ป่วนหัวใจนายซุปตาร์

-

เขียนโดย พี่ม่อนจัง

วันที่ 19 ตุลาคม พ.ศ. 2559 เวลา 13.31 น.

  12 ตอน
  30 วิจารณ์
  16.27K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 25 พฤศจิกายน พ.ศ. 2559 23.27 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น

แชร์นิยายฟิคชั่น Share Share Share

 

3)

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

 

 

3

 

 

 

 

 

 

 

"พ่ออย่าเป็นอะไรนะจ๊ะ" ฟางเกาะประตูห้องผ่าตัดก่อนจะน้ำตาคลอเบ้าสงสารพ่อตัวเอง พ่อของเธอเป็นเนื้องอกในสมองต้องได้รับการรักษาแต่เขาปฏิเสธเพราะไม่มีเงินมากพอที่จะรักษาตัว

 

 

 

"พ่อต้องไม่เป็นอะไรเชื่อผมสิพี่ฟาง" โทโมะพูดเสียงสั่นประหนึ่งคนจะร้องไห้ โผเข้ากอดพี่สาวที่น้ำตาไหลพรากไร้เสียงสะอื้น

 

 

 

"หมอคะ พ่อของหนูเป็นยังไงบ้าง" หมอที่รักษาตัวพ่อของเธอเดินออกมาตัวสั่นเหมือนคนทำอะไรผิด

 

 

 

"เอ่อ คือ.."

 

 

 

"หมอบอกหนูมาสิ พ่อหนูเป็นยังไงบ้าง" ฟางเขย่าตัวหมออย่างแรง

 

 

 

"อย่ามายุ่งกับฉัน" หมอคนนั้นตะคอกใส่ฟางอย่างแรงก่อนจะวิ่งหนีออกไป ฟางได้แต่ยืนมองอย่างสงสัยและเสียใจในเวลาเดียวกัน

 

 

 

"พยาบาลครับ พ่อผมเป็นไงบ้าง" พยาบาลเดินตามออกมาด้วยใบหน้าซีดเซียว ตัวสั่นไม่แพ้หมอที่ออกไปเมื่อกี้

 

 

 

"ฉันเสียใจด้วยนะคะ แต่..พ่อของคุณเสียชีวิตแล้ว" พยาบาลพูดเสียงสั่นเครือเหมือนคนทำผิด ก่อนจะรีบวิ่งหนีออกไป ทิ้งความสงสัยไว้ให้ฟางที่เห็นสีหน้าของหมอและพยาบาลที่ตกใจและกลัว

 

 

 

"นี่มันเกิดอะไรขึ้น" ฟางทรุดลงไปตรงนั้นพร้อมสะอื้นไห้อย่างเสียใจไม่ต่างกับโทโมะที่ยืนน้ำตาไหลพรากอยู่ตรงนั้น "หนูขอโทษค่ะพ่อ ฮึก หนูขอโทษ"

 

 

 

"นี่มันวันบ้าอะไร" โทโมะสบถออกมาก เขาร้องไห้ออกมาอย่างไม่คิดว่าตัวเองเป็นผู้ชาย เขาเข้าไปกอดพี่สาวผู้เป็นที่รักแล้วร้องไห้ไปพร้อมกันโดยมีสายตาคู่หนึ่งที่จับจ้องอยู่หลังกำแพงด้วยอาการหวาดกลัว

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 


"ฟางขอโทษนะคะพ่อ ฟางจะดูแลน้องเป็นอย่างดี" ฟางมองรูปที่อยู่หลุมศพ หลังจากที่จัดพิธีเสร็จเรียบร้อย เธอจัดพิธีแบบเงียบๆโดยทีแค่คุณยายข้างบ้านเท่านั้นที่มาร่วมงานศพพ่อของเธอ น้ำตาเจ้ากรรมไหลออกมาช้าๆ เธอนำดอกไม้ที่พ่อชอบไปวางไว้ที่หลุมศพนั้น

 

 

 

"พ่อไปสบายแล้ว พี่ฟาง" โทโมะกอดไหล่พี่สาวของเขาด้วยอารมณ์ที่เสียใจไม่แพ้กัน ทั้งชีวิตเขามีแค่พ่อและพี่ของเขา และวันนี้พ่อของเขาก็จากไปแล้ว อนาคตข้างหน้าจะเป็นอย่างไร

 

 

 

"เรากลับบ้านกันเถอะ" โทโมะพูดเสียงสั่นก่อนจะเดินออกไปจากตรงนั้น โดยมีใครคนหนึ่งกำลังเฝ้ามองเธอและโทโมะอยู่

 

 

 

"เดี๋ยวแกกลับไปก่อน ฉันมีธุระที่จะต้องทำ กลับไปทำความสะอาดบ้านซะ" ฟางปาดน้ำตาแล้วบอกน้องตัวเอง

 

 

 

"พี่จะไปไหน"

 

 

 

"เดี๋ยวฉันกลับมา" ฟางนำรูปของพ่อที่ตัวเองถือยื่นให้น้อง ก่อนจะเดินออกไปจากตรงนั้น

 

 

 

 

 

 

 

 

 

"ฉันมาขอพบคุณหมอที่ผ่าตัดให้พ่อของฉันเมื่อวันที่ 4 ตุลาคมค่ะ"

 

 

 

"เอ่อ คุณหมอศรัณย์ไม่อยู่ค่ะ วันนี้ออกเวรแล้ว คนไข้มีอะไรรึเปล่าคะ"

 

 

 

"บอกว่าฉันมาขอพบ รบกวนติดต่อที่เบอร์นี้ด้วยค่ะ" ฟางยื่นเบอร์โทรให้พยาบาลก่อนจะเดินออกไป แต่แล้วสายตาก็เหลือบไปเห็นคุณหมอคนนั้นที่ยืนคุยโทรศัพท์อยู่ที่มุมสูบบุหรี่ ก่อนที่เธอจะรีบเดินไปหาทันทีด้วยความสงสัย

 

 

 

 

 

"ฉันควรจะทำยังไงดีทนายโชค ฉันทำผิดมหันต์กับเด็กสองคน"

 

 

 

(ผมก็ไม่ทราบเหมือนกันครับท่าน ผมว่าถ้าท่านไม่บอกเด็กพวกนั้นว่าผ่าตัดผิดพลาด ผมว่าเด็กพวกนั้นคงไม่รู้เพราะทั้งคู่ยังเด็ก และเขาไม่มีทางรู้ว่าหมอทำอะไร)

 

 

 

"แต่ฉันก็รู้สึกผิดที่ทำให้เด็กพวกนั้นกลายเป็นเด็กกำพร้า ไม่มีพ่อ"

 

 

 

(ให้เงินเด็กพวกนั้นไปสิครับ สักล้านสองล้าน ผมว่าเด็กพวกนั้นก็คงเงียบไปเอง)

 

 

 

"ตอนนั้นฉันกำลังคิดอะไรอยู่นะ ถึงทำให้เหม่อลอยและผ่าตัดผิดพลาด"

 

 

 

(ผมคิดว่าคุณศรัณย์ไม่ต้องใส่ใจหรอกครับ และทำตามที่ผมบอก)

 

 

 

"อืม อย่างนั้นก็ได้ ขอบใจนายมากนะ"

 

 

 

 

 

"แบบนี้คุณสามารถเป็นหมอได้ด้วยหรอ" ฟางที่หลบฟังอยู่เดินออกมาทั้งน้ำตาที่ไหลออกมาไม่หยุด

 

 

 

"เธอ.." ศรัณย์ตกใจที่เห็นฟาง

 

 

 

"ทำไมคุณทำกับพวกเราแบบนี้!" ฟางตะโกนเสียงดังด้วยความโกรธ

 

 

 

"ฉันขอโทษ มันเป็นเรื่องผิดพลาด"

 

 

 

"คุณทำให้ฉันเสียใจมากเลยนะคะคุณหมอ ฉันไม่คิดหมอที่ดีจะเป็นแบบนี้"

 

 

 

"แล้วเธอจะให้ฉันทำยังไง เดี๋ยวฉันจะเขียนเช็กให้เธอ เธออยากได้เท่าไหร่ บอกฉัน"

 

 

 

"ฉันต้องการให้คุณมอบตัว..กับตำรวจ" ฟางกลั้นสะอื้นพร้อมมองคนตรงหน้าด้วยความผิดหวัง

 

 

 

"ฉันทำอย่างที่เธอบอกไม่ได้ ขอโทษด้วยนะ" ศรัณย์มองฟางด้วยสายตาแข็งกระด้าง ทั้งที่ก่อนหน้าเขารู้สึกสงสารเธอ แต่ความคิดนั้นกลับเปลี่ยนไป

 

 

 

"ก็ได้ค่ะ ฉันจะไปบอกตำรวจเองว่าคุณทำอะไรกับพ่อของฉัน คุณจะต้องได้รับผลกรรมที่คุณทำไว้" ฟางเดินหนีศรัณย์ไปด้วยความโกรธและเสียใจ

 

 

 

"แล้วเธอก็จะรู้เองว่าเธอเล่นอยู่กับใคร" หลังจากที่ศรัณย์พูดจบ ฟางชะงักและนิ่งไป ก่อนจะเดินออกไปจากตรงนั้น

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

"ออกไป อย่ามายุ่งกับพวกเรา" โทโมะตะโกนเสียงดังใส่ชายฉกรรจ์กลุ่มหนึ่งที่เข้ามายึดข้าวของของเขาและฟาง

 

 

 

"พ่อแกตายแล้ว ใครจะมาจ่ายหนี้ให้แก ตัวเท่านี้ไม่มีปัญญาจ่ายหรอก" ชายคนหนึ่งในกลุ่มพูดใส่โทโมะ

 

 

 

"นี่มันเกิดอะไรขึ้น พวกแกมาทำไม" ฟางมาถึงบ้านก็พบว่าชายกลุ่มนี้ยกข้าวของของเธอไปเกือบหมด

 

 

 

"ก็พ่อพวกแกจ่ายหนี้ยังไม่หมด แถมตอนนี้พ่อแกก็ตายแล้วด้วย พวกแกก็คงไม่มีเงินใช้หนี้หรอก" ชายกลุ่มนั้นขับรถออกไปหลังจากที่ขนของไปเสร็จทิ้งให้ฟางทรุดลงไปนั่งกับพื้นและนั่งร้องไห้อยู่ตรงนั้น โดยมีโทโมะเข้าไปกอดปลอบพี่สาวตัวเอง

 

 

 

"เราจะไปอยู่ที่ไหนกันดี พี่ฟาง"

 

 

 

"เราต้องออกไปจากที่นี่ เราย้ายไปกรุงเทพกันเถอะโมะ ไปหาป้าเราที่อยู่ที่นั่น" จู่ๆก็มีรถเบนซ์คันหรูขับเข้ามาจอดที่หน้าบ้านของเธอ พร้อมคนที่เธอไม่อยากพบเจอ

 

 

 

"โชคพาเด็กผู้ชายไปที่อื่นก่อน ฉันมีเรื่องจะคุยกับเด็กผู้หญิงคนนี้" ศรัณย์บอกทนายโชคให้พาโทโมะไปที่อื่น

 

 

 

"ปล่อย ผมไม่ไปไหนทั้งนั้น ผมจะอยู่กับพี่ฟาง"

 

 

 

"ไปเถอะโมะ เดี๋ยวพี่ตามไป" โทโมะมองฟางนิดนึงก่อนจะยอมไปตามที่เธอบอก

 

 

 

"ฉันว่าฉันพูดดีๆกับเธอแล้วนะ" ศรัณย์เดินมาหาฟางที่นั่งร้องไห้เสียใจอยู่อย่างนั้น ฟางเงยหน้าจ้องมองคนตรงหน้า พระเจ้าเล่นตลกอะไรกับเธอกันนะ "นี่เป็นเช็กเงิน 1ล้านบาท เธอเอาไปตั้งตัวซะ และปิดเรื่องนี้เป็นความลับ" ฟางมองศรัณย์ที่ยื่นเช็กให้เธอ

 

 

 

"ฉันไม่คิดเลยว่าคุณจะเลวแบบนี้"

 

 

 

"หึ ถ้าเธอยังดื้อด้านที่จะไปหาตำรวจ น้องชายเธอ.. ฉันก็ไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับน้องชายเธอนะ" ศรัณย์มองไปที่โทโมะพลางกระตุกยิ้มนิดๆ ฟางกำมือแน่นอย่างโกรธจัดก่อนจะลุกขึ้นมองศรัณย์ด้วยความโกรธ แต่ตัวเธอนั้นกลับทำอะไรไม่ได้เลย

 

 

 

"คนเลว" ฟางจ้องมองศรัณย์ทั้งน้ำตาแล้วดึงเช็กที่อยู่ในมือของเขามา "ขอบคุณสำหรับเงินนะคะ แล้วฉันจะใช้อย่างดี" ฟางสะอื้นเล็กน้อยแล้วเดินไปหาโทโมะ โดยมีศรัณย์ที่จ้องมองอยู่

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 


งานเลี้ยงรุ่น

 

 

 

"ต่างคนก็ต่างแยกย้ายเนอะ" เฟย์เซ็นเสื้อให้เพื่อนคนอื่นๆ พร้อมพูดด้วยสีหน้าเศร้าใจที่ต้องจากเพื่อน

 

 

 

"เซ็นให้ฉันด้วยสิ" ป๊อปปี้เดินไปหาเฟย์ แล้วยื่นเสื้อให้ เฟย์มองอย่างงงๆ ก่อนจะเซ็นเสื้อให้ป๊อปปี้

 

 

 

"ขอให้โชคดีนะป๊อปปี้"

 

 

 

"ฉันโชคดีอยู่แล้วล่ะน่า เอ่อ ฟางมาไหมวันนี้ ฉันยังไม่เจอยัยนั่นเลย" เฟย์กำมือแน่นที่ป๊อปปี้ถามถึงฟาง

 

 

 

"ขอโทษนะ ฉันไม่ใช่ฟาง" เฟย์เดินหนีป๊อปปี้ไปที่โต๊ะอาหารด้วยท่าทางหงุดหงิด ป๊อปปี้ส่ายหัวช้าๆให้กับความงี่เง่าของเฟย์ ก่อนจะมองหาฟางที่ตลอดวันมานี้เขาไม่เห็นเธอเลยแม้แต่นิด

 

 

 

"มองหาใครอยู่ล่ะไอ้ป๊อป" กวินเดินมากอดคอป๊อปปี้

 

 

 

"ยัยนั่น"

 

 

 

"โห่ว มึงเรียกแฟนมึงแบบนี้หรอ"

 

 

 

"ฉันได้ยินมาว่าเจ้าหนี้มาทวงหนี้แล้วไล่ฟางกับน้องชายออกไปอ่ะ สงสารฟางเนอะพ่อตาย แถมยังไม่มีที่ซุกหัวนอนอีก ป่านนี้จะเป็นยังไงบ้างก็ไม่รู้" เสียงคนกลุ่มหนึ่งพูดถึงฟาง ป๊อปปี้หันไปด้วยความสนใจ เขาเดินไปหาคนกลุ่มนั้นทันที

 

 

 

"เมื่อกี้พวกเธอบอกว่าฟางทำไมนะ"

 

 

 

"ฟางถูกเจ้าหนี้มาไล่พวกเธอออกจากบ้าน แถมพ่อของฟางก็ตายในวันสำเร็จการศึกษาที่นายป่าวประกาศว่าคบกับฟางนั่นแหละ ป่านนี้จะไปอยู่ไหนแล้วก็ไม่รู้ ได้ข่าวว่านายก็คบกับฟางอยู่ไม่ใช่หรอ ทำไมไม่รู้ล่ะ" แคทพูดใส่ป๊อปปี้ที่นิ่งไปทันทีที่ได้ยิน เขาไม่เคยรู้เรื่องนี้เกี่ยวกับฟางเลยแม้แต่นิด ก่อนจะเดินออกไปจากงานเลี้ยงทันที

 

 

 

 

 


(หมายเลขนี้ปิดใช้บริการแล้วค่ะ)

 

 

 

"โธ่เว้ย ยัยบ้า ทำไมไม่บอกกันสักคำ" ป๊อปปี้สบถออกมาหลังจากที่โทรไปหาฟาง แต่กลับพบว่าไม่ใช่เบอร์ฟางอีกแล้ว ก่อนจะเดินไปที่บ้านของฟาง

 

 

 

"หนุ่มมาหาใครลูก" ยายแก่คนหนึ่งที่อยู่ข้างบ้านฟางเปิดประตูมาเจอป๊อปปี้ก็ทักเข้า

 

 

 

"บ้านนี้ไม่มีคนอยู่แล้วหรอครับ"

 

 

 

"ใช่ เด็กสองคนนั้นโดนเจ้าหนี้มาไล่ที่ ป่านนี้จะเป็นไงบ้างก็ไม่รู้ มีกันอยู่แค่สองคน" ป๊อปปี้กำมือแน่นพร้อมก้มหน้าลง เขาจะไม่ได้เจอฟางอีกแล้วจริงๆใช่ไหม..

 

 

 

 

ป่านนี้ฟางจะเป็นยังไงบ้าง..

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา