สายใยแห่งรัก
-
7)
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ ณ พระราชวังแห่งเมืองดาหลา เมืองที่นับว่าร่ำรวยที่สุดในแคว้นเลยว่าได้ เนื่องด้วยเจ้าเมืองและเหล่าขุนนางนิยมสะสมแร่ทองคำต่างๆ เมืองดาหลาจึงมีทองคำในท้องพระคลังจำนวนมากทำให้เหล่าเจ้าเมืองและขุนนางสุขสบายยิ่งนัก
"เอ้าฉลองกันหน่อยทุกคน"
ณ ตำหนักที่ถูกสร้างขึ้นเป็นพิเศษ สำหรับสังสรรค์ เจ้าชายธนาพร้อมเหล่าองครักษ์ ทหารคนสนิทกำลังดื่มน้ำจัณฑ์อย่างรื่นเริง
ภายในมีสาวนางกำนัลคอยปรนนิบัติอยู่มิได้ขาด
"อีกไม่กี่วันข้าก็จะได้อภิเษกกับน้องหญิงราณีผู้งดงามแล้ว
ข้าอาจจะไม่ได้ฉลองกับพวกเจ้าเป็นเดือนทีเดียว" เจ้าชายธนากล่าวกับเหล่าทหารพร้อมกับยกน้ำจัณฑ์ดื่มจนหมดแก้ว
"เจ้าชาย เหล่าทหรากสิรานครมาถึงกันแล้วตอนนี้คอยเจ้าชายอยู่ที่ตำหนักรับรองพะย่ะค่ะ" ทหารที่เพิ่งเข้ามากล่าว
"หา ทำไมมาถึงเร็วนักล่ะ ก็ดีเหมือนกันข้าจะได้พบกับน้องหญิงราณีเร็ว" เจ้าชายธนาจัดเสื้อและทรงผมอย่างดีก่อนจะเดินออกไป
"หา!!!!!ว่าอย่างไรนะน้องหญิงราณีของข้าโดนลักพาตัวไปงั้นรึ" เจ้าชายธนาตกพระทัยมากเมื่อแม่ทัพอาทรกราบทูล
"ใช้แล้วเจ้าชาย ทีแรกหม่อมฉันคิดว่าเจ้าชายทรงใจร้อนเลยรีบลักพาเจ้าหญิงมาเสียอีก"
"โธ่เอ้ยท่านแม่ทัพ ข้าจะอภิเษกอยู่ไม่กี่วันนี้แล้วจะลักพาน้องหญิงมาทำไม" เจ้าชายธนาก่อน
"ใช่พวกข้าเป็นพยานได้ เจ้าชายทรงดื่มน้ำจัณฑ์กับพวกข้าทุกวัน ไม่มีเวลาไปทำอย่างอื่นดอก" ทหารคนสนิทกล่าว เจ้าชายลอบมองก่อนจะนึกบ่นในใจ' ทำไมพวกมันไม่กล่าวถึงความดีของข้าบ้าง'
"ฮึ ต้องเป็นพวกอติราชนครแน่ๆ"เจ้าชายธนากล่าว
"ทำไมเจ้าชายจึงคิดเช่นนั้น" แม่ทัพอาทรถาม
"ก็เจ้าฟ้าชายจิรายุชอบอิจฉาข้า เพราะว่าข้ารูปงามกว่าแถมยังเก่งกาจด้านการรบอีกด้วย" เจ้าชายธนากล่าวอย่างมั่นใจ
ขณะที่ทหารคนสนิทพากันส่ายหน้าเอือมระอา ในความหลงตนเองของเจ้านายตน ทางฝั่งแม่ทัพก็เช่นกัน
"แล้วพระองค์จะทำอย่างไรต่อไป" แม่ทัพอาทรเอ่ยถาม
"ข้าจะเดินทางไปอติราชนครวันนี้แหละไปชิงตัวน้องหญิงกลับมา พวกเจ้าปิดเรื่องนี้เป็นความลับอย่าให้ทางพ่อแม่ข้าและพ่อแม่เจ้าหญิงรู้เดี๋ยวจะทรงเป็นห่วง" เจ้าชายธนากล่าว
ที่ในครัวเจ้าหญิงและนารีกำลังเข้าครัวทำอาหาร
"ท่านจิราต้องชอบแน่ๆเลยเพค่ะ เจ้าหญิงทรงตั้งใจทำขนาดนี้"นารีมองเจ้าหญิงที่กำลังคนแกงอยู่อย่างปลาบปลื้ม
"เค้าดูแลเราสองคนอย่างดี เราก็อยากตอบแทนน้ำใจบ้าง"
"เพค่ะ เฮ้ออีกไม่กี่วันก็จะถึงพิธีอภิเษกแล้ว ไม่รู้้ว่าทางนั้นจะตามหาเจ้าหญิงวุ่นวายกันแค่ไหน" นารีกล่าวท่าทางกังวล
"เราก็คิดเหมือนกัน แต่จะว่าไปบางทีเรากับเจ้าชายธนาอาจไม่ใช่คู่กันก็ได้" เจ้าหญิงเงยพระพักตร์ขึ้นมา รู้สึกตกใจที่เห็นคนตรงหน้า
"ท่านจิรา มาได้ไงนี่"
"หม่อมฉันเดินมา" จิราตอบกวนๆ เจ้าหญิงย่นพระพักตร์ก่อนจะคนแกงต่อ
"ทำไมถึงทรงเข้าครัวเอง แม่ครัวที่นี่ก็มีนิ"จิราถาม
"ทำไมล่ะหรือว่าท่านไม่อยากจะกินฝีมือเรา " เจ้าหญิงตรัสถามน้ำเสียงบ่งบอกถึงความน้อยใจ
"อยากกินสิ หม่อมฉันไม่อยากรบกวนเจ้าหญิง"
"ไม่รบกวนหรอกเราอยู่เฉยๆ ก็น่าเบื่อ ลองชิมแกงดูสิ"
เจ้าหญิงทรงตักแกงยื่นให้กับจิรา
"อร่อยมากเลยพะย่ะค่ะ หม่อมฉันไม่เคยกินแกงที่อร่อยแบบนี้นานแล้ว" เจ้าชายกล่าว
"นี่สูตรชาววังเลยนะท่านจิรา ท่านเคยกินด้วยเหรอ รึว่าท่านเคยมีภรรยาชาววังแบบนที" เจ้าหญิงตรัสถามด้วยความสงสัย
"หม่อมฉันไม่เคยมีภรรยา ก็เมียเจ้านทีเคยทำให้กิน"
จิราจำใจโกหกออกไป
"ไม่น่าเชื่อเลยนะ รูปงามเก่งกาจแบบท่านจิราจะไม่เคยมีภรรยา" นานีที่แอบฟังอยู่พูดขึ้น
"ผู้หญิงแบบเจ้าหญิงช่างสง่างามแถมเก่งการบ้านการเรือนอีกด้วย หม่อมฉันเสียดายนักหากต้องอภิเษกกับเจ้าชายผู้นั้น"
จิรากล่าวพร้อมกับมองเจ้าหญิงอย่างหลงใหล
"ท่านจิราก็เลยให้เจ้าหญิงประอยู่ที่นี่ ไม่ให้ไปเป็นของชายอื่นใช่หรือไม่ ช่างเป็นความรักที่น่าเทิดทูนจริงๆ" นารีกล่าว
"ความรักอะไรกัน บ้าไปใหญ่แล้วนารี " เจ้าหญิงปรามนางกำนัล ก่อนจะหันมาไล่จิราเพื่อกลบเกลื่อน
"ยืนยิ้มทำไมออกไปได้แล้ว "
จิราลองมองเจ้าหญิงก่อนจะยิ้มหวานแล้วเดินออกไปตามคำสั่ง
"เอ่อเจ้าฟ้าชาย"
"มีอะไรนที" นทีมองซ้ายขวาก่อนจะพูดต่อ
"ทหารของเราส่งนกพิราบมาบอกว่า พวกแม่ทัพกสิรานครเดินทางไปยังเมืองดาหลาแล้วกระหม่อม"
"งั้นหรือ บอกทหารจับตาดูให้ดีว่าพวกนั้นจะทำอย่างไรต่อไป" เจ้าฟ้าชายจิรายุหรือจิราสั่ง
"พะย่ะค่ะ" นทีรับคำ
บนโต๊ะอาหารมีสำรับอาหารแบบชาววังจัดวางอย่างสวยงาม
"เป็นเกียรติอย่างยิ่งที่กระหม่อมได้ร่วมโต๊ะกับเจ้าหญิง"
นทีเอ่ยพร้อมกับยิ้มอย่างปลาบปลื้ม
"จะเป็นไรไปนะนที เราอยู่กลางป่านี่ มิใช่อยู่ในพระราชวัง"
เจ้าหญิงตรัสพลางลอบมองจิรา
"หม่อมฉันขอโทษที่ทำให้ทรงลำบาก" จิรากล่าว
"ช่างเถิดเราหิวแล้วล่ะ" เจ้าหญิงตรัสก่อนจะทรงตักแกงใส่จาน
"เสวยนี่ด้วยพะย่ะค่ะ" จิราตักแกงให้เจ้าหญิง เจ้าหญิงยิ้มให้จิราก่อนจะตักแกงให้บ้างทั้งสองเสวยอาหารอย่างมีความสุข โดยมีนารีและนทีนั่งมองแบบเขินอายแทน
"เอ้าฉลองกันหน่อยทุกคน"
ณ ตำหนักที่ถูกสร้างขึ้นเป็นพิเศษ สำหรับสังสรรค์ เจ้าชายธนาพร้อมเหล่าองครักษ์ ทหารคนสนิทกำลังดื่มน้ำจัณฑ์อย่างรื่นเริง
ภายในมีสาวนางกำนัลคอยปรนนิบัติอยู่มิได้ขาด
"อีกไม่กี่วันข้าก็จะได้อภิเษกกับน้องหญิงราณีผู้งดงามแล้ว
ข้าอาจจะไม่ได้ฉลองกับพวกเจ้าเป็นเดือนทีเดียว" เจ้าชายธนากล่าวกับเหล่าทหารพร้อมกับยกน้ำจัณฑ์ดื่มจนหมดแก้ว
"เจ้าชาย เหล่าทหรากสิรานครมาถึงกันแล้วตอนนี้คอยเจ้าชายอยู่ที่ตำหนักรับรองพะย่ะค่ะ" ทหารที่เพิ่งเข้ามากล่าว
"หา ทำไมมาถึงเร็วนักล่ะ ก็ดีเหมือนกันข้าจะได้พบกับน้องหญิงราณีเร็ว" เจ้าชายธนาจัดเสื้อและทรงผมอย่างดีก่อนจะเดินออกไป
"หา!!!!!ว่าอย่างไรนะน้องหญิงราณีของข้าโดนลักพาตัวไปงั้นรึ" เจ้าชายธนาตกพระทัยมากเมื่อแม่ทัพอาทรกราบทูล
"ใช้แล้วเจ้าชาย ทีแรกหม่อมฉันคิดว่าเจ้าชายทรงใจร้อนเลยรีบลักพาเจ้าหญิงมาเสียอีก"
"โธ่เอ้ยท่านแม่ทัพ ข้าจะอภิเษกอยู่ไม่กี่วันนี้แล้วจะลักพาน้องหญิงมาทำไม" เจ้าชายธนาก่อน
"ใช่พวกข้าเป็นพยานได้ เจ้าชายทรงดื่มน้ำจัณฑ์กับพวกข้าทุกวัน ไม่มีเวลาไปทำอย่างอื่นดอก" ทหารคนสนิทกล่าว เจ้าชายลอบมองก่อนจะนึกบ่นในใจ' ทำไมพวกมันไม่กล่าวถึงความดีของข้าบ้าง'
"ฮึ ต้องเป็นพวกอติราชนครแน่ๆ"เจ้าชายธนากล่าว
"ทำไมเจ้าชายจึงคิดเช่นนั้น" แม่ทัพอาทรถาม
"ก็เจ้าฟ้าชายจิรายุชอบอิจฉาข้า เพราะว่าข้ารูปงามกว่าแถมยังเก่งกาจด้านการรบอีกด้วย" เจ้าชายธนากล่าวอย่างมั่นใจ
ขณะที่ทหารคนสนิทพากันส่ายหน้าเอือมระอา ในความหลงตนเองของเจ้านายตน ทางฝั่งแม่ทัพก็เช่นกัน
"แล้วพระองค์จะทำอย่างไรต่อไป" แม่ทัพอาทรเอ่ยถาม
"ข้าจะเดินทางไปอติราชนครวันนี้แหละไปชิงตัวน้องหญิงกลับมา พวกเจ้าปิดเรื่องนี้เป็นความลับอย่าให้ทางพ่อแม่ข้าและพ่อแม่เจ้าหญิงรู้เดี๋ยวจะทรงเป็นห่วง" เจ้าชายธนากล่าว
ที่ในครัวเจ้าหญิงและนารีกำลังเข้าครัวทำอาหาร
"ท่านจิราต้องชอบแน่ๆเลยเพค่ะ เจ้าหญิงทรงตั้งใจทำขนาดนี้"นารีมองเจ้าหญิงที่กำลังคนแกงอยู่อย่างปลาบปลื้ม
"เค้าดูแลเราสองคนอย่างดี เราก็อยากตอบแทนน้ำใจบ้าง"
"เพค่ะ เฮ้ออีกไม่กี่วันก็จะถึงพิธีอภิเษกแล้ว ไม่รู้้ว่าทางนั้นจะตามหาเจ้าหญิงวุ่นวายกันแค่ไหน" นารีกล่าวท่าทางกังวล
"เราก็คิดเหมือนกัน แต่จะว่าไปบางทีเรากับเจ้าชายธนาอาจไม่ใช่คู่กันก็ได้" เจ้าหญิงเงยพระพักตร์ขึ้นมา รู้สึกตกใจที่เห็นคนตรงหน้า
"ท่านจิรา มาได้ไงนี่"
"หม่อมฉันเดินมา" จิราตอบกวนๆ เจ้าหญิงย่นพระพักตร์ก่อนจะคนแกงต่อ
"ทำไมถึงทรงเข้าครัวเอง แม่ครัวที่นี่ก็มีนิ"จิราถาม
"ทำไมล่ะหรือว่าท่านไม่อยากจะกินฝีมือเรา " เจ้าหญิงตรัสถามน้ำเสียงบ่งบอกถึงความน้อยใจ
"อยากกินสิ หม่อมฉันไม่อยากรบกวนเจ้าหญิง"
"ไม่รบกวนหรอกเราอยู่เฉยๆ ก็น่าเบื่อ ลองชิมแกงดูสิ"
เจ้าหญิงทรงตักแกงยื่นให้กับจิรา
"อร่อยมากเลยพะย่ะค่ะ หม่อมฉันไม่เคยกินแกงที่อร่อยแบบนี้นานแล้ว" เจ้าชายกล่าว
"นี่สูตรชาววังเลยนะท่านจิรา ท่านเคยกินด้วยเหรอ รึว่าท่านเคยมีภรรยาชาววังแบบนที" เจ้าหญิงตรัสถามด้วยความสงสัย
"หม่อมฉันไม่เคยมีภรรยา ก็เมียเจ้านทีเคยทำให้กิน"
จิราจำใจโกหกออกไป
"ไม่น่าเชื่อเลยนะ รูปงามเก่งกาจแบบท่านจิราจะไม่เคยมีภรรยา" นานีที่แอบฟังอยู่พูดขึ้น
"ผู้หญิงแบบเจ้าหญิงช่างสง่างามแถมเก่งการบ้านการเรือนอีกด้วย หม่อมฉันเสียดายนักหากต้องอภิเษกกับเจ้าชายผู้นั้น"
จิรากล่าวพร้อมกับมองเจ้าหญิงอย่างหลงใหล
"ท่านจิราก็เลยให้เจ้าหญิงประอยู่ที่นี่ ไม่ให้ไปเป็นของชายอื่นใช่หรือไม่ ช่างเป็นความรักที่น่าเทิดทูนจริงๆ" นารีกล่าว
"ความรักอะไรกัน บ้าไปใหญ่แล้วนารี " เจ้าหญิงปรามนางกำนัล ก่อนจะหันมาไล่จิราเพื่อกลบเกลื่อน
"ยืนยิ้มทำไมออกไปได้แล้ว "
จิราลองมองเจ้าหญิงก่อนจะยิ้มหวานแล้วเดินออกไปตามคำสั่ง
"เอ่อเจ้าฟ้าชาย"
"มีอะไรนที" นทีมองซ้ายขวาก่อนจะพูดต่อ
"ทหารของเราส่งนกพิราบมาบอกว่า พวกแม่ทัพกสิรานครเดินทางไปยังเมืองดาหลาแล้วกระหม่อม"
"งั้นหรือ บอกทหารจับตาดูให้ดีว่าพวกนั้นจะทำอย่างไรต่อไป" เจ้าฟ้าชายจิรายุหรือจิราสั่ง
"พะย่ะค่ะ" นทีรับคำ
บนโต๊ะอาหารมีสำรับอาหารแบบชาววังจัดวางอย่างสวยงาม
"เป็นเกียรติอย่างยิ่งที่กระหม่อมได้ร่วมโต๊ะกับเจ้าหญิง"
นทีเอ่ยพร้อมกับยิ้มอย่างปลาบปลื้ม
"จะเป็นไรไปนะนที เราอยู่กลางป่านี่ มิใช่อยู่ในพระราชวัง"
เจ้าหญิงตรัสพลางลอบมองจิรา
"หม่อมฉันขอโทษที่ทำให้ทรงลำบาก" จิรากล่าว
"ช่างเถิดเราหิวแล้วล่ะ" เจ้าหญิงตรัสก่อนจะทรงตักแกงใส่จาน
"เสวยนี่ด้วยพะย่ะค่ะ" จิราตักแกงให้เจ้าหญิง เจ้าหญิงยิ้มให้จิราก่อนจะตักแกงให้บ้างทั้งสองเสวยอาหารอย่างมีความสุข โดยมีนารีและนทีนั่งมองแบบเขินอายแทน
คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ