สามเกลอ...รอรัก Fic เปลวกนก,หญิงยอ,โสมภา
7.0
เขียนโดย ณัฐพล
วันที่ 15 มิถุนายน พ.ศ. 2561 เวลา 22.14 น.
13 ตอน
2 วิจารณ์
16.55K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 26 ตุลาคม พ.ศ. 2561 15.30 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น
12) สามเกลอ สามคู่ สามรัก
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความณ สปอร์ตคลับ ธนากำลังเล่นกีฬาอยู่ ภาคิไนย ภูบดี ศักดิ์ชาย โสมภา เปลวและหญิงยอ เข้ามาเพื่อเล่นกีฬา โสมภาเห็นธนาพุ่งเข้าไปหา และกล่าวทักทาย
“สวัสดีครับคุณโสมภาคนสวย”
“สวัสดีค่ะ คุณธนามานานหรือยังคะ”
“มาได้สักพักแล้วนะครับ จริงสิเห็นได้ข่าวว่า หม่อมย่าของคุณเสียแล้วหรอครับ”
โสมภาไม่ได้ตอบใดๆ ได้แต่พยักหน้ารับแทนคำตอบ
“เสียใจด้วยนะครับ ผมเองก็อยากไปร่วมงานศพอยู่เหมือนกันและแสดงความเสียใจด้วย”
“ค่ะ”
“นั่นแน่ โสม เธอนี่เสน่ห์แรงเลยเนอะ ทิ้งเราแล้วไปหาคุณธนา” เปลวเสริม
“บ้า ก็เธอนะเพื่อนฉันนี่”
“จริงหรอ แต่ฉันว่านะ คุณธนาต้องเป็นแฟนเธอแน่ๆ เลย”
เปลวกนกบอกให้แก่อีกฝ่าย ซึ่งตอนนี้โสมภานั้นใบหน้าแดงก่ำเปรียบเหมือนผลมะเขือเทศ เปลวกนกเดินไปอีกมุมหนึ่งเห็นภาคิไนยกำลังมองภูบดีกับหญิงยออยู่
“คุณภาคะ เอาน้ำไหมคะ”
“เอาครับ ว่าแต่เปลวไม่เอาน้ำหรอ”
“ไม่ค่ะ เปลวไม่หิว หญิงยอกับคุณภูดูกระแหนะกระหนิงจังเลยนะคะ”
“ใช่นี่ครับ ดูคู่โน้นสิ”
ภาคิไนยชี้ไปทางโสมภายืนข้างๆกับธนา
“คุณหึงเขาหรอคะ”
“เปล่านี่ครับ ผมเห็นเขาทั้งสองคนดูสนิทสนมกันมากๆเลย มีแต่ผมนี่แหล่ะที่ไร้คู่”
“ใครว่าคะ” เปลวกนกรีบเอ่ย
เปลวกนกยืนดู หญิงยอคุยกับภูบดี ศักดิ์ชายก็เดินเข้ามา
“อ้าว คุณภา คุณเปลว ผมว่ากะจะชวนไปดื่มที่บาร์กันดีไหมครับ”
“ก็ดีนะ คุณเปลวต้องไปด้วยกันนะครับ”
“ลองถามท่านพ่อก่อนนะว่าจะให้ไปหรือไม่”
เปลวกนกรีบเอ่ยพร้อมยังชำเลืองหญิงยอและโสมเป็นระยะๆ เปลวกนกเดินออกจากผับก่อนภาคิไนยก็เดินออกตามหลัง
คุณชายยิ่งศักดิ์ถึงกับมองดูท้องฟ้า เพราะคิดถึงฟองแข พร้อมบ่นเพ้อไปว่า
“ถ้าฟองแขยังมีชีวิตอยู่ เราคงจะมาเป็นครอบครัวที่มีความสุขแล้วละมั๊ง”
“คุณพี่ คุณพี่” เสียงเรียกของหญิงโฉมดังมาทางด้านหลังของอีกฝ่าย
“อ้าวหญิงโฉม เรียกพี่ไปทำไมหรอ”
คุณชายยิ่งศักดิ์ถามอีกฝ่าย
“คุณพี่อย่าบอกนะคะว่า คิดถึงยัยสถุนไพร่ที่ชื่อฟองแขนะ”
“นี่หญิงโฉม ฟองแขเขาไม่ใช่บ่าวทาสรับใช้เลยนะ ใช่ ผมยังรักฟองแข”
“นี่คุณพี่ มันมีดีอะไร คุณพี่ถึงได้รักมันเสียขนาดนี้ละ”
ยิ่งศักดิ์พ่นลมหายใจเฮือกใหญ่
“ก็เขามีความรักและรับผิดชอบไง ไม่ว่าเราจะรวยหรือจนเราก็คือคนเหมือนกัน”
“นี่คุณพี่เข้าข้างมันหรอคะ”
“เปล่า” ยิ่งศักดิ์ปฎิเสธ
“อ๋อ นี่คงเป็นถ่านไฟเก่ามันยังแรงอยู่ใช่ไหมคะ ได้เลยโฉมจะทำให้ลูกของพี่เจ็บปวดเป็นสองเท่า”
หญิงโฉมรีบเดินออกไปจากที่นั่น ยิ่งศักดิ์ตอนนี้ดูเครียดๆ และสั่นหัวไปมา
สามสาวและสามหนุ่มเดินออกจากสปอร์ตคลับมุ่งหน้าไปยังบาร์ ผู้คนที่เข้ามาร้านบาร์แห่งนี้เป็นอีกหนึ่งคนที่เปรียบเหมือนนักท่องราตรี
“ภาคะ คุณพอแล้วค่ะ ตอนนี้คุณเมามากๆแล้วนะคะ” เสียงหวานของเปลวกนกร้องห้าม
“นี่คุณเปลว คืนนี้เรามาเต้นกันนะ”
หญิงยอมองภูบดีอย่างไม่ละสายตา ในตอนนี้คุณภูดูเริ่มที่จะเมาได้ที่ พร้อมพูดจาวกไปวกมา
“คุณภูคะ หญิงว่าคุณเลิกดื่มแล้วนะคะ นี่เมาแล้วนะคะ”
“ถึงผมจะเมาแต่ผมก็รักคุณ”
“ค่ะ ฉันก็รักคุณเหมือนกัน” หญิงยอตอบ
หญิงยอพยุงชายหนุ่มที่เดินโซซัดโซเซ ให้ออกไปจากข้างนอกร้าน โสมภาก็พยุงธนาตามไปอีกคน
“นี่ภา ภาคิไนย ฟื้นสิคะ” เจ้าหล่อนเรียกอีกฝ่ายพร้อมเขย่าต้นแขน
“ผมเมามากแล้ว คุณช่วยพาผมไปที่ๆ ผมอยากไปให้หน่อยสิ”
“ไปที่ไหนคะ”
“โรงแรมไง”
“บ้า คนฉวยโอกาส บ้าที่สุด”
เปลวกนกรีบปฎิเสธ
เปลวกนกรีบพยุงร่างภาคิไนย ที่ตอนนี้ดูยังเมาอยู่ เอาไปไว้บนเตียง ภาคิไนยได้โอกาสที่เผลอในการกอดเปลวกนก แต่เจ้าหล่อนปฏิเสธ
“ภาคะ คุณภา ตัวร้อนหรือเปล่าเนี่ย”
เปลวกนกรีบนำน้ำมาเช็ดให้แห้ง ในขณะที่อีกฝ่ายยังสลึมสลืออยู่ เปลวกนกรีบหาทางเช็ดตัวให้อีกฝ่าย พร้อมเขียนโน้ตลงบนกระดาษว่า
“สิ่งที่ฉันทำเพื่อนายก็เพราะว่าฉันเอง ยังมีใจให้กับนายอยู่นะ ฉันเองก็เลยเห็นนายเป็นไข้ ฉันก็เลยดูแลนาย ขอบคุณมากๆ นะคะ ถึงแม้ว่าเราทั้งคู่จะยังโสดแต่ฉันก็ทำด้วยใจนะคะ”
เปลวพร้อมกับนึกถึงเรื่องเมื่อวานนี้แต่ก็ต้องไล่ความคิดออกไป
โดยเอาหมอนมานอนข้างล่างแล้วพร้อมนอนเฝ้าอีกฝ่าย พอรุ่งเช้า ชายหนุ่มก็ฟื้นขึ้น
“คุณเปลว” อีกฝ่ายเขย่าต้นแขน
“คุณรู้สึกตัวแล้วหรอ”
“ที่นี่ที่ไหน”
“ที่นี่คือโรงแรม เมื่อคืนนี้คุณเมามากๆ ฉันก็เลยพาคุณมาพักห้องนี้”
“หรอ ผมจำไม่ได้ ช่วงเมากับไม่เมา”
“นี่คุณภาคะ คุณไม่กลับบ้านไปก่อนหรือ เดี๋ยวคุณพ่อคุณแม่คุณตามหานะ”
เปลวกนกบอก ชายหนุ่มได้แต่อึ้งไปอีกสักพัก พร้อมบอกให้แก่อีกฝ่าย
“งั้นเดี๋ยวผมค่อยกลับนะคุณ”
ชายหนุ่มพูดจบ เขาก็รีบหยิบรองเท้าขึ้นมาแล้วมองไปรอบๆ ตัว ก่อนที่จะส่งยิ้มมาให้เปลวกนกอีกรอบ
……………………………………………………………………………………………………
ศักดิ์ชายและโสมภา พึ่งเดินทางมาถึงวังของตน ยิ่งศักดิ์ผู้เป็นบิดาก็โผเข้ากอดทั้งสองคนด้วยความคิดถึง
“โสม ตาศักดิ์ เป็นยังไงบ้าง แล้วกินข้าวหรือยัง”
“พ่อครับ นี่พวกเราไปบาร์มาครับ แต่ผมกับโสมไม่ได้ดื่มนะครับพ่อ”
“จริงหรอ ปะ พ่อว่าเรากลับเข้าบ้านกันนะ” ยิ่งศักดิ์ตอบ
ในขณะที่ทั้งคู่กำลังขึ้นเรือน เห็นหญิงโฉมมาขัดจังหวะแล้ว เอามือจิกไปที่ผมของโสมภา พร้อมกับตบไปที่ใบหน้าของโสม
“โอ๊ย เจ็บนะ พ่อช่วยโสมด้วย”
“นี่หญิงโฉมจะไปตบลูกของเราทำไม”
“อ๋อนี่ ปกป้องมันมากนักใช่ไหม ก็ได้ ฉันจะทำลายชื่อเสียงของแกเอง”
“แกจะโกรธ จะเกลียดอะไรฉันก็เชิญ”
“หญิงโฉม พอ เลิกทำกับหนูโสมได้แล้ว”
“คุณพี่ต้องเลือกมาก่อนว่า ระหว่างฉันกับเด็กบ้านี่ คุณพี่รักใครมากกว่ากัน”
หญิงโฉมจ้องตาอีกฝ่ายเหมือนกับเป็นเดือดเป็นแค้น
“ก็ได้ คือว่า เรารักลูกของเรา เพราะลูกของเราอยู่ในสายเลือดเดียวกัน เราไม่สามารถแยกจากกันไปได้ ถ้าเรารักเธอไป เธอก็ต้องกลายเป็นคนอื่น”
“คุณพี่ไม่รักเราแล้ว งั้นเราขอหย่า”
“แต่เธอก็ต้องปล่อยยัยโสมด้วยนะ”
ยิ่งศักดิ์ร้องขอให้อีกฝ่ายปล่อย แต่อีกฝ่ายนั้นลักพาตัวหนูโสมไป
“ไม่ค่ะคุณพี่ ฉันจะจับยัยโสมไปและฉันนะอยากได้ทุกอย่างจากคุณพี่”
“เธอนี่มันเลวมากๆ”
“ใช่ฉันเลว ฉันนะหมั่นใส้ยัยเด็กนี่อยู่แล้ว ไปแกต้องไปกับฉัน”
“คุณพ่อ ช่วยโสมด้วย”
โสมร้องขอความช่วยเหลือ หญิงโฉมพร้อมดึงกระชากผมมาเป็นกำมือ ศักดิ์ชาย กำลังจะเดินตามไปเพื่อไปช่วยน้องสาวของตนแต่คุณชายยิ่งศักดิ์ห้ามเอาไว้
“คุณพ่อครับ”
“พ่อว่า เราต้องโทรไปหาท่านชายเกียรติก้องเพื่อหาแนวทางในการช่วยเหลือครั้งนี้เสียแล้ว”
คุณชายยิ่งศักดิ์บอกพร้อมสั่งให้ศักดิ์ชายเดินเข้าไปในบ้านเพื่อที่จะโทรศัพท์ไปที่วังศุภคุณ
ณ วังศุภคุณ คนที่รับสายเป็นสาวใช้วัยกลางคน
“สวัสดีค่ะ นี่วังศุภคุณนะคะ ไม่ทราบว่าจะเรียนสายให้ใครหรอคะ”
“ผมขอสายท่านชายเกียรติก้องครับไม่ทราบว่าอยู่หรือเปล่าครับ”
“ท่านชายอยู่ค่ะ”
“ท่านชายเพคะ มีคนอยากจะคุยกับท่านนะคะ”
“ฮัลโหล ผมท่านชายเกียรติก้องพูด”
“ท่านชาย คือว่า ตอนนี้หญิงโฉม จับน้องสาวของผมไป หม่อมฉันอยากจะเรียนเชิญท่านมาเพื่อการเจรจาครั้งนี้ได้ไหมครับ”
“ก็ได้ตกลง”
วังศุภคุณวางสาย ไป ในขณะเดียวกันหญิงยอก็เดินเข้ามาพอดี เห็นท่าทางของบิดาจึงถาม
“ท่านพ่อเพคะ จะไปไหน”
“ลูกหญิง คือว่าพ่อจะไปบ้านคุณชายยิ่งศักดิ์ พี่หญิงโฉม จับตัวน้องสาวของศักดิ์ชายไป”
หญิงยออยู่ในอาการตกใจ
“หา พี่หญิงเนี่ยนะคะ จะไปจับตัวคุณโสม”
“ใช่ เรารีบไปกัน”
เปลวกนก เดินเข้ามาได้จังหวะพอดี
“ท่านพ่อจะไปไหนหรอเพคะ”
“คือว่าท่านพ่อจะไปบ้านคุณโสม คุณโสมโดนจับตัวไป” หญิงยอตอบแทนบิดา
“งั้นเรารีบไปกันนะคะท่านพ่อ”
รถคลาสสิคประจำวังศุภคุณเคลื่อนรถออกไปตามทางถนนใหญ่
โสมภานั้นโดนหญิงโฉมจับตัวมาไว้ที่สถานที่ร้างแห่งหนึ่ง โสมภานั้นร้องขอความช่วยเหลือเป็นระยะๆ หญิงโฉมทำสีหน้าดุดูเหมือนไม่ค่อยชอบเจ้าหล่อนยัยคนนี้เสียแล้ว
“นี่หยุดร้องได้แล้ว ไม่มีใครมาช่วยเธอได้หรอก”
“แกต้องการอะไร”
“ฉันต้องการเงินและบ้านวรากรไง ฉันก็จะเฉดหัวแกและไล่แกออกจากบ้านวรากร ทีนี้ฉันจะรักพ่อของแกแล้วทรัพย์สินบ้านของหม่อมย่าแกฉันก็จะเอาไปด้วย ฮ่าๆ”
หญิงโฉมตอบพร้อมหัวเราะอย่างสะใจที่อีกฝ่ายไม่กล้าทำอะไร
คุณชายยิ่งศักดิ์รออีกฝ่ายที่กำลังเดินทางมา และแล้วรถของท่านชายเกียรติก้องก็มาถึง
“คุณศักดิ์ คุณโสมหายไปทางไหนหรอ” หญิงยอถามอีกฝ่าย
“ไปทางโน้นครับ” ศักดิ์ชายตอบ
“งั้นพวกเราไปกันเถอะผมเริ่มเป็นห่วงยัยโสม”
พูดจบคุณชายยิ่งศักดิ์รีบเดินเข้าไปทางที่หญิงโฉมจับตัวโสมภาไป
..............................................................................................................................................
“ช่วยด้วยใครก็ได้ช่วยฉันที” เสียงร้องขอความช่วยเหลือพร้อมน้ำตากลบหน้า
“เงียบหุบปาก ไม่มีใครช่วยแกได้หรอก”
“ถ้าฉันไม่หุบปาก แกจะทำยังไง”
“ก็จะลากแกลงน้ำไง อยากรู้อยู่เหมือนกันว่า ถ้าแกตกน้ำไปใครจะช่วยแก”
“ได้โปรดปล่อยฉันไปเถอะนะ” โสมภาอ้อนวอนอีกฝ่าย
“ไม่ แกต้องไปกับฉัน มา”
“จะพาไปไหน”
“ริมท่าน้ำไง”
“ไม่ฉันไม่ไป”
โสมภาปฏิเสธ ในขณะเดียวกัน คุณชายยิ่งศักดิ์ก็มาถึง เห็นอีกฝ่ายกำลังพาโสมภาไปที่ริมท่าน้ำ
“หญิงโฉม ใจเย็นๆ อามาแล้ว ต้องการอะไรบอกอามา” เสียงทุ้มของท่านชายถามอีกฝ่าย
“ฉันต้องการทุกสิ่งทุกอย่าง ถ้าเข้ามาใกล้อีกยัยนี่ตาย”
“พี่หญิง อย่านะคะ คุณโสมเป็นเพื่อนของเรา ได้โปรดเอาหญิงไปแทนเพื่อนเลยนะคะ”
หญิงยอออกอุบายเพื่อยอมรับแทนโสมภา
“อ๋อ นี่น้องหญิงรับแทนมันทั้งหมดเลยหรอ แต่เสียใจสำหรับคำว่าสายไป ถ้าอยากเป็นเพื่อนกับมัน มันต้องตาย ฮ่าๆ”
“แกลงไปสิ ฉันอยากเห็นแกตาย ฮ่าๆ”
“ไม่ ฉันไม่อยากตาย”
หญิงโฉม ผลักโสมภา ตกลงไปในน้ำ ในตอนนี้โสมภาตะเกียกตะกาย เหมือนทำท่าว่าจะจม ในทันใดนั้น มีชายหนุ่มอีกคนว่ายน้ำมาช่วยโสมภา ก่อนที่รู้อยู่ว่าชายคนนั้นคือใคร
“ไอ้ธนา” ศักดิ์ชายร้อง
“โชคดีนะ ที่ฉันมาช่วยถ้าช่วยไม่ทันน้องสาวนายคงตายไปแล้วเว้ย”
“ขอบคุณคุณธนาด้วยนะคะที่มาช่วยเพื่อนฉัน” หญิงยอกล่าวขอบคุณ
“ไม่เป็นไรครับ” ธนาบอก
หญิงโฉม รีบวิ่งหนีไปอย่างไม่คิดชีวิต ท่านชายเกียรติก้องก็ตามไป
“มันทำไมยังไม่ตาย เจ็บใจจริงๆ”
“หยุด พอได้แล้ว หญิงโฉม พอเลิกอาฆาตเขาได้แล้ว” ท่านชายเกียรติก้องบอก
หญิงโฉมร้องไห้จนน้ำตากลบหน้าและพร้อมบอกกับอีกฝ่ายไปว่า
“ต่อไปนี้ โฉมตัดสินใจแล้วนะคะท่านอา โฉมจะไปบวชชีที่วัด โฉมรู้สึกผิด”
อีกฝ่ายได้แต่พยักหน้ารับพร้อมทั้งหันหลังกลับไปแล้วเดินไปหาหญิงยอ ฝ่ายหญิงยอเองก็บอกออกมาจากใจจริงไปว่า
“หญิงยอเองก็ขออโหสิกรรมทุกอย่างที่เคยทำมา ให้แก่พี่หญิงโฉมสำอางด้วยนะคะท่านพ่อ” หญิงยอบอกให้แก่บิดาของตน
ในขณะที่อีกสักพักโสมภาฟื้นขึ้นมา หญิงยอและเปลวก็เข้ามาใกล้โสมภา พร้อมพาโสมภากลับบ้านดังเดิม ในระหว่างเดินทางกลับ โสมภาตงิดใจเพื่อที่จะถามหญิงยอว่าใครเป็นคนช่วยเธอ
“หญิงยอ ใครมาช่วยฉันหรอ”
“ก็คุณธนาไง เขามาช่วยโสมเอาไว้ เห็นหน้าแบบนั้นแต่เขาก็คงจะรักโสมจริงๆแล้วละมั๊ง”
ใบหน้าของโสมภาตอนนี้แดงก่ำมากๆ กับคนที่ชื่อธนา มหาทรัพย์
รุ่งเช้าของวันใหม่ ภาคิไนยและภูบดี ชำเลืองมองสาวๆ ข้างบ้านของเขา
“แปลกจังเลย หญิงยอกับเปลวไม่อยู่หรอวันนี้” ภาคิไนยถาม
“ไม่รู้สิพี่ภา ถ้าอยู่สองคนนี้คงจะมาเองแล้วละ”
เปลวและหญิงยอเดินเข้ามา
“กำลังรอเราอยู่หรอ”
“ใช่ กำลังรออยู่เลย อะพี่ภาให้ดอกกุหลาบมอบให้แก่ หญิงยอ”
“ขอบคุณค่ะ พี่ภาแต่พี่ภาให้ผิดคนนะ ตามจริงพี่ต้องให้ เปลวกนก”
หญิงยอยิ้ม เพราะรู้อยู่แล้วว่าใจลึก เปลวเองก็แอบชอบภาคิไนยเป็นทุนอยู่แล้ว
“แล้วหญิงยอ ชอบใครหรอ” ภาคิไนยถามอีกฝ่าย
“หัวใจของหญิงยอ มอบให้แก่คุณภูเพียงคนเดียว”
“ยังเหลือเราอีกคน หญิงยอและเปลว”
โสมภาเอ่ยขึ้น พร้อมควงคู่มากับธนา
“เราสามคนนี่ คู่ใครคู่มันเลยเนอะ” เปลวกนกตัดบท
“แล้วว่าแต่อยากเห็นเจ้าของดวงใจของคุณศักดิ์จังเลย ว่าเขาคนนั้นคือใครกันนะ”
หญิงยอเอ่ย กึ่งแซว
“ผมไม่รู้สิครับ ว่าเจ้าของดวงใจดวงนั้นคงยังไม่เกิดละมั๊งครับ” ศักดิ์ชายตอบ
“ผมว่า ขอคุณพ่อ ให้แต่งงานกันดีไหมครับ” ภาคิไนยเอ่ย
“ก็ดีนี่คะ ถ้าภาคิไนยแต่งงานกับเปลว หญิงยอคงแต่งงานกับคุณภู ส่วนคุณโสมต้องแต่งงานกับคุณธนา ความรักของเราไม่เข้าใครออกใครนี่คะจริงไหม”
“จริงสิครับ”
เช้าวันถัดมา งานแต่งทั้งสามคู่ก็เริ่มขึ้น ท่ามกลางผู้คนต่างให้คำยินดีกันกับคู่รักคู่นี้ข้าวใหม่ปลามัน
จบ
“สวัสดีครับคุณโสมภาคนสวย”
“สวัสดีค่ะ คุณธนามานานหรือยังคะ”
“มาได้สักพักแล้วนะครับ จริงสิเห็นได้ข่าวว่า หม่อมย่าของคุณเสียแล้วหรอครับ”
โสมภาไม่ได้ตอบใดๆ ได้แต่พยักหน้ารับแทนคำตอบ
“เสียใจด้วยนะครับ ผมเองก็อยากไปร่วมงานศพอยู่เหมือนกันและแสดงความเสียใจด้วย”
“ค่ะ”
“นั่นแน่ โสม เธอนี่เสน่ห์แรงเลยเนอะ ทิ้งเราแล้วไปหาคุณธนา” เปลวเสริม
“บ้า ก็เธอนะเพื่อนฉันนี่”
“จริงหรอ แต่ฉันว่านะ คุณธนาต้องเป็นแฟนเธอแน่ๆ เลย”
เปลวกนกบอกให้แก่อีกฝ่าย ซึ่งตอนนี้โสมภานั้นใบหน้าแดงก่ำเปรียบเหมือนผลมะเขือเทศ เปลวกนกเดินไปอีกมุมหนึ่งเห็นภาคิไนยกำลังมองภูบดีกับหญิงยออยู่
“คุณภาคะ เอาน้ำไหมคะ”
“เอาครับ ว่าแต่เปลวไม่เอาน้ำหรอ”
“ไม่ค่ะ เปลวไม่หิว หญิงยอกับคุณภูดูกระแหนะกระหนิงจังเลยนะคะ”
“ใช่นี่ครับ ดูคู่โน้นสิ”
ภาคิไนยชี้ไปทางโสมภายืนข้างๆกับธนา
“คุณหึงเขาหรอคะ”
“เปล่านี่ครับ ผมเห็นเขาทั้งสองคนดูสนิทสนมกันมากๆเลย มีแต่ผมนี่แหล่ะที่ไร้คู่”
“ใครว่าคะ” เปลวกนกรีบเอ่ย
เปลวกนกยืนดู หญิงยอคุยกับภูบดี ศักดิ์ชายก็เดินเข้ามา
“อ้าว คุณภา คุณเปลว ผมว่ากะจะชวนไปดื่มที่บาร์กันดีไหมครับ”
“ก็ดีนะ คุณเปลวต้องไปด้วยกันนะครับ”
“ลองถามท่านพ่อก่อนนะว่าจะให้ไปหรือไม่”
เปลวกนกรีบเอ่ยพร้อมยังชำเลืองหญิงยอและโสมเป็นระยะๆ เปลวกนกเดินออกจากผับก่อนภาคิไนยก็เดินออกตามหลัง
คุณชายยิ่งศักดิ์ถึงกับมองดูท้องฟ้า เพราะคิดถึงฟองแข พร้อมบ่นเพ้อไปว่า
“ถ้าฟองแขยังมีชีวิตอยู่ เราคงจะมาเป็นครอบครัวที่มีความสุขแล้วละมั๊ง”
“คุณพี่ คุณพี่” เสียงเรียกของหญิงโฉมดังมาทางด้านหลังของอีกฝ่าย
“อ้าวหญิงโฉม เรียกพี่ไปทำไมหรอ”
คุณชายยิ่งศักดิ์ถามอีกฝ่าย
“คุณพี่อย่าบอกนะคะว่า คิดถึงยัยสถุนไพร่ที่ชื่อฟองแขนะ”
“นี่หญิงโฉม ฟองแขเขาไม่ใช่บ่าวทาสรับใช้เลยนะ ใช่ ผมยังรักฟองแข”
“นี่คุณพี่ มันมีดีอะไร คุณพี่ถึงได้รักมันเสียขนาดนี้ละ”
ยิ่งศักดิ์พ่นลมหายใจเฮือกใหญ่
“ก็เขามีความรักและรับผิดชอบไง ไม่ว่าเราจะรวยหรือจนเราก็คือคนเหมือนกัน”
“นี่คุณพี่เข้าข้างมันหรอคะ”
“เปล่า” ยิ่งศักดิ์ปฎิเสธ
“อ๋อ นี่คงเป็นถ่านไฟเก่ามันยังแรงอยู่ใช่ไหมคะ ได้เลยโฉมจะทำให้ลูกของพี่เจ็บปวดเป็นสองเท่า”
หญิงโฉมรีบเดินออกไปจากที่นั่น ยิ่งศักดิ์ตอนนี้ดูเครียดๆ และสั่นหัวไปมา
สามสาวและสามหนุ่มเดินออกจากสปอร์ตคลับมุ่งหน้าไปยังบาร์ ผู้คนที่เข้ามาร้านบาร์แห่งนี้เป็นอีกหนึ่งคนที่เปรียบเหมือนนักท่องราตรี
“ภาคะ คุณพอแล้วค่ะ ตอนนี้คุณเมามากๆแล้วนะคะ” เสียงหวานของเปลวกนกร้องห้าม
“นี่คุณเปลว คืนนี้เรามาเต้นกันนะ”
หญิงยอมองภูบดีอย่างไม่ละสายตา ในตอนนี้คุณภูดูเริ่มที่จะเมาได้ที่ พร้อมพูดจาวกไปวกมา
“คุณภูคะ หญิงว่าคุณเลิกดื่มแล้วนะคะ นี่เมาแล้วนะคะ”
“ถึงผมจะเมาแต่ผมก็รักคุณ”
“ค่ะ ฉันก็รักคุณเหมือนกัน” หญิงยอตอบ
หญิงยอพยุงชายหนุ่มที่เดินโซซัดโซเซ ให้ออกไปจากข้างนอกร้าน โสมภาก็พยุงธนาตามไปอีกคน
“นี่ภา ภาคิไนย ฟื้นสิคะ” เจ้าหล่อนเรียกอีกฝ่ายพร้อมเขย่าต้นแขน
“ผมเมามากแล้ว คุณช่วยพาผมไปที่ๆ ผมอยากไปให้หน่อยสิ”
“ไปที่ไหนคะ”
“โรงแรมไง”
“บ้า คนฉวยโอกาส บ้าที่สุด”
เปลวกนกรีบปฎิเสธ
เปลวกนกรีบพยุงร่างภาคิไนย ที่ตอนนี้ดูยังเมาอยู่ เอาไปไว้บนเตียง ภาคิไนยได้โอกาสที่เผลอในการกอดเปลวกนก แต่เจ้าหล่อนปฏิเสธ
“ภาคะ คุณภา ตัวร้อนหรือเปล่าเนี่ย”
เปลวกนกรีบนำน้ำมาเช็ดให้แห้ง ในขณะที่อีกฝ่ายยังสลึมสลืออยู่ เปลวกนกรีบหาทางเช็ดตัวให้อีกฝ่าย พร้อมเขียนโน้ตลงบนกระดาษว่า
“สิ่งที่ฉันทำเพื่อนายก็เพราะว่าฉันเอง ยังมีใจให้กับนายอยู่นะ ฉันเองก็เลยเห็นนายเป็นไข้ ฉันก็เลยดูแลนาย ขอบคุณมากๆ นะคะ ถึงแม้ว่าเราทั้งคู่จะยังโสดแต่ฉันก็ทำด้วยใจนะคะ”
เปลวพร้อมกับนึกถึงเรื่องเมื่อวานนี้แต่ก็ต้องไล่ความคิดออกไป
โดยเอาหมอนมานอนข้างล่างแล้วพร้อมนอนเฝ้าอีกฝ่าย พอรุ่งเช้า ชายหนุ่มก็ฟื้นขึ้น
“คุณเปลว” อีกฝ่ายเขย่าต้นแขน
“คุณรู้สึกตัวแล้วหรอ”
“ที่นี่ที่ไหน”
“ที่นี่คือโรงแรม เมื่อคืนนี้คุณเมามากๆ ฉันก็เลยพาคุณมาพักห้องนี้”
“หรอ ผมจำไม่ได้ ช่วงเมากับไม่เมา”
“นี่คุณภาคะ คุณไม่กลับบ้านไปก่อนหรือ เดี๋ยวคุณพ่อคุณแม่คุณตามหานะ”
เปลวกนกบอก ชายหนุ่มได้แต่อึ้งไปอีกสักพัก พร้อมบอกให้แก่อีกฝ่าย
“งั้นเดี๋ยวผมค่อยกลับนะคุณ”
ชายหนุ่มพูดจบ เขาก็รีบหยิบรองเท้าขึ้นมาแล้วมองไปรอบๆ ตัว ก่อนที่จะส่งยิ้มมาให้เปลวกนกอีกรอบ
……………………………………………………………………………………………………
ศักดิ์ชายและโสมภา พึ่งเดินทางมาถึงวังของตน ยิ่งศักดิ์ผู้เป็นบิดาก็โผเข้ากอดทั้งสองคนด้วยความคิดถึง
“โสม ตาศักดิ์ เป็นยังไงบ้าง แล้วกินข้าวหรือยัง”
“พ่อครับ นี่พวกเราไปบาร์มาครับ แต่ผมกับโสมไม่ได้ดื่มนะครับพ่อ”
“จริงหรอ ปะ พ่อว่าเรากลับเข้าบ้านกันนะ” ยิ่งศักดิ์ตอบ
ในขณะที่ทั้งคู่กำลังขึ้นเรือน เห็นหญิงโฉมมาขัดจังหวะแล้ว เอามือจิกไปที่ผมของโสมภา พร้อมกับตบไปที่ใบหน้าของโสม
“โอ๊ย เจ็บนะ พ่อช่วยโสมด้วย”
“นี่หญิงโฉมจะไปตบลูกของเราทำไม”
“อ๋อนี่ ปกป้องมันมากนักใช่ไหม ก็ได้ ฉันจะทำลายชื่อเสียงของแกเอง”
“แกจะโกรธ จะเกลียดอะไรฉันก็เชิญ”
“หญิงโฉม พอ เลิกทำกับหนูโสมได้แล้ว”
“คุณพี่ต้องเลือกมาก่อนว่า ระหว่างฉันกับเด็กบ้านี่ คุณพี่รักใครมากกว่ากัน”
หญิงโฉมจ้องตาอีกฝ่ายเหมือนกับเป็นเดือดเป็นแค้น
“ก็ได้ คือว่า เรารักลูกของเรา เพราะลูกของเราอยู่ในสายเลือดเดียวกัน เราไม่สามารถแยกจากกันไปได้ ถ้าเรารักเธอไป เธอก็ต้องกลายเป็นคนอื่น”
“คุณพี่ไม่รักเราแล้ว งั้นเราขอหย่า”
“แต่เธอก็ต้องปล่อยยัยโสมด้วยนะ”
ยิ่งศักดิ์ร้องขอให้อีกฝ่ายปล่อย แต่อีกฝ่ายนั้นลักพาตัวหนูโสมไป
“ไม่ค่ะคุณพี่ ฉันจะจับยัยโสมไปและฉันนะอยากได้ทุกอย่างจากคุณพี่”
“เธอนี่มันเลวมากๆ”
“ใช่ฉันเลว ฉันนะหมั่นใส้ยัยเด็กนี่อยู่แล้ว ไปแกต้องไปกับฉัน”
“คุณพ่อ ช่วยโสมด้วย”
โสมร้องขอความช่วยเหลือ หญิงโฉมพร้อมดึงกระชากผมมาเป็นกำมือ ศักดิ์ชาย กำลังจะเดินตามไปเพื่อไปช่วยน้องสาวของตนแต่คุณชายยิ่งศักดิ์ห้ามเอาไว้
“คุณพ่อครับ”
“พ่อว่า เราต้องโทรไปหาท่านชายเกียรติก้องเพื่อหาแนวทางในการช่วยเหลือครั้งนี้เสียแล้ว”
คุณชายยิ่งศักดิ์บอกพร้อมสั่งให้ศักดิ์ชายเดินเข้าไปในบ้านเพื่อที่จะโทรศัพท์ไปที่วังศุภคุณ
ณ วังศุภคุณ คนที่รับสายเป็นสาวใช้วัยกลางคน
“สวัสดีค่ะ นี่วังศุภคุณนะคะ ไม่ทราบว่าจะเรียนสายให้ใครหรอคะ”
“ผมขอสายท่านชายเกียรติก้องครับไม่ทราบว่าอยู่หรือเปล่าครับ”
“ท่านชายอยู่ค่ะ”
“ท่านชายเพคะ มีคนอยากจะคุยกับท่านนะคะ”
“ฮัลโหล ผมท่านชายเกียรติก้องพูด”
“ท่านชาย คือว่า ตอนนี้หญิงโฉม จับน้องสาวของผมไป หม่อมฉันอยากจะเรียนเชิญท่านมาเพื่อการเจรจาครั้งนี้ได้ไหมครับ”
“ก็ได้ตกลง”
วังศุภคุณวางสาย ไป ในขณะเดียวกันหญิงยอก็เดินเข้ามาพอดี เห็นท่าทางของบิดาจึงถาม
“ท่านพ่อเพคะ จะไปไหน”
“ลูกหญิง คือว่าพ่อจะไปบ้านคุณชายยิ่งศักดิ์ พี่หญิงโฉม จับตัวน้องสาวของศักดิ์ชายไป”
หญิงยออยู่ในอาการตกใจ
“หา พี่หญิงเนี่ยนะคะ จะไปจับตัวคุณโสม”
“ใช่ เรารีบไปกัน”
เปลวกนก เดินเข้ามาได้จังหวะพอดี
“ท่านพ่อจะไปไหนหรอเพคะ”
“คือว่าท่านพ่อจะไปบ้านคุณโสม คุณโสมโดนจับตัวไป” หญิงยอตอบแทนบิดา
“งั้นเรารีบไปกันนะคะท่านพ่อ”
รถคลาสสิคประจำวังศุภคุณเคลื่อนรถออกไปตามทางถนนใหญ่
โสมภานั้นโดนหญิงโฉมจับตัวมาไว้ที่สถานที่ร้างแห่งหนึ่ง โสมภานั้นร้องขอความช่วยเหลือเป็นระยะๆ หญิงโฉมทำสีหน้าดุดูเหมือนไม่ค่อยชอบเจ้าหล่อนยัยคนนี้เสียแล้ว
“นี่หยุดร้องได้แล้ว ไม่มีใครมาช่วยเธอได้หรอก”
“แกต้องการอะไร”
“ฉันต้องการเงินและบ้านวรากรไง ฉันก็จะเฉดหัวแกและไล่แกออกจากบ้านวรากร ทีนี้ฉันจะรักพ่อของแกแล้วทรัพย์สินบ้านของหม่อมย่าแกฉันก็จะเอาไปด้วย ฮ่าๆ”
หญิงโฉมตอบพร้อมหัวเราะอย่างสะใจที่อีกฝ่ายไม่กล้าทำอะไร
คุณชายยิ่งศักดิ์รออีกฝ่ายที่กำลังเดินทางมา และแล้วรถของท่านชายเกียรติก้องก็มาถึง
“คุณศักดิ์ คุณโสมหายไปทางไหนหรอ” หญิงยอถามอีกฝ่าย
“ไปทางโน้นครับ” ศักดิ์ชายตอบ
“งั้นพวกเราไปกันเถอะผมเริ่มเป็นห่วงยัยโสม”
พูดจบคุณชายยิ่งศักดิ์รีบเดินเข้าไปทางที่หญิงโฉมจับตัวโสมภาไป
..............................................................................................................................................
“ช่วยด้วยใครก็ได้ช่วยฉันที” เสียงร้องขอความช่วยเหลือพร้อมน้ำตากลบหน้า
“เงียบหุบปาก ไม่มีใครช่วยแกได้หรอก”
“ถ้าฉันไม่หุบปาก แกจะทำยังไง”
“ก็จะลากแกลงน้ำไง อยากรู้อยู่เหมือนกันว่า ถ้าแกตกน้ำไปใครจะช่วยแก”
“ได้โปรดปล่อยฉันไปเถอะนะ” โสมภาอ้อนวอนอีกฝ่าย
“ไม่ แกต้องไปกับฉัน มา”
“จะพาไปไหน”
“ริมท่าน้ำไง”
“ไม่ฉันไม่ไป”
โสมภาปฏิเสธ ในขณะเดียวกัน คุณชายยิ่งศักดิ์ก็มาถึง เห็นอีกฝ่ายกำลังพาโสมภาไปที่ริมท่าน้ำ
“หญิงโฉม ใจเย็นๆ อามาแล้ว ต้องการอะไรบอกอามา” เสียงทุ้มของท่านชายถามอีกฝ่าย
“ฉันต้องการทุกสิ่งทุกอย่าง ถ้าเข้ามาใกล้อีกยัยนี่ตาย”
“พี่หญิง อย่านะคะ คุณโสมเป็นเพื่อนของเรา ได้โปรดเอาหญิงไปแทนเพื่อนเลยนะคะ”
หญิงยอออกอุบายเพื่อยอมรับแทนโสมภา
“อ๋อ นี่น้องหญิงรับแทนมันทั้งหมดเลยหรอ แต่เสียใจสำหรับคำว่าสายไป ถ้าอยากเป็นเพื่อนกับมัน มันต้องตาย ฮ่าๆ”
“แกลงไปสิ ฉันอยากเห็นแกตาย ฮ่าๆ”
“ไม่ ฉันไม่อยากตาย”
หญิงโฉม ผลักโสมภา ตกลงไปในน้ำ ในตอนนี้โสมภาตะเกียกตะกาย เหมือนทำท่าว่าจะจม ในทันใดนั้น มีชายหนุ่มอีกคนว่ายน้ำมาช่วยโสมภา ก่อนที่รู้อยู่ว่าชายคนนั้นคือใคร
“ไอ้ธนา” ศักดิ์ชายร้อง
“โชคดีนะ ที่ฉันมาช่วยถ้าช่วยไม่ทันน้องสาวนายคงตายไปแล้วเว้ย”
“ขอบคุณคุณธนาด้วยนะคะที่มาช่วยเพื่อนฉัน” หญิงยอกล่าวขอบคุณ
“ไม่เป็นไรครับ” ธนาบอก
หญิงโฉม รีบวิ่งหนีไปอย่างไม่คิดชีวิต ท่านชายเกียรติก้องก็ตามไป
“มันทำไมยังไม่ตาย เจ็บใจจริงๆ”
“หยุด พอได้แล้ว หญิงโฉม พอเลิกอาฆาตเขาได้แล้ว” ท่านชายเกียรติก้องบอก
หญิงโฉมร้องไห้จนน้ำตากลบหน้าและพร้อมบอกกับอีกฝ่ายไปว่า
“ต่อไปนี้ โฉมตัดสินใจแล้วนะคะท่านอา โฉมจะไปบวชชีที่วัด โฉมรู้สึกผิด”
อีกฝ่ายได้แต่พยักหน้ารับพร้อมทั้งหันหลังกลับไปแล้วเดินไปหาหญิงยอ ฝ่ายหญิงยอเองก็บอกออกมาจากใจจริงไปว่า
“หญิงยอเองก็ขออโหสิกรรมทุกอย่างที่เคยทำมา ให้แก่พี่หญิงโฉมสำอางด้วยนะคะท่านพ่อ” หญิงยอบอกให้แก่บิดาของตน
ในขณะที่อีกสักพักโสมภาฟื้นขึ้นมา หญิงยอและเปลวก็เข้ามาใกล้โสมภา พร้อมพาโสมภากลับบ้านดังเดิม ในระหว่างเดินทางกลับ โสมภาตงิดใจเพื่อที่จะถามหญิงยอว่าใครเป็นคนช่วยเธอ
“หญิงยอ ใครมาช่วยฉันหรอ”
“ก็คุณธนาไง เขามาช่วยโสมเอาไว้ เห็นหน้าแบบนั้นแต่เขาก็คงจะรักโสมจริงๆแล้วละมั๊ง”
ใบหน้าของโสมภาตอนนี้แดงก่ำมากๆ กับคนที่ชื่อธนา มหาทรัพย์
รุ่งเช้าของวันใหม่ ภาคิไนยและภูบดี ชำเลืองมองสาวๆ ข้างบ้านของเขา
“แปลกจังเลย หญิงยอกับเปลวไม่อยู่หรอวันนี้” ภาคิไนยถาม
“ไม่รู้สิพี่ภา ถ้าอยู่สองคนนี้คงจะมาเองแล้วละ”
เปลวและหญิงยอเดินเข้ามา
“กำลังรอเราอยู่หรอ”
“ใช่ กำลังรออยู่เลย อะพี่ภาให้ดอกกุหลาบมอบให้แก่ หญิงยอ”
“ขอบคุณค่ะ พี่ภาแต่พี่ภาให้ผิดคนนะ ตามจริงพี่ต้องให้ เปลวกนก”
หญิงยอยิ้ม เพราะรู้อยู่แล้วว่าใจลึก เปลวเองก็แอบชอบภาคิไนยเป็นทุนอยู่แล้ว
“แล้วหญิงยอ ชอบใครหรอ” ภาคิไนยถามอีกฝ่าย
“หัวใจของหญิงยอ มอบให้แก่คุณภูเพียงคนเดียว”
“ยังเหลือเราอีกคน หญิงยอและเปลว”
โสมภาเอ่ยขึ้น พร้อมควงคู่มากับธนา
“เราสามคนนี่ คู่ใครคู่มันเลยเนอะ” เปลวกนกตัดบท
“แล้วว่าแต่อยากเห็นเจ้าของดวงใจของคุณศักดิ์จังเลย ว่าเขาคนนั้นคือใครกันนะ”
หญิงยอเอ่ย กึ่งแซว
“ผมไม่รู้สิครับ ว่าเจ้าของดวงใจดวงนั้นคงยังไม่เกิดละมั๊งครับ” ศักดิ์ชายตอบ
“ผมว่า ขอคุณพ่อ ให้แต่งงานกันดีไหมครับ” ภาคิไนยเอ่ย
“ก็ดีนี่คะ ถ้าภาคิไนยแต่งงานกับเปลว หญิงยอคงแต่งงานกับคุณภู ส่วนคุณโสมต้องแต่งงานกับคุณธนา ความรักของเราไม่เข้าใครออกใครนี่คะจริงไหม”
“จริงสิครับ”
เช้าวันถัดมา งานแต่งทั้งสามคู่ก็เริ่มขึ้น ท่ามกลางผู้คนต่างให้คำยินดีกันกับคู่รักคู่นี้ข้าวใหม่ปลามัน
จบ
คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
7 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
7 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
7 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ