Ex-girlfriend อดีตแฟนครับ รับรักผมนะ
-
1) กลับมาเจอ
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความบทที่ 1
ผมว่าจริงๆกิจกรรมที่เพื่อนผมคิดขึ้นมามันก็สนุกดีหรอก ถ้าไม่ติดว่าผมต้องมานั่งระแวงตัวเองว่าจะทำให้คนข้างตัวอึดอัดหรือเปล่า ฟางอาจจะไม่ได้อยากอยู่ใกล้ผมแต่แค่เก็บอาการหรือว่าจะลืมเรื่องในอดีตไปแล้ว หรือว่าจะเกลียดจนไม่อยากสนใจ โอ๊ยทำไมความเป็นไปได้มันมีเยอะขนาดนี้ว่ะ น้องก็ดูปกติดีมีแต่ผมนี่แหละที่ไม่ปกติ หรือว่าผมควรลากน้องออกมาคุยข้างนอกให้รู้เรื่องไป ไม่อย่างงั้นผมนี่แหละจะไม่ได้ทำหน้าที่ของตัวเอง
ในขณะที่ผมคิดจะไม่ตกว่าจะทำยังไง ฟางก็เรียกผมขึ้นมาเสียก่อน”เออต้นไม้ ช่วยพาฉันไปเข้าห้องน้ำได้ไหม”
“หะ ให้ฉันพาไปเนี่ยนะ”
“อืม เห็นเพื่อนคนอื่นกำลังสนใจกิจกรรมอยู่น่ะ”
“อ่องั้นก็ได้”
ผมพาน้องออกมาจากจุดกิจกรรม แต่ยังไม่ทันจะถึงห้องน้ำฟางก็หยุดเดินดื้อๆ และเปลี่ยนเป็นดึงผมไปในที่ที่ไม่ค่อยมีคนผ่านเท่าไหร่
“ไม่มีคนแล้ว พี่ป๊อบปี๊มีอะไรจะพูดกับฟางหรือเปล่า ถ้าอยู่ข้างฟางแล้วมันน่าเบื่อขนาดนั้นพี่ก็ไปต้องฝืนก็ได้นะ””
“อ่าว พี่ทำหน้าเบื่อหรอ”
“ก็ใช้ไงคะ”
“เอ่อพี่…”
“เรื่องอะไรที่มันอยู่นอดีตก็ให้มันอยู่ในช่วงเวลานั้นเถอะนะ อย่าเก็บมาปนกับปัจจุบันเลย โอเคฟางอาจไม่ได้ลืมมันไปหมดแล้วแต่ตอนนี้มันก็เป็นแค่อดีตไปแล้ว เพราะฉะนั้นตอนนี้เรามาเป็นรุ่นพี่รุ่นน้องในคณะดีกว่าไหม”
“พี่ก็ไม่ได้คิดเรื่องในอดีตสักหน่อย พี่ก็แค่กลัวว่าฟางจะบอกคนอื่นว่าพี่เป็นพี่เนียนก็เท่านั้นแหละ”
“งั้นก็เลิกทำหน้าเซ็งได้แล้ว ฟางไม่บอกคนอื่นหรอกหน่า ถ้าพี่ป๊อบปี๊เรื่องขนมปิดปากฟาง”
“งกจริงๆเลยเด็กสมัยนี้”
“ไอ้พี่ป๊อบปี๊”ฟางทำท่าจะตะโกนด่าผม จนผมต้องรีบเอามือขึ้นปิดปากอย่าตะโกนสิครับ เดี๋ยวเขาก็รู้กันทั้งคณะหรอกพลีสสส ผมยังไม่อยากกลายร่างเป็นไก่ย่าง
“จะตะโกนทำไม”
“ก็พี่กวนประสาท”
“ไปๆ ไปทำกิจกรรมได้แล้วและก็อย่าเรียกว่าพี่ตอนนี้พี่เป็นเพื่อนฟางที่ชื่อว่าต้นไม้เข้าใจไหมฮ้า”ผมยกมือขึ้นจะขยี้หัวน้องตามความเคยชิน แต่พอรู้ตัวก็ทำได้แค่เก็บมือตัวเองออกห่างจากฟาง
“งั้นไปทำกิจกรรมกันเถอะ”
ผมพาน้องกลับมาทำกิจกรรม คราวนี้ผมก็สบายใจแล้ว ผมจะได้ทำหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายให้เต็มที่นี่โดนเพื่อนก่นด่าจนจามไปไม่รู้กี่รอบแล้วที่ไม่ยอมรายงานผลกิจกรรม
จะว่าไปในเมื่อฟางไม่ได้สนใจเรื่องในอดีตแล้วผมก็ควรจะลืมมันไปด้วยเหมือนกันสินะ ก็แค่ทำตัวเป็นป๊อบปี๊ในแบบที่ผมเคยเป็นการเป็นตัวเอไม่เห็นจะยากตรงไหนเลย ไม่สิผมต้องกลับไปเป็นตัวเองก่อนที่จะชอบน้องสินะ
“ต้นไม้ ต้นไม้”
“ฮะว่าไงนะ”
“คือรุ่นพี่เขาให้หาของตามรายการนี้หน่ะนี่มีเสื้อรวมอยู่ด้วย แต่ไม่มีใครยอมถอดเลย นายก็ทำดิผู้ชายแมนๆ”ไม่รู้ว่าฟางคิดยังไงถึงได้หันมากระทุ้งแขนยุให้ผมถอดเสื้อ นี่อยากแกล้งหรืออยากเห็นซิทแพ็คพี่หรอน้อง ไม่มีทางตอนปีหนึ่งผมก็ถอดไปแล้ว ถ้าไม่มีน้องถอดจริงๆผมถึงจะถอด กิจกรรมของปีหนึ่งก็ต้องให้น้องเข้าร่วมกิจกรรมสิ ทุกคนไม่ต้องเสียดายนะครับ
“เห้ยกิจกรรมเขาให้น้องเล่น นี่พี่แค่มาบิ้วเฉยๆนะ”ผมกระซิบ แต่ดูเหมือนฟางจะไม่ล้มเลิกความคิดที่จะแกล้งผม
“เห่ย นี่พี่จะปล่อยให้รุ่นน้องคนอื่นถอดเสื้อหรอป๊อดอ่ะ”โตจนปีหนึ่งแล้วนิสัยขี้แกล้งพี่ ไม่ต้องเอามาด้วยก็ได้นะครับตัวแสบเอ้ย
“อ่าวน้องสองคนจะคุยกันอีกนานไหมครับ เพื่อนรออยู่นะครับ เสื้อก็ยังไม่ครบ”
“ก็เพื่อนอยากถอดเสื้อแต่เพื่อนอายที่มีพุง นี่หนูก็ช่วยบิ้วเพื่อนไงคะพี่”เอ้ากล้าพูดมาได้ยังไงว่าผมมีพุง นี่ฟิตหุ่นทุกวันครับ อีกนิดก็ซิทแพ็คแล้ว พุงเพิงมีที่ไหนหล่ะ
“อ่าวหรอ น้องไม่ต้องอาย ปีหนึ่งพวกพี่ก็ถอดมาแล้วทั้งนั้น”
เออ เอาเข้าไปเพื่อนผมก็ไปรับมุขเด็กอีก ลูกผู้ชายฆ่าได้หยามไม่ได้ครับ ผมถอดเสื้อยืดของคณะออกเหลือเพียงท่อนบนเปล่าๆที่ไม่ได้มีอะไรปกปิด เด็กปีหนึ่งมองกันเป็นแถวไม่เว้นแม้แต่ฟางที่เป็นตัวเริ่มเรื่อง เป็นไงเห็นในความหุ่นดีของพี่แล้วใช่ไหมน้อง
“พอใจยัง”
“พอใจอะไรเล่า ไม่ได้อยากดูสักหน่อย”
“อ้าวว ร้อนตัวนะเธอ ที่แท้ก็อยากดูหุ่นฉันใช่ไหม”ผมทำหน้าล้อเลียน ไม่รู้ว่าตาฟาดไปหรือเปล่าแต่ผมเห็นฟางแก้มขึ้นสีจริงๆนะ
“หลงตัวเอง รุ่นพี่คะของก็ครบแล้วตอนนี้พวกหนูผ่านฐานหรือยังคะ เพื่อนหนูจะได้รีบใส่เสื้อเสียที”
“เอ้าๆ ถือว่าฐานนี้พวกน้องผ่านครับ”
“เยส นี่ผ่านเพราะพุงนายเลยนะต้นไม้”ฟางหันมายิ้มล้อเลียนผม เมื่อกี้ยังเขินอยู่เลยเดี๋ยวเถอะนะ
“งั้น ถ้าฉันทำให้ทีมชนะแปลว่าเธอจะมีรางวัลให้ฉันใช่ป่ะ”
“เวอร์หน่า”
“อ่าว สองคนนี้นี่ชอบคุยกันจังเลยน้า จีบกันอยู่หรือเปล่าเนี่ย”เพื่อนผู้หญิงในกลุ่มคนหนึ่งถามขึ้นมา คนอื่นในกลุ่มก็เริ่มส่งเสียงแซวออกมา ทำให้ผมและฟางยืนห่างกันอัตโนมัติ โดยเฉพาะฟางรีบไปยืนห่างผมเป็นโยชน์ ทำไมจีบกับพี่มันไม่ดีตรงไหน
“เปล่านะ”ฟางรีบตอบขึ้นมา
“จริงหรอ ไม่ได้เป็นแฟนกันจริงนะ”
“เปล่าไม่ได้เป็น”คราวนี้กลายเป็นผมที่แย่งตอบขึ้นมาก่อน ฟางเลยทำแค่พยักหน้าว่าตามนั้นแหละ
“ดีจังที่ฟางคนสวยยังไม่มีแฟน”
“ใครบอกว่าฉันไม่มี”อะไรนะ เลิกกับผมไปสองปีนี่มีแฟนใหม่แล้วหรอ แต่มันก็สิทธิ์ของน้องนี่หว่าผมจะตกใจทำไมฟร่ะ
“โหยเสียดายจัง”
“แล้วต้นไม้อ่ะ มีแฟนหรือยังหรอ”
“มีแล้ว น่ารักมากด้วย”ผมเห็นฟางชะงักไปแป๊บเดียว สักพักน้องก็ทำหน้าเหมือนจะล้อผมว่ามีแฟนแล้วไม่ยอมบอก มีกับผีนะสิครับ ต้องแต่เลิกกับน้องไปผมก็ไม่เคยที่จะลืมฟางลงเลย ใครจะไปลืมเร็วเหมือนฟางกันหล่ะลืมกันได้ลงคอ
ผมว่าจริงๆกิจกรรมที่เพื่อนผมคิดขึ้นมามันก็สนุกดีหรอก ถ้าไม่ติดว่าผมต้องมานั่งระแวงตัวเองว่าจะทำให้คนข้างตัวอึดอัดหรือเปล่า ฟางอาจจะไม่ได้อยากอยู่ใกล้ผมแต่แค่เก็บอาการหรือว่าจะลืมเรื่องในอดีตไปแล้ว หรือว่าจะเกลียดจนไม่อยากสนใจ โอ๊ยทำไมความเป็นไปได้มันมีเยอะขนาดนี้ว่ะ น้องก็ดูปกติดีมีแต่ผมนี่แหละที่ไม่ปกติ หรือว่าผมควรลากน้องออกมาคุยข้างนอกให้รู้เรื่องไป ไม่อย่างงั้นผมนี่แหละจะไม่ได้ทำหน้าที่ของตัวเอง
ในขณะที่ผมคิดจะไม่ตกว่าจะทำยังไง ฟางก็เรียกผมขึ้นมาเสียก่อน”เออต้นไม้ ช่วยพาฉันไปเข้าห้องน้ำได้ไหม”
“หะ ให้ฉันพาไปเนี่ยนะ”
“อืม เห็นเพื่อนคนอื่นกำลังสนใจกิจกรรมอยู่น่ะ”
“อ่องั้นก็ได้”
ผมพาน้องออกมาจากจุดกิจกรรม แต่ยังไม่ทันจะถึงห้องน้ำฟางก็หยุดเดินดื้อๆ และเปลี่ยนเป็นดึงผมไปในที่ที่ไม่ค่อยมีคนผ่านเท่าไหร่
“ไม่มีคนแล้ว พี่ป๊อบปี๊มีอะไรจะพูดกับฟางหรือเปล่า ถ้าอยู่ข้างฟางแล้วมันน่าเบื่อขนาดนั้นพี่ก็ไปต้องฝืนก็ได้นะ””
“อ่าว พี่ทำหน้าเบื่อหรอ”
“ก็ใช้ไงคะ”
“เอ่อพี่…”
“เรื่องอะไรที่มันอยู่นอดีตก็ให้มันอยู่ในช่วงเวลานั้นเถอะนะ อย่าเก็บมาปนกับปัจจุบันเลย โอเคฟางอาจไม่ได้ลืมมันไปหมดแล้วแต่ตอนนี้มันก็เป็นแค่อดีตไปแล้ว เพราะฉะนั้นตอนนี้เรามาเป็นรุ่นพี่รุ่นน้องในคณะดีกว่าไหม”
“พี่ก็ไม่ได้คิดเรื่องในอดีตสักหน่อย พี่ก็แค่กลัวว่าฟางจะบอกคนอื่นว่าพี่เป็นพี่เนียนก็เท่านั้นแหละ”
“งั้นก็เลิกทำหน้าเซ็งได้แล้ว ฟางไม่บอกคนอื่นหรอกหน่า ถ้าพี่ป๊อบปี๊เรื่องขนมปิดปากฟาง”
“งกจริงๆเลยเด็กสมัยนี้”
“ไอ้พี่ป๊อบปี๊”ฟางทำท่าจะตะโกนด่าผม จนผมต้องรีบเอามือขึ้นปิดปากอย่าตะโกนสิครับ เดี๋ยวเขาก็รู้กันทั้งคณะหรอกพลีสสส ผมยังไม่อยากกลายร่างเป็นไก่ย่าง
“จะตะโกนทำไม”
“ก็พี่กวนประสาท”
“ไปๆ ไปทำกิจกรรมได้แล้วและก็อย่าเรียกว่าพี่ตอนนี้พี่เป็นเพื่อนฟางที่ชื่อว่าต้นไม้เข้าใจไหมฮ้า”ผมยกมือขึ้นจะขยี้หัวน้องตามความเคยชิน แต่พอรู้ตัวก็ทำได้แค่เก็บมือตัวเองออกห่างจากฟาง
“งั้นไปทำกิจกรรมกันเถอะ”
ผมพาน้องกลับมาทำกิจกรรม คราวนี้ผมก็สบายใจแล้ว ผมจะได้ทำหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายให้เต็มที่นี่โดนเพื่อนก่นด่าจนจามไปไม่รู้กี่รอบแล้วที่ไม่ยอมรายงานผลกิจกรรม
จะว่าไปในเมื่อฟางไม่ได้สนใจเรื่องในอดีตแล้วผมก็ควรจะลืมมันไปด้วยเหมือนกันสินะ ก็แค่ทำตัวเป็นป๊อบปี๊ในแบบที่ผมเคยเป็นการเป็นตัวเอไม่เห็นจะยากตรงไหนเลย ไม่สิผมต้องกลับไปเป็นตัวเองก่อนที่จะชอบน้องสินะ
“ต้นไม้ ต้นไม้”
“ฮะว่าไงนะ”
“คือรุ่นพี่เขาให้หาของตามรายการนี้หน่ะนี่มีเสื้อรวมอยู่ด้วย แต่ไม่มีใครยอมถอดเลย นายก็ทำดิผู้ชายแมนๆ”ไม่รู้ว่าฟางคิดยังไงถึงได้หันมากระทุ้งแขนยุให้ผมถอดเสื้อ นี่อยากแกล้งหรืออยากเห็นซิทแพ็คพี่หรอน้อง ไม่มีทางตอนปีหนึ่งผมก็ถอดไปแล้ว ถ้าไม่มีน้องถอดจริงๆผมถึงจะถอด กิจกรรมของปีหนึ่งก็ต้องให้น้องเข้าร่วมกิจกรรมสิ ทุกคนไม่ต้องเสียดายนะครับ
“เห้ยกิจกรรมเขาให้น้องเล่น นี่พี่แค่มาบิ้วเฉยๆนะ”ผมกระซิบ แต่ดูเหมือนฟางจะไม่ล้มเลิกความคิดที่จะแกล้งผม
“เห่ย นี่พี่จะปล่อยให้รุ่นน้องคนอื่นถอดเสื้อหรอป๊อดอ่ะ”โตจนปีหนึ่งแล้วนิสัยขี้แกล้งพี่ ไม่ต้องเอามาด้วยก็ได้นะครับตัวแสบเอ้ย
“อ่าวน้องสองคนจะคุยกันอีกนานไหมครับ เพื่อนรออยู่นะครับ เสื้อก็ยังไม่ครบ”
“ก็เพื่อนอยากถอดเสื้อแต่เพื่อนอายที่มีพุง นี่หนูก็ช่วยบิ้วเพื่อนไงคะพี่”เอ้ากล้าพูดมาได้ยังไงว่าผมมีพุง นี่ฟิตหุ่นทุกวันครับ อีกนิดก็ซิทแพ็คแล้ว พุงเพิงมีที่ไหนหล่ะ
“อ่าวหรอ น้องไม่ต้องอาย ปีหนึ่งพวกพี่ก็ถอดมาแล้วทั้งนั้น”
เออ เอาเข้าไปเพื่อนผมก็ไปรับมุขเด็กอีก ลูกผู้ชายฆ่าได้หยามไม่ได้ครับ ผมถอดเสื้อยืดของคณะออกเหลือเพียงท่อนบนเปล่าๆที่ไม่ได้มีอะไรปกปิด เด็กปีหนึ่งมองกันเป็นแถวไม่เว้นแม้แต่ฟางที่เป็นตัวเริ่มเรื่อง เป็นไงเห็นในความหุ่นดีของพี่แล้วใช่ไหมน้อง
“พอใจยัง”
“พอใจอะไรเล่า ไม่ได้อยากดูสักหน่อย”
“อ้าวว ร้อนตัวนะเธอ ที่แท้ก็อยากดูหุ่นฉันใช่ไหม”ผมทำหน้าล้อเลียน ไม่รู้ว่าตาฟาดไปหรือเปล่าแต่ผมเห็นฟางแก้มขึ้นสีจริงๆนะ
“หลงตัวเอง รุ่นพี่คะของก็ครบแล้วตอนนี้พวกหนูผ่านฐานหรือยังคะ เพื่อนหนูจะได้รีบใส่เสื้อเสียที”
“เอ้าๆ ถือว่าฐานนี้พวกน้องผ่านครับ”
“เยส นี่ผ่านเพราะพุงนายเลยนะต้นไม้”ฟางหันมายิ้มล้อเลียนผม เมื่อกี้ยังเขินอยู่เลยเดี๋ยวเถอะนะ
“งั้น ถ้าฉันทำให้ทีมชนะแปลว่าเธอจะมีรางวัลให้ฉันใช่ป่ะ”
“เวอร์หน่า”
“อ่าว สองคนนี้นี่ชอบคุยกันจังเลยน้า จีบกันอยู่หรือเปล่าเนี่ย”เพื่อนผู้หญิงในกลุ่มคนหนึ่งถามขึ้นมา คนอื่นในกลุ่มก็เริ่มส่งเสียงแซวออกมา ทำให้ผมและฟางยืนห่างกันอัตโนมัติ โดยเฉพาะฟางรีบไปยืนห่างผมเป็นโยชน์ ทำไมจีบกับพี่มันไม่ดีตรงไหน
“เปล่านะ”ฟางรีบตอบขึ้นมา
“จริงหรอ ไม่ได้เป็นแฟนกันจริงนะ”
“เปล่าไม่ได้เป็น”คราวนี้กลายเป็นผมที่แย่งตอบขึ้นมาก่อน ฟางเลยทำแค่พยักหน้าว่าตามนั้นแหละ
“ดีจังที่ฟางคนสวยยังไม่มีแฟน”
“ใครบอกว่าฉันไม่มี”อะไรนะ เลิกกับผมไปสองปีนี่มีแฟนใหม่แล้วหรอ แต่มันก็สิทธิ์ของน้องนี่หว่าผมจะตกใจทำไมฟร่ะ
“โหยเสียดายจัง”
“แล้วต้นไม้อ่ะ มีแฟนหรือยังหรอ”
“มีแล้ว น่ารักมากด้วย”ผมเห็นฟางชะงักไปแป๊บเดียว สักพักน้องก็ทำหน้าเหมือนจะล้อผมว่ามีแฟนแล้วไม่ยอมบอก มีกับผีนะสิครับ ต้องแต่เลิกกับน้องไปผมก็ไม่เคยที่จะลืมฟางลงเลย ใครจะไปลืมเร็วเหมือนฟางกันหล่ะลืมกันได้ลงคอ
คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ