Fic naruto ภาค พายุโลหิต
10.0
เขียนโดย นิกซ์
วันที่ 21 พฤศจิกายน พ.ศ. 2560 เวลา 15.23 น.
33 ตอน
12 วิจารณ์
54.28K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 23 พฤศจิกายน พ.ศ. 2560 16.43 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น
21) บทที่ 21 เที่ยวเอโดะ1
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความทางด้านอิโนะที่วันนี้ได้ชวนสาวๆมาเม้าท์มอยตามประสา
เท็นเท็นถามทันที “ซากุระล่ะอิโนะ ทำงานเหรอ?”
“ไปที่เอโดะน่ะ งานท่าจะเยอะจริง”อิโนะนึกเพื่อนสาวที่ทำงานโรงพยาบาลแบบไม่ได้พัก ขนาดกินข้าวพร้อมกับตรวจเอกสาร นอนนั้นก็นอนดึก และแล้วเธอก็ได้บอกเหตุผลว่าความจริงเธอจะแยกวิญญาณมาทำงานก็ได้เพื่อให้ร่างเนื้อได้พักผ่อน แต่เธอเกรงว่าพยาบาล หรือรุ่นน้องจะกลัว เพราะอาจจะมองไม่เห็นร่างแยกวิญญาณ แต่จเห็นปากกาพู่กันขยับเองหรือเอกสารลอยไปลอยมา ซึ่งต่างกับเอโดะที่มีห้องทำงานส่วนตัวและไม่ค่อยออกนอกสถานที่บ่อยแถมเหล่าลูกน้องก็ชินแล้ว ซากุระจึงสะสางงานในโคโนฮะอย่างเรียบร้อย...
ฮินาตะเอ่ยขึ้น “ดูแล้วนิสัยเค้า ดูไม่เหมือนเดิมเลยนะคะ”
อิโนะพยักหน้า “ใช่ แถมยัยนั่นโดนบังคับให้รีบแต่งงานอีก”
สองสาวอุทาน”เอ๋?”
“จริง แต่ยัยนั่นชิ่งตลอด คาโอรุคุงที่เป็นญาติกันยังหนี เอโดะนิยมแต่งงานกันเร็วอีก แต่ฐานะของสองคนนั้นก็ใช่ย่อยนะ แถมซากุระจริงๆแล้วก็ไม่ได้รู้สึกรักซาสึเกะคุงเลย”
ฮินาตะเอ่ยขึ้น”เป็นคาแร็คเตอร์ที่ถูกสร้างขึ้นเหรอคะ”
“คงประมาณนั้น”
เท็นเท็นเอ่ยขึ้น”ชั้นว่า เค้าคงจะรักษากฎด้วย”
“กฎ?”
เท็นเท็นถาม”นี่ไม่รู้เหรอ ว่าเอโดะกับ5แคว้นนินจามีข้อตกลงร่วมกันอยู่ นั่นก็คือ ซามูไรจะไม่เข้ามายุ่งในการปกครองแคว้น”
อิโนะนึกบางอย่างได้ “เปลี่ยนเรื่องดีกว่า พวกเราไปเที่ยวเอโดะกันไหม เห็นว่าเทศกาลของหวานที่นั่นจัดตลอดฤดูหนาว ชั้นไปครั้งหนึ่ง มีของหวานให้เลือกเยอะแยะเลย”
“จริงเหรอ” สองสาวตาเป็นประกาย
หลังจากนั้น สาวๆก็พากันไปชวนหนุ่มๆและเทมาริที่อยู่ซึนะ ไปเที่ยวที่แคว้นเอโดะ ซึ่งทุกคนก็อยากไปเพราะว่างงานและเอโดะก็เป็นแคว้นที่ขึ้นชื่อเรื่องมีสถานที่ท่องเที่ยวมากมายหลายแบบเพราะมีพื้นที่มากมาย
...
การเดินทางไปแคว้นเอโดะนั้น นารูโตะก็ได้ลากซาสึเกะไปด้วยเผื่อจะได้เจอใครบางคน นอกจากนี้ยังได้ชวน กาอาระไป ส่วนกาอาระนั้นก็ได้ให้คังคุโร่ดูแลหมู่บ้านแทน
ทั้งหมดเดินทางด้วยรถไฟ ซึ่งกินเวลานานแต่สบาย แต่กว่าจะผ่านด่านตรวจและขออนุญาติเอาอาวุธเอาไปก็กินเวลานานพอสมควร
กลุ่มโคโนฮะทั้งหมดมาถึงแคว้นก็เวลาพลบค่ำพอดีแต่ดันโผล่มาที่โซนสถานบันเทิงและถนนคนเดิน
เอโดะในตอนนี้ช่างคึกครื้นเต็มไปด้วยแสงสี ร้านค้า สถานบันเทิงคึกคัก เหล่าหน้าม้า ต่างพยายามเรียกลูกค้า
นารูโตะหันไปหาซาอิ “เราจะหาที่พักได้ไงเนี่ย”
ซาอิด้วยสีหน้าเรียบเฉย “ตอนนั้นเราไปพักที่บาร์กระเทยครับ โคตรน่ากลัว แถมตอนนั้นคุณซากุระก็ไม่ได้บอกเรื่องที่พักอีก”
อิโนะเอ่ยขึ้น”แต่ยัยนั่นจะแนะนำที่พักให้นะ ไม่รู้พวกเรามาถูกโซนรึเปล่า ที่นี่มีหลายโซนมาก”
แต่แล้ว...
ขบวนรถม้าและกองทหารก็พุ่งมา
“กรุณาถอยห่างขอรับ”
งานนี้ทำเอาคนแตกฮือ เหล่าทหารก็เข้าประจำการที่บาร์ฮานะ บาร์ที่ใหญ่ที่สุด
เสียงโวยของใครบางคนก็ลอยมา...
“ไอ้ป๋าบ้า!ใจคอกะจะไม่พักรึไงวะ!”
“เอาน่าๆ ใจเย็นๆดูเบนิสิ ไม่ได้ตั้งแต่เมื่อวานยังไม่บ่นเลย”
“น่าเบื่อน่อ”
งานนี้ทำเอาโคโนฮะทุกคนงง ว่าเกิดอะไรขึ้นเพราะรู้ว่าเจ้าของเสียงอยู่ที่ไหน แต่ก็มีชายหนุ่มคนหนึ่งวิ่งมา
“พวกท่านนินจาใช่มั้ยขอรับ”
อิโนะ”ใช่ค่ะ มีอะไรเหรอคะ”
ชายหนุ่มเอ่ยขึ้น”รบกวนด้วยขอรับ”
กลุ่มโคโนฮะได้ตามชายคนนั้นไปยังหลังบาร์ฮานะ
เจ้าของร้านเป็นสาวประเภทสองที่แต่งตัวด้วยกิโมโนสีม่วงเข้ม
“คือว่า สาวในบาร์เกิดเป็นหวัดทั้งหมด เลยไม่มีเด็กที่มารับแขกได้ แขกวันนี้ ก็ดันเป็นแขกซุปเปอร์วีไอพี แถมเป๋าหนัก จะยกเลิกก็ไม่ได้(เสียรายได้หมด) พอไปขอสาวที่บาร์อื่น ก็ไม่มีใครว่าง พอรู้ว่านินจาน่ะสามารถแปลงร่างได้ ดั๊นขอจ้างนะคะ จ่ายไม่อั้น ช่วยทำงานเป็นสาวในบาร์คืนนี้ที ส่วนสาวๆถ้าจะช่วยก็ยินดีนะจ๊ะถ้าไม่ก็อยู่เบื้องหลังแทนนะ”
เสียงหวานแว่วมา”มาม่าซัง แขกจะมาแล้วนะ ไม่เห็นมีสาวๆเลย”
งานนี้ทำเอากลุ่มที่มาเที่ยวสะดุ้ง มาม่าซังรีบวิ่งไปหา “ค่า...ท่านเบนิ น้องๆหนูๆกำลังแต่งตัวอยู่นะเจ้าคะ รอก่อน”
นารูโตะหันมาปรึกษา “เอาไงดี”
ซาอิ”เรื่องนี้คุณถนัดไม่ใช่เหรอครับ แถมได้เงินเยอะอีก”
ชิกามารุ”น่ารำคาญ ทำไมต้องมาทำอะไรแบบนี้”
เทมาริส่ายหน้า “เอาเถอะน่า ช่วยๆเค้าหน่อย หรือจะให้พวกชั้นไปรับหน้าแทน”
หนุ่มๆปฏิเสธทันที”ไม่”
งานนี้ทุกคนจัดการแปรงร่างเป็นผู้หญิงในชุดกิโมโนสั้นแบบประยุกต์ทันที ซึ่งยกเว้นลี(เพราะใช้คาถานินจาไม่ได้)โจจิที่เอาแต่กิน คิบะกับอากามารุและชิโนะไม่ได้มาเพราะติดธุระ
เหล่าสาวแปลงต้องเดินออกไปก็พบว่า แขกซุปเปอร์วีไอพีคือ มิคาโดะ
เบนิผู้สวมหน้ากากจิ้งจอกแดง หันมา “เด็กใหม่รึ? ไม่เคยเห็นหน้าเลย”
เจ้าของร้านรีบแก้ต่าง”ค่า มาใหม่ ถึงจะน้อยแต่คัดมาเด็ดนะคะ”
เรมตรงเข้ามาวิเคราะห์ “หน้าตาจิ้มลิ้มดี แต่น้องผมทองทวิลเทลดูเยอะไปหน่อย”ที่เรมหมายถึงคือนารูโตะที่อยู่ในร่างสาวน้อยหุ่นสะบึม ทรงทวิลเทล ที่อกโตเกินเหตุ
มิคาโดะแซว”แหม ถ้ามีอีกสี่เต้าเนี่ยไปที่ฟาร์มได้เลยนะ”
เบนิและริวโอพร้อมใจกันตบกบาลผู้บังคับบัญชาทันที
เบนิ“หยาบคายนะป๋า”
ริวโอ “จริงล้วยน่อ ป๋านี่ปากหมาจริงๆ เลี้ยงสุนัขในปากไว้กี่ฝูงวะ”
มิคาโดะลูบหัว “พวกแก เคารพชั้นบ้างไหม ไอ้เด็กเปรต”
สี่แสบเอ่ยพร้อมกัน “แล้วป๋าน่าเคารพตายห่าล่ะ”
มาม่าซังเข้าไกล่เกลี่ย “เอาเถอะค่ะ อย่าทะเลาะกันเลย และไหนเพื่อนของท่านมิคาโดะล่ะคะ”
มิคาโดะเอ่ยขึ้น “เดี๋ยวมา”
บันไซเข้าไปหา นารูโตะในร่างสาวน้อยที่กำลังช็อคค้างเพราะเสียความมั่นใจ “น้องจ๋า อย่าไปถือสาคนปากมอมแบบนั้นเลยนะ น้องไม่ผิดหรอกผิดหรอกที่เกิดมาตู้มเกินไป มีของดีต้องโชว์นะ”
“คะ..ค่ะ”...อะไรวะ ผู้ชายชอบหุ่นแบบนี้ไม่ใช่เหรอ...
ซาสึเกะในร่างสาวน้อยผมดำทรงทวิลเทลต่ำ สวมกิโมโนสีขาวน้ำเงิน แอบผิดหวังเล็กๆเพราะแทนที่จะมาถึงแคว้นแล้วจะได้เห็นหน้าเธอ แต่ทำไม๊ต้องใส่หน้ากากด้วย!
กาอาระพอเข้าใจแล้วว่าทำไมแผนกวิทยาศาสตร์ถึงได้กระดี๊กระด๊าตอนที่เธออยู่ซึนะ คงเป็นเพราะเธออยู่ที่นี่สวมหน้ากากในตอนทำงานเลยไม่มีใครเห็นหน้าจริงบ่อยนักอย่างในตอนนี้
บันไซมองไปที่สาวผมแดงทวิลเทล “คุ้นๆแฮะ”
กาอาระชะงัก ...เฮ้ย!เข้ามาใกล้ทำไม...
แต่ยังไม่ทันที่หนุ่มผมชมพูจะเข้าใกล้ไปมากกว่านี้ ก็โดนคนสวมหน้ากากดึงตัวไปก่อน “อย่าไปยุ่ง ทำการอารักขาเถอะ”
มิคาโดะเอ่ยขึ้น”ไม่ดื่มด้วยกันรึ? เบนิคุง ลูกผู้ชายมันก็ต้องมีบ้างนะ”
“ขอบคุณสำหรับน้ำใจ ช่วงนี้ไม่ค่อยสบาย และก็...หนูเป็นผู้หญิงนะ บอกเป็นล้านรอบแล้วน่าจะเข้าใจสักที”
“แหมๆตอนเป็นผู้ชายออกจะหล่อนะ”
ริวโอโวยวาย”พอเลยน่อ มันเป็นปู้ชายแต่พวกอั๊วเป็นหญิงนี่มันไม่คุ้มเลย”
คนสวมหน้ากากลากหนุ่มหน้าตี๋ผิวเข้มให้ออกไปด้วย “ไปทำงาน อย่าขัดความสำราญนายเหนือหัวเว้ย”
ริวโอ“ปล่อยอั๊วน่อ แรงเยอะเกินหน้าไปเลี้ยวนะ”
บันไซ“ไอ้บ้า ไหนบอกว่าไม่ได้นอนไง ไหงแรงควายแบบนี้วะ”
เรมหันไปหาสาวๆ”รอบกวนด้วยนะครับ”ก่อนจะออกจากห้องไป
สี่แสบออกจากห้องไปก็ทำให้เหล่าสาวแปลงโล่งอกด้วยกลัวจับได้
มิคาโดะเอ่ยขึ้น “พวกหนูๆทำตัวตามสบาย เพื่อนของป๋าไม่ใช่คนใหญ่คนโตอะไร ก็แค่คนทำงานที่อยากหาความบันเทิงเล็กๆน้อยๆเท่านั้น”
ห้าสาวเทียมมานั่งล้อมชายชรา แต่แล้วก็มีชายสูงศักดิ์ที่สวมฮากามะราคาแพง เดินเข้ามา
“ต้องรบกวนท่านอยู่เรื่อยเลย มิคาโดะ แต่ก็ไม่เห็นจะต้องเหมาบาร์เลยนี่นา”
“มิได้ๆท่านน่ะ ควรจะมาผ่อนคลายบ้างนะ คราวหน้าไปอาบอบนวดดีไหม”
ชายหนุ่มผมดำยาวสวมฮากามะราคาแพงนั่งลงระหว่างกลางซาสึเกะและกาอาระ ทำเอาห้าสาวเทียมช็อคเพราะนั่นคือ ท่านโชกุนคนปัจจุบัน อิเคบุ ซาบุโร่ เหตุที่ทั้งห้ารู้จักท่านโชกุนนั้นเพราะรูปปรากฏหลาในหนังสือนำเที่ยว
...มิน่า ทหารถึงยกโขยงมาแบบนี้...
งานนี้ทำเอาไปไม่เป็น
พนักงานก็ยกอาหารและเหล้าอย่างดีมาเสิร์ฟ
มิคาโดะเริ่มดื่มเหล้า “สาวๆแนะนำตัวหน่อยซี่ นั่งนิ่งอยู่ได้”
นารูโตะร่างสาวมัดทวิลเทลอกตู้มชุดกิโมโนสั้นแบบประยุกต์สีชมพู”นารูโกะค่า”
ชิกามารุ ในร่างสาวน้อยผมเปียสวมกิโมโนสีเขียวสั้น“ชิโยโกะ”
ซาอิในร่างสาวน้อยผิวซีดผมยาวสลวย สวมกิโมโนสีม่วง”ซาโอริ...ค่า”
ซาสึเกะ”ซายูมิ...ค่ะ”
กาอาระที่ตอนนี้หน้าแดงเพราะอายทำอะไรไม่ถูก ตอนนี้อยู่ในร่างสาวน้อยผมแดงสวมกิโมโนสั้นสีแดงสวย จนท่านโชกุนยิ้มปลอบ “ทำตัวตามสบายเถอะนะ”
“ไอ ค่ะ”
ท่านโชกุนเอ่ยขึ้น”น่ารักทุกคนเลยนะ ให้เบนิมาดื่มด้วยกันสิ เค้าอาจจะทำให้ผู้หญิงไม่เกร็งนะมิคาโดะ”
“ครับๆ”มิคาโดะตะโกน “เบนิ มานั่งดื่มมา นี่เป็นคำสั่งท่านโชกุนนะเหวย”
ทางด้านคนที่ยืนอารักขาอยู่ข้างนอกพอได้ยินคำสั่งก็ถอนใจ
เรมเอ่ยขึ้น”ไปเถอะ ไม่เป็นไรหรอก พวกเราดูแลได้”
เมื่อเบนิเข้ามา เธอเลือกที่จะนั่งข้างๆกาอาระเพื่อที่จะได้ช่วยกันทัน เพราะเห็นว่าไม่น่าชินกับการเป็นผู้หญิง ใช่เธอรู้ รู้ว่ายัยสาวพวกนี้คือพวกเพื่อนนินจาที่แปลงมา
“สวัสดี สาวๆ ชั้นเบนิ”
ท่านโชกุนซาบุโร่เอยถาม”ทำไมเจ้าสวมหน้ากากเล่า? แบบนี้คงจะดื่มไม่ได้พอดี”
เบนิโค้งศีรษะเล็กน้อย“ขออภัย ข้าไม่ค่อยสบายเจ้าค่ะ”
“งั้นรึ? ต้องการหมอไหมล่ะ”
“นายเหนือหัว ข้าเป็นหมอย่อมรู้ตัวดี แค่นี้ไม่เป็นอะไรมากหรอกเจ้าค่ะ”
“อย่าหักโหมนักเลย ถอดหน้ากากเสียเถิด”
“ไม่ได้ ตอนนี้อยู่ในราชการ ข้ามีหน้าที่อารักขาท่าน เชิญท่านสำราญเถิด สาวๆตามสบายนะ”
ซาสึเกะสังเกตว่าหญิงสาวดูนอบน้อมมาก และเธอนั่งนิ่งไม่ขยับไปไหน ราวกับหุ่นยนต์ แถมสวมหน้ากากปิดหน้าทำให้ไม่รู้ว่าตอนนี้เธอแสดงสีหน้าแบบไหน
มิคาโดะที่ซาอิกับนารูโตะพยายามเอาใจเอ่ยขึ้นอย่างเบื่อหน่าย”เหงาจริงโว้ย...เฮ้ย...มาม่าเอาคาราโอเกะมา”
พนักงานได้เอาตู้คาราโอเกะมาอย่างรวดเร็วพร้อมเมนูเพลง
“เอาเลยซาบุโร่จังเลือกเพลงเลย”
“ข้าร้องเพลงไม่เก่ง มิคาโดะ แบบนี้ข้าว่าให้สาวๆร้องดีกว่า”
ซาสึเกะหรือซายูมิสะดุ้ง...อย่านะเฮ้ย ควายออกลูกยังร้องเพาะกว่าชั้นเลย ชั้นยังไม่อยากเข้าคุกข้อหาทำโชกุนหูแตกตายนะเฮ้ย...
มิคาโดะส่งไมค์ให้ชิกามารุหรือชิโยโกะทันที “เอาเลยนังหนูโชว์เสียงหน่อย”
สาวขี้เบื่อสะดุ้งไม่กล้าปฏิเสธแต่ก็นะ ถึงจะเคยออดิชั่นผ่านเป็นนักร้องมาก่อน แต่ไม่เคยร้องเพลงในร่างผู้หญิงนะเฮ้ย!!
และพอร้องเพลงไป ปรากฏว่า...เสียงเพี้ยน...
โจจิที่แอบดูก็บ่นเบาๆซึ่งเทมาริได้ยินชัดเจน “ไหงร้องเพี้ยนแบบนี้อ่ะ ตอนออดิชั่นออกจะร้องเก่ง”
“พอๆเพี้ยนชิXหาย! ไอ้เบนิโชว์หน่อย”
สาวขี้เบื่อแอบบ่น “น่ารำคาญ”
คนสวมหน้ากากรับไมค์มาก่อนเทสเสียง”วัน ทู วัน ทู มิวสิก!”
เพลงที่ถูกร้องออกมา ช่างไพเราะชวนเคลิบเคลิ้มและสนุกมาก จนทุกคนต้องปรบมือตามจังหวะ ใช่ทุกคนที่แอบดูเองก็เช่นกัน
พอเพลงจบ ท่านโชกุนปรบมือชมเป็นการใหญ่ “ยอดเยี่ยม เบนิ ฝีมือเจ้าช่างเก่งกาจนัก”
“มิได้เจ้าค่ะ พ่อและอาของข้า มีฝีมือกว่าหลายขุมนัก สาวๆข้าจะสอนเจ้าร้องเพลงนะ เผื่อจะใช้มัดใครคนที่หมายปองได้ “หลังจากนั้นคนสวมหน้ากากก็สอนเคล็ดลับการร้องเพลงให้สาวเทียมทั้งห้า
การกระทำนั้นช่างอบอุ่นชวนหวั่นไหว แน่นอนถ้าพวกเค้าเป็นหญิงแท้มันก็ต้องแอบปิ๊งบ้างล่ะ
โดยเฉพาะกาอาระที่รู้สึกว่า หญิงสาวผู้สวมหน้ากากนั้นช่างมีเสน่ห์ ด้วยท่าทางอันอบอุ่นแบบนี้ มันทำให้ใจสั่นอย่างประหลาด ดูท่าเค้าจะเป็นโรคหัวใจแน่ๆเลย
...อันตราย...
มิคาโดะที่เริ่มเมาเอ่ยถาม“ซาบุโร่จัง อยากดื่มอะไรแรงๆกว่านี้ไหมล่ะ”
“ก็ดีนะ ดื่มแต่ดอนเปรี เราชักจะเบื่อขออะไรแรงมากระแทกคอเสียหน่อยก็ดี”
ห้าสาวเทียมพอรู้ว่าที่ดื่มเป็นของแพงก็แอบกระดกอย่างเนียนๆ
มิคาโดะตะโกนสั่ง“เด็กๆขออะไรแรงๆอย่างเตกีร่าหน่อยสักสิบขวด เฮ้ย เบนิทำเตกีร่าทาวเวอร์ให้ที”
“เจ้าค่ะ”ร่างบอบบางผู้สวมหน้ากากรับคำก่อนจะถอดเสื้อโค้ดที่สวมออกเพื่อความคล่องตัว ทำให้เห็นเสื้อคอเต่าแขนกุดเข้ารูปสีดำ แขนทั้งสองสวมถุงมือยาวเลยข้อศอกสีดำ เข็มขัดสีดำเส้นโตที่รัดเอวคอดกิ่ว ข้างซ้ายเหน็บดาบสั้นและแส้ ขวาเหน็บดาบยาวด้านหลังมีกระเป๋าใบเล็กๆติดอยู่ หลังจากนั้นก็ทำการปลดเข็มขัดออก ก่อนจะที่โต๊ะที่พนักงานขนแก้วแชมเปนมากมายเรียงราย
แก้วแชมเปนมากมายถูกจัดเรียงเป็นตึกสูง ด้วยฝีมือคนสวมหน้ากากอย่างชำนาญและรวดเร็ว เพียงไม่นานแก้วแชมเปนมากมายก็ถูกเรียงเป็นตึกสูง หญิงสาวนำขวดเหล้าเตกีร่ามาสองขวดแล้วเปิดพร้อมกันแล้วยืนบนเก้าอีและจัดการเทเหล้าลงแก้วแชมเปนทาวเวอร์เรื่อยๆสร้างความตื่นตาให้แก่ผู้รับชมมาก เหล้าดีกรีแรงค่อยๆถูกเท
ใส่แก้วแชมเปนไม่ช้าหรือเร็วเกินไป
ผู้ชมต่างนำเหล้าดีกรีแรงมาดื่ม คนคออ่อนอย่างชิกามารุ และนารูโตะล้มพับไปก่อนใครเพื่อน
เหลือแต่พวกคอแข็งที่ยังสามารถดื่มได้เป็นสิบๆแก้ว ชนิดที่ไม่กลัวตับพัง
ซากุระสังเกตอาการว่ากาอาระหรือไอจัง เริ่มเมาก็กลัวว่าจะคืนร่างจึงเข้าไปหา “ไอจัง ชั้นว่า...ชั้นถูกใจเธอเข้าแล้ว เราไปคุยกันสองคนนะ”
งานนี้ทำเอากาอาระงงเต็ก ส่วนซาสึเกะหรือซายูมิ กำแก้วแทบแตก...ไอ้แพนด้า!!!...
ซากุระไม่รอให้อีกฝ่ายเอ่ยอะไร”ไปหาที่ดีๆคุยกันเถอะ พนักงานพาคนที่เมาไปพักที”
พนักงานรีบพยุงร่างที่ล้มพับออกไปทันที
ส่วนคนสวมหน้ากากฉุดกระชากพาสาวผมแดงไปทันที
ซากุระพากาอาระไปที่หลังร้าน “คออ่อนก็ไม่น่าดื่มเตกีร่านะ ท่านกาอาระ นั่นน่ะเหล้า40ดีกรีเชียวนะ แถมเล่นดื่มไปยี่สิบแก้วแบบนั้น เดี๋ยวคืนร่างขึ้นมาล่ะยุ่ง เจ้านารูโตะกับชิกามารุ สองแก้วก็ล้มพับ ไอคนที่สามสิบกว่าแก้วแล้ว ดอนเปรีก็ซัดไปคนละสองขวด”
“นี่เธอรู้”รู้ว่าแปลงร่างมายังพอทน แต่รู้ว่าใครดื่มไปเท่าไหร่เนี่ยมันสุดยอดเกินไป
“ก็รู้น่ะสิ ไปพักให้สร้างเมาเถอะ ชั้นจะไปอารักขานายเหนือหัวก่อนล่ะ”
กาอาระรู้สึกดีใจอย่างประหลาดที่เธอห่วงเค้าแบบนี้
เมื่อเบนิเดินกลับมา
มิคาโดะก็โวย”เฮ้ย ไหนบอกว่าไม่สนสาวไง แล้ว...”
“ข้าแค่สนน่ะป๋า แต่เจ้าหล่อนดันอ้วกใส่ เลยไม่ชอบ ไปหลังร้านแล้ว ข้าไม่ชอบผู้หญิงคออ่อน”
โชกุนซาบุโร่นึกอยากรู้ใจของทหารตน”เจ้าชอบแบบใดเล่า เบนิ”
คนสวมหน้ากากนำเข็มขัดและอาวุธที่ปลดมาสวมก่อนจะเอ่ยด้วยท่าทีสบายๆพลางสวมเสื้อโค้ท”นายเหนือหัว บอกตามตรง ข้ายังไม่คิดเรื่องรักๆใคร่ๆ ข้ายังเด็กนัก”
“หากเทียบกับข้า เจ้านับว่ามีเสน่ห์มาก เบนิ หากว่าข้าเป็นหญิง ข้าคงต้องพึงใจเจ้าเป็นแน่”
“อย่าเลยเจ้าค่ะ ข้าไม่ได้เป็นอย่างที่ใครๆเห็น ข้าก็แค่ สาวบ้าพลังคนหนึ่งก็เท่านั้น...หน้าตาก็ธรรมดาๆ”
โชกุนดื่มเตกีร่าจนหมดแก้วแล้วหยิบแก้วใหม่ ซึ่งคอทองแดงมาก เพราะดื่มไปจะสี่สิบแก้วแล้ว“ถ่อมตนเกินไปแล้ว จะว่าไปถ้าเจ้าไว้ผมยาวเหมือนกาลก่อน ก็ดีนะ ดูเป็นผู้หญิงที่งดงามมาก”
คนสวมหน้ากากไม่ได้เอื้อนเอ่ยอะไรทำได้แต่โค้งศีรษะเล็กน้อยเท่านั้น
ซาสึเกะหรือซายูมิมองคนสวมหน้ากากอีกครั้ง ผมนั้นเริ่มยาวแล้ว แต่เธอเคยไว้ผมยาวมาก่อนเหรอ...
มิคาโดะถาม”แล้วทำไมแกถึงสนสาวผมแดงล่ะห๊ะ ไอ้หนุ่ม”
ซากุระลอบถอนหายใจก่อนจะหาเรื่องมาอ้าง และแล้วก็แต่งเรื่องโกหกออกมา“เห็นสาวผมแดงก็นึกถึง ผู้หญิงคนหนึ่ง ที่เคยช่วยเหลือข้า เธอมีผมสีแดงสวย และเธอช่างอ่อนหวานและอ่อนโยนยิ่งนัก...”
มิคาโดะ”เห้ยๆละเมออะไรวะ เมากลิ่นเหล้ารึ?”
คนสวมหน้ากากเอ่ยอย่างรู้ทัน“ข้าคอแข็งอยู่แล้ว ป๋าไม่ต้องชวนดวลดื่มเลย พรุ่งนี้ต้องมาทำงานแต่เช้านะ ข้าไม่ได้อาวุโสอย่างป๋าที่จะลางานได้บ่อย”
“ชิ!ข้าไม่ชอบเจ้าก็ตรงนี้รู้ทันคนไปทั่ว ผิดกับพ่อเจ้าเลยนะ ที่ชวนมาดื่มก็ดื่มแบบยินดี”
“ข้าก็คือข้า คุณพ่อก็คือคุณพ่อ และอีกอย่างตอนนี้ข้าอยู่ในหน้าที่ ไม่เหมือนคุณพ่อของข้าที่ลาออกจากราชการตั้งแต่ยี่สิบปีก่อนแล้ว จะมาดื่มกับท่านก็ไม่เป็นไร”
โชกุนซาบุโร่เอ่ยเสียงแผ่ว”แค่ท่านแม่ของข้า ตัดพ้อต่อบุไรเป็นเหตุให้ เค้าลาออกสินะ”
คนสวมหน้ากากโค้งศีรษะ “ท่านอย่าได้พูดเช่นนั้น นายเหนือหัว การที่พ่อของข้าลาออกจากราชการนั้น ส่วนหนึ่งก็เพื่อรับผิดชอบเหตุการตายของบิดาท่านก็จริง แต่จริงๆแล้ว พ่อของข้าต้องการพักผ่อนเจ้าค่ะ มันก็เป็นแค่ความเอาแต่ใจของคนๆหนึ่งก็เท่านั้น ที่อยากมีชีวิตสงบสุข เป็นแค่คนธรรมดา ขอท่านอย่าได้ตำหนิท่านหญิงหรือตัวเองเลย การสูญเสียมันน่ากลัวนัก การที่สูญเสียผู้เป็นที่รักไปแบบไม่มีวันหวนคืนมานั้นมันเจ็บปวดมากจนผู้หญิงตัวเล็กๆคนหนึ่งนั้นยากที่ยืนหยัดได้ในสภาวะอันตรายเช่นนั้น”คำพูดที่หนักแน่นของคนสวมหน้ากากทำให้ผู้เป็ยนายเหนือหัวน้ำตาไหลด้วยความซาบซึ้ง
“ขอบใจมากเบนิ”
หลังจากดื่มกินกันสักพัก ผู้ใหญ่ทั้งสองก็พากันหิ้วสังขารอันเมามายกลับ คนสวมหน้ากากหันไปหามาม่าซัง
“มาม่า เรื่องเงินที่เหลือ ไปเก็บในบัญชีของป๋ามิคาโดะได้เลย”
“ค่า”
หญิงสาวหันไปหากลุ่มโคโนฮะที่หลายคนเมาหมดสภาพ สมน้ำหน้าอยากดื่มแบบไม่คำนึงสังขารดีนัก “ส่วนพวกนาย มาเที่ยวใช่มั้ย ดูเหมือนว่ามาผิดโซนนะ แถวนี้ไม่มีโรงแรมหรอก เดี๋ยวจะให้คนไปส่งที่โรงแรม”
นารูโตะ”จะดีเหรอ ซากุระจัง”
“โรงแรมที่จะพาไปเป็นโรงแรมในเครือชิอินะ โชคดีที่อิโนะส่งข้อความมาก่อนเลยเตรียมห้องไว้แล้ว แต่ก็ต้องขอโทษด้วย งานมันเยอะไม่ทันได้บอก แถมคืนนี้ก็อย่างที่เห็นล่ะ เที่ยวเอโดะให้สนุกนะ ขอกลับไปนอนก่อน”หญิงสาวจรงไปขึ้นม้าแล้วควบจากไป
ไม่นานรถม้าขนาดใหญ่ก็แล่นมา สารถีที่สวมหมวกฟางใบใหญ่ ก็เลิกหมวก คนๆนั้นคือ
“ไม่ได้เจอกันนานนะขอรับ คุณอิโนะ คุณซาอิ คุณซาสึเกะ”
คนถูกทักอุทานพร้อมกัน “ซามุย!”
ทั้งหมดขึ้นรถม้าเดินทางไปยังที่พัก
ซามุยเอ่ยอย่างอารมณ์ดี “ผมไม่ได้เป็นซามูไรตั้งแต่แรกแล้วขอรับ เป็นแค่เด็กที่ถูกไล่ออกจากสำนักนักฆ่านาราคุ ต่อมา ก็สมัครเป็นทหารแต่ก็ไปไม่ไหว ท่านบันไซกับท่านเบนิก็ใจดีให้กระผมทำงานในฐานะผู้ดูแลโรงแรมของชิอินะ ขอรับ”
ซาอิเอ่ยขึ้น”แต่ฝีมือก็ใช่ย่อยนะครับ คุณซามุย”
“แหมๆ ผมไม่ได้เก่งอะไรเลย ตอนนั้นถ้าคุณซาสึเกะไม่ช่วย ผมก็ตาย และอีกตอนก็...ถ้าท่านเบนิไม่มาช่วย คุณซาอิกับผมก็ตายโหงล่ะขอรับ”
ซาอินึกถึงตอนที่กำลังจะโดนพวกนาราคุฆ่า ก็ลอบจับคอตนอย่างเสียวๆ(ดูท่าจะกลายเป็นฝันร้ายจำฝังใจไปอีกนาน)
อิโนะเอ่ยถามด้วยความห่วง “แล้วอาการ...”
“ผมหายดีแล้วขอรับ ต้องขอบคุณ คุณอิโนะมากที่กรุณารักษาผม”
ซามุยบังคับม้ามาถึงโรงแรมฮานาบิ...
พนักงานหญิงมีอายุในชุดกิโมโนสีม่วงออกมาต้อนรับพร้อมผู้ช่วยอีกสองคน “เชิญค่า พวกท่านเป็นแขกของคุณหนู ทางเราจะลดราคาให้เป็นพิเศษเลยนะเจ้าค่ะ ไม่ทราบว่าต้องการกี่ห้องเจ้าคะ”
ซาอิเอ่ยแทน”สี่ห้องครับ”
กาอาระ “ขอเปลี่ยนเป็นห้าห้องครับ”
ซาอิ”ทำไมครับ”
“ชั้นอยากนอนคนเดียวน่ะ”
ซาสึเกะ”ผมขอห้องเดี่ยวด้วย”
หญิงชราพยักหน้า”ค่า...ห้องคู่สองห้อง ที่เหลือก็ห้องเดี่ยวนะเจ้าคะ ต้องการอะไรเพิ่มก็บอกได้ ถ้าต้องการทราบสถานที่ท่องเที่ยว อิฉันก็พอแนะนำได้..”
คนที่เหลือโค้งขอบคุณ
ทุกคนถูกพามาที่ห้องพักแล้วพักผ่อน...
วันต่อมาในช่วงเช้าทุกคนได้ทานอาหารเช้าพร้อมหน้า เป้าหมายที่จะไปเที่ยวคือเทศกาลขนมหวาน แต่คุณยายผู้ดูแลได้แนะนำว่า เทศกาลขนมหวานจะเปิดตอนบ่าย
เท็นเท็นเอ่ยถาม”คุณยายพอแนะนำที่เที่ยวได้ไหมคะ”
“ก็ ไชน่าทาวน์ ย่านนั้นสำหรับคนที่ชอบช้อปเลยนังหนู คนจีนมักจะเอาของมาขายมากมาย แถมวันนี้น่าจะมีโชว์เชิดสิงโตกายกรรมอีก ไม่ไกลจากโซนนั้นก็มี สวนพฤษศาสตร์ อควาเรียม สนามขี่ม้า ถ้าจะเล่นสกีก็มีอีกที่ ถ้าจะไปก็ต้องไปเสียตอนนี้เพราะไกลมาก”
ลีเสนอ “ผมว่าเราไปหาคุณซากุระไหมล่ะครับ”
อิโนะเอ่ย”ยัยนั่นยังทำงานอยู่เลยนะ เมื่อคืนก็เห็น ขนาดมาคุ้มครองนายก็ต้องมาร้องเพลงทำเตกีร่าทาวเวอร์อีก”
นินจาคิ้วเข้มคอตก”ก็ผมอยากเจอเธอนี่นา อุตส่าห์มาแต่ไม่เห็นหน้า มันเศร้า”
ซามุยที่ครั้งได้ทำหน้าที่ไกด์เอ่ยขึ้น “วันนี้ท่านเบนิน่าจะได้พักนะขอรับ ท่านเบนิบอกว่าจะมาเจอพวกคุณที่เทศกาลของหวาน ตอนนี้เค้าน่าจะยังนอนอยู่ขอรับ”
ซาสึเกะถาม “นายพาไปที่ย่านตระกูลเก่าได้ไหมล่ะ อย่างยัยนั่นน่าจะไปที่บ้านทางเหนือนะ ไม่ก็ทางใต้”
คนถูกถามส่ายหน้า “ย่านตระกูลเก่าน่ะ ต้องเป็นในเท่านั้นนะขอรับ ผมไม่ใช่คนใน ส่วนทางใต้ผมกลัว..คุณท่านก็ดุมาก และผมก็ไม่รู้ว่าท่านเบนิอยู่ที่ไหนอีกด้วยขอรับ เดาใจไม่ได้ขอรับ”
นารูโตะตบบ่า”เอาน่าๆ เราไปเที่ยวกันก่อนดีกว่า ย่านไชน่าทาวน์ก็ดีนะ”
ชายหนุ่มพยักหน้า
หลังจากกินข้าวเช้าแล้ว ทั้งหมดก็เดินทางไปที่ย่านไชน่าทาวน์โดยมีซามุยทำหน้าที่เป็นไกด์
ย่านไชน่าทาวน์ของแคว้นเอโดะ ช่างคึกคักเพราะมีร้านค้ามากมาย ย่านนี้ประดับตกแต่งด้วยผ้าไหมและโคมไฟสีแดงสด
กลิ่นหอมๆของอาหารจีนลอยมาชวนน้ำลายส่อ
คณะกายกรรมจัดโชว์กายกรรมและเชิดสิงโต ผู้คนเข้ามาดูกันเนื่องแน่น
กาอาระเห็นว่ามีเด็กชายคนหนึ่งพยายามจะดู เค้าจึงอุ้มให้เด็กคนนั้นขี่หลังเพื่อให้เห็นได้ชัด
เด็กชายก็ยิ้มและขอบคุณ
“ใจดีจังนะ”
กาอาระหันไปก็เห็นว่าซากุระมายืนอยู่ข้างๆ เมื่อการแสดงจบลง กาอาระได้วางเด็กคนนั้นลง
นินจาโคโนฮะได้เห็นซากุระเต็มตา ตอนนี้เธอสวมเสื้อคอจีนแขนยาวสีเขียวอ่อน กางเกงขาสามส่วนสีขาว มีผ้าสีขาวผูกเอวไว้และห้อยจี้หยกแบบจีน สวมรองเท้าผ้าปักลายดอกไม้ ผมสีชมพูก็ปล่อยสบายๆและคาดสีที่คาดผมสีดำไว้และสะพายย่ามเก๋ๆปักลายดอกไม้สีขาว ทำเอานึกว่าเป็นคนจีน
งานนี้ทำเอาซาสึเกะ กาอาระ ลี เผลอจ้องมองอย่างเคลิ้มๆ
สาวผมชมพูทัก“ไง สนุกไหม”
อิโนะเอ่ยถาม”แล้วเธอล่ะมาทำอะไร”
“มาซื้อเทียนหอมน่ะ”
กาอาระถาม “แล้วงาน...”
“ท่านโชกุนให้หยุดวันหนึ่งน่ะ นานๆจะได้รับเมตตาแบบนี้ ก็อยากจะเที่ยว พักผ่อนเสียหน่อย”
ลีกระดี๊กระด๊า “คุณซากุระในลุคนี้น่ารักจังเลย”
หญิงสาวยิ้มรับตามมารยาท”ขอบคุณค่ะ”
เท็นเท็นนึกสงสัย “เทียนหอม เธอจะเอาไปทำอะไรน่ะ ซากุระ”
“อ๋อ คือว่าช่วงนี้ชั้นนอนน้อย เลยอยากได้เทียนหอมไว้ จุดที่หัวนอนน่ะ ถึงจะหลับง่ายแต่ก็สะดุ้งตื่นกลางดึกทุกทีเลย”
เทมาริมองอีกฝ่ายก็พอเข้าใจเพราะคนที่นอนดึกตื่นเช้า ถ้ามานอนสบายๆก็อาจจะสะดุ้งตื่นกลางดึก พอหันไปมองคนที่มีอาการเดียวกันอย่างกาอาระ แววตานั้นมีแต่ความห่วง เห็นใจ
หญิงสาวยิ้มหวานก่อนจะขอตัวแยกไป “ขอตัวก่อนนะ เที่ยวให้สนุกล่ะ เจอกันที่เทศกาลของหวานนะ”เธอหมุนตัวไปราวกับว่ากำลังหนีอะไรสักอย่าง
“ท่านเบนิ๊!!!”เสียงหวานใสร้องเรียก พร้อมร่างบางในชุดกี่เพ้าแขนกุดผ่าข้างสีแดงสดลายมังกรทองมีผ้าพันคอขนมิ้งค์สีขาว ผมของหล่อนเป็นสีแดงที่มัดเป็นทรงทวิลเทล
ซาสึเกะคิด...อย่าบอกนะว่า ผู้หญิงในสต๊อกของยัยนั่น มีกี่คนวะ...
สาวนางนั้นทักทาย“คุณอิโนะ คุณซาอิ คุณซาสึเกะสวัสดีค่ะ”
คนถูกทักตกใจ อิโนะลองเพ่งดูดีๆ”มิกิจัง”
เจ้าของนามยิ้มรับ”เป็นไงคะ ชั้นไปย้อมผมมา ได้ยินว่าท่านเบนิชอบสาวผมแดง”
งานนี้กาอาระสะดุ้ง ในขณะที่ซาสึเกะจ้องมองเจ้าแพนด้าแดงเขม็ง
ซาอิยิ้ม”ก็สวยดีนะครับ เล่นเอาจำไม่ได้เลย”
“ขอบคุณค่ะ ว่าแต่พวกคุณเห็นท่านเบนิไหมคะ รู้มาว่ามาย่านนี้”
ซามุยที่ไปซื้อน้ำตาลปั้น มาเห็นพอดี เค้าพยายามส่งสายตาห้ามปราม
โจจิที่กินหม่าล่า “เบนิ ซากุระสินะ เห็นว่าไปซื้อเครื่องหอมล่ะมั๊ง”
อิโนะตวาด”โจจิ!”
“ขอบคุณนะคะ”
มิกิรีบออกไปตามหา
อิโนะเฉ่งเพื่อนทันที “นายไปบอกแบบนั้นยัยนั่นไม่ได้นอนแน่”
“อ้าว ทำไมล่ะ”
“มิกิคงกวนซากุระแน่”
กาอาระงง ผู้หญิงชอบผู้หญิง มันได้เหรอ แต่พอพิจราณาแล้ว การกระทำหลายอย่างของซากุระมันก็ชวนให้สาวๆหวั่นไหวล่ะนะ
เท็นเท็นพยายามไกล่เกลี่ย”น่าๆพวกเค้าคงไม่เจอกันหรอก”
ซามุยที่ซื้อน้ำตาลปั้นเดินมาหาโดยคอตก “น่าสงสารท่านเบนิ ถ้าโดนคุณมิกิตามรังควาญแบบนั้น คงรำคาญน่าดูแต่ ที่ไม่ว่าอะไรคงเป็นเพราะเกรงใจท่านมิคาโดะขอรับ คุณมิกิก็อายุจะยี่สิบห้าแล้ว ยังทำตัวเหมือนเด็กๆ”
เรื่องนี้ซาสึเกะพอจำได้ เคยเห็นในอดีตที่ไอ้คุณผีบรรพบุรุษนั่นเอามาให้ดู เลยไม่ตกใจซักเท่าไหร่ส่วนคนที่เหลือดูตกใจมากโดยเฉพาะสาวๆ
เทมาริ“เหลือเชื่อ หน้าเด็กมาก”
อิโนะ”สุดยอด”
ฮินาตะ”อยากได้เคล็ดลับ”
เท็นเท็น”อิจฉา”
ซามุยทำสีหน้าปั้นยาก ก่อนจะเสนอความเห็น “ทุกท่านผมขอเสนอว่า เราแยกกันเที่ยวดีไหม เพราะมีหลายที่มาก”
นารูโตะ”ทำไมอ่ะ”
อดีตซามูไรเอ่ยขึ้น”ก็ พวกคุณน่ะ มีคู่รักด้วยนี่ขอรับ ผมดูออก ตั้งแต่คุณซาอิกับคุณอิโนะแล้ว คุณซาอิอย่าหึงผมนะขอรับที่ผมเคยให้คุณอิโนะขี่หลัง ตอนนั้นผมหวังดี ตอนนี้หยุดเขม่นผมเถอะ”
หนุ่มผิวซีด”ครับ ผมเชื่อ”
เทมาริ”น่าสนนะ เห็นบอกว่ามีสวนพฤษชาติด้วย น่าไป”
ฮินาตะ”ชั้นอยากขี่ม้า”
อิโนะ”อยากเล่นสเก็ตน้ำแข็ง”
เท็นเท็น”ชั้นอยากเดินย่านนี้ต่อนะ”
ซามุยจำต้องไกล่เกลี่ย “แบ่งทีมกันดีไหมขอรับ แล้วไปเจอกันที่เทศกาลของหวาน ตอนบ่ายดีไหม เพราะถ้าเป็นย่านการท่องเที่ยวก็จะมีรถม้า รถไฟฟ้าไว้คอยบริการนักท่องเที่ยว ราคาไม่แพงด้วย ทุกท่านมีคู่มือนำเที่ยวแล้ว ถ้ายังสงสัยสามารถถามตำรวจได้นะขอรับ ไม่ต้องกลัวหลง”
หลังจากนั้น ทุกคนก็ตกลงกันได้
นารูโตะกับฮินาตะไปสนามขี่ม้า
ชิกามารุกับเทมาริไปสวมพฤษชาติ
อิโนะกับซาอิสเก็ตน้ำแข็ง
โจจิลุยเดี่ยว ย่านร้านอาหารบุพเฟ่
ที่เหลือคือย่านไชน่าทาวน์ ได้แก่ เท็นเท็น ลี ซาสึเกะ กาอาระ ซามุยจะทำหน้าที่เป็นไกด์ให้ในย่านไชน่าทาวน์
เท็นเท็นนึกสงสัย “ทำไมคุณซามุยถึงมาเป็นไกด์ให้พวกเราล่ะคะ”
“คือย่านนี้ถือเป็นเขตปกครองพิเศษของเอโดะขอรับ คนที่นี่ บางคนก็พูดภาษาจีนอย่างเดียว อาจเจรจาไม่รู้เรื่องขอรับ ผมพอจะเจรจาได้ ปัญหาจะได้ไม่เกิดขอรับ”
ลี”อย่างนี้ นี่เอง”
“ตามผมมาเลยขอรับ”
...
“อืม กลิ่นใหม่เหรอคะ”ซากุระนำเทียนสีขาวมาดม กลิ่นหอมของดอกไม้ที่แปลกใหม่ ชวนให้เคลิบเคลิ้มยิ่งนัก
ชายหนุ่มหน้าตี๋ใส่ชุดจีนสีเขียวอ่อนยิ้ม”นี่เป็นของใหม่นะ ทำจากดอกไม้สีขาว”
“ดอกไม้สีขาว พอรู้ไหมคะว่าชื่ออะไร”
“อืม...ถ้าจำไม่ผิดมันคือดอกปาริชาติ เป็นดอกไม้ของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้”
“ปาริชาติ แปลกดีนะ”
“ที่เอเชียตะวันออกเฉียงใต้มีความเชื่อว่ามันสามารถทำให้ระลึกชาติได้ ไม่รู้สิ มันก็แค่ความเชื่อ ลองกลิ่นนี้ดูมั้ย”
ชายหนุ่มส่งเทียนหอมสีเขียวอ่อนไป หญิงสาวนำมาดมก็อุทาน
“นี่มัน กลิ่นไผ่ หอมจัง”
“ฮิตมากเลย จุดตอนนอน ตอนอาบน้ำ มีความสุขโคตรๆเลย”
“งั้นขอสองกลิ่นเลยจ้า”
“คร้าบๆแปลกใจเลยนะที่เห็นซากุระตอนเวลาปกติในวันทำงานแบบนี้”
“งั้นเหรอหยาง นานๆทีแต่นอนหลับไม่เต็มที่เลย เทียนหอมคงช่วยได้”
หลังจากที่จ่ายเงินรับสินค้าแล้ว
หยางเอ่ยขึ้น“อืม...ช่วงนี้...ความเคลื่อนไหวของพวกใต้ดินดูเงียบหาย จนผิดปกตินะ”
“จริงรึ?”
“อ้าว ชั้นนึกว่าซากุระจังจัดการเก็บกวาดทิ้งไปเสียหมดนี่นา”
หญิงสาวเหยียดยิ้ม“มันก็ต้องเหลือตัวทำประโยชน์เอาไว้บ้างนะ แต่ถ้ามันล้ำเส้น...ก็ต้องกำจัด”
“อย่างนี้ต้องเรียกว่า ปีศาจที่สวมหน้ากากนางฟ้าสินะ”
“แล้วแต่ เรื่องบางเรื่องก็ควรปล่อยให้มันจัดการตัวเอง ขอบคุณสำหรับเทียนหอมนะ”ร่างบอบบางออกจากร้านไปด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม
...
ซามุยนำทางสี่นินจาเดินเที่ยวย่านไชน่าทาวน์พร้อมอธิบายไป
“ที่นี่จะแบ่งโซนขายของเป็นแต่ละประเภท คุณเท็นเท็นอยากไปโซนเสื้อผ้าเครื่องประดับไหมขอรับ อยู่ไม่ไกล”
“จริงเหรอคะ”
“มาเลยขอรับ ส่วนคนที่เหลือจะตามไปไหมขอรับ ถ้าไหมจะเดินเล่นแถวนี้ก็ได้ แต่อย่าไปโซนนู่นนะขอรับ มีแต่คนจีนพูดภาษาเราไม่ได้”
สามหนุ่มก็ตามไปด้วย...
โซนขายเสื้อผ้าเครื่องแต่งกายนั้น มีเสื้อผ้าสไตล์จีนหลากหลายแบบ และที่นำมาขายมากที่สุดคือเสื้อตัวหนาสำหรับหน้าหนาว
เท็นเท็นมองด้วยตาเป็นประกาย เพราะมีแต่แบบที่เธอชอบ ทั้งหมดเดินดูร้านต่างๆโดยไม่ทันระวังเมื่อมีเกวียนสินค้าที่บรรทุกของมากมายผ่านมา ด้วยความสะเพร่าทำให้กล่องสินค้าขนาดใหญ่ร่วงจะโดนเท็นเท็น
หญิงสาวหลับตา
ซาสึเกะเตรียมเบิกเนตรแต่...
“เป็นอะไรไหมน่อ”ริวโอในเครื่องแบบตำรวจ เข้ามาใช้มือข้างเดียวรับกล่องนั่นไว้
“ไม่เป็นไรค่ะ”
งานนี้ทำเอาสามหนุ่มนินจาทึ้งที่หนุ่มหน้าตี๋ผิวเข้มสามารถรับน้ำหนักของ กล่องขนาดใหญ่ที่จะหล่นลงมาด้วยมือข้างเดียว
ตำรวจหนุ่มวางกล่องนั้นลงบนพื้นนิ่มๆก่อนจะตำหนิ “ขนของเกินแบบนี้ ต้องโดนปรับน่อ”
เจ้าของเกวียนเป็นชายแก่สวมชุดจีนสีแดงสะดุ้งรีบมาเจรจา”หยวนๆได้ไหมคร้าบ ผมไม่รู้”
“อย่ามาแหล่ ลื้ออยู่ย่านนี้มายี่สิบปี กฎหมายต้องรู้ บรรทุกของเกินกำนดต้องปรับเงิน หรือเป๊ะอยากเจี๊ยะข้าวแดงในคุก!ถึงมาแหลใส่อั๊ว เมื่อกี้ถ้าอั๊วไม่อยู่ล่ะก็ คุณผู้หญิงคนนี้แบนเป็นกล้วยปิ้งเลี้ยวน่อ”
เมื่อรู้ว่าตำรวจหนุ่มไม่อ่อนข้อ ก็จำใจต้องเสียค่าปรับตามระเบียบ
ริวโอจัดการเขียนใบสั่งส่งให้ อาเป๊ะรีบให้ลูกน้องอีกสองคนยกกล่องสิ้นค้าขึ้นเกวียน ซึ่งหนักมาก ลูกจ้างสองคนช่วยกันยกอย่างทุลักทุเล
อาเป๊ะตะโกน”ระวังๆนั่นแจกันหยกนะ ราคาไม่ใช่น้อยๆ”
...
เท็นเท็นรีบโค้งขอบคุณตำรวจหนุ่มผู้ช่วยชีวิตตนไว้
“ขอบคุณมากๆนะคะที่ช่วย”
“ไม่เป็นไรๆคุณผู้หญิง ไม่บาดเจ็บนะ เดินย่านนี้ก็ระวังๆหน่อย”
ซามุยรีบมาเคารพ”ท่านริวโอ มาตรวจตรารึขอรับ”
“ใช่น่อแล้วลื้อ?”
“มาเป็นไกด์ให้สหายของท่านเบนิขอรับ”
“รู้จักอาเบนิล้วยรึ? อ้าวหวัดดีอาหัวเป็ด”ริวโอทักทายซาสึเกะทันที
ชายหนุ่มผู้ถูกทักชักสีหน้า ลีและกาอาระลอบหัวเราะ
“เที่ยวให้สนุกน่อ อั๊วทำงานต่อล่ะ”
ริวโอโบกมือลา
ซาสึเกะได้ทีจึงถาม “หมอนั่นมีหน้าที่ลาดตระเวนย่านนี้เหรอ”
“ขอรับ ก็ย่านไชน่าทาวน์กับย่านการค้าสถานบันเทิงอยู่ในความรับผิดชอบของหน่วยหนึ่งขอรับ ที่จริงท่านเบนิเองก็ยังดำรงตำแหน่งรองหัวหน้าองครักษ์อยู่เพราะหาคนมาแทนไม่เลยต้องควบสองตำแหน่ง”
ซาสึเกะ”ภาระหนักสุดสินะ”
“ก็หนักทุกเขตขอรับ”
กาอาระ”ย่านนี้แออัดไปหน่อยนะ”
ไกด์หนุ่มยิ้ม”ฮ่ะๆนั่นถือเป็นเสน่ห์ของที่นี่นะขอรับ”
ลีสงสัย”ทำไมล่ะครับ”
“เพราะมีบรรยากาศความอบอุ่นยังไงล่ะขอรับ ไม่รู้สึกบ้างเหรอ”
ทุกคนพยักหน้าเห็นด้วยเพราะที่นี่มาเที่ยวแล้วอบอุ่นมาก...
กาอาระ”ที่นี่มีกฎหมายเรื่องบรรทุกของด้วยเหรอ”
“ขอรับ ไม่งั้นก็อาจจะเกิดเหตุอย่างเมื่อสักครู่ก็ได้ ดีที่ท่านริวโออยู่ในแถบนั้นพอดี ไม่งั้นเรื่องยาว นี่ขนาดจับปรับขังคุกก็มีคนฝืนกฏให้เห็นตลอด เดินย่านนี้จำต้องระวังให้มาก ”
ทั้งห้าเดินเที่ยวไปเรื่อยจนกระทั่ง มาถึงย่านแมวเหมี๊ยว...ซึ่งมีแมวเต็มไปหมด
เห็นสาวผมชมพูกำลังนั่งกินเกี๊ยวซ่ากล่องใหญ่โดยมีแมวเหมี๊ยวนับสิบมารายล้อม
“ท่านเบนิ”
“อ้าว เจอกันอีกแล้ว และพวกอิโนะล่ะ”
เท็นเท็นเป็นคนตอบ “แยกไปลานสเก็ตกับซาอิแล้ว ส่วนนารูโตะไปขี่ม้ากับฮินาตะ ที่เหลือก็แยกๆกันไป”
เจ้าแมวน้อยที่นอนอยู่ตรงม้านั่งนั้นหลีกทางให้สาวหมวยนั่ง
“นี่ชั้นมากวนพวกแกเหรอ”
ซากุระก้มหน้ากระซิบกับน้องแมวสีดำที่นอนตักก่อนจะเงยหน้าหาเพื่อนสาว”ไม่หรอก พวกเค้าแค่อยากให้เธอนั่งน่ะเท็นเท็น”
“ขอบใจนะ”พอนั่งลงปีบก็มีเจ้าแมวลายเสือมานั่งตัก “แหมร้ายกาจอยากนอนตักสาวนะเจ้านี่”เท็นเท็นลูบหัวเจ้าแมวนั้นอย่างเอ็นดู
ลียิ้ม”คุณซากุระได้ของที่ต้องการรึยังครับ”
“ได้แล้วค่ะ คุณลี”
ซากุระเอ่ยถามหนุ่มผมแดง “สนุกไหมคะ ท่านกาอาระ”
“อย่าเรียกว่าท่านเลย เรียก กาอาระ ก็พอ ที่นี่สนุกมาก ย่านนี้ดูแออัดแต่บรรยากาศอบอุ่นดี”
“ดีจัง ว่าแต่ซาสึเกะไปไหนน่ะ”
ซามุยพยายามมองซ้ายแลขวา”ไปไหนนะ เดี๋ยวผมไปตามหานะขอรับ เกิดหลงไปยุ่งแน่”
ลีอาสาไปช่วย ส่วนกาอาระมานั่งข้างๆซากุระ “เธอกินอะไร”
“โมโม่”
กาอาระงง ส่วนเท็นเท็นพอเข้าใจก่อนจะหยิบเกี๊ยวซ่ามากินชิ้นหนึ่ง”อร่อยจัง”
“โมโม่คือเกี๊ยวของธิเบต น่ะลองกินดูสิ”
ซากุระใช้ส้อมเล็กๆจิ้มชิ้นเกี๊ยวซ่าป้อนหนุ่มผมแดง
“อร่อยดี”
“เมี๊ยว...”เสียงร้องของเจ้าแมวดำตาสองสีตรงมา มันถือวิสาสะกระโดดขึ้นตักของสาวผมชมพู
“อะไรเนี่ยเจ้าเหมียว”ซากุระเอ่ยขึ้นเมื่อเจ้าแมวผู้มาใหม่ใช้อุ้งเท้าตบแมวดำที่นอนอยู่ก่อนให้ลงจากตักไป เจ้าแมวผู้มาก่อนจำต้องกระโดดมานั่งตักหนุ่มผมแดงแทน
“นิสัยไม่ดี”
เจ้าแมวสีดำตาสองสีไม่รับฟังกลับขดตัวนอนบนตักของเธอเอาดื้อๆ
กาอาระขำกับการกระทำของเธอและเจ้าแมวตาสองสี”ท่าทางมันจะรักเธอนะ ไม่เอามันไปเลี้ยงล่ะ”
“ยาก...ไม่มีเวลาดูแลหรอก ขนาดชีวิตตัวเองยังดูแลไม่ค่อยได้เลย ม้ายังต้องให้คนใช้ช่วยดูแล มาทำงานทีได้เจอกัน ชิกิอยู่สำนักงาน มีคนดูแล”
เท็นเท็น”แล้วหมากับแมวเธอชอบอะไรมากกว่ากันล่ะ”
“หมานะ น่ารักซื่อสัตย์ดี แต่อยู่ที่นี่ งานก็มากพออยู่แล้ว ที่โคโนฮะไม่ต้องพูดถึง โรงพยาบาลงานเยอะ”
กาอาระเอ่ยขึ้น”พูดถึงหมา หมาแบบไหนที่เหมาะใช้บำบัดเด็กล่ะ”
สาวผมชมพูตอบเสียงใส“โกเด้น ลาบาดอร์ ไม่ก็พันทางนะ เพราะพวกนี้มันเชื่อง เลี้ยงง่าย เหมาะที่จะเป็นพี่เลี้ยงเด็กเลย”
“เมี๊ยว...”เจ้าแมวดำตาสองสีร้องพลางเอาหัวมาไซร้พุงของสาวผมชมพู
“จะเอาอะไรเจ้าเหมียว หิวเหรอ ไปกินอาหารของแกตรงนู่นสิ”
เท็นเท็นมองไปที่เสาที่เพื่อนสาวชี้ คือตู้อาหารสัตว์ที่มีชามใส่อาหารแมวสองชามรองไว้ ที่ตอนนี้มีอาหารเต็มหนึ่งชาม อีกชามใส่น้ำสะอาดไว้ ด้านบนตู้มีช่องสำหรับใส่ขยะ โดยบนสุดเขียนป้ายว่า เปลี่ยนขยะมาเป็นอาหารน้องแมวจร”สะดวกจัง มิน่า แมวที่นี่ดูสมบูรณ์ทั้งนั้น”ใช่เพราะแมวแต่ละตัวที่นี่ไม่มีตัวไหนผอมแห้งเลย เพราะไม่อดอาหาร
“ใช่ เอโดะมีตู้แบบนี้กระจายทั่วแคว้นเลย สำหรับหมาแมวจร นอกจากลดขยะแล้วยังช่วยให้หมาแมวจรไม่อดด้วย”
เจ้าแมวยังไม่ยอมลุกไปไหน กลับร้องออดอ้อนหญิงสาวอยู่
ซากุระอยากจะโกรธแต่ก็โกรธไม่ลง เธออุ้มมันมาประจันหน้า“ชั้นเลี้ยงแกไม่ได้”
เจ้าแมวดำตาสองสีส่งสายตาอ้อนวอนน้ำตาปริ่มๆ
“อย่าร้องน้า โอ๋ๆ”เมื่อเจอน้ำตาของแมวน้อยมีหรือเธอจะทนได้ จึงกอดมันกับอกอิ่ม
กาอาระมองเจ้าแมวที่ซุกอกอิ่มของหญิงสาว”เจ้าชู้นะเนี่ย เจ้าเหมียว”
ซากุระยิ้มก่อนจะจับเจ้าแมวน้อยนอนหงายและเช็คเพศ “ตัวผู้ซะด้วย ไข่ใหญ่จัง ”มือบางจับไข่แมวเล่นอย่างสนุก”นิ่มๆ”มืออีกข้างวางกล่องเกี๊ยวซ่าข้างตัวและจับเท้าหน้าของเจ้าเหมียวไว้ เท้านุ่มๆของเจ้าเหมียวพยายามดิ้น ร้องแง้วๆตลอด
เท็นเท็นพูดไม่ออกกับการกระทำของเพื่อนสาวที่กำลังแกล้งแมวอย่างสนุก โดยเจ้าแมวพยายามดิ้นจนต้องวิ่งหนีไป
“ดีแล้วที่ไปสักที หิวข้าวแล้ว ไม่รู้ซามุยไปตามหาซาสึเกะที่ไหน ตาคนนั้นเนี่ยนิสัยแย่จริงๆ”
...
เจ้าแมวดำตาสองสีวิ่งไปที่ซอกตึก เมื่อไม่เห็นใครก็คืนร่าง เป็นหนุ่มผ้าคลุมดำ เค้ารู้สึกเจ็บน้องชายจนต้องกุมเป้าเพื่อคลายความเจ็บที่ยัยตัวร้ายจับเล่น...นี่ไข่แมวเป็นของเล่นรึไง จับซะแรง...
“ยัยแสบ...แต่หน้าอกนิ่มมาก...”เค้านึกถึงตอนที่เธอกอดแนบอกอิ่มที่ใหญ่เกินตัว ดีที่เค้าร่วมมือกับคาโอรุเอาผ้ารัดมหาประลัยนั่นไปเผาทิ้ง แต่ก็แอบอิจฉาที่คาโอรุมักจะนอนห้องเดียวกับซากุระเสมอๆ แม้จะยี่สิบก็ยังนอนห้องเดียวกัน เค้าเคยนอนกับเธอสมัยเป็นเกะนิน เธอมักจะนอนข้างๆคาคาชิเพราะเป็นเด็กผู้หญิง ถัดจากเธอคือเค้า ในยามหลับเธอดูน่ามอง...หลายครั้งที่เค้าแอบมองใบหน้ายามหลับของเธอจนผล๊อยหลับไป
บางที ถ้าเธอไว้ผมยาวก็คงจะดูดีไม่ใช่น้อย
“คุณซาสึเกะ อยู่นี่เอง ทำอะไรขอรับ”
“เอ่อ...”
ซามุยมองดูซาสึเกะที่กุมเป้า “อยากเข้าห้องน้ำทำไมไม่บอกขอรับ ตามผมมา ห้องน้ำอยู่ไม่ไกล”
ชายหนุ่มตามไปอย่างช่วยไม่ได้ เออ ดีที่ให้มันเข้าใจแบบนั้น ไม่งั้นเรื่องที่เค้าแปลงร่างเป็นแมวดำแตก เธอคงจะอัดเค้าเป็นเป็ดป่นไม่มีชิ้นดีแน่ เค้ามั่นใจ
...
เมื่อสมาชิกทุกคนมารวมกันพร้อมหน้า ปรากฏว่าเวลาเที่ยงแล้ว ซากุระยิ้มร่า “ไปหาอะไรกินไหม ชั้นรู้จักร้านอร่อยๆนะ”
งานนี้เท็นเท็นกระดี๊กระด๊าเมื่อเพื่อนสาวพามาร้านอาหารจีนร้านหนึ่งที่มีคนนั่งกินอาหารแน่น เพราะอาหารอร่อยราคาไม่แพง กลิ่นหอมๆภายในร้านช่างยั่วน้ำลาย
“มื้อนี้ชั้นเลี้ยงเอง”
กาอาระรีบปฏิเสธเพราะเกรงใจ”อย่าเลย เกรงใจ ชั้นเลี้ยงเองดีกว่า”
ซาสึเกะแย้ง”ชั้นเลี้ยงเอง”
ลี”ผมเลี้ยงเอง”
เท็นเท็นเสนอ”หารกันดีกว่า”...แต่ละคน โชว์ป๋ามาก...
ซากุระหยิบเมนูมาดู ก่อนจะสั่งรายการ “เอามาโบโทฟุ เป็ดปักกิ่ง นะ”
เท็นเท็น”ซุปหูฉลาม ปอเปี๊ยะทั้งแบบคาวและหวาน”
กาอาระ”ลิ้นวัวตุ๋นยาจีน กุ้งผัดซอส”
ซาสึเกะ”เสี่ยวหลงเปา มะเขือเทศผัดไข่”
ลี”ขอชุดติ่มซำและก็หม้อไฟหม่าล่าแบบเผ็ดพิเศษครับ”
ซามุย “ผมขอ เกี๊ยวน้ำและไก่สามรสก็แล้วกัน”
ซากุระทำสีหน้าไม่สู้ดี เพราะไม่ชอบของเผ็ดจัด ถึงจะเป็นทหารองครักษ์ที่ถูกฝึกให้กินง่ายอยู่ง่าย ถ้าต้องกินของเผ็ดมากก็รับไม่ไหว แต่ทำเป็นไม่สนใจ สั่งของหวาน “ของหวานขอเป็นเต้าฮวยฟรุ๊ตตี้นะคะ”
เท็นเท็น”ขอแบบเดียวกันค่า”
พนักงานสาวสวยยิ้มรับ”ค่า รอสักครู่”
ไม่ช้า อาหารที่สั่งก็มาเกือบหมด เหลือแต่ของลีคือ หม้อไฟหม่าล่าเผ็ดพิเศษ
“กินกันเถอะ”
ทุกคนต่างเลือกกินของที่ชอบ
และแล้วหม้อไฟหม่าล่าเผ็ดพิเศษก็มาถึง ลีตักใส่ถ้วยกินทันที
“อร่อย เผ็ดแบบนี้แหละ ทุกคนลองกินดูสิครับ”
ซากุระจัดการออกตัวก่อนทันที “ขอโทษนะคะคุณลี กระเพราะชั้นรับของเผ็ดไม่ไหว”
นินจาคิ้วเหลี่ยมคอตกเมื่อโดนปฏิเสธ
ซามุยชิ่งบ้าง”ผมเองก็เช่นกัน หมอสั่งห้ามกินอาหารเผ็ดจัด”
เท็นเท็นส่ายหน้า...ทึ่มจริงๆลี ของเผ็ดพิเศษแบบนั้นใครจะกินลง...
ลีจำใจต้องกินหม่าล่าสุดเผ็นอยู่คนเดียว
“อ้าว อาเบนิ ลื้อยังไม่กลับบ้านรึ?”
“ไงริวโอ”
ตำรวจหนุ่มขมวดคิ้ว“ไม่ต้องมาไงเลยน่อ อ้าว เจอกังอีกเลี้ยวคุณผู้หญิง”
เท็นเท็นแนะนำตัว”เท็นเท็นค่ะ”
“ผมริวโอ หัวหน้าตำรวจหน่วยที่1 ยินลีที่ล่ายรู้จัก”
ซากุระเลิกคิ้วสงสัย “ทั้งสองคนรู้จักตั้งแต่เมื่อไหร่เนี่ย”
เท็นเท็นหน้าขึ้นสีระเรื่อนิดๆ”ก็ ตำรวจคนนี้ช่วยไม่ให้ของหล่นใส่ชั้นน่ะ”
“เหรอ ขอบใจนายนะริวโอ”
“ไม่เป็นไรน่อ”
“กินข้าวยังเนี่ย”
“กิงเลี้ยว ลื้อเองกิงเสดก็กลับบ้านไปนอนเลยนะ”
“ห๋า?”
“ลื้อน่ะเพิ่งได้นอนตอนตีสองไม่ใช่รึ?”
“แล้วไง วันนี้ชั้นหยุดนะ กะจะไปเดินเทศกาลขนมหวานต่อ”
“ห่วงสุขภาพมั่ง ลื้อโหมงานหนักเกินไปเลี้ยว”
“จ้าๆ จะออกเวรเมื่อไหร่เนี่ย”
“บ่ายสอง เจอกันที่งานเทศกาลน่อ”
ตำรวจหนุ่มเดินออกจากร้านไป...
เท็นเท็นมองตามหลัง”ริวโอคุง ดูแข็งแรงจังเลยนะ”
“จริงค่ะ คุณเท็นเท็น ถึงหน้าไม่ฉลาดแต่สัญชาตญาณดีมาก จับคนร้ายเข้าคุกเยอะแล้วนะ”
เท็นเท็น”เค้าชอบขนมหวานเหรอ”
“หมอนั่นชอบ ขนมไหว้พระจันทร์รสช็อกโกแลตนะ วันนี้ชั้นว่าจะไปหาซื้อช็อกโกแลตแคทสักหน่อย”
“อันนั้นอร่อยมากเลยเหรอ”
“ใช่ๆ มีหลายรสชิ้นใหญ่ ช็อกโกแลต70%ไม่อ้วนด้วย”
สองสาวเริ่มเม้าส์มอยอย่างสนุก
สี่หนุ่มนั่งกินอย่างเงียบๆ...แทรกไม่ได้เลยแฮะ...
เม้นบ้างนะจ๊ะ
เท็นเท็นถามทันที “ซากุระล่ะอิโนะ ทำงานเหรอ?”
“ไปที่เอโดะน่ะ งานท่าจะเยอะจริง”อิโนะนึกเพื่อนสาวที่ทำงานโรงพยาบาลแบบไม่ได้พัก ขนาดกินข้าวพร้อมกับตรวจเอกสาร นอนนั้นก็นอนดึก และแล้วเธอก็ได้บอกเหตุผลว่าความจริงเธอจะแยกวิญญาณมาทำงานก็ได้เพื่อให้ร่างเนื้อได้พักผ่อน แต่เธอเกรงว่าพยาบาล หรือรุ่นน้องจะกลัว เพราะอาจจะมองไม่เห็นร่างแยกวิญญาณ แต่จเห็นปากกาพู่กันขยับเองหรือเอกสารลอยไปลอยมา ซึ่งต่างกับเอโดะที่มีห้องทำงานส่วนตัวและไม่ค่อยออกนอกสถานที่บ่อยแถมเหล่าลูกน้องก็ชินแล้ว ซากุระจึงสะสางงานในโคโนฮะอย่างเรียบร้อย...
ฮินาตะเอ่ยขึ้น “ดูแล้วนิสัยเค้า ดูไม่เหมือนเดิมเลยนะคะ”
อิโนะพยักหน้า “ใช่ แถมยัยนั่นโดนบังคับให้รีบแต่งงานอีก”
สองสาวอุทาน”เอ๋?”
“จริง แต่ยัยนั่นชิ่งตลอด คาโอรุคุงที่เป็นญาติกันยังหนี เอโดะนิยมแต่งงานกันเร็วอีก แต่ฐานะของสองคนนั้นก็ใช่ย่อยนะ แถมซากุระจริงๆแล้วก็ไม่ได้รู้สึกรักซาสึเกะคุงเลย”
ฮินาตะเอ่ยขึ้น”เป็นคาแร็คเตอร์ที่ถูกสร้างขึ้นเหรอคะ”
“คงประมาณนั้น”
เท็นเท็นเอ่ยขึ้น”ชั้นว่า เค้าคงจะรักษากฎด้วย”
“กฎ?”
เท็นเท็นถาม”นี่ไม่รู้เหรอ ว่าเอโดะกับ5แคว้นนินจามีข้อตกลงร่วมกันอยู่ นั่นก็คือ ซามูไรจะไม่เข้ามายุ่งในการปกครองแคว้น”
อิโนะนึกบางอย่างได้ “เปลี่ยนเรื่องดีกว่า พวกเราไปเที่ยวเอโดะกันไหม เห็นว่าเทศกาลของหวานที่นั่นจัดตลอดฤดูหนาว ชั้นไปครั้งหนึ่ง มีของหวานให้เลือกเยอะแยะเลย”
“จริงเหรอ” สองสาวตาเป็นประกาย
หลังจากนั้น สาวๆก็พากันไปชวนหนุ่มๆและเทมาริที่อยู่ซึนะ ไปเที่ยวที่แคว้นเอโดะ ซึ่งทุกคนก็อยากไปเพราะว่างงานและเอโดะก็เป็นแคว้นที่ขึ้นชื่อเรื่องมีสถานที่ท่องเที่ยวมากมายหลายแบบเพราะมีพื้นที่มากมาย
...
การเดินทางไปแคว้นเอโดะนั้น นารูโตะก็ได้ลากซาสึเกะไปด้วยเผื่อจะได้เจอใครบางคน นอกจากนี้ยังได้ชวน กาอาระไป ส่วนกาอาระนั้นก็ได้ให้คังคุโร่ดูแลหมู่บ้านแทน
ทั้งหมดเดินทางด้วยรถไฟ ซึ่งกินเวลานานแต่สบาย แต่กว่าจะผ่านด่านตรวจและขออนุญาติเอาอาวุธเอาไปก็กินเวลานานพอสมควร
กลุ่มโคโนฮะทั้งหมดมาถึงแคว้นก็เวลาพลบค่ำพอดีแต่ดันโผล่มาที่โซนสถานบันเทิงและถนนคนเดิน
เอโดะในตอนนี้ช่างคึกครื้นเต็มไปด้วยแสงสี ร้านค้า สถานบันเทิงคึกคัก เหล่าหน้าม้า ต่างพยายามเรียกลูกค้า
นารูโตะหันไปหาซาอิ “เราจะหาที่พักได้ไงเนี่ย”
ซาอิด้วยสีหน้าเรียบเฉย “ตอนนั้นเราไปพักที่บาร์กระเทยครับ โคตรน่ากลัว แถมตอนนั้นคุณซากุระก็ไม่ได้บอกเรื่องที่พักอีก”
อิโนะเอ่ยขึ้น”แต่ยัยนั่นจะแนะนำที่พักให้นะ ไม่รู้พวกเรามาถูกโซนรึเปล่า ที่นี่มีหลายโซนมาก”
แต่แล้ว...
ขบวนรถม้าและกองทหารก็พุ่งมา
“กรุณาถอยห่างขอรับ”
งานนี้ทำเอาคนแตกฮือ เหล่าทหารก็เข้าประจำการที่บาร์ฮานะ บาร์ที่ใหญ่ที่สุด
เสียงโวยของใครบางคนก็ลอยมา...
“ไอ้ป๋าบ้า!ใจคอกะจะไม่พักรึไงวะ!”
“เอาน่าๆ ใจเย็นๆดูเบนิสิ ไม่ได้ตั้งแต่เมื่อวานยังไม่บ่นเลย”
“น่าเบื่อน่อ”
งานนี้ทำเอาโคโนฮะทุกคนงง ว่าเกิดอะไรขึ้นเพราะรู้ว่าเจ้าของเสียงอยู่ที่ไหน แต่ก็มีชายหนุ่มคนหนึ่งวิ่งมา
“พวกท่านนินจาใช่มั้ยขอรับ”
อิโนะ”ใช่ค่ะ มีอะไรเหรอคะ”
ชายหนุ่มเอ่ยขึ้น”รบกวนด้วยขอรับ”
กลุ่มโคโนฮะได้ตามชายคนนั้นไปยังหลังบาร์ฮานะ
เจ้าของร้านเป็นสาวประเภทสองที่แต่งตัวด้วยกิโมโนสีม่วงเข้ม
“คือว่า สาวในบาร์เกิดเป็นหวัดทั้งหมด เลยไม่มีเด็กที่มารับแขกได้ แขกวันนี้ ก็ดันเป็นแขกซุปเปอร์วีไอพี แถมเป๋าหนัก จะยกเลิกก็ไม่ได้(เสียรายได้หมด) พอไปขอสาวที่บาร์อื่น ก็ไม่มีใครว่าง พอรู้ว่านินจาน่ะสามารถแปลงร่างได้ ดั๊นขอจ้างนะคะ จ่ายไม่อั้น ช่วยทำงานเป็นสาวในบาร์คืนนี้ที ส่วนสาวๆถ้าจะช่วยก็ยินดีนะจ๊ะถ้าไม่ก็อยู่เบื้องหลังแทนนะ”
เสียงหวานแว่วมา”มาม่าซัง แขกจะมาแล้วนะ ไม่เห็นมีสาวๆเลย”
งานนี้ทำเอากลุ่มที่มาเที่ยวสะดุ้ง มาม่าซังรีบวิ่งไปหา “ค่า...ท่านเบนิ น้องๆหนูๆกำลังแต่งตัวอยู่นะเจ้าคะ รอก่อน”
นารูโตะหันมาปรึกษา “เอาไงดี”
ซาอิ”เรื่องนี้คุณถนัดไม่ใช่เหรอครับ แถมได้เงินเยอะอีก”
ชิกามารุ”น่ารำคาญ ทำไมต้องมาทำอะไรแบบนี้”
เทมาริส่ายหน้า “เอาเถอะน่า ช่วยๆเค้าหน่อย หรือจะให้พวกชั้นไปรับหน้าแทน”
หนุ่มๆปฏิเสธทันที”ไม่”
งานนี้ทุกคนจัดการแปรงร่างเป็นผู้หญิงในชุดกิโมโนสั้นแบบประยุกต์ทันที ซึ่งยกเว้นลี(เพราะใช้คาถานินจาไม่ได้)โจจิที่เอาแต่กิน คิบะกับอากามารุและชิโนะไม่ได้มาเพราะติดธุระ
เหล่าสาวแปลงต้องเดินออกไปก็พบว่า แขกซุปเปอร์วีไอพีคือ มิคาโดะ
เบนิผู้สวมหน้ากากจิ้งจอกแดง หันมา “เด็กใหม่รึ? ไม่เคยเห็นหน้าเลย”
เจ้าของร้านรีบแก้ต่าง”ค่า มาใหม่ ถึงจะน้อยแต่คัดมาเด็ดนะคะ”
เรมตรงเข้ามาวิเคราะห์ “หน้าตาจิ้มลิ้มดี แต่น้องผมทองทวิลเทลดูเยอะไปหน่อย”ที่เรมหมายถึงคือนารูโตะที่อยู่ในร่างสาวน้อยหุ่นสะบึม ทรงทวิลเทล ที่อกโตเกินเหตุ
มิคาโดะแซว”แหม ถ้ามีอีกสี่เต้าเนี่ยไปที่ฟาร์มได้เลยนะ”
เบนิและริวโอพร้อมใจกันตบกบาลผู้บังคับบัญชาทันที
เบนิ“หยาบคายนะป๋า”
ริวโอ “จริงล้วยน่อ ป๋านี่ปากหมาจริงๆ เลี้ยงสุนัขในปากไว้กี่ฝูงวะ”
มิคาโดะลูบหัว “พวกแก เคารพชั้นบ้างไหม ไอ้เด็กเปรต”
สี่แสบเอ่ยพร้อมกัน “แล้วป๋าน่าเคารพตายห่าล่ะ”
มาม่าซังเข้าไกล่เกลี่ย “เอาเถอะค่ะ อย่าทะเลาะกันเลย และไหนเพื่อนของท่านมิคาโดะล่ะคะ”
มิคาโดะเอ่ยขึ้น “เดี๋ยวมา”
บันไซเข้าไปหา นารูโตะในร่างสาวน้อยที่กำลังช็อคค้างเพราะเสียความมั่นใจ “น้องจ๋า อย่าไปถือสาคนปากมอมแบบนั้นเลยนะ น้องไม่ผิดหรอกผิดหรอกที่เกิดมาตู้มเกินไป มีของดีต้องโชว์นะ”
“คะ..ค่ะ”...อะไรวะ ผู้ชายชอบหุ่นแบบนี้ไม่ใช่เหรอ...
ซาสึเกะในร่างสาวน้อยผมดำทรงทวิลเทลต่ำ สวมกิโมโนสีขาวน้ำเงิน แอบผิดหวังเล็กๆเพราะแทนที่จะมาถึงแคว้นแล้วจะได้เห็นหน้าเธอ แต่ทำไม๊ต้องใส่หน้ากากด้วย!
กาอาระพอเข้าใจแล้วว่าทำไมแผนกวิทยาศาสตร์ถึงได้กระดี๊กระด๊าตอนที่เธออยู่ซึนะ คงเป็นเพราะเธออยู่ที่นี่สวมหน้ากากในตอนทำงานเลยไม่มีใครเห็นหน้าจริงบ่อยนักอย่างในตอนนี้
บันไซมองไปที่สาวผมแดงทวิลเทล “คุ้นๆแฮะ”
กาอาระชะงัก ...เฮ้ย!เข้ามาใกล้ทำไม...
แต่ยังไม่ทันที่หนุ่มผมชมพูจะเข้าใกล้ไปมากกว่านี้ ก็โดนคนสวมหน้ากากดึงตัวไปก่อน “อย่าไปยุ่ง ทำการอารักขาเถอะ”
มิคาโดะเอ่ยขึ้น”ไม่ดื่มด้วยกันรึ? เบนิคุง ลูกผู้ชายมันก็ต้องมีบ้างนะ”
“ขอบคุณสำหรับน้ำใจ ช่วงนี้ไม่ค่อยสบาย และก็...หนูเป็นผู้หญิงนะ บอกเป็นล้านรอบแล้วน่าจะเข้าใจสักที”
“แหมๆตอนเป็นผู้ชายออกจะหล่อนะ”
ริวโอโวยวาย”พอเลยน่อ มันเป็นปู้ชายแต่พวกอั๊วเป็นหญิงนี่มันไม่คุ้มเลย”
คนสวมหน้ากากลากหนุ่มหน้าตี๋ผิวเข้มให้ออกไปด้วย “ไปทำงาน อย่าขัดความสำราญนายเหนือหัวเว้ย”
ริวโอ“ปล่อยอั๊วน่อ แรงเยอะเกินหน้าไปเลี้ยวนะ”
บันไซ“ไอ้บ้า ไหนบอกว่าไม่ได้นอนไง ไหงแรงควายแบบนี้วะ”
เรมหันไปหาสาวๆ”รอบกวนด้วยนะครับ”ก่อนจะออกจากห้องไป
สี่แสบออกจากห้องไปก็ทำให้เหล่าสาวแปลงโล่งอกด้วยกลัวจับได้
มิคาโดะเอ่ยขึ้น “พวกหนูๆทำตัวตามสบาย เพื่อนของป๋าไม่ใช่คนใหญ่คนโตอะไร ก็แค่คนทำงานที่อยากหาความบันเทิงเล็กๆน้อยๆเท่านั้น”
ห้าสาวเทียมมานั่งล้อมชายชรา แต่แล้วก็มีชายสูงศักดิ์ที่สวมฮากามะราคาแพง เดินเข้ามา
“ต้องรบกวนท่านอยู่เรื่อยเลย มิคาโดะ แต่ก็ไม่เห็นจะต้องเหมาบาร์เลยนี่นา”
“มิได้ๆท่านน่ะ ควรจะมาผ่อนคลายบ้างนะ คราวหน้าไปอาบอบนวดดีไหม”
ชายหนุ่มผมดำยาวสวมฮากามะราคาแพงนั่งลงระหว่างกลางซาสึเกะและกาอาระ ทำเอาห้าสาวเทียมช็อคเพราะนั่นคือ ท่านโชกุนคนปัจจุบัน อิเคบุ ซาบุโร่ เหตุที่ทั้งห้ารู้จักท่านโชกุนนั้นเพราะรูปปรากฏหลาในหนังสือนำเที่ยว
...มิน่า ทหารถึงยกโขยงมาแบบนี้...
งานนี้ทำเอาไปไม่เป็น
พนักงานก็ยกอาหารและเหล้าอย่างดีมาเสิร์ฟ
มิคาโดะเริ่มดื่มเหล้า “สาวๆแนะนำตัวหน่อยซี่ นั่งนิ่งอยู่ได้”
นารูโตะร่างสาวมัดทวิลเทลอกตู้มชุดกิโมโนสั้นแบบประยุกต์สีชมพู”นารูโกะค่า”
ชิกามารุ ในร่างสาวน้อยผมเปียสวมกิโมโนสีเขียวสั้น“ชิโยโกะ”
ซาอิในร่างสาวน้อยผิวซีดผมยาวสลวย สวมกิโมโนสีม่วง”ซาโอริ...ค่า”
ซาสึเกะ”ซายูมิ...ค่ะ”
กาอาระที่ตอนนี้หน้าแดงเพราะอายทำอะไรไม่ถูก ตอนนี้อยู่ในร่างสาวน้อยผมแดงสวมกิโมโนสั้นสีแดงสวย จนท่านโชกุนยิ้มปลอบ “ทำตัวตามสบายเถอะนะ”
“ไอ ค่ะ”
ท่านโชกุนเอ่ยขึ้น”น่ารักทุกคนเลยนะ ให้เบนิมาดื่มด้วยกันสิ เค้าอาจจะทำให้ผู้หญิงไม่เกร็งนะมิคาโดะ”
“ครับๆ”มิคาโดะตะโกน “เบนิ มานั่งดื่มมา นี่เป็นคำสั่งท่านโชกุนนะเหวย”
ทางด้านคนที่ยืนอารักขาอยู่ข้างนอกพอได้ยินคำสั่งก็ถอนใจ
เรมเอ่ยขึ้น”ไปเถอะ ไม่เป็นไรหรอก พวกเราดูแลได้”
เมื่อเบนิเข้ามา เธอเลือกที่จะนั่งข้างๆกาอาระเพื่อที่จะได้ช่วยกันทัน เพราะเห็นว่าไม่น่าชินกับการเป็นผู้หญิง ใช่เธอรู้ รู้ว่ายัยสาวพวกนี้คือพวกเพื่อนนินจาที่แปลงมา
“สวัสดี สาวๆ ชั้นเบนิ”
ท่านโชกุนซาบุโร่เอยถาม”ทำไมเจ้าสวมหน้ากากเล่า? แบบนี้คงจะดื่มไม่ได้พอดี”
เบนิโค้งศีรษะเล็กน้อย“ขออภัย ข้าไม่ค่อยสบายเจ้าค่ะ”
“งั้นรึ? ต้องการหมอไหมล่ะ”
“นายเหนือหัว ข้าเป็นหมอย่อมรู้ตัวดี แค่นี้ไม่เป็นอะไรมากหรอกเจ้าค่ะ”
“อย่าหักโหมนักเลย ถอดหน้ากากเสียเถิด”
“ไม่ได้ ตอนนี้อยู่ในราชการ ข้ามีหน้าที่อารักขาท่าน เชิญท่านสำราญเถิด สาวๆตามสบายนะ”
ซาสึเกะสังเกตว่าหญิงสาวดูนอบน้อมมาก และเธอนั่งนิ่งไม่ขยับไปไหน ราวกับหุ่นยนต์ แถมสวมหน้ากากปิดหน้าทำให้ไม่รู้ว่าตอนนี้เธอแสดงสีหน้าแบบไหน
มิคาโดะที่ซาอิกับนารูโตะพยายามเอาใจเอ่ยขึ้นอย่างเบื่อหน่าย”เหงาจริงโว้ย...เฮ้ย...มาม่าเอาคาราโอเกะมา”
พนักงานได้เอาตู้คาราโอเกะมาอย่างรวดเร็วพร้อมเมนูเพลง
“เอาเลยซาบุโร่จังเลือกเพลงเลย”
“ข้าร้องเพลงไม่เก่ง มิคาโดะ แบบนี้ข้าว่าให้สาวๆร้องดีกว่า”
ซาสึเกะหรือซายูมิสะดุ้ง...อย่านะเฮ้ย ควายออกลูกยังร้องเพาะกว่าชั้นเลย ชั้นยังไม่อยากเข้าคุกข้อหาทำโชกุนหูแตกตายนะเฮ้ย...
มิคาโดะส่งไมค์ให้ชิกามารุหรือชิโยโกะทันที “เอาเลยนังหนูโชว์เสียงหน่อย”
สาวขี้เบื่อสะดุ้งไม่กล้าปฏิเสธแต่ก็นะ ถึงจะเคยออดิชั่นผ่านเป็นนักร้องมาก่อน แต่ไม่เคยร้องเพลงในร่างผู้หญิงนะเฮ้ย!!
และพอร้องเพลงไป ปรากฏว่า...เสียงเพี้ยน...
โจจิที่แอบดูก็บ่นเบาๆซึ่งเทมาริได้ยินชัดเจน “ไหงร้องเพี้ยนแบบนี้อ่ะ ตอนออดิชั่นออกจะร้องเก่ง”
“พอๆเพี้ยนชิXหาย! ไอ้เบนิโชว์หน่อย”
สาวขี้เบื่อแอบบ่น “น่ารำคาญ”
คนสวมหน้ากากรับไมค์มาก่อนเทสเสียง”วัน ทู วัน ทู มิวสิก!”
เพลงที่ถูกร้องออกมา ช่างไพเราะชวนเคลิบเคลิ้มและสนุกมาก จนทุกคนต้องปรบมือตามจังหวะ ใช่ทุกคนที่แอบดูเองก็เช่นกัน
พอเพลงจบ ท่านโชกุนปรบมือชมเป็นการใหญ่ “ยอดเยี่ยม เบนิ ฝีมือเจ้าช่างเก่งกาจนัก”
“มิได้เจ้าค่ะ พ่อและอาของข้า มีฝีมือกว่าหลายขุมนัก สาวๆข้าจะสอนเจ้าร้องเพลงนะ เผื่อจะใช้มัดใครคนที่หมายปองได้ “หลังจากนั้นคนสวมหน้ากากก็สอนเคล็ดลับการร้องเพลงให้สาวเทียมทั้งห้า
การกระทำนั้นช่างอบอุ่นชวนหวั่นไหว แน่นอนถ้าพวกเค้าเป็นหญิงแท้มันก็ต้องแอบปิ๊งบ้างล่ะ
โดยเฉพาะกาอาระที่รู้สึกว่า หญิงสาวผู้สวมหน้ากากนั้นช่างมีเสน่ห์ ด้วยท่าทางอันอบอุ่นแบบนี้ มันทำให้ใจสั่นอย่างประหลาด ดูท่าเค้าจะเป็นโรคหัวใจแน่ๆเลย
...อันตราย...
มิคาโดะที่เริ่มเมาเอ่ยถาม“ซาบุโร่จัง อยากดื่มอะไรแรงๆกว่านี้ไหมล่ะ”
“ก็ดีนะ ดื่มแต่ดอนเปรี เราชักจะเบื่อขออะไรแรงมากระแทกคอเสียหน่อยก็ดี”
ห้าสาวเทียมพอรู้ว่าที่ดื่มเป็นของแพงก็แอบกระดกอย่างเนียนๆ
มิคาโดะตะโกนสั่ง“เด็กๆขออะไรแรงๆอย่างเตกีร่าหน่อยสักสิบขวด เฮ้ย เบนิทำเตกีร่าทาวเวอร์ให้ที”
“เจ้าค่ะ”ร่างบอบบางผู้สวมหน้ากากรับคำก่อนจะถอดเสื้อโค้ดที่สวมออกเพื่อความคล่องตัว ทำให้เห็นเสื้อคอเต่าแขนกุดเข้ารูปสีดำ แขนทั้งสองสวมถุงมือยาวเลยข้อศอกสีดำ เข็มขัดสีดำเส้นโตที่รัดเอวคอดกิ่ว ข้างซ้ายเหน็บดาบสั้นและแส้ ขวาเหน็บดาบยาวด้านหลังมีกระเป๋าใบเล็กๆติดอยู่ หลังจากนั้นก็ทำการปลดเข็มขัดออก ก่อนจะที่โต๊ะที่พนักงานขนแก้วแชมเปนมากมายเรียงราย
แก้วแชมเปนมากมายถูกจัดเรียงเป็นตึกสูง ด้วยฝีมือคนสวมหน้ากากอย่างชำนาญและรวดเร็ว เพียงไม่นานแก้วแชมเปนมากมายก็ถูกเรียงเป็นตึกสูง หญิงสาวนำขวดเหล้าเตกีร่ามาสองขวดแล้วเปิดพร้อมกันแล้วยืนบนเก้าอีและจัดการเทเหล้าลงแก้วแชมเปนทาวเวอร์เรื่อยๆสร้างความตื่นตาให้แก่ผู้รับชมมาก เหล้าดีกรีแรงค่อยๆถูกเท
ใส่แก้วแชมเปนไม่ช้าหรือเร็วเกินไป
ผู้ชมต่างนำเหล้าดีกรีแรงมาดื่ม คนคออ่อนอย่างชิกามารุ และนารูโตะล้มพับไปก่อนใครเพื่อน
เหลือแต่พวกคอแข็งที่ยังสามารถดื่มได้เป็นสิบๆแก้ว ชนิดที่ไม่กลัวตับพัง
ซากุระสังเกตอาการว่ากาอาระหรือไอจัง เริ่มเมาก็กลัวว่าจะคืนร่างจึงเข้าไปหา “ไอจัง ชั้นว่า...ชั้นถูกใจเธอเข้าแล้ว เราไปคุยกันสองคนนะ”
งานนี้ทำเอากาอาระงงเต็ก ส่วนซาสึเกะหรือซายูมิ กำแก้วแทบแตก...ไอ้แพนด้า!!!...
ซากุระไม่รอให้อีกฝ่ายเอ่ยอะไร”ไปหาที่ดีๆคุยกันเถอะ พนักงานพาคนที่เมาไปพักที”
พนักงานรีบพยุงร่างที่ล้มพับออกไปทันที
ส่วนคนสวมหน้ากากฉุดกระชากพาสาวผมแดงไปทันที
ซากุระพากาอาระไปที่หลังร้าน “คออ่อนก็ไม่น่าดื่มเตกีร่านะ ท่านกาอาระ นั่นน่ะเหล้า40ดีกรีเชียวนะ แถมเล่นดื่มไปยี่สิบแก้วแบบนั้น เดี๋ยวคืนร่างขึ้นมาล่ะยุ่ง เจ้านารูโตะกับชิกามารุ สองแก้วก็ล้มพับ ไอคนที่สามสิบกว่าแก้วแล้ว ดอนเปรีก็ซัดไปคนละสองขวด”
“นี่เธอรู้”รู้ว่าแปลงร่างมายังพอทน แต่รู้ว่าใครดื่มไปเท่าไหร่เนี่ยมันสุดยอดเกินไป
“ก็รู้น่ะสิ ไปพักให้สร้างเมาเถอะ ชั้นจะไปอารักขานายเหนือหัวก่อนล่ะ”
กาอาระรู้สึกดีใจอย่างประหลาดที่เธอห่วงเค้าแบบนี้
เมื่อเบนิเดินกลับมา
มิคาโดะก็โวย”เฮ้ย ไหนบอกว่าไม่สนสาวไง แล้ว...”
“ข้าแค่สนน่ะป๋า แต่เจ้าหล่อนดันอ้วกใส่ เลยไม่ชอบ ไปหลังร้านแล้ว ข้าไม่ชอบผู้หญิงคออ่อน”
โชกุนซาบุโร่นึกอยากรู้ใจของทหารตน”เจ้าชอบแบบใดเล่า เบนิ”
คนสวมหน้ากากนำเข็มขัดและอาวุธที่ปลดมาสวมก่อนจะเอ่ยด้วยท่าทีสบายๆพลางสวมเสื้อโค้ท”นายเหนือหัว บอกตามตรง ข้ายังไม่คิดเรื่องรักๆใคร่ๆ ข้ายังเด็กนัก”
“หากเทียบกับข้า เจ้านับว่ามีเสน่ห์มาก เบนิ หากว่าข้าเป็นหญิง ข้าคงต้องพึงใจเจ้าเป็นแน่”
“อย่าเลยเจ้าค่ะ ข้าไม่ได้เป็นอย่างที่ใครๆเห็น ข้าก็แค่ สาวบ้าพลังคนหนึ่งก็เท่านั้น...หน้าตาก็ธรรมดาๆ”
โชกุนดื่มเตกีร่าจนหมดแก้วแล้วหยิบแก้วใหม่ ซึ่งคอทองแดงมาก เพราะดื่มไปจะสี่สิบแก้วแล้ว“ถ่อมตนเกินไปแล้ว จะว่าไปถ้าเจ้าไว้ผมยาวเหมือนกาลก่อน ก็ดีนะ ดูเป็นผู้หญิงที่งดงามมาก”
คนสวมหน้ากากไม่ได้เอื้อนเอ่ยอะไรทำได้แต่โค้งศีรษะเล็กน้อยเท่านั้น
ซาสึเกะหรือซายูมิมองคนสวมหน้ากากอีกครั้ง ผมนั้นเริ่มยาวแล้ว แต่เธอเคยไว้ผมยาวมาก่อนเหรอ...
มิคาโดะถาม”แล้วทำไมแกถึงสนสาวผมแดงล่ะห๊ะ ไอ้หนุ่ม”
ซากุระลอบถอนหายใจก่อนจะหาเรื่องมาอ้าง และแล้วก็แต่งเรื่องโกหกออกมา“เห็นสาวผมแดงก็นึกถึง ผู้หญิงคนหนึ่ง ที่เคยช่วยเหลือข้า เธอมีผมสีแดงสวย และเธอช่างอ่อนหวานและอ่อนโยนยิ่งนัก...”
มิคาโดะ”เห้ยๆละเมออะไรวะ เมากลิ่นเหล้ารึ?”
คนสวมหน้ากากเอ่ยอย่างรู้ทัน“ข้าคอแข็งอยู่แล้ว ป๋าไม่ต้องชวนดวลดื่มเลย พรุ่งนี้ต้องมาทำงานแต่เช้านะ ข้าไม่ได้อาวุโสอย่างป๋าที่จะลางานได้บ่อย”
“ชิ!ข้าไม่ชอบเจ้าก็ตรงนี้รู้ทันคนไปทั่ว ผิดกับพ่อเจ้าเลยนะ ที่ชวนมาดื่มก็ดื่มแบบยินดี”
“ข้าก็คือข้า คุณพ่อก็คือคุณพ่อ และอีกอย่างตอนนี้ข้าอยู่ในหน้าที่ ไม่เหมือนคุณพ่อของข้าที่ลาออกจากราชการตั้งแต่ยี่สิบปีก่อนแล้ว จะมาดื่มกับท่านก็ไม่เป็นไร”
โชกุนซาบุโร่เอ่ยเสียงแผ่ว”แค่ท่านแม่ของข้า ตัดพ้อต่อบุไรเป็นเหตุให้ เค้าลาออกสินะ”
คนสวมหน้ากากโค้งศีรษะ “ท่านอย่าได้พูดเช่นนั้น นายเหนือหัว การที่พ่อของข้าลาออกจากราชการนั้น ส่วนหนึ่งก็เพื่อรับผิดชอบเหตุการตายของบิดาท่านก็จริง แต่จริงๆแล้ว พ่อของข้าต้องการพักผ่อนเจ้าค่ะ มันก็เป็นแค่ความเอาแต่ใจของคนๆหนึ่งก็เท่านั้น ที่อยากมีชีวิตสงบสุข เป็นแค่คนธรรมดา ขอท่านอย่าได้ตำหนิท่านหญิงหรือตัวเองเลย การสูญเสียมันน่ากลัวนัก การที่สูญเสียผู้เป็นที่รักไปแบบไม่มีวันหวนคืนมานั้นมันเจ็บปวดมากจนผู้หญิงตัวเล็กๆคนหนึ่งนั้นยากที่ยืนหยัดได้ในสภาวะอันตรายเช่นนั้น”คำพูดที่หนักแน่นของคนสวมหน้ากากทำให้ผู้เป็ยนายเหนือหัวน้ำตาไหลด้วยความซาบซึ้ง
“ขอบใจมากเบนิ”
หลังจากดื่มกินกันสักพัก ผู้ใหญ่ทั้งสองก็พากันหิ้วสังขารอันเมามายกลับ คนสวมหน้ากากหันไปหามาม่าซัง
“มาม่า เรื่องเงินที่เหลือ ไปเก็บในบัญชีของป๋ามิคาโดะได้เลย”
“ค่า”
หญิงสาวหันไปหากลุ่มโคโนฮะที่หลายคนเมาหมดสภาพ สมน้ำหน้าอยากดื่มแบบไม่คำนึงสังขารดีนัก “ส่วนพวกนาย มาเที่ยวใช่มั้ย ดูเหมือนว่ามาผิดโซนนะ แถวนี้ไม่มีโรงแรมหรอก เดี๋ยวจะให้คนไปส่งที่โรงแรม”
นารูโตะ”จะดีเหรอ ซากุระจัง”
“โรงแรมที่จะพาไปเป็นโรงแรมในเครือชิอินะ โชคดีที่อิโนะส่งข้อความมาก่อนเลยเตรียมห้องไว้แล้ว แต่ก็ต้องขอโทษด้วย งานมันเยอะไม่ทันได้บอก แถมคืนนี้ก็อย่างที่เห็นล่ะ เที่ยวเอโดะให้สนุกนะ ขอกลับไปนอนก่อน”หญิงสาวจรงไปขึ้นม้าแล้วควบจากไป
ไม่นานรถม้าขนาดใหญ่ก็แล่นมา สารถีที่สวมหมวกฟางใบใหญ่ ก็เลิกหมวก คนๆนั้นคือ
“ไม่ได้เจอกันนานนะขอรับ คุณอิโนะ คุณซาอิ คุณซาสึเกะ”
คนถูกทักอุทานพร้อมกัน “ซามุย!”
ทั้งหมดขึ้นรถม้าเดินทางไปยังที่พัก
ซามุยเอ่ยอย่างอารมณ์ดี “ผมไม่ได้เป็นซามูไรตั้งแต่แรกแล้วขอรับ เป็นแค่เด็กที่ถูกไล่ออกจากสำนักนักฆ่านาราคุ ต่อมา ก็สมัครเป็นทหารแต่ก็ไปไม่ไหว ท่านบันไซกับท่านเบนิก็ใจดีให้กระผมทำงานในฐานะผู้ดูแลโรงแรมของชิอินะ ขอรับ”
ซาอิเอ่ยขึ้น”แต่ฝีมือก็ใช่ย่อยนะครับ คุณซามุย”
“แหมๆ ผมไม่ได้เก่งอะไรเลย ตอนนั้นถ้าคุณซาสึเกะไม่ช่วย ผมก็ตาย และอีกตอนก็...ถ้าท่านเบนิไม่มาช่วย คุณซาอิกับผมก็ตายโหงล่ะขอรับ”
ซาอินึกถึงตอนที่กำลังจะโดนพวกนาราคุฆ่า ก็ลอบจับคอตนอย่างเสียวๆ(ดูท่าจะกลายเป็นฝันร้ายจำฝังใจไปอีกนาน)
อิโนะเอ่ยถามด้วยความห่วง “แล้วอาการ...”
“ผมหายดีแล้วขอรับ ต้องขอบคุณ คุณอิโนะมากที่กรุณารักษาผม”
ซามุยบังคับม้ามาถึงโรงแรมฮานาบิ...
พนักงานหญิงมีอายุในชุดกิโมโนสีม่วงออกมาต้อนรับพร้อมผู้ช่วยอีกสองคน “เชิญค่า พวกท่านเป็นแขกของคุณหนู ทางเราจะลดราคาให้เป็นพิเศษเลยนะเจ้าค่ะ ไม่ทราบว่าต้องการกี่ห้องเจ้าคะ”
ซาอิเอ่ยแทน”สี่ห้องครับ”
กาอาระ “ขอเปลี่ยนเป็นห้าห้องครับ”
ซาอิ”ทำไมครับ”
“ชั้นอยากนอนคนเดียวน่ะ”
ซาสึเกะ”ผมขอห้องเดี่ยวด้วย”
หญิงชราพยักหน้า”ค่า...ห้องคู่สองห้อง ที่เหลือก็ห้องเดี่ยวนะเจ้าคะ ต้องการอะไรเพิ่มก็บอกได้ ถ้าต้องการทราบสถานที่ท่องเที่ยว อิฉันก็พอแนะนำได้..”
คนที่เหลือโค้งขอบคุณ
ทุกคนถูกพามาที่ห้องพักแล้วพักผ่อน...
วันต่อมาในช่วงเช้าทุกคนได้ทานอาหารเช้าพร้อมหน้า เป้าหมายที่จะไปเที่ยวคือเทศกาลขนมหวาน แต่คุณยายผู้ดูแลได้แนะนำว่า เทศกาลขนมหวานจะเปิดตอนบ่าย
เท็นเท็นเอ่ยถาม”คุณยายพอแนะนำที่เที่ยวได้ไหมคะ”
“ก็ ไชน่าทาวน์ ย่านนั้นสำหรับคนที่ชอบช้อปเลยนังหนู คนจีนมักจะเอาของมาขายมากมาย แถมวันนี้น่าจะมีโชว์เชิดสิงโตกายกรรมอีก ไม่ไกลจากโซนนั้นก็มี สวนพฤษศาสตร์ อควาเรียม สนามขี่ม้า ถ้าจะเล่นสกีก็มีอีกที่ ถ้าจะไปก็ต้องไปเสียตอนนี้เพราะไกลมาก”
ลีเสนอ “ผมว่าเราไปหาคุณซากุระไหมล่ะครับ”
อิโนะเอ่ย”ยัยนั่นยังทำงานอยู่เลยนะ เมื่อคืนก็เห็น ขนาดมาคุ้มครองนายก็ต้องมาร้องเพลงทำเตกีร่าทาวเวอร์อีก”
นินจาคิ้วเข้มคอตก”ก็ผมอยากเจอเธอนี่นา อุตส่าห์มาแต่ไม่เห็นหน้า มันเศร้า”
ซามุยที่ครั้งได้ทำหน้าที่ไกด์เอ่ยขึ้น “วันนี้ท่านเบนิน่าจะได้พักนะขอรับ ท่านเบนิบอกว่าจะมาเจอพวกคุณที่เทศกาลของหวาน ตอนนี้เค้าน่าจะยังนอนอยู่ขอรับ”
ซาสึเกะถาม “นายพาไปที่ย่านตระกูลเก่าได้ไหมล่ะ อย่างยัยนั่นน่าจะไปที่บ้านทางเหนือนะ ไม่ก็ทางใต้”
คนถูกถามส่ายหน้า “ย่านตระกูลเก่าน่ะ ต้องเป็นในเท่านั้นนะขอรับ ผมไม่ใช่คนใน ส่วนทางใต้ผมกลัว..คุณท่านก็ดุมาก และผมก็ไม่รู้ว่าท่านเบนิอยู่ที่ไหนอีกด้วยขอรับ เดาใจไม่ได้ขอรับ”
นารูโตะตบบ่า”เอาน่าๆ เราไปเที่ยวกันก่อนดีกว่า ย่านไชน่าทาวน์ก็ดีนะ”
ชายหนุ่มพยักหน้า
หลังจากกินข้าวเช้าแล้ว ทั้งหมดก็เดินทางไปที่ย่านไชน่าทาวน์โดยมีซามุยทำหน้าที่เป็นไกด์
ย่านไชน่าทาวน์ของแคว้นเอโดะ ช่างคึกคักเพราะมีร้านค้ามากมาย ย่านนี้ประดับตกแต่งด้วยผ้าไหมและโคมไฟสีแดงสด
กลิ่นหอมๆของอาหารจีนลอยมาชวนน้ำลายส่อ
คณะกายกรรมจัดโชว์กายกรรมและเชิดสิงโต ผู้คนเข้ามาดูกันเนื่องแน่น
กาอาระเห็นว่ามีเด็กชายคนหนึ่งพยายามจะดู เค้าจึงอุ้มให้เด็กคนนั้นขี่หลังเพื่อให้เห็นได้ชัด
เด็กชายก็ยิ้มและขอบคุณ
“ใจดีจังนะ”
กาอาระหันไปก็เห็นว่าซากุระมายืนอยู่ข้างๆ เมื่อการแสดงจบลง กาอาระได้วางเด็กคนนั้นลง
นินจาโคโนฮะได้เห็นซากุระเต็มตา ตอนนี้เธอสวมเสื้อคอจีนแขนยาวสีเขียวอ่อน กางเกงขาสามส่วนสีขาว มีผ้าสีขาวผูกเอวไว้และห้อยจี้หยกแบบจีน สวมรองเท้าผ้าปักลายดอกไม้ ผมสีชมพูก็ปล่อยสบายๆและคาดสีที่คาดผมสีดำไว้และสะพายย่ามเก๋ๆปักลายดอกไม้สีขาว ทำเอานึกว่าเป็นคนจีน
งานนี้ทำเอาซาสึเกะ กาอาระ ลี เผลอจ้องมองอย่างเคลิ้มๆ
สาวผมชมพูทัก“ไง สนุกไหม”
อิโนะเอ่ยถาม”แล้วเธอล่ะมาทำอะไร”
“มาซื้อเทียนหอมน่ะ”
กาอาระถาม “แล้วงาน...”
“ท่านโชกุนให้หยุดวันหนึ่งน่ะ นานๆจะได้รับเมตตาแบบนี้ ก็อยากจะเที่ยว พักผ่อนเสียหน่อย”
ลีกระดี๊กระด๊า “คุณซากุระในลุคนี้น่ารักจังเลย”
หญิงสาวยิ้มรับตามมารยาท”ขอบคุณค่ะ”
เท็นเท็นนึกสงสัย “เทียนหอม เธอจะเอาไปทำอะไรน่ะ ซากุระ”
“อ๋อ คือว่าช่วงนี้ชั้นนอนน้อย เลยอยากได้เทียนหอมไว้ จุดที่หัวนอนน่ะ ถึงจะหลับง่ายแต่ก็สะดุ้งตื่นกลางดึกทุกทีเลย”
เทมาริมองอีกฝ่ายก็พอเข้าใจเพราะคนที่นอนดึกตื่นเช้า ถ้ามานอนสบายๆก็อาจจะสะดุ้งตื่นกลางดึก พอหันไปมองคนที่มีอาการเดียวกันอย่างกาอาระ แววตานั้นมีแต่ความห่วง เห็นใจ
หญิงสาวยิ้มหวานก่อนจะขอตัวแยกไป “ขอตัวก่อนนะ เที่ยวให้สนุกล่ะ เจอกันที่เทศกาลของหวานนะ”เธอหมุนตัวไปราวกับว่ากำลังหนีอะไรสักอย่าง
“ท่านเบนิ๊!!!”เสียงหวานใสร้องเรียก พร้อมร่างบางในชุดกี่เพ้าแขนกุดผ่าข้างสีแดงสดลายมังกรทองมีผ้าพันคอขนมิ้งค์สีขาว ผมของหล่อนเป็นสีแดงที่มัดเป็นทรงทวิลเทล
ซาสึเกะคิด...อย่าบอกนะว่า ผู้หญิงในสต๊อกของยัยนั่น มีกี่คนวะ...
สาวนางนั้นทักทาย“คุณอิโนะ คุณซาอิ คุณซาสึเกะสวัสดีค่ะ”
คนถูกทักตกใจ อิโนะลองเพ่งดูดีๆ”มิกิจัง”
เจ้าของนามยิ้มรับ”เป็นไงคะ ชั้นไปย้อมผมมา ได้ยินว่าท่านเบนิชอบสาวผมแดง”
งานนี้กาอาระสะดุ้ง ในขณะที่ซาสึเกะจ้องมองเจ้าแพนด้าแดงเขม็ง
ซาอิยิ้ม”ก็สวยดีนะครับ เล่นเอาจำไม่ได้เลย”
“ขอบคุณค่ะ ว่าแต่พวกคุณเห็นท่านเบนิไหมคะ รู้มาว่ามาย่านนี้”
ซามุยที่ไปซื้อน้ำตาลปั้น มาเห็นพอดี เค้าพยายามส่งสายตาห้ามปราม
โจจิที่กินหม่าล่า “เบนิ ซากุระสินะ เห็นว่าไปซื้อเครื่องหอมล่ะมั๊ง”
อิโนะตวาด”โจจิ!”
“ขอบคุณนะคะ”
มิกิรีบออกไปตามหา
อิโนะเฉ่งเพื่อนทันที “นายไปบอกแบบนั้นยัยนั่นไม่ได้นอนแน่”
“อ้าว ทำไมล่ะ”
“มิกิคงกวนซากุระแน่”
กาอาระงง ผู้หญิงชอบผู้หญิง มันได้เหรอ แต่พอพิจราณาแล้ว การกระทำหลายอย่างของซากุระมันก็ชวนให้สาวๆหวั่นไหวล่ะนะ
เท็นเท็นพยายามไกล่เกลี่ย”น่าๆพวกเค้าคงไม่เจอกันหรอก”
ซามุยที่ซื้อน้ำตาลปั้นเดินมาหาโดยคอตก “น่าสงสารท่านเบนิ ถ้าโดนคุณมิกิตามรังควาญแบบนั้น คงรำคาญน่าดูแต่ ที่ไม่ว่าอะไรคงเป็นเพราะเกรงใจท่านมิคาโดะขอรับ คุณมิกิก็อายุจะยี่สิบห้าแล้ว ยังทำตัวเหมือนเด็กๆ”
เรื่องนี้ซาสึเกะพอจำได้ เคยเห็นในอดีตที่ไอ้คุณผีบรรพบุรุษนั่นเอามาให้ดู เลยไม่ตกใจซักเท่าไหร่ส่วนคนที่เหลือดูตกใจมากโดยเฉพาะสาวๆ
เทมาริ“เหลือเชื่อ หน้าเด็กมาก”
อิโนะ”สุดยอด”
ฮินาตะ”อยากได้เคล็ดลับ”
เท็นเท็น”อิจฉา”
ซามุยทำสีหน้าปั้นยาก ก่อนจะเสนอความเห็น “ทุกท่านผมขอเสนอว่า เราแยกกันเที่ยวดีไหม เพราะมีหลายที่มาก”
นารูโตะ”ทำไมอ่ะ”
อดีตซามูไรเอ่ยขึ้น”ก็ พวกคุณน่ะ มีคู่รักด้วยนี่ขอรับ ผมดูออก ตั้งแต่คุณซาอิกับคุณอิโนะแล้ว คุณซาอิอย่าหึงผมนะขอรับที่ผมเคยให้คุณอิโนะขี่หลัง ตอนนั้นผมหวังดี ตอนนี้หยุดเขม่นผมเถอะ”
หนุ่มผิวซีด”ครับ ผมเชื่อ”
เทมาริ”น่าสนนะ เห็นบอกว่ามีสวนพฤษชาติด้วย น่าไป”
ฮินาตะ”ชั้นอยากขี่ม้า”
อิโนะ”อยากเล่นสเก็ตน้ำแข็ง”
เท็นเท็น”ชั้นอยากเดินย่านนี้ต่อนะ”
ซามุยจำต้องไกล่เกลี่ย “แบ่งทีมกันดีไหมขอรับ แล้วไปเจอกันที่เทศกาลของหวาน ตอนบ่ายดีไหม เพราะถ้าเป็นย่านการท่องเที่ยวก็จะมีรถม้า รถไฟฟ้าไว้คอยบริการนักท่องเที่ยว ราคาไม่แพงด้วย ทุกท่านมีคู่มือนำเที่ยวแล้ว ถ้ายังสงสัยสามารถถามตำรวจได้นะขอรับ ไม่ต้องกลัวหลง”
หลังจากนั้น ทุกคนก็ตกลงกันได้
นารูโตะกับฮินาตะไปสนามขี่ม้า
ชิกามารุกับเทมาริไปสวมพฤษชาติ
อิโนะกับซาอิสเก็ตน้ำแข็ง
โจจิลุยเดี่ยว ย่านร้านอาหารบุพเฟ่
ที่เหลือคือย่านไชน่าทาวน์ ได้แก่ เท็นเท็น ลี ซาสึเกะ กาอาระ ซามุยจะทำหน้าที่เป็นไกด์ให้ในย่านไชน่าทาวน์
เท็นเท็นนึกสงสัย “ทำไมคุณซามุยถึงมาเป็นไกด์ให้พวกเราล่ะคะ”
“คือย่านนี้ถือเป็นเขตปกครองพิเศษของเอโดะขอรับ คนที่นี่ บางคนก็พูดภาษาจีนอย่างเดียว อาจเจรจาไม่รู้เรื่องขอรับ ผมพอจะเจรจาได้ ปัญหาจะได้ไม่เกิดขอรับ”
ลี”อย่างนี้ นี่เอง”
“ตามผมมาเลยขอรับ”
...
“อืม กลิ่นใหม่เหรอคะ”ซากุระนำเทียนสีขาวมาดม กลิ่นหอมของดอกไม้ที่แปลกใหม่ ชวนให้เคลิบเคลิ้มยิ่งนัก
ชายหนุ่มหน้าตี๋ใส่ชุดจีนสีเขียวอ่อนยิ้ม”นี่เป็นของใหม่นะ ทำจากดอกไม้สีขาว”
“ดอกไม้สีขาว พอรู้ไหมคะว่าชื่ออะไร”
“อืม...ถ้าจำไม่ผิดมันคือดอกปาริชาติ เป็นดอกไม้ของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้”
“ปาริชาติ แปลกดีนะ”
“ที่เอเชียตะวันออกเฉียงใต้มีความเชื่อว่ามันสามารถทำให้ระลึกชาติได้ ไม่รู้สิ มันก็แค่ความเชื่อ ลองกลิ่นนี้ดูมั้ย”
ชายหนุ่มส่งเทียนหอมสีเขียวอ่อนไป หญิงสาวนำมาดมก็อุทาน
“นี่มัน กลิ่นไผ่ หอมจัง”
“ฮิตมากเลย จุดตอนนอน ตอนอาบน้ำ มีความสุขโคตรๆเลย”
“งั้นขอสองกลิ่นเลยจ้า”
“คร้าบๆแปลกใจเลยนะที่เห็นซากุระตอนเวลาปกติในวันทำงานแบบนี้”
“งั้นเหรอหยาง นานๆทีแต่นอนหลับไม่เต็มที่เลย เทียนหอมคงช่วยได้”
หลังจากที่จ่ายเงินรับสินค้าแล้ว
หยางเอ่ยขึ้น“อืม...ช่วงนี้...ความเคลื่อนไหวของพวกใต้ดินดูเงียบหาย จนผิดปกตินะ”
“จริงรึ?”
“อ้าว ชั้นนึกว่าซากุระจังจัดการเก็บกวาดทิ้งไปเสียหมดนี่นา”
หญิงสาวเหยียดยิ้ม“มันก็ต้องเหลือตัวทำประโยชน์เอาไว้บ้างนะ แต่ถ้ามันล้ำเส้น...ก็ต้องกำจัด”
“อย่างนี้ต้องเรียกว่า ปีศาจที่สวมหน้ากากนางฟ้าสินะ”
“แล้วแต่ เรื่องบางเรื่องก็ควรปล่อยให้มันจัดการตัวเอง ขอบคุณสำหรับเทียนหอมนะ”ร่างบอบบางออกจากร้านไปด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม
...
ซามุยนำทางสี่นินจาเดินเที่ยวย่านไชน่าทาวน์พร้อมอธิบายไป
“ที่นี่จะแบ่งโซนขายของเป็นแต่ละประเภท คุณเท็นเท็นอยากไปโซนเสื้อผ้าเครื่องประดับไหมขอรับ อยู่ไม่ไกล”
“จริงเหรอคะ”
“มาเลยขอรับ ส่วนคนที่เหลือจะตามไปไหมขอรับ ถ้าไหมจะเดินเล่นแถวนี้ก็ได้ แต่อย่าไปโซนนู่นนะขอรับ มีแต่คนจีนพูดภาษาเราไม่ได้”
สามหนุ่มก็ตามไปด้วย...
โซนขายเสื้อผ้าเครื่องแต่งกายนั้น มีเสื้อผ้าสไตล์จีนหลากหลายแบบ และที่นำมาขายมากที่สุดคือเสื้อตัวหนาสำหรับหน้าหนาว
เท็นเท็นมองด้วยตาเป็นประกาย เพราะมีแต่แบบที่เธอชอบ ทั้งหมดเดินดูร้านต่างๆโดยไม่ทันระวังเมื่อมีเกวียนสินค้าที่บรรทุกของมากมายผ่านมา ด้วยความสะเพร่าทำให้กล่องสินค้าขนาดใหญ่ร่วงจะโดนเท็นเท็น
หญิงสาวหลับตา
ซาสึเกะเตรียมเบิกเนตรแต่...
“เป็นอะไรไหมน่อ”ริวโอในเครื่องแบบตำรวจ เข้ามาใช้มือข้างเดียวรับกล่องนั่นไว้
“ไม่เป็นไรค่ะ”
งานนี้ทำเอาสามหนุ่มนินจาทึ้งที่หนุ่มหน้าตี๋ผิวเข้มสามารถรับน้ำหนักของ กล่องขนาดใหญ่ที่จะหล่นลงมาด้วยมือข้างเดียว
ตำรวจหนุ่มวางกล่องนั้นลงบนพื้นนิ่มๆก่อนจะตำหนิ “ขนของเกินแบบนี้ ต้องโดนปรับน่อ”
เจ้าของเกวียนเป็นชายแก่สวมชุดจีนสีแดงสะดุ้งรีบมาเจรจา”หยวนๆได้ไหมคร้าบ ผมไม่รู้”
“อย่ามาแหล่ ลื้ออยู่ย่านนี้มายี่สิบปี กฎหมายต้องรู้ บรรทุกของเกินกำนดต้องปรับเงิน หรือเป๊ะอยากเจี๊ยะข้าวแดงในคุก!ถึงมาแหลใส่อั๊ว เมื่อกี้ถ้าอั๊วไม่อยู่ล่ะก็ คุณผู้หญิงคนนี้แบนเป็นกล้วยปิ้งเลี้ยวน่อ”
เมื่อรู้ว่าตำรวจหนุ่มไม่อ่อนข้อ ก็จำใจต้องเสียค่าปรับตามระเบียบ
ริวโอจัดการเขียนใบสั่งส่งให้ อาเป๊ะรีบให้ลูกน้องอีกสองคนยกกล่องสิ้นค้าขึ้นเกวียน ซึ่งหนักมาก ลูกจ้างสองคนช่วยกันยกอย่างทุลักทุเล
อาเป๊ะตะโกน”ระวังๆนั่นแจกันหยกนะ ราคาไม่ใช่น้อยๆ”
...
เท็นเท็นรีบโค้งขอบคุณตำรวจหนุ่มผู้ช่วยชีวิตตนไว้
“ขอบคุณมากๆนะคะที่ช่วย”
“ไม่เป็นไรๆคุณผู้หญิง ไม่บาดเจ็บนะ เดินย่านนี้ก็ระวังๆหน่อย”
ซามุยรีบมาเคารพ”ท่านริวโอ มาตรวจตรารึขอรับ”
“ใช่น่อแล้วลื้อ?”
“มาเป็นไกด์ให้สหายของท่านเบนิขอรับ”
“รู้จักอาเบนิล้วยรึ? อ้าวหวัดดีอาหัวเป็ด”ริวโอทักทายซาสึเกะทันที
ชายหนุ่มผู้ถูกทักชักสีหน้า ลีและกาอาระลอบหัวเราะ
“เที่ยวให้สนุกน่อ อั๊วทำงานต่อล่ะ”
ริวโอโบกมือลา
ซาสึเกะได้ทีจึงถาม “หมอนั่นมีหน้าที่ลาดตระเวนย่านนี้เหรอ”
“ขอรับ ก็ย่านไชน่าทาวน์กับย่านการค้าสถานบันเทิงอยู่ในความรับผิดชอบของหน่วยหนึ่งขอรับ ที่จริงท่านเบนิเองก็ยังดำรงตำแหน่งรองหัวหน้าองครักษ์อยู่เพราะหาคนมาแทนไม่เลยต้องควบสองตำแหน่ง”
ซาสึเกะ”ภาระหนักสุดสินะ”
“ก็หนักทุกเขตขอรับ”
กาอาระ”ย่านนี้แออัดไปหน่อยนะ”
ไกด์หนุ่มยิ้ม”ฮ่ะๆนั่นถือเป็นเสน่ห์ของที่นี่นะขอรับ”
ลีสงสัย”ทำไมล่ะครับ”
“เพราะมีบรรยากาศความอบอุ่นยังไงล่ะขอรับ ไม่รู้สึกบ้างเหรอ”
ทุกคนพยักหน้าเห็นด้วยเพราะที่นี่มาเที่ยวแล้วอบอุ่นมาก...
กาอาระ”ที่นี่มีกฎหมายเรื่องบรรทุกของด้วยเหรอ”
“ขอรับ ไม่งั้นก็อาจจะเกิดเหตุอย่างเมื่อสักครู่ก็ได้ ดีที่ท่านริวโออยู่ในแถบนั้นพอดี ไม่งั้นเรื่องยาว นี่ขนาดจับปรับขังคุกก็มีคนฝืนกฏให้เห็นตลอด เดินย่านนี้จำต้องระวังให้มาก ”
ทั้งห้าเดินเที่ยวไปเรื่อยจนกระทั่ง มาถึงย่านแมวเหมี๊ยว...ซึ่งมีแมวเต็มไปหมด
เห็นสาวผมชมพูกำลังนั่งกินเกี๊ยวซ่ากล่องใหญ่โดยมีแมวเหมี๊ยวนับสิบมารายล้อม
“ท่านเบนิ”
“อ้าว เจอกันอีกแล้ว และพวกอิโนะล่ะ”
เท็นเท็นเป็นคนตอบ “แยกไปลานสเก็ตกับซาอิแล้ว ส่วนนารูโตะไปขี่ม้ากับฮินาตะ ที่เหลือก็แยกๆกันไป”
เจ้าแมวน้อยที่นอนอยู่ตรงม้านั่งนั้นหลีกทางให้สาวหมวยนั่ง
“นี่ชั้นมากวนพวกแกเหรอ”
ซากุระก้มหน้ากระซิบกับน้องแมวสีดำที่นอนตักก่อนจะเงยหน้าหาเพื่อนสาว”ไม่หรอก พวกเค้าแค่อยากให้เธอนั่งน่ะเท็นเท็น”
“ขอบใจนะ”พอนั่งลงปีบก็มีเจ้าแมวลายเสือมานั่งตัก “แหมร้ายกาจอยากนอนตักสาวนะเจ้านี่”เท็นเท็นลูบหัวเจ้าแมวนั้นอย่างเอ็นดู
ลียิ้ม”คุณซากุระได้ของที่ต้องการรึยังครับ”
“ได้แล้วค่ะ คุณลี”
ซากุระเอ่ยถามหนุ่มผมแดง “สนุกไหมคะ ท่านกาอาระ”
“อย่าเรียกว่าท่านเลย เรียก กาอาระ ก็พอ ที่นี่สนุกมาก ย่านนี้ดูแออัดแต่บรรยากาศอบอุ่นดี”
“ดีจัง ว่าแต่ซาสึเกะไปไหนน่ะ”
ซามุยพยายามมองซ้ายแลขวา”ไปไหนนะ เดี๋ยวผมไปตามหานะขอรับ เกิดหลงไปยุ่งแน่”
ลีอาสาไปช่วย ส่วนกาอาระมานั่งข้างๆซากุระ “เธอกินอะไร”
“โมโม่”
กาอาระงง ส่วนเท็นเท็นพอเข้าใจก่อนจะหยิบเกี๊ยวซ่ามากินชิ้นหนึ่ง”อร่อยจัง”
“โมโม่คือเกี๊ยวของธิเบต น่ะลองกินดูสิ”
ซากุระใช้ส้อมเล็กๆจิ้มชิ้นเกี๊ยวซ่าป้อนหนุ่มผมแดง
“อร่อยดี”
“เมี๊ยว...”เสียงร้องของเจ้าแมวดำตาสองสีตรงมา มันถือวิสาสะกระโดดขึ้นตักของสาวผมชมพู
“อะไรเนี่ยเจ้าเหมียว”ซากุระเอ่ยขึ้นเมื่อเจ้าแมวผู้มาใหม่ใช้อุ้งเท้าตบแมวดำที่นอนอยู่ก่อนให้ลงจากตักไป เจ้าแมวผู้มาก่อนจำต้องกระโดดมานั่งตักหนุ่มผมแดงแทน
“นิสัยไม่ดี”
เจ้าแมวสีดำตาสองสีไม่รับฟังกลับขดตัวนอนบนตักของเธอเอาดื้อๆ
กาอาระขำกับการกระทำของเธอและเจ้าแมวตาสองสี”ท่าทางมันจะรักเธอนะ ไม่เอามันไปเลี้ยงล่ะ”
“ยาก...ไม่มีเวลาดูแลหรอก ขนาดชีวิตตัวเองยังดูแลไม่ค่อยได้เลย ม้ายังต้องให้คนใช้ช่วยดูแล มาทำงานทีได้เจอกัน ชิกิอยู่สำนักงาน มีคนดูแล”
เท็นเท็น”แล้วหมากับแมวเธอชอบอะไรมากกว่ากันล่ะ”
“หมานะ น่ารักซื่อสัตย์ดี แต่อยู่ที่นี่ งานก็มากพออยู่แล้ว ที่โคโนฮะไม่ต้องพูดถึง โรงพยาบาลงานเยอะ”
กาอาระเอ่ยขึ้น”พูดถึงหมา หมาแบบไหนที่เหมาะใช้บำบัดเด็กล่ะ”
สาวผมชมพูตอบเสียงใส“โกเด้น ลาบาดอร์ ไม่ก็พันทางนะ เพราะพวกนี้มันเชื่อง เลี้ยงง่าย เหมาะที่จะเป็นพี่เลี้ยงเด็กเลย”
“เมี๊ยว...”เจ้าแมวดำตาสองสีร้องพลางเอาหัวมาไซร้พุงของสาวผมชมพู
“จะเอาอะไรเจ้าเหมียว หิวเหรอ ไปกินอาหารของแกตรงนู่นสิ”
เท็นเท็นมองไปที่เสาที่เพื่อนสาวชี้ คือตู้อาหารสัตว์ที่มีชามใส่อาหารแมวสองชามรองไว้ ที่ตอนนี้มีอาหารเต็มหนึ่งชาม อีกชามใส่น้ำสะอาดไว้ ด้านบนตู้มีช่องสำหรับใส่ขยะ โดยบนสุดเขียนป้ายว่า เปลี่ยนขยะมาเป็นอาหารน้องแมวจร”สะดวกจัง มิน่า แมวที่นี่ดูสมบูรณ์ทั้งนั้น”ใช่เพราะแมวแต่ละตัวที่นี่ไม่มีตัวไหนผอมแห้งเลย เพราะไม่อดอาหาร
“ใช่ เอโดะมีตู้แบบนี้กระจายทั่วแคว้นเลย สำหรับหมาแมวจร นอกจากลดขยะแล้วยังช่วยให้หมาแมวจรไม่อดด้วย”
เจ้าแมวยังไม่ยอมลุกไปไหน กลับร้องออดอ้อนหญิงสาวอยู่
ซากุระอยากจะโกรธแต่ก็โกรธไม่ลง เธออุ้มมันมาประจันหน้า“ชั้นเลี้ยงแกไม่ได้”
เจ้าแมวดำตาสองสีส่งสายตาอ้อนวอนน้ำตาปริ่มๆ
“อย่าร้องน้า โอ๋ๆ”เมื่อเจอน้ำตาของแมวน้อยมีหรือเธอจะทนได้ จึงกอดมันกับอกอิ่ม
กาอาระมองเจ้าแมวที่ซุกอกอิ่มของหญิงสาว”เจ้าชู้นะเนี่ย เจ้าเหมียว”
ซากุระยิ้มก่อนจะจับเจ้าแมวน้อยนอนหงายและเช็คเพศ “ตัวผู้ซะด้วย ไข่ใหญ่จัง ”มือบางจับไข่แมวเล่นอย่างสนุก”นิ่มๆ”มืออีกข้างวางกล่องเกี๊ยวซ่าข้างตัวและจับเท้าหน้าของเจ้าเหมียวไว้ เท้านุ่มๆของเจ้าเหมียวพยายามดิ้น ร้องแง้วๆตลอด
เท็นเท็นพูดไม่ออกกับการกระทำของเพื่อนสาวที่กำลังแกล้งแมวอย่างสนุก โดยเจ้าแมวพยายามดิ้นจนต้องวิ่งหนีไป
“ดีแล้วที่ไปสักที หิวข้าวแล้ว ไม่รู้ซามุยไปตามหาซาสึเกะที่ไหน ตาคนนั้นเนี่ยนิสัยแย่จริงๆ”
...
เจ้าแมวดำตาสองสีวิ่งไปที่ซอกตึก เมื่อไม่เห็นใครก็คืนร่าง เป็นหนุ่มผ้าคลุมดำ เค้ารู้สึกเจ็บน้องชายจนต้องกุมเป้าเพื่อคลายความเจ็บที่ยัยตัวร้ายจับเล่น...นี่ไข่แมวเป็นของเล่นรึไง จับซะแรง...
“ยัยแสบ...แต่หน้าอกนิ่มมาก...”เค้านึกถึงตอนที่เธอกอดแนบอกอิ่มที่ใหญ่เกินตัว ดีที่เค้าร่วมมือกับคาโอรุเอาผ้ารัดมหาประลัยนั่นไปเผาทิ้ง แต่ก็แอบอิจฉาที่คาโอรุมักจะนอนห้องเดียวกับซากุระเสมอๆ แม้จะยี่สิบก็ยังนอนห้องเดียวกัน เค้าเคยนอนกับเธอสมัยเป็นเกะนิน เธอมักจะนอนข้างๆคาคาชิเพราะเป็นเด็กผู้หญิง ถัดจากเธอคือเค้า ในยามหลับเธอดูน่ามอง...หลายครั้งที่เค้าแอบมองใบหน้ายามหลับของเธอจนผล๊อยหลับไป
บางที ถ้าเธอไว้ผมยาวก็คงจะดูดีไม่ใช่น้อย
“คุณซาสึเกะ อยู่นี่เอง ทำอะไรขอรับ”
“เอ่อ...”
ซามุยมองดูซาสึเกะที่กุมเป้า “อยากเข้าห้องน้ำทำไมไม่บอกขอรับ ตามผมมา ห้องน้ำอยู่ไม่ไกล”
ชายหนุ่มตามไปอย่างช่วยไม่ได้ เออ ดีที่ให้มันเข้าใจแบบนั้น ไม่งั้นเรื่องที่เค้าแปลงร่างเป็นแมวดำแตก เธอคงจะอัดเค้าเป็นเป็ดป่นไม่มีชิ้นดีแน่ เค้ามั่นใจ
...
เมื่อสมาชิกทุกคนมารวมกันพร้อมหน้า ปรากฏว่าเวลาเที่ยงแล้ว ซากุระยิ้มร่า “ไปหาอะไรกินไหม ชั้นรู้จักร้านอร่อยๆนะ”
งานนี้เท็นเท็นกระดี๊กระด๊าเมื่อเพื่อนสาวพามาร้านอาหารจีนร้านหนึ่งที่มีคนนั่งกินอาหารแน่น เพราะอาหารอร่อยราคาไม่แพง กลิ่นหอมๆภายในร้านช่างยั่วน้ำลาย
“มื้อนี้ชั้นเลี้ยงเอง”
กาอาระรีบปฏิเสธเพราะเกรงใจ”อย่าเลย เกรงใจ ชั้นเลี้ยงเองดีกว่า”
ซาสึเกะแย้ง”ชั้นเลี้ยงเอง”
ลี”ผมเลี้ยงเอง”
เท็นเท็นเสนอ”หารกันดีกว่า”...แต่ละคน โชว์ป๋ามาก...
ซากุระหยิบเมนูมาดู ก่อนจะสั่งรายการ “เอามาโบโทฟุ เป็ดปักกิ่ง นะ”
เท็นเท็น”ซุปหูฉลาม ปอเปี๊ยะทั้งแบบคาวและหวาน”
กาอาระ”ลิ้นวัวตุ๋นยาจีน กุ้งผัดซอส”
ซาสึเกะ”เสี่ยวหลงเปา มะเขือเทศผัดไข่”
ลี”ขอชุดติ่มซำและก็หม้อไฟหม่าล่าแบบเผ็ดพิเศษครับ”
ซามุย “ผมขอ เกี๊ยวน้ำและไก่สามรสก็แล้วกัน”
ซากุระทำสีหน้าไม่สู้ดี เพราะไม่ชอบของเผ็ดจัด ถึงจะเป็นทหารองครักษ์ที่ถูกฝึกให้กินง่ายอยู่ง่าย ถ้าต้องกินของเผ็ดมากก็รับไม่ไหว แต่ทำเป็นไม่สนใจ สั่งของหวาน “ของหวานขอเป็นเต้าฮวยฟรุ๊ตตี้นะคะ”
เท็นเท็น”ขอแบบเดียวกันค่า”
พนักงานสาวสวยยิ้มรับ”ค่า รอสักครู่”
ไม่ช้า อาหารที่สั่งก็มาเกือบหมด เหลือแต่ของลีคือ หม้อไฟหม่าล่าเผ็ดพิเศษ
“กินกันเถอะ”
ทุกคนต่างเลือกกินของที่ชอบ
และแล้วหม้อไฟหม่าล่าเผ็ดพิเศษก็มาถึง ลีตักใส่ถ้วยกินทันที
“อร่อย เผ็ดแบบนี้แหละ ทุกคนลองกินดูสิครับ”
ซากุระจัดการออกตัวก่อนทันที “ขอโทษนะคะคุณลี กระเพราะชั้นรับของเผ็ดไม่ไหว”
นินจาคิ้วเหลี่ยมคอตกเมื่อโดนปฏิเสธ
ซามุยชิ่งบ้าง”ผมเองก็เช่นกัน หมอสั่งห้ามกินอาหารเผ็ดจัด”
เท็นเท็นส่ายหน้า...ทึ่มจริงๆลี ของเผ็ดพิเศษแบบนั้นใครจะกินลง...
ลีจำใจต้องกินหม่าล่าสุดเผ็นอยู่คนเดียว
“อ้าว อาเบนิ ลื้อยังไม่กลับบ้านรึ?”
“ไงริวโอ”
ตำรวจหนุ่มขมวดคิ้ว“ไม่ต้องมาไงเลยน่อ อ้าว เจอกังอีกเลี้ยวคุณผู้หญิง”
เท็นเท็นแนะนำตัว”เท็นเท็นค่ะ”
“ผมริวโอ หัวหน้าตำรวจหน่วยที่1 ยินลีที่ล่ายรู้จัก”
ซากุระเลิกคิ้วสงสัย “ทั้งสองคนรู้จักตั้งแต่เมื่อไหร่เนี่ย”
เท็นเท็นหน้าขึ้นสีระเรื่อนิดๆ”ก็ ตำรวจคนนี้ช่วยไม่ให้ของหล่นใส่ชั้นน่ะ”
“เหรอ ขอบใจนายนะริวโอ”
“ไม่เป็นไรน่อ”
“กินข้าวยังเนี่ย”
“กิงเลี้ยว ลื้อเองกิงเสดก็กลับบ้านไปนอนเลยนะ”
“ห๋า?”
“ลื้อน่ะเพิ่งได้นอนตอนตีสองไม่ใช่รึ?”
“แล้วไง วันนี้ชั้นหยุดนะ กะจะไปเดินเทศกาลขนมหวานต่อ”
“ห่วงสุขภาพมั่ง ลื้อโหมงานหนักเกินไปเลี้ยว”
“จ้าๆ จะออกเวรเมื่อไหร่เนี่ย”
“บ่ายสอง เจอกันที่งานเทศกาลน่อ”
ตำรวจหนุ่มเดินออกจากร้านไป...
เท็นเท็นมองตามหลัง”ริวโอคุง ดูแข็งแรงจังเลยนะ”
“จริงค่ะ คุณเท็นเท็น ถึงหน้าไม่ฉลาดแต่สัญชาตญาณดีมาก จับคนร้ายเข้าคุกเยอะแล้วนะ”
เท็นเท็น”เค้าชอบขนมหวานเหรอ”
“หมอนั่นชอบ ขนมไหว้พระจันทร์รสช็อกโกแลตนะ วันนี้ชั้นว่าจะไปหาซื้อช็อกโกแลตแคทสักหน่อย”
“อันนั้นอร่อยมากเลยเหรอ”
“ใช่ๆ มีหลายรสชิ้นใหญ่ ช็อกโกแลต70%ไม่อ้วนด้วย”
สองสาวเริ่มเม้าส์มอยอย่างสนุก
สี่หนุ่มนั่งกินอย่างเงียบๆ...แทรกไม่ได้เลยแฮะ...
เม้นบ้างนะจ๊ะ
คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
10 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
10 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
10 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ