Infinite Stratos:"ฟันเฟืองสุดท้ายเพื่อโลกใหม่"

8.7

เขียนโดย Netales

วันที่ 28 มิถุนายน พ.ศ. 2560 เวลา 20.40 น.

  5 ตอน
  2 วิจารณ์
  8,114 อ่าน

แก้ไขเมื่อ 28 มิถุนายน พ.ศ. 2560 21.23 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น

แชร์นิยายฟิคชั่น Share Share Share

 

3) บทที่2 "การทดสอบประสิทธิภาพ"

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

ทั้งสามเปลี่ยนชุดเป็นชุดไพล็อตเฉพาะของโมบิลสูท หมวกกันน็อคที่สร้างเป็นพิเศษถูกสวมเข้าที่ศีรษะ ตู้คอนเทนเนอร์ทั้งสามตู้เปิดออกให้เห็นชุดเกราะที่อยู่ด้านใน

"แผนที่นายวางไว้หวังว่ามันจะได้ผลนะภารัน ถ้าไม่ได้นี้ชั้นคงเซ็งแย่แน่" เสียงของอาทิตย์ดังขึ้นผ่านช่องสื่อสารในหมวกกันน็อคของภารัน เด็กหนุ่มฉีกยิ้มบางๆหลังจากฟังคำบ่นของเพื่อนสนิท

"มีความเป็นไปได้สูงว่าหล่อนอาจจะส่งอะไรมาทดสอบโมบิลสูทของพวกเรานะ ก็เล่นแฮกกิ้งเข้ามาลักลอบเอาข้อมูลบางส่วนไปเลยนี้นา" สิ้นคำพูด ภารันก็ได้ยินเสียงอุทานของอาทิตย์ดังสวนกลับมา

"นี้นายปล่อยให้หล่อนแฮกกิ้งเข้ามาเรอะ! แล้วนี้หล่อนได้ข้อมูลไปกี่เปอร์เซ็นละเนี่ย!"

"ไอข้อมูลที่แกปล่อยให้หล่อนได้ไปแค่0.1เปอร์เซ็นนั้นอ่ะนะภารัน" ณเรศเอ่ยขัดเมื่อเห็นว่าอาทิตย์เริ่มจะหลงประเด็น

ภารันไม่ตอบอะไรเพียงแค่พยักหน้า ก่อนที่ตนและคนอื่นๆจะก้าวเข้าไปในคอนเทนเนอร์ที่บรรจุชุดเกราะของตน

หน้าจออิเล็กโทรนิคสีใสปรากฎขึ้นที่ด้านหน้าของทั้งสาม คำยืนยันภาษาไทยถูกแสดงออกมาให้เห็น

'กรุณาลงทะเบียนนักบินประจำเครื่องเห็นเช่นนั้น ทั้งสามก็ฉีกยิ้มออกมาอย่างเริงร่า

'ยืนยันการลงทะเบียน...นักบินประจำเครื่องคือ Z3H29JK6TH นายภานุราช ปราการกันย์...เริ่มการบันทึกลักษณะม่านตา...เสร็จสิ้น...เริ่มการบันทึกลักษณะลายนิ้วมือ...เสร็จสิ้น...เริ่มการบันทึกลักษณะเสียง...เสร็จสิ้น...เริ่มทำการดาวน์โหลดไฟล์ข้อมูลเครื่องลงอุปกรณ์ยืนยันตัวตนที่มือซ้าย...เสร็จสิ้น...เริ่มการประกอบชิ้นส่วนเข้ากับนักบิน...เสร็จสิ้น...เดินเครื่องระบบทั้งหมด...ระบบทั้งหมดออนไลน์...'GNS-002 Nightmare'เดินเครื่อง...'

ภารันแสยะยิ้มอย่างยินดี ร่างสีดำเทาก้าวออกมาจากคอนเทนเนอร์ เขารูปทรงตัววีสะท้อนกับแสงแดด แขนทั้งสองข้างที่มีปลอกแขนที่ยึดดาบเอาไว้ข้างละเล่มขยับไปมาเพื่อความคุ้นชิน ข้างเอวทั้งสองมีปืนพกขนาดใหญ่ที่รูปร่างคล้ายแม็กนั่มเก็บเอาไว้ รูปร่างสมส่วนนั้นค่อยๆก้าวขาออกมาแล้วเริ่มวิ่ง เตาพลังงานด้านหลังส่งเสียงแปลกๆออกมาแล้วดันร่างนั้นให้บินเลียบพื้นไปจุดทดสอบ

'ยืนยันการลงทะเบียน...นักบินประจำเครื่องคือ Z5K47GY9TH นายไตรสิงห์ วิพาบุญราช...เริ่มการบันทึกลักษณะม่านตา...เสร็จสิ้น...เริ่มการบันทึกลักษณะลายนิ้วมือ...เสร็จสิ้น...เริ่มการบันทึกลักษณะเสียง...เสร็จสิ้น...เริ่มทำการดาวน์โหลดไฟล์ข้อมูลเครื่องลงอุปกรณ์ยืนยันตัวตนที่หูขวา...เสร็จสิ้น...เริ่มการประกอบชิ้นส่วนเข้ากับนักบิน...เสร็จสิ้น...เดินเครื่องระบบทั้งหมด...ระบบทั้งหมดออนไลน์...'GNS-010 WhiteOwl'เดินเครื่อง...'

อาทิตย์บังคับเครื่องให้กระโดดออกมาจากคอนเทนเนอร์ ร่างสีขาวฟ้าขนาดใหญ่สะท้อนไปกับแสงแดดดูเจิดจ้า ไบน์เดอร์ขนาดใหญ่ที่ติดตั้งบีมไรเฟิลกำลังสูงขยับปีกควบคุมทิศทางขึ้นลง มือขวาถือหอกขนาดใหญ่ที่ติดตั้ง'Vernier Thrusters'เอาไว้โบกสะบัดไปมาเชิงทดสอบ เวอร์เนียทรัสเตอร์หกจุดที่ขาทั้งสองข้างช่วยดันร่างนั้นขึ้นจากพื้นจนได้ระยะ ก่อนจะเปลี่ยนร่างเป็นเครื่องบินขนาดเล็กแล้วพุ่งขึ้นไปยังท้องนภา

'ยืนยันการลงทะเบียน...นักบินประจำเครื่องคือ G7E31PN4TH เรืออากาศเอกณเรศ จันทระสุวรรณ์...เริ่มการบันทึกลักษณะม่านตา...เสร็จสิ้น...เริ่มการบันทึกลักษณะลายนิ้วมือ...เสร็จสิ้น...เริ่มการบันทึกลักษณะเสียง...เสร็จสิ้น...เริ่มทำการดาวน์โหลดไฟล์ข้อมูลเครื่องลงอุปกรณ์ยืนยันตัวตนที่คอ...เสร็จสิ้น...เริ่มการประกอบชิ้นส่วนเข้ากับนักบิน...เสร็จสิ้น...เดินเครื่องระบบทั้งหมด...ระบบทั้งหมดออนไลน์...'GN-002Ov Dynames Orvane'เดินเครื่อง...'

ณเรศก้าวขาลงจากคอนเทนเนอร์ ร่างที่ดุจดั่งมังกรสีเขียวมรกตนั้นขยับชิ้นส่วนของโล่ขนาดใหญ่ทั้งสี่เพื่อทดสอบการใช้งาน ปืนใหญ่ที่ติดตั้งไว้ที่หลังสะท้อนเข้ากับแสงแดดยามบ่าย มือขวาของมันขยับไปปลดสไนเปอร์ไรเฟิลขนาดเล็กที่ไหล่ขวาออกมาถือเอาไว้ หางสีเขียวที่ใช้เป็นฐานค้ำยันขยับขึ้นจากพื้นดิน ส่วนตีนตะขาบที่มีลักษณะคล้ายกับกรงเล็บมังกรถูกหมุนออกมาแทนที่เท้าทั้งสองข้าง และแล้วร่างนั้นก็เริ่มขยับตามแรงหมุนของตีนตะขาบ พุ่งไปยังสนามทดสอบของตน

"เทสๆ ศูนย์เรียกซิกม่าทีม มีข้อผิดพลาดอะไรหรือไม่ ย้ำ มีข้อผิดพลาดอะไรหรือไม่ เปลี่ยน"

"ซิกม่า01เรียกศูนย์ ยังไม่พบข้อผิดพลาดใดๆที่ตัวเครื่อง เปลี่ยน" ภารันตอบกลับขณะบินเลียบพื้นไปจุดทดสอบ ชายหนุ่มกระโดดพลิกตัวหลบถังน้ำมันถังหนึ่งที่ขวางทางแบบนักยิมนาสติค แล้วยิงสลิงที่ฝ่ามือขึ้นไปเกาะบนหลังคาโรงเก็บเพื่อที่จะวิ่งฟรีรันนิ่ง

"ซิกม่า02เรียกศูนย์ ขณะนี้ยังไม่พบข้อผิดพลาด แต่ความเร็วของเจ้านี้ในร่างยานมีสูงกว่าในซิมูเลชั่นจำลองถึง20เปอร์เซ็น เปลี่ยน" พูดเสร็จ อาทิตย์บังคับไวท์อาวล์บินผาดโผนไปตามเส้นทาง ก่อนจะใช้เวอร์เนียทรัสเตอร์ที่ฟ่าเท้าเบนเครื่องพุ่งขึ้นไปบนท้องฟ้าไต่ระดับความสูงขึ้นไปเรื่อยๆ ก่อนจะกลับเครื่องฉับพลันแล้วพุ่งลงไปเลียบกับผืนน้ำ

"ซิกม่า03เรียกศูนย์ ไม่มีข้อผิดพลาด ความเร็วของตีนตะขาบอยู่ตามเกณฑ์มาตรฐาน เปลี่ยน" ตัวณเรศกล่าวขณะที่ตนกำลังบังคับตีนตะขาบหลบหลีกสิ่งก่อสร้างต่างๆ แล้วหมุนตัวพลิกหลบรถคันหนึ่งที่ขวางทางตนอย่างคล่องแคล่วเหมือนนักเล่นสเก็ต

"ศูนย์เรียกซิกม่าทีม รับทราบ เลิกกัน"

ทั้งสามเคลื่อนตัวไปยังจุดทดสอบที่ถูกตระเตรียมไว้ สนามทดสอบประสิทธิภาพเครื่องปรากฎขึ้นในสายตาของทั้งสาม รอยยิ้มที่แฝงความสนุกถูกระบายขึ้นบนใบหน้า ความเร็วของเครื่องทั้งสามถูกเร่งขึ้นเพื่อให้ถึงสนามทดสอบของตนเร็วขึ้น

'WARNING...WARNING...'

สัญญาณเตือนภัยฉายชัดขึ้นบนหน้าจอของทั้งสามและศูนย์ทดสอบ บนน่านฟ้าของทะเลอันดามันบริเวณหน้าฐานทัพปรากฎไอเอสไร้คนบังคับ...โกเลมจำนวนสิบสองเครื่องบินมาด้วยความเร็วสูง

"นี้ยัยทาบาเนะอยากได้ข้อมูลของเจ้านี้ถึงขนาดนี้เลยงั้นหรอ..." จิฟูยุพึมพำขณะมองโกเลมที่บินใกล้เข้ามาเรื่อยๆ ก่อนที่พวกมันทั้งหมดจะแยกกลุ่มกันตามโมบิลสูททั้งสามเครื่องไป

"ศูนย์เรียกซิกม่าทีม ระงับการทดสอบแล้วนำโมบิลสูทกลับมา ทางศูนย์จะเริ่มทำการโจมตีไอเอสไม่ระบุสัญชาติดังกล่าว ย้ำ ระงับการทดสอบแล้วนำโมบิลสูทกลับมา ทางศูนย์จะเริ่มทำการโจมตีไอเอสไม่ระบุสัญชาติดังกล่าว เปลี่ยน"

"ซิกม่า01เรียกศูนย์ ซิกม่าทีมขอคำอนุญาตทำการโจมตีไอเอสที่ไม่ระบุสัญชาติที่บุกเข้ามาเพื่อทดสอบประสิทธิภาพเครื่องด้วย เปลี่ยน"

"ศูนย์เรียกซิกม่าทีม ไม่อนุญาต ย้ำ ไม่อนุญาต เปลี่ยน"

"ซิกม่า01เรียกศูนย์ หากเกิดอะไรขึ้น ซิกม่าทีมจะรับผิดชอบเอง ขอคำอนุญาตด้วย เปลี่ยน"

"ซิกม่า02เรียกศูนย์ ขอคำอนุญาตด้วยเช่นกัน เปลี่ยน"

"ซิกม่า03เรียกศูนย์ ขอคำอนุญาตทำการโจมตีด้วย เปลี่ยน"

เมื่อตอบกลับไปเช่นนั้น ศูนย์ก็เงียบไป ทั้งสามเริ่มใจเสียกลัวว่าแผนที่อุตส่าห์วางไว้จะล่มไม่เป็นท่า

"...ศูนย์เรียกซิกม่าทีม คำอนุญาตถูกอนุมัติ ย้ำ คำอนุญาตถูกอนุมัติ กรุณารักษาตัวด้วย เปลี่ยน"

"ซิกม่า01เรียกศูนย์ รับทราบ เลิกกัน" ภารันตัดสายกับทางศูนย์ ก่อนจะต่อสายไปหาสองคนที่เหลือ

"ได้ยินเมื่อกี้แล้วใช่ไหม" ภารันถามแล้วหัวเราะเบาๆ

"อา...ได้ยินแล้วหละ แต่ไม่น่าเชื่อนะเนี่ยว่าแผนของนายจะได้ผลจริงๆ" อาทิตย์ตอบแล้วกลั้วหัวเราะในลำคอ

"ศัตรูเข้ามาในระยะที่เซนเซอร์ของชั้นจับได้แล้ว ทางพวกแกคงจะอีกซักพักเซนเซอร์ถึงจะเห็น" ทั้งสองได้ยินณเรศพูดแล้วพยักหน้า

"งั้น...มาเริ่มกันเถอะ...เริ่มภารกิจทำลายไอเอสไร้คนบังคับที่บุกเข้ามาได้!"

"โรเจอร์!!"

[Parun]

"สี่ตัวงั้นเรอะ...อีกสองคนก็คงจะเจออย่างละสี่ด้วยมั้ง" ภารันมองเห็นจุดสีแดงสี่จุดในเซนเซอร์ที่พุ่งเข้ามาหาตนด้วยความเร็วสูง ปืนพกที่ข้างเอวถูกปลดออกมาถือเอาไว้เตรียมใช้งาน อนุภาคGNถูกปล่อยออกมาจากเตาพลังงานด้านหลังเพื่อรบกวนเซนเซอร์ฝ่ายตรงข้าม

"หวังว่า'Maximum Shorty'สองกระบอกจะพอเอาอยู่นะ" เด็กหนุ่มบ่นเบาๆแล้วพุ่งตัวไปดักรอศัตรูที่โผล่มา

โกเลมทั้งสี่ตัวลงจอดบนพื้นดินห่างจากตัวเด็กหนุ่มไปสองช่วงตึก พวกมันทั้งสี่เดินแยกออกจากกันเพื่อตามหาเป้าหมายที่นายของมันสั่งมา

โกเลมตัวหนึ่งเดินเข้ามาในตรอกซอยที่เด็กหนุ่มแอบอยู่ จุดสีแดงในเซนเซอร์ขยับเข้ามาใกล้เรื่อยๆจนเหลือเพียงอีกไม่กี่เมตรก็จะเจอตนที่หลบอยู่ตรงทางเลี้ยว

"Invisible System On" กล่าวจบ ร่างของไนท์แมร์ก็ค่อยๆหายไปจนมองไม่เห็น

เมื่อเห็นโกเลมตัวดังกล่าวเดินเลี้ยวเข้ามาที่ทางเลี้ยวที่ตนแอบอยู่ ไนท์แมร์ที่ล่องหนอยู่ก็ตวัดปืนพกทั้งสองกระบอกเล็งยิงเข้าที่หัวของไอเอสไร้คนบังคับผู้ถึงฆาต

"ไอโง่"

ปัง! ปัง! ปัง! ปัง! ปัง! ปัง! ปัง! ปัง! ปัง! ตึง!

เสียงรัวปืนถี่ยิบดังขึ้นในตรอกซอย ร่างอันใหญ่โตของโกเลมก็ล้มกระแทกเข้ากับพื้นเสียงดังอย่างหมดสภาพ บริเวณส่วนหัวของโกเลมปรากฏควันจำนวนมากที่เกิดจากหลอมละลายของเหล็กที่ถูกเผาไหม้

เมื่อเห็นว่าฝ่ายตรงข้ามถูกกำจัดเรียบร้อยแล้ว ภารันก็บินขึ้นไปบนดาดฟ้าของอาคารหลังนั้น เพื่อเปลี่ยนที่ซ่อน

โกเลมตัวอื่นๆเมื่อเห็นว่าเพื่อนของมันสัญญาณขาดหายไป พวกมันจึงรีบเคลื่อนตัวมายังจุดที่โกเลมตัวแรกถูกเด็กหนุ่มจัดการ

"ปลากินเบ็ดง่ายๆเลยแฮะ" ภารันบ่นเมื่อเห็นจุดสีแดงอีกสามจุดที่พุ่งเข้ามาที่เหยื่อล่ออย่างรวดเร็ว เอไอพวกนี้บางทีก็ไม่ค่อยจะคิดอะไรบ้างจริงๆนั้นหละ

แม็กซิมั่ม ช็อตตี้ในมือทั้งสองข้างถูกยกขึ้นมาเล็งไปยังโกเลมทั้งสามที่โผล่เข้ามาในตรอก นิ้วที่กำลังจะลั่นไกกลับหยุดชะงักลงเมื่อเห็นสัญญาณเตือนบางอย่างที่ที่ปรากฏให้ตนเห็น

"เห...เล่นเปิดบาเรียพลังงานแล้วเรอะ ฉลาดเหมือนกันนี้หว่าเจ้าพวกนี้ว่าจบ ปืนพกในมือก็ถูกเก็บกลับเข้าที่เดิมของมัน ร่างสูงปลดดาบที่ปลอกแขนออกมาถือไว้ที่มือทั้งสองข้างอย่างมาดมั่น

"เจอดาบที่ตัดทะลุบาเรียได้อย่าง'GN Sword'กับ'GN Sword Kai'หน่อยเป็นไง! ไอพวกหุ่นกระป๋อง!"

ร่างของไนท์แมร์กระโดดลงมาจากดาดฟ้าตึกที่ยืนอยู่แล้วหมุนตัวฟันโกเลมสองตัวข้างหน้าออกเป็นครึ่งซีกราวกับหั่นเนย

เมื่อเห็นว่าเพื่อนของมันทั้งสองโดนอะไรบางอย่างที่มองไม่เห็นหั่นราวกับเนย โกเลมตัวนั้นจึงตัดสินใจพุ่งถอยหลังออกจากซอกตึก

"จะหนีไปไหน!" ไนท์แมร์เหวี่ยงสลิงจากฝ่ามือเข้าไปพันร่างของโกเลมตัวดังกล่าว ร่างบึกบึนของโกเลมถูกกระชากเข้ามาใกล้แล้วถูกอะไรบางอย่างแทงเข้าที่ใจกลางคอร์อย่างแม่นยำ ระบบต่างๆในร่างนั้นดับลงเพราะส่วนที่เปรียบดั่งหัวใจถูกทำลายไป

"Invisible System Off" เมื่อภารันเห็นว่าโกเลมตัวสุดท้ายหมดสภาพไปแล้ว ร่างของไนท์แมร์ก็ปรากฏออกมาให้เห็นอีกครั้งในสภาพเสือกแทงจีเอ็นซอร์ดไคเข้าใส่โกเลม เด็กหนุ่มกระชากดาบออกจากตัวเครื่องจักรที่หมดสภาพแล้วเก็บกลับเข้าที่เดิม ความเบื่อหน่ายถูกส่งออกมาจากน้ำเสียงอย่างชัดเจน

"จะง่ายไปไหม"

[Arthid]

"โหยๆ สี่ตัวเลยหรอนี่...ด็อกไฟต์สนุกแน่งานนี้..." อาทิตย์พูดเบาๆอย่างร่าเริง ไวท์อาวล์ในร่างของเครื่องบินจู่โจมขนาดเล็กหรือโหมด'Mobile Armor'ก็หักเครื่องพุ่งขึ้นไปเหนือหมู่เมฆ เตาพลังงานของหุ่นเริ่มทำการกระจายอนุภาคGNรบกวนเซนเซอร์ของฝ่ายตรงข้าม เวอร์เนียทรัสเตอร์24จุดและ'GN Vernier'อีก2จุดผลักดันร่างสีขาวพุ่งไปข้างหน้าด้วยความเร็วที่แตะ6มัคปลายๆ โซนิคบูมที่เกิดจากการเร่งเครื่องกระทันหันของไวท์อาวล์ฉีกกระชากอากาศให้แยกออกจากกันจนเกิดเสียงดังที่ทำให้แก้วหูฉีกขาดได้โดยง่าย

"ยะฮู้วว!!" อาทิตย์เลี้ยวเครื่องลงไปตลบหลังโกเลมทั้งสี่ ปากกระบอกปืนที่หัวยานเบนไปทางฝูงไอเอสไร้คนบังคับด้านหน้า ระบบล็อกเป้าหมายเริ่มทำหน้าที่ของตนเป็นครั้งแรก

"เปิดก่อนได้เปรียบ!"

ปัง! ตู้ม!

กระสุนบีมนัดแรกเข้าเป้าอย่างง่ายดาย โกเลมตัวท้ายขบวนระเบิดออกเมื่อบีมพุ่งเข้าหลอมละลายกลางคอร์ของมัน

โกเลมตัวที่เหลือเปิดบาเรียพลังงานอย่างรีบเร่ง แต่ก็ยังหาตัวของไวท์อาวล์ไม่เจอเช่นกัน เห็นเช่นนั้นอาทิตย์จึงหักเครื่องพุ่งขึ้นเหนือเมฆอีกครั้งเพื่อหลบการตรวจจับของกล้องที่ดวงตาของพวกมัน

ร่างของนกฮูกขาวเร่งเวอร์เนียทั้งหมดพุ่งขึ้นไปจนถึงชั้นสตาโทสเฟียร์ แล้วจึงดับเวอร์เนียทั้งหมดก่อนที่ร่างดังกล่าวจะตกลงไปยังพื้นด้านล่างตามแรงโน้มถ่วงของโลก
ความเร็วในการตกของไวท์อาวล์เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ร่างสีขาวพุ่งลงมาจนเข้าใกล้กลางวงล้อมของร่างทั้งสาม

'Beam Saber'ถูกปลดปล่อยออกจากปากกระบอกของ'Mega Beam Launcher' ร่างสีขาวฟ้าเปลี่ยนกลับเป็นโหมดโมบิลสูทอีกครั้ง ไบน์เดอร์ที่แขนที่ติดตั้งปืนใหญ่ดังกล่าวทั้งสองข้างหมุนทำมุม90องศาสลับด้านกัน

เวอร์เนียทรัสเตอร์8จุดบนไบนเดอร์ทั้งสองข้างเริ่มทำงานอีกครั้งนึง ร่างของไวท์อาวล์ถูกแรงขับดันจากเวอร์เนียทำให้หมุนเป็นลูกข่างขนาดยักษ์ที่มีปลายเป็นบีมเซเบอร์กำลังสูง

ฉัวะ! ฉัวะ! ฉัวะ! ฉัวะ! ฉัวะ! ฉัวะ! ฉัวะ! ตู้ม!!

ร่างของโกเลมทั้งสามถูกบีมเซเบอร์ของไวท์อาวล์ที่หมุนเป็นลูกข่างปั่นเข้าจนบาเรียหมดพลัง มีโกเลมที่ระเบิดจากการโจมตีดังกล่าวไปถึงสองตัว โชคดีที่ตัวสุดท้ายนั้นไหวตัวทัน จุดที่โดนบีมเซเบอร์ฟันใส่จึงมีเพียงแค่เกราะหน้าอกเพียงเท่านั้น

เวอร์เนียทรัสเตอร์ที่ไบน์เดอร์หยุดทำงานอีกครั้ง อาทิตย์ตวัดขาเตะเสยคางของโกเลมที่เหลือรอดตัวสุดท้ายจนมันเสียหลักร่วงไปยังผืนน้ำเบื้องล่าง

"ลาขาดหละ!"

ซู่ม!! ตู้ม!!

เมก้าบีมลันเชอร์ตวัดยิงใส่โกเลมตัวสุดท้ายจนไม่เหลือเศษซาก ไอน้ำสีขาวที่เกิดจากผืนน้ำเบื้องล่างโดนอนุภาคบีมระเหิดขึ้นมาฟุ้งกระจายไปทั่วบริเวณ ร่างสีขาวฟ้าเปลี่ยนโหมดเป็นโมบิลอาเมอร์อีกครั้งแล้วพุ่งตัวบินกลับไปที่ศูนย์

[Narads]

เซนเซอร์ของดิวนาเมสออเวนปรากฏจุดสีแดงจำนวนสิบสองจุดที่แยกกลุ่มกัน มีสี่จุดที่พุ่งมาหาเขาที่แอบอยู่บนภูเขา

ณเรศที่ซ่อนตัวอยู่ในเงาของป่าไม้บริเวณเชิงหน้าผาถอนหายใจทำสมาธิเบาๆ เกราะทั้งสี่ถูกพับมาด้านหน้าเพื่อป้องกันการโจมตีกระทันหันของฝ่ายตรงข้ามและพรางตัวจากการตรวจจับของกล้องขยายภาพกำลังสูง

ศัตรูในเซนเซอร์ยังคงขยับใกล้เข้ามาเรื่อยๆทำให้ผู้หมวดหนุ่มตัดสินใจที่จะโต้กลับ ร่างสีเขียวมรกตของมันประทับ'GN Sniper Rifle'ให้เข้าที่ ส่วนตีนตะขาบถูกหมุนเก็บกลับไปเป็นเท้าปกติเพื่อนั่งชันเข่า นิ้วสอดเข้าไกปืนเตรียมยิงเปิดนัดแรกเมื่อฝ่ายตรงข้ามเข้ามาใกล้ระยะทำการยิงของปืนกระบอกนี้

"Mission Start..."

เตาพลังงานด้านหลังเริ่มทำการกระจายอนุภาคGNเพื่อรบกวนเซนเซอร์ของอีกฝ่าย กระสุนบีมถูกส่งออกจากลำกล้องเข้าสู่หัวของโกเลมที่นำขบวน

ปัง! ตู้ม!

ร่างสีดำส้มพลิกหงายหลังจากแรงปะทะที่เข้ากระทบกับส่วนหัว ระบบภายในต่างๆถูกชัทดาวน์ลง โกเลมตัวดังกล่าวร่วงลงไปดั่งตุ๊กตาชักใยที่ถูกตัดสาย เสียงที่เกิดจากโลหะหนักหลายตันกระทบเข้ากับพื้นดินข้างล่างดังกึกก้องฝุ่นควันกระจายไปทั่วบริเวณเป็นวงกว้าง

ปัง! ตู้ม!

เหมือนหนังที่ถูกฉายซ้ำ กระสุนบีมนัดต่อมาตามมาติดๆ ร่างไร้หัวตัวที่สองก็ร่วงลงไปตามเพื่อนของมันอย่างกระชั้นชิด

"อีกสอง..." ชายหนุ่มพึมพำแล้วเคลื่อนร่างของตนถอยล่นเข้าไปในป่า เกราะทั้งสี่ถูกเลื่อนกลับไปด้านข้างของตัวหุ่น ตีนตะขาบที่ถูกหมุนกลับมาทำหน้าที่พาร่างที่เหมือนมังกรนี้หลบหลีกต้นไม้อย่างคล่องแคล่ว สายตาของณเรศมองไปยังทางเบื้องหน้าสลับกับเซนเซอร์ของตน

ทางฝั่งของโกเลมที่เหลือ เมื่อเห็นเพื่อนของตนถูกจัดการด้วยการซุ่มยิงระยะไกล บาเรียสีฟ้าอันเป็นเอกลักษณ์ของไอเอสก็ถูกเปิดใช้งาน ร่างทั้งสองรีบเคลื่อนตัวแยกย้ายกันไปตามภูเขาเพื่อล้อมกรอบและบีบศัตรูให้จนมุม

เมื่อเห็นว่าฝ่ายศัตรูแยกตัวเพื่อที่จะล้อมกรอบตน ผู้หมวดหนุ่มจึงตัดสินใจบังคับตีนตะขาบเลี้ยวไปทางด้านของโกเลมที่ใกล้กับตนที่สุด จีเอ็นสไนเปอร์ไรเฟิลในมือถูกกระชับเตรียมพร้อมเผื่อกรณีเกิดเรื่องไม่คาดฝันขึ้น

เวลาผ่านไปหลายสิบนาที กล้องขยายภาพกำลังสูงของณเรศก็มองเห็นศัตรูตัวที่ตนหมายปอง สัญญาณเตือนปรากฏขึ้นแจ้งเตือนว่าเป้าหมายได้เปิดบาเรียป้องกัน ปืนซุ่มยิงกระบอกเล็กจึงถูกนำกลับไปเก็บที่ไหล่ขวาตามเดิม มือเรียวของหุ่นปลด'Strong Rifle'ที่ไหล่ซ้ายมากางออกเพื่อใช้งาน

สตรองไรเฟิลถูกประทับขึ้นเตรียมยิง ปากกระบอกเบนไปเล็งที่กลางลำตัวของศัตรู กรงเล็บด้านหน้าตีนตะขาบฝังลงลึกเข้ากับพื้นดินเพื่อยึดเกาะกับหน้าดิน เซฟตี้ถูกปลดออกเพื่อใช้งาน นิ้วเรียวของหุ่นสอดเข้าไปในไกปืนแล้วลั่นไก

ซู่ม!!! ตู้ม!!!

อนุภาคบีมถูกชาร์จในลำกล้องแล้วพุ่งไปหาเป้าหมาย ร่างสีเขียวถอยหลังไปหลายเมตรตามแรงถีบที่เกิดจากแรงขับดันกระสุนออกจากลำกล้องของปืน ลอยเล็บลากยาวไปบนพื้นดิน เซ็นเซอร์ตรวจจับความร้อนของโกเลมตัวนั้นจับปฏิกิริยาความร้อนในลำกล้องของสตรองไรเฟิลได้จึงหันมาทางด้านที่ผู้หมวดอยู่ แต่ก็ไม่ทันเสียแล้ว อนุภาคบีมขนาดใหญ่พุ่งเข้าปะทะกับลำตัวของมัน ความร้อนจำนวนหลายพันองศาหลอมละลายตัวมันเข้าอย่างจัง แรงระเบิดพัดกระจายจนต้นไม้รอบๆจุดปะทะจนแทบจะล้มคลื่น

"อีกหนึ่ง..." ควันสีขาวจำนวนมากลอยออกมาจากปากกระบอกปืน พื้นดินตรงจุดที่เคยมีร่างของโกเลมปรากฏเพียงแค่หน้าดินที่ถูกหลอมละลายจากความร้อนสูงเท่านั้น ลำกล้องของสตรองไรเฟิลถูกพับเก็บอีกครั้งเพื่อไม่ให้มันเกะกะ กรงเล็บหน้าตีนตะขาบปลดตัวจากผิวดิน สายพานเริ่มหมุนอีกครั้ง และพาร่างของดิวนาเมสออเวนหายเข้าไปในป่าใหญ่

แรงระเบิดขนาดใหญ่นั้นดึงดูดความสนใจของโกเลมตัวสุดท้าย เวอร์เนียทรัสเตอร์ตามตัวผลักดันมันขึ้นสู่ท้องฟ้าอีกครั้ง ร่างของมันมุ่งหน้าตรงไปยังจุดที่เกิดการระเบิดครั้งใหญ่ แต่ระหว่างทาง สิ่งที่ไม่คาดคิดก็ได้เกิดขึ้น

ซู่ม!!! ตู้ม!!!

อนุภาคบีมขนาดใหญ่เข้าปะทะกับกลางลำตัวอย่างจังจนร่างของมันระเบิดออก แรงระเบิดพัดพาสายลมไปทั่วทุกทิศทาง ร่างสีเขียวของดิวนาเมสออเวนพับเก็บปืนซุ่มยิงขนาดใหญ่กลับไปที่ไหล่ซ้ายตามเดิม

"Mission Complete..."

ความเงียบบังเกิดขึ้นในเต๊นท์ทหารสีเขียวหลังใหญ่ ภาพการต่อสู้ของทั้งสามปรากฏบนจอโทรทัศน์ตั้งแต่เริ่มภารกิจจนถึงจบ จิฟูยุรู้สึกเหมือนมีก้อนอะไรบางอย่างมาอุดตันลำคอของเธอไม่ให้คำพูดหลุดออกมา ดวงตาของเจ้าตัวเบิกกว้าง สีหน้าตกตะลึงฉายชัดบนใบหน้าของหล่อน นี้มันเรื่องบ้าอะไรกัน...เทคโนโลยีของเจ้าโมบิลสูทนี้มันพอๆกับไอเอสเลยนะ ไม่สิ...มันอาจจะเหนือกว่าเลยก็เป็นได้

"ซิกม่า01เรียกศูนย์ เป้าหมายถูกกำจัดแล้ว กำลังเดินทางกลับศูนย์ เปลี่ยน"

"ซิกม่า02เรียกศูนย์ ศัตรูร่วงไปเรียบร้อยแล้ว อีก4นาทีจะถึงศูนย์ เปลี่ยน"

"ซิกม่า03เรียกศูนย์ ภารกิจเสร็จสิ้น กำลังเดินทางกลับศูนย์เช่นกัน เปลี่ยน"

"ศูนย์เรียกซิกม่าทีม รับทราบ ซิกม่า01 ทางผู้ตรวจการจากโรงเรียนไอเอสมีเรื่องจะคุยกับคุณ ให้ต่อสายเลยไหม เปลี่ยน" รอยยิ้มบางๆถูกระบายขึ้นบนใบหน้าของภารัน เด็กหนุ่มหัวเราะเบาแล้วตอบกลับไป

"ซิกม่า01เรียกศูนย์ ต่อสายมาได้เลย เลิกกัน"

สายจากจิฟูยุถูกต่อเข้าที่ช่องสื่อสารส่วนตัวของภารัน น้ำเสียงคาดคั้นของหล่อนทำให้ตัวของผู้พัฒนาหลุดหัวเราะออกมาอีกครั้ง

"กรุณาบอกรายละเอียดของโมบิลสูทมาอย่างละเอียดด้วยค่ะ ไม่อย่างงั้นทางชั้นคงจะต้องแจ้งเรื่องนี้ให้กับทางสหประชาชาติให้ดำเนินมาตรการขั้นเด็ดขาดกับประเทศไทยแทน"

"ฮ่ะๆ ไม่ต้องห่วงหรอกครับ ข้อมูลในส่วนนั้นผมยกให้กับคุณแน่ๆอยู่แล้ว แต่ว่า คำขออีกข้อที่ผมขอทางคุณไปในเอกสารรายละเอียดโครงการก่อนหน้านั้น ทางคุณจะอนุญาตได้ไหมครับ"

จิฟูยุเงียบไปซักพักก่อนจะตอบภารันด้วยน้ำเสียงอ่อนอกอ่อนใจ

"...ก็ได้...แต่อย่าไปสร้างเรื่องอะไรละ"

"ขอบคุณมากครับ"

ห้องทดลองของดร.ชิโนโนโนะ ทาบาเนะ สถานที่แห่งหนึ่งบนโลก

"ไม่น่าเชื่อเลยนะเนี่ยว่าโกเลมทั้งหมดจะโดนทำลายแถมยังไม่สามารถถ่ายภาพเป้าหมายมาให้เห็นได้อีกแย่จังเลยน๊า~"

หญิงสาวผู้มีเครื่องจักรที่มีลักษณะคล้ายหูกระต่ายบนหัวนั่งหมุนเก้าอี้เล่นแล้วบ่นออกมาด้วยน้ำเสียงร่าเริง ริมฝีปากคลี่ยิ้มอย่างยินดีเมื่อได้เจอคู่ต่อสู้ที่สมน้ำสมเนื้อกับตนเอง

 

"น่าสนใจจริงๆชักอยากรู้แล้วสิว่าเจ้าพวกนั้นมันคืออะไรกันแน่เจ้าโมบิลสูทพวกนั้นฮิๆๆๆๆ~"

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
8 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา