Fic naruto ภาค พายุโลหิต
10.0
เขียนโดย นิกซ์
วันที่ 21 พฤศจิกายน พ.ศ. 2560 เวลา 15.23 น.
33 ตอน
12 วิจารณ์
54.28K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 23 พฤศจิกายน พ.ศ. 2560 16.43 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น
2) บทที่ 2 ประกาศจับอันตราย
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความซากุระถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลในทันที และตรวจพบว่ากระดูกสันหลังช่วงเอวเกิดร้าวและกระดูกคอเดาะ ทำให้เจ้าตัวต้องพักรักษาตัวที่อื่น ซึ่งเป็นโรงพยาบาลเฉพาะทาง
ทำเอาซึนาเดะและคาคาชิ รู้สึกแปลกใจที่ซากุระมีประวัติการรักษาเกี่ยวกับกระดูกสันหลังที่อื่น
คาคาชินำประวัติของซากุระมาดู ก็พบว่า มันมีจุดน่าสงสัยหลายอย่าง ทั้งการที่เธอลาออกจากโรงเรียนนินจาไปตอน5ขวบและกลับมาเรียนในตอนอายุ11จะ12 แถมยังจบทันเพื่อนรุ่นเดียวกันอีก
“คลุมเครือเกินไป เราไม่ได้สังเกตเลยแฮะ”คาคาชินำแฟ้มประวัติของลูกศิษย์สาวออกมาดู ในตอนนี้ในห้องมีแต่ตัวเค้าเท่านั้น
“คงจะป่วยล่ะมั้ง ไม่มีอะไรน่ากังวล”...แต่ทำไมเรากลับรู้สึกกังวลล่ะ...
อีกด้าน
ร้านเหล้าในยามค่ำที่ห่างจากแคว้นฮิโนะคุนิ เป็นสถานที่รวมตัวของชายฉกรรจ์มากหน้าหลายตา
วันนี้อุจิวะ ซาสึเกะ ได้มานั่งพักดื่ม อย่างเงียบๆที่เคาน์เตอร์ ข้างๆมีพวกนักล่าค่าหัวนั่งรอเครื่องดื่มอยู่
“พี่ชาย พอจะรู้จักพวกที่มีค่าหัวสูงๆประมาณยี่สิบล้านอัพบ้างไหม”
เจ้าของร้านที่กำลังชงเหล้าหันมามอง “แกคิดว่า แกเจ๋งพอรึ?”
“เออ สิวะ ถ้าไม่เจ๋งชั้นจะกล้ารึ”
ปึก
แผ่นประกาศจับถูกวางไว้ที่เคาน์เตอร์
“โอ้โห้ ไอ้เด็กสี่คนนี่น่ะเหรอ ตั้งค่าหัวคนละ ยี่สิบห้าล้านเรียว!”
งานนี้ทำเอาคนทั้งร้านหันมามองตาเป็นตาเดียว
นักล่าค่าหัวเลิกคิ้ว เมื่อประกาศจับ ”หมายความว่ายังไง ที่ต้องจับเป็นถ้าจับได้แค่คนเดียว ถ้าจับตายต้องจับมาให้หมดสี่คนน่ะ ยุ่งยากชะมัดเลย ไอ้เด็กพวกนี้ อายุน่าจะเพิ่งยี่สิบนะ โดยเฉพาะฝาแฝดหัวชมพูนี่ พวกมันเป็นใครกันล่ะ ในประกาศไม่เห็นบอกเลยนิ รู้แต่ว่ามันเป็นกบฏ เด็กแบบนี้จะทำอะไรได้”
เจ้าของร้าน ส่งเหล้าให้ซาสึเกะ”สนใจจะฟังด้วยก็ได้นะ ไอ้หนู น่าสนใจดี”
ซาสึเกะรับแก้วเหล้ามาดื่มเงียบๆ
“เด็กพวกนี้ คือตัวแสบแห่ง แคว้นเอโดะ เริ่มจากเจ้านี่เลยก็แล้วกัน”เจ้าของร้านชี้ไปที่รูปของเด็กหนุ่มผิวสีแทน ผมสีน้ำตาลเข้ม ตาเรียวสีดำ หน้าตาออกไปทางเชื้อสายจีน “เจ้านี่ คือ ริวโอ หัวหน้าตำรวจของแคว้นเอโดะ เรียกว่าไอ้บ้าจอมพลัง พละกำลังมันก็จอมพลังสมชื่อ กำลังมากกว่าคนธรรมดาร้อยเท่า ส่วนเจ้านี่คือ เรม ฉายา ลูแปงพันหน้า หัวหน้าหน่วยสืบสวนของแคว้น เอโดะเป็นนักสืบที่เก่งกว่านินจาซะอีก เคยได้ยินว่า ไอ้เด็กผีนี่เคยไปขโมยข้อมูลของหน่วยลับของพวกนินจามา ขนาดไปขโมยข้อมูลฉ่อโกงของที่ปรึกษาแคว้นคุโมะงากุเระ เมื่อปีก่อน ทำให้แคว้นนั้นเกิดปัญหาความวุ่นวายเพราะ แคว้นเอโดะ เข้ามาจัดการเอง ก็เพราะฝีมือไอ้เรม ไอ้ลูแปงพันหน้านี่แหละ ”
นักล่าค่าหัวเอ่ยขัด”บ้ารึเปล่า พวกนินจาเองก็ยังจะทำลำบากเลยนะ แล้วอย่างไอ้เด็กนี่”
“ใช่ “
ซาสึเกะทั่งเงียบมาตั้งแต่แรกมองไปที่ใบประกาศจับ ก็เห็นว่าเรม หรือลูแปงพันหน้า นั้น เป็นเด็กหนุ่มรุ่นราวคราวเดียวกับเค้า ที่มีใบหน้าหล่อเหลาคมคาย มีผมสีเงิน ผิวขาวซีด ตาสีดำ แต่ที่สะดุดตาเค้ามากที่สุดนั้น
“สองคนนี้คือ”
“อ๋อ ไอ้หนู เธอเองก็สนใจเหรอ ไอ้เจ้านี่มัน คือ บันไซ หัวหน้าองครักษ์ หน่วยที่1 กองกำลังรักษาการ แคว้นเอโดะ เป็นอัจฉริยะด้านการฟันดาบ เรียกได้ว่าเป็นปีศาจสุดแสบที่โคตรเกรียนเลยก็ว่าได้ ฉายาเทพสงคราม ส่วนนังเด็กผีนี่ คือเบนิ มีความฉลาดเป็นกรด ราวกับว่าเป็นเทวดาและผีในร่างเดียวกัน เป็นเหมือนขงเบ้งกลับชาติมาเกิด แถมขึ้นชื่อว่าโหดสุดๆด้วย จำได้ว่า มันก็ตายไปตั้งนานแล้วนี่หว่า ทำไมมีประกาศจับเบนิได้ล่ะเนี่ย”
ชายคนหนึ่งเอ่ยขึ้นมาลอยๆ”สงครามกลางเมืองที่แคว้นเอโดะ เค้าลือกันว่า เบนิเป็นคนวางแผนระงับสงครามกลางเมือง จากนั้นมาก็มีคนส่งข่าวบอกมาว่าเบนิยังมีชีวิตอยู่น่ะสิ คนในแคว้นเองก็เริ่มเชื่อ แล้วทีนี้ไอ้ขุนนางบางคน คิดว่าหากจัดการสามคนนั้นแล้ว เบนิจะต้องกลับมาล้างแค้นแน่นอน ก็เลยประกาศจับให้หมดในฐานะกบฏ ยังไงล่ะ”
“โอ้ว พี่ชายรู้ดีจัง”
“ชั้นมาจากแคว้นนั้นนี่นา พวกแก ถ้าจะล่าไอ้เด็กนรกสี่คนนั่นล่ะก็ ดูเงาหัวตัวเองก่อนเถอะ ไม่ได้ว่านะ พวกนั้นขึ้นชื่อเรื่องโหดอำมหิต เพราะชั้นเคยเจอไอ้เด็กพวกนั้นมาแล้ว ถ้าพวกนั้นตั้งใจจะฆ่าล่ะก็ ต่อให้อ้อนวอนยังไง ก็ไม่รอด โดยเฉพาะ เจ้าบันไซ น่ะ ฝีมือดาบเก่งราวกับเพชฌฆาต จะบอกไว้เอาบุญนะเพราะฝีมือดาบของเพชฌฆาตไม่เหมือนกับพวกซามูไร ไอ้พวกนี้สามารถตัดหัวเหยื่อได้โดยที่เหยื่อไม่รู้สึกตัว”
นักล่าค่าหัวร้องถาม “จริงเหรอ พี่ชายเคยพบด้วยเหรอ”
“เออ แต่นั่นมันตั้งนานแล้ว ตั้งหกเจ็ดปีก่อน ตอนที่เบนิยังมีชีวิตอยู่น่ะ”
อุจิวะหนุ่มเลิกคิ้วสงสัย เพราะดูจากลักษณะแล้ว คนที่ชื่อเบนิ และ บันไซ เหมือนกับเธอคนนั้นมากราวกับคนๆเดียวกัน จะต่างกันก็ตรงที่ คนที่ชื่อบันไซมีตาสีฟ้า คมกล้าสมชาย แต่ลักษณะของเบนิ มีตาสีมรกตสวยเหมือนกัน ถึงของเบนิจะเป็นรูปวาด เพราะไม่มีรูปปัจจุบัน
“ชั้นขอใบประกาศจับ พวกนี้นะ”
ซาสึเกะหยิบใบประกาศจับมาแต่นักล่าค่าหัวนั้นกลับคว้าแขนของเค้าเอาไว้
“เฮ้ย! ไอ้พวกนี้มันเหยื่อของชั้นโว้ย”
“ปล่อย”
“ห๋า?”
“โครม!”ร่างอันเทอะทะของนักล่าค่าหัวก็กระเด็นไปชนกับโต๊ะที่วางเรียงรายจนล้มระเนระนาด
ซาสึเกะนำเงินจำนวนหนึ่งมาชดใช้ค่าเสียหาย แก่เจ้าของร้านที่ยืนอึ้งๆ”ขอโทษด้วย ที่ทำของพัง ขอตัวก่อน”
ชายชราที่มาจากแคว้นเอโดะร้องเรียก”เดี๋ยว ไอ้หนุ่ม เธอจะตามล่าพวกเค้าเหรอ”
ซาสึเกะไม่สนใจ เค้ารีบออกไปจากร้านเหล้าด้วยความเร็ว
ชายชราทำได้แต่บ่น”รนหาที่จริงๆ”
เจ้าของร้านที่กำลังนับเงินอยู่นั้นหันมาถาม”ไอ้เด็กพวกนั้นมันร้ายขนาดนั้นเลยเหรอ”
“ก็ใช่น่ะสิ ถ้าไม่ร้าย ถ้าไม่เก่ง ค่าหัวจะสูง รึ? ขอตัวก่อนนะ”ว่าแล้วชายชราก็วางเงินสำหรับค่าเหล้าแล้วจากไป
ซาสึเกะเริ่มรู้สึกห่วง…ห่วงเธอคนนั้นเหลือเกิน ทั้งๆที่เรื่องนี้มันไม่เกี่ยวนินจาเลยสักนิด แต่ทำไม เค้ากลับรู้สึกว่าเรื่องนี้มันต้องเกี่ยวกับเธอ
พอดี นิกซ์อยากลองเเต่ง ภาคหลัง the last โดยเอาซามูไรมาผสมๆ ดูน่ะค่ะ ภาคนี้จะเป็นภาคซากุระเลย อ่านให้สนุกนะคะ ช่วยเม้นให้คะแนนด้วยล่ะ
ทำเอาซึนาเดะและคาคาชิ รู้สึกแปลกใจที่ซากุระมีประวัติการรักษาเกี่ยวกับกระดูกสันหลังที่อื่น
คาคาชินำประวัติของซากุระมาดู ก็พบว่า มันมีจุดน่าสงสัยหลายอย่าง ทั้งการที่เธอลาออกจากโรงเรียนนินจาไปตอน5ขวบและกลับมาเรียนในตอนอายุ11จะ12 แถมยังจบทันเพื่อนรุ่นเดียวกันอีก
“คลุมเครือเกินไป เราไม่ได้สังเกตเลยแฮะ”คาคาชินำแฟ้มประวัติของลูกศิษย์สาวออกมาดู ในตอนนี้ในห้องมีแต่ตัวเค้าเท่านั้น
“คงจะป่วยล่ะมั้ง ไม่มีอะไรน่ากังวล”...แต่ทำไมเรากลับรู้สึกกังวลล่ะ...
อีกด้าน
ร้านเหล้าในยามค่ำที่ห่างจากแคว้นฮิโนะคุนิ เป็นสถานที่รวมตัวของชายฉกรรจ์มากหน้าหลายตา
วันนี้อุจิวะ ซาสึเกะ ได้มานั่งพักดื่ม อย่างเงียบๆที่เคาน์เตอร์ ข้างๆมีพวกนักล่าค่าหัวนั่งรอเครื่องดื่มอยู่
“พี่ชาย พอจะรู้จักพวกที่มีค่าหัวสูงๆประมาณยี่สิบล้านอัพบ้างไหม”
เจ้าของร้านที่กำลังชงเหล้าหันมามอง “แกคิดว่า แกเจ๋งพอรึ?”
“เออ สิวะ ถ้าไม่เจ๋งชั้นจะกล้ารึ”
ปึก
แผ่นประกาศจับถูกวางไว้ที่เคาน์เตอร์
“โอ้โห้ ไอ้เด็กสี่คนนี่น่ะเหรอ ตั้งค่าหัวคนละ ยี่สิบห้าล้านเรียว!”
งานนี้ทำเอาคนทั้งร้านหันมามองตาเป็นตาเดียว
นักล่าค่าหัวเลิกคิ้ว เมื่อประกาศจับ ”หมายความว่ายังไง ที่ต้องจับเป็นถ้าจับได้แค่คนเดียว ถ้าจับตายต้องจับมาให้หมดสี่คนน่ะ ยุ่งยากชะมัดเลย ไอ้เด็กพวกนี้ อายุน่าจะเพิ่งยี่สิบนะ โดยเฉพาะฝาแฝดหัวชมพูนี่ พวกมันเป็นใครกันล่ะ ในประกาศไม่เห็นบอกเลยนิ รู้แต่ว่ามันเป็นกบฏ เด็กแบบนี้จะทำอะไรได้”
เจ้าของร้าน ส่งเหล้าให้ซาสึเกะ”สนใจจะฟังด้วยก็ได้นะ ไอ้หนู น่าสนใจดี”
ซาสึเกะรับแก้วเหล้ามาดื่มเงียบๆ
“เด็กพวกนี้ คือตัวแสบแห่ง แคว้นเอโดะ เริ่มจากเจ้านี่เลยก็แล้วกัน”เจ้าของร้านชี้ไปที่รูปของเด็กหนุ่มผิวสีแทน ผมสีน้ำตาลเข้ม ตาเรียวสีดำ หน้าตาออกไปทางเชื้อสายจีน “เจ้านี่ คือ ริวโอ หัวหน้าตำรวจของแคว้นเอโดะ เรียกว่าไอ้บ้าจอมพลัง พละกำลังมันก็จอมพลังสมชื่อ กำลังมากกว่าคนธรรมดาร้อยเท่า ส่วนเจ้านี่คือ เรม ฉายา ลูแปงพันหน้า หัวหน้าหน่วยสืบสวนของแคว้น เอโดะเป็นนักสืบที่เก่งกว่านินจาซะอีก เคยได้ยินว่า ไอ้เด็กผีนี่เคยไปขโมยข้อมูลของหน่วยลับของพวกนินจามา ขนาดไปขโมยข้อมูลฉ่อโกงของที่ปรึกษาแคว้นคุโมะงากุเระ เมื่อปีก่อน ทำให้แคว้นนั้นเกิดปัญหาความวุ่นวายเพราะ แคว้นเอโดะ เข้ามาจัดการเอง ก็เพราะฝีมือไอ้เรม ไอ้ลูแปงพันหน้านี่แหละ ”
นักล่าค่าหัวเอ่ยขัด”บ้ารึเปล่า พวกนินจาเองก็ยังจะทำลำบากเลยนะ แล้วอย่างไอ้เด็กนี่”
“ใช่ “
ซาสึเกะทั่งเงียบมาตั้งแต่แรกมองไปที่ใบประกาศจับ ก็เห็นว่าเรม หรือลูแปงพันหน้า นั้น เป็นเด็กหนุ่มรุ่นราวคราวเดียวกับเค้า ที่มีใบหน้าหล่อเหลาคมคาย มีผมสีเงิน ผิวขาวซีด ตาสีดำ แต่ที่สะดุดตาเค้ามากที่สุดนั้น
“สองคนนี้คือ”
“อ๋อ ไอ้หนู เธอเองก็สนใจเหรอ ไอ้เจ้านี่มัน คือ บันไซ หัวหน้าองครักษ์ หน่วยที่1 กองกำลังรักษาการ แคว้นเอโดะ เป็นอัจฉริยะด้านการฟันดาบ เรียกได้ว่าเป็นปีศาจสุดแสบที่โคตรเกรียนเลยก็ว่าได้ ฉายาเทพสงคราม ส่วนนังเด็กผีนี่ คือเบนิ มีความฉลาดเป็นกรด ราวกับว่าเป็นเทวดาและผีในร่างเดียวกัน เป็นเหมือนขงเบ้งกลับชาติมาเกิด แถมขึ้นชื่อว่าโหดสุดๆด้วย จำได้ว่า มันก็ตายไปตั้งนานแล้วนี่หว่า ทำไมมีประกาศจับเบนิได้ล่ะเนี่ย”
ชายคนหนึ่งเอ่ยขึ้นมาลอยๆ”สงครามกลางเมืองที่แคว้นเอโดะ เค้าลือกันว่า เบนิเป็นคนวางแผนระงับสงครามกลางเมือง จากนั้นมาก็มีคนส่งข่าวบอกมาว่าเบนิยังมีชีวิตอยู่น่ะสิ คนในแคว้นเองก็เริ่มเชื่อ แล้วทีนี้ไอ้ขุนนางบางคน คิดว่าหากจัดการสามคนนั้นแล้ว เบนิจะต้องกลับมาล้างแค้นแน่นอน ก็เลยประกาศจับให้หมดในฐานะกบฏ ยังไงล่ะ”
“โอ้ว พี่ชายรู้ดีจัง”
“ชั้นมาจากแคว้นนั้นนี่นา พวกแก ถ้าจะล่าไอ้เด็กนรกสี่คนนั่นล่ะก็ ดูเงาหัวตัวเองก่อนเถอะ ไม่ได้ว่านะ พวกนั้นขึ้นชื่อเรื่องโหดอำมหิต เพราะชั้นเคยเจอไอ้เด็กพวกนั้นมาแล้ว ถ้าพวกนั้นตั้งใจจะฆ่าล่ะก็ ต่อให้อ้อนวอนยังไง ก็ไม่รอด โดยเฉพาะ เจ้าบันไซ น่ะ ฝีมือดาบเก่งราวกับเพชฌฆาต จะบอกไว้เอาบุญนะเพราะฝีมือดาบของเพชฌฆาตไม่เหมือนกับพวกซามูไร ไอ้พวกนี้สามารถตัดหัวเหยื่อได้โดยที่เหยื่อไม่รู้สึกตัว”
นักล่าค่าหัวร้องถาม “จริงเหรอ พี่ชายเคยพบด้วยเหรอ”
“เออ แต่นั่นมันตั้งนานแล้ว ตั้งหกเจ็ดปีก่อน ตอนที่เบนิยังมีชีวิตอยู่น่ะ”
อุจิวะหนุ่มเลิกคิ้วสงสัย เพราะดูจากลักษณะแล้ว คนที่ชื่อเบนิ และ บันไซ เหมือนกับเธอคนนั้นมากราวกับคนๆเดียวกัน จะต่างกันก็ตรงที่ คนที่ชื่อบันไซมีตาสีฟ้า คมกล้าสมชาย แต่ลักษณะของเบนิ มีตาสีมรกตสวยเหมือนกัน ถึงของเบนิจะเป็นรูปวาด เพราะไม่มีรูปปัจจุบัน
“ชั้นขอใบประกาศจับ พวกนี้นะ”
ซาสึเกะหยิบใบประกาศจับมาแต่นักล่าค่าหัวนั้นกลับคว้าแขนของเค้าเอาไว้
“เฮ้ย! ไอ้พวกนี้มันเหยื่อของชั้นโว้ย”
“ปล่อย”
“ห๋า?”
“โครม!”ร่างอันเทอะทะของนักล่าค่าหัวก็กระเด็นไปชนกับโต๊ะที่วางเรียงรายจนล้มระเนระนาด
ซาสึเกะนำเงินจำนวนหนึ่งมาชดใช้ค่าเสียหาย แก่เจ้าของร้านที่ยืนอึ้งๆ”ขอโทษด้วย ที่ทำของพัง ขอตัวก่อน”
ชายชราที่มาจากแคว้นเอโดะร้องเรียก”เดี๋ยว ไอ้หนุ่ม เธอจะตามล่าพวกเค้าเหรอ”
ซาสึเกะไม่สนใจ เค้ารีบออกไปจากร้านเหล้าด้วยความเร็ว
ชายชราทำได้แต่บ่น”รนหาที่จริงๆ”
เจ้าของร้านที่กำลังนับเงินอยู่นั้นหันมาถาม”ไอ้เด็กพวกนั้นมันร้ายขนาดนั้นเลยเหรอ”
“ก็ใช่น่ะสิ ถ้าไม่ร้าย ถ้าไม่เก่ง ค่าหัวจะสูง รึ? ขอตัวก่อนนะ”ว่าแล้วชายชราก็วางเงินสำหรับค่าเหล้าแล้วจากไป
ซาสึเกะเริ่มรู้สึกห่วง…ห่วงเธอคนนั้นเหลือเกิน ทั้งๆที่เรื่องนี้มันไม่เกี่ยวนินจาเลยสักนิด แต่ทำไม เค้ากลับรู้สึกว่าเรื่องนี้มันต้องเกี่ยวกับเธอ
พอดี นิกซ์อยากลองเเต่ง ภาคหลัง the last โดยเอาซามูไรมาผสมๆ ดูน่ะค่ะ ภาคนี้จะเป็นภาคซากุระเลย อ่านให้สนุกนะคะ ช่วยเม้นให้คะแนนด้วยล่ะ
คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
10 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
10 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
10 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ