Fic sotus : ลุ้นรักหัวใจรีเทิร์น (เปรมxวาด)

-

เขียนโดย 18กันยา

วันที่ 4 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560 เวลา 14.51 น.

  7 ตอน
  0 วิจารณ์
  13.76K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 4 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560 16.23 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น

แชร์นิยายฟิคชั่น Share Share Share

 

7) คืออะไร

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

ตั้งแต่วันที่พี่เปรมไปส่งผมที่ห้อง ชีวิตผมก็ยังเหมือน แต่ที่เพิ่มเติมคือ ผมเจอไอ้พี่เปรมมันบ่อยขึ้น พี่มันมักจะโทรมาชวนผมไปกินข้าวบ้าง ผมก็ไม่ได้ไปด้วยทุกครั้งหรอก แต่ทุกครั้งที่ไม่ไปพี่เปรมก็มักจะซื้อของกินมาให้เสมอ บ่อยๆ เข้าผมก็ถามไปตรงๆ ว่าซื้อมาให้ทำไม ก็ได้รับคำตอบแบบเดิม คือ

"พี่ก็ต้องดูแลน้องเป็นธรรมดาจนผมไม่รู้จะพูดอะไร เลยปล่อยเลยตามเลย เอาที่พี่มันสบายใจแล้วกัน

 

ไม่ต้องสงสัยว่าพี่เปรมได้เบอร์ผมไปได้ยังไง ก็วันที่มาส่งผมแหล่ะ วันนั้นตอนเย็นโทรมาผมก็สงสัยว่าเบอร์ใคร เพราะผมไม่ชอบรับสายเบอร์แปลก แต่ดังอยู่หลายครั้งเลยกดรับสาย เลยรู้ว่าเป็นเบอร์พี่เปรม พอวางสายไม่นาน ก็มีไลน์ทักผมมา จะใครหล่ะ ก็พี่เปรมนั่งแหล่ะ ผมก็เลยกดแอดไลน์ไป ส่งสติ๊กเกอร์สวัสดีกลับไป

 

หลังจากนั้น พี่เปรมก็ไลน์มาบ่อย แต่ด้วยความที่ผมไม่ชอบคุยไลน์หรือคุยผ่านโซเชี่ยว สองสามวันค่อยตอบไป ผมโดนพวกเพื่อนมันว่าบ่อยๆ เรื่องที่ไม่ตอบไลน์ ผมเลยบอกมันว่าไม่ชอบคุยไลน์ มีอะไรก็โทรมา หลังๆ มานี่พี่เปรมคงรู้แล้ว เลยโทรมาคุยอย่างเดียว ส่วนไลน์ก็มีส่งสติ๊กเกอร์มอนิ่งมาตอนเช้า กับฝันดีตอนกลางคืน

 

ปกติพี่น้องกันเค้าทำแบบนี้กันด้วยหรอวะ

 

.......................………………………..........,.………

 

"วาด เลิกคลาสแล้ว ไปเล่นบาสกันหน่อยมั๊ย"  ตี๋ที่นั่งอยู่ข้างผมถามขึ้น

บาสหรอ ก็ดีเหมือนกัน ก่อนหน้านี้พวกเราค่อนข้างจะยุ่งกับทำรายงานส่ง ส่วนผมก็ต้องไปทำงานวันเว้นวันเหมือนเดิม ไม่ค่อยได้ไปที่สนามบาสเท่าไรนัก

"เออ ได้ๆผมหันไปตอบตี๋ ก่อนที่จะถาม 4 คนที่นั่งอยู่ข้าง

"ไอ้ก้อง ไอ้เอ็ม วันนี้กูกับไอ้ตี๋จะไปเล่นบาส พวกมึงจะไปด้วยมั๊ย"

"เออ ก็ดีวะ คลายเครียดกันหน่อยก็ดี"  ก้องภพหันมาตอบผม ก่อนจะหันไปถามไอ้ทิวกับกับไอ้โอ๊ต 

"โอเคว่ะ แต่มีเดิมพันหน่อยมะ  ทีมใครแพ้เลี้ยงหมูกระกระทะเย็นนี้โว้ยมึงแพ้กูคราวที่แล้วกะเป๋ามึงเเทบฉีกยังไม่เข็ดสินะไอ้ทิว

"แก้มือหรอไอ้ทิว มึงเตรียมตังค์ไว้ได้เลยผมยักคิ้วให้ไอ้ทิวเป็นการท้าทาย

ผมเห็นไอ้ก้องมันก้มเล่นมือถือ  ช่วงนี้เห็นมันเล่นไลน์บ่อย สงสัยคงคุยกับพี่อาทิตย์

 

 

สามโมงเย็นหลังเลิกคลาส พวกเราทั้ง 6 คนก็ไปที่สนามบาสกัน โดยเปลี่ยนชุดกันมาเรียบร้อย พวกผมจะมีชุดกีฬากับรองเท้าสำรองไว้ที่ล็อคเกอร์ เพราะพวกเราเล่นบาสกันประจำ

เราแบ่งเป็นทีมละ 3 คน คือ ผม ก้องภพ โอ๊ค อยู่ด้วยกัน อีกฝั่งเป็น ตี๋ เอ็ม และทิว แต่วันนี้สงสัยไอ้เอ็มลุยเต็มที่แน่ เพราะกำลังใจมาเต็ม

 

ทำไมนะหรอ ก็เมย์มาดูด้วยนะสิ มะปรางกับแพรก็มาด้วยเหมือนกัน เห็นว่าไม่รู้จะไปไหนเลยมาดูพวกเราเล่นบาสกัน

 

"ไอ้ก้อง ดูคึกคักนะวันนี้ผมหันไปถามไอ้ก้องทำหน้าระรื่นอยู่ นี่แค่วอร์มนะไอ้ก้อง ยังไม่ได้แข่ง

"ก็ไม่มีอะไร แค่พี่อาทิตย์จะแวะมาดูว่ะอ้อ ถึงว่าหน้าบานเป็นจานเชิง ผมได้แต่พยักหน้า

 

ระหว่างที่กำลังวอร์มกันอยู่ พวกแกงค์พี่ว้ากก็มากันพอดี แถมใส่ชุดกีฬามากันเกือบครบยกเว้นพี่ตุ๊ต๊ะ

"สวัสดีครับพี่อาทิตย์ พี่น็อต พี่เปรม พี่ไบร์ท พี่ตุ๊ต๊ะพวกเรายกมือไหว้กันครบทุกคน

"พวกพี่จะมาเล่นบาสกันหรอครับผมถามด้วยความสงสัย เพราะไม่เคยเห็นพวกพี่ว้ากมาเล่นบาสกันสักที

"ใช่ เห็นก้องภพบอกว่าพวกคุณจะแข่งบาสกันโดยมีหมูกระทะเป็นเดิมพัน พวกผมเห็นว่าน่าสนุกดี เลยจะมาท้าดวลกับพวกคุณสักหน่อย ใช่มั๊ย...ไอ้เปรมพี่อาทิตย์พูดกับผมก่อนจะหันไปถามเพื่อน

"พวกคุณ กล้าพอที่จะรับคำท้าของพวกผมมั๊ยหล่ะพี่เปรมพูดพร้อมกับยักคิ้วให้ผม แล้วไอ้รอยยิ้มมุมปากนี่ แม่ง เห็นแล้วอารมณ์ขึ้น

ท้าทายกันขนาดนี้ ถ้าไม่รับคำท้าก็ไม่ใช่ไอ้วาดละวะ

"ผมรับคำท้า แล้วพวกมึง ว่าไงผมตอบก่อนจะหันไปถามเพื่อนๆ พวกมันก็พยักหน้าเอาด้วย

"ดี งั้นใครแพ้เลี้ยงก็แล้วกัน พวกผมมี 4 คน ก็ให้พวกคุณมาอยู่ฝ่ายผมคนนึงพี่เปรมพูด

พวกเราคุยกันสักแปป ตกลงให้ไอ้โอ้คไปอยู่กับทีมพี่ว้าก เมื่อตกลงกันได้ พวกเราก็เริ่มแข่งกันโดยมีพี่ตุ๊ต๊ะเป็นกรรมการ

 

พวกเราผลัดกันบุกทำคะแนนจนแต้มมาเสมอกันที่ 89-89 ขณะที่เหลือเวลาอีกแค่ 2 นาที ตอนนี้ลูกบาส อยู่ที่ก้องภพที่อยู่กลางสนาม โดยมีพี่อาทิตย์ตามประกบ ผมวิ่งขึ้นไปตรงริมเส้นด้านขวา

"ก้อง ทางนี้ผมเรียกไอ้ก้องก่อนที่มันจะส่งให้ผม ไอ้พี่เปรมเข้ามาประกบผมทันที ไปต่อไม่ได้เลยส่งต่อให้ไอ้เอ็ม แต่พวกเราก็ยังบุกเข้าไปไม่ได้ เพราะอีกฝั่งป้องกันแน่นหนา โดยเฉพาะบริเวณใต้เเป้นพี่ว้าก ร่างบึกอย่างพี่น๊อตคุมอยู่ พี่ไบร์ทเห็นตัวผอมๆ บางๆ นี่วิ่งโคตรเร็วลูกเลอัพนี่ของถนัดพี่เค้าเลย ขนาดไอ้เอ็มที่ตัวใหญ่ยังเอาพี่เค้าไม่อยู่  ส่วนพี่เปรมเห็นกวนๆ แบบนี้เป็นมือชู๊ตสามแต้มของทีม พี่อาทิตย์เป็นคนที่คอยจ่ายลูกให้เพื่อนๆ เข้าไปทำแต้ม เล่นกันโคตรเข้าขากัน ไอ้โอ้คเพื่อนผมเห็นผอมๆ อย่างนั้นก็ไม่เบาเหมือนกันเรื่องความเร็ว

 

เวลาเหลือน้อยลงทุกที ผมไม่อยากแพ้ จึงถอยออกมาตรงเส้นสามเเต้ม พี่เปรมไม่ทันได้ตามมา ไอ้เอ็มเห็นเลยส่งมาลูกมาให้ ผมรีบกระโดดจะชู๊ตลูกบาสในมือออกไป ทุกคนมองลูกบาสที่ลอยอยู่ในอากาศแล้วลงห่วงไปอย่างสวยงาม ก่อนเสียงลูกหวีดจะดังขึ้นหมดเวลาเพียงเสี้ยววินาที เสียงเฮดังลั่น

 

จบเกม 92-89 พวกผมชนะ ไอ้ก้อง ไอ้เอ็ม ไอ้ตี๋ ไอ้ทิว วิ่งมากอดผมอย่างดีใจที่พวกเราคว้าชัยชนะมาได้

 

มากกว่าการแพ้ชนะ คือการพิสูจน์ศักดิ์ศรี

 

พวกเราพากันได้ไปนั่งพักที่ริมสนาม พวกพี่ว้ากก็พากันเดินมาทิ้งตัวนั่งลงใกล้ๆ กับพวกเรา

"เก่งนี่ พวกคุณอ่ะพี่อาทิตย์พูดเสียงหอบหน่อยๆ

"พวกพี่ก็สุดยอดเหมือนกัน ไม่ยักรู้ว่าพวกพี่เล่นบาสกันเก่งขนาดนี้ผมพูดเสียงหอบไม่แพ้กัน

"ตอนอยู่ปีหนึ่ง ตอนแข่งกีฬาเฟรชชี่ พวกผมก็ลงเล่นบาสเหมือนพวกคุณนี่แหล่ะคำตอบของพี่เปรมทำเอาพวกเราเหวอไปเลยครับ

"ที่พวกผมบอกคุณว่าวิศวะไม่เคยแพ้ในกีฬาเฟรชชี่อันนี้ก็เรื่องจริง เห็นเฮียตั้มใสๆ อย่างนั้น ตอนเป็นพี่ว้ากแม่งโคตรโหดจบคำของพี่น๊อต พวกพี่ๆ ก็ทำท่าสยอง ก่อนจะพากันหัวเราะ

"เออ วันนี้พวกผมแพ้ละ เจอกันที่ไหนพี่ไบร์ทที่นั่งเงียบอยู่นานหันมาถามพวกผม

"ร้านอิ่มจังหลังมอครับก้องภพตอบ

"โอเค เจอกันหกโมง ปะพวกมึงกลับกันพี่ไบร์ทนัดเวลาพวกผมก่อนจะหันไปชวนเพื่อน

ขณะที่พวกพี่ว้ากกำลังจะลุกขึ้น แพรไพรินที่นั่งอยู่ก็พูดขึ้น

"เอ่อ พี่อาทิตย์คะอาทิตย์ชะงักก่อนจะหันมามองคนถาม

"ว่าไง"

เอ่อ พวกเราสามคนไปด้วยได้มั๊ยคะพี่อาทิตย์หันมองเพื่อนก่อนจะตอบแพรไพลิน

"ได้สิ พวกคุณก็รุ่นน้องผมเหมือนกันสามสาวหันไปมองหน้ากันก่อนจะยกมือไหว้ขอบคุณรุ่นพี่

"ขอบคุณค่ะกลุ่มพี่อาทิตย์พยักหน้าก่อนจะพากันกลับไป

"ปะพวกมึง กลับกันเหอะเจอหกโมงผมหันไปบอกพวกมันก่อนจะเดินแยกออกไป

 

 

ทันทีที่ผมกลับมาถึงห้องก็อาบน้ำทันที เหนื่อยแต่สนุกมากจริงๆ ผมพึ่งรู้ว่าพวกพี่ว้ากก็เคยเล่นบาสตอนกีฬาเฟรชชี่   ผมใช้เวลาอาบน้ำไม่นานก็เดินออกมาจากห้องน้ำ ไม่ทันจะได้แต่งตัวก็ได้ยินเสียงเคาะประตูหน้าห้อง ผมเดินออกไปเปิดประตู ก็เจอพี่เปรมยืนอยู่ นี่เป็นครั้งที่ 2 ที่พี่เปรมมาที่ห้องผม  

"อ้าว พี่เปรมมาไงเนี่ยผมเปิดประตูให้พี่เปรมเข้ามาในห้องก่อนจะปิดประตู

"พี่จะขอติดรถไปกับวาดหน่อย พี่ขี้เกียจขับรถไปอ้าว แบบนี้ก็ได้หรอ มาถึงที่แล้วผมจะปฏิเสธได้ไงวะ

"ไม่โทรมาบอก ผมไปรับพี่ที่หอก็ได้ผมพูดไปเช็ดหัวไป มองดูเวลาก็พึ่งจะห้าโมงจะรีบมาทำไม

"ไม่เป็นไร พี่เดินมาใกล้นิดเดียว"

"งั้นพี่ก็รอก่อนแล้วกัน ผมแต่งตัวแปปพูดจบผมก็เดินไปหยิบเสื้อผ้าในตู้เพื่อไปแต่งตัวในห้องน้ำ ก็นะถึงจะเป็นผู้ชายเหมือน ผมก็ไม่กล้าพอที่จะยืนใส่เสื้อผ้าต่อหน้าคนอื่นหรอก ส่วนพี่เปรมก็เดินไปหน้าโซฟาหน้าทีวี

"พี่เปรม เปิดทีวีดูได้เลยนะผมหันมาบอกพี่เปรม

"ไม่เป็นไร แต่พี่ขอยืมกีต้าร์วาดเล่นหน่อยได้มะ"

"อ่อ ได้เลยพี่ผมพูดจบพี่เปรมก็ลุกไปหยิบกีต้าร์แล้วกลับมานั่งที่เดิม

"ขอบใจนะวาดพี่เปรมพูดพร้อมกับส่งยิ้มให้ผม ผมก็ได้พยักหน้ากลับไปแล้วเดินเข้าห้องน้ำไป

 

............................................................

 

"พวกมึง ก้องภพบอกว่าวันนี้มันจะไปดวลบาสกันวะ ตอนเลิกคลาส 3 โมงเย็นอาทิตย์พูดขึ้นหลังจากคุยไลน์กับแฟนมันจบ

"มันดวลกับใครวะผมถามด้วยความสงสัย

"ก็พวกมันแหล่ะ บอกว่าเล่นกันทีมละ 3 คนผมพยักหน้า

"มึงจะไปดูไอ้ 0062 หรอน๊อตถาม

'เออ ก้องภพชวนไป กูดันตอบตกลงไปแล้วด้วยว่ะ มันบอกว่าถ้าพี่ไม่มาผมแพ้แน่ แล้วเห็นว่าใครแพ้ต้องเลี้ยงหมูกระทะอะมึงมีความอยากไปดูแฟนเล่นบาสก็บอกมาตรงๆ ไอ้อาทิตย์

"พูดถึงบาส พวกเราไม่ได้เล่นกันนานแล้วนะ พวกมึงไม่อยากเล่นกันบ้างหรอวะ ไหนๆ อาทิตย์มันก็ต้องไปดูแฟนมันอยู่ละ ก็ไปท้าดวลน้องมันเลยดีกว่าผมถามความเห็นเพื่อนๆ ความจริงผมอยากลองแข่งบาสกับวาดหน่อย

ตอนกีฬาเฟรชชี่วาดมีความทุ่มเทและดูมีความสุขตอนเล่นบาส ผมพูดยั่วอารมณ์วาดตอนไปดูรายชื่อนักกีฬา ได้ผลวาดมันอารมณ์ขึ้นทันทีเกือบได้บวกกันอยู่ละ พอถึงนัดชิงพวกผมไปดูปีหนึ่งแข่งบาส วาดจ้องผมเขม็งด้วยสายตาที่บอกว่ามันต้องชนะ

 

"ก็ดีนะพวกมึง กูอยากเห็นน้องวาดในชุดนักบาส พวกมึงเล่นเลยนะกูจะไปเป็นกรรมการเบาๆ หน่อยครับไอ้ตุ๊ต๊ะ

"กูไม่ไปกับพวกมึงได้มั๊ยไอ้ไบร์ทพูดขึ้ ดูหน้ามันแล้วคงไม่อยากไปจริง ที่จริงผมสงสัยไอ้ไบร์ทมาสักพักใหญ่ๆ ตั้งแต่วันที่ไปกินเหล้ากันเหมือนมันพยายามหลบหน้าเด็กปีหนึ่งกลุ่มนั้น แต่บางทีเลี่ยงไม่ได้มันก็ได้แต่ยืนเงียบอยู่เฉยๆ

"ไม่ได้ครับเพื่อนไบร์ทพวกผม 4 คนสามัคคีหันไปพูดกับไอ้ไบร์ทพร้อมกัน มีทำหน้ายู่ก่อนจะพูดเสียงอ่อยๆ

"เออก็ได้"

 

วันนี้เราเลิกคลาสเร็ว ตอนบ่ายสองเลยพากันกลับห้อง สี่คนมันไปด้วยกันเพราะไอ้น๊อตก็จะไปเปลี่ยนชุดที่ห้องไอ้ไบร์ท ปกติมันจะไปนอนห้องไอ้อาทิตย์ แต่พออาทิตย์มีแฟนมันเลยไปนอนห้องไอ้ไบร์ทแทน ส่วนผมวันนี้ขับรถมอเตอร์ไซต์มาเองไอ้น๊อตเลยไม่ต้องวนไปส่ง แล้วบอกมันว่าเจอกันที่ร้านเลย ไอ้น๊อตทำหน้าแปลกใจแต่ก็ไม่พูดอะไร

 

ผมกลับมาถึงก็รีบอาบน้ำแต่งตัวเดี๋ยวจะไปหาวาดที่ห้อง ที่ไม่ให้ไอ้น๊อตวนมารับก็เพราะว่าผมจะไปกับวาดนี่แหล่ะ ไม่บอกเจ้าตัวหรอกกะไปให้เเปลกใจเล่น 

 

พูดถึงวาดตอนนี้ผมพยายามทำความรู้จักกับวาดมากขึ้นพยายามโทรหาชวนไปนู่นไปนี่บ้าง ไลน์คุยบ้างแต่เจ้าตัวไม่ค่อยอ่านผมเลยได้แต่ส่งสติ๊กเกอร์สวัสดีตอนเช้ากับฝันดีตอนกลางคืนไปให้ บางทีก็แวะซื้อของกินเข้าไปให้บ้าง วาดคงรับด้วยความเกรงใจ บ่อยๆ เข้าก็ถามผมว่าทำแบบนี้ทำไม ผมไม่รู้จะบอกยังไงเลยบอกไปว่าพี่ก็ต้องดูแลน้อง จากนั้นเจ้าตัวก็ไม่ถามผมอีกเลย

 

ผมอาบน้ำแต่งตัวเสร็จตอนห้าโมงเย็น แล้วก็รีบไปที่ห้องของวาด ผมเคาะประตูได้แปปเดียวเจ้าตัวก็มาเปิดห้องให้ ด้วยสภาพที่เอ่อ...พึ่งน้ำเสร็จ ผ้าขนหนูที่พันอยู่ตรงเอว หยดน้ำที่เกาะพราวบนลำตัว มือนึงเปิดประตู อีกมือก็กำลังเอาผ้าเช็ดหัวอยู่

 

แม่ง....วาดโคตรเซ็กซี่  

 

ไอ้เปรมหัวใจมึงจะเต้นแรงไปไหน

 

เข้าห้องไปแล้วผมไม่รู้จะทำอะไร เลยถามวาดที่กำลังหยิบเสื้อผ้าในตู้อยู่ว่าขอยืมกีต้าร์เล่นหน่อย พอวาดอนุญาตผมก็ลุกไปหยิบมาแล้วกลับมานั่งที่เดิม ก่อนจะเริ่มเล่นเพลงที่ผมชอบและเป็นอีกเพลงที่ผมไว้เตือนตัวเองเสมอ

 

"ไม่ว่าเจอสิ่งใด เนิ่นนานไปก็แปลเปลี่ยนสักวัน

เคยวิ่งตามความฝันแต่บางครั้งก็ต้องหยุดแค่นั้น

เมื่อก่อนเคยรักเคยผูกพัน แต่มาวันนี้ได้เป็นเพียงคนเคยได้รู้จักกัน

วันนี้มีสุขใจแต่ต่อไปสักวันคงวุ่นวาย

หากความทุกข์ทนจางหาย อาจจะมองเห็นความสุขอีกครั้ง

จึงทำให้ฉันได้เข้าใจ ทุกสิ่งเปลี่ยนผันสักเท่าไรฉันจะก้าวเดินต่อไป...

 

วาดใส่เสื้อผ้าเรียบร้อยแล้วก็เดินเอาผ้าขนหนูไปผึ่งที่ระเยียงก่อนเดินกลับมาหวีผมที่หน้ากระจก ผมเห็นวาดเหลือบมองผมเป็นระยะ สีหน้าบ่งบอกถึงความแปลกใจไม่น้อย

 

หึหึ....มองมาก็มองตอบครับ

 

"อย่าลืมเรื่องราวที่ผ่านที่เคยได้เจ็บช้ำ ยังมีเรื่องราวที่ดีที่เคยได้จดจำ

เก็บคืนและวันที่ผ่านที่เคยได้ปวดร้าว ยังมีเรื่องราวที่ดีที่รอให้จดจำ

 

วันที่ทำผิดไปอาจเจอใครที่เข้าใจสักคน

ในความมืดมนสับสนอาจเจอคนที่จริงใจไม่ยากนัก

จึงทำให้ฉันได้มั่นใจ ทุกสิ่งเปลี่ยนผันสักเท่าไรฉันจะก้าวเดินต่อไป

 

อย่าลืมเรื่องราวที่ผ่านที่เคยได้เจ็บช้ำ ยังมีเรื่องราวที่ดีที่เคยได้จดจำ

เก็บคืนและวันที่ผ่านที่เคยได้ปวดร้าว ยังมีเรื่องราวที่ดีที่รอให้จดจำ

 

ในความมืดมิดยังมีดวงดาว และแดดยาวเช้าให้เราก้าวไป

 

อย่าลืมเรื่องราวที่ผ่านที่เคยได้เจ็บช้ำ ยังมีเรื่องราวที่ดีที่เคยได้จดจำ

เก็บคืนและวันที่ผ่านที่เคยได้ปวดร้าว ยังมีเรื่องราวที่ดีที่รอให้จดจำ..."

 

 

เพลง 'ผ่านของ วงสล็อทแมชชีนจบลง ผมยักคิ้วพร้อมกับส่งยิ้มบางๆ ให้วาด เจ้าตัวเดินมาทิ้งตัวนั่งลงตรงที่ว่างข้างๆ  มัดผมหน้าเป็นทรงน้ำพุด้วย โอ้ย น่ารัก

"โหพี่ ร้องเพลงเพราะว่ะวาดพูดด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น แววตาคู่นั้นฉายแววชื่นชมอย่างปิดไม่มิด

"นี่ใครดูด้วยผมยักคิ้วให้วาดแล้วหัวเราะเบาๆ

"ขี้โอ่ว่ะผมเห็นวาดเบะปาก อย่าทำบ่อยนะวาด เพราะเดี๋ยวพี่จะอดใจไม่ไหวดึงมาจูบซะให้เข็ด

"วาดอยากฟังเพลงไรมะ เดี๋ยวเล่นให้ฟัง"

"ผมก็ร้องเองเล่นเองได้มั๊ยล่ะ"

"แต่เสียงพี่แรร์ไอเท็มนะ ใช่ว่าใครจะได้ฟังง่ายๆได้ทีอวดสักหน่อย ผมไม่ค่อยได้ร้องเพลงเล่นกีต้าร์ให้ใครฟังนักหรอก มีแต่กลุ่มเพื่อนผมเท่านั้น

"โว๊ะ แล้วแต่พี่แล้วกันวาดพูดจบก็ลุกไปหยิบหนังสือไปนั่งอ่านตรงโต๊ะกินข้าว ผมได้แต่หัวเราะและส่ายหัวเบาๆ ก่อนจะเล่นเพลงที่อยู่ๆ ผมก็อยากร้องขึ้นมา

 

"อยากขยับเข้าไปใกล้เธอ

อยากรู้จักตั้งแต่ได้เจอ

ใจฉันสั่นเมื่อได้ยินเสียงเธอ

ตั้งแต่วันแรกเจอ ก็เผลอเอาไปคิดละเมอ..."

 

ผมร้องไปมองหน้าวาดไป เพราะอะไรไม่รู้ ผมรู้แค่ว่า..อยากมอง แค่นั้นเอง

 

“พอรู้จักก็อยากจะทักทาย

แต่พอไม่เจอแล้วใจก็วุ่นวาย

เธอหายไปก็ห่วงเธอแทบตาย

จะเป็นเช่นไร ตรงนั้นมีใครดูแลอยู่หรือไม่ ไม่รู้

 

เกือบลืมหายใจเมื่อเธอเข้ามา ใกล้ๆ

แค่เธอยิ้มมา ก็สั่นไปทั้งหัวใจ

อยากจะบอกเธอให้ได้รับรู้ความในใจ.."

 

วาดคงรู้สึกว่าผมมองอยู่ เจ้าตัวเงยหน้ามองผมเป็นระยะ เรานั่งตรงผมเห็นว่าวาดยิ้มด้วย ถึงจะแค่มุมปากนิดนึงก็เถอะ

 

"แต่บอกตอนนี้ไม่รู้จะเร็วไปหรือไม่

ก็ยังไม่รู้ว่าเธอคิดเช่นไร

ถ้าบอกคำนั้นแล้วเธอตอบมาว่าไม่ใช่

ถ้าเป็นแบบนี้เธอคงจะเดินหนีไป

 

ดีพอแล้วที่ได้มีเธออยู่ใกล้ ๆ

ได้ยินเสียงได้คอยดูแลอยู่ไม่ไกล

จะซ่อนความลับเอาไว้ในหัวใจ

มากเพียงไหนฉันจะไม่ยอมพูดไป..”

 

วาดวางหนังสือลง  นั่งเอามือทั้งสองข้างท้าวคางมองมาที่ผม เราสองคนสบตากัน วาดรู้สึกยังไงผมไม่รู้ แต่ผมรู้ว่าตัวเองโคตรความสุข

 

"อยากจะบอกให้เธอได้รู้ใจ

ที่จริงก็อยากบอกคำ คำนั้นไป

แต่กลัวเหลือเกินว่าจะต้องเสียใจ

หากเธอรับไม่ได้ เธอคงไม่ยอมให้อภัย กับคำนั้น

 

อึดอัดเหลือเกิน ต้องเก็บเอาไว้ข้างใน

อึดอัดหัวใจ แต่ก็กลัวว่าถ้าพูดไป กลัวว่าจะต้องเสียใจ...

 

วาดหลบตาผม ไม่รู้ว่าคิดไปเองหรือเปล่า ผมเห็นวาดหน้าแดง

 

"แต่บอกตอนนี้ไม่รู้จะเร็วไปหรือไม่

ก็ยังไม่รู้ว่าเธอคิดเช่นไร

ถ้าบอกคำนั้นแล้วเธอตอบมาว่าไม่ใช่

ถ้าเป็นแบบนี้เธอคงจะเดินหนีไป

 

ดีพอแล้วที่ได้มีเธออยู่ใกล้ๆ

ได้ยินเสียงได้คอยดูแลอยู่ไม่ไกล

จะซ่อนความลับเอาไว้ในหัวใจ

มากเพียงไหนฉันจะไม่ยอมพูดไป

 

มองกันให้ดีเธอก็คงรู้

ในความห่วงใยฉันมีอะไรซ่อนอยู่

ที่ยังไม่รู้คือเธอนั้นคิดอย่างไร

 

มองกันให้ดีเธอก็คงจะเห็น

ความจริงที่เป็นว่าฉันคิดอะไร

หนึ่งคำนั้นที่ยังไม่ได้พูดไป

 

จะเก็บเอาไว้ในวันที่จะเผยใจ

รอวันนั้น วันที่ฉันแน่ใจ

ว่าวันนี้เธอคิดว่าฉันนั้นใช่

และเธอพร้อมจะฟังความข้างใน

 

จะบอกว่ารักให้เธอได้ยินใกล้ๆ

บอกความรักเธอได้ยินหรือไม่

ถ้ายังไม่ชัดฟังอีกครั้งก็ได้

ได้ยินไหมว่ารักเธอทั้งหัวใจ”

 (เพลง ไม่บอกเธอ - bedroom audio)

 

ท่อนสุดท้ายจบลง ผมส่งยิ้มให้วาด

 

"เป็นไง เพราะอะดิ หึหึวาดเบะปากอีกแล้ว บอกแล้วไงว่าอย่าทำแบบนี้ เพราะมันน่ารัก แต่เจ้าตัวคงไม่รู้ตัว

"ก็งั้นๆแล้ววาดก็อ่านหนังสือต่อ ผมหัวเราะในลำคอให้กับคนปากแข็ง

 

แล้วเราสองคนก็ไม่พูดอะไรกันอีก ผมก็เล่นกีต้าร์ร้องเพลงอีกหลายเพลง ซึ่งตลอดเวลาวาดหันมามองผมเป็นระยะๆ เราสบตากันก็หลายครั้ง แล้ววาดก็หลบตาผมทุกครั้ง

หันไปมองนาฬิกาก็เห็นว่าอีก 15 นาทีจะถึงเวลา ผมจึงเลิกร้องแล้วเอากีต้าร์ไปเก็บที่เดิม วาดลดหนังสือลงเล็กน้อย มองผมด้วยความสงสัย

"ใกล้จะหกโมงละ พี่จะชวนวาดไปก่อนสักหน่อยน่ะ"  วาดหันมองนาฬิกาก่อนจะให้มาตอบผม

"อือ..ก็ได้วาดไม่ยอมมองหน้าผม แต่ชั่วขณะที่สบตากันผมเห็นแววของความเขินอยู่ในดวงตาคู่นั้น

วาดลุกเอาหนังสือมาเก็บ แล้วเดินมาหยิบกระเป๋าตังค์ โทรศัพท์และกุญแจรถ แล้วชวนผมออกไปโดยไม่ลืมที่จะปิดไฟล็อคห้องให้เรียบร้อย

 

................................................

 

พี่เปรมมันร้องเพลงเพราะเล่นกีต้าร์ได้ด้วย เรื่องนี้ผมพึ่งรู้จริงๆ ตอนที่เจอกันในร้านหนังสือเห็นว่ามาดูหนังสือเพลงผมก็ไม่ได้ใส่ใจอะไร แต่ตอนนี้อะรู้แล้ว แต่จะร้องเพลงก็ร้องไปดิ จะมองหน้าผมทำไมวะ

ผมจะอ่านหนังสือ อุตส่าห์ไปนั่งไกลๆ แล้วแต่ผมรู้สึกว่าถูกมองอยู่ เมื่อเงยหน้าขึ้นจากหนังสือก็พบว่าพี่เปรมมองผมอยู่ เออ จะมองก็ไป แต่อย่าทำสายตาแบบนั่นได้มั๊ย เพราะมันทำให้หัวใจผมมันเต้นผิดจังหวะ

 

"แต่บอกตอนนี้ไม่รู้จะเร็วไปหรือไม่

ก็ยังไม่รู้ว่าเธอคิดเช่นไร

ถ้าบอกคำนั้นแล้วเธอตอบมาว่าไม่ใช่

ถ้าเป็นแบบนี้เธอคงจะเดินหนีไป

 

ดีพอแล้วที่ได้มีเธออยู่ใกล้ ๆ

ได้ยินเสียงได้คอยดูแลอยู่ไม่ไกล

จะซ่อนความลับเอาไว้ในหัวใจ

มากเพียงไหนฉันจะไม่ยอมพูดไป..”

 

ผมวางหนังสือลงเอามือสองข้างมาท้าวคางตัวเองไว้ ใช่...ผมเอามาปิดรอยยิ้มของตัวเองไว้ ไม่รู้ทำไมอยู่ๆ ผมก็ยิ้ม แล้วทำไมหน้าผมมันรู้สึกร้อนๆ อย่างนี้วะ

 

ไอ้พี่เปรมมันทำอะไรกับผม ทำไมผมรู้สึกว่าไม่เป็นตัวของตัวเอง

 

เพลงนี้จบพี่เปรมก็ยิ้มให้ผมก่อนจะพูดขึ้นมา

"เป็นไง เพราะอะดิ"  เกลียดความหลงตัวเองของพี่มันว่ะ ผมเบะปาก

"ก็งั้นๆแล้วผมก็อ่านหนังสือต่อ ถามว่ารู้เรื่องไหม ตอบเลยว่าไม่

แค่เสียงพี่เปรมไม่ทำให้ผมอ่านไม่รู้เรื่องหรอก แต่เป็นสายตาของพี่มันต่างหากที่รบกวนสมาธิของผม

 

เอาหนังสือเขวี้ยงใส่หน้าไอ้พี่เปรมดีมั๊ยวะ จะได้เลิกมองซะที ก่อนที่หัวใจผมจะทำงานหนักกว่านี้

 

..…………………………………

 

ใช้เวลาไม่นานทั้งสองคนก็มาถึงร้านหมูกะทะก่อนเวลาเล็กน้อย เดินเข้าไปก็เจอ ก้องภพ ทิว เอ็ม โอ๊ค และสามสาว แพร เมย์ มะปราง มานั่งพร้อมกันที่โต๊ะก่อนแล้ว เนื่องจากว่าสมาชิกค่อนข้างเยอะเลยต้องนั่งโต๊ะยาว ใช้เตาจำนวน 3 เตา

 

ก้องภพเห็นเปรมมากับวาดเลยถามออกมาด้วยความสงสัย

"อ้าวพี่เปรม ทำไมมากับวาดหล่ะครับ แล้วพี่อาทิตย์ยังไม่มาหรอครับ"

"ไอ้อาทิตย์เดี๋ยวก็มาพร้อมพวกไอ้น๊อต ไอ้ไบร์ท ตุ๊ตะเปรมตอบก่อนจะนั่งลงตรงข้ามวาดที่เดินไปนั่งที่ว่างด้านซ้ายของก้องภพ โดยเลี่ยงที่จะตอบว่าทำไมมาพร้อมกับวาด ก้องภพก็ได้แต่แต่พยักหน้า

 

ไม่นานนักน๊อต อาทิตย์ ไบร์ท และตุ๊ตะก็เดินมาในร้าน เปรมเห็นจึงชูมือเรียกเพื่อนมาที่โต๊ะ

"อิเปรม มาเร็วนะคะมึงตุ๊ตะแซวเพื่อนทันทีที่เดินมาถึง แต่เปรมไม่พูดอะไร ได้แต่ยิ้มให้ยักคิ้วให้เป็นอันรู้กัน

"พี่อาทิตย์นั่งข้างผมนะครับอาทิตย์พักหน้าแล้วเดินไปนั่งลงตรงโต๊ะว่างฝั่งขวามือของก้องภพ

"ก้องภพ แล้วเพื่อนคุณอีกคนไม่มาหรออาทิตย์ถามขึ้นเมื่อไม่เห็นตี๋

"เดี๋ยวคงมาครับ โทรบอกผมว่าจะมาช้าหน่อยก้องภพบอก

 

โต๊ะแบ่งออกเป็นสองฝั่ง หัวโต๊ะฝั่งอาทิตย์ว่างอยู่ ถัดจากอาทิตย์เป็นก้องภพ วาด ทิว เอ็ม เมย์ โอ๊คนั่งฝั่งหัวโต๊ะอีกฝั่งหนึ่ง ตรงข้ามอาทิตย์เป็นตุ๊ต๊ะ ไบร์ท เปรม น๊อต ทิว แพรไพลิน และมะปราง

เมื่อสมาชิกมากันเกือบครบ ต่างคนต่างลุกไปตักของที่ตนชอบมาปิ้งย่างกันไป เรื่องพูดคุยก็เป็นเรื่องทั่วไป

ด้านก้องภพกับอาทิตย์ที่นั่งด้วยกันเป็นฝ่ายก้องภพที่ค่อยย่างเนื้อให้อาทิตย์ เอ็มกับเมย์ที่ใครๆ ก็รู้ว่าคบกันอยู่ ฝ่ายชายก็คอยดูแลฝ่ายหญิงจนแพรกับมะปรางก็มีแซวเมย์ให้ได้เขิลกันบ้างเป็นระยะ

เปรมสังเกตว่าไบร์ทวันนี้นั่งเงียบผิดปกติ ทั้งๆ ที่เจ้าตัวมักเป็นฝ่ายชวนคุยและสรรหาเรื่องตลกมาสร้างเสียงหัวเราะให้กับเพื่อนๆ เสมอ แล้วสายตาที่คอยมองไปยังเอ็มเด็กรุ่นน้องมันแฝงแววของความน้อยใจเสียใจไว้อย่างปิดไม่มิด ถึงจะสงสัยแต่ถ้าเพื่อนไม่คิดจะบอกเค้าก็จะไม่คาดคั้นถาม คงต้องรอให้เจ้าตัวบอกเองเหมือนที่อาทิตย์ประกาศว่าเป็นแฟนกับก้องภพในงาน thank พี่

 

เพราะเรื่องบางเรื่อง...มันก็ไม่สามารถบอกใครได้เหมือนกัน

 

เวลาผ่านไปไม่นาน สองคนที่เดินเคียงกันเข้ามาในร้าน ทำให้ทั้งโต๊ะค่อนข้างแปลกใจ ตี๋มาคงไม่ใช่เรื่องแปลก ถ้า 'พี่เดียร์ไม่ได้มาด้วย

 

ทั้งโต๊ะยกมือไหว้พี่เดียร์มาเดินมาถึง

"สวัสดีครับ/สวัสดีค่ะพี่เดียร์"

"สวัสดีทุกคนเดียร์ยกมือรับไหว้ทุกคน เห็นเก้าอี้เหลือว่างอยู่ตัวเดียวจึงไปเอาเก้าอี้อีกตัวมาวางตรงข้างๆ ก่อนจะนั่งลงทางขวามือของอาทิตย์ แล้วดึงตี๋นั่งลงข้างๆ ด้วย ท่ามกลางสีหน้าสงสัยของทุกคน

 

'ไอ้เพื่อนตี๋ครับ หน้าแดงๆ กับรอยยิ้มเขินๆ นั่นคือไรวะ เดี๋ยวมีคุยกันหลังไมค์ครับเพื่อน'

 

ตอนนี้สายตาเพื่อนทุกคนที่มองมาทางตี๋ตีความได้ว่าแบบนี้ ยกเว้นวาดที่ได้แต่มองยิ้มๆ ก่อนจะหันมากินต่อ เรื่องส่วนตัวของเพื่อน...เค้าไม่ยุ่ง

 

"พี่เดียร์ พี่มาได้ไงเนี่ยอาทิตย์ถามเมื่อเดียร์นั่งเรียบร้อยแล้ว นี่พวกเขาพลาดอะไรไปหรือเปล่า

"กูอยากกิน กูก็มา ทำไมวะอาทิตย์เดียร์ตอบอาทิตย์ ก่อนจะบอกตี๋ที่กำลังจะลุกไปตักเนื้อ

 "เอาหมี่ยกมาให้พี่ด้วยนะตี๋พยักหน้ารับก่อนจะลุกไป

 

ตี๋รู้ ว่าหลังจากนี้คงได้ตอบคำถามหลังไมค์กับเพื่อนๆ แน่ แต่เอาเถอะเมื่อตัดสินใจชวนพี่เดียร์มาด้วยก็หมายถึงเขาเตรียมใจที่จะตอบคำถามเพื่อนไว้แล้ว

 

"ไม่ใช่อย่างนั้นพี่ ผมหมายถึงทำไมพี่มากับน้องมันได้วะ"

"เอาไว้คุยกันทีหลังนะไอ้อาทิตย์ พวกมึงด้วย ไม่ต้องมองกูอย่างนั้นเลยเดียร์ตอบอาทิตย์ แล้วหันไปบอกรุ่นน้องแกงค์พี่ว้ากของตนด้วย ส่วนน้องปีหนึ่งเดียร์รู้ว่ายังไงก็ต้องไปคุยกับเพื่อนตัวเองแน่นอน

"ก็ได้พี่อาทิตย์ตอบ ก่อนที่ทุกคนจะลงมือกินกันต่อ อาหารที่ตักมาค่อยๆ พล่องลงไป

 

"ใกล้สอบปลายภาคแล้ว น้องๆ มีวิชาไหนที่ไม่ค่อยเข้าใจบ้างหรือเปล่าเดียร์ถามด้วยความเป็นห่วงรุ่นน้องปีหนึ่ง

"ก็มีบ้างครับ แต่ก็นัดติวกันก่อนสอบแล้วครับก้องภพตอบ

"อืม ขอให้สอบได้นะเดียร์พูดจบรุ่นน้องปีหนึ่งก็ยกมือไหว้ขอบคุณ

 

เดียร์กำลังจะการศึกษา เปรม อาทิตย์ น๊อต ไบร์ท และตุ๊ตะ กำลังจะขึ้นปี 4 ส่วนปีหนึ่งก็กำลังจะผ่านความเป็นเฟรชชี่และกลายเป็นรุ่นพี่ที่ต้องดูแลน้องปีหนึ่งที่จะเข้ามาในปีการศึกษาหน้า

 

เวลา 1 ปี ผ่านไปอย่างรวดเร็ว

 

ตลอดเวลาที่นั่งกินหมูกระทะ วาดไม่กล้ามองเปรมที่นั่งอยู่ตรงข้ามเท่าไร เพราะมองทีไรก็พบว่าเปรมมองอยู่ก่อนเสมอ ด้วยสายตาที่ทำให้วาดต้องใจสั่นเสมอทุกครั้งที่เผลอสบตา

 

ทุกคนต่างพูดคุยกันด้วยบรรยากาศที่เป็นกันเอง จนทุกคนอิ่มเดียร์จึงเรียกเก็บเงิน โดยเจ้าตัวเป็นคนออกค่าอาหารเองทั้งหมด โดยบอกว่านานๆ จะมาด้วยกันเลยขอเป็นคนเลี้ยงน้องๆ  พวกพี่ปีสามเลยไม่ได้เลี้ยงน้องปีหนึ่งอย่างที่ตั้งใจ อาทิตย์จึงบอกก้องภพว่าหลังสอบเสร็จพวกเค้าจะพามาเลี้ยงก็แล้วกัน

 

เมื่อจ่ายเงินแล้วทุกคนก็ยกมือไหว้อบคุณเดียร์ ก่อนจะแยกย้ายกลับบ้าน วาดขับรถไปส่งเปรมที่หอ เปรมลงจากรถ แต่ก่อนที่วาดจะเลี้ยวรถกลับเปรมรีบจัดแขนวาดไว้

 

"เดี๋ยวก่อนวาดวาดชะงัก ก่อนจะหันไปมองเจ้าของมือที่จับแขนตนเองไว้ พยายามห้ามใจตัวเองไม่ให้สั่น ยามที่มองหน้าพี่เปรม

"พี่เปรม มีอะไรหรือเปล่า"

"ติวหนังสือกันวันไหน"

"เสาร์หน้าครับ"

"ให้พี่ช่วยติวให้หรือเปล่า พี่พอจะช่วยได้บางวิชานะ"

"ขอบคุณครับ แต่คงไม่รบกวน"

"งั้นไม่เป็นไรเปรมพูดก่อนจะปล่อยแขนวาดให้เป็นอิสระ

 "แต่ถ้าวาดอยากมีติวเตอร์ส่วนตัวเมื่อไรบอกนะพี่พร้อมเสมอวาดถึงกับไปต่อไม่ถูก

 

แม้ไฟจะไม่ค่อยสว่างเท่าไร แต่เปรมที่ตาดีพอที่จะเห็นริ้วสีแดงจางๆ ที่พาดผ่านบนใบหน้าคมนั้น

 

"งั้นกลับละครับ สวัสดีครับพี่เปรมวาดรีบยกมือไหว้เปรม ก่อนจะกลับเอามือจับแฮนด์รถมอเตอร์ไซต์ไว้

ไม่ไหวแล้ว....หัวใจผมมันหยุดสั่นไม่ได้เลย

แต่ก่อนที่วาดจะเร่งเครื่องรถออกไปเสียงเรียกของเปรมก็ทำให้วาดต้องหันมามองเจ้าของเสียง

 

"วาด"

"ครับ"

"ฝันดีนะ"

จบคำของพี่เปรม วาดถึงกับนิ่งไป ก่อนจะได้ยินเสียงหัวเราะเบาๆ ของพี่เปรมทำให้เขารู้สึกตัว ก่อนจะพยักหน้าให้เปรมแล้วเร่งเครื่องรถมอเตอร์ไซต์กลับหอตัวเองไป

 

'นี่เขาเป็นอะไรไป'

 

วาดได้แต่ถามตัวเองเมื่อกลับถึงห้อง แต่เมื่อหาคำตอบให้ตัวเองไม่ได้ เจ้าตัวจึงลุกไปอาบน้ำเตรียมตัวนอน

 

ก่อนหลับตาลง เสียงที่บอกว่า 'ฝันดีก็แว่วมาในหัว พร้อมกับรอยยิ้มอ่อนโยนของคนพูด วาดยิ้มกับตัวเอง เขาไม่รู้ว่าสิ่งที่เกิดขึ้นกับตัวเองมันคืออะไร ทำไมใจต้องสั่นเมื่อเผลอสบตาสบตา หรือว่าหัวใจพองโตตอนที่ได้ยินคำว่าฝันดีจากคนตรงหน้า

 

ตอนนี้วาดรู้เพียงแค่ว่าตั้งแต่กลับมาเค้ายังห้ามตัวเองไม่ให้ยิ้มยังไม่ได้เลย

 

'ฝันดีเช่นกันนะ...พี่เปรม'

 

.......................................................................

สวัสดีนักอ่านทุกท่าน .... ในวันศุกร์แห่งชาติค่ะ (เราลงอีกเวปนึงตั้งแต่วันศุกร์ค่ะ)

 

                   ผ่านวันแห่งความรักมาแล้ว หวังว่าตอนพิเศษที่ปั่นขึ้นมาในตอนเร่งด่วนจะทำให้ยิ้มได้กันบ้างนะคะ วันนี้แอบเอามาลงในช่วงเย็นๆ ค่ะ แหะๆๆ คำผิดยังคงมีเยอะอยู่ต้องขออภัยด้วยนะคะ เรารีไรท์หลายรอบแต่อาจจะมีผิดตก พลาดบ้าง เม้นติชมได้นะคะ  ขอบคุณมากค่ะเข้ามาติดตามฟิคของนักเขียนฝึกหัดคนนี้นะคะ

 

                                                           จากใจ 

***********************************************************************************************

 

งานดีกันทุกคนเลยใช่มั๊ยคะ  ^//^    (ขอบคุณภาพจาก internet)

 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา