รักได้ไหม ถ้าหัวใจไม่เพี้ยน
7.0
เขียนโดย NidNoii
วันที่ 7 กันยายน พ.ศ. 2560 เวลา 21.31 น.
4 ตอน
3 วิจารณ์
6,930 อ่าน
แก้ไขเมื่อ 7 กันยายน พ.ศ. 2560 21.51 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น
3) รักได้ไหม ถ้าหัวใจไม่เพี้ยน 3
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ" ป่ะ เดี๋ยวผมพาเดินดูหน้างานและแนะนำให้รู้จักกับพี่ๆในแผนก " สรรพนามที่ใช้แทนตัวเองว่า ผม ทำให้วาดชะงักไปนิดหนึ่งก่อนหันไปพยักหน้ารับคำ นี่ตกลงพี่เปรมจำน้องวาดไม่ได้จริงหรือแกล้งจำไม่ได้กันแน่
# น้องวาด
ตอนนี้ผมกำลังเดินตามผู้ชายร่างสูงที่ผมไม่คิดว่าจะได้เจอกับเขาอีก ผมยอมรับว่าในครั้งแรกที่ผมเจอพี่เขา ผมแอบดีใจอย่างบอกไม่ถูก มันเป็นความรู้สึกที่ดีจริงๆ
แต่.... ผมต้องเก็บและกลื่นความรู้สึกดีๆนั้นลงไปเพราะพี่เปรมบอกว่า ไม่รู้จักผม ก็ได้! ไม่รุ้จักก็ไม่รุ้จัก ผมจะได้สบายใจเพราะอย่างน้อยผมจะได้ทำใจยอมรับว่า พี่ปรมไม่ได้คิดถึงผม อย่างที่ผมคิดถึงพี่เขา (หือ! ตกลงน้องวาดคิดถึงพี่เปรมหราาาาาจ๊ะ ^_^)
# พี่เปรม
ตอนนี้ผมกำลังพาบุคคลที่ผมไม่คิดว่าจะได้เจอกันอีกไปที่แผนกเพื่อแนะนำให้คนในแผนกได้รู้จักและสอนงาน ตลอดที่เดินไปมันมีความรู้สึกมากมายอย่างบอกไม่ถูก มีทั้งความสึกดีใจที่ได้เจอน้องและก็มีความรู้สึกเสียใจที่ตอบปฏิเสธกับพี่พงษ์ไปว่าผมไม่รู้จักกับน้อง จนทำให้เจ้าตัวหันมาหาผมด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยคำถาม
แต่...ด้วยสาเหตุอะไรนั่นผมก็ยังตอบตัวเองไม่ได้ นี่ผมทำอะไรลงไปทั้งๆที่ดีใจมากที่ได้เจอน้อง อยากพูด อยากถาม แต่..... เฮ๊ยยยยย จบกัน
ห้องพักแผนกควบคุมการผลิต
" ไง! ไอ้เปรม ไปพาน้องฝึกงานมาแล้วเหรอว่ะ! ไหนๆสวยป่ะ! เรียกว่าให้กูเชยชมหน่อยสิ " นพหรือนพดลเพื่อนสนิทที่สุดในแผนกตะโกนถามขึ้น หลังจากที่เปรมเดินเข้ามา
นพดล จัดว่าเป็นคนที่มีนิสัยขี้เล่น กวนๆ ติดปัญญาอ่อนนิดๆ แต่เป็นคนจริงใจ คติของนพดลคือ สร้างเสียงเฮฮาคืองานหลัก
" สวยบ้าอะไรของมึง น้องไม่เป็นผู้ชายโว้ย! " ผมตะโกนกลับหามัน ทำให้มันหน้าหยิกทันที หลังจากที่ผมตะโกนตอบกลับไอ้นพแล้ว ก็หันไปบอกคนที่ยืนเด๋อๆอยู่เข้ามาทันที
" เอ้า! ยืนทำอะไรอยู่ เข้ามาสิคุณ! " (เสียงห่วนเชียวพ่อคุณ) พี่เปรมหันมาเรียกผมเข้าไปในห้อง ในใจผมอยากจะกระโดดถีบหน้าไอ้อดีตที่ว้ากนี่จริงๆเลย เรียกดีๆก็ได้ไม่เห็นต้องทำเสียงห่วนเลย
" เออ ครับ " ห่วนมาห่วนกลับ ผมไม่โกงครับ พี่มันชะงักมองหน้าผมแว๊บหนึ่ง ก่อนจะแนะนำให้ผมรู้จักกับพี่ๆในแผนก เอาตามจริงนะครับผมจำไม่ได้หมดทุกคนหรอก ผมก็เพียงแต่ยิ้มๆแล้วยกมือไหว้ตามที่พี่มันแนะคำ
V
V
V
V
" ไง จำได้ไหม " พี่เปรมหันมาถามผมหลังจากแนะนำคนสุดท้ายเสร็จ
" เออ จำได้ครับ " ผมตอบพี่มันเสียงเรียบหน้านิ่งๆตามแบบของผม แต่...ในใจทั้งแผนกมีเกือบ 20 คน จำได้ก็เทพแล้วป่ะว่ะพี่
" เฮ๊ย หน้าแบบนี้ห้ามเดินผ่านแผนกซ่อมบำรุ่งนะมึง " เสียงของคนคนหนึ่งดังขึ้น ถ้าผมจำไม่ผิดหน้าจะเป็น พี่นพ คนที่ตะโกนถามพี่เปรมตอนที่พี่มันเดินเข้ามา
" ทำไมเหรอครับพี่ " ผมถามกลับด้วยเสียงเรียบเช่นเคย
" ก็มึงจะได้กินยำตีนโดยไม่รู้ตัวอ่ะดิว่ะ 5555+" พอพี่นพพูดจบแกก็หัวเราะทันที แต่ผมไม่ตลกด้วย ผมยืนคิ้วขมวดส่งไปให้คนที่กำลังหัวเราะ จนอยากจะเดินเข้าไปกระชากคอไอ้พี่นพเข้ามาต่อยปากซะให้เข็ด
แต่...ความคิดนั้นต้องหยุดลง เพราะ.....
# พี่เปรม
" มึงหยุดหัวเราะเลยนะไอ้นพ! ถ้ามึงไม่หยุด มึงจะได้กินยำตีนกูแทน" ผมรีบตะโกนห้ามปราบไอ้นพให้หยุดหัวเราะทันที เมื่อสังเกตเห็นคนข้างๆเริ่มมีไอร้อนขึ้นเต็มที่ นี่อารมณ์มันยังร้อนเหมือนเดิมไม่เคยเปลี่ยนจริงๆสินะ แต่ก็ยังดีที่น้องมันยังพอระงับอารมณ์ไว้ได้ดีโดยที่ไม่ถะหลาเข้าไปหาไอ้นพ อย่างที่ทำกับผม ผมเริ่มเป็นห่วงสามเดือนที่น้องมันต้องอยู่ที่นี่แล้วละสิ (ง้อวววว มีห่วงน้องด้วยยย คิคิ )
" กูล้อเล่นเฉยๆ มึงก็จริงจังไปได้ไอ้เปรม! หรือมึงเป็นห่วงน้องมัน หึ " นพดล
" เออ! กูเป็นห่วง! " ผมรีบตะโกนกลับหาไอ้นพที่นั่งยิ้มทำหน้ากวนๆอยู่อย่างมั่นไส้
แต่... ห้องทั้งห้องกลับเงียบแล้วหันมามองผมกันเป็นตาเดียว รวมทั้งคนข้างๆผมด้วย
" เออ กู กู เป็นห่วง กูกลัวน้องมันจะอยู่ไม่ได้ต่างหากล่ะ เลิกมองกูแบบนี้ได้หละ " ตอนนี้ผมแถอะไรผมแถครับ แล้วมันก็ได้ผลทุกคนหันกลับไปทำงานของตัวเองกันต่อ เหลือก็แต่สายตาของไอ้เพื่อนเวรนั่นแล้วก็สายตาของคนข้างๆที่หันมองแค่แว้บเดียวแล้วหันหน้าหนีทันที ผมได้แต่ถอนหายใจแล้วรีบจูงแขนคนข้างๆให้เดินตามทันที
" แบบนี้เขาเรียกห่วงหรือหวงน๊า มีจับไม้จับมือกันด้วย ฮ่าๆ "
ยังไม่ยอมหยุดแซวอีก ไอ้เพื่อนเวร!
" ไอ้นพ!!! " ผมหันควับกลับไปตะโกนใส่หน้ามันทันที จนมันหยุดหัวเราะแล้วหันกลับไปทำงานต่อทันที
ผมเดินจูงแขนน้องมาจนถึงโต๊ะของผมที่อยู่หลังสุดผมยืนคิดอะไรต่างๆมากมาย จนกระทั่ง......
# น้องวาด
" พี่เปรม....พี่เปรมครับ " เงียบ เป็นอะไรของเขาเนี้ย ผมเริ่มหงุดหงิดแล้วนะ
" เฮ๊ยย ไอ้พี่เปรมโว้ย!! " ผมตะโกนใส่หูพี่มันทันที ได้ผลครับพี่มันรีบหันควับมาหาผมทันที ด้วยความที่ความสูงของเราสองคนเหลื่อมกันไม่มากบวกกับที่ใบหน้าของผมยังอยู่ที่หูของพี่มัน จนทำให้จมูกของผมกับพี่มันเฉียดกัน
ชะงัก! ทั้งสองคนต่างก็ชะงักกันทั้งคู่สายตาที่มองกัน มันมีความหมายต่างๆมากมายของทั้งคู่ที่แบบเก็บไว้ และไม่รู้ว่า จะได้พูดออกมาเมื่อไหร่
ทั้งคู่มองกันอยู่สักพัก.....
"อ้าว เฮ๊ย! สองคนนั้นหนะ จะยืนจ้องตากันอีกนานไหม ถ้าเป็นปลากัดคงท้องและออกลูกเป็นโหลแล้วมั้ง ฮ่าๆ"
เสียงของนพดลทำให้ทั้งสองมีสติรีบผลักออกจากกันทันที
# น้องวาด
ตอนนี้ผมกำลังเดินตามผู้ชายร่างสูงที่ผมไม่คิดว่าจะได้เจอกับเขาอีก ผมยอมรับว่าในครั้งแรกที่ผมเจอพี่เขา ผมแอบดีใจอย่างบอกไม่ถูก มันเป็นความรู้สึกที่ดีจริงๆ
แต่.... ผมต้องเก็บและกลื่นความรู้สึกดีๆนั้นลงไปเพราะพี่เปรมบอกว่า ไม่รู้จักผม ก็ได้! ไม่รุ้จักก็ไม่รุ้จัก ผมจะได้สบายใจเพราะอย่างน้อยผมจะได้ทำใจยอมรับว่า พี่ปรมไม่ได้คิดถึงผม อย่างที่ผมคิดถึงพี่เขา (หือ! ตกลงน้องวาดคิดถึงพี่เปรมหราาาาาจ๊ะ ^_^)
# พี่เปรม
ตอนนี้ผมกำลังพาบุคคลที่ผมไม่คิดว่าจะได้เจอกันอีกไปที่แผนกเพื่อแนะนำให้คนในแผนกได้รู้จักและสอนงาน ตลอดที่เดินไปมันมีความรู้สึกมากมายอย่างบอกไม่ถูก มีทั้งความสึกดีใจที่ได้เจอน้องและก็มีความรู้สึกเสียใจที่ตอบปฏิเสธกับพี่พงษ์ไปว่าผมไม่รู้จักกับน้อง จนทำให้เจ้าตัวหันมาหาผมด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยคำถาม
แต่...ด้วยสาเหตุอะไรนั่นผมก็ยังตอบตัวเองไม่ได้ นี่ผมทำอะไรลงไปทั้งๆที่ดีใจมากที่ได้เจอน้อง อยากพูด อยากถาม แต่..... เฮ๊ยยยยย จบกัน
ห้องพักแผนกควบคุมการผลิต
" ไง! ไอ้เปรม ไปพาน้องฝึกงานมาแล้วเหรอว่ะ! ไหนๆสวยป่ะ! เรียกว่าให้กูเชยชมหน่อยสิ " นพหรือนพดลเพื่อนสนิทที่สุดในแผนกตะโกนถามขึ้น หลังจากที่เปรมเดินเข้ามา
นพดล จัดว่าเป็นคนที่มีนิสัยขี้เล่น กวนๆ ติดปัญญาอ่อนนิดๆ แต่เป็นคนจริงใจ คติของนพดลคือ สร้างเสียงเฮฮาคืองานหลัก
" สวยบ้าอะไรของมึง น้องไม่เป็นผู้ชายโว้ย! " ผมตะโกนกลับหามัน ทำให้มันหน้าหยิกทันที หลังจากที่ผมตะโกนตอบกลับไอ้นพแล้ว ก็หันไปบอกคนที่ยืนเด๋อๆอยู่เข้ามาทันที
" เอ้า! ยืนทำอะไรอยู่ เข้ามาสิคุณ! " (เสียงห่วนเชียวพ่อคุณ) พี่เปรมหันมาเรียกผมเข้าไปในห้อง ในใจผมอยากจะกระโดดถีบหน้าไอ้อดีตที่ว้ากนี่จริงๆเลย เรียกดีๆก็ได้ไม่เห็นต้องทำเสียงห่วนเลย
" เออ ครับ " ห่วนมาห่วนกลับ ผมไม่โกงครับ พี่มันชะงักมองหน้าผมแว๊บหนึ่ง ก่อนจะแนะนำให้ผมรู้จักกับพี่ๆในแผนก เอาตามจริงนะครับผมจำไม่ได้หมดทุกคนหรอก ผมก็เพียงแต่ยิ้มๆแล้วยกมือไหว้ตามที่พี่มันแนะคำ
V
V
V
V
" ไง จำได้ไหม " พี่เปรมหันมาถามผมหลังจากแนะนำคนสุดท้ายเสร็จ
" เออ จำได้ครับ " ผมตอบพี่มันเสียงเรียบหน้านิ่งๆตามแบบของผม แต่...ในใจทั้งแผนกมีเกือบ 20 คน จำได้ก็เทพแล้วป่ะว่ะพี่
" เฮ๊ย หน้าแบบนี้ห้ามเดินผ่านแผนกซ่อมบำรุ่งนะมึง " เสียงของคนคนหนึ่งดังขึ้น ถ้าผมจำไม่ผิดหน้าจะเป็น พี่นพ คนที่ตะโกนถามพี่เปรมตอนที่พี่มันเดินเข้ามา
" ทำไมเหรอครับพี่ " ผมถามกลับด้วยเสียงเรียบเช่นเคย
" ก็มึงจะได้กินยำตีนโดยไม่รู้ตัวอ่ะดิว่ะ 5555+" พอพี่นพพูดจบแกก็หัวเราะทันที แต่ผมไม่ตลกด้วย ผมยืนคิ้วขมวดส่งไปให้คนที่กำลังหัวเราะ จนอยากจะเดินเข้าไปกระชากคอไอ้พี่นพเข้ามาต่อยปากซะให้เข็ด
แต่...ความคิดนั้นต้องหยุดลง เพราะ.....
# พี่เปรม
" มึงหยุดหัวเราะเลยนะไอ้นพ! ถ้ามึงไม่หยุด มึงจะได้กินยำตีนกูแทน" ผมรีบตะโกนห้ามปราบไอ้นพให้หยุดหัวเราะทันที เมื่อสังเกตเห็นคนข้างๆเริ่มมีไอร้อนขึ้นเต็มที่ นี่อารมณ์มันยังร้อนเหมือนเดิมไม่เคยเปลี่ยนจริงๆสินะ แต่ก็ยังดีที่น้องมันยังพอระงับอารมณ์ไว้ได้ดีโดยที่ไม่ถะหลาเข้าไปหาไอ้นพ อย่างที่ทำกับผม ผมเริ่มเป็นห่วงสามเดือนที่น้องมันต้องอยู่ที่นี่แล้วละสิ (ง้อวววว มีห่วงน้องด้วยยย คิคิ )
" กูล้อเล่นเฉยๆ มึงก็จริงจังไปได้ไอ้เปรม! หรือมึงเป็นห่วงน้องมัน หึ " นพดล
" เออ! กูเป็นห่วง! " ผมรีบตะโกนกลับหาไอ้นพที่นั่งยิ้มทำหน้ากวนๆอยู่อย่างมั่นไส้
แต่... ห้องทั้งห้องกลับเงียบแล้วหันมามองผมกันเป็นตาเดียว รวมทั้งคนข้างๆผมด้วย
" เออ กู กู เป็นห่วง กูกลัวน้องมันจะอยู่ไม่ได้ต่างหากล่ะ เลิกมองกูแบบนี้ได้หละ " ตอนนี้ผมแถอะไรผมแถครับ แล้วมันก็ได้ผลทุกคนหันกลับไปทำงานของตัวเองกันต่อ เหลือก็แต่สายตาของไอ้เพื่อนเวรนั่นแล้วก็สายตาของคนข้างๆที่หันมองแค่แว้บเดียวแล้วหันหน้าหนีทันที ผมได้แต่ถอนหายใจแล้วรีบจูงแขนคนข้างๆให้เดินตามทันที
" แบบนี้เขาเรียกห่วงหรือหวงน๊า มีจับไม้จับมือกันด้วย ฮ่าๆ "
ยังไม่ยอมหยุดแซวอีก ไอ้เพื่อนเวร!
" ไอ้นพ!!! " ผมหันควับกลับไปตะโกนใส่หน้ามันทันที จนมันหยุดหัวเราะแล้วหันกลับไปทำงานต่อทันที
ผมเดินจูงแขนน้องมาจนถึงโต๊ะของผมที่อยู่หลังสุดผมยืนคิดอะไรต่างๆมากมาย จนกระทั่ง......
# น้องวาด
" พี่เปรม....พี่เปรมครับ " เงียบ เป็นอะไรของเขาเนี้ย ผมเริ่มหงุดหงิดแล้วนะ
" เฮ๊ยย ไอ้พี่เปรมโว้ย!! " ผมตะโกนใส่หูพี่มันทันที ได้ผลครับพี่มันรีบหันควับมาหาผมทันที ด้วยความที่ความสูงของเราสองคนเหลื่อมกันไม่มากบวกกับที่ใบหน้าของผมยังอยู่ที่หูของพี่มัน จนทำให้จมูกของผมกับพี่มันเฉียดกัน
ชะงัก! ทั้งสองคนต่างก็ชะงักกันทั้งคู่สายตาที่มองกัน มันมีความหมายต่างๆมากมายของทั้งคู่ที่แบบเก็บไว้ และไม่รู้ว่า จะได้พูดออกมาเมื่อไหร่
ทั้งคู่มองกันอยู่สักพัก.....
"อ้าว เฮ๊ย! สองคนนั้นหนะ จะยืนจ้องตากันอีกนานไหม ถ้าเป็นปลากัดคงท้องและออกลูกเป็นโหลแล้วมั้ง ฮ่าๆ"
เสียงของนพดลทำให้ทั้งสองมีสติรีบผลักออกจากกันทันที
คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
7 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
7 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
7 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ