Love My Boy รักนี้คือนาย
-
เขียนโดย pltonazz
วันที่ 24 กันยายน พ.ศ. 2559 เวลา 22.34 น.
2 chapter
0 วิจารณ์
4,461 อ่าน
แก้ไขเมื่อ 25 กันยายน พ.ศ. 2559 02.08 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น
2) chapter 2
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความchapter 2
Love My Boy รักนี้คือนาย
****
วันนี้คงต้องอดข้าวเย็นอีกแล้วสิเรา ทำไงได้ล่ะ โดนไล่ออกจากงานแบบนี้กว่าจะหางานใหม่ได้ก็คงต้องรออีกเกือบอาทิตย์ไม่ก็เป็นเดือนๆ สมัยนี้หางานยากจะตาย เชื่อมั้ยว่าตอนที่ฉันเรียนจบใหม่ๆแล้วมาสมัครงานฉันส่งใบสมัครไปเกือบร้อยบริษัท แต่มีแค่บริษัทเดียวที่รับ เฮ้ออ คิดแล้วก็เหนื่อยเนาะ
ครืดด ครืดดด
''อ่าาา ว่าไงฟานี่ มีอะไรรึเปล่า''
(ไม่ต้องมาทำตัวร่าเริงเลยนะแท ฉันรู้แล้วนะว่าแกโดนไล่ออกจากงาน)
''ย๊าา นี่ใครไปฟ้องแกอีกเนี่ย''
(ไม่ต้องมาเปลี่ยนเรื่องเลย ตอนนี้แกอยู่ไหน ทำอะไรอยู่ แล้วกินข้าวยัง)
''พอๆ ถามอะไรเยอะแยะตอนนี้ฉันอยู่ห้องไม่ได้ทำอะไร''
(แกโดนไล่ออกจากงานอีกแล้วนะ โดนอาถรรพ์อะไรรึเปล่าเนี้ย)
''บ้าน่าา อาถรรพ์อะไรกัน ยังมีเรื่องแบบนี้อยู่อีกหรอ''
(แต่นี่มันบริษัทที่เท่าไหร่แล้ว ทำงานไม่ถึงสามเดือนก็ต้องโดนไล่ออก ฉันว่าแกคงไม่เหมาะเป็นพนักงานบริษัทหรอก)
''แล้วแกจะให้ฉันทำงานอะไร ให้ฉันไปเป็นชาวสวนคอยช่วยงานเตี๋ยกับม๊าที่ไร่น่ะหรอ แกก็รู้ว่าฉันไม่ถนัด''
(ฉันรู้ แต่แกมาอยู่คนเดียวในเมืองแบบนี้มันก็อันตรายนี่นา บอกให้มาอยู่กับฉันก็ไม่ยอม)
''ฉันไม่อยากทำให้แกลำบากนี่นา แกช่วยฉันมาเยอะแล้วนะ สบายใจได้เถอะน่า ฉันอยู่ได้แน่นอน''
(ก็แล้วแต่แกแล้วกัน งั้นแค่นี้ก่อนนะ บายย)
ฉันกดวางสายก่อนจะทิ้งตัวลงนอนบนเตียง พลางคิดว่าจะทำยังไงต่อดี
จ๊อกก จ๊อกก
''โอ้ยย มาหิวอะไรตอนนี้เนี่ย'' เสียงท้องร้องดังบ่งบอกถึงความหิว
''อ่าา นี่ฉันยังไม่ได้กินอะไรมาตั้งแต่เช้าแล้วนี่นาา'' ฉันนึกขึ้นได้ว่าตัวเองยังไม่ได้กินอะไรมาตั้งแต่เช้าแล้ว แถมยังวิ่งไปที่ทำงานโดนที่ไม่คิดชวิตอีกดีนะที่ไม่เป็นลมล้มข้างทางไปก่อน
''นี่ก็จะทุ่มนึงแล้วไปหาซื้ออะไรมากินลองท้องสักหน่อยดีกว่า'' ว่าแล้วฉันก็โดดลงจากเตียงแล้วลงไปซื้อลงที่ร้านค้าซึ่งอยู่ไม่ไกลจากที่พักเท่าไหร่
*
*
*
ซื้อแค่นี้ก็คงพอล่ะมั้ง ฉันซื้อของกินที่คิดว่าน่าจะประหยัดสุดแล้วก่อนจะไปจ่ายเงิน อ่ะ นั้นร้านไอศกรีมเจ้าโปรดนี่นา เห็นหายไปนานนึกว่าเจ๊งไปซะแล้ว ไปอุดหนุนหน่อยดีกว่า
'ทำไมรถตอนเย็นมันเยอะแบบนี้ล่ะ' ฉันบ่นพึมพำในใจ ร้านไอศกรีมนั่นก็ดันอยู่ต้องข้ามฝั่งที่ฉันยืนอยู่ซะงั้น ถ้าไม่ข้ามไปก็คงอดกิน รถใกล้น้อยลงแล้ว คราวนี้แหละวิ่งไปรวดเดียวถึงแน่นอน
*
ปี๊ดดด (เสียงแตรรถ)
''กรี๊ดดด'' ระหว่างที่ฉันกำลังจะข้ามถนน ก็มีรถยนต์คันหนึ่งขับมาอย่างไว ฉันได้แต่อึ้งและเอามือปิดตาไว้ ไม่อยากเห็นสภาพตอนตัวเองโดนชน งืออ พ่อจ๋า แม่จ๋า ลาก่อนน
''นี่เธอ เธอ เธอ!'' นี่ฉันฝันไปรึเปล่าเนี่ย ฉันตายไปแล้วจริงๆใช่มั้ย ถึงได้มีเทพบุตรสุดหล่อมายืนอยู่ตรงหน้าฉันแบบนี้
''เธอ เธอเป็นอะไรรึเปล่า นี่ช็อคไปแล้วหรอ ตอบฉันสิ'' ไม่ไหวแล้ว ฉันตาลายไปหมดแล้ว ฟึ่บบ
''เฮ้ยย อย่าพึ่งเป็นอะไรนะ เดี๋ยวฉันพาเธอไปส่งโรงบาลเอง ทำใจดีๆไว้นะ'' ฉันได้ยินเสียงของชายคนนั้นพูดก่อนที่เค้าจะอุ้มฉันขึ้น และหลังจากนั้นฉันก็ไม่รับรู้อะไรอีกเลย
*
*
*
''อื้ออ ที่นี่...ที่ไหน'' ฉันค่อยๆลืมตาขึ้นมา นี่ฉันหลับไปตั้งแต่ตอนไหนเนี่ยย ทำไมจำอะไรไม่ได้เลย
''เธอฟื้นแล้วหรอ เป็นยังไงบ้าง'' เอ๊ะ ผู้ชายคนนี้หน้าคุ้นๆเหมือนเจอในฝันเลย
''(- - )( - -)(- - )( - -)'' ฉันส่ายหน้าเพื่อบอกว่าไม่ได้เป็นอะไร
''หมอบอกว่าร่างกายเธออ่อนแอ แถมยังไม่ได้กินอะไรอีกเลยทำให้เป็นลมไป'' เขาตอบพร้อมกับจ้องหน้าฉัน
''ดูๆแล้วเธอก็คงไม่ได้เป็นอะไรมาก งั้นเดี๋ยวฉันจ่ายค่าพยายาบาลให้ แล้วพรุ่งนี้เธอก็กลับบ้านเองนะ ฉันไปล่ะ'' เขาพูดแค่นั้นแล้วกำลังจะเดินออกจากห้องไป
''เดี๋ยวสิ...'' ฉันเรียก เขาหันหน้ามาแล้วขมวดคิ้วเป็นเชิงคำถาม
''เธอมีอะไรรึเปล่า รึว่าต้องการอะไรอีก'' เขาเดินกลับมาที่เตียงฉันก่อนจะถาม
''ปะ..เปล่า ฉันแค่'' ย๊าา ทำไมฉันต้องประหม่าเวลาพูดกับคนแปลกหน้าด้วยนะ แค่จะพูดขอบคุณเขาเอง
''อ่ะ นี่เงิน หวังว่าคงจะพอนะ'' อะไรกัน ฉันเงยหน้าขึ้นไปมองเขา
''รับไปสิ ต้องการไม่ใช่หรอ'' เขาพยายามยัดเงินใบพันสักประมาณห้าใบใส่มือฉัน
''หมายความว่ายังไง ฉันไม่ได้ต้องการเงินของนายสักหน่อย'' ฉันตอบกลับไป ในใจเริ่มโกรธนี่เขากำลังดูถูกว่ฉันเป็นผู้หญิงเห็นแก่เงินงั้นหรอ
''ถ้าเธอไม่ต้องการแล้วจะเรียกฉันไว้ทำไม รับไปเถอะถือว่าเป็นค่าอาหารเย็นของเธอก็แล้วกัน'' ฉันเริ่มโมโหแล้วนะนี่เขาคิดว่าฉันต้องการเงินของเขางั้นหรอ ที่ฉันเรียกนายไว้ก็เพื่อจะของคุณต่างหากเล่า
''ฉันไม่ได้ต้องการ เอาเงินของนายคืนไปเถอะ'' ฉันยื่นเงินที่เขายัดมาให้ฉันคืนไปให้เขา เขามองหน้าฉันงงๆ
''สงสัยเงินคงไม่พอ งั้นฉันเพิ่มให้เธออีกแล้วกัน'' นี่! เขาไม่ได้เข้าใจในสิ่งที่ฉันบอกเลยใช่มั้ย ฉันบอกแล้วไงว่าฉันไม่ต้องการ
''นี่! นายคิดว่านายรวยนักหรืองไงห๊ะ ถึงได้เที่ยวเอาเงินมาแจกให้คนอื่นแบบนี้'' ฉันตอบกลับไปก่อนจะยัดเงินคืนใส่มือนายนั่น เขามองฉันอย่างไม่เข้าใจ ถึงฉันจะดูเหมือนคนไม่มีอันจะกินแต่ฉันก็ไม่เคยต้องการเงินใครมาฟรีๆหรอกนะย่ะ
''ก็รวยพอที่จะซื้อโรงพยายบาลนี้ได้เลยล่ะ'' สมัยนี้ยังมีคนแบบนี้อยู่อีกหรอ เหอะ น่าตาก็ดีไม่คิดว่าจะนิสัยแบบนี้
''ถึงนายจะรวยก็ไม่ควรที่จะเอาเงินมาใช้สิ้นเปลืองแบบนี้ สงสารพ่อแม่นายบ้างกว่าจะหาเงินมาได้แต่ละบาท เพราะดูๆแล้วคนอย่างนายไม่น่าจะหาเงินใช้ได้เองแน่''ฉันตอบกลับไปอย่างเหลืออด หวังว่านายนี่จะคิดได้บ้างนะ
''นี่เธอกล้าสอนฉันเรอะ รู้มั้ยว่าฉันเป็นใคร'' ร่างสูงที่โดนพูดใส่แบบนั้นก็เริ่มโมโห ก่อนจะบีบแขนร่างบางที่นั่งอยู่บนเตียงคนไข้
''ฉันจะไปรู้จักนายได้ยังไงไล่ะ แต่ถึงนายจะเป็นลูกคนใหญ่คนโตมาจากไหนฉันก็ไม่สนหรอก ถ้านายยังไม่เลิกดูถูกคนอื่นแบบนี้อีกฉันประจารณ์นายแน่ ปล่อยฉันได้แล้ว'' ฉันตวาดเขากลับไปก่อนจะสบัดแขนเขาออกอย่างแรง นี่คิดว่าตัวเองสูงส่งมาจากไหนกันนะ เหอะ!
''ฉันไม่ได้มีเวลามาต่อล้อต่อเถียงกลับเธอแบบนี้หรอกนะ รับไปซะ จะได้จบๆ'' เขาพูดอย่างนั้นแล้วยัดเงินใส่มือฉันอีกครั้ง ก่อนจะเดินออกจากห้องไป
''ให้ตายเถอะ ฉันขอถอนคำพูดที่บอกว่าเขาหล่อเหมือนเทพบุตร'' ฉันเก็บเงินที่เขายัดใส่มือฉันไว้ในกระเป๋า เผื่อฉันเจอนายนั่นอีกจะได้เอาเงินนี่ไปฟาดใส่หน้าให้อับอายไปเลย เพราะยังไงฉันก็ไม่คิดจะใช้เงินของคนแปลกหน้าอย่างนายนั่นอยู่แล้ว
*
*
*
''ไหนเมื่อวานเกิดอะไรขึ้น เล่ามาให้หมดเลยนะ ''ฟานี่นัดฉันออกมาที่ร้านกาแฟก่อนจะถามว่าเมื่อวานเกิดอะไรขึ้น
''ย๊าา สมัยนี้ยังมีคนแบบนั้นอยู่อีกหรอแก แล้วเขาหล่อมากมั้ยอ่ะ'' และหลังจากที่ฉันเล่าเรื่องเมื่อวานนี้ให้ฟานี่ฟัง ยัยนี่ก็ทำหน้าอึ้งๆอยู่พักนึงก่อนจะเป็นปกติ
''ก็พอใช้ได้ แต่นิสัยนี่ เฮ้ออ'' ฉันไม่ฝากเมาท์คนอื่นอ่ะนะ โดยเฉพาะอีตานั่น ไม่อยากนึกถึงเลยด้วยซ้ำ
''เอาน่าแก อย่างน้อยเขาก็ช่วยพาแกไปส่งที่โรงพยาบาลนะ'' ฟานี่พูดก่อนจะดูดคาบูชิโน่จนหมด
''ถ้าไม่มีอะไรแล้ว งั้นฉันกลับก่อนนะจะต้องรีบไปหาที่สมัครงานต่อ'' ฉันดูดกาแฟบนแก้วตัวเองจนหมดก่อนจะลุกขึ้น
''อื้ม โชคดีแก ขอให้ได้งานไวๆนะ'' ฟานี่พูดแล้วโบกมือบ๊ายบายฉัน ฉันยิ้มตอบก่อนจะเดินออกมาพร้อมกับเอกสารเตรียมสมัครงานพะรุงพะรัง
วันนี้มีบริษัทนัดฉันไปสัมภาษณ์อยู่ไม่ไกลจากร้านกาแฟนี่เท่าไหร่ เดินไปอีกประมาณกิโลนึงก็ถึง อ่ะนั่นไงถึงแล้ว ว้าวว บริษัทนี่ใหญ่จริงๆ หวังว่าจะมีแต่เรื่องดีๆเกิดขึ้นกับฉันนะ
ปี๊ดด ปี๊ดด
ระหว่างที่ฉันกำลังเดินเข้าไปในบริษัทก็มีเสียงรถยนต์คันนึงบีบแตรใส่จนฉันเกือบหลบแทบไม่ทัน อะไรกันเนี่ยย ฉันก็เดินถูกทางแล้วนี่นาคิดว่าตัวเองเป็นเจ้าของถนนนี้คนเดียวรึไงนะ อยากเห็นจริงๆว่าใครขับอย่างนี้ต้องจำป้ายทะเบียนไว้ ฉันมองป้ายทะเบียนรถคันนั้นก่อนจะเซฟเข้าสมอง ไม่อยากจะโม้หรอกนะฉันน่ะความจำดีสุดๆ
''ขออนุญาตนะคะ พอดีว่าฉันมาสมัครงานค่ะ'' ฉันเดินตรงไปที่เคาท์เตอร์ก่อนจะถามพนักงานที่นั่งอยู่ตรงนั้น
''อ่อ คุณคิมแทยอนใช่มั้ยคะ เชิญทางนี้เลยคะ ผู้จัดการรอสัมภาษณ์คุณอยู่'' ฉันโค้งขอบคุณก่อนที่พนักงานคนนั้นจะพาเดินขึ้นลิฟต์ไปยังชั้น12
''เชิญเลยค่ะ ห้องของผู้จัดการอยู่ห้องแรกทางขวามือ ขอให้โชคดีนะคะ'' ฉันยิ้มตอบพนักงาสาวคนนั้น ก่อนจะเดินมาหยุดอยู่ที่หน้าห้องของผู้จัดการ
'ฉันต้องทำได้ สู้ๆแทยอน' ฉันพูดให้กำลังใจตัวเองก่อนจะเคาะประตูห้องเพื่อขออนุญาต
''เข้ามาได้'' ย๊าา ตื่นเต้นชะมัดเลย ผู้จัดการที่นี้จะเป็นยังไงนะ หวังว่าคงไม่โหด
''นั่งลงสิ'' ฉันค่อยๆเปิดประตูเข้ามา ตอนนี้ผู้จัดการกำลังนั่งเซ็นเอกสารกองโตอยู่จึงไม่ได้เงยหน้าขึ้นมา ฉันอยากเห็นหน้าตาเขาจัง แต่ดูจากตรงนี้ก็รู้สึกได้แล้วล่ะว่าหล่อมาก ดูออร่าสิฟุ้งเชียว
''ผมบอกให้นั่งลงไง'' เขาเงยหน้าขึ้นมามองเพราะเห็นว่าฉันยังไม่นั่ง แต่สิ่งที่ทำให้ฉันและเขาอึ้งไปคือ...
''นาย!/เธอ!'' ฉันอุทานก่อนจะชี้ที่หน้าเขาอย่างตกใจ เขาเองก็เช่นกันดูจะตกใจไม่แพ้กันที่เห็นฉัน
''เธอเมื่อวานนี่เอง โลกกลมจังเลยแหะไม่คิดว่าจะมาเจอกันอีก'' เขาพูดแล้วอมยิ้มบางๆ ย่ะโลกกล๊มกลม
''ฉันก็ไม่คิดเหมือนกันว่าจะมาเจอคุณที่นี่'' ฉันตอบเขากลับแล้วยิ้มให้เขาอย่างเป็นมิตร
''นั่งลงสิ ยืนคุยแบบนี้คงไม่สะดวก'' เขาบอกอีกครั้ง ฉันค่อยๆเลื่อนเก้าอี้มานั่งตรงหน้าเขา เขาเงียบไม่พูดอะไรแต่กลับจ้องฉันตั้งแต่หัวจรดเท้า ย๊าา หวังว่าเขาคงไม่ใช่พวกหื่นนะ ดูสิจ้องแบบนี้ฉันก็กลัวเป็นนะ
''ผมไม่ใช่พวกแบบที่คุณคิดหรอกนะ'' ย๊าา นี่เขารู้ทันฉันด้วยหรอ แต่วันนี้เขาดูต่างจากเมื่อวานมากเลยแหะ สงสัยต้องคีพลุคให้ลูกน้องเคารพแหละ
''เอาล่ะเรามาเริ่มสัมภาษณ์กันดีกว่า'' เขาพูดก่อนจะเปิดดูสมุดรายงานตัวของฉัน
''คุณอายุเท่าไหร่'' มันเกี่ยวอายุด้วยหรอ แต่ก็อาจจะเกี่ยวได้
''25 ค่ะ'' ฉันตอบ
''บ้านเกิดอยู่ที่ไหน'' อ่าา ถามถึงบ้านเกิดฉันทำไมเนี่ย
''อยู่ชอนจูค่ะ'' ฉันตอบไปตามปกติ
''ตอนนี้คุณพักอยู่ที่ไหน'' ฉันเริ่มจะสงสัยแล้วนะว่ามันเกี่ยวกับงานรึเปล่า
''ฉันพักอยู่คอนโดxxxค่ะ'' แต่ถึงอย่างนั้นฉันก็ตอบเขาไปตามตรง
''อืม แล้วคุณโดนไล่ออกมากี่บรษัทแล้ว'' ทำไมต้องถามอะไรแบบนี้ด้วย หื้มม
''...สามค่ะ'' ฉันไม่ค่อยอยากตอบเท่าไหร่เกี่ยวกับเรื่องโดนไล่ออก เพราะมันดูเป็นเรื่องที่น่าอายสำหรับฉัน
''คุณคิดว่าคุณจะปฏิบัติตามกฎของบริษัทนี้ได้มั้ย'' ฉันทำได้แน่นอน ถ้ากฎไม่โหดเกินไปนะ
''ทำได้แน่นอนค่ะ'' ฉันตอบอย่างมั่นใจ เขาเงยหน้ามามองฉันอย่างพิจารณา
''สุดท้ายนะ คุณมีแฟนหรือยัง'' ย๊าาา ทำไมเขาถามฉันแบบนี้เนี่ย นี่ตกลงสัมภาษณ์หาพักงานหรือสัมภาษณ์ไปเป็นแฟนกัน
แน่เนี่ย
''ยะ..ยังค่ะ'' ฉันตอบไปตามปกติ ทำไมต้องเขิลด้วยนะ หึ้มม
''เอาเป็นว่าผมจะเก็บคุณไปพิจารณาอีกที วันนี้คุณกลับไปก่อน'' เขาพูดก่อนจะส่งเอกสารคืนให้ฉัน ฉันพยักหน้าเข้าใจ
''เดี๋ยวคุณคิมแทยอน คุณไม่คิดจะถามชื่อผมหน่อยหรอ'' เออ นั่นสิ คุยกันตั้งนานฉันยังไม่รู้จักชื่อเขาเลย
''แล้วคุณชื่อ...''
''ไปสืบเอาเองล่ะกันนะ'' เขายกยิ้มที่มุมปาก แล้วยักไหล่ให้ฉัน อะไรกัน หลอกให้ฉันถามแต่ไม่ยอมบอก ผู้ชายอะไรบ้าชะมัด ได้ฉันไปสืบเอาเองก็ได้ ไม่เห็นจะยากเลย
แต่ว่าวันนี้เขาดูต่างจากเมื่อวานดีนะ อาจจะเป็นเพราะเจอกันในที่ทำงานเลยต้องทำตัวขรึมๆ แต่นอกที่ทำงานก็เป็นอีกแบบนึง แล้วฉันจะผ่านการสัมภาษณ์มั้ยเนี่ย เมื่อวานยิ่งไปว่าเขาไว้เยอะอยู่
**********************************************
มาอัพแล้วน๊าาาา
คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ