Fic sotus : ลุ้นรักหัวใจรีเทิร์น (เปรมxวาด)
เขียนโดย 18กันยา
วันที่ 4 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560 เวลา 14.51 น.
แก้ไขเมื่อ 4 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560 16.23 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น
1) ทำไมต้องเธอ
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
เรื่องราวต่างๆที่ผ่านเข้ามาในชีวิตบางเรื่องแม้เราอยากลืมแค่ไหนแต่เรากลับจำมันได้ชัดเจนขึ้นเท่านั้น....เช่นเดียวกันกับชีวิตผม
สวัสดีครับทุกท่าน ผมชื่อเล่นว่าวาด ตอนนี้เปิดร้านกาแฟกับเพื่อนครับ หลังจากที่เรียนจบผมก็ยังไม่รู้จะทำอะไร อ้อลืมบอกไปว่าผมจบวิศวะมานะ
ร้านกาแฟ "รักจัง" ผมหุ้นกับเพื่อนเปิดร้านนี้ขึ้นมาจากเงินทุนของพ่อแม่ที่ท่านให้ผมมาลงทุนเป็นการรับขวัญลูกชายกลับมอยู่บ้าน หลังจากไปเรียนในเมืองกรุงเอาเป็นว่าผมขอยืมท่านก่อนค่อยจ่ายคืนทีหลัง
ลืมบอกไปเพื่อนผมมันชื่อแดนไท เรียกสั้นๆ ว่าไอ้แดน ผมกับมันวิ่งไล่เตะตูดกันมาตั้งแต่เด็ก จบมัธยมมาด้วยกัน พอเข้ามหาวิทยาลัยก็แยกกันไปเรียน ห่างกันไปหลายปีครับ จนกลับมาเจอที่บ้านนี่แหล่ะครับ
เราสองว่างงานทั้งคู่ อาจเพราะเบื่อเมืองกรุงด้วยเลยกลับมาตั้งหลักกันใหม่ที่บ้าน เจอกันก็คุยกันข้ามวันข้ามคืน คิดถึงมันครับเลยนอนคุยกันยันเช้า บ้านผมกับมันรั้วติดกัน มีบันไดไว้ตรงกำแพง ปีนหากันง่ายดี อยู่ทางเหนืออากาศดีกว่าเมืองกรุงเยอะ ผู้คนไม่แออัดอยู่กันแบบสบายๆ แต่ช่วงไฮซีซั่นนี่ทางเหนือแน่นขนัด รถติดยาวเหยียดเลย
ไอ้แดนมันเรียนชงกาแฟมา เลยชวนผมไปร่วมหุ้นเปิดร้านด้วย โดยมันเป็นคนจัดการเรื่องกาแฟ ส่วนผมดูแลเรื่องขนมแล้วก็เครื่องดื่มอื่นๆ เพราะกาแฟผมไม่ถนัดเท่าไร เราตกลงว่าจะยังไม่จ้างพนักงานทำกันเองฟินกว่าไอ้แดนมันว่างั้นนะ
ร้านของเราไม่ใหญ่มากนักแต่โชคดีตั้งอยู่ในทำเลดี ติดถนนใหญ่ ใกล้แหล่งชุมชน พื้นที่กว้างขวาง จอดรถสะดวกต้องขอบคุณลุงดิษ พ่อไอ้แดน ที่ท่านอนุเคาะห์สถานที่ให้เรามาปรับปรุงเป็นร้านโดยไม่คิดค่าเช่า ด้านหลังก็เป็นบ้านพักหลังเล็กๆ ที่ให้เราสองคนได้ซุกหัวนอนได้ยามขี้เกียจกลับบ้าน
จังหวัดตาก เป็นจังหวัดใหญ่และเป็นทางผ่านไปทางภาคเหนือ แบ่งออกเป็นฝั่งตะวันออกและฝั่งตะวันตก สาเหตุที่ต้องแบ่งเพราะมีเทือกเขาถนนธงชัยคั่นกลาง ยิ่งตอนนี้เข้าสู่อาเซียนยิ่งคึกคัก โดยเฉพาะฝั่งแม่สอดติดชายแดนพม่า แถมกำลังพัฒนาเป็นเศษฐกิจพิเศษยิ่งคึกคักใหญ่ ผมอยู่ฝั่งอำเภอเมืองแอบอิจฉาคนฝั่งนู้นนิดหน่อยเพราะสนามบินมีเครื่องบินมาลงทำให้เดินทางสะดวก ส่วนฝั่งนี้ก็มีสนามบินนะ แต่ไม่มีเครื่องลง ... แหม น้อยใจจัง
เราเปิดร้านกันได้สักสองเดือนแล้วก่อนช่วงฤดูหนาว พอถึงวันหยุดยาวช่วงสิ้นปีก็เป็นช่วงที่เราต้องรีบกอบโกย ยิ่งเปิดร้านใหม่ยิ่งต้องขยันโอกาสมาต้องรีบคว้า เสียดายที่ปีนี้ไม่ค่อยหนาวเท่าไร แต่คนก็ไปเทึ่ยวทางเหนือกันเยอะนะ ร้านผมก็คึกคักดี เพราะเหมาะมากสำหรับพักรถ แวะดื่มกาแฟเบาๆ กัน ผมกับไอ้แดนต้อนรับลูกค้ากันสนุกสนานแทบไม่ได้หยุดเลย พ้นวันหยุดยาวช่วงปีใหม่ไป ผมกับมันเลยหยุดร้านพักผ่อนกันไปสามวัน ช่วงที่ยุ่งกับการเปิดร้านทำให้ผมได้หยุดคิดถึงใครบางคนได้บ้าง...
และวันนี้ก็เป็นวันเปิดขายวันแรกหลังจากเราหยุดพักร่างกายเพื่อเตรียมพร้อมลุยงานกันต่อ
เสียงประตูเปิดพร้อมกับสัญญาณที่ส่งเสียงที่บ่งบอกว่ามีลูกค้าเข้ามาในร้าน
"รักจัง สวัสดีครับ ต้องการแฟกาแบบไหนสั่งได้เลยครับ"
ผมทักทายลูกค้าโดยที่ยังมัวแต่ก้มหน้าจดรายการของที่ต้องสั่งมาเพิ่ม (พฤติกรรมไม่เหมาะสม กรุณาอย่าเลียนแบบนะครับ) แต่เสียงที่ตอบกลับมาทำให้ผมถึงกับสตั้นไป 10 วิ เสียงนี้ไม่ผิดแน่
ผมเงยหน้าขึ้นไปมองลูกค้า ผมไม่รู้ว่าผมทำหน้าแบบไหนตอนเห็นคนนั้น เพราะผู้ชายคนนั้นก็คงตกใจเหมือนกันที่เห็นผมอยู่ที่นี่
หลายปีที่ไม่เจอกัน ผมไม่รู้ว่าต้องทำตัวยังไง เพราะผมกับ "ผู้ชายคนนั้น" มีความสัมพันธ์ที่ไม่ดีต่อกันเท่าไร ผมต้องกลั้นใจ ทำหน้ายิ้มแย้มให้ทั้งๆ ที่จิตใจผมตอนนี้มันโคตรไม่โอเคเลย
"รับอะไรดีครับ"
"เอ่อ วาด " ผู้ชายคนนั้นมีท่าทีตกใจ ก่อนจะจุดยิ้มมุมปากขึ้นราวกับดีใจนักหนาที่ได้เจอกัน แม่ง เกลียดว่ะ ผมเกลียดรอยยิ้มนั้น
"รับอะไรดีครับ" ผมถามย้ำอีกครั้ง ตอนนี้ผมเริ่มยิ้มไม่ออกแล้ว
"งั้นเป็นอเมริกาโน่ 1 ลาเต้หวานน้อย 1"
"ขอบคุณมากครับ รบกวนคุณลูกค้านั่งรอสักครู่ครับ"
ผมรีบเดินไปเรียกไอ้แดนที่คุยโทรศัพท์อยู่หลังร้าน ให้เข้ามาชงกาแฟให้ลูกค้าตาม จากนั้นก็เป็นหน้าที่ของผมที่ต้องยกไปเสริฟ ให้ตายเหอะผมจะทำกาแฟหกใส่มันมั๊ย ในเมื่อใจผมมันสั่น และอาจจะส่งผลให้ผมมือลั่นง่ายๆ
"กาแฟที่สั่งได้แล้วครับ รับขนมเค้กเพิ่มหรือเปล่าครับ" ผมถามโดยจ้องแต่ถ้วยกาแฟสองถ้วยนั้น ประหนึ่งว่าจะมีเลขเด็ดลอยมาให้ได้ลุ้นกันงวดนี้ ว่าแต่พรุ่งนี้หวยออกซื้อเลขไ้รดีะ
ระหว่างที่ผมกำลังคิดเพลินๆ เสียงประตูร้านเปิดพร้อมกับผู้หญิงคนหนึ่ง เดินส่งยิ้มหวานมาตั้งแต่หน้าประตู บ่องตง .. สวยมากก
"ขอโทษนะเปรม ปริมคุยกับเพื่อนเพลินไปหน่อย" เสียงหวานเอ่ยบอกกับชายคนนั้น พร้อมกับมือเรียวสวยที่เอื้อมมากุมมือหนาไว้ โอเค ผมว่า ผมควรจะไปจากตรงนี้ได้แล้ว
"ปริมจะรับขนมมั๊ย เดี๋ยวเปรมสั่งให้" มีเสียงสองนะมึง ผมแอบเบะปากมองบน
"ปริมกลัวอ้วน เปรมสั่งเถอะ"
"โอเค งั้นขอเค้กกาแฟ 1 ชิ้นครับ"
"รอสักครู่ครับ" ผมรีบเดินออกมาหยิบเค้กแล้วรีบเอาไปเสริฟแล้วเดินกลับมาทันที เพราะถ้าช้าไปกว่านี้ผมกลัวที่จะทำท่าทีแปลกๆ ออกไป
"เฮ้ย วาด มึงโอเคเปล่าวะ หน้ามึงพร้อมฆ่าคนมากเลยตอนนี้"
"ไม่มีไรมึง " ผมพูดด้วยความหงุดหงิด
"จริงหรอวะ แต่หน้ามึงบอกว่ามีว่ะ"
"เออ ไม่มีไรก็ไม่มีสิ" ผมพูดด้วยความเซ็งสุดขีด
"เอาเป็นว่า เป็นไรก็บอกกูได้ กูเพื่อนมึง"
ไอ้แดนมันชอบคิดว่าผมเป็นน้องมัน เวลาผมไม่สบายใจ มันมักจะมีคำพูดตลกๆ พร้อมกับมือที่ชอบมาลูบหัวผม บ้างโยกหัวไปมา นี่ถ้าเป็นคนอื่นผมโดดเตะไปละ เพราะผมไม่ชอบให้ใครลูบหัว ยกเว้นผู้หลักผู้ใหญ่ที่ผมให้ความเคารพ
"เออ มึงอะ เล่นหัวกูอีกละ กูไม่ใช่เด็กในโอวาทของมึงนะโว้ย" ผมโวยวายเล็กน้อย ก่อนจะนั่งหัวเราะเบาๆ กับมัน ไม่ว่ายังไงมันก็เป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของผมเสอ
วาดหารู้ไม่ว่า การกระทำของทั้งสองถูกสายตาคู่หนึ่งจับจ้องอยู่
"เก็บเงินด้วยครับ"
เสียงทุ้มดังขึ้น ทำให้เพื่อนซี้สองคนที่กำลังคุยกัน ต้องหยุดแล้วหันไปทางต้นเสียง
"แดน มึงไปเก็บตังค์เลย"
"อ้าว ปกติมึงเป็นคนเก็บ"
"เออ ไปหน่อยกูขี้เกียจอ่า" อ้อนนิดนึง เดี๋ยวมันก็ใจอ่อน หุหุ
"เออ ก็ได้วะ" แดนบ่นงึมงำก่อนเดินไปคิดเงินลูกค้า
"ทั้งหมด 180 บาท"
"นี่ครับ ไม่ต้องทอน กาแฟอร่อยดีนะครับ ไว้ผมจะมาอุดหนุนใหม่" ชายหนุ่มพูดขึ้นพร้อมกับมองไปยังอีกคนที่จ้องกลับมาอย่างวาววับพร้อมมีเรื่องเสมอ
'ตาคู่นั้นที่เค้าเฝ้ามองมาตลอดหลายปี'
"ไอ้วาด ผู้ชายคนนั้นแม่โคตรหล่อว่ะ แต่รู้สึกว่ามึงแปลกๆ นะ ตั้งแต่ลูกค้าคนนี้เข้าร้านมา"
"เออ รุ่นพี่กูเอง"
"อ้าว แล้วมึงไม่คุยกับเค้าวะ"
"คนไม่ถูกกันจะให้คุยกันไงวะ"
"แต่ที่เค้ามองมึง ไม่ใช่งั้นนี่"
"เออ ช่างแม่งเหอะ มันคงไม่มาแล้วหล่ะ"
ผมภาวนาให้เป็นแบบนั้น
คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ