Infinite Stratos:"ฟันเฟืองสุดท้ายเพื่อโลกใหม่"
8.7
เขียนโดย Netales
วันที่ 28 มิถุนายน พ.ศ. 2560 เวลา 20.40 น.
5 ตอน
2 วิจารณ์
8,117 อ่าน
แก้ไขเมื่อ 28 มิถุนายน พ.ศ. 2560 21.23 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น
4) บทที่3 "เยือนญี่ปุ่น"
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ1อาทิตย์ต่อมา โรงเรียนไอเอส ประเทศญี่ปุ่น
"ถึงญี่ปุ่นแล้วววว!!" อาทิตย์วิ่งออกมาจากยานรบที่เทียบท่ากับท่าเรือของโรงเรียนไอเอส เสียงหัวเราะร่าเริงของเขาทำให้อีกสองคนที่เหลือหัวเราะแห้งๆ
"ดีนะที่ทางญี่ปุ่นเขาอนุญาตให้เราเอาเจ้านี้เข้ามาในประเทศได้ ไม่งั้นการซ่อมบำรุงอะไรต่างๆคงลำบากกันแน่ครับ" ภารันพูดกับณเรศแล้วเอามือตบเข้ากับผนังของยาน'CBS-742 Ptolemaios 2 Kai'เบาๆ
ทั้งสามคนเดินทางมาจากประเทศไทยหลังจากที่อะไรๆต่างก็เข้าที่เข้าทางแล้ว โดยทางจิฟูยุกลับมาก่อนตั้งแต่การทดสอบจบลง ยานลำดังกล่าวที่ซิกม่าทีมโดยสารมานั้นเป็นยานรบที่ภารันสร้างขึ้นเพื่อเป็นฐานบัญชาการเคลื่อนที่และโรงซ่อมบำรุงสำหรับภารกิจระยะยาว
"แกอย่าลืมไปขอบคุณคุณโอริมูระเขาด้วยละ ถ้าไม่ใช่เพราะเขาคุยกับทางรัฐบาลให้ ป่านนี้พวกเราคงต้องเจองานหยาบแน่ เหอะๆ" ณเรศเอ่ยเตือนภารัน เพราะจิฟูยุเป็นคนไปพูดกับผู้ใหญ่ของญี่ปุ่นให้ พวกเขาจึงสามารถนำยานรบลำนี้เข้ามาในประเทศได้ โชคดีจริงๆ
"ว่าแต่เอามันมาจอดในโรงเก็บเรืออย่างงี้จะไม่มีคนมาเห็นหรอครับพี่ณเรศ" อาทิตย์อดไม่ได้ที่จะถามผู้หมวดหนุ่ม เพราะตอนเดินทางมา ภารันก็ขับมันไม่ขึ้นมาเหนือพื้นน้ำตลอดเพื่อป้องกันผู้พบเห็น
"เรื่องนั้นไม่ต้องห่วงหรอก ที่นี้เป็นโรงเก็บเรือที่สั่งห้ามให้คนภายนอกเข้ามา ฉะนั้นไม่ต้องห่วงว่าความลับจะแตกหรอก" น้ำเสียงเรียบนิ่งของผู้หญิงทำให้ทั้งสามหันกลับไปมองทันที
ในสายตาของทั้งสามปรากฏหญิงสาวสองคนเดินเข้ามาในโรงเก็บ เป็นจิฟูยุกับหญิงสาวเรือนผมสีเขียวที่ทั้งสามไม่รู้จัก
"สวัสดีครับคุณโอริมูระ ต้องขอบคุณที่ช่วยทำเรื่องอนุญาตนำเจ้าปโตเลไมออสทูว์ไคเข้ามาในญี่ปุ่นได้จริงๆครับ ว่าแต่สุภาพสตรีข้างๆนั้นใครหรือครับ?" ภารันเอ่ยขอบคุณจิฟูยุแล้วถามต่อทันทีอย่างสงสัย
เมื่อได้ยินคำถามของเด็กหนุ่มตรงหน้า หญิงสาวคนดังกล่าวก็พูดแนะนำตัวเองทันที
"ดิฉันชื่อยามาดะ มายะค่ะ เป็นอาจารย์อีกคนหนึ่งของโรงเรียนไอเอสแห่งนี้ ฝากเนื้อฝากตัวด้วยน่ะคะ" กล่าวจบ มายะก็โค้งทักทายทั้งสามคน
ทั้งสามยิ้มรับ ก่อนจะเอ่ยแนะนำตัวอย่างเป็นมิตรกับมายะ
"นายภานุราช ปราการกันย์ครับ เป็นผู้พัฒนาโครงการกับนักบินทดสอบ เพื่อความสะดวกเรียกว่าภารันก็ได้นะครับ"
"ส่วนผมนายไตรสิงห์ วิพาบุญราช ชื่อเล่นอาทิตย์ครับ เป็นหนึ่งในนักบินทดสอบ ยินดีที่ได้รู้จักครับ"
"เรืออากาศโทณเรศ จันทระสุวรรณ์ หรือจะเรียกผมว่าผู้หมวดณเรศก็ได้ครับ เป็นทั้งนักบินทดสอบแล้วก็เป็นผู้ดูแลเจ้าสองคนนี้ไปในตัวน่ะครับ"
"เอ้าๆ ทักทายพอกันแค่นี้ละ เอาสัมภาระของพวงนายไปไว้ในรถนู้นเลย ที่พักของพวกนายสองคนอยู่ในหอพักนักเรียนของที่นี้ ส่วนผู้หมวดนะแยกมาพักที่หอพักอาจารย์ เครื่องแบบจะถูกส่งไปให้ที่ห้องพักในช่วงค่ำๆของวันนี้ เข้าใจใช่ไหม" ทั้งสามพยักหน้ารับให้จิฟูยุ ก็จะยกสัมภาระของพวกตนไปยังรถคันดังกล่าว
เมื่อนำสัมภาระทั้งหมดยัดลงรถแล้ว อาทิตย์ก็หันมาถามจิฟูยุโดยทันที
"คุณโอริมูระคร้าบ พวกผมไปเดินเล่นในเมืองได้ไหมครับ?"
"เชิญเลย กว่าห้องของพวกนายจะจัดเสร็จก็เย็นนู้นละ จะไปไหนก็เชิญ" จิฟูยุพูดจบ อาทิตย์ก็ฉีกยิ้มเบิกบานแล้วรีบวิ่งลากตัวอีกสองคนออกไป
"ไปเร็วๆ! อย่ามัวชักช้ากันสิ!"
"นายไม่ต้องรีบชนาดนั้นก็ได้มั้งเพื่อน"
"แกนี้มันจริงๆเลยนะ...เฮ้อ..."
ร่างสูงของทั้งสามคนเดินหายลับไปจากสายตา มายะที่อยู่ข้างๆก็หันมาถามจิฟูยุด้วยน้ำเสียงจริงจัง
"การที่เราอนุญาตให้พวกเขาเข้ามาในโรงเรียนของเราได้เนี่ย...มันจะไม่มีปัญหาจริงๆงั้นหรือคะ อาจารย์โอริมูระ"
"เฮ้อ...ชั้นก็ไม่ค่อยแน่ใจนักหรอกนะ แต่มันคงจะดีกว่าถ้าให้พวกเขาอยู่ในจุดที่เราสามารถมองเห็นได้ชัดเจน...ชั้นคิดเช่นนั้นนะยามาดะคุง" สิ้นคำพูดของจิฟูยุ มายะก็ถอนหายใจและพยักหน้ารับคำ
ย่านการค้าแถบโรงเรียนไอเอส
"คนเยอะสุดๆไปเลยแฮะ" อาทิตย์พูดแล้วหันไปมองซ้ายขวาอย่างตื่นตา ผู้คนจำนวนมากเดินขวักไขว่กันไปทั่วย่านการค้า ถึงส่วนใหญ่จะเป็นผู้หญิงรุ่นราวคราวเดียวกับสองหนุ่มก็เถอะ
"เพราะย่านการค้าที่นี้อยู่ใกล้กับโรงเรียนไอเอสสินะ ชั้นถึงไม่ค่อยจะเห็นผู้ชายเท่าไหร่เลย" ภารันบ่นออกมาแล้วหัวเราะแห้งๆ เนื่องจากเจ้าตัวไม่ค่อยจะถูกโรคกับผู้หญิงอายุใกล้กันซักเท่าไหร่ กรี๊ดกันแต่ละทีหูแทบแตก(byที่โรงเรียนก่อนจะย้าย)
"น่าๆ พวกแกก็ถือซ่ะว่าอาหารตาละกัน ฮ่ะๆ" ณเรศกล่าวอย่างติดตลก แต่เมื่อหันมามองเด็กหนุ่มทั้งสองข้างหน้า สายตาเย็นชาก็ทิ่มแทงผู้หมวดหนุ่มซ่ะจนแทบพรุน
"คุกเลยนะผู้หมวด"
"ไม่น่าเชื่อว่าพี่จะเป็นคนแบบนี้เลยนะครับ"
กล่าวจบทั้งสองก็รีบสับขาเดินให้ห่างจากณเรศ
"เฮ้ย! จะบ้าเรอะ! ตูไม่ได้ชอบกินเด็กนะโว๊ย!"
ณเรศพูดพร้อมกับรีบเดินตามสองหนุ่มข้างหน้า
"ผู้หมวดนี้น่าขยะแขยงจริงๆ แม้แต่เด็กก็ไม่เว้น"
"เรารีบเดินหนีเหอะภารัน ชั้นไม่อยากจะอยู่ใกล้กับคนโรคจิต"
"นั้นสินะเพื่อน"
"พวกเอ็งฟังตูบ้างเด้!"
สามหนุ่มเร่งฝีเท้าของตนให้เร็วขึ้น เสียงโต้เถียงของทั้งสามดึงดูดให้คนรอบๆหันมามองด้วยความสงสัย เนื่องจากทั้งสามนั้นคุยกันเป็นภาษาไทย จึงทำให้คนรอบข้างได้แต่งงเท่านั้น
ผลั๊ก!
"ว๊าย!"
"เหวอ!"
เนื่องจากการเร่งฝีเท้าของทั้งสามหนุ่มโดยไม่มองทาง ทำให้อาทิตย์เดินชนเข้ากับผู้หญิงคนหนึ่งอย่างจัง
"อูย~ เจ็บจัง" ผู้หญิงคนดังกล่าวขึ้นและลูบก้นของตัวเองปอยๆ เรือนผมสีเหลืองนั้นโบกสะบัดไปตามการเอียงหัวของหล่อน ดวงตาสีม่วงนั้นมีน้ำตาเล็ดออกมาเล็กๆเนื่องจากความเจ็บที่ล้มลง
"เหวอ ขอโทษด้วยนะครับ" อาทิตย์รีบลุกขึ้นแล้วยื่นมือไปเพื่อจะช่วยพยุงคนตรงหน้าให้ลุกขึ้น ก่อนจะยกมือขอโทษคนตรงหน้า
"ไม่เป็นไรหรอกคะ" ร่างบางลุกขึ้นแล้วยิ้มบางๆส่ายหัวเชิงบอกไม่เป็นอะไร
"ต้องขอโทษจริงๆนะครับที่พวกผมเดินไม่ดูทางจนหมอนี้เดินชนคุณเข้า"
"พี่ขอโทษแทนเจ้าพวกนี้ด้วยเหมือนกันนะ ขอโทษจริงๆ"
ภารันกับณเรศยกมือขอโทษคนตรงหน้าด้วยสีหน้าลำบากใจ
"อ-เอ๋! ม-ไม่ต้องคิดมากกันขนาดนั้นหรอกคะ ชั้นก็ไม่ได้เป็นอะไรมากด้วย" เด็กสาวตรงหน้ารีบโบกมือบอกว่าไม่เป็นอะไรจริงๆอย่างร้อนรน
"ชาร์ล! อยู่ไหนนะ! ชาร์ล!"
"อ่ะ! อิจิกะ! ทางนี้ๆ!" สิ้นเสียงเรียกดังกล่าว เด็กสาวรีบหันกลับโบกมือเรียกเจ้าของเสียงเมื่อครู่อย่างร่าเริง
"แฟนเขามานู้นแล้วน่ะเพื่อน"
"หวังว่าแกจะไม่โดนเขาซัดเอานะไอหนู"
"นี้ไม่คิดจะช่วยกันเลยหรือครับ..."
อาทิตย์หันหน้ากลับไปมองคนรู้จักทั้งสองด้วยสายตาอ้อนวอน รอยยิ้มมัจจุราชฉายชัดบนใบหน้าของผู้ยืนอยู่ด้านหลังทั้งสองคนอย่างชัดเจน
"ไม่!"
สิ้นคำพูดของสองมัจจุราช เด็กหนุ่มเรือนผมสีน้ำเงินแกมดำเจ้าของเสียงเมื่อครู่ก็เดินเข้ามาใกล้แล้วมองทั้งสามสลับกับเด็กผู้หญิงตรงหน้าอย่างงุนงง
"คนพวกนี้เป็นใครหรอชาร์ล?" เด็กหนุ่มหันไปถามร่างบางอย่างสงสัย
"เอ่อ...คือ...แบบว่า...พอดีผมเดินไม่ทันระวังจนไปชนแฟนคุณเข้านะครับ ต้องขอโทษด้วยจริงๆ" อาทิตย์พูดแล้วยกมือไหว้ขอโทษให้กับคนตรงหน้า
"ฟ-แฟน! ม-ไม่ใช่นะ พวกผมเป็นเพื่อนกันเฉยๆเองนะ!"
"ม-ไม่ใช่แฟนหรอกคะ!...ถ-ถึงอยากจะให้อิจิกะคิดอย่างนั้นก็เถอะ..."
หน้าของเด็กหนุ่มและเด็กสาวแดงด้วยความเขินอาย รีแอ็คชั่นของคนตรงหน้าทำให้ทั้งสามอดไม่ได้ที่จะยิ้มที่มุมปากบางๆ
"ฮ่ะๆ อ้อ! พวกผมขอความช่วยเหลืออะไรซักหน่อยได้ไหมครับ พอดีพวกผมพึ่งมาถึงเมืองนี้นะครับ แล้วยังไม่ได้ทานอะไรกันมาเลย ช่วยแนะนำร้านที่อร่อยๆหน่อยจะได้ไหมครับ ถึงพวกผมพึ่งจะก่อเรื่องให้พวกคุณก็เถอะ แต่ถ้าไม่ได้ก็ไม่เป็นอะไรหรอกครับ..." ภารันเอ่ยถามทั้งสองอย่างเกรงใจ เนื่องจากเมื่อซักครู่พวกตนพึ่งก่อเรื่องให้กับคนตรงหน้า ถึงจะขอโทษไปแล้ว แต่การที่จะมาขอความช่วยเหลือต่อนั้นจึงดูหน้าด้านเกินไปนิด
"มันก็ไม่ได้มีปัญหาอะไรหรอกครับ เดี๋ยวพวกผมพาไปก็ได้ ทางนี้ก็ยังไม่ได้ทานอะไรมาเหมือนกัน...แล้วชาร์ลละ?" เด็กหนุ่มหันไปถามคนข้างๆ
"ไม่เป็นไรหรอก ไปด้วยกันหลายคนก็สนุกดีออกนะ!" ร่างบางตอบแล้วหันมายิ้มให้สามหนุ่มอย่างเป็นกันเอง
"งั้นตามมาเลยครับ!" แล้วทั้งสองก็เดินนำสามหนุ่มไปร้านดังกล่าว
"ว่าแต่พวกคุณเป็นนักท่องเที่ยวหรอครับ?" ระหว่างทาง เด็กหนุ่มผมน้ำเงินแกมดำก็หันมาถามสามหนุ่มอย่างสงสัย
"จะว่าอย่างงั้นก็ได้ละมั้งครับ พวกผมมาจากเมืองไทยนะ" ภารันตอบอย่างเป็นมิตร รอยยิ้มบางๆยังคงประดับบนใบหน้านั้น
"เห~ พูดภาษาญี่ปุ่นคล่องจังเลยนะคะ" เด็กสาวพูดด้วยแปลกใจ สามหนุ่มหัวเราะเบาๆ ก่อนที่ณเรศจะเป็นคนกล่าวตอบ
"ฝึกมาหลายปีแล้วนะ แต่ดูแล้วคุณหนูเองก็เป็นคนต่างชาตินี้ครับ หัดภาษาญี่ปุ่นมานานหรือยังละ?" สิ้นคำพูด สายตาเบื่อหน่ายก็ถูกส่งมาจากเด็กใต้การปกครองทั้งสอง
"หน้าหม้อละB1"
"ใช่เลยB2"
เด็กสาวหัวเราะเสียงใสเมื่อเห็นปฎิกิริยาของสองหนุ่ม ส่วนผู้หมวดหนุ่มก็ทำได้เพียงขบเคี้ยวฝันอย่างหงุดหงิด
"ก็นานพอสมควรค่ะ คุยกันมานานแล้ว พวกคุณชื่ออะไรกันหรอคะ ชั้นชื่อชาร์ล็อตท์ ดูนัวส์ ยินดีที่ได้รู้จักนะ"
"ภารันครับ ยินดีได้รู้จัก"
"อาทิตย์ครับ"
"พี่ชื่อณเรศ เป็นผู้ปกครองของสองคนนี้"
ทั้งสามแนะนำตัวแล้วยิ้มให้กับทั้งสอง
"ส่วนชั้นชื่อโอริมูระ อิจิกะ ยินดีที่ได้รู้จักเช่นกัน" สิ้นคำแนะนำตัวของอิจิกะ ใบหน้าของสามหนุ่มก็แสดงถึงความอึ้งนิดๆ
"นี้นายเป็นน้องชายของคุณโอริมูระจริงดิ?" ภารันถามอิจิกะอย่างมึนงง
"อา...ก็ใช่นะ ทำไมหรอ"
"ไม่มีอะไรๆ" ภารันรีบโบกมือปฏิเสธอย่างรวดเร็ว ส่วนในใจก็เพียงแต่หัวเราะแห้งๆเท่านั้น
"เห...นี้น้องชายของคุณโอริมูระสินะ หน่วยก้านพอใช้ได้" ณเรศพูดเบาๆขณะมองอิจิกะตั้งแต่หัวจรดเท้า
"นิสัยดีผิดคาดเลยแฮะ อืมๆ" อาทิตย์พูดแล้วยกมือลูบคางใช้ความคิด
"รู้จักพี่กันด้วยหรอ?"
"นิดหน่อยนะ" ทั้งสามตอบแล้วโบกมือหยอยๆเชิงปัดเปลี่ยนเรื่อง
ความเงียบเข้าปกคลุมคนในกลุ่มอีกครั้ง ร่างทั้งห้าก็เดินมาหยุดที่หน้าร้านอาหารสำหรับครอบครัวแห่งหนึ่ง
"ร้านนี้ละ" อิจิกะชี้ให้ทั้งสามดูก่อนที่จะเดินนำเข้าไป
ภายในร้านยังไม่ค่อยจะมีคนมากนักจึงทำให้มีโต๊ะที่ยังว่างอยู่หลายตัว พนักงานพาทั้งห้าไปยังโต๊ะตัวหนึ่งก่อนจะส่งเมนูให้ห้าเล่มแล้วยืนรอรับออเดอร์
"ผมเอาสเต็กหมูแบบมีเดียม แล้วก็ชามะนาวแก้วนึงครับ" ภารันตอบแล้วเอามือเท้าคางบนโต๊ะ
"ข้าวผัดอเมริกัน ชามะนาวอีกแก้วครับ" อาทิตย์ตอบแล้วฉีกยิ้มให้พนักงาน
"เอาข้าวหน้าเนื้อละกันครับ แล้วก็มิ้ลค์เชคสตอเบอร์รี่แก้วนึง" ณเรศสั่งอย่างใจเย็น สายตาเอือมระอาถูกส่งมาจากสองหนุ่มที่นั่งขนาบข้างเขาไว้
"มิ้ลค์เชคสตอเบอร์รี่ละอาทิตย์"
"ไม่นึกเลยว่าพี่เขาจะเป็นคนมุ้งมิ้งเช่นนี้เนอะภารัน บรื้อ~"
"พวกเอ็งวันนี้เป็นอะไรกับตูนักฟ่ะ!"
อิจิกะกับชาร์ล็อตท์หัวเราะเสียงใสกับเหตุการณ์ตรงหน้า เสียงหัวเราะของทั้งคู่ดึงให้ทั้งสามหันกลับมามองแล้วส่ายหัวอย่างอ่อนใจกับพฤติกรรมอันไร้สาระของพวกตน
"อา...ปล่อยไก่ตัวเบอเร่อเลยแฮะ เหอๆๆ" ภารันบ่นแล้วหัวเราะแห้ง
"ฮิๆๆ เฮฮาดีออกนี้นา ชั้นเอาสปาเก็ตตี้คาโบนาล่าละกันค่ะ น้ำกีวี่แก้วด้วยนะคะ" ชาร์ล็อตท์สั่งอาหารกับพนักงานเสียงใส
"ฮ่ะๆ พวกนายนี้สนิทกันดีจังนะ งั้นผมเอาข้าวหน้าเนื้อด้วยชามนึงนะครับ แล้วก็เพิ่มชามะนาวมาอีกแก้วเลยครับ" อิจิกะพูดแล้วยิ้มอย่างร่าเริง
พนักงานทวนรายการอาหารอีกครั้งเพื่อป้องกันการผิดพลาด ก่อนจะเดินเอาออเดอร์ไปส่งให้ห้องครัวของร้าน
"ว่าแต่พวกนายสองคนมาญี่ปุ่นทำไมหรอ?" เมื่อพนักงานเดินจากไป อิจิกะจึงหันมาถามสองหนุ่มที่อายุใกล้เคียงกับพวกตน
"พวกชั้นย้ายมาเรียนที่ญี่ปุ่นนะ" ภารันตอบแล้วเอนหลังพิงพนักพิง
"พอดีได้โควต้าโครงการนักเรียนแลกเปลี่ยนอะนะ พวกชั้นเลยตัดสินใจย้ายมาที่ญี่ปุ่น" อาทิตย์ตอบแล้วยิ้มอย่างสบายอารมณ์
"เห~ ย้ายมากลางเทอมแบบนี้ไม่วุ่นวายหรอ?" ชาร์ล็อตท์อดที่จะถามต่อไม่ได้
"สุดๆเลยละ" อาทิตย์ด้วยน้ำเสียงสุดเซ็งจิต
"ดีที่ผู้หมวดแกช่วยทำเรื่องให้ ไม่งั้นคงวุ่นหนักกว่านี้อีก" ภารันพูดแล้วชี้ไปที่ผู้หมวดหนุ่มผู้นั่งข้างๆ
"ขอบคุณชั้นซ่ะสิ"
"ไม่!" สองหนุ่มสวนกลับไปทันทีโดยไม่จำเป็นต้องคิด
"ทำไมภารันนายถึงเรียกคุณณเรศว่าผู้หมวดละ ชั้นเห็นนายเรียกเขาอย่างนั้นมาหลายรอบแล้ว" อิจิกะถามต่อเพราะได้ยินคนตรงหน้าเรียกแบบนั้นมาหลายรอบแล้ว
"ไม่ต้องเรียกพี่ว่าคุณหรอก เรียกว่าพี่ณเรศก็ได้" ณเรศอดไม่ได้ที่จะต้องบอกอิจิกะ โดนเด็กเรียกว่าคุณนี้มันรู้สึกน่าอายแปลกๆนะ
"อ้อ ก็เขาเป็นทหารนิ แถมเป็นผู้หมวดด้วย ชั้นเลยเรียกแบบนั้นจนชินแล้วนะ" ภารันตอบหน้านิ่งแบบไม่ใส่ใจ
"จริงหรอคะพี่ณเรศ" ชาร์ล็อตท์พูดขึ้นด้วยความแปลกใจ
"ใช่แล้วจ๊ะ"
"เหอะ...โคแก่ริอาจจะกินหญ้าอ่อนเรอะ...โอ๊ยๆๆๆ! โทษครับพี่!"อาทิตย์แอบนินทาณเรศเบาๆ แต่ก็ไม่อาจจะพ้นหูนรกของชายหนุ่มไปได้ เด็กหนุ่มจึงโดนบิดเอวจนร้องเสียงหลง
เสียงหัวเราะของคนที่เหลือดังออกมาจากปากทันทีเมื่อมองภาพตรงหน้า อาทิตย์ที่ถูกบิดเอวเมื่อครู่เบ้ปากแล้วบ่นงึมงำสาปแช่งณเรศ
"จะว่าไป นายอยู่โรงเรียนไอเอสสินะ ที่นั้นบรรยากาศเป็นไงหรอ ถ้าเป็นที่เมืองไทยชั้นบอกเลยว่ามีแต่เสียงกรี๊ดกร๊าดแสบแก้วหูสุดๆ" อาทิตย์ถามอิจิกะอย่างนึกสนุก
"ก็ไม่ขนาดนั้น เสียงกรี๊ดกร๊าดมันก็เยอะอยู่หรอก แต่ทุกคนที่โรงเรียนนี้เหมือนมีพลังงานล้นเหลือเลยละ ฮ่ะๆ" อิจิกะตอบแล้วหัวเราะแห้งๆ
"นี้ๆ! จะว่าไปที่เมืองไทยยังใช้ช้างในการเดินทางอยู่หรือเปล่า?" ชาร์ล็อตท์ถามทั้งสามเสียงใส ดวงตาของหล่อนเป็นประกายด้วยความอยากรู้อยากเห็น ส่วนอิจิกะก็พยักหน้าด้วยความอยากรู้เช่นกัน
"ห่ะ?" คำถามของชาร์ล็อตท์สร้างความสตั้นให้แก่สามหนุ่มเป็นอย่างมาก สามหนุ่มนั่งนิ่งเพื่อประมวลผลคำถามเมื่อครู่ซักพักก่อนจะยกมือกุมขมับกันอย่างพร้อมเพรียง สร้างความงุนงนให้กับเด็กหนุ่มสาวต่างชาติคู่นี้เป็นอย่างยิ่ง
"ไปฟังใครเขามากันเนี่ย..." ณเรศพูดพร้อมกับนวดขมับอย่างปวดหัว ส่วนอาทิตย์ก็หัวเราะเป็นเสียงโมโนโทนด้วยใบหน้าตายด้าน
ภารันสูดหายใจเข้าลึกๆแล้วปล่อยออกมาอย่างเซ็งจิต ก่อนจะตอบทั้งสองด้วยน้ำเสียงราบเรียบ
"ทั้งคู่ฟังนะ ช้างนะ ส่วนใหญ่เขามีแต่ในแหล่งท่องเที่ยว...อาจจะมีบ้างที่ถูกควาญช้างพาออกมา แต่ไม่มีเดินเพ่นพล่านกันกลางถนนหรอก เดี๋ยวโดนรถชนตายกลายเป็นเรื่องใหญ่กันพอดี..." สิ้นคำพูดของเด็กหนุ่ม อิจิกะกับชาร์ล็อตท์ก็ชะงักไปครู่นึง ก่อนจะหัวเราะแห้งๆให้กับคำถามเมื่อซักครู่ แล้วตัดสินใจเปลี่ยนเรื่องคุยกัน
ทั้งห้าคุยเรื่อยเปื่อยกันไปซักพัก อาหารก็ถูกยกมาเสิร์ฟ สามหนุ่มรีบจัดการอาหารในจานอย่างเอร็ดอร่อยด้วยความหิว ส่วนสองคนที่เหลือนั้นค่อยๆทานตามปกติแต่ก็อดไม่ได้ที่จะมองทั้งสามด้วยความขบขัน
เมื่อทานเสร็จ เวลาในวันนี้ยังเหลืออีกนานกว่าจะเย็น ทุกคนจึงตัดสินใจที่จะเดินดูร้านรวงอื่นๆในย่านการค้าต่อ
"อา...อร่อยมากเลยร้านนี้" อาทิตย์เดินลูบท้องของตนอย่างสบายอารมณ์
"รอบหน้าถ้าว่างเดี๋ยวมากินร้านนี้อีกดีกว่า" ภารันพูดแล้วอมยิ้มอย่างมีความสุข
"ว่าแต่พวกนายพักอยู่ที่ไหนละ?" อิจิกะหันมาถามสองหนุ่ม เผื่อว่าตนเองว่างจะได้ไปหา
"ยังไม่แน่ใจเท่าไหร่นะ" ภารันตอบแล้วโคลงศีรษะไปมา
"งั้นหรอ" อิจิกะพยักหน้ารับอย่างเซ็งๆ
"ทำไมอิจิกะไม่แลกเบอร์โทรศัพท์กับพวกภารัน เวลาจะนัดเจอกันก็จะได้ง่ายขึ้นด้วย" ชาร์ล็อตท์เสนอขึ้นมากลางกลุ่มด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น พวกหนุ่มที่เหลือก็ทุบมือร้องอ้อแล้วทำหน้าเหมือนพึ่งนึกออกกัน
ทั้งห้าตัดสินใจแลกเบอร์กันอย่างรวดเร็ว ก่อนตะเดินไปดูร้านค้าต่างๆต่อ เสียงคุยหัวเราะคิกคักดังขึ้นตลอดการเดินเที่ยวในวันนี้
ช่วงเย็นของวัน
ทั้งสามหลังจากลาอิจิกะกับชาร์ล็อตท์แล้วก็เดินเล่นกันต่ออีกซักพักก่อนจะมุ่งหน้าไปยังหอพักของพวกตน
"หอพักอาจารย์อยู่ทางนี้ พี่แยกไปก่อนนะ"
"เจอกันพรุ่งนี้ครับผู้หมวด"
"โชคดีนะครับพี่ณเรศ"
ณเรศเอ่ยกับทั้งคู่จบแล้วเดินโบกมือลาแยกตัวออกไป สองหนุ่มเดินต่อไปยังหอพักนักเรียนที่อยู่ข้างหน้า สองเท้าก้าวไปเอื่อยๆชมรอบข้างกันอย่างสบายใจ
ภายในหอพักถูกตกแต่งด้วยโทนสีเปลือกไข่ดูสบายตา หลอดไฟนีออนสีส้มช่วยทำให้บรรยากาศสบายๆในหอพักมีมากขึ้นไปอีก
"คนหายไปไหนกันหมดฟ่ะ?" ภารันพูดแล้วกวาดสายตาไปทั่วล็อบบี้ของหอพัก ทั่วบริเวณนั้นไม่ปรากฎใครซักคนยกเว้นเพียงพวกเขาทั้งสอง ขนาดตอนเดินมายังไม่เจอใครซักคนเลย มันจะเป็นไปได้ยังไงกัน?
"อาจจะอยู่ในห้องพักกันมั้ง" อาทิตย์พูดสวนกลับไปอย่างไม่ใส่ใจ เดินมาแล้วไม่เจอใครมันน่าแปลกใจตรงไหน ดีซ่ะอีก จะได้ไม่วุ่นวายกับคนอื่นๆมากนัก เพราะมีตัวผู้สองคนมาเดินโต้งๆในโรงเรียนหญิงล้วนแบบนี้ ไม่โดนหาว่าโรคจิตก็โดนวิ่งไล่กวดละนะ
ภารันหันไปมองเพื่อนสนิทแล้วถอนหายใจเบาๆอย่างเหนื่อยหน่าย เขาเดินนำอาทิตย์ไปยังลิฟท์ที่ใกล้ที่สุดแล้วเข้าไปข้างใน มือขวายกมือขึ้นไปกดเลขชั้นแล้วยืนพิงพนังลิฟท์
"นายรู้แล้วเรอะว่าพวกเราต้องพักห้องไหนน่ะ" อาทิตย์เดินตามเข้ามาในลิฟท์แล้วถามเพื่อนสนิทด้วยน้ำเสียงที่สงสัย ภารันเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย ก่อนจะยื่นโทรศัพท์ที่พึ่งมีเมลจากทางจิฟูยุมาให้อาทิตย์ดู
"นี้ชั้นต้องพักห้องเดียวกับนายเหมือนที่ไทยจริงดิ"
"เออสิ อย่าบ่นมากเลยเหอะ"
ประตูลิฟท์เปิดขึ้นอีกครั้งเมื่อถึงชั้นที่ภารันเลือกไว้ ทั้งสองเดินออกจากลิฟท์แล้วมุ่งตรงไปยังห้องที่ถูกจัดเอาไว้ให้กับพวกตน
ภารันเอื้อมมือเปิดประตูเข้าห้องพักอย่างเนือยๆ ด้านในปรากฎเตียงสามเตียงที่มีสัมภาระของพวกตนวางเอาไว้สองเตียง ส่วนเตียงสุดท้ายเป็นสัมภาระของใครก็ไม่รู้วางอยู่
"สัมภาระของใครอีกฟ่ะนั้น?"
"ชั้นก็ไม่รู้ ช่างมันละกันเนอะ"
"นั้นสินะ"
สองหนุ่มปิดประตูห้องแล้วจัดการกับสัมภาระชองพวกตนอย่างสบายใจ
"เครื่องแบบส่งมายังอ่ะ" อาทิตย์หันไปถามเพื่อนสนิทที่รื้อกระเป๋าเสื้อผ้าเพื่อจะนำไปใส่ตู้เสื้อผ้าของตน
"เออๆ" ภารันขานรับแล้วเดินไปเปิดตู้เสื้อผ้าเพื่อจะนำของๆตนเข้าไปใส่ ภายในตู้ปรากฎชุดนักเรียนชายของโรงเรียนที่สีดำกับขาวสลับกันอยู่หกชุด และมีชุดนักเรียนชายของโรงเรียนแบบธรรมดาอีกสามชุดอยู่ในนั้น
"สรุปมีป่าวอ่ะ?"
"มีของแกกับชั้นอย่างละสามชุด อีกอันของใครก็ไม่รู้เนี่ยสิ"
"ถ้าชุดของพวกเรามาแล้วก็จัดของต่อเถอะ"
"อา"
ทางฝั่งของณเรศ เมื่อเขาเดินมาถึงล็อบบี้ในหอพักของตน ร่างของเขาต้องหยุดชะงักลงด้วยความงงงวยกับภาพตรงหน้า ภายในล็อบบี้ถูกตกแต่งด้วยของตกแต่งสำหรับงานปาร์ตี้ บริเวณกลางห้องมีโต๊ะที่วางอาหารจำนวนมากเอาไว้ รอบข้างมีอาจารย์สาวหลายท่านที่บนหัวมีหมวกรูปทรงกรวยประดับไว้บนหัว ในจำนวนนั้นมีจิฟูยุที่หน้าบูดและมายะที่นั่งโบกมือให้ตนอยู่ด้วย
"นี้มันอะไรกันฟ่ะ" สายตาของณเรศเหลือบขึ้นไปมองด้านบนเพดานที่มีป้ายแขวนขนาดใหญ่ที่ถูกเขียนด้วยสีหลากหลายสีเอาไว้
'ต้อนรับอาจารย์ณเรศสู่โรงเรียนไอเอสค่า~'
คิ้วขวาของชายหนุ่มกระตุกถี่ยิบ ปากของเขาแข็งค้างในท่าอ้าปาก ก่อนที่ตนจะโดนอาจารย์สาวคนหนึ่งเดินมาจับแขนแล้วฉีกยิ้มให้
"มาเร็วสิคะ! พวกเรารอคุณตั้งนานแน่ะ! งานนี้จัดเพื่อคุณโดยเฉพาะเลยนะ!" ว่าจบ ร่างสูงก็โดนหญิงสาวคนดังกล่าวลากไปทั้งๆที่ยังงงงวยกับเหตุการณ์เบื้องหน้าอยู่
"What the Fu*k!?!?"
หลังจากที่สองหนุ่มเดินทางมาถึงห้องพักได้สักพักหนึ่ง ร่างของชายหญิงคู่หนึ่งก็เดินเข้ามาในล็อบบี้ของหอพัก อิจิกะกับชาร์ล็อตท์เดินไปกดลิฟต์ก่อนจะเข้าไปในตัวลิฟต์เพื่อจะไปยังชั้นที่เลือกไว้
"วันนี้สนุกดีนะ พวกภารันก็คุยสนุกดีด้วย" อิจิกะพูดด้วยสีหน้าที่ยิ้มแย้ม ชาร์ล็อตท์ที่อยู่ข้างๆหัวเราะเบาๆเมื่อเห็นว่าชายข้างๆยิ้มอย่างมีความสุขเพราะได้รู้จักเพื่อนผู้ชายที่มีวัยใกล้เคียงกันกับตน
"ฮิๆ นั้นสินะ แต่ว่าชั้นสงสารพี่ณเรศนิดๆแฮะที่โดนสองคนนั้นแกล้งบ่อยมากเลย"
"เจ้าสองคนนั้นแกล้งพี่แกซ่ะโมโหหลายครั้งเลยนี้เนอะ ฮ่ะๆ" อิจิกะพูดแล้วหัวเราะแห้งๆ
ทั้งสองออกจากลิฟต์แล้วแยกกันกลับห้องของตน ระหว่างทางกลับห้องของอิจิกะนั้น เมลล์ฉบับนึงถูกส่งมาให้กับเจ้าตัวผ่านทางโทรศัพท์ของเขา
'นายต้องย้ายห้องไปอยู่ห้องXXX จะมีรูมเมดอีกสองคนมาอยู่ด้วย นี้เป็นคำสั่ง!'
อิจิกะอ่านเมลล์ฉบับนั้นแล้วถอนหายใจ สองเท้าพลันเร่งความเร็วในการก้าวขึ้น ชายหนุ่มเดินมาหยุดอยู่ที่ห้องที่ตนต้องย้ายเข้ามา เสียงถอนหายใจเบาๆด้วยความเหนื่อยหน่ายดังขึ้น เสียงเพลงดังผ่านประตูห้อง รูทเมดทั้งสองน่าจะเดินทางมาถึงแล้ว อิจิกะคิดเช่นนั้นแล้วยกมือขวาขึ้นมาบิดลูกบิดแล้วผลักเข้าไป
"อ๊ะ!"
"เหอ?"
"เฮ้ย!"
อิจิกะค้างอยู่ในท่าเปิดประตู ปากอ้าเปิดอย่างตกใจ ภารันที่นอนอ่านหนังสืออยู่เงยหน้าขึ้นมามองแล้วทำหน้าอึ้งมองจ้องไปที่ผู้มาใหม่ ส่วนอาทิตย์ที่กำลังทานขนมขบเคี้ยวอยู่ถึงกับทำถุงร่วงแล้วสตั้นไปทั้งอย่างงั้น
"หวัดดี" ภารันยกมือทักทายแล้วหันกลับไปอ่านหนังสือต่อ อาทิตย์มองคนตรงหน้าอย่างอึ้งทึ่งแล้วก้มลงเก็บถุงขนมที่หล่น เสียงหัวเราะแห้งๆถูกส่งให้คนที่หน้าประตูก่อนจะกล่าวอะไรออกมา
"เหอๆๆๆๆ ถ้านายหายงงแล้วก็ปิดประตูด้วยนะอิจิกะ"
"นี้มันอะไรกันเนี่ย!?!?"
และแล้ว ชายหนุ่มผู้สามารถขับไอเอสได้เป็นคนแรกของโลกก็ได้มาพบเจอกับผู้พัฒนาเทคโนโลยีชนิดใหม่ขึ้น ม่านการแสดงอันแสนวุ่นวายภายในโรงเรียนไอเอสแห่งนี้ก็ได้เปิดม่านโหมโรงขึ้นด้วยประการฉะนี้.
"ถึงญี่ปุ่นแล้วววว!!" อาทิตย์วิ่งออกมาจากยานรบที่เทียบท่ากับท่าเรือของโรงเรียนไอเอส เสียงหัวเราะร่าเริงของเขาทำให้อีกสองคนที่เหลือหัวเราะแห้งๆ
"ดีนะที่ทางญี่ปุ่นเขาอนุญาตให้เราเอาเจ้านี้เข้ามาในประเทศได้ ไม่งั้นการซ่อมบำรุงอะไรต่างๆคงลำบากกันแน่ครับ" ภารันพูดกับณเรศแล้วเอามือตบเข้ากับผนังของยาน'CBS-742 Ptolemaios 2 Kai'เบาๆ
ทั้งสามคนเดินทางมาจากประเทศไทยหลังจากที่อะไรๆต่างก็เข้าที่เข้าทางแล้ว โดยทางจิฟูยุกลับมาก่อนตั้งแต่การทดสอบจบลง ยานลำดังกล่าวที่ซิกม่าทีมโดยสารมานั้นเป็นยานรบที่ภารันสร้างขึ้นเพื่อเป็นฐานบัญชาการเคลื่อนที่และโรงซ่อมบำรุงสำหรับภารกิจระยะยาว
"แกอย่าลืมไปขอบคุณคุณโอริมูระเขาด้วยละ ถ้าไม่ใช่เพราะเขาคุยกับทางรัฐบาลให้ ป่านนี้พวกเราคงต้องเจองานหยาบแน่ เหอะๆ" ณเรศเอ่ยเตือนภารัน เพราะจิฟูยุเป็นคนไปพูดกับผู้ใหญ่ของญี่ปุ่นให้ พวกเขาจึงสามารถนำยานรบลำนี้เข้ามาในประเทศได้ โชคดีจริงๆ
"ว่าแต่เอามันมาจอดในโรงเก็บเรืออย่างงี้จะไม่มีคนมาเห็นหรอครับพี่ณเรศ" อาทิตย์อดไม่ได้ที่จะถามผู้หมวดหนุ่ม เพราะตอนเดินทางมา ภารันก็ขับมันไม่ขึ้นมาเหนือพื้นน้ำตลอดเพื่อป้องกันผู้พบเห็น
"เรื่องนั้นไม่ต้องห่วงหรอก ที่นี้เป็นโรงเก็บเรือที่สั่งห้ามให้คนภายนอกเข้ามา ฉะนั้นไม่ต้องห่วงว่าความลับจะแตกหรอก" น้ำเสียงเรียบนิ่งของผู้หญิงทำให้ทั้งสามหันกลับไปมองทันที
ในสายตาของทั้งสามปรากฏหญิงสาวสองคนเดินเข้ามาในโรงเก็บ เป็นจิฟูยุกับหญิงสาวเรือนผมสีเขียวที่ทั้งสามไม่รู้จัก
"สวัสดีครับคุณโอริมูระ ต้องขอบคุณที่ช่วยทำเรื่องอนุญาตนำเจ้าปโตเลไมออสทูว์ไคเข้ามาในญี่ปุ่นได้จริงๆครับ ว่าแต่สุภาพสตรีข้างๆนั้นใครหรือครับ?" ภารันเอ่ยขอบคุณจิฟูยุแล้วถามต่อทันทีอย่างสงสัย
เมื่อได้ยินคำถามของเด็กหนุ่มตรงหน้า หญิงสาวคนดังกล่าวก็พูดแนะนำตัวเองทันที
"ดิฉันชื่อยามาดะ มายะค่ะ เป็นอาจารย์อีกคนหนึ่งของโรงเรียนไอเอสแห่งนี้ ฝากเนื้อฝากตัวด้วยน่ะคะ" กล่าวจบ มายะก็โค้งทักทายทั้งสามคน
ทั้งสามยิ้มรับ ก่อนจะเอ่ยแนะนำตัวอย่างเป็นมิตรกับมายะ
"นายภานุราช ปราการกันย์ครับ เป็นผู้พัฒนาโครงการกับนักบินทดสอบ เพื่อความสะดวกเรียกว่าภารันก็ได้นะครับ"
"ส่วนผมนายไตรสิงห์ วิพาบุญราช ชื่อเล่นอาทิตย์ครับ เป็นหนึ่งในนักบินทดสอบ ยินดีที่ได้รู้จักครับ"
"เรืออากาศโทณเรศ จันทระสุวรรณ์ หรือจะเรียกผมว่าผู้หมวดณเรศก็ได้ครับ เป็นทั้งนักบินทดสอบแล้วก็เป็นผู้ดูแลเจ้าสองคนนี้ไปในตัวน่ะครับ"
"เอ้าๆ ทักทายพอกันแค่นี้ละ เอาสัมภาระของพวงนายไปไว้ในรถนู้นเลย ที่พักของพวกนายสองคนอยู่ในหอพักนักเรียนของที่นี้ ส่วนผู้หมวดนะแยกมาพักที่หอพักอาจารย์ เครื่องแบบจะถูกส่งไปให้ที่ห้องพักในช่วงค่ำๆของวันนี้ เข้าใจใช่ไหม" ทั้งสามพยักหน้ารับให้จิฟูยุ ก็จะยกสัมภาระของพวกตนไปยังรถคันดังกล่าว
เมื่อนำสัมภาระทั้งหมดยัดลงรถแล้ว อาทิตย์ก็หันมาถามจิฟูยุโดยทันที
"คุณโอริมูระคร้าบ พวกผมไปเดินเล่นในเมืองได้ไหมครับ?"
"เชิญเลย กว่าห้องของพวกนายจะจัดเสร็จก็เย็นนู้นละ จะไปไหนก็เชิญ" จิฟูยุพูดจบ อาทิตย์ก็ฉีกยิ้มเบิกบานแล้วรีบวิ่งลากตัวอีกสองคนออกไป
"ไปเร็วๆ! อย่ามัวชักช้ากันสิ!"
"นายไม่ต้องรีบชนาดนั้นก็ได้มั้งเพื่อน"
"แกนี้มันจริงๆเลยนะ...เฮ้อ..."
ร่างสูงของทั้งสามคนเดินหายลับไปจากสายตา มายะที่อยู่ข้างๆก็หันมาถามจิฟูยุด้วยน้ำเสียงจริงจัง
"การที่เราอนุญาตให้พวกเขาเข้ามาในโรงเรียนของเราได้เนี่ย...มันจะไม่มีปัญหาจริงๆงั้นหรือคะ อาจารย์โอริมูระ"
"เฮ้อ...ชั้นก็ไม่ค่อยแน่ใจนักหรอกนะ แต่มันคงจะดีกว่าถ้าให้พวกเขาอยู่ในจุดที่เราสามารถมองเห็นได้ชัดเจน...ชั้นคิดเช่นนั้นนะยามาดะคุง" สิ้นคำพูดของจิฟูยุ มายะก็ถอนหายใจและพยักหน้ารับคำ
ย่านการค้าแถบโรงเรียนไอเอส
"คนเยอะสุดๆไปเลยแฮะ" อาทิตย์พูดแล้วหันไปมองซ้ายขวาอย่างตื่นตา ผู้คนจำนวนมากเดินขวักไขว่กันไปทั่วย่านการค้า ถึงส่วนใหญ่จะเป็นผู้หญิงรุ่นราวคราวเดียวกับสองหนุ่มก็เถอะ
"เพราะย่านการค้าที่นี้อยู่ใกล้กับโรงเรียนไอเอสสินะ ชั้นถึงไม่ค่อยจะเห็นผู้ชายเท่าไหร่เลย" ภารันบ่นออกมาแล้วหัวเราะแห้งๆ เนื่องจากเจ้าตัวไม่ค่อยจะถูกโรคกับผู้หญิงอายุใกล้กันซักเท่าไหร่ กรี๊ดกันแต่ละทีหูแทบแตก(byที่โรงเรียนก่อนจะย้าย)
"น่าๆ พวกแกก็ถือซ่ะว่าอาหารตาละกัน ฮ่ะๆ" ณเรศกล่าวอย่างติดตลก แต่เมื่อหันมามองเด็กหนุ่มทั้งสองข้างหน้า สายตาเย็นชาก็ทิ่มแทงผู้หมวดหนุ่มซ่ะจนแทบพรุน
"คุกเลยนะผู้หมวด"
"ไม่น่าเชื่อว่าพี่จะเป็นคนแบบนี้เลยนะครับ"
กล่าวจบทั้งสองก็รีบสับขาเดินให้ห่างจากณเรศ
"เฮ้ย! จะบ้าเรอะ! ตูไม่ได้ชอบกินเด็กนะโว๊ย!"
ณเรศพูดพร้อมกับรีบเดินตามสองหนุ่มข้างหน้า
"ผู้หมวดนี้น่าขยะแขยงจริงๆ แม้แต่เด็กก็ไม่เว้น"
"เรารีบเดินหนีเหอะภารัน ชั้นไม่อยากจะอยู่ใกล้กับคนโรคจิต"
"นั้นสินะเพื่อน"
"พวกเอ็งฟังตูบ้างเด้!"
สามหนุ่มเร่งฝีเท้าของตนให้เร็วขึ้น เสียงโต้เถียงของทั้งสามดึงดูดให้คนรอบๆหันมามองด้วยความสงสัย เนื่องจากทั้งสามนั้นคุยกันเป็นภาษาไทย จึงทำให้คนรอบข้างได้แต่งงเท่านั้น
ผลั๊ก!
"ว๊าย!"
"เหวอ!"
เนื่องจากการเร่งฝีเท้าของทั้งสามหนุ่มโดยไม่มองทาง ทำให้อาทิตย์เดินชนเข้ากับผู้หญิงคนหนึ่งอย่างจัง
"อูย~ เจ็บจัง" ผู้หญิงคนดังกล่าวขึ้นและลูบก้นของตัวเองปอยๆ เรือนผมสีเหลืองนั้นโบกสะบัดไปตามการเอียงหัวของหล่อน ดวงตาสีม่วงนั้นมีน้ำตาเล็ดออกมาเล็กๆเนื่องจากความเจ็บที่ล้มลง
"เหวอ ขอโทษด้วยนะครับ" อาทิตย์รีบลุกขึ้นแล้วยื่นมือไปเพื่อจะช่วยพยุงคนตรงหน้าให้ลุกขึ้น ก่อนจะยกมือขอโทษคนตรงหน้า
"ไม่เป็นไรหรอกคะ" ร่างบางลุกขึ้นแล้วยิ้มบางๆส่ายหัวเชิงบอกไม่เป็นอะไร
"ต้องขอโทษจริงๆนะครับที่พวกผมเดินไม่ดูทางจนหมอนี้เดินชนคุณเข้า"
"พี่ขอโทษแทนเจ้าพวกนี้ด้วยเหมือนกันนะ ขอโทษจริงๆ"
ภารันกับณเรศยกมือขอโทษคนตรงหน้าด้วยสีหน้าลำบากใจ
"อ-เอ๋! ม-ไม่ต้องคิดมากกันขนาดนั้นหรอกคะ ชั้นก็ไม่ได้เป็นอะไรมากด้วย" เด็กสาวตรงหน้ารีบโบกมือบอกว่าไม่เป็นอะไรจริงๆอย่างร้อนรน
"ชาร์ล! อยู่ไหนนะ! ชาร์ล!"
"อ่ะ! อิจิกะ! ทางนี้ๆ!" สิ้นเสียงเรียกดังกล่าว เด็กสาวรีบหันกลับโบกมือเรียกเจ้าของเสียงเมื่อครู่อย่างร่าเริง
"แฟนเขามานู้นแล้วน่ะเพื่อน"
"หวังว่าแกจะไม่โดนเขาซัดเอานะไอหนู"
"นี้ไม่คิดจะช่วยกันเลยหรือครับ..."
อาทิตย์หันหน้ากลับไปมองคนรู้จักทั้งสองด้วยสายตาอ้อนวอน รอยยิ้มมัจจุราชฉายชัดบนใบหน้าของผู้ยืนอยู่ด้านหลังทั้งสองคนอย่างชัดเจน
"ไม่!"
สิ้นคำพูดของสองมัจจุราช เด็กหนุ่มเรือนผมสีน้ำเงินแกมดำเจ้าของเสียงเมื่อครู่ก็เดินเข้ามาใกล้แล้วมองทั้งสามสลับกับเด็กผู้หญิงตรงหน้าอย่างงุนงง
"คนพวกนี้เป็นใครหรอชาร์ล?" เด็กหนุ่มหันไปถามร่างบางอย่างสงสัย
"เอ่อ...คือ...แบบว่า...พอดีผมเดินไม่ทันระวังจนไปชนแฟนคุณเข้านะครับ ต้องขอโทษด้วยจริงๆ" อาทิตย์พูดแล้วยกมือไหว้ขอโทษให้กับคนตรงหน้า
"ฟ-แฟน! ม-ไม่ใช่นะ พวกผมเป็นเพื่อนกันเฉยๆเองนะ!"
"ม-ไม่ใช่แฟนหรอกคะ!...ถ-ถึงอยากจะให้อิจิกะคิดอย่างนั้นก็เถอะ..."
หน้าของเด็กหนุ่มและเด็กสาวแดงด้วยความเขินอาย รีแอ็คชั่นของคนตรงหน้าทำให้ทั้งสามอดไม่ได้ที่จะยิ้มที่มุมปากบางๆ
"ฮ่ะๆ อ้อ! พวกผมขอความช่วยเหลืออะไรซักหน่อยได้ไหมครับ พอดีพวกผมพึ่งมาถึงเมืองนี้นะครับ แล้วยังไม่ได้ทานอะไรกันมาเลย ช่วยแนะนำร้านที่อร่อยๆหน่อยจะได้ไหมครับ ถึงพวกผมพึ่งจะก่อเรื่องให้พวกคุณก็เถอะ แต่ถ้าไม่ได้ก็ไม่เป็นอะไรหรอกครับ..." ภารันเอ่ยถามทั้งสองอย่างเกรงใจ เนื่องจากเมื่อซักครู่พวกตนพึ่งก่อเรื่องให้กับคนตรงหน้า ถึงจะขอโทษไปแล้ว แต่การที่จะมาขอความช่วยเหลือต่อนั้นจึงดูหน้าด้านเกินไปนิด
"มันก็ไม่ได้มีปัญหาอะไรหรอกครับ เดี๋ยวพวกผมพาไปก็ได้ ทางนี้ก็ยังไม่ได้ทานอะไรมาเหมือนกัน...แล้วชาร์ลละ?" เด็กหนุ่มหันไปถามคนข้างๆ
"ไม่เป็นไรหรอก ไปด้วยกันหลายคนก็สนุกดีออกนะ!" ร่างบางตอบแล้วหันมายิ้มให้สามหนุ่มอย่างเป็นกันเอง
"งั้นตามมาเลยครับ!" แล้วทั้งสองก็เดินนำสามหนุ่มไปร้านดังกล่าว
"ว่าแต่พวกคุณเป็นนักท่องเที่ยวหรอครับ?" ระหว่างทาง เด็กหนุ่มผมน้ำเงินแกมดำก็หันมาถามสามหนุ่มอย่างสงสัย
"จะว่าอย่างงั้นก็ได้ละมั้งครับ พวกผมมาจากเมืองไทยนะ" ภารันตอบอย่างเป็นมิตร รอยยิ้มบางๆยังคงประดับบนใบหน้านั้น
"เห~ พูดภาษาญี่ปุ่นคล่องจังเลยนะคะ" เด็กสาวพูดด้วยแปลกใจ สามหนุ่มหัวเราะเบาๆ ก่อนที่ณเรศจะเป็นคนกล่าวตอบ
"ฝึกมาหลายปีแล้วนะ แต่ดูแล้วคุณหนูเองก็เป็นคนต่างชาตินี้ครับ หัดภาษาญี่ปุ่นมานานหรือยังละ?" สิ้นคำพูด สายตาเบื่อหน่ายก็ถูกส่งมาจากเด็กใต้การปกครองทั้งสอง
"หน้าหม้อละB1"
"ใช่เลยB2"
เด็กสาวหัวเราะเสียงใสเมื่อเห็นปฎิกิริยาของสองหนุ่ม ส่วนผู้หมวดหนุ่มก็ทำได้เพียงขบเคี้ยวฝันอย่างหงุดหงิด
"ก็นานพอสมควรค่ะ คุยกันมานานแล้ว พวกคุณชื่ออะไรกันหรอคะ ชั้นชื่อชาร์ล็อตท์ ดูนัวส์ ยินดีที่ได้รู้จักนะ"
"ภารันครับ ยินดีได้รู้จัก"
"อาทิตย์ครับ"
"พี่ชื่อณเรศ เป็นผู้ปกครองของสองคนนี้"
ทั้งสามแนะนำตัวแล้วยิ้มให้กับทั้งสอง
"ส่วนชั้นชื่อโอริมูระ อิจิกะ ยินดีที่ได้รู้จักเช่นกัน" สิ้นคำแนะนำตัวของอิจิกะ ใบหน้าของสามหนุ่มก็แสดงถึงความอึ้งนิดๆ
"นี้นายเป็นน้องชายของคุณโอริมูระจริงดิ?" ภารันถามอิจิกะอย่างมึนงง
"อา...ก็ใช่นะ ทำไมหรอ"
"ไม่มีอะไรๆ" ภารันรีบโบกมือปฏิเสธอย่างรวดเร็ว ส่วนในใจก็เพียงแต่หัวเราะแห้งๆเท่านั้น
"เห...นี้น้องชายของคุณโอริมูระสินะ หน่วยก้านพอใช้ได้" ณเรศพูดเบาๆขณะมองอิจิกะตั้งแต่หัวจรดเท้า
"นิสัยดีผิดคาดเลยแฮะ อืมๆ" อาทิตย์พูดแล้วยกมือลูบคางใช้ความคิด
"รู้จักพี่กันด้วยหรอ?"
"นิดหน่อยนะ" ทั้งสามตอบแล้วโบกมือหยอยๆเชิงปัดเปลี่ยนเรื่อง
ความเงียบเข้าปกคลุมคนในกลุ่มอีกครั้ง ร่างทั้งห้าก็เดินมาหยุดที่หน้าร้านอาหารสำหรับครอบครัวแห่งหนึ่ง
"ร้านนี้ละ" อิจิกะชี้ให้ทั้งสามดูก่อนที่จะเดินนำเข้าไป
ภายในร้านยังไม่ค่อยจะมีคนมากนักจึงทำให้มีโต๊ะที่ยังว่างอยู่หลายตัว พนักงานพาทั้งห้าไปยังโต๊ะตัวหนึ่งก่อนจะส่งเมนูให้ห้าเล่มแล้วยืนรอรับออเดอร์
"ผมเอาสเต็กหมูแบบมีเดียม แล้วก็ชามะนาวแก้วนึงครับ" ภารันตอบแล้วเอามือเท้าคางบนโต๊ะ
"ข้าวผัดอเมริกัน ชามะนาวอีกแก้วครับ" อาทิตย์ตอบแล้วฉีกยิ้มให้พนักงาน
"เอาข้าวหน้าเนื้อละกันครับ แล้วก็มิ้ลค์เชคสตอเบอร์รี่แก้วนึง" ณเรศสั่งอย่างใจเย็น สายตาเอือมระอาถูกส่งมาจากสองหนุ่มที่นั่งขนาบข้างเขาไว้
"มิ้ลค์เชคสตอเบอร์รี่ละอาทิตย์"
"ไม่นึกเลยว่าพี่เขาจะเป็นคนมุ้งมิ้งเช่นนี้เนอะภารัน บรื้อ~"
"พวกเอ็งวันนี้เป็นอะไรกับตูนักฟ่ะ!"
อิจิกะกับชาร์ล็อตท์หัวเราะเสียงใสกับเหตุการณ์ตรงหน้า เสียงหัวเราะของทั้งคู่ดึงให้ทั้งสามหันกลับมามองแล้วส่ายหัวอย่างอ่อนใจกับพฤติกรรมอันไร้สาระของพวกตน
"อา...ปล่อยไก่ตัวเบอเร่อเลยแฮะ เหอๆๆ" ภารันบ่นแล้วหัวเราะแห้ง
"ฮิๆๆ เฮฮาดีออกนี้นา ชั้นเอาสปาเก็ตตี้คาโบนาล่าละกันค่ะ น้ำกีวี่แก้วด้วยนะคะ" ชาร์ล็อตท์สั่งอาหารกับพนักงานเสียงใส
"ฮ่ะๆ พวกนายนี้สนิทกันดีจังนะ งั้นผมเอาข้าวหน้าเนื้อด้วยชามนึงนะครับ แล้วก็เพิ่มชามะนาวมาอีกแก้วเลยครับ" อิจิกะพูดแล้วยิ้มอย่างร่าเริง
พนักงานทวนรายการอาหารอีกครั้งเพื่อป้องกันการผิดพลาด ก่อนจะเดินเอาออเดอร์ไปส่งให้ห้องครัวของร้าน
"ว่าแต่พวกนายสองคนมาญี่ปุ่นทำไมหรอ?" เมื่อพนักงานเดินจากไป อิจิกะจึงหันมาถามสองหนุ่มที่อายุใกล้เคียงกับพวกตน
"พวกชั้นย้ายมาเรียนที่ญี่ปุ่นนะ" ภารันตอบแล้วเอนหลังพิงพนักพิง
"พอดีได้โควต้าโครงการนักเรียนแลกเปลี่ยนอะนะ พวกชั้นเลยตัดสินใจย้ายมาที่ญี่ปุ่น" อาทิตย์ตอบแล้วยิ้มอย่างสบายอารมณ์
"เห~ ย้ายมากลางเทอมแบบนี้ไม่วุ่นวายหรอ?" ชาร์ล็อตท์อดที่จะถามต่อไม่ได้
"สุดๆเลยละ" อาทิตย์ด้วยน้ำเสียงสุดเซ็งจิต
"ดีที่ผู้หมวดแกช่วยทำเรื่องให้ ไม่งั้นคงวุ่นหนักกว่านี้อีก" ภารันพูดแล้วชี้ไปที่ผู้หมวดหนุ่มผู้นั่งข้างๆ
"ขอบคุณชั้นซ่ะสิ"
"ไม่!" สองหนุ่มสวนกลับไปทันทีโดยไม่จำเป็นต้องคิด
"ทำไมภารันนายถึงเรียกคุณณเรศว่าผู้หมวดละ ชั้นเห็นนายเรียกเขาอย่างนั้นมาหลายรอบแล้ว" อิจิกะถามต่อเพราะได้ยินคนตรงหน้าเรียกแบบนั้นมาหลายรอบแล้ว
"ไม่ต้องเรียกพี่ว่าคุณหรอก เรียกว่าพี่ณเรศก็ได้" ณเรศอดไม่ได้ที่จะต้องบอกอิจิกะ โดนเด็กเรียกว่าคุณนี้มันรู้สึกน่าอายแปลกๆนะ
"อ้อ ก็เขาเป็นทหารนิ แถมเป็นผู้หมวดด้วย ชั้นเลยเรียกแบบนั้นจนชินแล้วนะ" ภารันตอบหน้านิ่งแบบไม่ใส่ใจ
"จริงหรอคะพี่ณเรศ" ชาร์ล็อตท์พูดขึ้นด้วยความแปลกใจ
"ใช่แล้วจ๊ะ"
"เหอะ...โคแก่ริอาจจะกินหญ้าอ่อนเรอะ...โอ๊ยๆๆๆ! โทษครับพี่!"อาทิตย์แอบนินทาณเรศเบาๆ แต่ก็ไม่อาจจะพ้นหูนรกของชายหนุ่มไปได้ เด็กหนุ่มจึงโดนบิดเอวจนร้องเสียงหลง
เสียงหัวเราะของคนที่เหลือดังออกมาจากปากทันทีเมื่อมองภาพตรงหน้า อาทิตย์ที่ถูกบิดเอวเมื่อครู่เบ้ปากแล้วบ่นงึมงำสาปแช่งณเรศ
"จะว่าไป นายอยู่โรงเรียนไอเอสสินะ ที่นั้นบรรยากาศเป็นไงหรอ ถ้าเป็นที่เมืองไทยชั้นบอกเลยว่ามีแต่เสียงกรี๊ดกร๊าดแสบแก้วหูสุดๆ" อาทิตย์ถามอิจิกะอย่างนึกสนุก
"ก็ไม่ขนาดนั้น เสียงกรี๊ดกร๊าดมันก็เยอะอยู่หรอก แต่ทุกคนที่โรงเรียนนี้เหมือนมีพลังงานล้นเหลือเลยละ ฮ่ะๆ" อิจิกะตอบแล้วหัวเราะแห้งๆ
"นี้ๆ! จะว่าไปที่เมืองไทยยังใช้ช้างในการเดินทางอยู่หรือเปล่า?" ชาร์ล็อตท์ถามทั้งสามเสียงใส ดวงตาของหล่อนเป็นประกายด้วยความอยากรู้อยากเห็น ส่วนอิจิกะก็พยักหน้าด้วยความอยากรู้เช่นกัน
"ห่ะ?" คำถามของชาร์ล็อตท์สร้างความสตั้นให้แก่สามหนุ่มเป็นอย่างมาก สามหนุ่มนั่งนิ่งเพื่อประมวลผลคำถามเมื่อครู่ซักพักก่อนจะยกมือกุมขมับกันอย่างพร้อมเพรียง สร้างความงุนงนให้กับเด็กหนุ่มสาวต่างชาติคู่นี้เป็นอย่างยิ่ง
"ไปฟังใครเขามากันเนี่ย..." ณเรศพูดพร้อมกับนวดขมับอย่างปวดหัว ส่วนอาทิตย์ก็หัวเราะเป็นเสียงโมโนโทนด้วยใบหน้าตายด้าน
ภารันสูดหายใจเข้าลึกๆแล้วปล่อยออกมาอย่างเซ็งจิต ก่อนจะตอบทั้งสองด้วยน้ำเสียงราบเรียบ
"ทั้งคู่ฟังนะ ช้างนะ ส่วนใหญ่เขามีแต่ในแหล่งท่องเที่ยว...อาจจะมีบ้างที่ถูกควาญช้างพาออกมา แต่ไม่มีเดินเพ่นพล่านกันกลางถนนหรอก เดี๋ยวโดนรถชนตายกลายเป็นเรื่องใหญ่กันพอดี..." สิ้นคำพูดของเด็กหนุ่ม อิจิกะกับชาร์ล็อตท์ก็ชะงักไปครู่นึง ก่อนจะหัวเราะแห้งๆให้กับคำถามเมื่อซักครู่ แล้วตัดสินใจเปลี่ยนเรื่องคุยกัน
ทั้งห้าคุยเรื่อยเปื่อยกันไปซักพัก อาหารก็ถูกยกมาเสิร์ฟ สามหนุ่มรีบจัดการอาหารในจานอย่างเอร็ดอร่อยด้วยความหิว ส่วนสองคนที่เหลือนั้นค่อยๆทานตามปกติแต่ก็อดไม่ได้ที่จะมองทั้งสามด้วยความขบขัน
เมื่อทานเสร็จ เวลาในวันนี้ยังเหลืออีกนานกว่าจะเย็น ทุกคนจึงตัดสินใจที่จะเดินดูร้านรวงอื่นๆในย่านการค้าต่อ
"อา...อร่อยมากเลยร้านนี้" อาทิตย์เดินลูบท้องของตนอย่างสบายอารมณ์
"รอบหน้าถ้าว่างเดี๋ยวมากินร้านนี้อีกดีกว่า" ภารันพูดแล้วอมยิ้มอย่างมีความสุข
"ว่าแต่พวกนายพักอยู่ที่ไหนละ?" อิจิกะหันมาถามสองหนุ่ม เผื่อว่าตนเองว่างจะได้ไปหา
"ยังไม่แน่ใจเท่าไหร่นะ" ภารันตอบแล้วโคลงศีรษะไปมา
"งั้นหรอ" อิจิกะพยักหน้ารับอย่างเซ็งๆ
"ทำไมอิจิกะไม่แลกเบอร์โทรศัพท์กับพวกภารัน เวลาจะนัดเจอกันก็จะได้ง่ายขึ้นด้วย" ชาร์ล็อตท์เสนอขึ้นมากลางกลุ่มด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น พวกหนุ่มที่เหลือก็ทุบมือร้องอ้อแล้วทำหน้าเหมือนพึ่งนึกออกกัน
ทั้งห้าตัดสินใจแลกเบอร์กันอย่างรวดเร็ว ก่อนตะเดินไปดูร้านค้าต่างๆต่อ เสียงคุยหัวเราะคิกคักดังขึ้นตลอดการเดินเที่ยวในวันนี้
ช่วงเย็นของวัน
ทั้งสามหลังจากลาอิจิกะกับชาร์ล็อตท์แล้วก็เดินเล่นกันต่ออีกซักพักก่อนจะมุ่งหน้าไปยังหอพักของพวกตน
"หอพักอาจารย์อยู่ทางนี้ พี่แยกไปก่อนนะ"
"เจอกันพรุ่งนี้ครับผู้หมวด"
"โชคดีนะครับพี่ณเรศ"
ณเรศเอ่ยกับทั้งคู่จบแล้วเดินโบกมือลาแยกตัวออกไป สองหนุ่มเดินต่อไปยังหอพักนักเรียนที่อยู่ข้างหน้า สองเท้าก้าวไปเอื่อยๆชมรอบข้างกันอย่างสบายใจ
ภายในหอพักถูกตกแต่งด้วยโทนสีเปลือกไข่ดูสบายตา หลอดไฟนีออนสีส้มช่วยทำให้บรรยากาศสบายๆในหอพักมีมากขึ้นไปอีก
"คนหายไปไหนกันหมดฟ่ะ?" ภารันพูดแล้วกวาดสายตาไปทั่วล็อบบี้ของหอพัก ทั่วบริเวณนั้นไม่ปรากฎใครซักคนยกเว้นเพียงพวกเขาทั้งสอง ขนาดตอนเดินมายังไม่เจอใครซักคนเลย มันจะเป็นไปได้ยังไงกัน?
"อาจจะอยู่ในห้องพักกันมั้ง" อาทิตย์พูดสวนกลับไปอย่างไม่ใส่ใจ เดินมาแล้วไม่เจอใครมันน่าแปลกใจตรงไหน ดีซ่ะอีก จะได้ไม่วุ่นวายกับคนอื่นๆมากนัก เพราะมีตัวผู้สองคนมาเดินโต้งๆในโรงเรียนหญิงล้วนแบบนี้ ไม่โดนหาว่าโรคจิตก็โดนวิ่งไล่กวดละนะ
ภารันหันไปมองเพื่อนสนิทแล้วถอนหายใจเบาๆอย่างเหนื่อยหน่าย เขาเดินนำอาทิตย์ไปยังลิฟท์ที่ใกล้ที่สุดแล้วเข้าไปข้างใน มือขวายกมือขึ้นไปกดเลขชั้นแล้วยืนพิงพนังลิฟท์
"นายรู้แล้วเรอะว่าพวกเราต้องพักห้องไหนน่ะ" อาทิตย์เดินตามเข้ามาในลิฟท์แล้วถามเพื่อนสนิทด้วยน้ำเสียงที่สงสัย ภารันเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย ก่อนจะยื่นโทรศัพท์ที่พึ่งมีเมลจากทางจิฟูยุมาให้อาทิตย์ดู
"นี้ชั้นต้องพักห้องเดียวกับนายเหมือนที่ไทยจริงดิ"
"เออสิ อย่าบ่นมากเลยเหอะ"
ประตูลิฟท์เปิดขึ้นอีกครั้งเมื่อถึงชั้นที่ภารันเลือกไว้ ทั้งสองเดินออกจากลิฟท์แล้วมุ่งตรงไปยังห้องที่ถูกจัดเอาไว้ให้กับพวกตน
ภารันเอื้อมมือเปิดประตูเข้าห้องพักอย่างเนือยๆ ด้านในปรากฎเตียงสามเตียงที่มีสัมภาระของพวกตนวางเอาไว้สองเตียง ส่วนเตียงสุดท้ายเป็นสัมภาระของใครก็ไม่รู้วางอยู่
"สัมภาระของใครอีกฟ่ะนั้น?"
"ชั้นก็ไม่รู้ ช่างมันละกันเนอะ"
"นั้นสินะ"
สองหนุ่มปิดประตูห้องแล้วจัดการกับสัมภาระชองพวกตนอย่างสบายใจ
"เครื่องแบบส่งมายังอ่ะ" อาทิตย์หันไปถามเพื่อนสนิทที่รื้อกระเป๋าเสื้อผ้าเพื่อจะนำไปใส่ตู้เสื้อผ้าของตน
"เออๆ" ภารันขานรับแล้วเดินไปเปิดตู้เสื้อผ้าเพื่อจะนำของๆตนเข้าไปใส่ ภายในตู้ปรากฎชุดนักเรียนชายของโรงเรียนที่สีดำกับขาวสลับกันอยู่หกชุด และมีชุดนักเรียนชายของโรงเรียนแบบธรรมดาอีกสามชุดอยู่ในนั้น
"สรุปมีป่าวอ่ะ?"
"มีของแกกับชั้นอย่างละสามชุด อีกอันของใครก็ไม่รู้เนี่ยสิ"
"ถ้าชุดของพวกเรามาแล้วก็จัดของต่อเถอะ"
"อา"
ทางฝั่งของณเรศ เมื่อเขาเดินมาถึงล็อบบี้ในหอพักของตน ร่างของเขาต้องหยุดชะงักลงด้วยความงงงวยกับภาพตรงหน้า ภายในล็อบบี้ถูกตกแต่งด้วยของตกแต่งสำหรับงานปาร์ตี้ บริเวณกลางห้องมีโต๊ะที่วางอาหารจำนวนมากเอาไว้ รอบข้างมีอาจารย์สาวหลายท่านที่บนหัวมีหมวกรูปทรงกรวยประดับไว้บนหัว ในจำนวนนั้นมีจิฟูยุที่หน้าบูดและมายะที่นั่งโบกมือให้ตนอยู่ด้วย
"นี้มันอะไรกันฟ่ะ" สายตาของณเรศเหลือบขึ้นไปมองด้านบนเพดานที่มีป้ายแขวนขนาดใหญ่ที่ถูกเขียนด้วยสีหลากหลายสีเอาไว้
'ต้อนรับอาจารย์ณเรศสู่โรงเรียนไอเอสค่า~'
คิ้วขวาของชายหนุ่มกระตุกถี่ยิบ ปากของเขาแข็งค้างในท่าอ้าปาก ก่อนที่ตนจะโดนอาจารย์สาวคนหนึ่งเดินมาจับแขนแล้วฉีกยิ้มให้
"มาเร็วสิคะ! พวกเรารอคุณตั้งนานแน่ะ! งานนี้จัดเพื่อคุณโดยเฉพาะเลยนะ!" ว่าจบ ร่างสูงก็โดนหญิงสาวคนดังกล่าวลากไปทั้งๆที่ยังงงงวยกับเหตุการณ์เบื้องหน้าอยู่
"What the Fu*k!?!?"
หลังจากที่สองหนุ่มเดินทางมาถึงห้องพักได้สักพักหนึ่ง ร่างของชายหญิงคู่หนึ่งก็เดินเข้ามาในล็อบบี้ของหอพัก อิจิกะกับชาร์ล็อตท์เดินไปกดลิฟต์ก่อนจะเข้าไปในตัวลิฟต์เพื่อจะไปยังชั้นที่เลือกไว้
"วันนี้สนุกดีนะ พวกภารันก็คุยสนุกดีด้วย" อิจิกะพูดด้วยสีหน้าที่ยิ้มแย้ม ชาร์ล็อตท์ที่อยู่ข้างๆหัวเราะเบาๆเมื่อเห็นว่าชายข้างๆยิ้มอย่างมีความสุขเพราะได้รู้จักเพื่อนผู้ชายที่มีวัยใกล้เคียงกันกับตน
"ฮิๆ นั้นสินะ แต่ว่าชั้นสงสารพี่ณเรศนิดๆแฮะที่โดนสองคนนั้นแกล้งบ่อยมากเลย"
"เจ้าสองคนนั้นแกล้งพี่แกซ่ะโมโหหลายครั้งเลยนี้เนอะ ฮ่ะๆ" อิจิกะพูดแล้วหัวเราะแห้งๆ
ทั้งสองออกจากลิฟต์แล้วแยกกันกลับห้องของตน ระหว่างทางกลับห้องของอิจิกะนั้น เมลล์ฉบับนึงถูกส่งมาให้กับเจ้าตัวผ่านทางโทรศัพท์ของเขา
'นายต้องย้ายห้องไปอยู่ห้องXXX จะมีรูมเมดอีกสองคนมาอยู่ด้วย นี้เป็นคำสั่ง!'
อิจิกะอ่านเมลล์ฉบับนั้นแล้วถอนหายใจ สองเท้าพลันเร่งความเร็วในการก้าวขึ้น ชายหนุ่มเดินมาหยุดอยู่ที่ห้องที่ตนต้องย้ายเข้ามา เสียงถอนหายใจเบาๆด้วยความเหนื่อยหน่ายดังขึ้น เสียงเพลงดังผ่านประตูห้อง รูทเมดทั้งสองน่าจะเดินทางมาถึงแล้ว อิจิกะคิดเช่นนั้นแล้วยกมือขวาขึ้นมาบิดลูกบิดแล้วผลักเข้าไป
"อ๊ะ!"
"เหอ?"
"เฮ้ย!"
อิจิกะค้างอยู่ในท่าเปิดประตู ปากอ้าเปิดอย่างตกใจ ภารันที่นอนอ่านหนังสืออยู่เงยหน้าขึ้นมามองแล้วทำหน้าอึ้งมองจ้องไปที่ผู้มาใหม่ ส่วนอาทิตย์ที่กำลังทานขนมขบเคี้ยวอยู่ถึงกับทำถุงร่วงแล้วสตั้นไปทั้งอย่างงั้น
"หวัดดี" ภารันยกมือทักทายแล้วหันกลับไปอ่านหนังสือต่อ อาทิตย์มองคนตรงหน้าอย่างอึ้งทึ่งแล้วก้มลงเก็บถุงขนมที่หล่น เสียงหัวเราะแห้งๆถูกส่งให้คนที่หน้าประตูก่อนจะกล่าวอะไรออกมา
"เหอๆๆๆๆ ถ้านายหายงงแล้วก็ปิดประตูด้วยนะอิจิกะ"
"นี้มันอะไรกันเนี่ย!?!?"
และแล้ว ชายหนุ่มผู้สามารถขับไอเอสได้เป็นคนแรกของโลกก็ได้มาพบเจอกับผู้พัฒนาเทคโนโลยีชนิดใหม่ขึ้น ม่านการแสดงอันแสนวุ่นวายภายในโรงเรียนไอเอสแห่งนี้ก็ได้เปิดม่านโหมโรงขึ้นด้วยประการฉะนี้.
คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
8 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ