รหัสรัก ROMEO and JULIET

6.4

เขียนโดย zeeto

วันที่ 4 ธันวาคม พ.ศ. 2559 เวลา 21.02 น.

  20 ตอน
  2 วิจารณ์
  30.83K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 6 ตุลาคม พ.ศ. 2560 21.55 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น

แชร์นิยายฟิคชั่น Share Share Share

 

13) เหตุผลของทุกอย่างก็คือ...(มึง)

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
ขนาดตัวอักษร เล็ก กลาง ใหญ่ ใหญ่มาก
          ผมยอมรับนะว่าระยะเวลาสองวันที่มาทะเลด้วยกันมันมีความสุขมากจริงๆ  เล่นน้ำทะเลเดินริมชายหาด กินอาหาร นอนหลับไปพร้อมกับอ้อมกอดที่...อบอุ่นของไอ้กันมันรู้สึกดีมากๆเลย  แต่ผมคิดว่ามันเป็นไปไม่ได้หรอกไอ้กันควรมีชีวิตที่ปกตินะยิ่งคิดถึงเวลาที่มันอยู่ในวงล้อมของสาวๆแล้วผมไม่กล้าเข้าไปทำให้ชีวิตของมันต้องมาหยุดที่ผม  เพราะตอนนี้ความรู้สึกที่มีมากกว่าคำว่าเพื่อน มากกว่าคำว่าชอบ แต่มันคือคำว่ารัก  เพราะฉะนั้นการที่ผมจะปล่อยให้คนที่รักได้มีความสุขที่สุดมันเป็นเรื่องที่ถูกต้องและควรกระทำไม่ใช่หรอ  วันนี้ผมกับไอ้กันจะเดินทางกลับกรุงเทพกันแล้วเลยแวะมาหาซื้อของฝากซึ่งมันก็ไม่มีอะไรมากมายเลยนอกจากของแห้งอย่างพวกกุ้ง หอย ปู ปลา ปลาหมึก ผมอุ้มเจ้าแรมโบ้เดินตามไอ้กันที่หยิบจับเลือกซื้อของ ความจริงผมก็ไม่ได้อยากได้อะไรนะแต่ไอ้กันมันอยากจะซื้อก็แล้วแต่มัน “เออไอ้กันเดี๋ยวกูไปนั่งรอที่ร้านกาแฟตรงนั้นนะ” ผมบอกกับไอ้กันที่กำลังเลือกซื้อของอยู่  “อือ...เดี๋ยวกูซื้อเสร็จตามไป” ผมเดินแยกจากไอ้กันก่อนจะเข้าไปที่ร้านกาแฟ “ร้อนไหมครับแรมโบ้ ...พี่ครับอเมริกาโน1แก้วครับ” ร้านกาแฟสไตล์ชิคๆกับมุมของฝากเล็กๆผมเดินหยิบนั้นนู้นนี้ดูก่อนจะหันไปเห็นโปสการ์ดที่วางบนชั้นหมุน  ใช่ซิผมอยากจะเขียนโปสการ์ดหรอไอ้กันซักครั้งและนี้อาจจะเป็นการ...บอกลาด้วยความรู้สึกที่ดีๆก็ได้ “เออพี่ครับโปสการ์ดนี้ส่งที่นี้ได้เลยไหมครับ”  “ได้ครับ..เรามีตู้รับส่งอยู่ตรงนี้” “งั้นผมขอยืมปากกาหน่อยครับ” เมื่อเลือกโปสการ์ดได้แล้วผมก็นั่งเขียนข้อความที่อยากจะพูดทุกอย่างก่อนจะเดินไปหย่อนลงที่ตู้รับฝาก นี้อาจจะเป็นสิ่งที่ถูกต้องและดีที่สุดที่ผมจะสามารถทำให้กับ Romeo ของผม
 
          ทำไมติดต่อชายธีไม่ได้เลยตั้งแต่กลัมาจากทะเลจนจะเป็นอาทิตย์แล้วผมยังติดต่อชายธีไม่ได้ ไม่รู้ว่าเพราะเรียนหนักหรือเพราะอะไรโทรศัพท์พังอีกแล้วหรอ จะไปหาที่บ้านก็เกรงใจพ่อกับแม่  ว่าแต่ชายธีมันหายไปไหนของมันก่อนไปทะเลก็แปลกๆพอกลับมาจากทะเลก็หายไปเลย “น้องกันครับวันนี้มีไปรษณีย์มาส่งนะครับ” เสียงพี่เจ้าหน้าที่ที่ดูแลคอนโดบอกผมที่เดินเข้ามาผมหันไปขอบคุณก่อนจะเดินไปรับของว่าแต่ใครส่งอะไรมาพ่อกับแม่หรอ... “อะไรครับพี่” “หน้าจะเป็นบิลค่าโทรศัพท์กับโปสการ์ดครับนี้ครับ”  “ขอบคุณครับ” มีโปสการ์ดด้วยหรอว่าแต่มาจากไหนว่ะผมไม่ทันได้อ่านก่อนที่จะรับมาแล้วเดินขึ้นห้องไปก่อน  “เหนื่อยจังเว้ย...แรมโบ้ครับหิวไหมนี้ป๊ะป๊าซื้อของเล่นมาฝากด้วยนะครับ” ผมแกะอาหารเทให้เจ้าแรมโบ้ก่อนจะเดินไปหยิบดูโปสการ์ดที่พึ่งรับมา “รูปทะเลที่หัวหินนี้หว่า...” เมื่อพลิกเพื่ออ่านข้อความด้านหลังเท่านั้นทุกอย่างมันเหมือนดับวูบลงทันทีความรู้สึกบีบคั้นหัวใจ สมองที่ว่างเปล่านี้มัน
          ทะเลที่นี้สวยดีนะแต่มันก็เหงา ความสุขที่มี  มือที่คอยจับมือกู...ขอบใจมึงนะ แต่ความสุขพวกนี้กูขอคืนให้มึงแล้วกัน กูไม่อยากทำให้มึงต้องอึดอัดต่อจากนี้  คนอย่างมึงยังมีคนที่รักมากมาย  กูว่าเราสองคนกลับไปที่จุดเดิมเถอะจุดที่เราไม่เคยรู้จักกันเลยขอบคุณสำหรับทุกๆอย่าง I love You ,My Romeo
                                                                                                        Juliet
 
          “รับสายซิว่ะ....ไอ้ฟลุ๊ค...” ผมวางโปสการ์ดลงบนโต๊ะก่อนจะพยายามติดต่อหาอีกคนทันที  นี้มันหมายความว่าไงกลับไปอยู่ที่จุดเดิมที่ไม่เคยรู้จักกันงั้นหรอ มันจะทำได้ไงว่ะก็ตอนนี้...ผมรักมันไปแล้ว  รับสายซิว่ะอย่าทำแบบนี้ได้ไหมไอ้ฟลุ๊ค เมื่อพยายามโทรไปแล้วแต่ไม่มีคนรับสายผมก็พยายามส่งไลน์ไปอีก “ไอ้ฟลุ๊ครับสายกูเดี๋ยวนี้...” ข้อความขึ้นสถานะว่าอ่านแต่กลับไม่มีตอบรับกลับมาโทรไปก็เหมือนเคย “ไอ้ฟลุ๊ค...มึงเป็นอะไรบอกกูได้ไหมกูทำอะไรให้มึงไม่พอใจ” เมื่อพยายามเท่าไรก็เหมือนจะไม่เป็นผล “แรมโบ้เดี๋ยวป๊ะป๊ามานะลูก” ผมเดินไปลูบหัวเจ้าแรมโบ้ก่อนจะคว้าโทรศัพท์และกุญแจออกจากห้องไปทันทีจะให้ผมอยู่นิ่งๆตอนนี้ผมพูดได้เลยว่าผมทำไม่ได้  จะให้ผมหยุดทุกอย่างไว้ที่ทะเลเป็นครั้งสุดท้ายพร้อมกับข้อความในโปสการ์ดหรอไม่มีทาง ไม่มีทางจริงๆผมทำไม่ได้
 
          น้ำใสๆที่ไหลอาบสองแก้มมือที่ยกขึ้นปิดหน้า ผมไม่รู้ว่าสิ่งที่ผมทำมันจะเจ็บปวดมากแค่ไหนแต่ทำไมมันถึงได้หน่วงขนาดนี้ แล้วไอ้กันละไอ้กันจะเจ็บเหมือนกับผมหรือเปล่า แต่ผมคิดว่าผมทำถูกแล้วทุกอย่างมันต้องถูกต้องผมกับไอ้กันเราสองคนไม่มีทางเป็นไปได้ “ไอ้ฟลุ๊ค...มึงเป็นอะไรว่ะ” เสียงไอ้ปริ้นท์ที่เดินมานั่งพร้อมกับมือที่วางบนบ่าของผม “มึงร้องไห้ทำไมว่ะเป็นอะไรมึงก็บอกกูได้นะกูเป็นห่วง” ผมค่อยๆยกมือขึ้นปาดน้ำตาก่อนจะหันไปมองไอ้ปริ้นท์ “กูไม่รู้จะพูดยังไงว่ะ...” “ถ้ามึงยังไม่พร้อมจะพูดมึงก็ยังไม่ต้องพูดแต่ถ้ามึงอยากร้องไห้มึงก็ร้องออกมาเถอะ...กูเชื่อนะเว้ยว่าที่มึงเป็นแบบนี้เพราะมึงคงเจ็บปวดจริงๆกูเป็นเพื่อนมึงมาตั้งกี่ปีทำไมกูจะไม่รู้นิสัยมึง”  “ขอบใจว่ะ...”  TRRRRRR~~ “ไม่รับสายว่ะ” “กูไม่อยากรับสายตอนนี้” “คงเป็นคนที่ทำให้มึงเป็นแบบนี้ใช่ไหม” ผมพยักหน้าให้ไอ้ปริ้นท์เบาๆ “เอาเถอะมันก็เรื่องของมึงแต่อย่าลืมนะการหนีไม่ได้ช่วยแก้ปัญหากูไปก่อนละ”
 
          ใครมาเห็นผมตอนนี้คงไม่ต่างจากเห็นคนบ้าผมขับรถออกมาเพื่อตามหาชายธีที่บ้านแต่พ่อกับแม่บอกว่ามันไม่อยู่แล้วตอนนี้มันไปอยู่ที่ไหนละ โทรไปหาไอ้ปริ้นท์ก็บอกไม่รู้ตอนนี้ผมไม่รู้จริงๆว่าเขาไปอยู่ที่ไหน “โถ่โว้ย!!!...ไอ้ฟลุ๊คมึงอยู่ที่ไหนว่ะ” “แกๆนั้นใช่พี่กันสมายไหม” เสียงผู้หญิงที่เดินผ่านมากลุ่มหนึ่งพูดพร้อมกับชี้มาที่ผมถ้าเป็นก่อนหน้านี้ผมคงรู้สึกดีใจนะว่ามีคนสนใจผมแต่มาตอนนี้ผมไม่รับรู้อะไรทั้งนั้นขอแค่หาตัวอีกคนให้เจอเป็นพอ “ใช่พี่กันสมายไหมคะ”  “ครับ” “พวกหนูขอถ่ายรูปพี่ได้ไหมช่วงนี้ไม่เห็นพี่อัพไอจีเลย” “ครับ” ผมฝืนยิ้มให้กับแฟนคลับที่เข้ามาขอถ่ายรูป “เออจริงซิพี่กันสมายไม่ได้ไปเชียงใหม่กับพี่ชายธีหรอคะเมื่อวานหนูเห็นพี่ชายธีอัพไอจีด้วยแหล่ะ” “ห่ะ?...ฟลุ๊คอัพไอจีหรอ” “ใช่ค่ะนี้เลยอารมณ์เหงามากเหมือนจะไปถ่ายงานที่เชียงใหม่นะคะ”  “พี่ขอดูหน่อยครับ” ผมยืมมือถือแฟนคลับมาเปิดดูไอจีก็เห็นรูปแก้วกาแฟกับนมสดคาราเมลงั้นหรอ “ข้อความเหง๊าเหงาไม่รู้งั้นหนูสองคนไปก่อนนะคะพี่ขอบคุณคะ”  “ครับขอบคุณครับ” เชียงใหม่งั้นหรอไม่ได้ละผมอยู่เฉยๆไม่ได้แล้ว “ฮัลโลไอ้ซิง...มึงมีคีย์การ์ดกับกุญแจสำรองคอนโดกูใช่ไหมกูฝากมึงดูแลแรมโบ้ให้กูที” พูดจบผมก็วางสายจากไอ้ซิงก่อนจะรีบขับรถไปเชียงใหม่ทันที
          “อะไรของมันว่ะโทรมาสั่งๆแล้วก็วางเออ...ไปเอาแรมโบ้มานอนด้วยก็ได้ สาวตัวนุ่มๆอุ่นๆไม่มีให้กอดคืนนี้ขอกอดแรมโบ้ก็ได้ว่ะ ฮิ้ววววว”
 
          เกือบสิบชั่วโมงที่ผมขับรถจากกรุงเทพเพื่อมาตามหาใครบางคนที่นี้  เชียงใหม่ตอนนี้ผมอยู่ที่เชียงใหม่แล้วแต่แม่กำปองอยู่ที่ไหนล่ะคงต้องให้GPRSช่วยแล้วละผมค่อยๆขับรถตามที่GPRSบอกเส้นทางเกือบ1ชั่วโมงที่ผมขับตามมาและตอนนี้ผมก็ถึงแล้ว แม่กำปองว่าแต่ผมต้องหาชายธีจากตรงไหนละ หมู่บ้านนี้ก็ไม่ได้ใหญ่นักแต่ทำไมผมถึงรู้สึกว่ามันยากเหลือเกินเริ่มจากดูในไอจีของชายธีแล้วกันผมควรไปเริ่มจากร้านกาแฟที่เขานั่ง นี้ไงร้านชมนกชมไม้ เมื่อได้ข้อมูลเพิ่มอีกนิดหน่อยผมก็จอดรถแล้วลงไปถามชาวบ้านแถวๆนั้นดูเพราะคิดว่าหน้าจะพอรู้จัก “ป้าครับพอดีผมจะไปร้านกาแฟที่ชื่อร้านว่าชมนกชมไม้ไม่ทราบอยู่ตรงไหนครับ” “ร้านอยู่ตรงปู่นนะเจ้า...ขับไปข้างหน้าแล้วก็เลี้ยวซ้ายเดี๋ยวก็เห็นป้ายแล้วเจ้า” “ขอบคุณครับ” เมื่อรู้ตำแหน่งที่ชัดเจนผมก็ไม่รอเช้ารีบขับรถตามที่ป้าร้านกล้วยปิ้งบอก  ผมไม่รู้หรอกนะว่าต่อจากนี้จะเป็นยังไงแต่ผมต้องการที่จะเจอเขา ผมต้องการที่จะบอกความรู้สึกที่มันเกิดขึ้น  และถ้าคำตอบคือเขารู้สึกแบบเดียวกับผมผมก็จะพยายามทำให้เขา รักผม แต่ถ้ามันไม่ใช่อย่างน้อยๆผมก็ควรได้ยินจากปากเขามากกว่าในโปสการ์ดแผ่นเดียว
 
          “พี่ครับอเมริกาโน1แก้วแล้วก็นมสดคาราเมล1แก้วครับ” “สั่งเหมือนเดิมทุกวันเลยนะคะ” ผมหันไปยิ้มให้กับพี่เจ้าของร้านก่อนจะเดินไปนั่งรอที่โต๊ะเดิมที่นั่งทุกวัน  ไม่รู้เหมือนกันว่านมสดคาราเมลกับอเมริกาโนมันเข้ากันได้ตรงไหน  พึ่งรู้สึกว่ามันอร่อยก็ตอนที่ได้กินกับอเมริกาโนนิแหล่ะ  รสชาติแบบนี้เองหรอที่ไอ้กันชอบกินหวานหอมที่ช่วยตัดรสชาติขมของอเมริกาโนที่ผมกินเป็นประจำรวมๆกันแล้วมันรู้สึกดีมากจริงๆ เมื่อได้ของที่สั่งแล้วผมก็เดินไปจ่ายเงินก่อนจะออกจากร้านไป
 
          “ชมนกชมไม้สวัสดีเจ้า...รับอะหยังดีเจ้า” ใช่แล้วผมมาถูกร้านแล้วผมมองดูภายในร้านก่อนจะหันไปยิ้มให้กับเจ้าของร้านที่ยืนยิ้มให้ “ผมขอนมสดคาราเมลแล้วก็อเมริกาโนอย่างละแก้วครับ” “ได้คะเจ้า...กินเหมือนน้องผู้ชายคนเมื่อกี้เลย” “อะไรนะครับ...เมื่อกี้พี่พูดว่าอะไรนะครับ” “คือมีน้องคนหนึ่งมาจากกรุงเทพนะเจ้าเปิ้นมาซื้อนมสดคารเมลกับอเมริกาโนทุกวันเลยเจ้า” “ขอโทษนะครับ..พี่พอจะจำได้ไหมครับว่าเขาหน้าตาแบบไหน”  “รูปงามนะเจ้าสูงพอๆกับน้องนี้แหล่ะเตี้ยกว่านิดหนึ่ง” “ใช่คนในรูปนี้ไหมครับ” ผมเปิดมือถือก่อนจะส่งให้พี่เจ้าของร้านดู “ใช่ๆ...น้องคนนี้แหล่ะเจ้า” “ว่าแต่เขาไปไหนแล้วครับ” “พึ่งออกไปก่อนน้องมานี้เอง...” “แล้วพี่พอรู้ไหมครับว่าเขาพักที่ไหน” “อันนั้นปี้บ่ฮู้หรอกเจ้า...แต่เห็นว่าน้องเขามาถ่ายงานแถวๆน้ำตกแม่กำปอง” “น้ำตก?...” “ใช่ค่ะเจ้าอยู่ท้ายหมู่บ้านนี้เอง” “งั้นผมไม่เอาที่สั่งแล้วครับขอโทษด้วยนะครับพี่...แล้วก็ขอบคุณมากครับ” ไม่รอช้าเมื่อรู้จุดหมายที่จะไปผมก็รีบวิ่งตามป้ายที่ติดเพื่อไปยังน้ำตกแม่กำปองอีก แค่นิดเดียวชายธีอยู่แค่ตรงนี้อีกแค่นิดเดียวอย่าพึ่งไปไหนเลย 
 
          “เอาละวันนี้กูว่าเราพอแค่นี้ก่อนเถอะแสงจะหมดแล้วไว้พรุ่งนี้ถ่ายใหม่ไปพักกันเถอะ”  ผมเดินไปหยิบกล้องใส่ลงกระเป๋าก่อนจะยกให้ไอ้ปริ้นท์ “ไอ้ปริ้นท์ฝากกลับที่พักก่อนกูเลย” “อีกแล้วหรอว่ะเออๆอย่ากลับมืดมากละมึงอากาศเย็นเดี๋ยวไม่สบาย”  “เออขอนั่งเล่นซักหน่อยเดี๋ยวกูก็กลับ” “เออ...ว่าแต่เดี๋ยวนี้กินนมสดคาราเมลด้วยหรอว่ะ” “อ๋อ...อือกินกับอเมริกาโนแล้วเข้ากันดีนะ” “เออๆไปละ...” หลังจากที่ทุกคนกลับไปที่พักหมดแล้วผมก็เดินไปนั่งที่หินก้อนใหญ่ๆใกล้กับธารน้ำตก นี้คงเป็นที่ที่เหมาะแก่การพักทุกอย่างสำหรับผมแล้วจริงๆ “I miss you , Juliet” เสียงหอบพร้อมกับข้อความนี้ที่ดังจากด้านหลัง “ไอ้กัน!!!...” “อือ...กูเอง”  “มึงมาได้ไง” “กูก็ตามนมสดคาราเมลกับอเมริกาโนมาอ่ะดิ...จะไปไหน” ผมไม่รู้จะทำอะไรแต่ผมไม่พร้อมจะเจอมันตอนนี้จริงๆ  พอจะเดินหลบไอ้กันก็คว้าแขนผมไว้ก่อน “จะกลับที่พักปล่อยกู” “กูไม่ให้มึงหนีกูแล้วนะนี้กูขับรถมาจากกรุงเทพตั้งแต่เมื่อวานเพื่อมาตามหามึงแล้วมึงจะมาหนีกูอีกหรอ”  “แล้วมึงจะตามหากูทำไม”  “ก็เพราะว่า...กูคิดถึงมึงไง”  “......ไอ้กัน”  “คือกูไม่รู้นะไอ้ฟลุ๊คว่ามึงเป็นอะไรแล้วมึงรู้สึกอะไรแต่กูแค่อยากมาบอกความรู้สึกของกูที่มีต่อมึง กูไม่รู้ว่ามันเกิดขึ้นตอนไหนอาจจะตั้งแต่ที่กูอยากเอาชนะมึง ตั้งแต่ที่เราเล่นละครเวทีด้วยกัน หรือตอนไหนกูก็ไม่รู้ แล้วกูก็ไม่ใช่เกย์แต่กูกับรู้สึกกับมึงเกินคำว่าชอบไปแล้ว”  “ไอ้กันมึงแค่สับสน...มึงต้องตั้งสติดีๆนะอาจเพราะมึงไม่เคยมีแฟนและอาจเพราะกูเป็นจูบแรกของมึง” “มันไม่ใช่โว้ย...กูมั่นใจว่ามันไม่ใช่  แต่ทุกอย่างมันเป็นเพราะว่ากู  กูรักมึง” “ไอ้กัน...” “อาจจะฟังดูไม่มีเหตุผลป่ะว่ะที่กูจะมารักมึง...แต่กูพยายามหาเหตุผลมาตลอดทางที่ขับรถมาที่นี้สิบกว่าชั่วโมง อดหลับอดนอนมาที่นี้กูพยายามหาเหตุผลทุกอย่างแล้วนะ และสุดท้ายเหตุผลทุกอย่างที่มาที่นี้ก็เพราะมึง” “ไอ้กัน...” “แล้วมึงละมึงไม่ได้รักกูเลยหรอ...ไม่ดิ...มึงเคยรักกูบ้างไหมว่ะ” “รักดิ...และเพราะกูรักมึงไงกูถึงต้องทำแบบนี้กูไม่อยากให้คนอื่นมองมึงไม่ดี  กูอยากให้มึงอยู่ในความเป็นจริง ว่ามึงเป็นผู้ชายที่ต้องมีคนที่รักคนที่อยู่ข้างๆเป็นผู้หญิงซึ่งไม่ใช่กู”  “ทำไมว่ะ...คนจะรักกันมันต้องมีอะไรมากกว่านี้อีกหรอ” 
 
          ใช่ผมเองก็ไม่เข้าใจว่าทำไมตอนนี้ผมกับมองข้ามเรื่องเพศไปเลย จากเมื่อก่อนที่เวลาไปเที่ยวกับเพื่อนๆมักจะมีพวกตุ๊ดพวกกระเทยเข้ามาจีบมาแซวผมกับไม่ชอบแต่ทำไมพอมาตอนนี้กลายเป็นว่าผมกับรู้สึกโหยหาและขาดคนตรงหน้านี้ไม่ได้เพราะอะไรกัน  เหงาหรอไม่ใช่แน่ๆ ผมยืนมองชายทีที่ยืนหันหลังหลบหน้าผม ซึ่งผมไม่เข้าใจอยู่ดีในเมื่อผมรักมันแล้วมันก็รักผม  แล้วทำไมเราสองคนจะคบกันไม่ได้มันเพราะอะไร “ฟลุ๊ค...” “กูขออยู่เงียบๆก่อนได้ไหมว่ะ” “ได้...กูขอโทษแล้วกันที่ทำให้มึงอึดอัดกูแค่อยากมาบอกความรู้ให้มึงรู้และตอนนี้กูก็ได้บอกแล้ว  กลับที่พักเถอะจะมืดแล้วกูเป็นห่วง” เมื่อคนที่ฟังไม่อยากจะพูดอะไรในตอนนี้สิ่งเดียวที่พอจะทำได้ก็คงเป็นการที่ผมต้องเดินจากไปแล้วทิ้งให้เขาได้คิดและทบทวนความรู้สึกเท่านั้นเอง

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
7 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
5.5 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
6.8 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

อ่านนิยายฟิคชั่นเรื่องอื่น

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา