ใจเผลอ

9.4

เขียนโดย กลางสายฝน

วันที่ 17 มีนาคม พ.ศ. 2560 เวลา 00.23 น.

  18 ตอน
  71 วิจารณ์
  26.02K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 17 มีนาคม พ.ศ. 2560 01.08 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น

แชร์นิยายฟิคชั่น Share Share Share

 

18)

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

 

 

 

“ คืนนี้เดี๋ยวผมเฝ้าเอง “ อัคราอาสาเฝ้าแก้ว ทุกคนพยักหน้ารับคำก่อนจะแยกย้ายกันกลับ

 

 

 

ดวงตาคมมองหญิงสาวที่นอนอยู่บนเตียงด้วยสายตาที่เป็นห่วงจนสุดใจปนๆกับความคับแค้นใจที่ทำอะไรไมาได้

 

 

 

” พี่อัคร แก้วไม่เป็นอะไรมาก พี่อัครอย่าทำหน้าแบบนั้นสิคะ “ เธอเอื้อมมือไปจับมืออัครามากุมไว้ แล้วออกแรงดึงเล็กน้อยให้เขานั่งลงข้างๆ 

 

 

 

“ พี่ไม่อยากให้แก้วเสี่ยงอีก “ อัคราพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง

 

 

 

” แก้วก็เสี่ยงแบบนี้ทุกเคสนั้นแหละ “ แก้วว่า

 

 

 

” แต่ครั้งนี้มันไม่เหมือนกัน พี่ว่า... “ อัครายังพูดไม่ทันจบ เสียงเคาะประตูก็ดังขึ้น

 

 

 

ก๊อกๆๆ 

 

 

 

 

“ ขออนุญาตค่ะ ” หญิงสาวอายุรุ่นราวคราวเดียวกันกับอัคราเดินมุ่งหน้าตรงมาทางแก้ว ในมือเธอถือสมุดบันทึกกับปากกาเพียงเล่มเดียว เธอมองแก้วอย่างพิจารณาก่อนจะเอ่ยปากถาม “ ผู้เสียหายพอจะให้ปากคำได้แล้วหรือยังคะ “ 

 

 

 

“ นี่คุณตำรวจ น้องผมยังไม่ได้พักผ่อนเลย เวลาสอบปากคำนี้มาเร็วจังเลยนะ ผิดกันมากกับเวลาไปที่เกิดเหตุ “ อัคราเอ็ดใส่ สายตาดุเหลือบมองอัคราก่อนจะจ้องมองอยู่ครู่หนึ่ง แล้วหันหน้ากลับมาอย่างไม่สนใจ

 

 

 

” พร้อมแล้วค่ะ “ แก้วอมยิ้มขำๆ แล้วหันมามองตำรวจหญิงที่ยืนอยู่ข้างๆเตียงฝั่งตรงข้ามกับอัครา

 

 

 

หลังจากสอบปากคำเสร็จ 

 

 

 

” ขอบคุณมากนะค่ะที่ให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่เป็นอย่างดี “ เธอว่า พลางเหลือบไปทางอัคราที่นั่งก่อนอกเอนขา จองมองเธอตาเป็นมัน

 

 

 

” คดีเก่ายังไม่คืบเลย คดีใหม่จะไปได้ถึงไหนกันเชียว “ อัคราพูดลอยๆ

 

 

 

” คอยดูก็แล้วกันค่ะ ว่าจะไปได้ถึงไหน “ เธอพูดเสียงเข้มก่อนจะรีบจ้ำเท้าออกจากห้องด้วยความโมโห

 

 

 

” ผู้หมวดวิรันญ์หรอ เท่ห์จัง “ แก้วมองตามตำรวจหญิงผู้นั้นที่เดินออกไปจนสุดตา “ พี่อัคร .. “ ก่อนจะยิ้มกรุ้มกริ่มเหมือนคิดอะไรอยู่แล้วเรียกอัคราเสียงดัง

 

 

 

”  หยุดคิดไปได้เลย พี่ไม่ชอบผู้หญิงเย่อหยิ่งแบบนั้น “ อัคราว่า 

 

 

 

“ อะไรกันพี่อัคร แก้วแค่จะบอกว่า พาไปห้องน้ำหน่อย นี่พี่คิดอะไรอยู่ “ เธอแกล้งเฉไฉไปเรื่อย แผนจับคู่ของเธอมันไม่เคยสำเร็จสักครั้ง อัคราไม่มองผู้หญิงคนไหนเลย ตั้งแต่รู้จักกันมาแก้วไม่เคยเห็นอัคราควงผู้หญิงคนไหนนอกจากเธอ 

 

 

 

“ เดี๋ยวเถอะ “ เขาเอ็ดอย่างรู้ทัน ก่อนจะช่วยพยุงแก้วเข้าห้องน้ำ 

 

 

 

 

ไม่นานนัก อาหารมื้อเย็นก็ถูกนำมาเสริฟให้ถึงห้อง 

 

 

 

“ ทำไมกินน้อยจัง “ อัคราซักทันทีที่เห็นคนป่วยวางช้อนลงในขณะที่อาหารยังเหลือเต็มจาน

 

 

 

” ก็มันไม่อร่อยย “ เธอกระซิบเบาๆ แล้วดันโต๊ะทานอาหารออกให้ห่างตัว

 

 

 

” แล้วอิ่มยังหละ “ อัคราถามต่อ หญิงสาวส่ายหน้าไปมาเล็กน้อย ชาหยนุ่มหน้าเข้มเงียบขรึมแล้วเดินออกจากห้องไปอย่างรู้งาน

 

 

 

เธอล้มตัวลงนอนรอ แล้วดูรายการทีวีไปเรื่อยเปื่อย ไม่นานนัก เสียงเปิดประตูก็ดังขึ้น

 

 

 

” ให้ทายนะ แก้วต้องได้กินสุกี้แห้งแน่ๆ “ เธอบ่นพรึมพรำก่อนจะหันหน้ามามอง

 

 

 

” มานอนอยู่ที่นี่ เธอไม่คิดจะบอกฉันสักคำ “ เสียงทุ่มคุ้นหูดังขึ้น พร้อมใบหน้าซึมๆ ที่กำลังเดินมานั่งเก้าอี้ข้างๆเตียง

 

 

 

” โทรศัพท์ฉันตกอยู่ในรถ ตอนนี้ก็ไม่รู้ว่าอยู่ที่ใคร แล้วนายรู้ได้ยังไงว่าฉันอยู่นี่ “ เธอถาม 

 

 

 

“ เอาเป็นว่าฉันรู้ก็แล้วกัน .. แล้เกิดอะไรขึ้น ทำไมเป็นแบบนี้ “ เขาถาม 

 

 

 

“ เอ่ออ .. ก็ประสบอุบัติเหตุเล็กน้อย แต่ไม่มีใครเป็นอะไร “ เธอจำต้องโกหกเขาไปอย่างดื้อๆ

 

 

 

” ทีหลังจะไปไหนมาไหน โทรมาบอกกันก่อนสิ ฉันจะได้รู้ว่าเธออยู่ที่ไหน ปลอดภัยหรือเปล่า ไม่ใช่มารู้อีกทีก็ตอนแก้วนอนอยู่โรงพยาบาลแล้ว “ เขาบ่นยาวจนหญิงสาวอึ้งไป 

 

 

 

“ ต้องโทรไปบอกด้วยหรอ “ เธอหน้าเหวอแล้วถามเขากลับ

 

 

 

” ก็ใช่ไง ก็โมะเป็นห่วง อยากรู้ทุกอย่างที่เกี่ยวกับแก้ว “ ชายหนุ่มผลุดคำพูดสารพัดจนอีกฝ่ายตั้งตัวไม่ทัน ได้แน่นั่งมองเขานิ่งๆ ตาค้าง ใจเต้นแรงไม่เป็นจังหวะ

 

 

 

” เอ่อ.... “ เธอใบ้กินพูดอะไรไม่ออก 

 

 

 

“ คืนนี้จะมานอนที่นี่ ” เขาพูดดื้อๆ อีกคนตกใจจนสะดุ้งออกจากพวงเสน่หา

 

 

 

” ไม่ได้ๆ พี่อัครมานอนแล้ว “ เธอรีบคัดค้านทันที ขืนอัครารู้ว่าโทโมะมาจีบเธอนี้เป็นเรื่องใหญ่โตแน่ๆ 

 

 

 

“ มาตั้งแต่เมื่อไหร่ ! “ แทบจะทันที อัคราก็เปิดประตูเข้ามาพร้อมกับอาหารโปรดของแก้ว

 

 

 

” ก็สักพักแล้วครับ “ โทโมะตอบ

 

 

 

” งั้นหรอ ... งี้ก็กลับได้แล้วนะสิ “ อัคราเอ่ยปากไล่อ้อมๆ 

 

 

 

“ ยังหรอกครับ ผมไม่รีบ “ โทโมะว่า อัครามองตาเขียว 

 

 

 

“ พี่อัคร แก้วหิวแล้ว “ แก้วรีบพูดแทรกขึ้นมาทันควัน อัคราละสายตาแล้วเดินไปจัดของกินให้แก้ว

 

 

 

แก้วตักกินช้าๆ พลางเหลือบมองคนทั้งคู่ที่จองหน้าจ้องตากันไม่เลิก

 

 

 

” เมื่อไหร่จะกลับ แก้วจะได้พักผ่อน “ อัคราถาม

 

 

 

” ผมกลับพร้อมพี่นั้นแหละครับ “ โทโมะหาเรื่อง

 

 

 

” หึ !... “ เสียงเข้นคำในลำคอมันทำให้แก้วขนลุกซู่ มันหมายถึงการที่อัครเริ่มหมดความอดทนกับสิ่งตรงหน้า แล้วถ้าอัคราขึ้นมันคงยากที่เขาจะใจเย็นลงเหมือนเดิม 

 

 

 

” โรงพยาบาลจะแตกก็วันนี้แหละวะ “ แก้วบ่นกับตัวเองเบาๆ แล้วหันมองทั้งคุ่สลับกันไปมา

 

 

 

” โมะ นายกลับไปก่อนนะ “ แก้วเห็นท่าไม่ค่อยดี เลยเอ่ยปากขอร้องให้โทโมะกลับไป ชายหนุ่มหันมามองหน้าแก้วด้วยสีหน้าแววตาที่ไม่พอใจ แต่ก็ยอมกลับไปอย่างว่าง่าย

 

 

 

 

” ... “ ทุกอย่างเงียบสงบจนน่าขนลุก 

 

 

 

 

“ พี่อัคร “ เธอเรียกเบาๆ เมื่ออีกคนนอนเงียบอยู่บนโซฟา

 

 

 

 

” .... “ ไร้ซึ่งเสียงตอบรับ

 

 

 

จนถึงเช้า อัคราก็ไม่ยอมคุยกับแก้ว

 

 

 

 

” พี่อัครโกรธแก้วหรอ “ เธอจับมืออัครามากุมไว้แล้วเปรยถาม

 

 

 

” พี่ไม่ไว้ใจมัน “ อัคราพูดเสียงดุ “ พี่ไม่อยากเห็นแก้วเสียใจ “ อัคราพูดจบก็เดินออกไป

 

 

 

 

” พี่อัคร ... “ แก้วเรียกเสียงดังแต่เขาไม่หันกลับมา “ ก็แก้วชอบเค้าไปแล้ว “ เธอซึมลงทันที หวนคิดถึงคำพูดของอัครา ‘ พี่ไม่ไว้ใจมัน พี่ไม่อยากเห็นแก้วเสียใจ ‘ กับการกระทำของโทโมะที่มีต่อเธอ 

 

 

 

 

 

อาชา ชานนท์ มารับแก้วที่โรงพยาบาล

 

 

 

 

” หยุดงานไปก่อนสักวันสองวันนะ แล้วค่อยไปทำงาน ” อาชาว่า แก้วพยักหน้าเหนื่อยๆ 

 

 

พอถึงห้องก็เอนหลังลงนอนทันที

 

 

 

จนตกเย็น ฟางที่เพิ่งจะรู้ข่าว รีบมาหาแก้วทันที

 

 

 

” แก้ว แกเป็นอะไรมากหรือเปล่า “ ฟางสำรวจแก้วจนทั่วร่าง

 

 

 

” ไม่เป็นอะไรแล้ว หายเป็นปกติ “ แก้วบอก 

 

 

 

“ ดีนะ ไอโมะ มันโทรไปบอกฉัน ไม่งั้นฉันคงไม่รู้ ว่าแกโดนรถชนเนี่ย “ ฟางบ่นยาวจนฟังแทบไม่ทัน

 

 

 

” ก็ไม่เป็นอะไรแล้วนี่ไง ... ว่าแต่คนบอกเค้าไปไหนแล้วหละ “ แก้วว่า

 

 

 

” บอกว่าจะไปทำธุระต่อ ค่อยมารับค่ำๆ “ ฟางว่า ก่อนจะลุกขึ้นไปจัดแจงเก็บของสดที่ซื้อมาให้ใส่ในตู้เย็น 

 

 

 

“ อาการคิดถึงมันเป็นแบบนี้เองหรอวะ “ เธอหายใจไม่ทั่วท้อง บอกไม่ถูกว่ามันเป็นยังไง รู้แค่อย่างเดียวว่าอยากเห็นหน้า อยากเจอ อยากได้ยินเสียง อยากอยู่ใกล้ๆ 

 

 

 

 

“ แกหายดีจริงหรือเปล่าเนี่ย ทำไมยังดูซึมๆอยู่เลย “ ฟางพูดพร้อมกับเอามือแตะหน้าผากด้วยความเป็นห่วง 

 

 

 

“ หายแล้ว คงจะง่วงๆมั้ง ก็เลยซึมๆ “ เธอพูดปัดๆไป ก่อนจะเอนตัวลงนอนจนหลับไป 

 

 

 

 

ลานจอดรถใต้คอนโดแก้ว 

 

 

 

“ ฉันว่าจะชวนแกขึ้นไปเยี่ยมนะ แต่แก้วหลับไปซะแล้ว “ ฟางพูด

 

 

 

” แล้วใครมาส่งแก้วหละ “ โทโมะถามต่อ สายตาของเขาจับจ้องมองเส้นทาง ในขณะที่รอฟังคำตอบจากหางอย่างใจจดใจจ่อ

 

 

 

” พี่อาชากับพี่ชานนท์หนะ “ ฟางตอบ

 

 

คำตอบของฟางมันทำให้อีกคนเกิดอาการโกรธขึ้นมาอย่างไม่รู้ตัวจนเผลอเหยียบคันเร่งเร็วขึ้นจนฟางตกใจ

 

 

 

” ไอโมะ ช้าหน่อยสิ ฉันกลัววว “ เสียงคนข้างๆสั่นๆ เรียกสติโทโมะให้กลับมา

 

 

 

 

ในห้องแก้ว 

 

 

 

2 ทุ่ม 

 

 

เธอนอนเหม่อๆอยู่บนเตียงเหมือนกำลังคิด กำลังรออะไรอยู่ 

 

 

‘ บางครั้งก็เหมือนว่าเขาคิด  /// บางครั้งก็ทำเหมือนไม่สนใจ ‘ 

 

 

 

“ ทำไมฉันต้องมาคิดถึงเรื่องบ้าๆพวกนี้ด้วยนะ “ เธอถอนหายใจเฮือกใหญ่แล้วหลับตาลง

 

 

 

จนเช้าตรู่ ดวงตาหวานค่อยๆลืมตาขึ้นอย่างหน่ายๆ 

 

 

‘ ไม่มีกลิ่นอาหารเหมือนอย่างวันก่อน ‘ เธอเริ่มน้อยใจตัวเองขึ้นมาอีกแล้ว หญิงสาวน้ำตาไหลเปาะอย่างไม่รู้สาเหตุ ราวกับคนอกหัก 

 

 

เธอเดินเหนื่อยๆมาเสียบปลั๊กกาต้มน้ำ แล้วกดใส่ถ้วยต้มมาม่ากินอย่างเคยๆ 

 

 

‘ จริงๆที่ผ่านมาก็อยู่ได้หนิ แล้วทำไมตอนนี้ถึงอยู่ไม่ได้ซะงั้นนะ ‘ เธอได้แต่คิดในใจแล้วตักมาม่าๆกินต่อ 

 

 

 

เที่ยงวันก็ไม่ต่างกัน อาหารหลักของเธอก็ไม่พ้นมาม่า เธอกินจนเสร็จแล้วพาร่างตัวเองกลับมานอนซมอยู่บนเตียงเหมือนเดินจนตกเย็น 

 

 

 

 

“ ลุกขึ้น .. “ “ ลุก ! ขึ้น ! “ เสียงทุ้มดังขึ้นข้างๆหูจนหญิงสาวเริ่มงัวเงีย “ ลุกขึ้นเดี๋ยวนี้ ! “ 

 

 

“ ใครเนี่ย พูดเสียงดังหนวกหู “ เธอบ่นเสียงงัวเงียแล้วพลิกตัวจะนอนต่อ 

 

 

“ โมะบอกให้ลุกขึ้นไงแก้ว “ ... 

 

 

 

O_O 

 

 

 

ตึกตัก ตึกตัก ตึกตัก 

 

 

 

 

‘ ฝันหรือเปล่าวะ ‘ เธอคิดในใจ แล้วค่อยๆหันมามอง

 

 

 

” นาย... “ เธอทัก ก่อนจะพยุงร่างตัวเองลุกขึ้นช้าๆ

 

 

 

” ... “ เขาไม่พูดอะไร แต่เดินนำออกมาข้างนอก แก้วเข้าไปล้างหน้าแล้วเดินตามออกไป 

 

 

 

 

“ มาทำไม ? “ เธอถามด้วยความน้อยใจ

 

 

 

” ทำไม ? มาไม่ได้หรอ ” เขาย้อนถามกลับ

 

 

 

” ... “ เธอเงียบใส่

 

 

 

 

” หึ ! ฉันมันไอ้กระจอกหนิ จะไปสู้พี่อัคร พี่อาชา พี่นนท์ของเธอได้ยังไง “ เขาพูด

 

 

 

 

” ถ้าจะมาหาเรื่องก็กลับไปเลยนะ “ เธอหน่ายใจกับอะไรที่มันไม่ชัดเจน

 

 

 

” เธอจะเอาใครกันแน่ ไออัคร ไอชานนท์ อาชา หรือว่าใคร หรือจะเอาแบบเหมาหมด “ โทโมะเริ่มคุมอารมณ์ตัวเองไม่ได้

 

 

 

 

” เป็นบ้าอะไรของนาย เข้ามาก็มาด่าๆๆ ต้องการอะไร “ เธอเองก็เริ่มจะทนกับคนตรงหน้าไม่ไหว

 

 

 

” ก็ฉันไม่ชอบ ! ไม่ชอบเวลาที่มีคนอื่นมายุ่งกับเธอ !! “ เขาพูดเสียงดังใส่

 

 

 

“ ฉันปวดหัวกับนายจริงๆ ช่วยทำอะไรให้มันชัดเจนหน่อยได้ไหมว่านายคิดอะไร ต้องการอะไร อย่าทำให้ฉันต้องคิดอะไรไปฝ่ายเดียว อย่าทำอะไรที่ไม่ชัดเจน วันนึงมาหา วันนึงหายไป วันนึงเป็นห่วง วันนึงเงียบหาย หยุดทำแบบนี้ได้แล้ว ! ถ้ายังหาความชัดเจนให้ตัวเองไม่ได้ว่าต้องการอะไรก็ไม่ต้องมายุ่งกัน แล้วก็เอากุญแจสำรองคืนมาด้วย ไม่ต้องเข้ามา ไม่ต้องมาทำอาหาร แล้วนับตั้งแต่พรุ่งนี้ก็ไม่ต้องไปส่ง ฉันไปเอง ฉันทำเอง ฉันไม่อยากรอ ! “ น้ำตาเธอคลอเบ้า เธอหายใจถี่ โกรธจนตัวสั่น จนอีกคนหวั่นใจ “ เลิกเล่นตลกกับความรู้สึกคนอื่นได้แล้ว ถ้าไม่ได้คิดอะไรก็ออกไป ไม่ต้องมายุ่งกับฉันอีก “ เธอพูดจบ หันหลังจะเดินเข้าห้อง 

 

 

 

“ ถ้าไม่ได้คิดอะไร จะโมโหขนาดนี้หรอ จะหึงขนาดนี้หรอ ! “ คำพูดของเขารั้งเธอไว้

 

 

 

” แล้วเมื่อวานหายไปไหน วันนี้หายไปไหนน “ เธอรอเขาตลอด 

 

 

 

“ ฉัน... ฉัน น้อยใจ “ เขาพูดเบาๆ “ ฉันไม่ชอบที่มีผู้ชายคนอื่นมาคอยเทคแคร์ดูแลเธอแบบนี้ แล้วฉันก็คิดว่าเธออาจจะชอบผู้ชายพวกนั้น ฉันเลยไม่อยากจะมารบกวน แต่ฉันก็อดเป็นห่วงไม่ได้ “ เขาพูดเสียงเบาลง

 

 

 

” ฉันรออยู่ตั้งแต่เมื่อวาน แต่นายไม่มา “ แก้วพูดเสียงเบา คำพูดของเธอเหมือนตอบรับรักของเขากลายๆ พูดจบก็เดินเข้าห้องนอนไปทันที ทิ้งให้อีกคนเคว้งขว้างอยู่เพียงลำพัง

 

 

 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9.5 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9.2 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9.7 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

อ่านนิยายฟิคชั่นเรื่องอื่น

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา