{Fic Naruto} Behind The Scene Konoha Love Story
-
เขียนโดย LadyTyrell
วันที่ 6 ตุลาคม พ.ศ. 2560 เวลา 00.59 น.
26 ตอน
0 วิจารณ์
25.74K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 6 ตุลาคม พ.ศ. 2560 02.14 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น
5) ภา(ระ)กิจที่แสนจะง่ายและความหลังในวัยเด็ก
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ ร่างกายยังคงรู้สึกว่านอนได้ไม่เต็มอิ่มแต่ว่าจิตใต้สำนึกก็บังคับให้เจ้าของร่างตื่นขึ้นมาด้วยความรวดเร็วเพราะวันนี้เธอนัดกับเพื่อนสนิทสาวอีกคนไปเดินช็อปปิง
“ไม่น่าเชื่อเลยแฮะว่าท่านหญิงจะรีบตื่นเช้าซะขนาดนี้” ผู้คนในตระกูลที่กำลังกวาดลานบ้านต่างพากันซุบซิบเมื่อเห็นว่าผู้นำตระกูลสาวเดินออกจากรั้วบ้านไปด้วยความเร่งรีบ
“ให้ตายสิว่าแล้วเชียว!” ยังไม่ทันจะก้าวพ้นเขตบ้านหญิงสาวก็นึกขึ้นได้ว่าลืมบางสิ่งบางอย่างที่สำคัญไป เธอจึงรีบวิ่งกลับเข้าไปในบ้านทันทีพร้อมกับรีบกอบโกยเครื่องสำอางทั้งหลายลงในกระเป๋าใส่อาวุธ
อายากะเดินออกจากบ้านอีกครั้ง เธอผ่อนฝีเท้าให้สม่ำเสมอเผื่อเวลาที่เดินไปด้วยแต่งหน้าไปด้วยจะได้ไม่เลอะเทอะจนดูน่าเกลียด
“หยุดนะเจ้าพวกเด็กบ้า!” เสียงทุ้มของชายหนุ่มในชุดจูนินตะโกนไล่ตามเด็กสามคนด้วยความดังแต่ถึงอย่างนั้นมันก็ไม่ได้เข้าไปกระทบโสตประสาทของอายากะเลยสักนิดเดียวเพราะเธอกำลังจดจ่ออยู่กับการแต่งหน้า
“อ๊ะ...ระวังนะครับ!” จูนินหนุ่มตะโกนเตือนแต่โจนินสาวที่กำลังแต่งหน้าอย่างขะมักขเม้นก็ไม่ได้ยินเสียงของเขา
โครม! เด็กทั้งสามคนล้มระเนระนาดกองกันอยู่ตรงหน้าของอายากะ หญิงสาวเพิ่งจะสำนึกได้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับตัวเอง
“ให้ตายสิ คิ้วฉัน! เจ้าพวกเด็กบ้ามาวิ่งเล่นหาพระแสงอะไรกันตอนนี้ยะ เห็นมั้ยว่าคิ้วฉันเลอะไปหมดแล้ว!”
“อ้าวป้า นี่มันถนนสาธารณะนะนี่ พวกเราจะวิ่งกันยังไงก็ได้!” เด็กชายผมสีน้ำตาลเข้มที่สวมผ้าพันคอสีน้ำเงินลุกขึ้นมาเถียงอายากะแทบจะทันที
“นี่โคโนฮะมารุจัง อย่าพูดแบบนั้นสิ!” เด็กหญิงผมสีส้มเอ่ยขึ้นด้วยความหวาดกลัวกับท่าทางของโจนินสาว
“หน็อยนี่กล้าเรียกฉันว่าป้างั้นเหรอยะ!”
“ก็ใช่นะเซ่ หรือจะให้เรียกว่าคุณยายกันล่ะ?”
“ฉัน-จะ-ไม่-ทน-แล้ว-นะ เด็กก็เด็กเถอะ ขอแจกบาทากระทืบมารให้สำนึกซะบ้าง!” ขณะที่กำลังเตรียมตัวจะแจกบาทากระทืบมารให้กับเด็กชายผู้กวนประสาทนั้นก็มีคนพุ่งเข้ามาขวางไว้เสียก่อน
“แหะ ๆ คือว่าใจเย็น ๆ ก่อนนะครับ ผมเป็นครูของเจ้าพวกนี้เอง พอดีว่าสามคนนี้หนีเรียนมาน่ะครับ” ชายหนุ่มผิวสีแทนที่มีแผลเป็นคาดยาวตรงจมูกรีบส่งยิ้มเป็นการขอโทษขอโพยแทบจะทันที
“เดี๋ยวนะ...นี่นาย อิรุกะนี่นา! ไม่เจอกันนานเลยนะเนี่ย”
“เอ๋...อายากะเองหรอกเหรอ เป็นยังไงบ้างล่ะสบายดีไหม?”
ขณะนั้นเองที่โจนินสาวและจูนินหนุ่มกำลังเปิดหัวข้อสนทนาระลึกชาติถึงกันและกันก็เป็นโอกาสอันงามของเด็กนินจาอคาเดมี่ทั้งสามคนที่จะหาทางหลบหนีชั้นเรียน
“จะไปไหนยะ! คิดว่าฉันจะยอมง่าย ๆ หรือไง” หญิงสาวรีบคว้าตัวโคโนฮะมารุไว้ทันที
“ปล่อยผมเดี๋ยวนี้นะป้า! ปล่อยเซ่” เด็กชายพยายามดิ้นอย่างแรงเพื่อที่จะให้ตัวเองหลุดพ้นจากพันธนาการ
“ปล่อยเธอไปก็ไปเล่นซนอีกน่ะสิ กลับไปกับครูอิรุกะแล้วไปเข้าชั้นเรียนซะ ฉันจะถือว่าเรื่องที่พวกเธอทำคิ้วฉันเลอะนั้นเป็นแค่ฝันร้าย!”
“โคโนฮะมารุจังเรากลับไปกับครูอิรุกะกันเถอะ” โมเอกิรีบเสริมทัพแทบจะทันที ถ้าหากว่าโคโนฮะมารุยังคงดึงดันต่อไปล่ะก็พวกเธอคงต้องเจอบาทากระทืบมารของโจนินสาวคนนี้แน่ ๆ
“ใช่ครับผมก็เห็นด้วย” อูดงพยายามสูดน้ำมูกอย่างหนักหน่วงพร้อมกับพยักหน้าเห็นด้วยกับโมเอกิ
“เออก็ได้ ทีนี้ก็ปล่อยผมซะสิปะ...เอ้อ ปล่อยผมสิคร้าบพี่สาวคนสวย”
“ฉันขอตัวก่อนนะอายากะไว้เจอกันอีกนะ” อิรุกะรีบดึงตัวลูกศิษย์ตัวแสบอย่างโคโนฮะมารุกลับไปยังโรงเรียนแทบจะทันที ถ้าเขาตามมาไม่ทันล่ะก็เจ้าพวกนี้คงโดนบาทากระทืบมารของอายากะซัดไปแล้วแน่ ๆ เลย คิดแล้วก็อดที่จะสยองไม่ได้ เขาคนนึงล่ะที่จะไม่มีวันทำให้หล่อนโมโห
“เจ้าเด็กพวกนี้นี่ คิ้วฉันเลอะหมดซะแล้วให้ตายสิ” รีบควานหากระจกขึ้นมาส่องและรีบลบคิ้วที่เลอะด้วยความรวดเร็ว ถ้าหากว่าใครมาเห็นท่านหญิงอายากะในสภาพนี้ล่ะก็คงจะถูกนำไปล้อเลียนเป็นชาติแน่ ๆ
“ไงจ๊ะยูกิ โทษทีนะที่มาช้าเจอพวกเด็กบ้าก่อกวนนิดหน่อยน่ะ” ยิ้มกว้างพร้อมกับเข้าไปกอดเพื่อนสนิทสาวแทบจะทันทีเมื่อเจอกัน
“ไม่เป็นไรหรอกจ๊ะอายะจัง ฉันก็เพิ่งจะมาถึงเอง” ยามานากะ ยูกิเอ่ยขึ้นด้วยรอยยิ้มสดใส รู้สึกดีใจและตื่นเต้นเป็นพิเศษเพราะหล่อนไม่ได้เจอเพื่อนสนิทอย่างอายากะตั้งสองเดือน
“แหม ๆ ก็แอบรู้สึกผิดนิดหน่อยน่ะที่แบบว่านัดไว้ซะเช้าเลยแต่สุดท้ายฉันก็ดันมาสายเองซะนี่” อายากะเกาหัวแก้เขินก่อนที่จะชวนยูกิไปกินดังโงะ
“ที่จริงเราน่าจะเดินดูของกันก่อนก็ได้นะจ๊ะ”
“เฮ้ยไม่เป็นไรหรอกน่า ไม่ต้องรีบขนาดนั้นก็ได้ วันนี้ฉันมีเวลาทั้งวัน” หยิบดังโงะขึ้นมากินด้วยความสบายใจพร้อมกับพูดคุยเรื่องสัพเพเหระจนเลยไปถึงเรื่องในวัยเด็ก
“มันน่าตลกดีนี่นะที่ทีมเรามีผู้ชายแค่คนเดียว พูดแล้วก็สงสารอิทาจิจริง ๆ เลยตอนนั้นแต่ตอนนี้...” ยูกิเว้นไว้เพียงแค่นั้นซึ่งเป็นอันว่าคู่สนทนาคงจะเข้าใจสิ่งที่เธอสื่อได้เป็นอย่างดี
“อืมก็นะช่วยไม่ได้ หมอนั่นเลือกทำแบบนั้นเองนี่แต่ว่านะถ้าฉันเจอเขาอีกเมื่อไหร่ละก็ฉันจะฆ่าเขาทิ้งซะ” อายากะพูดด้วยแววตามุ่งมั่นซึ่งทำให้คู่สนทนาตรงข้ามรู้สึกลำบากใจเป็นที่สุด หล่อนไม่อยากจะเห็นเพื่อนทั้งสองมาห้ำหั่นกันเองแต่ถึงอย่างนั้นอิทาจิก็เคยทำเรื่องร้ายแรงไว้ที่หมู่บ้านนี้...
“เราเปลี่ยนเรื่องคุยกันเถอะจ้ะ พูดถึงเรื่องอิทาจิทีไรแล้วทั้งอายะจังและฉันก็เอาแต่ทำสีหน้าเคร่งเครียด”
“ให้ตายสิยูกิ ฉันลืมไปซะสนิทเลยว่าป้าซึนาเดะเรียกเก้าโมงเช้า ตอนนี้ก็เก้าโมงซะแล้วทำยังไงดีเนี่ย นัดกับเธอไว้ซะดิบดี”
ท่าทางกระวนกระวายของอายากะทำให้ยูกิพลอยรู้สึกไม่สบายใจไปด้วยจึงรีบเอ่ยตัดบทขึ้นมา
“งั้นเอาไว้วันหลังก็ได้นะจ๊ะ เราค่อยไปเดินเล่นด้วยกัน”
“ได้ยังไงกันเล่า นาน ๆ ทีเธอจะได้มีเวลาหยุดพักผ่อนจากภารกิจนะ สมควรจะมีเพื่อนไปเดินเล่นบ้างถึงอย่างน้อยฉันจะต้องทิ้งเธอไว้แต่ก็...อ้าวเก็นมะ ว่างเหรอวันนี้?” อายากะส่งสายตาเจ้าเล่ห์ไปให้เพื่อนหนุ่มต่างวัยแทบจะทันที ซึ่งเป็นอันว่าเริ่มแผน
“อะ...เอ้อใช่ พอดีว่าช่วงเช้านี้ว่างน่ะ เลยออกมาหาของอร่อย ๆ กิน” เขาตอบพร้อมกับส่งยิ้มไปให้ทั้งอายากะและยูกิ
“สวัสดีค่ะรุ่นพี่เก็นมะ” สาวผมบลอนด์รีบเอ่ยทักทายผู้มาใหม่แทบจะทันที กี่ปี ๆ รุ่นพี่หน้าตาดีคนนี้ก็ยังไม่หยุดคาบเข็ม
“สะ...สวัสดีครับยูกิ วันนี้อากาศดีจังเลยนะเนี่ย” เก็นมะเกาหัวแก้เขิน
“แหมทีเรื่องแบบนี้ทำมาเป็นเหนียมอายไปได้ตาแก่เอ้ย ทีตอนต่อสู้ล่ะก็ทำเท่ซะจนต่างจากตอนนี้เลยแฮะ” อายากะแอบหันมาพึมพำกับตัวเองเบา ๆ ก่อนที่จะเอ่ยเปิดโอกาสให้เก็นมะได้ใช้เวลากับยูกิ
“ไหน ๆ ก็ไหน ๆ แล้วนะยูกิ เก็นมะเขาก็ว่างพอดี ยังไงเธอก็ชวนเขาไปเดินเล่นด้วยกันสิ”
“หะ...หา มันจะดีเหรอจ๊ะอายะจังฉันว่ารุ่นพี่เขาคงอยากจะพักผ่อนมากกว่าน่ะ” ยูกิถึงกับหน้าแดงซ่านขึ้นมาทันทีเมื่อได้ยินสิ่งที่เพื่อนสาวของเธอแนะนำให้ทำ มันชักจะก๋ากั๋นไปแล้วนะ ยังไงท่านหญิงอายากะก็คือท่านหญิงอายากะอยู่วันยังค่ำสินะ
“เออน่า ดีสิ ใช่มั้ยเก็นมะ?”
“ใช่ ๆ ฉันกำลังหาเพื่อนเดินเล่นอยู่พอดี ถ้าได้ยูกิจังไปเป็นเพื่อนด้วยก็คงดีอยากจะถามเรื่องดอกไม้ด้วย”
‘แหมเจ้านี่เวลาจะหาข้ออ้างขึ้นมาล่ะก็พูดได้ไหลลื่นเหมือนกันนะนี่’ หญิงสาวแอบคิดในใจก่อนที่จะขอตัวปลีกวิเวกออกมา
‘ไม่มีใครมากวนใจตอนนี้ก็ดีเหมือนกันนะเนี่ย’ ผมยาวสลวยสีส้มปลิวไปตามแรงลมเมื่ออายากะเดินไปตามท้องถนนเรื่อย ๆ ตอนนี้จุดหมายปลายทางของเธอก็คือบ้าน
“เฮ้ อาเจ๊!” เสียงอันคุ้นหูดังขึ้นแทบจะทันที
“ว่าไง?” เธอหันไปขมวดคิ้วด้วยความสงสัย
“ก็แบบว่าป้าซึนาเดะให้มาตามอาเจ๊ไปรับภารกิจน่ะ ผมก็ไม่รู้ด้วยนาว่าเป็นภารกิจอะไรแต่ท่าทางน่าจะระดับAไม่ก็Sล่ะนะ”
“เออขอบใจนะ ฉันจะรีบไปก่อนล่ะ อ้อ...เย็นนี้ถ้าว่างไปหาฉันที่บ้านหน่อยสิ” ว่าจบโจนินสาวก็รีบหายตัวไปทันทีปล่อยให้นารุโตะยืนเกาหัวด้วยความงุนงง
ประตูห้องทำงานของโฮคาเงะถูกเปิดด้วยความรวดเร็วอันมาจากฝีมือของอดีตหน่วยลับอย่างอายากะ
“ให้ตายสิเธอนี่ตลอดเลยนะยายเด็กบ้า จะมาทีไรไม่เคยจะเคาะ” ซึนาเดะวางเอกสารลงพร้อมกับกุมขมับ
“ไปจัดการตามที่ฉันสั่งด้วยนะคาคาชิ” รีบหันไปย้ำกับโจนินหนุ่มแทบจะทันที
“ครับท่านซึนาเดะ…อ้าวไงล่ะท่านหญิงฟูจิวาระ” ก่อนจะออกจากห้องโจนินผมเงินจึงหันไปทักทายอดีตเพื่อนร่วมงานเล็กน้อย
“ไงตาแก่ลามก ภารกิจระดับไหนละคราวนี้”
“ระดับ...” คาคาชิพูดทิ้งไว้เพียงเท่านั้นแล้วก็รีบหายตัวไปทันที
“หน็อยนี่มันกวนบาทากันชัด ๆ ระวังเถอะนายเป็นรายต่อไปแน่!”
“เอาล่ะ ๆ คือว่าฉันมีภารกิจจะให้เธอทำ เอาไปอ่านสิ” ซึนาเดะยื่นม้วนภารกิจให้อายากะพร้อมกับแอบลอบยิ้มด้วยความสะใจ
“ภารกิจระดับD เลี้ยงเด็กเนี่ยนะป้า...อะไรกันเนี่ย!” หญิงสาวเริ่มโวยวายทันทีเมื่อเห็นว่ากำลังจะได้รับภารกิจอะไร
“ก็ช่วยไม่ได้นี่ เมื่อวานเธอมาขอภารกิจให้นารุโตะฉันเลยคิดว่าเธอคงอยากจะทำเหมือนกัน”
“แต่นี่มันระดับD เลยนะ ฉันต้องได้อะไรที่มันเสี่ยง ๆ กว่านี้สิคะ!” ประท้วงอีกแล้ว
“เฮ้อ...เธอนี่จริง ๆ เลยนะถ้ามีคนบอกว่าเธอเป็นพี่น้องกับเจ้าเด็กนั่นฉันก็เชื่อ...ทั้งโวยวายทั้งประท้วงให้ตายสิ”
“นี่ป้าเอาคืนฉันใช่มั้ยเนี่ยหา?”
“ไม่ได้เอาคืนหรอกน่า ยังไงซะนินจาก็ไม่เกี่ยงเรื่องภารกิจอยู่แล้วเพราะงั้นก็รีบ ๆ ไปจัดการซะแล้วรีบมารายงาน ภารกิจต่อจากนี้จะไม่ใช่งานหมู ๆ ระดับDแบบนี้อีกแล้ว!”
อายากะหยุดยืนอยู่ตรงหน้าบ้านหลังใหญ่ที่คาดว่าน่าจะเป็นผู้ว่าจ้างให้เธอมาดูแลเด็ก ไม่รู้ว่าครั้งนี้จะรอดหรือไม่รอดเพราะจากประสบการณ์ตอนเป็นเกะนินนั้นช่างจะวุ่นวายเสียเหลือเกินเมื่อทีมของเธอได้รับภารกิจคือการเลี้ยงเด็ก! ยอมรับตามตรงว่าเป็นคนเกลียดเด็กเพราะไม่ชอบเสียงร้องงอแงและเสียงร้องไห้ หวังว่าครั้งนี้เด็กที่เธอมาดูแลคงจะพูดอะไรที่เข้าใจง่ายและไม่ดื้อ ถ้าหากว่าดื้อล่ะก็ ‘หึหึ บาทากระทืบมารสถานเดียวค่า!’ ร้องในใจอย่างลิงโลด
ภารกิจครั้งนี้จะว่าง่ายก็ง่ายจะว่ายากก็ยากเพราะต้องใช้ความอดทนอย่างมากที่สุดเพราะเด็กที่เธอต้องดูแลนั้นสุขภาพไม่ค่อยจะดีสักเท่าไหร่และออกจะดูหัวดื้อหัวรั้นด้วยซ้ำแต่สุดท้ายอายากะก็สามารถสู้รบปรบมือจนทำให้ภารกิจนี้เสร็จสิ้นและลุล่วงไปด้วยดี
“ภารกิจเสร็จแล้วก็ต้องต่อด้วยเขียนรายงานภารกิจให้ตายสิ” หญิงสาวบ่นอุบอิบพร้อมกับบิดขี้เกียจก่อนที่จะเริ่มเขียนรายงานภารกิจ แต่ขณะที่กำลังจะลงมือเขียนนั้นหัวสมองก็พลันนึกไปถึงเรื่องราวในวัยเด็กขึ้นมา
การเข้าชั้นเรียนวันแรกของนักเรียนนินจาอคาเดมี่คลาคล่ำไปด้วยผู้ปกครองหลายคนที่มาส่งลูกหลานตัวเองในวันเปิดเทอมแต่ไม่ใช่สำหรับฟูจิวาระ อายากะเพราะว่าเธอตื่นไม่ทันสุดท้ายทุกคนในบ้านต่างก็พากันไปทำธุระของตัวเองจนเด็กหญิงต้องรีบออกวิ่งสุดชีวิตเพื่อไปเข้าชั้นเรียนให้ทัน
ผ่าง! ประตูห้องเรียนถูกเปิดออกด้วยความรวดเร็วจากฝีมือของผู้มาสาย เด็กหญิงก้าวขาเข้าไปในห้องด้วยความมั่นใจ “ขอโทษนะคะที่มาสายพอดีว่ามีลูกแมวตกน้ำน่ะค่ะ”
“ฟูจิวาระสินะ” คุณครูประจำชั้นพูดเพียงแค่นั้นแล้วก็โบกมือไล่ให้เด็กหญิงเดินไปนั่งกับเพื่อน ๆ ตระกูลนี้นี่จริง ๆ เลย เจ้าแห่งการมาสายชัด ๆ ตั้งแต่รุ่นอากิระแล้วนะให้ตายสิตอนนี้ยังส่งน้องสาวเดินตามรอยกันมาติด ๆ แบบนี้ ชักสังหรณ์ใจแล้วว่าจะต้องมีเรื่องเกิดขึ้นแน่ ๆ
“อันที่จริงฉันไม่ได้ช่วยลูกแมวหรอก นอนตื่นสายน่ะ” เด็กหญิงหันไปกระซิบกับเพื่อนสนิทแทบจะทันที
“ข้ออ้างเห่ยชะมัดใครเชื่อก็โง่” เสียงเย็นชาของเด็กชายที่นั่งอยู่ตรงหน้าเอ่ยขึ้นมาลอย ๆ
คิ้วของอายากะขมวดเป็นปมแทบจะทันที ไอ้คนผมดำนั่นเป็นใครถึงกล้าพูดแขวะเธอได้แบบนี้ เธอจะไม่ยอมหรอก
“เอาล่ะ ๆ หยุดพูดกันได้แล้วเด็ก ๆ วันนี้เราจะมาแนะนำตัวกันก่อนนะ เริ่มจากตัวฉันเองฉันชื่อทานากะ โรคุโระ ฉันจะมาประจำชั้นพวกเธอจนกว่าพวกเธอจะสอบผ่านเป็นเกะนิน...งั้นฉันขอเริ่มให้แถวแรกแนะนำตัวแล้ววนไปเรื่อย ๆ จนกว่าจะครบ”
การแนะนำตัวของเด็ก ๆ แต่ละคนผ่านพ้นไปได้ด้วยดีจนกระทั่งมาถึงคิวของเด็กชายผมสีดำที่นั่งอยู่ด้านหน้าของอายากะ เด็กชายลุกยืนขึ้นช้า ๆ ด้วยสีหน้าเรียบเฉย “อุจิวะ อิทาจิ” เขาแนะนำเพียงแค่ชื่อตัวเองด้วยน้ำเสียงอันเย็นชาแต่ถึงอย่างนั้นเด็กหญิงคนอื่น ๆ ในห้องเรียนก็พากันกริ๊ดกร๊าด
“นี่เธอ อุจิวะ อิทาจิน่ะเป็นถึงเด็กอัจฉริยะเชียวนะ หน้าตาก็หล่อด้วยฉันละปลื้มเขาจริง ๆ” อายากะได้ยินจนรู้สึกเอียนกับคำชื่นชมนั้น
“ฟูจิวาระ อายากะค่า ไม่ใช่เด็กอัจฉริยะแต่จะคว่ำอัจฉริยะให้ทุกคนดูเอง” สิ้นเสียงของอายากะเด็ก ๆ ในห้องต่างพากันหัวเราะด้วยความชอบใจ
“คอยดูนะฉันจะจัดการเจ้าหมอนั่นโทษฐานที่มาพูดแขวะ น่าหมั่นไส้จริง ๆ ไม่เห็นจะดูอัจฉริยะตรงไหนเลย!” เด็กหญิงอายากะหยิบกล่องอาหารกลางวันขึ้นมาเปิดพร้อมกับทานอาหารกลางวันด้วยท่าทางเอร็ดอร่อย
“เธอจะทำแบบนั้นจริง ๆ เหรอจ๊ะ?” เด็กหญิงยูกิถามขึ้นมาด้วยความเป็นห่วงเพราะไม่อยากจะให้อายากะก่อเรื่องแกล้งเพื่อนคนอื่นอีก
“เอาเถอะน่าฉันมีแผนของฉันก็แล้วกัน หายห่วงเถอะนะยูกิจัง”
“ไม่น่าเชื่อเลยแฮะว่าท่านหญิงจะรีบตื่นเช้าซะขนาดนี้” ผู้คนในตระกูลที่กำลังกวาดลานบ้านต่างพากันซุบซิบเมื่อเห็นว่าผู้นำตระกูลสาวเดินออกจากรั้วบ้านไปด้วยความเร่งรีบ
“ให้ตายสิว่าแล้วเชียว!” ยังไม่ทันจะก้าวพ้นเขตบ้านหญิงสาวก็นึกขึ้นได้ว่าลืมบางสิ่งบางอย่างที่สำคัญไป เธอจึงรีบวิ่งกลับเข้าไปในบ้านทันทีพร้อมกับรีบกอบโกยเครื่องสำอางทั้งหลายลงในกระเป๋าใส่อาวุธ
อายากะเดินออกจากบ้านอีกครั้ง เธอผ่อนฝีเท้าให้สม่ำเสมอเผื่อเวลาที่เดินไปด้วยแต่งหน้าไปด้วยจะได้ไม่เลอะเทอะจนดูน่าเกลียด
“หยุดนะเจ้าพวกเด็กบ้า!” เสียงทุ้มของชายหนุ่มในชุดจูนินตะโกนไล่ตามเด็กสามคนด้วยความดังแต่ถึงอย่างนั้นมันก็ไม่ได้เข้าไปกระทบโสตประสาทของอายากะเลยสักนิดเดียวเพราะเธอกำลังจดจ่ออยู่กับการแต่งหน้า
“อ๊ะ...ระวังนะครับ!” จูนินหนุ่มตะโกนเตือนแต่โจนินสาวที่กำลังแต่งหน้าอย่างขะมักขเม้นก็ไม่ได้ยินเสียงของเขา
โครม! เด็กทั้งสามคนล้มระเนระนาดกองกันอยู่ตรงหน้าของอายากะ หญิงสาวเพิ่งจะสำนึกได้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับตัวเอง
“ให้ตายสิ คิ้วฉัน! เจ้าพวกเด็กบ้ามาวิ่งเล่นหาพระแสงอะไรกันตอนนี้ยะ เห็นมั้ยว่าคิ้วฉันเลอะไปหมดแล้ว!”
“อ้าวป้า นี่มันถนนสาธารณะนะนี่ พวกเราจะวิ่งกันยังไงก็ได้!” เด็กชายผมสีน้ำตาลเข้มที่สวมผ้าพันคอสีน้ำเงินลุกขึ้นมาเถียงอายากะแทบจะทันที
“นี่โคโนฮะมารุจัง อย่าพูดแบบนั้นสิ!” เด็กหญิงผมสีส้มเอ่ยขึ้นด้วยความหวาดกลัวกับท่าทางของโจนินสาว
“หน็อยนี่กล้าเรียกฉันว่าป้างั้นเหรอยะ!”
“ก็ใช่นะเซ่ หรือจะให้เรียกว่าคุณยายกันล่ะ?”
“ฉัน-จะ-ไม่-ทน-แล้ว-นะ เด็กก็เด็กเถอะ ขอแจกบาทากระทืบมารให้สำนึกซะบ้าง!” ขณะที่กำลังเตรียมตัวจะแจกบาทากระทืบมารให้กับเด็กชายผู้กวนประสาทนั้นก็มีคนพุ่งเข้ามาขวางไว้เสียก่อน
“แหะ ๆ คือว่าใจเย็น ๆ ก่อนนะครับ ผมเป็นครูของเจ้าพวกนี้เอง พอดีว่าสามคนนี้หนีเรียนมาน่ะครับ” ชายหนุ่มผิวสีแทนที่มีแผลเป็นคาดยาวตรงจมูกรีบส่งยิ้มเป็นการขอโทษขอโพยแทบจะทันที
“เดี๋ยวนะ...นี่นาย อิรุกะนี่นา! ไม่เจอกันนานเลยนะเนี่ย”
“เอ๋...อายากะเองหรอกเหรอ เป็นยังไงบ้างล่ะสบายดีไหม?”
ขณะนั้นเองที่โจนินสาวและจูนินหนุ่มกำลังเปิดหัวข้อสนทนาระลึกชาติถึงกันและกันก็เป็นโอกาสอันงามของเด็กนินจาอคาเดมี่ทั้งสามคนที่จะหาทางหลบหนีชั้นเรียน
“จะไปไหนยะ! คิดว่าฉันจะยอมง่าย ๆ หรือไง” หญิงสาวรีบคว้าตัวโคโนฮะมารุไว้ทันที
“ปล่อยผมเดี๋ยวนี้นะป้า! ปล่อยเซ่” เด็กชายพยายามดิ้นอย่างแรงเพื่อที่จะให้ตัวเองหลุดพ้นจากพันธนาการ
“ปล่อยเธอไปก็ไปเล่นซนอีกน่ะสิ กลับไปกับครูอิรุกะแล้วไปเข้าชั้นเรียนซะ ฉันจะถือว่าเรื่องที่พวกเธอทำคิ้วฉันเลอะนั้นเป็นแค่ฝันร้าย!”
“โคโนฮะมารุจังเรากลับไปกับครูอิรุกะกันเถอะ” โมเอกิรีบเสริมทัพแทบจะทันที ถ้าหากว่าโคโนฮะมารุยังคงดึงดันต่อไปล่ะก็พวกเธอคงต้องเจอบาทากระทืบมารของโจนินสาวคนนี้แน่ ๆ
“ใช่ครับผมก็เห็นด้วย” อูดงพยายามสูดน้ำมูกอย่างหนักหน่วงพร้อมกับพยักหน้าเห็นด้วยกับโมเอกิ
“เออก็ได้ ทีนี้ก็ปล่อยผมซะสิปะ...เอ้อ ปล่อยผมสิคร้าบพี่สาวคนสวย”
“ฉันขอตัวก่อนนะอายากะไว้เจอกันอีกนะ” อิรุกะรีบดึงตัวลูกศิษย์ตัวแสบอย่างโคโนฮะมารุกลับไปยังโรงเรียนแทบจะทันที ถ้าเขาตามมาไม่ทันล่ะก็เจ้าพวกนี้คงโดนบาทากระทืบมารของอายากะซัดไปแล้วแน่ ๆ เลย คิดแล้วก็อดที่จะสยองไม่ได้ เขาคนนึงล่ะที่จะไม่มีวันทำให้หล่อนโมโห
“เจ้าเด็กพวกนี้นี่ คิ้วฉันเลอะหมดซะแล้วให้ตายสิ” รีบควานหากระจกขึ้นมาส่องและรีบลบคิ้วที่เลอะด้วยความรวดเร็ว ถ้าหากว่าใครมาเห็นท่านหญิงอายากะในสภาพนี้ล่ะก็คงจะถูกนำไปล้อเลียนเป็นชาติแน่ ๆ
“ไงจ๊ะยูกิ โทษทีนะที่มาช้าเจอพวกเด็กบ้าก่อกวนนิดหน่อยน่ะ” ยิ้มกว้างพร้อมกับเข้าไปกอดเพื่อนสนิทสาวแทบจะทันทีเมื่อเจอกัน
“ไม่เป็นไรหรอกจ๊ะอายะจัง ฉันก็เพิ่งจะมาถึงเอง” ยามานากะ ยูกิเอ่ยขึ้นด้วยรอยยิ้มสดใส รู้สึกดีใจและตื่นเต้นเป็นพิเศษเพราะหล่อนไม่ได้เจอเพื่อนสนิทอย่างอายากะตั้งสองเดือน
“แหม ๆ ก็แอบรู้สึกผิดนิดหน่อยน่ะที่แบบว่านัดไว้ซะเช้าเลยแต่สุดท้ายฉันก็ดันมาสายเองซะนี่” อายากะเกาหัวแก้เขินก่อนที่จะชวนยูกิไปกินดังโงะ
“ที่จริงเราน่าจะเดินดูของกันก่อนก็ได้นะจ๊ะ”
“เฮ้ยไม่เป็นไรหรอกน่า ไม่ต้องรีบขนาดนั้นก็ได้ วันนี้ฉันมีเวลาทั้งวัน” หยิบดังโงะขึ้นมากินด้วยความสบายใจพร้อมกับพูดคุยเรื่องสัพเพเหระจนเลยไปถึงเรื่องในวัยเด็ก
“มันน่าตลกดีนี่นะที่ทีมเรามีผู้ชายแค่คนเดียว พูดแล้วก็สงสารอิทาจิจริง ๆ เลยตอนนั้นแต่ตอนนี้...” ยูกิเว้นไว้เพียงแค่นั้นซึ่งเป็นอันว่าคู่สนทนาคงจะเข้าใจสิ่งที่เธอสื่อได้เป็นอย่างดี
“อืมก็นะช่วยไม่ได้ หมอนั่นเลือกทำแบบนั้นเองนี่แต่ว่านะถ้าฉันเจอเขาอีกเมื่อไหร่ละก็ฉันจะฆ่าเขาทิ้งซะ” อายากะพูดด้วยแววตามุ่งมั่นซึ่งทำให้คู่สนทนาตรงข้ามรู้สึกลำบากใจเป็นที่สุด หล่อนไม่อยากจะเห็นเพื่อนทั้งสองมาห้ำหั่นกันเองแต่ถึงอย่างนั้นอิทาจิก็เคยทำเรื่องร้ายแรงไว้ที่หมู่บ้านนี้...
“เราเปลี่ยนเรื่องคุยกันเถอะจ้ะ พูดถึงเรื่องอิทาจิทีไรแล้วทั้งอายะจังและฉันก็เอาแต่ทำสีหน้าเคร่งเครียด”
“ให้ตายสิยูกิ ฉันลืมไปซะสนิทเลยว่าป้าซึนาเดะเรียกเก้าโมงเช้า ตอนนี้ก็เก้าโมงซะแล้วทำยังไงดีเนี่ย นัดกับเธอไว้ซะดิบดี”
ท่าทางกระวนกระวายของอายากะทำให้ยูกิพลอยรู้สึกไม่สบายใจไปด้วยจึงรีบเอ่ยตัดบทขึ้นมา
“งั้นเอาไว้วันหลังก็ได้นะจ๊ะ เราค่อยไปเดินเล่นด้วยกัน”
“ได้ยังไงกันเล่า นาน ๆ ทีเธอจะได้มีเวลาหยุดพักผ่อนจากภารกิจนะ สมควรจะมีเพื่อนไปเดินเล่นบ้างถึงอย่างน้อยฉันจะต้องทิ้งเธอไว้แต่ก็...อ้าวเก็นมะ ว่างเหรอวันนี้?” อายากะส่งสายตาเจ้าเล่ห์ไปให้เพื่อนหนุ่มต่างวัยแทบจะทันที ซึ่งเป็นอันว่าเริ่มแผน
“อะ...เอ้อใช่ พอดีว่าช่วงเช้านี้ว่างน่ะ เลยออกมาหาของอร่อย ๆ กิน” เขาตอบพร้อมกับส่งยิ้มไปให้ทั้งอายากะและยูกิ
“สวัสดีค่ะรุ่นพี่เก็นมะ” สาวผมบลอนด์รีบเอ่ยทักทายผู้มาใหม่แทบจะทันที กี่ปี ๆ รุ่นพี่หน้าตาดีคนนี้ก็ยังไม่หยุดคาบเข็ม
“สะ...สวัสดีครับยูกิ วันนี้อากาศดีจังเลยนะเนี่ย” เก็นมะเกาหัวแก้เขิน
“แหมทีเรื่องแบบนี้ทำมาเป็นเหนียมอายไปได้ตาแก่เอ้ย ทีตอนต่อสู้ล่ะก็ทำเท่ซะจนต่างจากตอนนี้เลยแฮะ” อายากะแอบหันมาพึมพำกับตัวเองเบา ๆ ก่อนที่จะเอ่ยเปิดโอกาสให้เก็นมะได้ใช้เวลากับยูกิ
“ไหน ๆ ก็ไหน ๆ แล้วนะยูกิ เก็นมะเขาก็ว่างพอดี ยังไงเธอก็ชวนเขาไปเดินเล่นด้วยกันสิ”
“หะ...หา มันจะดีเหรอจ๊ะอายะจังฉันว่ารุ่นพี่เขาคงอยากจะพักผ่อนมากกว่าน่ะ” ยูกิถึงกับหน้าแดงซ่านขึ้นมาทันทีเมื่อได้ยินสิ่งที่เพื่อนสาวของเธอแนะนำให้ทำ มันชักจะก๋ากั๋นไปแล้วนะ ยังไงท่านหญิงอายากะก็คือท่านหญิงอายากะอยู่วันยังค่ำสินะ
“เออน่า ดีสิ ใช่มั้ยเก็นมะ?”
“ใช่ ๆ ฉันกำลังหาเพื่อนเดินเล่นอยู่พอดี ถ้าได้ยูกิจังไปเป็นเพื่อนด้วยก็คงดีอยากจะถามเรื่องดอกไม้ด้วย”
‘แหมเจ้านี่เวลาจะหาข้ออ้างขึ้นมาล่ะก็พูดได้ไหลลื่นเหมือนกันนะนี่’ หญิงสาวแอบคิดในใจก่อนที่จะขอตัวปลีกวิเวกออกมา
‘ไม่มีใครมากวนใจตอนนี้ก็ดีเหมือนกันนะเนี่ย’ ผมยาวสลวยสีส้มปลิวไปตามแรงลมเมื่ออายากะเดินไปตามท้องถนนเรื่อย ๆ ตอนนี้จุดหมายปลายทางของเธอก็คือบ้าน
“เฮ้ อาเจ๊!” เสียงอันคุ้นหูดังขึ้นแทบจะทันที
“ว่าไง?” เธอหันไปขมวดคิ้วด้วยความสงสัย
“ก็แบบว่าป้าซึนาเดะให้มาตามอาเจ๊ไปรับภารกิจน่ะ ผมก็ไม่รู้ด้วยนาว่าเป็นภารกิจอะไรแต่ท่าทางน่าจะระดับAไม่ก็Sล่ะนะ”
“เออขอบใจนะ ฉันจะรีบไปก่อนล่ะ อ้อ...เย็นนี้ถ้าว่างไปหาฉันที่บ้านหน่อยสิ” ว่าจบโจนินสาวก็รีบหายตัวไปทันทีปล่อยให้นารุโตะยืนเกาหัวด้วยความงุนงง
ประตูห้องทำงานของโฮคาเงะถูกเปิดด้วยความรวดเร็วอันมาจากฝีมือของอดีตหน่วยลับอย่างอายากะ
“ให้ตายสิเธอนี่ตลอดเลยนะยายเด็กบ้า จะมาทีไรไม่เคยจะเคาะ” ซึนาเดะวางเอกสารลงพร้อมกับกุมขมับ
“ไปจัดการตามที่ฉันสั่งด้วยนะคาคาชิ” รีบหันไปย้ำกับโจนินหนุ่มแทบจะทันที
“ครับท่านซึนาเดะ…อ้าวไงล่ะท่านหญิงฟูจิวาระ” ก่อนจะออกจากห้องโจนินผมเงินจึงหันไปทักทายอดีตเพื่อนร่วมงานเล็กน้อย
“ไงตาแก่ลามก ภารกิจระดับไหนละคราวนี้”
“ระดับ...” คาคาชิพูดทิ้งไว้เพียงเท่านั้นแล้วก็รีบหายตัวไปทันที
“หน็อยนี่มันกวนบาทากันชัด ๆ ระวังเถอะนายเป็นรายต่อไปแน่!”
“เอาล่ะ ๆ คือว่าฉันมีภารกิจจะให้เธอทำ เอาไปอ่านสิ” ซึนาเดะยื่นม้วนภารกิจให้อายากะพร้อมกับแอบลอบยิ้มด้วยความสะใจ
“ภารกิจระดับD เลี้ยงเด็กเนี่ยนะป้า...อะไรกันเนี่ย!” หญิงสาวเริ่มโวยวายทันทีเมื่อเห็นว่ากำลังจะได้รับภารกิจอะไร
“ก็ช่วยไม่ได้นี่ เมื่อวานเธอมาขอภารกิจให้นารุโตะฉันเลยคิดว่าเธอคงอยากจะทำเหมือนกัน”
“แต่นี่มันระดับD เลยนะ ฉันต้องได้อะไรที่มันเสี่ยง ๆ กว่านี้สิคะ!” ประท้วงอีกแล้ว
“เฮ้อ...เธอนี่จริง ๆ เลยนะถ้ามีคนบอกว่าเธอเป็นพี่น้องกับเจ้าเด็กนั่นฉันก็เชื่อ...ทั้งโวยวายทั้งประท้วงให้ตายสิ”
“นี่ป้าเอาคืนฉันใช่มั้ยเนี่ยหา?”
“ไม่ได้เอาคืนหรอกน่า ยังไงซะนินจาก็ไม่เกี่ยงเรื่องภารกิจอยู่แล้วเพราะงั้นก็รีบ ๆ ไปจัดการซะแล้วรีบมารายงาน ภารกิจต่อจากนี้จะไม่ใช่งานหมู ๆ ระดับDแบบนี้อีกแล้ว!”
อายากะหยุดยืนอยู่ตรงหน้าบ้านหลังใหญ่ที่คาดว่าน่าจะเป็นผู้ว่าจ้างให้เธอมาดูแลเด็ก ไม่รู้ว่าครั้งนี้จะรอดหรือไม่รอดเพราะจากประสบการณ์ตอนเป็นเกะนินนั้นช่างจะวุ่นวายเสียเหลือเกินเมื่อทีมของเธอได้รับภารกิจคือการเลี้ยงเด็ก! ยอมรับตามตรงว่าเป็นคนเกลียดเด็กเพราะไม่ชอบเสียงร้องงอแงและเสียงร้องไห้ หวังว่าครั้งนี้เด็กที่เธอมาดูแลคงจะพูดอะไรที่เข้าใจง่ายและไม่ดื้อ ถ้าหากว่าดื้อล่ะก็ ‘หึหึ บาทากระทืบมารสถานเดียวค่า!’ ร้องในใจอย่างลิงโลด
ภารกิจครั้งนี้จะว่าง่ายก็ง่ายจะว่ายากก็ยากเพราะต้องใช้ความอดทนอย่างมากที่สุดเพราะเด็กที่เธอต้องดูแลนั้นสุขภาพไม่ค่อยจะดีสักเท่าไหร่และออกจะดูหัวดื้อหัวรั้นด้วยซ้ำแต่สุดท้ายอายากะก็สามารถสู้รบปรบมือจนทำให้ภารกิจนี้เสร็จสิ้นและลุล่วงไปด้วยดี
“ภารกิจเสร็จแล้วก็ต้องต่อด้วยเขียนรายงานภารกิจให้ตายสิ” หญิงสาวบ่นอุบอิบพร้อมกับบิดขี้เกียจก่อนที่จะเริ่มเขียนรายงานภารกิจ แต่ขณะที่กำลังจะลงมือเขียนนั้นหัวสมองก็พลันนึกไปถึงเรื่องราวในวัยเด็กขึ้นมา
การเข้าชั้นเรียนวันแรกของนักเรียนนินจาอคาเดมี่คลาคล่ำไปด้วยผู้ปกครองหลายคนที่มาส่งลูกหลานตัวเองในวันเปิดเทอมแต่ไม่ใช่สำหรับฟูจิวาระ อายากะเพราะว่าเธอตื่นไม่ทันสุดท้ายทุกคนในบ้านต่างก็พากันไปทำธุระของตัวเองจนเด็กหญิงต้องรีบออกวิ่งสุดชีวิตเพื่อไปเข้าชั้นเรียนให้ทัน
ผ่าง! ประตูห้องเรียนถูกเปิดออกด้วยความรวดเร็วจากฝีมือของผู้มาสาย เด็กหญิงก้าวขาเข้าไปในห้องด้วยความมั่นใจ “ขอโทษนะคะที่มาสายพอดีว่ามีลูกแมวตกน้ำน่ะค่ะ”
“ฟูจิวาระสินะ” คุณครูประจำชั้นพูดเพียงแค่นั้นแล้วก็โบกมือไล่ให้เด็กหญิงเดินไปนั่งกับเพื่อน ๆ ตระกูลนี้นี่จริง ๆ เลย เจ้าแห่งการมาสายชัด ๆ ตั้งแต่รุ่นอากิระแล้วนะให้ตายสิตอนนี้ยังส่งน้องสาวเดินตามรอยกันมาติด ๆ แบบนี้ ชักสังหรณ์ใจแล้วว่าจะต้องมีเรื่องเกิดขึ้นแน่ ๆ
“อันที่จริงฉันไม่ได้ช่วยลูกแมวหรอก นอนตื่นสายน่ะ” เด็กหญิงหันไปกระซิบกับเพื่อนสนิทแทบจะทันที
“ข้ออ้างเห่ยชะมัดใครเชื่อก็โง่” เสียงเย็นชาของเด็กชายที่นั่งอยู่ตรงหน้าเอ่ยขึ้นมาลอย ๆ
คิ้วของอายากะขมวดเป็นปมแทบจะทันที ไอ้คนผมดำนั่นเป็นใครถึงกล้าพูดแขวะเธอได้แบบนี้ เธอจะไม่ยอมหรอก
“เอาล่ะ ๆ หยุดพูดกันได้แล้วเด็ก ๆ วันนี้เราจะมาแนะนำตัวกันก่อนนะ เริ่มจากตัวฉันเองฉันชื่อทานากะ โรคุโระ ฉันจะมาประจำชั้นพวกเธอจนกว่าพวกเธอจะสอบผ่านเป็นเกะนิน...งั้นฉันขอเริ่มให้แถวแรกแนะนำตัวแล้ววนไปเรื่อย ๆ จนกว่าจะครบ”
การแนะนำตัวของเด็ก ๆ แต่ละคนผ่านพ้นไปได้ด้วยดีจนกระทั่งมาถึงคิวของเด็กชายผมสีดำที่นั่งอยู่ด้านหน้าของอายากะ เด็กชายลุกยืนขึ้นช้า ๆ ด้วยสีหน้าเรียบเฉย “อุจิวะ อิทาจิ” เขาแนะนำเพียงแค่ชื่อตัวเองด้วยน้ำเสียงอันเย็นชาแต่ถึงอย่างนั้นเด็กหญิงคนอื่น ๆ ในห้องเรียนก็พากันกริ๊ดกร๊าด
“นี่เธอ อุจิวะ อิทาจิน่ะเป็นถึงเด็กอัจฉริยะเชียวนะ หน้าตาก็หล่อด้วยฉันละปลื้มเขาจริง ๆ” อายากะได้ยินจนรู้สึกเอียนกับคำชื่นชมนั้น
“ฟูจิวาระ อายากะค่า ไม่ใช่เด็กอัจฉริยะแต่จะคว่ำอัจฉริยะให้ทุกคนดูเอง” สิ้นเสียงของอายากะเด็ก ๆ ในห้องต่างพากันหัวเราะด้วยความชอบใจ
“คอยดูนะฉันจะจัดการเจ้าหมอนั่นโทษฐานที่มาพูดแขวะ น่าหมั่นไส้จริง ๆ ไม่เห็นจะดูอัจฉริยะตรงไหนเลย!” เด็กหญิงอายากะหยิบกล่องอาหารกลางวันขึ้นมาเปิดพร้อมกับทานอาหารกลางวันด้วยท่าทางเอร็ดอร่อย
“เธอจะทำแบบนั้นจริง ๆ เหรอจ๊ะ?” เด็กหญิงยูกิถามขึ้นมาด้วยความเป็นห่วงเพราะไม่อยากจะให้อายากะก่อเรื่องแกล้งเพื่อนคนอื่นอีก
“เอาเถอะน่าฉันมีแผนของฉันก็แล้วกัน หายห่วงเถอะนะยูกิจัง”
คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ