Infinite Stratos:"ฟันเฟืองสุดท้ายเพื่อโลกใหม่"
8.7
เขียนโดย Netales
วันที่ 28 มิถุนายน พ.ศ. 2560 เวลา 20.40 น.
5 ตอน
2 วิจารณ์
8,105 อ่าน
แก้ไขเมื่อ 28 มิถุนายน พ.ศ. 2560 21.23 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น
5) บทที่4 "คลาส1-1"
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความสายตาของนักเรียนในห้องพุ่งตรงไปยังหน้าห้องด้วยสายตาที่ต้องการจะมองให้ทะลุ ชาร์ล็อตท์นั่งมองภาพตรงหน้าด้วยสีหน้าที่บรรยายไม่ถูกระหว่างมึนงงหรือตกตะลึงดี อิจิกะกุมขมับแล้วถอนหายใจอย่างเหนื่อยหน่าย ก่อนจะเงยขึ้นมามองหน้าของบุคคลแปลกปลอมทั้งสามคนด้วยเสียงหัวเราะแห้งๆ
"เอ่อ...วันนี้เราจะมีเพื่อนใหม่กับอาจารย์ท่านใหม่จากไทยย้ายเข้ามานะจ๊ะ" มายะเอ่ยอย่างติดๆขัดๆก่อนจะผายมือมายังชายสามคนที่ยืนอยู่หน้าห้อง
สิ้นคำพูดของอาจารย์ผู้ช่วยสาว กระดานอิเล็คทรอนิคส์ด้านหลังก็ปรากฎชื่อของทั้งสามเป็นภาษาญี่ปุ่น ชายหนุ่มสองคนที่สวมชุดนักเรียนของโรงเรียนไอเอสสีดำหันมายิ้มให้กัน ก่อนที่คนที่ยืนอยู่ข้างๆมายะจะเอ่ยแนะนำตัวออกมา
"สวัสดีครับ ผมนายภานุราช ปราการกันย์ มาจากไทยครับ หรือจะเรียกว่าภารันก็ได้นะ ฝากเนื้อฝากตัวด้วยครับ" ภารันแนะนำตัวด้วยน้ำเสียงสบายๆ ริมฝีปากคลี่ยิ้มให้กับสาวๆในห้อง
"ชั้นนายไตรสิงห์ วิพาบุญราช ชื่อเล่นว่าอาทิตย์ ฝากตัวด้วยนะ" อาทิตย์แนะนำตัวแล้วยกมือขึ้นทักทายทุกคนอย่างเป็นกันเอง
"นี้ผมต้องบอกยศด้วยไหมครับเนี่ย?" ชายหนุ่มในชุดสูทสีดำหันมาถามจิฟูยุที่ยืนคุมเชิงอยู่ตรงประตูห้องด้วยเสียงที่เบาหวิว
หญิงสาวในชุดพนักงานออฟฟิสสีดำส่ายหัวเชิงบอกว่าไม่จำเป็น ชายหนุ่มเห็นดังนั้นจึงถอนหายใจออกมา แล้วหันมายิ้มให้กับเหล่านักเรียนที่ตนจะต้องมาทำการสอนตั้งแต่วันนี้
"สวัสดีนะครับนักเรียนทุกคน ครูชื่อณเรศ จันทระสุวรรณ์ จะมาทำหน้าที่ครูผู้ช่วยของห้องนี้เช่นเดียวกับอาจารย์มายะ แต่จะรับผิดชอบในวิชาภาคปฏิบัติเท่านั้น ฝากตัวด้วยนะ" ณเรศพูดด้วยน้ำเสียงที่เป็นกันเอง
แต่ก่อนที่สามหนุ่มจะได้ทำอะไรต่อ เสียงกรี๊ดกร๊าดของเหล่าสาวๆก็ดังกลบทุกอย่างในห้อง ภารันยกมือสองข้างขึ้นมาอุดหูอย่างรวดเร็วแล้วทำหน้าเหม็นเบื่อ ส่วนสองคนที่เหลือหัวเราะแห้งๆกับพฤติกรรมดังกล่าวของเด็กหนุ่ม
"ดิฉันอยากทราบว่าพวกเขาเป็นนักบินไอเอสใช่ไหมคะ! แต่ทำไมเครื่องแบบของพวกเขาถึงแตกต่างจากพวกเราละคะ!" เด็กสาวผมบรอนซ์ตบโต๊ะลุกขึ้นถามอย่างมีอารมณ์ สายตาเคลือบแคลงใจถูกส่งมาที่สองหนุ่มโดยเฉพาะ
จิฟูยุหันมามองเหล่าผู้มีปัญหาหน้าห้องด้วยสายตาที่ถามว่าพูดได้หรือไม่ เด็กหนุ่มเจ้าของโครงการส่ายหัวอย่างไม่คิดอะไรมากนัก อาจารย์ประจำชั้นสาวถอนหายใจ ก่อนจะเอ่ยปากแต่ก็ถูกขัดอีกครั้งนึง
"ขออนุญาตคะครูฝึก! ชั้นไม่คิดว่าอาจารย์ชายท่านนี้จะมีศักยภาพพอที่จะสอนพวกเราได้คะ!" เด็กสาวอีกคนที่สวมผ้าปิดตาลุกขึ้นแล้วมองณเรศด้วยสายตาเคลือบแคลงใจเช่นกัน
จิฟูยุเลิกคิ้วมองทั้งสองนิ่งๆด้วยสายตากดดันและยังไม่ยอมตอบอะไรออกมา
"กรุณาตอบด้วยค่ะ! อาจารย์โอริมูระคะ!"
"ครูฝึกคะ!"
เสียงหัวเราะแห้งๆถูกส่งออกมาจากปากของสี่หนุ่ม จิฟูยุเริ่มหงุดหงิดที่ทั้งสองยังไม่ยอมหยุดถามคาดคั้นเธอซักที
"เงียบซ่ะ! อัลค็อตท์! โบเดวิช! พวกเธอสองคนนั่งลงเดี๋ยวนี้! ส่วนพวกนายก็เข้าที่ได้แล้ว! การเรียนการสอนวันนี้จะได้เริ่มกันซ่ะที" จิฟูยุตวาดเอ่ยหยุดการถามคำถามของสองสาว แล้วไล่สองหนุ่มตัวปัญหาไปนั่งที่
ภารันกับอาทิตย์พยักหน้ารับเบาๆแล้วเดินไปยังที่ว่างด้านหลังห้องที่ถูกจัดให้เฉพาะกับพวกตน ส่วนณเรศก็เดินถอยไปยืนข้างๆจิฟูยุที่ถอนหายใจอย่างเหนื่อยหน่ายแล้วส่งรอยยิ้มแห้งๆไปให้
"เด็กสองคนนั้นร่าเริงดีนะครับ ฮ่ะๆ"
"หัวรั้นละสิไม่ว่า" กล่าวจบจิฟูยุก็ถอนหายใจอีกครั้ง
เมื่อมายะเห็นว่าเสียงต่างๆในห้องเงียบลงแล้ว เหลือเพียงแค่สายตาไม่ชอบใจของสองสาวที่มองไปยังนักเรียนใหม่เท่านั้น ตนจึงตัดสินใจเริ่มการเรียนการสอนของวันนี้
"ถ้าไม่มีอะไรแล้ว...เริ่มการเรียนของวันนี้กันเถอะคะ เปิดไปหน้าที่254..."
คาบวิชาภาคปฎิบัติ ก่อนพักเที่ยง
เหล่านักเรียนภาควิชาหลักเปลี่ยนชุดเป็นชุดสูทสำหรับไอเอสแล้วมายืนรวมกันที่สนามฝึก สองหนุ่มในชุดไพล็อตสูทเดินตามอาจารย์ทั้งสามท่านมาแล้วเดินเข้าไปรวมกับคนในห้อง สายตาของนักเรียนหลักสูตรไอเอสจ้องมองทั้งสองด้วยสายตาที่ฉายแววสงสัยออกมาเต็มที่ ชุดไพล็อตสูทที่ทั้งสองใช้เป็นแบบสวมคลุมทั้งตัวต่างจากของไอเอสที่คล้ายกับชุดว่ายน้ำแบบสปอร์ต หมวกกันน็อคถูกพาดไว้ที่ไหล่อย่างสบายใจ ไม่สนสายตาของคนรอบข้างที่มองมา
จิฟูยุในชุดวอร์มกวาดสายตาเหล่านักเรียนในห้องอย่างปกติ ก่อนจะหันมามองมายะในชุดวอร์มเช่นตนและณเรศที่ใส่ชุดฝึกแบบทหารแต่ไม่ใส่เสื้อชั้นนอกทับ มือขวาของหล่อนยกขึ้นมากวักเรียกภารันกับอาทิตย์ให้ออกมายืนข้างนอกของแถว
"มีอะไรหรอครับอาจารย์โอริมูระ?" อาทิตย์ถามอาจารย์สาวอย่างงุนงง จิฟูยุไม่ตอบอะไรแต่หันไปมองเหล่านักเรียนที่เหลือแล้วกล่าวออกมา
"วันนี้เราจะเรียนเรื่องการป้องกันตัวกัน! แต่คนที่จะคุมการฝึกวันนี้จะไม่ใช่ชั้นหรอกนะ เป็นอาจารย์จันทระสุวรรณ์ เข้าใจใช่ไหม!" จิฟูยุพูดแล้วผายมือมาทางณเรศที่ยืนทำหน้าเหลอหราอยู่ข้างๆ
"ผมรึ?" ณเรศถามแล้วชี้นิ้วมาที่ตนเอง จิฟูยุไม่ตอบแต่พยักหน้าให้ เสียงพ่นลมหายใจเบาๆดังขึ้นจากปากชายหนุ่ม ก่อนที่ร่างสูงจะเดินขึ้นมาแทนที่อาจารย์สาว
"อา...สวัสดีอีกครั้งนะนักเรียนทั้งหลาย เรียกอาจารย์ว่าอาจารย์ณเรศก็ได้นะ แต่อย่าเรียกนามสกุลอาจารย์ละกัน มันดูแปลกๆนะ ส่วนไอสองหน่อนั้นนะ แยกไปอยู่ตรงนั้นก่อนเลยไป!" ณเรศเอ่ยกับเหล่านักเรียนในแถวก่อนจะหันไปชี้เด็กหนุ่มทั้งสองที่ยืนอยู่ข้างสนาม แล้วจึงหันกลับมาพูดกับนักเรียนของตนต่อ
"ก่อนจะเริ่มการฝึกกัน อาจารย์เชื่อว่าหลายๆคนคงยังมีคำถามที่คาใจอยู่ ยกมือขึ้นถามอาจารย์มาได้เลย อาจารย์จะตอบก่อนจะไปเริ่มการฝึกกัน" กล่าวจบ เด็กสาวผมสีเงินที่สวมผ้าปิดตาก็ยกมือขึ้นทันที อาจารย์หนุ่มมองหน้าเด็กสาวแล้วนึกชื่อของหล่อนในใบรายชื่อที่ตนได้อ่านมาก่อนหน้านี้
"เชิญครับคุณโบเดวิช" เมื่อนึกออก ณเรศก็พูดแล้วชี้มือไปที่เด็กสาวอย่างไม่คิดอะไรมาก
"ขออนุญาติค่ะ ชั้นอยากรู้ว่าคุณมีอะไรมายืนยันว่าคุณจะสามารถสอนพวกเราได้คะ...อย่างครูฝึกเคยเป็นแชมป์ในโมโนกอซโซ่ครั้งที่1 หรืออย่างอาจารย์ยามาดะที่เคยเป็นผู้มีสมัครเป็นตัวแทน แล้วตัวอาจารย์ละคะมีอะไรที่สามารถทำให้พวกเราเชื่อได้ว่าคุณจะสอนพวกเราได้ดี?" ลอว์ร่าถามณเรศอย่างจริงจัง
สิ้นคำถาม เสียงหัวเราะก็ดังออกจากปากของอาจารย์หนุ่ม สร้างความงุนงงให้กับลอว์ร่า ก่อนที่มันจะแปรเปลี่ยนเป็นความไม่พอใจของเด็กสาวผมเงินคนนี้
"มีอะไรน่าหัวเราะรึไงคะ!"
"โทษทีๆ พอดีรู้สึกดีใจนะที่เจอเด็กแบบเธอเข้า เลยเผลอหัวเราะออกมาจนได้" ณเรศพูดแล้วยกมือขอโทษขอโพยร่างบางตรงหน้า ก่อนจะกระแอ้มไอเพื่อรักษามาดอาจารย์เอาไว้
"เธออยากรู้สินะว่าอาจารย์มีดีกรีดีแค่ไหนที่สามารถมาสอนพวกเธอได้" ชายหนุ่มพูดไปยิ้มไปอย่างอารมณ์ดี
"อาจารย์ขอพูดเลยนะว่าถ้าจะให้สอนเธอเกี่ยวกับเรื่องไอเอสเช่นการควบคุมอะไรพวกนั้นน่ะ อาจารย์ทำไม่ได้หรอกนะ แต่ถ้าเกี่ยวกับการต่อสู้ที่จะเอาไปประยุกต์ใช้กับไอเอสได้ละก็ มันก็อีกเรื่องเลย" ณเรศตอบแล้วจ้องเข้าไปที่ดวงตาของเด็กสาวด้วยท่าทีจริงจัง ก่อนจะตบเท้าเข้าหากันแล้วยกมือวันทยหัตย์แบบทหาร
"ขอแนะนำตัวอีกครั้ง อาจารย์ชื่อเรืออากาศโทณเรศ จันทระสุวรรณ์ ตำแหน่งผู้ประสานงานโครงการพิเศษระหว่างประเทศ สังกัดหน่วยจู่โจมพิเศษทางอากาศของกองทัพอากาศแห่งราชอาณาจักรไทย หวังว่าเธอคงจะยอมรับอาจารย์แล้วนะคุณโบเดวิช" สิ้นคำพูดของณเรศ ลอว์ร่าก็พยักหน้ายิ้มอย่างยอมรับ
"ถ้าไม่มีอะไรแล้ว งั้นก็-"
"เดี๋ยวก่อนค่ะอาจารย์ณเรศ! ดิชั้นมีข้อสงสัยค่ะ!" เด็กสาวคนหนึ่งเอ่ยขัดณเรศด้วยเสียงอันดังลั่น ร่างสูงถอนหายใจแล้วจ้องไปที่เซซิลเลียอย่างเบื่อหน่าย
"ครับๆ เชิญว่ามาเลยครับคุณอัลค็อตท์" สิ้นคำพูดของอาจารย์หนุ่ม ร่างบางก็ตวัดมือชี้ไปที่สองหนุ่มที่ยืนอยู่ข้างสนาม
"ดิชั้นสงสัยคะว่าพวกเขาใช่นักบินของไอเอสหรือเปล่าค่ะ!?" เซซิลเลียพูดแล้วมองหน้าสองหนุ่มอย่างเอาเรื่อง ตัวปัญหาทั้งสองมองหน้ากันแล้วยักไหล่อย่างไม่ใส่ใจ
"ไม่ใช่หรอก" ณเรศตอบแล้วหรี่ตาจ้องไปที่หน้าของเด็กสาว
"งั้นทำไมพวกเขาถึงเข้ามาในโรงเรียนนี้ละคะ!"
"เมื่อกี้อาจารย์พูดไปแล้วใช่ไหมว่าอาจารย์มีตำแหน่งเป็นผู้ประสานงานโครงการพิเศษระหว่างประเทศนะ" ร่างบางฟังแล้วพยักหน้ารับ เมื่อไม่เห็นปฎิกิริยาต่อต้าน ณเรศจึงเริ่มพูดต่อ
"ถ้างั้น เพื่อให้ง่ายต่อการอธิบายของอาจารย์...คุณโอริมูระออกมานี้" ว่าจบ ชายหนุ่มก็กวักมือเรียกให้อิจิกะเดินออกมา
"ผมเกี่ยวอะไรด้วยนะพี่ณเรศ" อิจิกะเดินออกมาแล้วถามณเรศอย่างสงสัย
"ที่โรงเรียนเรียกพี่ว่าอาจารย์ด้วย เอ้า! หันหน้าไปนู้น!" ณเรศพูดอย่างอ่อนใจแล้วจับอิจิกะหมุนตัวให้หันไปหาสาวๆ
"อย่างที่พวกเธอรู้ๆกันอยู่ว่ามีแต่ผู้หญิงเท่านั้นที่สามารถขึ้นขับไอเอสได้...ส่วนเจ้าหมอนี้...โอริมูระ อิจิกะ ผู้ชายคนเดียวในโลกตอนนี้ที่สามารถขึ้นขับไอเอสได้ หมอนี้ถือเป็นบุคคลที่มีความสำคัญมากในตอนนี้ แต่ประชากรชายที่สามารถขับไอเอสได้ก็ยังมีแค่หมอนี้คนเดียวอยู่ดี" ขณะพูดก็ตบไหล่อิจิกะหนึ่งที
"รู้ใช่ไหมว่าพอไอเอสโผล่มา กองทัพทั่วโลกก็ปรับลดจำนวนของยุทธโทปกรณ์ทางการรบลง และยังลดความสำคัญของทหารชายในกองทัพลงด้วย แต่ด้วยสัญญาอลาสก้า ทำให้ยังไม่มีประเทศไหนเอามันไปใช้ในการรบได้ก็จริงเถอะ" เหล่านักเรียนที่ยืนฟังอยู่ก็พยักหน้ารับอย่างเห็นด้วย
"ฉะนั้น ทางไทยเมื่อเห็นว่าถ้าขืนปล่อยไว้แบบนี้มันก็เปลืองงบประมาณประเทศที่จะต้องใช้ในการดูแลเจ้าพวกนี้ซ่ะเปล่าๆ แถมถ้าให้ปลดทหารชายในกองทัพบางส่วนออกอีก ทางนี้ก็จะถือว่าเสียกำลังพลที่ใช้ในการกำกับดูแลและป้องกันประเทศไปเลย งั้นจะให้ทำยังไงละ? ขืนมีผู้ก่อการร้ายใช้ไอเอสในการก่อการขึ้นมา ภาคกลางไม่ค่อยน่าห่วงหรอก มีทั้งกำลังทหารและโรงเรียนไอเอสอยู่ แต่บริเวณสามชายแดนที่พวกผู้ก่อการร้ายชุกชุมละ? บริเวณนั้นทหารรักษาการส่วนใหญ่มีแต่ผู้ชายทั้งนั้น ขืนมันเอาไอเอสบุกมาทีนี้ ตาย! ยังไงก็ตายแน่ๆ สุดท้ายจึงมีคำสั่งลงมาให้หาวิธีที่จะป้องกันเหตุโดยไม่พึ่งไอเอสหากเกิดกรณีสุดวิสัยขึ้นมายังไงละ เฮ้อ..." ร่างสูงพูดอย่างใส่อารมณ์ก่อนจะถอนหายใจออกมา สายตากวาดมองเหล่านักเรียนที่เริ่มคิดตามที่ตนพูดออกไป มือขวาถูกยกขึ้นมากวักเรียกสองหนุ่มให้เดินเข้ามาหาตน ก่อนจะตบไหล่สองหนุ่มจนส่งเสียงครางอย่างเจ็บปวดออกมาหนึ่งที
"เจ้าสองคนนี้คือผลลัพท์จากเหตุการณ์ที่อาจารย์ได้กล่าวมาเมื่อกี้...นี้คือนักบินทดสอบของเกราะรุ่นใหม่ล่าสุดที่ไทยพัฒนาขึ้น โดยพวกเขาถูกส่งมาเพื่อเก็บข้อมูลการทดสอบที่โรงเรียนแห่งนี้ตามโครงการที่ไทยได้ทำกับทางญี่ปุ่นไว้ ซึ่งอาจารย์ก็เป็นนักบินทดสอบคนหนึ่งด้วยเช่นกัน หมดคำถามแล้วใช่ไหมคุณอัลค็อตท์?" ณเรศถามเด็กสาวผมบรอนซ์ที่ยังคงทำหน้าเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่งอยู่ เสียงพูดคุยกระซิบกระซาบของเหล่าสาวๆดังขึ้นหลังจากฟังเรื่องน่าเหลือเชื่อจากปากของณเรศ จิฟูยุมองเซซิลเลียที่ยังคงไม่เชื่อในสิ่งที่อาจารย์หนุ่มพูดมากนัก หญิงสาวหันไปมองอาจารย์ผู้ช่วยสาวผมเขียวแวบหนึ่ง ก่อนจะตัดสินใจเอ่ยอะไรบางอย่างออกมา
"เพื่อยืนยันในสิ่งที่อาจารย์จันทระสุวรรณ์พูด...ยามาดะคุง ช่วยเป็นคู่ต่อสู้ให้กับวิพาบุญราชเขาหน่อยได้ไหม?"
"อ-เอ๋! ช-ชั้นหรอคะ!"
"ห่ะ!?"
มายะกับอาทิตย์สะดุ้งตัวทันทีที่จิฟูยุพูดเช่นนั้น ทั้งสองหันมามองหน้ากันแล้วเริ่มพูดอึกอัก เด็กหนุ่มเกาผมที่ถูกทำเป็นไฮไลต์สีดำขาวเพื่อแก้อาการประหม่า ก่อนจะก้มหัวโค้งตัวให้กับผู้ช่วยอาจารย์สาว
"เอ่อ...ขอความกรุณาด้วยครับอาจารย์ยามาดะ"
"อ-เอ่อ...เช่นกันจ๊ะ วิพาบุญราชคุง..."
ว่าจบ แสงสีขาวก็ปกคลุมร่างของสาวผมเขียวทั้งหมด ก่อนจะปรากฎร่างของมายะอยู่กลางเกราะสีเขียวเข้มขนาดใหญ่ ผู้ช่วยอาจารย์สาวที่สวมใส่ไอเอสรุ่นผลิตจำนวนมาก'Rafale Revive'แล้วนั้น ขยับตัวเดินเข้ามาหาอาทิตย์ที่ยังคงยืนนิ่งมองตนอยู่
"เธอพร้อมหรือยังจ๊ะ" อาทิตย์ยังคงนิ่งเงียบไม่ตอบมายะ แต่สายตาของเด็กหนุ่มกลับเบนไปจ้องภารันที่ยืนทำหน้าครุ่นคิดอยู่ข้างๆณเรศ
แว่นของภารันสะท้อนแสงมองไม่เห็นดวงตา มือซ้ายถูกยกมาดันแว่นครั้งหนึ่งก่อนจะพูดกับอาทิตย์ด้วยน้ำเสียงเด็ดขาด
"ซิกม่า02รับคำสั่ง! การซ้อมครั้งนี้ไม่อนุญาตให้ใช้เครื่องประจำตัว อนุญาตให้ใช้เครื่องในรหัส'GAT Series'ในการทดสอบเท่านั้น! 'Striker Pack'ทั้งหมดสามารถใช้งานได้ตามเห็นสมควร...อย่าให้ขายหน้าละไอเพื่อนยาก"
"โรเจอร์!" สิ้นคำรับทราบ หมวกกันน็อคถูกสวมเข้าที่ศีรษะของเด็กหนุ่ม หน้าจอสีฟ้าใสปรากฎออกมาให้อาทิตย์ปรับแต่งอะไรบางอย่างซักพัก ก่อนที่มันจะหายไป
"Transformation..." ชิ้นส่วนเกราะจำนวนมากโผล่ออกมาจากอากาศธาตุอย่างรวดเร็ว ก่อนที่ทั้งหมดจะพุ่งเข้าไปสวมกับอาทิตย์ที่ยืนนิ่งอยู่ ร่างสีเทาที่มีแบ็คแพ็คติดอาวุธหนักขนาดใหญ่สีดำปรากฎออกมาให้ทุกคนในบริเวณนั้นเห็น เสียงฮือฮาของสาวๆดังขึ้นอย่างตกใจ อิจิกะที่ยืนมองอยู่หันสลับไปมาระหว่างพวกภารันกับอาทิตย์ด้วยความตื่นตะลึง ก่อนที่เกราะสีเทาทั้งหมดจะเปลี่ยนสีกลายเป็นสีขาวดำอย่างรวดเร็ว ปีกขนาดยักษ์สะท้อนเข้ากับแสงแดดตอนใกล้เที่ยง มือขวาของชุดเกราะถือไรเฟิลกระบอกนึงที่ปากกระบอกดูแปลกๆ โล่มือถือขนาดใหญ่ที่มือซ้ายที่ติดตั้งปืนแกตลิ่งเอาไว้หมุนลำกล้องเพื่อเช็คความพร้อมของอุปกรณ์
"พร้อมแล้วครับอาจารย์" เสียงของอาทิตย์ดังออกจากลำโพงของตัวเกราะช่วยเรียกสติของมายะที่กำลังตกอยู่ในสภาวะตะลึงงันให้กลับคืนมา
"จ-จ๊ะ" ร่างทั้งสองพุ่งขึ้นไปบนท้องนภาด้วยความเร็วที่ไม่ได้ต่างกันมากนัก เหล่าคนดูข้างล่างเงยหน้ามองดูทั้งสองที่บินไต่ระดับความสูงขึ้นไปเรื่อยๆ จิฟูยุเหลือบตาไปมองสองศิษย์อาจารย์ที่ยิ้มมุมปากเล็กๆอยู่ด้านหลังของหล่อนโดยมีอิจิกะยืนอ้าปากค้างอยู่ใกล้ๆ
"ภารัน อธิบายให้นักเรียนคนอื่นๆฟังหน่อยสิว่าเกราะที่เพื่อนเธอใช้อยู่คืออะไร"
"อา...ได้ครับ" เด็กหนุ่มพยักหน้ารับแล้วยกมือขึ้นดันแว่นตาอีกครั้ง
"ที่ทุกคนกำลังเห็นอยู่นั้นคือเกราะชนิดใหม่ล่าสุดที่ไทยคิดค้นขึ้น ถูกเรียกสั้นๆว่าโมบิลสูท เรื่องอื่นเกี่ยวกับมันเดี๋ยวค่อยไปฟังในคาบบ่ายเอา" ภารันพูดขณะที่คู่ต่อสู้ทั้งสองบนท้องฟ้าเริ่มการต่อสู้
"ชุดเกราะที่อาทิตย์ใช้อยู่มีชื่อว่า'GAT-X105E Strike E' เป็นชุดเกราะประเภท'Gundam Type' ตัวเกราะของชุดเป็น'Variable Phase Shift armor'ที่ปรับค่าพลังงานที่ใช้และพลังป้องกันของเกราะขณะที่ต่อสู้อยู่ได้ มีระบบพิเศษคือการใช้งานสไตรเกอร์แพ็ค โดยแพ็คที่ใช้งานอยู่ในขณะนี้คือ'AQM/E-M1 Integrated Weapon Striker Pack'หรือเรียกย่อๆว่า'IWSP' เป็นแพ็คที่รวมความสามารถของสไตรเกอร์แพ็คพื้นฐานทั้งสามเข้าไว้ด้วยกันนั้นเอง" สิ้นคำพูดของเด็กหนุ่ม การต่อสู้บนฟ้าก็เริ่มทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ
ย้อนกลับไปก่อนหน้านี้เล็กน้อย บริเวณน่านฟ้าเหนือสนามฝึก
ทั้งสองบินขึ้นไปจนถึงระดับความสูงที่พอเหมาะ ราฟาลรีไวฟ์ของมายะเรียกปืนกลกระบอกนึงออกมาถือไว้ สายตาของหล่อนจับจ้องไปยังโมบิลสูทด้านหน้าอย่างระแวดระวัง
"จ-จะเริ่มละนะคะ!"
"มาเลยครับ!"
ปังๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ!
ปากกระบอกปืนกลชี้ไปที่สไตร์อีทันทีที่เริ่มการต่อสู้ อาทิตย์เร่งเวอร์เนียทรัสเตอร์ใต้ปีกกับด้านหลังของไอดับบลิวเอสพีให้ตีโค้งไปมาเพื่อหลบหลีกคมกระสุนจำนวนมากที่พุ่งเข้ามาหาตน เด็กหนุ่มกระชับปืนในมือพาดกับโล่ขนาดใหญ่ในมือซ้าย เป้าเล็งสีเขียวปรากฎบนจอภาพในหน้าจอของเจ้าตัว ก่อนจะล็อคเป้าไปที่มายะที่ยังคงสาดกระสุนใส่ตน
"เสร็จผมละ!"
ฟิ๊ว! ฟิ๊ว! ฟิ๊ว! ฟิ๊ว!
บีมไรเฟิลกำลังสูงถูกกระหน่ำยิงจากในมือขวาของหุ่นสีขาวดำเพื่อโต้กลับ อนุภาคบีมยิงปะทะเข้ากับบาเรียของหญิงสาว พลังงานที่ถูกจ่ายไปยังส่วนของบาเรียลดลงไปเรื่อยๆอย่างรวดเร็ว เมื่อเห็นว่าฝ่ายตรงข้ามเริ่มที่จะได้เปรียบ มายะจึงตัดสินใจเปลี่ยนกลยุทธ์เป็นบุกเข้าไปหาเด็กหนุ่มด้วยความเร็วสูงแทน
"ชิ!" บีมที่เคยยิงถูกหญิงสาวตอนนี้กลับวืดหมด ระยะห่างระหว่างตนกับผู้ช่วยอาจารย์สาวใกล้เข้ามามากขึ้นเรื่อยๆ เด็กหนุ่มเก็บบีมไรเฟิลแล้วคว้าบีมบูมเมอร์แรงค์'Midas Messer'ที่โล่ปาใส่มายะ
หญิงสาวเบรกเครื่องกระทันหันกลางอากาศ บีมบูมเมอร์แรงค์แฉลบผ่านบาเรียไปอย่างฉิวเฉียด ในวินาทีที่หญิงสาวเสียการทรงตัว ห่ากระสุนจากปืนแกตลิ่งที่โล่ของฝ่ายตรงข้ามก็พุ่งเข้าใส่หล่อนขณะที่ไมดาสเมสเซอร์ก็วกกลับไปหาเด็กหนุ่ม
สถานการณ์ฝั่งอาทิตย์เริ่มพลิกกลับมาได้เปรียบอีกครั้ง หญิงสาวบินตีโค้งหลบกระสุนจากปืนแกตลิ่งที่เด็กหนุ่มสาดใส่ ไมดาสเมสเซอร์ถูกขว้างเพื่อสกัดกั้นการเคลื่อนไหวของหญิงสาวพร้อมๆกับเร่งเวอร์เนียทรัสเตอร์พุ่งเข้าไปหาคู่ต่อสู้แล้วปลดโล่ขนาดใหญ่ออกไป
ดาบต่อต้านยานรบขนาดเล็กทั้งสองเล่มถูกปลดออกมาถือเอาไว้ในมือของสไตร์อีขณะที่เข้าประชิดเป้าหมาย บีมบูมเมอร์แรงค์ถูกมายะปัดตกพร้อมๆกับที่อาทิตย์เข้ามาประชิดตัวหล่อน
"ว๊ายยยยย!" มายะร้องเสียงหลงออกมาเมื่อเจอกับแรงปะทะ ใบดาบเหล็กเข้าปะทะกับบาเรียอย่างจัง เด็กหนุ่มกระหน่ำฟันจนบาเรียของฝั่งตรงข้ามลดลงถึงขีดแดง ดาบสุดท้ายถูกง้างขึ้นเตรียมฟันไปที่เป้าหมาย โชคร้ายที่ฝั่งตรงข้ามตั้งตัวทัน มายะเรียกปืนยิงลูกระเบิดออกมาถือแทนแล้วยิงใส่อาทิตย์ในระยะประชิด
"อย่าหวังเลยครับอาจารย์!" ฝั่งเด็กหนุ่มก็ไม่น้อยหน้า เวอร์เนียทรัสเตอร์ใต้ฝ่าเท้าถูกเร่งขึ้นมาทันควัน ร่างของสไตร์อีหมุนคว้างเป็นวงกลมกลางอากาศหลบลูกระเบิดนั้นได้ฉิวเฉียด
ตู้ม!
แรงระเบิดช่วยส่งให้สไตร์อีลอยขึ้นสูงเหนือศีรษะของราฟาลรีไวฟ์ เวอร์เนียทรัสเตอร์ที่ฝ่าเท้าถูกเร่งขึ้นอีกครั้งทำให้ตัวของอาทิตย์หมุนกลับมาทางมายะในสภาพที่มองเห็นเป้าหมายจากด้านบน เป้าเล็งสีเขียวปรากฎขึ้นอีกครั้ง เรลกันบนไอดับบลิวเอสพีทั้งสองกระบอกก็เหนี่ยวไกยิงใส่หญิงสาวโดยฉับพลัน
"Checkmate!"
ซู่ม!! ตู้ม!!
"กรี๊ดดดดดด!" กระสุนกระทบเข้ากับบาเรียเข้าอย่างจัง พลังทำลายของเรลกันทั้งสองนัดทะลุบาเรียที่หุ้มอยู่จนไม่เหลือชิ้นดี และพลังงานส่วนที่เหลืออยู่ก็ยังคงพุ่งเข้าไปหาหญิงสาวอย่างกระชั้นชิด คอร์ของราฟาลรีไวฟ์บังคับเปิดการใช้งานของ'Absolute Defense'เพื่อปกป้องชีวิตของนักบิน กระสุนที่พุ่งมาเข้าปะทะกับเกราะดังกล่าวแล้วสลายไปพร้อมๆกับการชัทดาวน์ของเกราะ ตัวเกราะกลับไปอยู่ในสภาพ'Close From'ทันทีที่การโจมตีสลายไป ร่างที่ไร้สติของมายะร่วงหล่นลงไปด้านล่างด้วยความเร็วสูง เสียงกรีดร้องของเหล่าสาวๆเบื้องล่างดังออกมาด้วยความตกใจ
จิฟูยุขมวดคิ้วแล้วหันไปมองรอยยิ้มไม่ยีระของสองศิษย์อาจารย์ เหล่านักเรียนผู้มีเครื่องส่วนตัวเห็นภาพดังกล่าวก็เตรียมเรียกไอเอสของตัวเองออกมาเพื่อจะช่วยผู้ช่วยอาจารย์สาวประจำห้อง แต่จิฟูยุก็เอ่ยปรามแล้วบอกให้มองดูเท่านั้น
"แย่แล้ว!" อาทิตย์รีบกางฝ่ามือยิงจรวดตะขอไปพันร่างของหญิงสาวที่กำลังร่วงลงไปเอาไว้ เด็กหนุ่มออกแรงกระชากลวดให้ร่างของมายะลอยเข้าสู่อ้อมกอดของตน นิ้วชี้ของอาทิตย์จิ้มไปที่หลังตนคอของสาวผมเขียวเบาๆ กระแสไฟฟ้าจากปลายนิ้วของสไตร์อีช็อตมายะเบาๆเพื่อให้หล่อนตื่นขึ้นจากสถานะสลบ
"ตื่นได้แล้วครับอาจารย์ยามาดะ" อาทิตย์พูดเมื่อเห็นว่าหญิงสาวยังคงสะลึมสะลืออยู่ เมื่อสติของมายะเริ่มเข้าที่เข้าทาง ดวงตาของหล่อนก็กวาดตรวจสอบสถานการณ์รอบด้าน เมื่อเห็นว่าตนยังคงลอยอยู่บนอากาศทั้งๆที่ไม่มีไอเอส ตัวหล่อนจึงหันมามองมือที่ยังคงอุ้มตนเองในท่าอุ้มเจ้าสาวเอาไว้
ดวงหน้างามหลังกรอบแว่นแดงยังกับมะเขือเทศ เจ้าตัวก้มหน้าหลบสายตาของเหล่านักเรียนหนักยิ่งขึ้นกว่าเดิมเมื่อเหล่านักเรียนของตนด้านล่างผิวปากแซวเธอกันอย่างสนุกสนาน พวกอิจิกะถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งใจ สองศิษย์อาจารย์ตัวป่วนหันมายิ้มให้กันและยักไหล่กันอย่างชิลๆ จิฟูยุมองภาพบนฟ้าแล้วส่ายหัวอย่างอ่อนใจ
ร่างสีขาวดำที่อุ้มหญิงสาวไว้ในอ้อมกอดค่อยๆล่อนลงมาแล้วหยุดยืนบนพื้นของสนามฝึก สีของเกราะกลับคืนสู่สภาพสีเทาอีกครั้ง โมบิลสูทถูกปลดออกทันทีที่ถึงพื้น เด็กหนุ่มยังคงอุ้มผู้ช่วยอาจารย์สาวผมเขียวเอาอย่างอ่อนโยน น้ำเสียงสำนึกผิดของเขายิ่งทำให้ดวงหน้าของหล่อนยิ่งแดงเถือกมากกว่าเดิม
"ผมขอโทษด้วยจริงๆนะครับอาจารย์ยามาดะ ที่ผมสู้ไม่ระวังจนอาจารย์เกือบเป็นอะไรไป ว่าแต่อาจารย์บาดเจ็บตรงไหนหรือป่าวครับ?"
"อ-เอ่อ...อาจารย์ไม่เป็นอะไรจ๊ะ...ขอบคุณนะที่ช่วยอาจารย์เอาไว้น่ะจ่ะ" มายะตอบเด็กหนุ่มด้วยน้ำเสียงเขินอาย บรรยากาศหวานๆปกคลุมคนทั้งสองโดยไม่รู้ตัว
"สวีทกันพอรึยังนะสองคนนั้น" จิฟูยุเดินมาพูดด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง ได้ยินเช่นนั้นเด็กหนุ่มก็รีบพยุงให้ผู้ช่วยอาจารย์สาวกลับมายืนบนพื้นอย่างรวดเร็ว ก่อนจะเกาแก้มอย่างเขินอาย
"ที่นี้เห็นแล้วใช่ไหมว่าทำไมพวกเขาถึงย้ายเข้ามาเรียนที่นี้นะ! มีใครจะคัดค้านอะไรไหม?" อาจารย์ประจำชั้นสาวหันไปถามเหล่านักเรียนที่เหลือด้วยน้ำเสียงอันดัง ไม่มีใครออกมาคัดค้านเมื่อเห็นถึงประสิทธิภาพของโมบิลสูทและความสามารถของไพล็อต จิฟูยุพยักหน้าด้วยความพอใจ ก่อจะหันไปหาณเรศแล้วเอ่ยปากพูดด้วยน้ำเสียงเฉียบขาด
"หมดเวลาพักแล้วอาจารย์จันทระสุวรรณ์"
"คร้าบๆ เอ้า! พวกหนุ่มๆเข้าที่ได้แล้ว เราจะได้เริ่มการฝึกกันเสียที" ณเรศพูดพลางไล่สามหนุ่มกลับเข้าไปในแถว
"ช่วงเที่ยงไปกินข้าวด้วยกันไหมอิจิกะ" ภารันพูดชวนเพื่อนใหม่ไปกินข้าวด้วยกันอย่างอารมณ์ดี อาทิตย์ที่ได้ยินเช่นนั้นจึงรีบเดินมากล่าวเสริมอย่างว่องไว
"นายมาสิพวกเราจะได้นั่งคุยกันด้วยไง อย่าลืมชวนชาร์ล็อตมาด้วยละ เธอดูท่าจะติดนายน่าดูเลยนา ฮ่ะๆ"
"เอาสิ เดี๋ยวชั้นจะชวนชาร์ลให้ แต่อาจจะมีคนอื่นไปด้วย พวกนายคงไม่ว่ากันนะ" อิจิกะฉีกยิ้มแล้วถามสองหนุ่มอย่างเป็นกันเอง
"เอาสิ" เด็กหนุ่มพยักหน้ายอมรับแล้วดันกรอบแว่นของตนให้เข้าที่
"กินหลายๆคนสิถึงจะสนุก" อาทิตย์พูดพลางฉีกยิ้มกว้างกว่าเดิม
สามหนุ่มหัวเราะออกมาพร้อมกันก่อนจะเดินกลับเข้าที่ของตน คาบปฎิบัติของวันจึงได้เริ่มขึ้น
ช่วงพักเที่ยง บริเวณดาดฟ้าตึก
"นี้ อิจิกะ...คนจะไม่เยอะไปหน่อยหรอ" อาทิตย์ถามเพื่อนใหม่ด้วยน้ำเสียงมึนงง ดวงตาสีดำของเขากวาดมองเหล่าสาวๆทั้งห้าที่พยายามนั่งให้ใกล้กับอิจิกะมากที่สุด เสียงหัวเราะแห้งๆถูกส่งออกจากปากของเด็กหนุ่มเพื่อนสนิทที่นั่งอยู่ด้านข้างตน
"ฮาเร็มรึไงว่ะ" ภารันหันมากระซิบกับอาทิตย์เบาๆแล้วมองภาพตรงหน้าอย่างเอือมระอา
"ชั้นว่าน่าจะใช่นะ" สิ้นคำพูดสองหนุ่มก็พยักหน้าให้กัน แล้วหันกลับมากระแอ้มเรียกความสนใจจากฮาเร็มขนาดใหญ่ตรงหน้า
"เอ่อ...เรามาแนะนำตัวกันก่อนดีไหม พวกภารันเขาจะได้รู้จักพวกเราด้วย" ชาร์ล็อตพูดเสนอออกมาอย่างจริงใจ คนอื่นๆที่นั่งอยู่ก็พยักหน้าเห็นด้วยเช่นกัน เด็กหนุ่มผู้สวมแว่นจึงตัดสินใจเอ่ยแนะนำตัวเป็นคนแรก
"อา...งั้นเริ่มที่ผมละกันนะครับ ผมนายภานุราช ปราการกันย์ เป็นนักเรียนในโครงการแลกเปลี่ยนครับ ยินดีที่ได้รู้จักครับทุกท่าน" ภารันพูดพร้อมก้มหัวให้เล็กๆ
"ชั้นชื่อนายไตรสิงห์ วิพาบุญราช เป็นนักเรียนในโครงการแลกเปลี่ยนเหมือนกับภารัน ยินดีที่ได้รู้จักนะ" อาทิตย์พูดแล้วยิ้มให้กับทุกคนอย่างเป็นกันเอง
สิ้นคำแนะนำตัวของสองหนุ่ม เด็กสาวชาวญี่ปุ่นผู้มัดผมสีม่วงของตนเป็นทรงโพนี่เทลก็เริ่มแนะนำตัวเป็นคนแรก
"ชั้นชิโนโนโนะ โฮวกิ เป็นเพื่อนสมัยเด็กอิจิกะ ยินดีที่ได้รู้จัก" โฮวกิแนะนำตัวด้วยน้ำเสียงที่เรียบนิ่งเฉยชา ท่าที่เยือกเย็นที่หล่อนแสดงออกมานั้นสร้างบรรยากาศไม่หน้าเข้าใกล้ซักเท่าไหร่
"น้องสาวของยัยนั้นสินะ"
"น่าจะ หวังว่าคงไม่บ้าตามพี่สาวหรอกนะ ไม่งั้นอิจิกะมันคงปวดหัวแย่แน่"
สองหนุ่มแอบกระซิบกระซาบกันอย่างเบาๆ สายตาก็เหลือบไปมองผู้แนะนำตัวคนต่อไป
"ตาดิชั้นสินะคะ ดิชั้นชื่อเซซิลเลีย อัลค็อตท์ ผู้นำคนปัจจุบันของตระกูลอัลค็อตท์ และยังเป็นผู้มีสิทธิเป็นตัวแทนของประเทศอังกฤษ ยินดีที่ได้รู้จัก และหวังว่าคงจะเห็นความยอดเยี่ยมของดิชั้นแล้วนะคะ" เซซิลเลียเอ่ยออกมาอย่างมั่นใจ สายตาอนาถใจถูกส่งออกมาจากสองหนุ่มทันทีที่หล่อนพูดจบ
"พวกหัวสูงละภารัน"
"เจริญจริงๆ"
"ชั้นหวงหลินอิน! เพื่อนสมัยเด็กของอิจิกะ! ผู้มีสิทธิเป็นตัวแทนของจีน! ยินดีที่ได้รู้จักนะ!" หลินแนะนำตัวด้วยเสียงที่ดังเป็นเอกลักษณ์ สองหนุ่มทำหน้าย่นทันทีเมื่อต้องฟังเสียงแหลมปรี๊ดของเด็กสาว
"ถึงชั้นแล้วสินะ ชั้นชื่อชาร์ล็อต ดูนัวส์ ยินดีที่ได้รู้จักกับทั้งสองคนอีกครั้งนะ" ชาร์ล็อตเอ่ยแนะนำตัวด้วยน้ำเสียงลื่นหู สองหนุ่มพยักหน้ารับอย่างยินดีกับ
"ชั้นลอว์ร่า โบเดวิช แค่นี้ละ" สิ้นการแนะนำตัวของลอว์ร่า เสียงหัวเราะแห้งๆก็ถูกส่งออกจากปากของทุกๆคน เด็กสาวหันไปมองทุกคนด้วยสีหน้าไม่เข้าใจ
"ฮ่ะๆ ชั้นโอริมูระ อิจิกะ ยินดีที่ได้รู้จักพวกนายสองคนแบบเป็นทางการนะ แล้วก็ขอต้อนรับสู่โรงเรียนไอเอสแห่งนี้" เด็กหนุ่มพูดด้วยความจริงใจ รอยยิ้มเล็กปรากฎขึ้นบนใบหน้าของคนทั้งสาม ก่อนที่ภารันกับอาทิตย์ตอบเด็กหนุ่มกลับไปอย่างจริงใจเช่นกัน
"ยินดีเลย"
"อยู่แล้วละเพื่อน"
"เอ่อ...วันนี้เราจะมีเพื่อนใหม่กับอาจารย์ท่านใหม่จากไทยย้ายเข้ามานะจ๊ะ" มายะเอ่ยอย่างติดๆขัดๆก่อนจะผายมือมายังชายสามคนที่ยืนอยู่หน้าห้อง
สิ้นคำพูดของอาจารย์ผู้ช่วยสาว กระดานอิเล็คทรอนิคส์ด้านหลังก็ปรากฎชื่อของทั้งสามเป็นภาษาญี่ปุ่น ชายหนุ่มสองคนที่สวมชุดนักเรียนของโรงเรียนไอเอสสีดำหันมายิ้มให้กัน ก่อนที่คนที่ยืนอยู่ข้างๆมายะจะเอ่ยแนะนำตัวออกมา
"สวัสดีครับ ผมนายภานุราช ปราการกันย์ มาจากไทยครับ หรือจะเรียกว่าภารันก็ได้นะ ฝากเนื้อฝากตัวด้วยครับ" ภารันแนะนำตัวด้วยน้ำเสียงสบายๆ ริมฝีปากคลี่ยิ้มให้กับสาวๆในห้อง
"ชั้นนายไตรสิงห์ วิพาบุญราช ชื่อเล่นว่าอาทิตย์ ฝากตัวด้วยนะ" อาทิตย์แนะนำตัวแล้วยกมือขึ้นทักทายทุกคนอย่างเป็นกันเอง
"นี้ผมต้องบอกยศด้วยไหมครับเนี่ย?" ชายหนุ่มในชุดสูทสีดำหันมาถามจิฟูยุที่ยืนคุมเชิงอยู่ตรงประตูห้องด้วยเสียงที่เบาหวิว
หญิงสาวในชุดพนักงานออฟฟิสสีดำส่ายหัวเชิงบอกว่าไม่จำเป็น ชายหนุ่มเห็นดังนั้นจึงถอนหายใจออกมา แล้วหันมายิ้มให้กับเหล่านักเรียนที่ตนจะต้องมาทำการสอนตั้งแต่วันนี้
"สวัสดีนะครับนักเรียนทุกคน ครูชื่อณเรศ จันทระสุวรรณ์ จะมาทำหน้าที่ครูผู้ช่วยของห้องนี้เช่นเดียวกับอาจารย์มายะ แต่จะรับผิดชอบในวิชาภาคปฏิบัติเท่านั้น ฝากตัวด้วยนะ" ณเรศพูดด้วยน้ำเสียงที่เป็นกันเอง
แต่ก่อนที่สามหนุ่มจะได้ทำอะไรต่อ เสียงกรี๊ดกร๊าดของเหล่าสาวๆก็ดังกลบทุกอย่างในห้อง ภารันยกมือสองข้างขึ้นมาอุดหูอย่างรวดเร็วแล้วทำหน้าเหม็นเบื่อ ส่วนสองคนที่เหลือหัวเราะแห้งๆกับพฤติกรรมดังกล่าวของเด็กหนุ่ม
"ดิฉันอยากทราบว่าพวกเขาเป็นนักบินไอเอสใช่ไหมคะ! แต่ทำไมเครื่องแบบของพวกเขาถึงแตกต่างจากพวกเราละคะ!" เด็กสาวผมบรอนซ์ตบโต๊ะลุกขึ้นถามอย่างมีอารมณ์ สายตาเคลือบแคลงใจถูกส่งมาที่สองหนุ่มโดยเฉพาะ
จิฟูยุหันมามองเหล่าผู้มีปัญหาหน้าห้องด้วยสายตาที่ถามว่าพูดได้หรือไม่ เด็กหนุ่มเจ้าของโครงการส่ายหัวอย่างไม่คิดอะไรมากนัก อาจารย์ประจำชั้นสาวถอนหายใจ ก่อนจะเอ่ยปากแต่ก็ถูกขัดอีกครั้งนึง
"ขออนุญาตคะครูฝึก! ชั้นไม่คิดว่าอาจารย์ชายท่านนี้จะมีศักยภาพพอที่จะสอนพวกเราได้คะ!" เด็กสาวอีกคนที่สวมผ้าปิดตาลุกขึ้นแล้วมองณเรศด้วยสายตาเคลือบแคลงใจเช่นกัน
จิฟูยุเลิกคิ้วมองทั้งสองนิ่งๆด้วยสายตากดดันและยังไม่ยอมตอบอะไรออกมา
"กรุณาตอบด้วยค่ะ! อาจารย์โอริมูระคะ!"
"ครูฝึกคะ!"
เสียงหัวเราะแห้งๆถูกส่งออกมาจากปากของสี่หนุ่ม จิฟูยุเริ่มหงุดหงิดที่ทั้งสองยังไม่ยอมหยุดถามคาดคั้นเธอซักที
"เงียบซ่ะ! อัลค็อตท์! โบเดวิช! พวกเธอสองคนนั่งลงเดี๋ยวนี้! ส่วนพวกนายก็เข้าที่ได้แล้ว! การเรียนการสอนวันนี้จะได้เริ่มกันซ่ะที" จิฟูยุตวาดเอ่ยหยุดการถามคำถามของสองสาว แล้วไล่สองหนุ่มตัวปัญหาไปนั่งที่
ภารันกับอาทิตย์พยักหน้ารับเบาๆแล้วเดินไปยังที่ว่างด้านหลังห้องที่ถูกจัดให้เฉพาะกับพวกตน ส่วนณเรศก็เดินถอยไปยืนข้างๆจิฟูยุที่ถอนหายใจอย่างเหนื่อยหน่ายแล้วส่งรอยยิ้มแห้งๆไปให้
"เด็กสองคนนั้นร่าเริงดีนะครับ ฮ่ะๆ"
"หัวรั้นละสิไม่ว่า" กล่าวจบจิฟูยุก็ถอนหายใจอีกครั้ง
เมื่อมายะเห็นว่าเสียงต่างๆในห้องเงียบลงแล้ว เหลือเพียงแค่สายตาไม่ชอบใจของสองสาวที่มองไปยังนักเรียนใหม่เท่านั้น ตนจึงตัดสินใจเริ่มการเรียนการสอนของวันนี้
"ถ้าไม่มีอะไรแล้ว...เริ่มการเรียนของวันนี้กันเถอะคะ เปิดไปหน้าที่254..."
คาบวิชาภาคปฎิบัติ ก่อนพักเที่ยง
เหล่านักเรียนภาควิชาหลักเปลี่ยนชุดเป็นชุดสูทสำหรับไอเอสแล้วมายืนรวมกันที่สนามฝึก สองหนุ่มในชุดไพล็อตสูทเดินตามอาจารย์ทั้งสามท่านมาแล้วเดินเข้าไปรวมกับคนในห้อง สายตาของนักเรียนหลักสูตรไอเอสจ้องมองทั้งสองด้วยสายตาที่ฉายแววสงสัยออกมาเต็มที่ ชุดไพล็อตสูทที่ทั้งสองใช้เป็นแบบสวมคลุมทั้งตัวต่างจากของไอเอสที่คล้ายกับชุดว่ายน้ำแบบสปอร์ต หมวกกันน็อคถูกพาดไว้ที่ไหล่อย่างสบายใจ ไม่สนสายตาของคนรอบข้างที่มองมา
จิฟูยุในชุดวอร์มกวาดสายตาเหล่านักเรียนในห้องอย่างปกติ ก่อนจะหันมามองมายะในชุดวอร์มเช่นตนและณเรศที่ใส่ชุดฝึกแบบทหารแต่ไม่ใส่เสื้อชั้นนอกทับ มือขวาของหล่อนยกขึ้นมากวักเรียกภารันกับอาทิตย์ให้ออกมายืนข้างนอกของแถว
"มีอะไรหรอครับอาจารย์โอริมูระ?" อาทิตย์ถามอาจารย์สาวอย่างงุนงง จิฟูยุไม่ตอบอะไรแต่หันไปมองเหล่านักเรียนที่เหลือแล้วกล่าวออกมา
"วันนี้เราจะเรียนเรื่องการป้องกันตัวกัน! แต่คนที่จะคุมการฝึกวันนี้จะไม่ใช่ชั้นหรอกนะ เป็นอาจารย์จันทระสุวรรณ์ เข้าใจใช่ไหม!" จิฟูยุพูดแล้วผายมือมาทางณเรศที่ยืนทำหน้าเหลอหราอยู่ข้างๆ
"ผมรึ?" ณเรศถามแล้วชี้นิ้วมาที่ตนเอง จิฟูยุไม่ตอบแต่พยักหน้าให้ เสียงพ่นลมหายใจเบาๆดังขึ้นจากปากชายหนุ่ม ก่อนที่ร่างสูงจะเดินขึ้นมาแทนที่อาจารย์สาว
"อา...สวัสดีอีกครั้งนะนักเรียนทั้งหลาย เรียกอาจารย์ว่าอาจารย์ณเรศก็ได้นะ แต่อย่าเรียกนามสกุลอาจารย์ละกัน มันดูแปลกๆนะ ส่วนไอสองหน่อนั้นนะ แยกไปอยู่ตรงนั้นก่อนเลยไป!" ณเรศเอ่ยกับเหล่านักเรียนในแถวก่อนจะหันไปชี้เด็กหนุ่มทั้งสองที่ยืนอยู่ข้างสนาม แล้วจึงหันกลับมาพูดกับนักเรียนของตนต่อ
"ก่อนจะเริ่มการฝึกกัน อาจารย์เชื่อว่าหลายๆคนคงยังมีคำถามที่คาใจอยู่ ยกมือขึ้นถามอาจารย์มาได้เลย อาจารย์จะตอบก่อนจะไปเริ่มการฝึกกัน" กล่าวจบ เด็กสาวผมสีเงินที่สวมผ้าปิดตาก็ยกมือขึ้นทันที อาจารย์หนุ่มมองหน้าเด็กสาวแล้วนึกชื่อของหล่อนในใบรายชื่อที่ตนได้อ่านมาก่อนหน้านี้
"เชิญครับคุณโบเดวิช" เมื่อนึกออก ณเรศก็พูดแล้วชี้มือไปที่เด็กสาวอย่างไม่คิดอะไรมาก
"ขออนุญาติค่ะ ชั้นอยากรู้ว่าคุณมีอะไรมายืนยันว่าคุณจะสามารถสอนพวกเราได้คะ...อย่างครูฝึกเคยเป็นแชมป์ในโมโนกอซโซ่ครั้งที่1 หรืออย่างอาจารย์ยามาดะที่เคยเป็นผู้มีสมัครเป็นตัวแทน แล้วตัวอาจารย์ละคะมีอะไรที่สามารถทำให้พวกเราเชื่อได้ว่าคุณจะสอนพวกเราได้ดี?" ลอว์ร่าถามณเรศอย่างจริงจัง
สิ้นคำถาม เสียงหัวเราะก็ดังออกจากปากของอาจารย์หนุ่ม สร้างความงุนงงให้กับลอว์ร่า ก่อนที่มันจะแปรเปลี่ยนเป็นความไม่พอใจของเด็กสาวผมเงินคนนี้
"มีอะไรน่าหัวเราะรึไงคะ!"
"โทษทีๆ พอดีรู้สึกดีใจนะที่เจอเด็กแบบเธอเข้า เลยเผลอหัวเราะออกมาจนได้" ณเรศพูดแล้วยกมือขอโทษขอโพยร่างบางตรงหน้า ก่อนจะกระแอ้มไอเพื่อรักษามาดอาจารย์เอาไว้
"เธออยากรู้สินะว่าอาจารย์มีดีกรีดีแค่ไหนที่สามารถมาสอนพวกเธอได้" ชายหนุ่มพูดไปยิ้มไปอย่างอารมณ์ดี
"อาจารย์ขอพูดเลยนะว่าถ้าจะให้สอนเธอเกี่ยวกับเรื่องไอเอสเช่นการควบคุมอะไรพวกนั้นน่ะ อาจารย์ทำไม่ได้หรอกนะ แต่ถ้าเกี่ยวกับการต่อสู้ที่จะเอาไปประยุกต์ใช้กับไอเอสได้ละก็ มันก็อีกเรื่องเลย" ณเรศตอบแล้วจ้องเข้าไปที่ดวงตาของเด็กสาวด้วยท่าทีจริงจัง ก่อนจะตบเท้าเข้าหากันแล้วยกมือวันทยหัตย์แบบทหาร
"ขอแนะนำตัวอีกครั้ง อาจารย์ชื่อเรืออากาศโทณเรศ จันทระสุวรรณ์ ตำแหน่งผู้ประสานงานโครงการพิเศษระหว่างประเทศ สังกัดหน่วยจู่โจมพิเศษทางอากาศของกองทัพอากาศแห่งราชอาณาจักรไทย หวังว่าเธอคงจะยอมรับอาจารย์แล้วนะคุณโบเดวิช" สิ้นคำพูดของณเรศ ลอว์ร่าก็พยักหน้ายิ้มอย่างยอมรับ
"ถ้าไม่มีอะไรแล้ว งั้นก็-"
"เดี๋ยวก่อนค่ะอาจารย์ณเรศ! ดิชั้นมีข้อสงสัยค่ะ!" เด็กสาวคนหนึ่งเอ่ยขัดณเรศด้วยเสียงอันดังลั่น ร่างสูงถอนหายใจแล้วจ้องไปที่เซซิลเลียอย่างเบื่อหน่าย
"ครับๆ เชิญว่ามาเลยครับคุณอัลค็อตท์" สิ้นคำพูดของอาจารย์หนุ่ม ร่างบางก็ตวัดมือชี้ไปที่สองหนุ่มที่ยืนอยู่ข้างสนาม
"ดิชั้นสงสัยคะว่าพวกเขาใช่นักบินของไอเอสหรือเปล่าค่ะ!?" เซซิลเลียพูดแล้วมองหน้าสองหนุ่มอย่างเอาเรื่อง ตัวปัญหาทั้งสองมองหน้ากันแล้วยักไหล่อย่างไม่ใส่ใจ
"ไม่ใช่หรอก" ณเรศตอบแล้วหรี่ตาจ้องไปที่หน้าของเด็กสาว
"งั้นทำไมพวกเขาถึงเข้ามาในโรงเรียนนี้ละคะ!"
"เมื่อกี้อาจารย์พูดไปแล้วใช่ไหมว่าอาจารย์มีตำแหน่งเป็นผู้ประสานงานโครงการพิเศษระหว่างประเทศนะ" ร่างบางฟังแล้วพยักหน้ารับ เมื่อไม่เห็นปฎิกิริยาต่อต้าน ณเรศจึงเริ่มพูดต่อ
"ถ้างั้น เพื่อให้ง่ายต่อการอธิบายของอาจารย์...คุณโอริมูระออกมานี้" ว่าจบ ชายหนุ่มก็กวักมือเรียกให้อิจิกะเดินออกมา
"ผมเกี่ยวอะไรด้วยนะพี่ณเรศ" อิจิกะเดินออกมาแล้วถามณเรศอย่างสงสัย
"ที่โรงเรียนเรียกพี่ว่าอาจารย์ด้วย เอ้า! หันหน้าไปนู้น!" ณเรศพูดอย่างอ่อนใจแล้วจับอิจิกะหมุนตัวให้หันไปหาสาวๆ
"อย่างที่พวกเธอรู้ๆกันอยู่ว่ามีแต่ผู้หญิงเท่านั้นที่สามารถขึ้นขับไอเอสได้...ส่วนเจ้าหมอนี้...โอริมูระ อิจิกะ ผู้ชายคนเดียวในโลกตอนนี้ที่สามารถขึ้นขับไอเอสได้ หมอนี้ถือเป็นบุคคลที่มีความสำคัญมากในตอนนี้ แต่ประชากรชายที่สามารถขับไอเอสได้ก็ยังมีแค่หมอนี้คนเดียวอยู่ดี" ขณะพูดก็ตบไหล่อิจิกะหนึ่งที
"รู้ใช่ไหมว่าพอไอเอสโผล่มา กองทัพทั่วโลกก็ปรับลดจำนวนของยุทธโทปกรณ์ทางการรบลง และยังลดความสำคัญของทหารชายในกองทัพลงด้วย แต่ด้วยสัญญาอลาสก้า ทำให้ยังไม่มีประเทศไหนเอามันไปใช้ในการรบได้ก็จริงเถอะ" เหล่านักเรียนที่ยืนฟังอยู่ก็พยักหน้ารับอย่างเห็นด้วย
"ฉะนั้น ทางไทยเมื่อเห็นว่าถ้าขืนปล่อยไว้แบบนี้มันก็เปลืองงบประมาณประเทศที่จะต้องใช้ในการดูแลเจ้าพวกนี้ซ่ะเปล่าๆ แถมถ้าให้ปลดทหารชายในกองทัพบางส่วนออกอีก ทางนี้ก็จะถือว่าเสียกำลังพลที่ใช้ในการกำกับดูแลและป้องกันประเทศไปเลย งั้นจะให้ทำยังไงละ? ขืนมีผู้ก่อการร้ายใช้ไอเอสในการก่อการขึ้นมา ภาคกลางไม่ค่อยน่าห่วงหรอก มีทั้งกำลังทหารและโรงเรียนไอเอสอยู่ แต่บริเวณสามชายแดนที่พวกผู้ก่อการร้ายชุกชุมละ? บริเวณนั้นทหารรักษาการส่วนใหญ่มีแต่ผู้ชายทั้งนั้น ขืนมันเอาไอเอสบุกมาทีนี้ ตาย! ยังไงก็ตายแน่ๆ สุดท้ายจึงมีคำสั่งลงมาให้หาวิธีที่จะป้องกันเหตุโดยไม่พึ่งไอเอสหากเกิดกรณีสุดวิสัยขึ้นมายังไงละ เฮ้อ..." ร่างสูงพูดอย่างใส่อารมณ์ก่อนจะถอนหายใจออกมา สายตากวาดมองเหล่านักเรียนที่เริ่มคิดตามที่ตนพูดออกไป มือขวาถูกยกขึ้นมากวักเรียกสองหนุ่มให้เดินเข้ามาหาตน ก่อนจะตบไหล่สองหนุ่มจนส่งเสียงครางอย่างเจ็บปวดออกมาหนึ่งที
"เจ้าสองคนนี้คือผลลัพท์จากเหตุการณ์ที่อาจารย์ได้กล่าวมาเมื่อกี้...นี้คือนักบินทดสอบของเกราะรุ่นใหม่ล่าสุดที่ไทยพัฒนาขึ้น โดยพวกเขาถูกส่งมาเพื่อเก็บข้อมูลการทดสอบที่โรงเรียนแห่งนี้ตามโครงการที่ไทยได้ทำกับทางญี่ปุ่นไว้ ซึ่งอาจารย์ก็เป็นนักบินทดสอบคนหนึ่งด้วยเช่นกัน หมดคำถามแล้วใช่ไหมคุณอัลค็อตท์?" ณเรศถามเด็กสาวผมบรอนซ์ที่ยังคงทำหน้าเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่งอยู่ เสียงพูดคุยกระซิบกระซาบของเหล่าสาวๆดังขึ้นหลังจากฟังเรื่องน่าเหลือเชื่อจากปากของณเรศ จิฟูยุมองเซซิลเลียที่ยังคงไม่เชื่อในสิ่งที่อาจารย์หนุ่มพูดมากนัก หญิงสาวหันไปมองอาจารย์ผู้ช่วยสาวผมเขียวแวบหนึ่ง ก่อนจะตัดสินใจเอ่ยอะไรบางอย่างออกมา
"เพื่อยืนยันในสิ่งที่อาจารย์จันทระสุวรรณ์พูด...ยามาดะคุง ช่วยเป็นคู่ต่อสู้ให้กับวิพาบุญราชเขาหน่อยได้ไหม?"
"อ-เอ๋! ช-ชั้นหรอคะ!"
"ห่ะ!?"
มายะกับอาทิตย์สะดุ้งตัวทันทีที่จิฟูยุพูดเช่นนั้น ทั้งสองหันมามองหน้ากันแล้วเริ่มพูดอึกอัก เด็กหนุ่มเกาผมที่ถูกทำเป็นไฮไลต์สีดำขาวเพื่อแก้อาการประหม่า ก่อนจะก้มหัวโค้งตัวให้กับผู้ช่วยอาจารย์สาว
"เอ่อ...ขอความกรุณาด้วยครับอาจารย์ยามาดะ"
"อ-เอ่อ...เช่นกันจ๊ะ วิพาบุญราชคุง..."
ว่าจบ แสงสีขาวก็ปกคลุมร่างของสาวผมเขียวทั้งหมด ก่อนจะปรากฎร่างของมายะอยู่กลางเกราะสีเขียวเข้มขนาดใหญ่ ผู้ช่วยอาจารย์สาวที่สวมใส่ไอเอสรุ่นผลิตจำนวนมาก'Rafale Revive'แล้วนั้น ขยับตัวเดินเข้ามาหาอาทิตย์ที่ยังคงยืนนิ่งมองตนอยู่
"เธอพร้อมหรือยังจ๊ะ" อาทิตย์ยังคงนิ่งเงียบไม่ตอบมายะ แต่สายตาของเด็กหนุ่มกลับเบนไปจ้องภารันที่ยืนทำหน้าครุ่นคิดอยู่ข้างๆณเรศ
แว่นของภารันสะท้อนแสงมองไม่เห็นดวงตา มือซ้ายถูกยกมาดันแว่นครั้งหนึ่งก่อนจะพูดกับอาทิตย์ด้วยน้ำเสียงเด็ดขาด
"ซิกม่า02รับคำสั่ง! การซ้อมครั้งนี้ไม่อนุญาตให้ใช้เครื่องประจำตัว อนุญาตให้ใช้เครื่องในรหัส'GAT Series'ในการทดสอบเท่านั้น! 'Striker Pack'ทั้งหมดสามารถใช้งานได้ตามเห็นสมควร...อย่าให้ขายหน้าละไอเพื่อนยาก"
"โรเจอร์!" สิ้นคำรับทราบ หมวกกันน็อคถูกสวมเข้าที่ศีรษะของเด็กหนุ่ม หน้าจอสีฟ้าใสปรากฎออกมาให้อาทิตย์ปรับแต่งอะไรบางอย่างซักพัก ก่อนที่มันจะหายไป
"Transformation..." ชิ้นส่วนเกราะจำนวนมากโผล่ออกมาจากอากาศธาตุอย่างรวดเร็ว ก่อนที่ทั้งหมดจะพุ่งเข้าไปสวมกับอาทิตย์ที่ยืนนิ่งอยู่ ร่างสีเทาที่มีแบ็คแพ็คติดอาวุธหนักขนาดใหญ่สีดำปรากฎออกมาให้ทุกคนในบริเวณนั้นเห็น เสียงฮือฮาของสาวๆดังขึ้นอย่างตกใจ อิจิกะที่ยืนมองอยู่หันสลับไปมาระหว่างพวกภารันกับอาทิตย์ด้วยความตื่นตะลึง ก่อนที่เกราะสีเทาทั้งหมดจะเปลี่ยนสีกลายเป็นสีขาวดำอย่างรวดเร็ว ปีกขนาดยักษ์สะท้อนเข้ากับแสงแดดตอนใกล้เที่ยง มือขวาของชุดเกราะถือไรเฟิลกระบอกนึงที่ปากกระบอกดูแปลกๆ โล่มือถือขนาดใหญ่ที่มือซ้ายที่ติดตั้งปืนแกตลิ่งเอาไว้หมุนลำกล้องเพื่อเช็คความพร้อมของอุปกรณ์
"พร้อมแล้วครับอาจารย์" เสียงของอาทิตย์ดังออกจากลำโพงของตัวเกราะช่วยเรียกสติของมายะที่กำลังตกอยู่ในสภาวะตะลึงงันให้กลับคืนมา
"จ-จ๊ะ" ร่างทั้งสองพุ่งขึ้นไปบนท้องนภาด้วยความเร็วที่ไม่ได้ต่างกันมากนัก เหล่าคนดูข้างล่างเงยหน้ามองดูทั้งสองที่บินไต่ระดับความสูงขึ้นไปเรื่อยๆ จิฟูยุเหลือบตาไปมองสองศิษย์อาจารย์ที่ยิ้มมุมปากเล็กๆอยู่ด้านหลังของหล่อนโดยมีอิจิกะยืนอ้าปากค้างอยู่ใกล้ๆ
"ภารัน อธิบายให้นักเรียนคนอื่นๆฟังหน่อยสิว่าเกราะที่เพื่อนเธอใช้อยู่คืออะไร"
"อา...ได้ครับ" เด็กหนุ่มพยักหน้ารับแล้วยกมือขึ้นดันแว่นตาอีกครั้ง
"ที่ทุกคนกำลังเห็นอยู่นั้นคือเกราะชนิดใหม่ล่าสุดที่ไทยคิดค้นขึ้น ถูกเรียกสั้นๆว่าโมบิลสูท เรื่องอื่นเกี่ยวกับมันเดี๋ยวค่อยไปฟังในคาบบ่ายเอา" ภารันพูดขณะที่คู่ต่อสู้ทั้งสองบนท้องฟ้าเริ่มการต่อสู้
"ชุดเกราะที่อาทิตย์ใช้อยู่มีชื่อว่า'GAT-X105E Strike E' เป็นชุดเกราะประเภท'Gundam Type' ตัวเกราะของชุดเป็น'Variable Phase Shift armor'ที่ปรับค่าพลังงานที่ใช้และพลังป้องกันของเกราะขณะที่ต่อสู้อยู่ได้ มีระบบพิเศษคือการใช้งานสไตรเกอร์แพ็ค โดยแพ็คที่ใช้งานอยู่ในขณะนี้คือ'AQM/E-M1 Integrated Weapon Striker Pack'หรือเรียกย่อๆว่า'IWSP' เป็นแพ็คที่รวมความสามารถของสไตรเกอร์แพ็คพื้นฐานทั้งสามเข้าไว้ด้วยกันนั้นเอง" สิ้นคำพูดของเด็กหนุ่ม การต่อสู้บนฟ้าก็เริ่มทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ
ย้อนกลับไปก่อนหน้านี้เล็กน้อย บริเวณน่านฟ้าเหนือสนามฝึก
ทั้งสองบินขึ้นไปจนถึงระดับความสูงที่พอเหมาะ ราฟาลรีไวฟ์ของมายะเรียกปืนกลกระบอกนึงออกมาถือไว้ สายตาของหล่อนจับจ้องไปยังโมบิลสูทด้านหน้าอย่างระแวดระวัง
"จ-จะเริ่มละนะคะ!"
"มาเลยครับ!"
ปังๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ!
ปากกระบอกปืนกลชี้ไปที่สไตร์อีทันทีที่เริ่มการต่อสู้ อาทิตย์เร่งเวอร์เนียทรัสเตอร์ใต้ปีกกับด้านหลังของไอดับบลิวเอสพีให้ตีโค้งไปมาเพื่อหลบหลีกคมกระสุนจำนวนมากที่พุ่งเข้ามาหาตน เด็กหนุ่มกระชับปืนในมือพาดกับโล่ขนาดใหญ่ในมือซ้าย เป้าเล็งสีเขียวปรากฎบนจอภาพในหน้าจอของเจ้าตัว ก่อนจะล็อคเป้าไปที่มายะที่ยังคงสาดกระสุนใส่ตน
"เสร็จผมละ!"
ฟิ๊ว! ฟิ๊ว! ฟิ๊ว! ฟิ๊ว!
บีมไรเฟิลกำลังสูงถูกกระหน่ำยิงจากในมือขวาของหุ่นสีขาวดำเพื่อโต้กลับ อนุภาคบีมยิงปะทะเข้ากับบาเรียของหญิงสาว พลังงานที่ถูกจ่ายไปยังส่วนของบาเรียลดลงไปเรื่อยๆอย่างรวดเร็ว เมื่อเห็นว่าฝ่ายตรงข้ามเริ่มที่จะได้เปรียบ มายะจึงตัดสินใจเปลี่ยนกลยุทธ์เป็นบุกเข้าไปหาเด็กหนุ่มด้วยความเร็วสูงแทน
"ชิ!" บีมที่เคยยิงถูกหญิงสาวตอนนี้กลับวืดหมด ระยะห่างระหว่างตนกับผู้ช่วยอาจารย์สาวใกล้เข้ามามากขึ้นเรื่อยๆ เด็กหนุ่มเก็บบีมไรเฟิลแล้วคว้าบีมบูมเมอร์แรงค์'Midas Messer'ที่โล่ปาใส่มายะ
หญิงสาวเบรกเครื่องกระทันหันกลางอากาศ บีมบูมเมอร์แรงค์แฉลบผ่านบาเรียไปอย่างฉิวเฉียด ในวินาทีที่หญิงสาวเสียการทรงตัว ห่ากระสุนจากปืนแกตลิ่งที่โล่ของฝ่ายตรงข้ามก็พุ่งเข้าใส่หล่อนขณะที่ไมดาสเมสเซอร์ก็วกกลับไปหาเด็กหนุ่ม
สถานการณ์ฝั่งอาทิตย์เริ่มพลิกกลับมาได้เปรียบอีกครั้ง หญิงสาวบินตีโค้งหลบกระสุนจากปืนแกตลิ่งที่เด็กหนุ่มสาดใส่ ไมดาสเมสเซอร์ถูกขว้างเพื่อสกัดกั้นการเคลื่อนไหวของหญิงสาวพร้อมๆกับเร่งเวอร์เนียทรัสเตอร์พุ่งเข้าไปหาคู่ต่อสู้แล้วปลดโล่ขนาดใหญ่ออกไป
ดาบต่อต้านยานรบขนาดเล็กทั้งสองเล่มถูกปลดออกมาถือเอาไว้ในมือของสไตร์อีขณะที่เข้าประชิดเป้าหมาย บีมบูมเมอร์แรงค์ถูกมายะปัดตกพร้อมๆกับที่อาทิตย์เข้ามาประชิดตัวหล่อน
"ว๊ายยยยย!" มายะร้องเสียงหลงออกมาเมื่อเจอกับแรงปะทะ ใบดาบเหล็กเข้าปะทะกับบาเรียอย่างจัง เด็กหนุ่มกระหน่ำฟันจนบาเรียของฝั่งตรงข้ามลดลงถึงขีดแดง ดาบสุดท้ายถูกง้างขึ้นเตรียมฟันไปที่เป้าหมาย โชคร้ายที่ฝั่งตรงข้ามตั้งตัวทัน มายะเรียกปืนยิงลูกระเบิดออกมาถือแทนแล้วยิงใส่อาทิตย์ในระยะประชิด
"อย่าหวังเลยครับอาจารย์!" ฝั่งเด็กหนุ่มก็ไม่น้อยหน้า เวอร์เนียทรัสเตอร์ใต้ฝ่าเท้าถูกเร่งขึ้นมาทันควัน ร่างของสไตร์อีหมุนคว้างเป็นวงกลมกลางอากาศหลบลูกระเบิดนั้นได้ฉิวเฉียด
ตู้ม!
แรงระเบิดช่วยส่งให้สไตร์อีลอยขึ้นสูงเหนือศีรษะของราฟาลรีไวฟ์ เวอร์เนียทรัสเตอร์ที่ฝ่าเท้าถูกเร่งขึ้นอีกครั้งทำให้ตัวของอาทิตย์หมุนกลับมาทางมายะในสภาพที่มองเห็นเป้าหมายจากด้านบน เป้าเล็งสีเขียวปรากฎขึ้นอีกครั้ง เรลกันบนไอดับบลิวเอสพีทั้งสองกระบอกก็เหนี่ยวไกยิงใส่หญิงสาวโดยฉับพลัน
"Checkmate!"
ซู่ม!! ตู้ม!!
"กรี๊ดดดดดด!" กระสุนกระทบเข้ากับบาเรียเข้าอย่างจัง พลังทำลายของเรลกันทั้งสองนัดทะลุบาเรียที่หุ้มอยู่จนไม่เหลือชิ้นดี และพลังงานส่วนที่เหลืออยู่ก็ยังคงพุ่งเข้าไปหาหญิงสาวอย่างกระชั้นชิด คอร์ของราฟาลรีไวฟ์บังคับเปิดการใช้งานของ'Absolute Defense'เพื่อปกป้องชีวิตของนักบิน กระสุนที่พุ่งมาเข้าปะทะกับเกราะดังกล่าวแล้วสลายไปพร้อมๆกับการชัทดาวน์ของเกราะ ตัวเกราะกลับไปอยู่ในสภาพ'Close From'ทันทีที่การโจมตีสลายไป ร่างที่ไร้สติของมายะร่วงหล่นลงไปด้านล่างด้วยความเร็วสูง เสียงกรีดร้องของเหล่าสาวๆเบื้องล่างดังออกมาด้วยความตกใจ
จิฟูยุขมวดคิ้วแล้วหันไปมองรอยยิ้มไม่ยีระของสองศิษย์อาจารย์ เหล่านักเรียนผู้มีเครื่องส่วนตัวเห็นภาพดังกล่าวก็เตรียมเรียกไอเอสของตัวเองออกมาเพื่อจะช่วยผู้ช่วยอาจารย์สาวประจำห้อง แต่จิฟูยุก็เอ่ยปรามแล้วบอกให้มองดูเท่านั้น
"แย่แล้ว!" อาทิตย์รีบกางฝ่ามือยิงจรวดตะขอไปพันร่างของหญิงสาวที่กำลังร่วงลงไปเอาไว้ เด็กหนุ่มออกแรงกระชากลวดให้ร่างของมายะลอยเข้าสู่อ้อมกอดของตน นิ้วชี้ของอาทิตย์จิ้มไปที่หลังตนคอของสาวผมเขียวเบาๆ กระแสไฟฟ้าจากปลายนิ้วของสไตร์อีช็อตมายะเบาๆเพื่อให้หล่อนตื่นขึ้นจากสถานะสลบ
"ตื่นได้แล้วครับอาจารย์ยามาดะ" อาทิตย์พูดเมื่อเห็นว่าหญิงสาวยังคงสะลึมสะลืออยู่ เมื่อสติของมายะเริ่มเข้าที่เข้าทาง ดวงตาของหล่อนก็กวาดตรวจสอบสถานการณ์รอบด้าน เมื่อเห็นว่าตนยังคงลอยอยู่บนอากาศทั้งๆที่ไม่มีไอเอส ตัวหล่อนจึงหันมามองมือที่ยังคงอุ้มตนเองในท่าอุ้มเจ้าสาวเอาไว้
ดวงหน้างามหลังกรอบแว่นแดงยังกับมะเขือเทศ เจ้าตัวก้มหน้าหลบสายตาของเหล่านักเรียนหนักยิ่งขึ้นกว่าเดิมเมื่อเหล่านักเรียนของตนด้านล่างผิวปากแซวเธอกันอย่างสนุกสนาน พวกอิจิกะถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งใจ สองศิษย์อาจารย์ตัวป่วนหันมายิ้มให้กันและยักไหล่กันอย่างชิลๆ จิฟูยุมองภาพบนฟ้าแล้วส่ายหัวอย่างอ่อนใจ
ร่างสีขาวดำที่อุ้มหญิงสาวไว้ในอ้อมกอดค่อยๆล่อนลงมาแล้วหยุดยืนบนพื้นของสนามฝึก สีของเกราะกลับคืนสู่สภาพสีเทาอีกครั้ง โมบิลสูทถูกปลดออกทันทีที่ถึงพื้น เด็กหนุ่มยังคงอุ้มผู้ช่วยอาจารย์สาวผมเขียวเอาอย่างอ่อนโยน น้ำเสียงสำนึกผิดของเขายิ่งทำให้ดวงหน้าของหล่อนยิ่งแดงเถือกมากกว่าเดิม
"ผมขอโทษด้วยจริงๆนะครับอาจารย์ยามาดะ ที่ผมสู้ไม่ระวังจนอาจารย์เกือบเป็นอะไรไป ว่าแต่อาจารย์บาดเจ็บตรงไหนหรือป่าวครับ?"
"อ-เอ่อ...อาจารย์ไม่เป็นอะไรจ๊ะ...ขอบคุณนะที่ช่วยอาจารย์เอาไว้น่ะจ่ะ" มายะตอบเด็กหนุ่มด้วยน้ำเสียงเขินอาย บรรยากาศหวานๆปกคลุมคนทั้งสองโดยไม่รู้ตัว
"สวีทกันพอรึยังนะสองคนนั้น" จิฟูยุเดินมาพูดด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง ได้ยินเช่นนั้นเด็กหนุ่มก็รีบพยุงให้ผู้ช่วยอาจารย์สาวกลับมายืนบนพื้นอย่างรวดเร็ว ก่อนจะเกาแก้มอย่างเขินอาย
"ที่นี้เห็นแล้วใช่ไหมว่าทำไมพวกเขาถึงย้ายเข้ามาเรียนที่นี้นะ! มีใครจะคัดค้านอะไรไหม?" อาจารย์ประจำชั้นสาวหันไปถามเหล่านักเรียนที่เหลือด้วยน้ำเสียงอันดัง ไม่มีใครออกมาคัดค้านเมื่อเห็นถึงประสิทธิภาพของโมบิลสูทและความสามารถของไพล็อต จิฟูยุพยักหน้าด้วยความพอใจ ก่อจะหันไปหาณเรศแล้วเอ่ยปากพูดด้วยน้ำเสียงเฉียบขาด
"หมดเวลาพักแล้วอาจารย์จันทระสุวรรณ์"
"คร้าบๆ เอ้า! พวกหนุ่มๆเข้าที่ได้แล้ว เราจะได้เริ่มการฝึกกันเสียที" ณเรศพูดพลางไล่สามหนุ่มกลับเข้าไปในแถว
"ช่วงเที่ยงไปกินข้าวด้วยกันไหมอิจิกะ" ภารันพูดชวนเพื่อนใหม่ไปกินข้าวด้วยกันอย่างอารมณ์ดี อาทิตย์ที่ได้ยินเช่นนั้นจึงรีบเดินมากล่าวเสริมอย่างว่องไว
"นายมาสิพวกเราจะได้นั่งคุยกันด้วยไง อย่าลืมชวนชาร์ล็อตมาด้วยละ เธอดูท่าจะติดนายน่าดูเลยนา ฮ่ะๆ"
"เอาสิ เดี๋ยวชั้นจะชวนชาร์ลให้ แต่อาจจะมีคนอื่นไปด้วย พวกนายคงไม่ว่ากันนะ" อิจิกะฉีกยิ้มแล้วถามสองหนุ่มอย่างเป็นกันเอง
"เอาสิ" เด็กหนุ่มพยักหน้ายอมรับแล้วดันกรอบแว่นของตนให้เข้าที่
"กินหลายๆคนสิถึงจะสนุก" อาทิตย์พูดพลางฉีกยิ้มกว้างกว่าเดิม
สามหนุ่มหัวเราะออกมาพร้อมกันก่อนจะเดินกลับเข้าที่ของตน คาบปฎิบัติของวันจึงได้เริ่มขึ้น
ช่วงพักเที่ยง บริเวณดาดฟ้าตึก
"นี้ อิจิกะ...คนจะไม่เยอะไปหน่อยหรอ" อาทิตย์ถามเพื่อนใหม่ด้วยน้ำเสียงมึนงง ดวงตาสีดำของเขากวาดมองเหล่าสาวๆทั้งห้าที่พยายามนั่งให้ใกล้กับอิจิกะมากที่สุด เสียงหัวเราะแห้งๆถูกส่งออกจากปากของเด็กหนุ่มเพื่อนสนิทที่นั่งอยู่ด้านข้างตน
"ฮาเร็มรึไงว่ะ" ภารันหันมากระซิบกับอาทิตย์เบาๆแล้วมองภาพตรงหน้าอย่างเอือมระอา
"ชั้นว่าน่าจะใช่นะ" สิ้นคำพูดสองหนุ่มก็พยักหน้าให้กัน แล้วหันกลับมากระแอ้มเรียกความสนใจจากฮาเร็มขนาดใหญ่ตรงหน้า
"เอ่อ...เรามาแนะนำตัวกันก่อนดีไหม พวกภารันเขาจะได้รู้จักพวกเราด้วย" ชาร์ล็อตพูดเสนอออกมาอย่างจริงใจ คนอื่นๆที่นั่งอยู่ก็พยักหน้าเห็นด้วยเช่นกัน เด็กหนุ่มผู้สวมแว่นจึงตัดสินใจเอ่ยแนะนำตัวเป็นคนแรก
"อา...งั้นเริ่มที่ผมละกันนะครับ ผมนายภานุราช ปราการกันย์ เป็นนักเรียนในโครงการแลกเปลี่ยนครับ ยินดีที่ได้รู้จักครับทุกท่าน" ภารันพูดพร้อมก้มหัวให้เล็กๆ
"ชั้นชื่อนายไตรสิงห์ วิพาบุญราช เป็นนักเรียนในโครงการแลกเปลี่ยนเหมือนกับภารัน ยินดีที่ได้รู้จักนะ" อาทิตย์พูดแล้วยิ้มให้กับทุกคนอย่างเป็นกันเอง
สิ้นคำแนะนำตัวของสองหนุ่ม เด็กสาวชาวญี่ปุ่นผู้มัดผมสีม่วงของตนเป็นทรงโพนี่เทลก็เริ่มแนะนำตัวเป็นคนแรก
"ชั้นชิโนโนโนะ โฮวกิ เป็นเพื่อนสมัยเด็กอิจิกะ ยินดีที่ได้รู้จัก" โฮวกิแนะนำตัวด้วยน้ำเสียงที่เรียบนิ่งเฉยชา ท่าที่เยือกเย็นที่หล่อนแสดงออกมานั้นสร้างบรรยากาศไม่หน้าเข้าใกล้ซักเท่าไหร่
"น้องสาวของยัยนั้นสินะ"
"น่าจะ หวังว่าคงไม่บ้าตามพี่สาวหรอกนะ ไม่งั้นอิจิกะมันคงปวดหัวแย่แน่"
สองหนุ่มแอบกระซิบกระซาบกันอย่างเบาๆ สายตาก็เหลือบไปมองผู้แนะนำตัวคนต่อไป
"ตาดิชั้นสินะคะ ดิชั้นชื่อเซซิลเลีย อัลค็อตท์ ผู้นำคนปัจจุบันของตระกูลอัลค็อตท์ และยังเป็นผู้มีสิทธิเป็นตัวแทนของประเทศอังกฤษ ยินดีที่ได้รู้จัก และหวังว่าคงจะเห็นความยอดเยี่ยมของดิชั้นแล้วนะคะ" เซซิลเลียเอ่ยออกมาอย่างมั่นใจ สายตาอนาถใจถูกส่งออกมาจากสองหนุ่มทันทีที่หล่อนพูดจบ
"พวกหัวสูงละภารัน"
"เจริญจริงๆ"
"ชั้นหวงหลินอิน! เพื่อนสมัยเด็กของอิจิกะ! ผู้มีสิทธิเป็นตัวแทนของจีน! ยินดีที่ได้รู้จักนะ!" หลินแนะนำตัวด้วยเสียงที่ดังเป็นเอกลักษณ์ สองหนุ่มทำหน้าย่นทันทีเมื่อต้องฟังเสียงแหลมปรี๊ดของเด็กสาว
"ถึงชั้นแล้วสินะ ชั้นชื่อชาร์ล็อต ดูนัวส์ ยินดีที่ได้รู้จักกับทั้งสองคนอีกครั้งนะ" ชาร์ล็อตเอ่ยแนะนำตัวด้วยน้ำเสียงลื่นหู สองหนุ่มพยักหน้ารับอย่างยินดีกับ
"ชั้นลอว์ร่า โบเดวิช แค่นี้ละ" สิ้นการแนะนำตัวของลอว์ร่า เสียงหัวเราะแห้งๆก็ถูกส่งออกจากปากของทุกๆคน เด็กสาวหันไปมองทุกคนด้วยสีหน้าไม่เข้าใจ
"ฮ่ะๆ ชั้นโอริมูระ อิจิกะ ยินดีที่ได้รู้จักพวกนายสองคนแบบเป็นทางการนะ แล้วก็ขอต้อนรับสู่โรงเรียนไอเอสแห่งนี้" เด็กหนุ่มพูดด้วยความจริงใจ รอยยิ้มเล็กปรากฎขึ้นบนใบหน้าของคนทั้งสาม ก่อนที่ภารันกับอาทิตย์ตอบเด็กหนุ่มกลับไปอย่างจริงใจเช่นกัน
"ยินดีเลย"
"อยู่แล้วละเพื่อน"
คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
8 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ