[Yaoi] BEFORE U GO - ก่อนเธอจะไป
เขียนโดย ช็อกโก้พาย
วันที่ 29 พฤศจิกายน พ.ศ. 2560 เวลา 15.09 น.
แก้ไขเมื่อ 29 พฤศจิกายน พ.ศ. 2560 15.13 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น
5)
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
5
จึ่กๆ
“หืม?” แบงค์หันกลับไปมองเมื่อรู้สึกว่ามีบางสิ่งบางอย่างกำลังกระตุกชายเสื้อของเขา เด็กที่เป็นแกนนำเพื่อน ๆ ในการวิจารณ์ความสัมพันธ์เขากับ ดินซึ่งคลับคล้ายคลับคลาว่าชื่อมินยืนทำตาแป๋วอยู่ ความสูงไม่ถึงครึ่งขาแต่ซ่านักนะเด็กนี่ แบงค์นั่งยอง ๆ ลงตรงหน้ามินแล้วเอื้อมมือไปยีหัวอย่างหมั่นเขี้ยวจนผมเปียนั่นยุ่งเหยิง มินมองเพื่อนร่วมชั้นตัวโตสายตาเคือง ๆ ตามประสาเด็ก
“ว่าไงตัวแสบ” แบงค์ถามเด็กน้อยตรงหน้า
“มินไม่แสบนะ”
นั่น เถียงเก่งซะด้วย
“พี่เป็นแฟนครูดินเหรอคะ” มินถามในสิ่งที่สงสัยออกไป แบงค์เลิกคิ้วมองเด็กน้อย
“ทำไมคิดแบบนั้นล่ะ” แบงค์หันไปมองอีกคนที่ถูกพาดพิงด้วยเช่นกัน ดินกำลังยืนจัดหนังสือเข้าชั้นอยู่มุมห้อง เจ้าตัวคงไม่รู้ว่าตนเองเป็นหัวข้อในการสนทนาของเขากับมินในตอนนี้ เด็กคนอื่น ๆ ไม่ได้สนใจที่เขาเหมือนกับมิน ต่างคนต่างทำกิจกรรมของตัวเองไป แต่เด็กเปียตัวแสบนี่คงสงสัยจริงๆถึงได้เข้ามาถาม เขาว่ากันว่าเด็กช่างสงสัยคือเด็กฉลาดนี่เชื่อได้แค่ไหนกันนะ
“หนูเห็นครูดินมองพี่ พี่มองครูดิน ครูดินหน้าแดงด้วยตอนที่พี่บอกชอบ” มินร่ายยาว
“แก่แดดนะเรา” แบงค์เผลอเขกหัวมินเหมือนที่ชอบทำกับดินด้วยความเอ็นดู เขาไปมองดินให้เด็กนี่เห็นตั้งแต่เมื่อไหร่ แล้วไอ้ที่บอกชอบนั่นมันก็แค่เล่นเกม เด็กสมัยนี้มโนเก่งจริง
“ฮึก..ครูคะ..พี่แบงค์ตีมิน” นั่นไง มโนเรียบร้อยเด็กมินก็วิ่งร้องไห้ขี้มูกโป่งไปฟ้องดิน แบงค์ยกมือขึ้นเป็นเชิงว่าเปล่าไม่ได้ทำอะไร
ฝ่ายดินเมื่ออยู่ดีๆได้ยินเสียงนักเรียนร้องไห้จึงละความสนใจจากสิ่งที่ทำ หันกลับมาหาอ้าแขนรับมินที่วิ่งมากอด มองต้นเหตุด้วยสายตาดุ ๆ
“ไม่ร้องนะครับมิน” ดินลูบผมเด็กน้อยอย่างปลอบประโลม แล้วหันมาถามต้นเหตุที่เดินมานั่งขัดสมาธิตรงหน้า “แบงค์ทำอะไรมิน” มินไม่ยอมมองแบงค์แม้แต่น้อย
“เฮ้ย เปล่านะ.. จริง ๆ แล้วก็นิดหน่อย” จะปฏิเสธก็ไม่เต็มปากเดี๋ยวหาว่าโกหกเด็กอีก เด็กคนอื่น ๆ เริ่มหันมาให้ความสนใจพวกเขาเพราะได้ยินเสียงเพื่อนร้องไห้ เด็กตาบอดคนหนึ่งเดินมาหาครูดินโดยไอคิวเป็นคนพามา
“มินร้องไห้ทำไม” เด็กตาบอดคนนั้นถามเพื่อนสนิท
“ฮึก..ฮืออ.พะ.ฮึก..พี่แบงค์ตีเรา” มินร้องไห้ตัวโยนในอ้อมกอดของ ดิน แบงค์กุมหัวด้วยความกลุ้มใจ ไม่รู้ว่าดินจัดการกับความวุ่นวายในห้องเรียนยังไงแค่เขามาไม่ถึงครึ่งค่อนวันยังปวดหัวขนาดนี้
“มินหยุดร้องก่อนนะเด็กดี ฟังครูนะครับ” ดินดันตัวมินออกเล็กน้อย เลื่อนมือขึ้นปาดน้ำตาให้ มินลดเสียงสะอื้นลงจ้องหน้าตั้งใจฟังตามที่ครูบอก
“พี่แบงค์ทำอะไรมินครับ?” ดินถามเหมือนกำลังสอบปากคำผู้เคราะห์ร้าย แบงค์นั่งทำหน้าเซ็งที่จู่ๆก็ถูกยัดเยียดให้กลายเป็นผู้ร้ายโดยไม่ได้ตั้งใจ ยิ่งแล้วใหญ่มินเอามือเล็ก ๆ เขกลงที่หัวตัวเองเบา ๆ คล้ายกำลังทำแผนประกอบคำสารภาพ
“มินครับพี่แบงค์แกล้งเล่นเฉย ๆ นะครับ ครูยังโดนบ่อย ๆ เลย ใช่มั้ย แบงค์?” ดินหันไปขอความช่วยเหลือจากแบงค์
“ใช่ นี่ไง” ไม่พูดเปล่าแบงค์ยังเขกหัวดินเป็นการสาธิตด้วย
โป๊ก!
“แบงค์!” คุณครูดินของเด็ก ๆ หันมาโวยวายเรียกชื่อตัวต้นเหตุเสียงดัง
“อะไร? แค่แกล้งเล่นไง ทำให้เด็กดู” แบงค์ยักคิ้วกวน
“พวกเราไม่อยากให้พี่แบงค์เป็นแฟนกับครูดินเลย” เด็กตาบอดคนนั้นพูด ถึงแม้จะมองไม่เห็นแต่ฟังจากที่พี่นักเรียนคนใหม่แกล้งครูกับเพื่อนก็ทำให้เด็กน้อยเกิดไม่ชอบแบงค์ขึ้นมา
“ทำไมล่ะ” แบงค์ถาม ไม่ได้รู้สึกเคืองอะไรที่เด็กพูดแบบนั้น แค่อยากรู้เหตุผลว่าทำไมถึงไม่อยากให้เขาเป็นแฟนกับดิน
“พี่แบงค์ใจร้าย พี่แบงค์ชอบแกล้ง”เด็กตาบอดคนนั้นพูดตามที่ตนเองรู้สึก
“แต่พี่หล่อนะ ใครๆก็อยากได้เป็นแฟน จริงไหมครับครู?” พูดอออกมาอย่างมั่นใจพร้อมทั้งหันไปมองหน้าดินด้วยรอยยิ้มกริ่ม
ก๊อกๆ
“ไปกินข้าวได้แล้วเด็กๆ น้องแบงค์ด้วยนะคะ”
เฟิร์นเปิดประตูเข้ามาเรียกเด็กๆไปกินข้าวเมื่ออาหารกลางวันที่โรงเรียนจัดเตรียมไว้ให้พร้อมแล้ว ดินไม่ได้พูดอะไรต่อ โชคดีที่เฟิร์นเข้ามาแก้สถานการณ์ก่อนไม่งั้นเด็กๆคงต้องสงสัยและถามอีกหลายต่อหลายคำถามเป็นแน่
เด็กๆทยอยเดินออกไปกินอาหารกลางวันกับครูเฟิร์นหมดแล้ว เหลือแต่ดินและแบงค์อยู่ในห้องสองคน ดินลุกขึ้นเดินไปจัดหนังสือตรงมุมห้องต่อ คนขี้แกล้งเดินตามโดยไม่ปล่อยให้เสียโอกาส มือหนาสัมผัสมือบางทำทีเป็นแตะหนังสือเล่มเดียวกัน ดินชะงักขมวดคิ้วมอง
“เหี่ยวแล้ว” แบงค์พูดแซวพร้อมกับเอื้อมมือข้างที่ว่างไปจับหัวดินแล้วใช้นิ้วโป้งคลึงบริเวณรอยย่นระหว่างคิ้วซึ่งเกิดจากที่ร่างโปร่งขมวดคิ้ว
“อะไร?” เหี่ยวอะไร ได้ข่าวอายุห่างกันแค่ปีเดียว
“เขินเหรอครับครู” คนขี้แกล้งถามขึ้น พลางมองใบหน้าหวานที่ยังมีสีแดงระเรื่อจางๆประดับอยู่ด้วยรอยยิ้มกริ่ม แบงค์รู้ดีว่าแกล้งดินด้วยวิธีไหนจะได้ผลแบงค์รู้ว่าร่างกายดินยังพ่ายแพ้ต่อสัมผัสของเขา นั่นถึงทำให้การแกล้งดินเป็นเรื่องสนุกสำหรับแบงค์ในตอนนี้
“เปล่า เฉยๆ” ถึงจะปฏิเสธชัดเจนแต่ปฏิกิริยาทางร่างกายกลับตรงกันข้าม แบงค์ขำและไม่ละความพยายามในการแกล้งอีกฝ่ายต่อ ถือว่าเอาคืนที่ ดินแกล้งเขาตอนเล่นเกมก็แล้วกัน
“เขินก็พูดมาเถอะน่า” แบงค์แกล้งไม่เลิก
“กูไม่ได้เขิน อย่ามากวนตีน กูเฉยๆมาก เฉยจริงๆ ไม่ได้รู้สึกอะไรเลย” ดินปัดมือแบงค์ออกพร้อมทั้งพูดปฏิเสธรัว ก่อนจะเร่งมือเรียงหนังสือเล่มที่เหลือเข้าชั้น คิ้วเรียวขมวดมุ่น นึกหงุดหงิดอีกคนที่แกล้งเขาไม่หยุดแบบนี้
“ครูพูดไม่เพราะเลยนะครับ ผมไม่ค่อยชอบ” ร่างหนาเข้ามาประชิดร่างโปร่งจากทางด้านหลัง โอบเอวคุณครูคนสวยไว้หลวมๆแล้วเอาคางเกยไหล่
ดินรู้สึกว่ามันชักจะมากไปเพราะท่าที่ยืนอยู่มันล่อแหลมเกินหากมีคนผ่านมาเห็น จึงตีมือแบงค์แรงๆไปทีให้คนที่สวมกอดตนเองอยู่ปล่อย
“ขี้แกล้งว่ะ ปล่อยเลยเดี๋ยวคนอื่นมาเห็น” ถึงจะยอมรับว่ารู้สึกดีทุกครั้งที่สัมผัสได้ถึงลมหายใจอุ่นที่รินรด เพราะมันทำให้ดินรู้สึกว่าเขากับแบงค์ใกล้กันเพียงแค่นี้ แต่มันก็ใช่เรื่องที่จะมาทำในที่สาธารณะซะเมื่อไหร่
“ไม่ได้แกล้งครับ ผมจริงจังกับครูนะ” จมูกโด่งของแบงค์กดลงบนแก้มเนียนของดิน ก่อนจะยอมผละออกแต่โดยดีเมื่อได้แกล้งร่างโปร่งจนพอใจ แบงค์เท้าแขนบนชั้นวางหนังสือมองหน้าแดงๆของดินแล้วยิ้มขำ
“หิวว่ะคนแก่ หาอะไรแดกกัน” เอ่ยชวนออกมาดื้อๆเหมือนว่าเมื่อกี้ไม่ได้เกิดอะไรขึ้น เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายเปลี่ยนเรื่องดินก็ไม่ได้พูดอะไรต่อ
มันก็แค่หอมแก้ม ..
แค่หอมแก้ม..
-///-
“ยังกับตูดลิง เลิกหน้าแดงได้แล้ว เด็กมันเขินก็น่ารักหรอกนะ แต่คนแก่เขินนี่ไม่ไหวๆ” แบงค์ส่ายหน้าประกอบ
“เหี้ย!” ดินสบถออกมาโดยลืมว่าตัวเองเป็นพ่อพิมพ์ของชาติ(?)ไปเสียสนิท ขาเรียวยื่นไปเตะแข้งอีกคนแต่แบงค์รู้ทันจึงก้าวขาหลบ
“อะไร มีปัญหา?” แบงค์มองหน้านิ่งๆ เหมือนพร้อมจะหาเรื่องทุกเมื่อ
“แดกไหมข้าวน่ะ!” ดินพูดออกมาอย่างหงุดหงิดเพราะทำอะไรอีกฝ่ายไม่ได้ แบงค์นึกขำในใจกับท่าทางกระฟัดกระเฟียดของร่างโปร่งตรงหน้า
“นำไปสิ” แบงค์บอก ใบหน้ายังเรียบเฉยแบบเดิม ทฤษฎีของเมะหมวดที่สิบห้า หน้าแปดสิบสาม วรรคที่สองกล่าวไว้ ถ้าเคะงอนให้ตีนิ่งใส่ ร้อยทั้งร้อยไม่กล้าหือกับเรา
“ฮึ่ย! ก็ตามมาสิ” ดินเดินนำออกจากห้อง
เห็นไหม..
ยกนี้เขาชนะ ; )
ดินพาแบงค์ออกมากินก๋วยเตี๋ยวร้านข้างทางไม่ไกลจากโรงเรียนมากนักเพราะเวลาพักของเขามีแค่หนึ่งชั่วโมงก่อนจะต้องกลับไปสอนเด็กๆต่อในช่วงบ่ายอีก
บรรยากาศแสนธรรมดารถราวิ่งสวนกันไปมาบนท้องถนนบวกกับความร้อนของเมืองไทยทำให้แบงค์หงุดหงิดอยู่บ้าง แต่มันก็ไม่ได้แย่ซะไปหมดเพราะก๋วยเตี๋ยวร้านที่มากินนับว่าถูกปากอยู่พอสมควร
“จะแดกให้เขาปิดร้านแต่หัววันเลยรึไง” แบงค์พูดประชดออกมาเมื่อเห็นว่าดินกำลังตั้งหน้าตั้งตากินก๋วยเตี๋ยวชามที่สอง
“เออ ป้าแกจะได้ไม่เหนื่อย”
นั่น..ยังรับมุก
“มึงจะกินไรเยอะแยะ ไม่กลัวอ้วน?” แบงค์ถาม บะหมี่ในชามของเขาหมดแล้ว แม้แต่ผักก็ไม่เหลือ แต่ดินยังกินไม่หยุด
“กลัวไม่มีแดกมากกว่า” ดินตอบออกไปตามความเป็นจริง ลูกชิ้นลูกใหญ่ถูกตักเข้าปาก คนกินจุเคี้ยวจนแก้มตุ้ย
“กินเพื่ออยู่ไม่ใช่อยู่เพื่อกิน” แบงค์ว่า แต่คนตรงหน้าเขาไม่ได้สะทกสะท้านอะไรเลย แบงค์สังเกตได้ว่าดินมีวิธีการกินก๋วยเตี๋ยวเหมือนกับวิธียอดฮิตของคนทั่วไป นั่นคือต้องกินเส้นจนหมดเหลือลูกชิ้นกับหมูไว้ตบท้าย
“เรื่องของกู” คนถูกเหน็บไม่ได้สนใจ ค่อยๆตักลูกชิ้นในชามกินต่อราวกับว่ามันเป็นอาหารรสเลิศในภัตตาคารหรู ลูกชิ้นลูกสุดท้ายถูกตักเข้าปาก ดินใช้เวลาเคี้ยวมันนานกว่าปกติเพราะอยากรับรู้รสชาติความอร่อยนี้นานๆ แต่หากจะกินต่อก็กลัวจะเลยเวลาเข้าสอน
“ทำไมไม่กินผัก?” แบงค์ถามเมื่อดินวางตะเกียบลงแล้วหากแต่ชามก๋วยเตี๋ยวยังเหลือถั่วงอกลอยเต็มไปหมด
“ไม่กินถั่วงอก” ดินตอบออกไปตามตรง
“แล้วทำไมไม่บอกแม่ค้าว่าไม่เอา เสียดายของ” แบงค์มองดุๆ
“ลืม ขอโทษได้ไหมล่ะ” ดินพูดพลางดูดน้ำมองหน้าแบงค์ที่หาเรื่องมาว่าเขาได้ตลอดเวลาอย่างเคืองๆ แบงค์เลิกทำหน้าดุแล้วขำกับท่าทางของคนตรงหน้า
“จริงๆเราก็ชอบอะไรเหมือนกันหลายอย่าง” แบงค์นึกไปถึงครึ่งชั่วโมงก่อนที่พวกเขามาถึงร้านแล้วเอ่ยสั่งหมี่เหลืองแม่ค้าไปพร้อมกัน
“แต่ความคิดไม่เหมือนกัน” ดินพูดต่อ นี่อาจจะเป็นหนึ่งเหตุผลที่ทำให้ความสัมพันธ์ของเขาทั้งสองไม่ยืดยาวเหมือนกับคู่อื่น แบงค์กับดินคิดต่างกันเกินไป ดินชอบความโรแมนติก แต่แบงค์รำคาญสิ่งเหล่านั้น ดินชอบพูดความรู้สึกทุกอย่างออกไป แต่แบงค์เงียบไว้ทุกครั้ง ดินเป็นพวกชอบคิดมากในขณะที่แบงค์ดูเหมือนไม่คิดอะไรเลย
ดินไม่ชอบความรู้สึกนี้ที่สุด ราวว่าระยะห่างของเขาสองคนไกลกันเกินไป ไม่มีทางเข้ากันได้ ไม่รวมเรื่องบนเตียงซึ่งเหมือนจะเป็นเรื่องเดียวที่เข้ากันได้ดี ดินยอมทิ้งทุกอย่างที่ชอบเพียงเพราะคิดว่ามันจะยื้อความสัมพันธ์ที่ไม่แน่นอนนี้ให้ยาวออกไป แต่เขาก็คิดผิด อะไรที่ฝืนมักไม่ยืดยาวเหมือนที่แบงค์บอก
“คิดมากอีกล่ะสิมึง”
นั่นไง ดินดูออกง่ายมากในสายตาแบงค์ แต่แบงค์เดายากมากสำหรับดิน แค่นี้ก็ต่างกันแล้ว
“เปล่า” ดินโกหกคำโต
“แล้วมึงชอบอะไรบ้าง” แบงค์ถามออกไปเพื่อเปลี่ยนบรรยากาศให้มันดีกว่าเดิม
“มึง” ไม่มีอ้อมค้อม ดินตอบตรงซะจนแบงค์เลิกคิ้วมอง
“หืม?”
“ก็บอกแล้วว่าสเป็คกูแบบมึง แต่กูไม่ใช่สเป็คมึงนี่” คำพูดที่เหมือนตัดพ้อเอ่ยขึ้นจากริมฝีปากอิ่ม แบงค์ถอนหายใจหนักๆออกมา อุตส่าห์พาออกจากเรื่องนี้แล้วนะ
“พากูดราม่าอีกแล้วมึงนี่” แบงค์ส่ายหน้า
“มึงไม่ชอบนิสัยกูตรงไหนบ้าง” อยากรู้ ก็แค่อยากรู้ว่ามันจะเป็นอีกหนึ่งเหตุผลที่ทำให้พวกเขาต้องเลิกกันรึเปล่า
“นิสัยเสียมึง ดื้อบ้าง พูดไม่รู้จักฟังบางครั้ง คิดมาก ชอบมโนเกินเหตุ” แบงค์ร่ายยาว
“มีอีกไหม- -?” ดินถามต่ออีก
“น่าจะยังมีอีกแต่คิดไม่ออก” แบงค์ตอบพร้อมกับกับยักคิ้วกวน
กูประชดเว่ย!
“พูดซะกูไม่มีอะไรดี- -” ดินวางแก้วน้ำลง เอนหลังพิงเก้าอี้นั่งคุยกับแบงค์ไป คิดว่ารอให้กระเพาะมันย่อยก่อนค่อยเดินกลับโรงเรียน “แล้วถ้ามึงชอบใครสักคนมึงจะทำยังไง” ก็พอรู้ว่าสเป็คแบงค์นั้นเป็นยังไง แต่ไม่เคยรู้ว่าเวลาอีกคนปฏิบัติกับคนที่ชอบจริงๆนั้นจะเป็นอย่างไร เพราะตอนที่พวกเขาคบกันมันแทบไม่มีอย่างอื่นเลยนอกจากเรื่องแบบนั้น
“เอาเป็นว่าถ้ากูรู้สึกดีกูก็อยากแกล้ง อยากต้อนเขาให้จนมุมในคำพูดของกู ประมาณนั้น” แบงค์ตอบคำถามของดิน
“งั้นก็แปลว่ามึงรู้สึกดีกับกูอ่ะดิ” แกล้งถามออกไป อารมณ์ดราม่าเมื่อกี้หายไปตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้ คงจะเป็นตอนที่เขาคิดเข้าข้างตัวเองในคำพูดเมื่อสักครู่ของแบงค์ หัวใจมันพองโตแปลกๆ ถึงจะเป็นแค่การเข้าข้างตัวเองก็เถอะ
“แล้วมึงจนมุมกับคำพูดกูบ้างรึยังหืม?”
..........................................
คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ