{Fic Naruto} Behind The Scene Konoha Love Story

-

เขียนโดย LadyTyrell

วันที่ 6 ตุลาคม พ.ศ. 2560 เวลา 00.59 น.

  26 ตอน
  0 วิจารณ์
  25.46K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 6 ตุลาคม พ.ศ. 2560 02.14 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น

แชร์นิยายฟิคชั่น Share Share Share

 

23) We never know (first start)

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

          แสงแดดยามเช้าลอดผ่านมาทางใบไม้เพียงเล็กน้อยแต่ก็พอทำให้คนที่กำลังนั่งหลับพิงต้นไม้รู้สึกตัวขึ้นมาทันทีและนั่นก็ไม่ใช่เพียงเพราะแสงแดดเท่านั้น...ศีรษะของคนที่กำลังหลับน้ำลายยืดก็เป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้คาคาชิต้องนิ่วหน้าด้วยความปวดหนึบตรงกล้ามเนื้อขา

“หัวยายเจ๊โหดนี่หนักชะมัด ไม่น่าเลยเรา" โจนินผมเงินจึงพยายามเขย่าตัวคนที่นอนหนุนตักของเขาเพื่อปลุกให้เธอตื่น (สมนำหน้า5555// ไรท์)

"ฉันจะนอนต่อ!" อายากะพึมพำออกมาหลังจากที่ถูกปลุกให้ตื่น

"ถ้าเธออยากนอนต่อฉันไม่ว่าแต่ช่วยหาหมอนมาหนุนด้วยนะ ฉันปวดขา" เขาเอ่ยออกมาเรียบ ๆ แต่มันก็พอจะทำให้คนที่พยายามนอนต่อนั้นตาสว่างขึ้นมา

"ว่า-ไง-นะ!" โจนินสาวปล่อยหมัดเข้าที่เบ้าตาของคาคาชิด้วยความรวดเร็ว

"..." เขานิ่งเงียบไปชั่วอึดใจเพราะไม่รู้จะสรรหาคำไหนมาเรียกยายเจ๊โหดพลังช้างสารนี่ดี ให้ตายสิทำไมจะต้องมาเจ็บตัวแต่เช้าตรู่แบบนี้ด้วยนะ

 

          โต๊ะอาหารเช้าถูกจัดขึ้นมาอย่างเรียบง่ายหลังจากที่ผู้นำตระกูลกลับมาถึงบ้าน ทั้งนารุโตะและโนบุต่างมองหน้ากันด้วยความสงสัยว่าเจ้าหล่อนหายไปปลีกวิเวกที่ไหนมาและที่ยิ่งแปลกไปมากกว่านั้นเจ้าหล่อนก็ดูอารมณ์ดีผิดปกติต่างจากเมื่อวานอย่างลิบลับ

"อาเจ๊ไปนอนที่ไหนมาเหรอฮะ?" เด็กหนุ่มเอ่ยปากถามทั้งที่ยังเคี้ยวปลาดิบตุ้ย ๆ

"เสียมารยาท! เคี้ยวให้หมดก่อนสิยะแล้วฉันจะตอบ"

"อะไรกัน เมื่อคืนพูดจ๊ะจ๋ากับผมซะดิบดี"

"เออน่ากิน ๆ เข้าไปเลยเดี๋ยวฉันจะออกไปข้างนอกแล้ว!"

 

          อะจึ๋ยช่วยชีวิตไว้ได้อย่างหวุดหวิดเพราะตอนนี้คาคาชิยกมันขึ้นมาอ่านเพื่อปิดบังอำพรางตาข้างขวาที่ถูกอายากะซัดหมัดใส่ คงจะเป็นเรื่องน่าอายสุด ๆ หากทุกคนรู้ว่าเขาถูกต่อยเพียงเพราะพูดไม่เข้าหูแม่สาวผมส้มนั่น

"เฮ้ครูคาคาชิ~~" เสียงร่าเริงอันคุ้นหูดังขึ้นอยู่ข้างหลัง

"อรุณสวัสดิ์ค่ะครู"

"ไงนารุโตะซากุระ" ผู้เป็นครูตอบทั้งที่ยังไม่ละสายตาออกจากหนังสือ

"นี่ครูเอาแต่สนใจหนังสือนั่นจนไม่สนพวกผมเลยรึไง!"

"ก็พอดีว่ามันกำลังถึงตอนที่ตื่นเต้นน่ะฉันเลยวางลงไม่ได้ แหะ ๆ"

"นายนี่ก็! อย่าไปว่าครูคาคาชิแบบนั้นสิ ว่าแต่ครูไปไหนมาแต่เช้าเหรอคะ?" เด็กสาวผมสีชมพูถามด้วยความสงสัย ถ้าหากว่าจะไปทำภารกิจล่ะก็เจ้าครูจอมมาสายนี่คงไม่ลงทุนตื่นเช้าขนาดนี้หรอก!

"อ้อ...ไปเดินเล่นมาน่ะ"

"เน่ ๆ ครู! ตกลงครูมีแฟนรึยัง!?"

คำถามของนารุโตะทำเอาคาคาชิแทบไปไม่เป็น อะไรของเจ้าหมอนี่อีกนะขยันถามอะไรบ้าบอจริง ๆ เลย

"เจ้านารุโตะ! อย่าไปถามครูเค้าแบบนั้นสิยะ! ว่าแต่จริงมั้ยคะครู ที่แบบว่าครูคบกับพี่สาวอายุประมาณ17-18" ซากุระถามด้วยความเขินอาย

"แหมซากุระจัง...มาว่าให้ฉันตัวเองก็ถามเหมือนกันแหละน่า!" นารุโตะหน้ามุ่ยด้วยความไม่ชอบใจ

"หน็อย!" เด็กสาวหักมือดังกร๊อบก่อนที่จะซัดหมัดลงกลางศีรษะเด็กหนุ่ม

     คาคาชิได้โอกาสจึงรีบแวบหายไปแทบจะทันทีทำให้ลูกทีมทั้งสองคนเพิ่มดีกรีความสงสัยมากขึ้นไปอีก

 

 

          โจนิน2คนยืนรอเพื่อนร่วมทีมอีกหนึ่งคนที่สายโด่ขนาดนี้แล้วก็ยังไม่มาซักที ชิรานุอิ เก็นมะยืนรออย่างเงียบ ๆ ส่วนแม่เพื่อนสนิทของเขาก็เอาแต่บ่นไม่ยอมหยุด

"ถอนตัวตอนนี้ทันมั้ยเนี่ย" เขาพึมพำขึ้นมาเบา ๆ ก่อนที่จะชะเง้อคอมองหาคาคาชิจอมมาสาย

"ไงทุกคนโทษทีนะพอดีว่า-" ยังไม่ทันจะได้พูดจบ เสียงของอายากะก็ขัดขึ้นมาก่อน

"ออกเดินทางกันได้แล้ว!" เธอหันไปตวาดแว้ดใส่คนที่มาสาย

 

          ภารกิจที่ได้รับครั้งนี้เป็นภารกิจระดับ ‘S’ เพราะทั้งทีมได้รับหน้าที่ให้ลอบสังหารคนสนิทของไดเมียวแห่งแคว้นมิซึโนะคุนิที่กำลังคิดก่อกบฏเพื่อยึดอำนาจจากไดเมียวและทำสงครามกับอีกสี่แคว้นโดยพุ่งเป้ามาที่แคว้นฮิโนะคุนิเป็นอันดับแรก ซึนาเดะจึงเลือกโจนินที่หล่อนคิดว่าเหมาะสมกับภารกิจครั้งนี้ให้ไปจัดการเพราะในทีมมีถึงอดีตหน่วยลับตั้งสองคน

          นอกจากภารกิจระดับ S ครั้งนี้แล้วทั้งสามคนยังต้องได้รับภารกิจพ่วงมาอีกหนึ่งภารกิจซึ่งนั่นก็คือสำรวจความเสียหายของหมู่บ้านที่ถูกถล่มทางตอนใต้ของแคว้นมิซึโนะคุนิ

“ส่วนมากแต่ละทีมก็ได้รับแค่ภารกิจเดียว…ยายป้าซึนาเดะนี่เพี้ยนขึ้นไปทุกวันแล้ว” ฟูจิวาระ อายากะบ่นกระปอดกระแปดระหว่างเดินทางหลังจากนึกถึงภารกิจซ้อนที่ได้รับมอบหมายจากโฮคาเงะสาว

“ก็ทำไงได้ล่ะ…หมู่บ้านเราสูญเสียกองกำลังนินจาไปเยอะอยู่” ชิรานุอิ เก็นมะออกความเห็นส่วนฮาตาเกะ คาคาชินั้นเขาเพียงแค่ฟังอย่างเงียบ ๆ พร้อมกับกระโดดนำไปข้างหน้าด้วยความรวดเร็ว

“ตาแก่ลามกนั่นก็อีกคนมาสายแล้วยังจะรีบนำหน้าลูกทีมไปอีก!” พูดจบคนขี้บ่นก็รีบกระโดดตามไปติด ๆ ทำให้เพื่อนสนิทรุ่นพี่อย่างเก็นมะส่ายหัวให้กับความบ้าของเธอ

 

          ใช้เวลาได้ไม่ถึง5วัน ทีมของคาคาชิก็เดินทางมาถึงแคว้นมิซึโนะคุนิเพื่อปฏิบัติภารกิจลับสุดยอดระดับ s และพ่วงด้วยภารกิจที่ลูกทีมของเขาไม่อยากจะทำเลยนั่นก็คือการสำรวจความเสียหายของหมู่บ้านที่ถูกถล่มซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นฝีมือของพวกนินจาถอนตัว การสำรวจครั้งนี้ใช่ว่าจะไม่มีนัยยะแฝงอยู่เพราะบางทีพวกที่ทำอาจจะเป็นพวกเดียวกับที่เคยบุกถล่มหมู่บ้านทางตอนใต้ของแคว้นคาเซะโนะคุนิมาแล้วและถ้าหากว่าใช่จริง ๆ รับรองได้เลยว่าฮิโนะคุนิจะต้องเป็นรายต่อไป

          ทั้งสามคนเข้าพักในโรงแรมโดยต่างคนต่างปลอมตัวเป็นนักท่องเที่ยว คาคาชิจำเป็นที่จะต้องแปลงร่างเป็นคนอื่นที่ไม่ใช่ตัวเอง ส่วนอายากะและเก็นมะนั้นผ่านฉลุยเพราะทั้งสองไม่มีผ้าคาดปากให้ต้องปิดบัง

“ความจริงแล้วนายไม่ต้องแปลงร่างก็ได้นี่นา…ก็แค่ถอดเจ้าผ้าคาดปากนั่นออกก็สิ้นเรื่อง” ฟูจิวาระ อายากะเอ่ยขึ้นหลังจากที่ทั้งสามนั่งรออาหารมาเสิร์ฟ

“นินจาไม่เปิดเผยใบหน้าที่แท้จริงให้คนอื่นเห็นหรอก!” เสียงห้าวของเด็กหนุ่มวัยสิบเอ็ดขวบตอบกลับ

โป๊ก! โจนินสาวซัดกำปั้นน้อย ๆ ของเธอลงกลางศีรษะของเด็กหนุ่มตัวเล็กด้วยความหมั่นไส้ก่อนที่จะพูดขึ้นว่า

“พูดกับผู้ใหญ่น่ะให้มันมีหางเสียงหน่อยสิยะ เจ้าน้องคนนี้นี่!” เมื่อพูดจบก็หันไปหัวเราะคิกกับเก็นมะ

“ให้มันน้อย ๆ หน่อยอาเจ๊หน้าหนา ได้ทีนี่จัดชุดใหญ่เลยนะ…สงสารคาคาชิบ้างสิ”

“นายอยากโดนอีกคนรึไงหา?!”

“เฮ้อ…จริงจังกันหน่อยเรามาทำงานกันนะ” เสียงห้าวของเด็กชายดังขึ้นอีกครั้ง

          ฮาตาเกะ คาคาชิพบว่าตัวเองเลือกผิดมหันต์เลยทีเดียวที่แปลงร่างเป็นเด็กผู้ชายวัยสิบเอ็ดขวบ ไม่รู้ว่าตอนนั้นในหัวสมองกำลังคิดอะไรอยู่สุดท้ายถึงได้กลายสภาพมาเป็นแบบนี้ อีกไม่พอเขายังโดนยายเจ๊โหดนี่รังแกอยู่บ่อย ๆ เดี๋ยวเถอะนะถ้ากลับไปเป็นตัวเองเมื่อไหร่จะจัดการแบบทบต้นทบดอกเลยคอยดู

 

          วันแรกของการทำภารกิจลอบสังหาร คาคาชิแบ่งทีมออกเป็นสองเพื่อช่วยกันแยกไปสืบหาข่าวของคนสนิทของไดเมียวอย่างคุโรดะ คาซึกิ ซึ่งการแบ่งทีมในครั้งนี้ชิรานุอิ เก็นมะอาสาที่จะออกไปสืบข่าวเองส่วนฟูจิวาระ อายากะนั้นให้ไปกับคาคาชิในร่างเด็กน้อยวัย11ขวบ

“ความจริงแล้วให้นายไปกับเก็นมะก็ได้เหมาะแสดงเป็นพ่อลูกกันมากกว่า” สาวผมส้มเอ่ยขึ้นมาด้วยความหงุดหงิดขณะที่เดินไปตามทางเดินในตลาด

“ก็หมอนั่นรับอาสาจะไปเอง…ช่วยไม่ได้” เสียงห้าวของเด็กหนุ่มตอบกลับพร้อมกับกระชับมือที่ถูกพี่สาวชั่วคราวจูงให้แน่นมากกว่าเดิม

“นี่นาย!” หล่อนหันมามองเขาด้วยความโมโห

“ดูนั่นสิ” คาคาชิไม่ได้สนใจอารมณ์อันพุ่งพล่านของอายากะ เขาเลือกที่จะบุ้ยหน้าไปทางร้านที่ชาวบ้านต่างพากันมุงด้วยความสนใจแทน

          พี่สาวชั่วคราวอย่างอายากะจึงต้องจูงมือน้องชายเดินเข้าไปดูด้วยความรวดเร็ว แต่เมื่เดินไปถึงก็พบว่าไม่ได้มีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้นเป็นพิเศษแต่เป็นชายที่แต่งกายในชุดทหารของไดเมียวยืนอยู่ตรงนั้นเหมือนต้องการจะประกาศอะไรสักอย่างให้ทุกคนได้ทราบ

“ตอนนี้ท่านไดเมียวกำลังป่วยหนัก…พวกที่ปรึกษากำลังประชุมกันถึงเรื่องที่จะให้ท่านคาซึกิรับตำแหน่งรักษาการณ์แทนชั่วคราว” ชายผิวเข้มคนนั้นประกาศด้วยเสียงอันหนักแน่นทำให้ฝูงชนที่มุงกันต่างพากันส่งเสียงดังกันเซ็งแซ่ถึงข่าวที่เพิ่งจะได้รับ

 

          มือเรียวรินน้ำชาพร้อมกับยกขึ้นมาจิบเพื่อให้คลายความข้องใจจากข่าวที่ได้ยินมาเมื่อตะกี้นี้ ชาอุ่น ๆ ตกถึงกระเพาะอาหารทำให้คนที่เพิ่งจะกลืนชาลงคอไปรู้สึกสบายใจขึ้นมาได้แต่ก็ยังคงทำหน้านิ่วคิ้วขมวดด้วยความหงุดหงิดกับสิ่งที่ได้ยินมา

“ไม่น่าจะเป็นไปได้”

“ฉันก็คิดว่างั้น” คาคาชิสภาพปกติเอ่ยเสริมขึ้น

“จากข่าวที่ได้มาตอนนี้ทั้งแคว้นแบ่งออกเป็นสองฝั่งตามที่เรารู้ ๆ กัน” เก็นมะเอ่ยขึ้นด้วยสีหน้าเคร่งเครียด

“แสดงว่าพวกของคาซึกิก็คงต้องมีคนฝีมือดีคุ้มกันอยู่ตลอดเวลาแต่จากที่ฉันกับยายเจ๊โหดได้ยินมาเมื่อกี้นั้นค่อนข้างจะแน่ชัดว่าเจ้าหมอนั่นจัดการยึดได้แล้วหกสิบเปอร์เซ็นต์”

          แผ่นกระดาษเปล่าถูกคลี่วางไว้บนโต๊ะด้วยฝีมือของฮาตาเกะ คาคาชิ พู่กันที่ถูกเตรียมไว้ถูกหยิบขึ้นมาจุ่มน้ำหมึกสีดำด้วยความรวดเร็ว เขาวาดโครงบ้านของคาซึกิขึ้นมาอย่างลวก ๆ ก่อนที่จะเงยหน้ามองลูกทีมทั้งสองคน

“เราจะลงมือกันคืนนี้”

“แต่เรายังไม่รู้เลยนะว่าคาซึกิมีนินจาคุ้มกันรึเปล่า” อายากะออกความเห็น

"ไม่ต้องห่วงเรื่องนั้นหรอก...ฉันจัดการมาให้เรียบร้อยแล้ว" ชิรานุอิ เก็นมะยื่นแผ่นกระดาษที่มีลายมือเขียนอย่างหวัด ๆ ให้กับฟูจิวาระ อายากะอ่าน

"นายไปได้ข้อมูลแบบนี้มาได้ยังไงกันยะ!?"

"ช่างเถอะน่า...ตอนนี้เรามารีบวางแผนกันก่อนดีกว่า ดูท่าทางหัวหน้าทีมคงอยากจะกลับไปอ่านอะจึ๋ยเต็มทีแล้ว" เก็นมะพยักเพยิดหน้าไปทางคาคาชิที่กำลังทำตาปรือราวกับว่าจะหลับแหล่มิหลับแหล่

 

          เก็นมะได้รับหน้าที่ในการลอบสังหารในคืนนี้โดยมีอายากะเป็นบัดดี้ติดตามเข้าไปด้วยส่วนคาคาชิจะอยู่รอสอดแนมอยู่ข้างนอกเพราะจากข่าวที่เก็นมะหามาได้นั้น พวกนินจาถอนตัวค่อนข้างมีฝีมืออยู่พอควรแต่ติดตรงที่ว่าพวกนั้นเป็นพวกที่ไม่ค่อยชอบฟังคำสั่งของใครถึงแม้จะเป็นนายจ้างก็ตามจึงเป็นโชคดีของอายากะและเก็นมะที่จะได้แอบลักลอบเข้าไปทำภารกิจได้ง่าย ๆ

"เล็งจุดตายเอาครั้งเดียวให้อยู่หมัดเลยนะเก็นมะ" เขาหันมาสั่งลูกทีมก่อนที่จะเริ่มแยกจากกันจริง ๆ

"เออ ไว้ใจฉันได้เลย"

"ส่วนเธอ...อย่าทำเรื่องป่วน ๆ ล่ะ" เขามองไปยังลูกทีมอีกคนด้วยแววตาที่คาดเดาได้ยากว่ารู้สึกยังไงกันแน่ เป็นห่วงหรือกลัวว่าภารกิจครั้งนี้จะล้มเหลว?

"รู้แล้วย่ะ อย่ามาย้ำ!" หญิงสาวเตรียมหักนิ้วดังกร๊อบก่อนที่จะถูกเก็นมะลากตัวออกไป

 

          ร่างบางสวมชุดเสื้อผ้าของแม่บ้านที่รับใช้คนสนิทของไดเมียวอย่างคาซึกิกำลังยกถาดอาหารเดินไปยังทางเดินที่ทอดยาวสู่ตัวบ้านอันหรูหราของเจ้านาย หล่อนส่งยิ้มทักทายเพื่อนแม่บ้านรุ่นเดียวกันด้วยรอยยิ้มอันแจ่มใสจนกระทั่งเดินเข้ามาในเขตที่ปลอดผู้คนและพวกองครักษ์ ถาดอาหารเมื่อกี้ก็กลับกลายเป็นชายหนุ่มผมสีน้ำตาลเข้มที่มักจะคาบเข็มไว้เป็นเอกลักษณ์

"กะเวลาได้ดีเลยนี่" เขายิ้มด้วยความพอใจก่อนที่จะเดินตามหญิงสาวในชุดแม่บ้านไปยังจุดมุ่งหมาย

"ออกไปได้แล้ว!" ชายหนุ่มวัยกลางคนโบกมือไล่พ่อบ้านด้วยความหงุดหงิด

"คะ...ครับท่านคาซึกิ"

"อาหารตามที่ท่านคาซึกิสั่งมาแล้วค่ะ"

"เอาวางไว้ตรงนั้นแหละ...นายช่วยบอกให้เจ้าสวะพวกนั้นด้วยนะว่าฉันจ้างด้วยเงินไม่ได้ขอให้มาคุ้มกันฟรี ๆ!" พ่อบ้านวัยสี่สิบโค้งคำนับด้วยความกล้า ๆ กลัว ๆ ก่อนที่จะเดินออกไปเขาสังเกตเห็นชายหนุ่มร่างสูงยืนรออยู่ข้างนอกห้อง จึงต้องพินิจมองด้วยความแปลกใจ...

          คิดได้เพียงเท่านั้นเพราะเข็มที่ชิรานุอิ เก็นมะมักจะคาบไว้ที่ปากถูกส่งออกไปปักยังจุดสลบของพ่อบ้านวัยสี่สิบด้วยความรวดเร็ว ร่างหนาค่อย ๆ ล้มลงไปอย่างช้า ๆ แต่ก็พอที่จะทำให้คนในห้องได้ยิน

“เสียงอะไรน่ะ?!” คุโรดะ คาซึกิถามแม่บ้านสาวด้วยความตกใจเพราะตอนนี้เขารู้สึกไม่ไว้ใจใครทั้งนั้น คิดจะทำการใหญ่แบบนี้ความปลอดภัยในชีวิตยิ่งน้อยลง

“เดี๋ยวฉันออกไปดูให้ค่ะ...เชิญท่านคาซึกิทานข้าวเย็นตามสบาย” ร่างบางโค้งคำนับก่อนที่จะเดินออกไปเปิดประตูเพื่อหาที่มาของเสียงที่เพิ่งจะได้ยินเมื่อกี้

          ดวงตากลมโตสีน้ำตาลทอดมองร่างหนาของพ่อบ้านวัยสี่สิบปีด้วยความตกใจพร้อมกับเงยหน้าไปมองคนที่อยู่ตรงหน้าด้วยความสงสัยแต่ก็ได้รับการส่ายหัวตอบกลับมา นั่นก็แสดงว่าชายคนนั้นคงจะยังไม่ตายอย่างที่เธอคิดไว้ตั้งแต่แรก

“ขออนุญาตค่ะท่านคาซึกิ”

          เสียงใสของแม่บ้านสาวดังขึ้นอีกครั้งแต่คุโรดะ คาซึกิก็ไม่ได้สนใจแต่อย่างใด เขาเพียงแค่เงียบรอให้อีกฝ่ายพูดแต่ก็ไร้สุ้มเสียงใด ๆ จากคนที่เพิ่งจะขออนุญาต ชายหนุ่มหันมามองต้นตอของเสียงก็กลับพบแต่ความว่างเปล่า บางทีเขาอาจจะหูแว่ว... ไม่สิหรือว่า

          ศีรษะของเขาค่อย ๆ เอียงลงไปหาโต๊ะทานอาหารอย่างช้า ๆ ราวกับว่ากำลังจะฟุบหลับคาโต๊ะแต่ความจริงแล้วใครจะรู้ว่าเขาหมดลมหายใจไปเรียบร้อยแล้ว

“พวกนินจาถอนตัวกำลังมุ่งหน้ามาทางนี้...รีบกลับที่พักกันก่อนดีกว่า” คาคาชิในชุดทหารรีบกระซิบอายากะแทบจะทันทีเมื่อเห็นหล่อนเดินถือถาดออกมาจากบ้านของคาซึกิ

 

          ใช่ว่าภารกิจระดับเอสคราวนี้ผ่านพ้นไปแล้วจะได้กลับโคโนฮะเลยซะเมื่อไหร่เพราะยังมีอีกภารกิจที่รออยู่ทางตอนใต้ของแคว้นมิซึโนะคุนิ มือเรียวหยิบสบู่ขึ้นมาถูด้วยความใจลอยจนฟองสบู่เต็มฝ่ามือ

“เจ้าเก็นมะนะเจ้าเก็นมะ กลับมาถึงก็ออกไปเที่ยวข้างนอกอีกแล้ว บอกให้รอแค่แป๊บเดียวก็ไม่ยอม...กลับมาเมื่อไหร่นะจะอัดให้น่วมเลยคอยดู!” หยิบเสื้อผ้าขึ้นมาใส่ทีละชิ้นด้วยความหงุดหงิดเพื่อนสนิทอย่างชิรานุอิ เก็นมะที่ไม่ยอมรอออกไปพร้อมกัน

          ฟูจิวาระ อายากะทรุดนั่งลงบนเตียงพร้อมกับครุ่นคิดอะไรไปเรื่อยเปื่อย ครั้นจะตามออกไปสมทบกับเก็นมะที่กำลังเที่ยวเล่นอยู่ข้างนอกก็เริ่มจะรู้สึกขี้เกียจขึ้นมาซะแล้ว... แต่ไม่ทันไรความคิดซุกซนของเธอก็ผุดขึ้นมาในหัวสมอง ‘แหมใช่สินะ...เราไปหาเรื่องกระชากผ้าคาดปากหมอนั่นดีกว่า’

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา