพราะหนูไม่ได้เป็นแฟนเค้า แล้วเค้าก็มีแฟนไปแล้ว”ฟางพูดก่อนที่จะขอแยกออกมาจากร้านเพราะเห็นป้ากำลังจะปิดร้านและ
ไม่อยากรบกวน
“บ้าจริง น้ำตาไหลออกมาจนได้ เราเกลียดเค้ายัยฟาง เราเกลียดเค้า”ฟางกลับมานั่งในรถของตัวเองแล้วคิดถึงคำพูดของป้าว่าป๊อปปี้กลับมาทานข้าว
ที่ร้านของป้าบ่อยๆเพราะคิดถึงเธองั้นหรือ ก่อนที่น้ำตาจะไหลออกมาร่างบางสะบัดความคิดทิ้งไปก่อนที่จะขับรถออกไปทันที
“ครับจินนี่ ผมกลับห้องมาแล้ว ไม่มีใครมาสิครับ จินนี่ ถ้าคุณยังสงสัยผมไม่เลิกแบบนี้ผมว่าเราเลิกคุยกันก็ได้นะ เพราะผมต้องรีบไปเคลียร์งานที่รี
สอร์ตของผม”เขื่อนเดินคุยโทรศัพท์กับจินนี่กลับเข้ามาในห้องตอนเย็นพลางทำหน้าเหนื่อยหน่ายเมื่อถูกจินนี่ตามติดเขาทั้งวันจนกลับมาที่ห้องก็ยังไม่
เลิกตอแย ชายหนุ่มวางของใช้ส่วนตัวผู้หญิงที่ซื้อมาแล้วเดินไปเปิดประตูห้องที่ขังเฟย์เอาไว้เมื่อคืนนี้ ช่วงเช้าเขาให้แม่บ้านเอาอาหารมาให้เฟย์และ
กลับไปแล้วป่านนนี้คงทานอะไรเรียบร้อยแล้วสินะ
“เฟย์ ทำไมตัวร้อนแบบนี้”เขื่อนเปิดประตูเข้าไปต้องตกใจเมื่อเห็นเฟย์ไม่แตะอาหารแม้แต่น้อยและนอนขดตัวหลับอยู่ริมหน้าต่างทั้งวัน พบว่าตัวของ
เฟย์ร้อนจี๋ก่อนที่จะตัดสินใจอุ้มร่างบางไปที่โรงพยาบาลทันที
“ทำไมไม่ปล่อยให้ชั้นตายๆไปซะล่ะ มันจะได้สาสมกับสิ่งที่ชั้นเคยหลอกลวงน้องของคุณ”เมื่อหมอตรวจร่างกายของเฟย์เสร็จแล้ว เขื่อนเดินเข้าไปใน
ห้องพบว่าเฟย์ยังไม่นอนก่อนจะถูกหญิงสาวตอกกลับใส่เขาทันทีที่เห็นหน้า
“ก็บอกไปแล้วไง ว่าชั้นต้องจับตัวเธอไว้เป็นตัวประกัน เผื่อเธอตุกติกเอาความลับของชั้นกับฟางไปบอกให้เพื่อนเลวๆของเธอฟังจะว่ายังไง”เขื่อนเดิน
เข้ามาใกล้พร้อมกับว่า
“แต่ชั้นอยากกลับบ้านไปหาแม่ แม่ชั้นต้องเป็นห่วงชั้นที่ชั้นหายไปแน่ๆ”เฟย์กำมือแน่นก่อนที่จะพูดออกมาเสียงสั่นเครือน้ำตาไหลออกมาด้วยความ
คิดถึงแม่ เขื่อนมองร่างบางที่ร้องไห้แล้วนิ่งก่อนที่จะเดินมานั่งที่เตียงข้างๆเฟย์แล้วโน้มหน้าเข้าไปใกล้ทำให้เฟย์ตกใจและบ่ายเบี่ยงเล็กน้อย แต่หนีไป
ไหนไม่ได้ชายหนุ่มจึงช้อนใบหน้ามนของเฟย์มาใกล้แล้วค่อยๆจุมพิศเธออย่างอ่อนโยน
“แม่ของเธอไม่เป็นอะไรหรอก ถึงชั้นจะหลอกเธอแต่เรื่องนี้เธอไว้ใจชั้นได้”เชื่อนค่อยๆถอนจูบออกมาแล้วพูดกับเฟย์ ทำให้หญิงสาวหัวใจเต้นรัว กลับ
เชื่อใจเขาอย่างไม่มีสาเหตุ
“ฮัลโหลกวินหรอชั้นมีอะไรสนุกๆให้ทำล่ะ ชวนเพื่อนที่บ่อนของนายมาด้วยซัก2-3คนก็ได้นะ”ทั้งคู่ไม่รู้เลยว่าที่นอกห้องนั้นมีสายตามุ่งร้ายของจินนี่ที่
แอบสะกดรอยตามเขื่อนมาจากที่เธอติดสินบนแม่บ้านส่วนตัวของเขื่อนรายงานความเคลื่อนไหวของเขาทุกฝีก้าว จนโทรบอกเรื่องเขื่อนเมื่อกี้นี้และ
เธอรีบตามเขามาที่โรงพยาบาลและพบว่าเขื่อนกับเฟย์ยังอยู่ด้วยกันและจูบกัน หึ นังเพื่อนแพศยา ชั้นบอกแกไปกี่ครั้งไม่ฟัง คราวนี้ชั้นคงต้องจัดการ
กับแกขั้นเด็ดขาดแล้วล่ะ
“ของที่จำเป็นขนมาครบแล้วนะแก้วนี่ดีนะไอ้พงษ์เพื่อนพ่อมันยังไม่ขายห้องเช่านี้ไป อาจจะแคบไปนิด แต่ก็พออยู่ไปก่อนนะลูก”พ่อของแก้วที่ขนของ
เสร็จแล้วเดินมาบอกลูกสาวที่นั่งเงียบอยู่ที่ปลายเตียงมองห้องเช่าเล็กๆที่เธอพึ่งย้ายออกมาจากบ้านของเธอ
“แก้วจะหาเงินมาไถ่บ้านของเรานะพ่อ เพื่อค่ายมวยที่พ่อรัก และทุกคนกลับมาเป็นเหมือนเดิม”แก้วพูดพลางปาดน้ำตา
“อย่ามัวแต่ร้องไห้สิแก้ว เข้มแข็งหน่อยไอ้ลูกพ่อหนักกว่านี้ก็เจอมาแล้ว เอาล่ะไปรับน้ำหนึ่งที่โรงเรียนดีกว่า”พ่อแก้วปลอบลูกสาวก่อนที่แก้วจะออกมา
รับลูกชายที่โรงเรียนในเวลาใกล้เลิกเรียน
“นี่มันอะไรกันน่ะ อย่ามายุ่งกับลูกชั้นนะ”แก้วตกใจเมื่อเห็นแม่ของโทโมะและโทโมะกำลังเล่นกับลูกของเธอ ร่างบางไม่รอช้าเดินเข้าไปเอาเรื่อง แต่
ต้องหยุดเมื่อถูกบอดี้การ์ดของครอบครัวโทโมะมาขวาง แต่แก้วไม่ยอมแพ้พุ่งตัวเข้าไปจะดึงลูกกลับมา
“พอได้แล้ว”โทโมะเห็นแก้วโวยวายและถูกบอดี้การ์ดล็อกตัวก็พูดขึ้นเสียงดัง
“ถ้านี่คือลูกของโทโมะยังไงเค้าก็คือหลานของชั้น ชั้นมีสิทธิจะมาหามาเล่นด้วยก็ไม่แปลก”แม่โทโมะพูดลอยหน้าลอยตา
“ไม่ได้ เพราะพวกคุณไม่ได้เลี้ยงดูน้ำหนึ่งมา เค้าโตมากับชั้น เค้าต้องอยู่กับชั้น อย่ามายุ่งกับลูกชั้นนะ”แก้วโวยวาย
“โถ นึกว่าเรื่องอะไร ที่แท้ก็อยากเรียกร้องค่าเลี้ยงดูนี่เอง เอาอย่างงี้มั้ยล่ะ ถ้าอยากปลดหนี้ให้พ่อของเธอ10ล้าน ก็ยกน้ำหนึ่งให้เป็นสิทธิ์ของโทโมะ
เลี้ยงดูเพียงผู้เดียว”แม่โทโมะยื่นข้อเสนอ
“ไม่ได้ชั้นไม่ยอม น้ำหนึ่งเป็นลูกของชั้นถึงแม้เค้าจะเกิดจากความเลวร้ายของลูกคุณ แต่ชั้นรักเค้าชั้นเลี้ยงเค้ามาตั้งแต่เค้าเกิด ชั้นไม่ยอมให้ใครมา
พรากลูกไปนะ”แก้วพูดเสียงสั่นทำให้โทโมะที่อุ้มลูกชายเหลือบมองนิ่งเงียบไม่แสดงความรู้สึกอะไรออกมา
“ถึงชั้นจะพรากลูกไปจากเธอตอนนี้ไม่ได้แต่เธอแน่ใจหรอว่าลูกจะอยู่กับเธอตลอดไปถ้าลูกของเธอไม่ได้เข้ารักษาและผ่าตัดเปลี่ยนหัวใจ คิดดูดีๆนะ
ลูกชายของเธอที่ป่วยเป็นโรคหัวใจเต้นผิดจังหวะสุขภาพอ่อนแออยู่กับเธอไม่ได้นานเพราะไม่มีเงินรักษา เธอจะไม่ใจร้ายไปหน่อยรึไงที่จะตัดชีวิตลูก
ของเธอไปแบบนั้น เธอนี่มันเห็นแก่ตัวจริงๆ”แม่ของโทโมะพูดถึงอาการน้ำหนึ่งที่เธอไปสืบมาอย่างเป็นต่อทำให้แก้วนิ่งยอมสงบก่อนที่น้ำตาจะไหล
ออกมา มันคือเรื่องจริงกับโรคหัวใจของน้ำหนึ่งเธอมีเงินแค่พอซื้อยาให้น้ำหนึ่งกินเพื่อนสลายก้อนเลือด มันแค่การรักษาชั่วคราวแต่ไม่ถาวรตลอดไป
โทโมะที่เห็นแก้วสงบลงจะวางน้ำหนึ่งลงและให้น้ำหนึ่งไปหาแก้ว
“ถ้าแม่ไม่อยากให้หนึ่งไปเล่นกับพ่อกับย่า หนึ่งไม่ไปก็ได้ หนึ่งจะอยู่กับแม่ หนึ่งรักแม่แก้วนะ”น้ำหนึ่งกอดแก้วแล้วพูดทำให้แก้วปล่อยโฮร้องไห้ออก
มา ทั้งหมดอยู่ในสายตาของโทโมะก่อนที่เขาจะขึ้นรถไปกับแม่ของเขาส่วนแก้วเมื่อพาลูกชายกลับบ้านไปได้สักพักเธอก็ออกมาทำงานทำเล็กๆเพื่อ
หารายได้ เพราะหลังจากที่ไม่มีค่ายมวยแล้วไหนพ่อและลูกของเธอที่ป่วยอีก เธอต้องเป็นเสาหลักของครอบครัว
“แก้วใช่มั้ย”เสียงหนึ่งเรียกชื่อเธอทำให้เธอที่นั่งอยู่ในร้านกาแฟหันตามต้นเสียงก็พบว่าเขาคือบอล พี่รหัสของเธอสมัยที่เธอยังเรียนมหาลัย
“พี่บอล มาดื่มกาแฟหรอคะ รึว่าพี่นัดใครไว้”แก้วยิ้มออกมาก่อนที่จะถามเขา
“พี่ไม่ได้มาดื่มกาแฟหรอก นี่ร้านของพี่เองพอดีเมื่อกี้เด็กในร้านเค้าเอาใบสมัครพนักงานมาให้พี่น่ะ เลยเห็นว่าชื่อคุ้นๆแล้วก็เป็นแก้วจริงๆแล้วนี่หาย
หน้าไปเลยนะเสียดายน่าจะเรียนให้จบ ไปยังไงมายังไงล่ะถึงได้มาสมัครงานร้านพี่ได้”บอลพูดพลางถามไถ่สารทุกข์สุขดิบแก้ว
“พอดีว่าช่วงนี้ค่ายมวยพ่อมีปัญหาน่ะพี่ เลยต้องมาหางานพิเศษทำ ไหนจะต้องเลี้ยงลูกอีก”แก้วพูดแล้วยิ้มออกมาอย่างข่มขื่นในชีวิตที่เธอเจอ
“นี่เราไม่ได้เจอกันมานานมากจนแก้วมีลูกแล้วหรอเนี่ย ตายล่ะ เเซงหน้าพี่ไปซะแล้ว เอาอย่างงี้ ถือว่าตอนนี้แก้วได้สัมภาษณ์งานกับพี่แล้วนะ พรุ่ง
นี้10โมง มาเริ่มงานได้เลย”บอลพูดแล้วยิ้มพลางเอามือขยี้ผมแก้วด้วยความเอ็นดู
“จริงๆนะพี่บอล ขอบคุณพี่มากเลยนะที่ช่วยแก้ว”แก้วยิ้มออกมาด้วยความดีใจที่อย่างน้อยในชีวิตนี้ของเธอก็ไม่เจอเรื่องร้ายๆไปซะทุกเรื่อง
“ว้าย จะทำอะไรน่ะ ปล่อยชั้นนะ”ระหว่างที่แก้วกำลังจะเดินกลับขึ้นห้องพัก เธอต้องร้องเสียงหลงเมื่อจู่ๆโทโมะที่โผล่มาจากความมือกระชากเธอไปที่
รถ
“ทิ้งให้ลูกกับพ่อที่ไม่สบายนอนรอที่ห้องพักแต่ตัวเองกลับไประริกระรี้กอดกับผู้ชายกลางร้านกาแฟ เธอนี่มันไร้ยางอายจริงๆ”
เพี้ยะ
โทโมะที่กระชากแก้วมาได้ก็รีบว่าก่อนเสียงนั้นจะหายไปเมื่อเขาถูกแก้วตบหน้าหัน
“อื้ออ”แต่แล้วร่างบางที่พึ่งตบหน้าชายหนุ่มไปนั้นต้องร้องเมื่อถูกร่างสูงกระชากเธอไปชิดติดกำแพงก่อนที่จะใช้ริมฝีปากร้อนบดจูบแก้วด้วยความ
รวดเร็วและจาบจ้วงก่อนที่มือหนาจะลูกไล้ไปทั่วลำตัว
“ชอบไม่ใช่รึไงตั้งแต่เป็นผู้หญิงมาก็โร่หาผู้ชายไปกอดเค้ากลางที่สาธารณะแบบนั้น”โทโมะถอนจูบแก้วก่อนมาก่อนที่จะว่าแก้วอย่างเจ็บแสบก่อนที่จะ
บดจูบแก้วอีกครั้งพลางซุกไซร้ไปตามตัว
“ฮึก ฮือ”แก้วร้องไห้ออมาเมื่อถูกชายหนุ่มทำร้ายข่มเหงเธอทำให้โทโมะหยุดการกระทำนั้น แล้วผละออกมาจากร่างบาง
“แค่ชั้นไปหางานทำ นายก็ยังมาตามรังควานชั้น ทำร้ายชั้นยังไม่พอใจอีกใช่มั้ย อยากจะทำอะไรก็ทำอีกสิ ทำเลย”แก้วระเบิดอารมณ์ออกมาใส่เขา
ก่อนที่จะร้องไห้ปล่อยโฮออกมาด้วยความเหนื่อยและท้อใจกับสิ่งต่างๆที่ถาโถมเข้ามา
“ถ้าอยากได้งานนักก็มานี่”โทโมะมองร่างบางที่เอาแต่ร้องไห้แล้วตัดสินใจดึงมือแก้วขึ้นมาพร้อมกับพาเธอไปที่รถทันที
มาอัพแล้วนะ โทโมะจะพาแก้วไปไหนต้องติดตาม
คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น
✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง
✓ เรื่องนี้ไม่มีเจตนาทำให้บุคคลที่อ้างถึงเสียชื่อเสียง และฉันจะยอมรับผิดเมื่อบุคคลนั้นตำหนิหรือเตื่อนมา
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ