สายใยแห่งรัก
-
10)
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ ตะวันจะลาลับขอบฟ้าแล้ว น้ำในลำธารเริ่มเย็นจัด แต่ทั้งเจ้าหญิงและนางกำนัลก็ยังคงเล่นน้ำกันอย่างสนุกสนาน
"เจ้าหญิงเย็นมากแล้วเสด็จกลับที่ประทับก่อนเถิด"
จิราเดินมาตามด้วยความห่วงใย ทั้งเจ้าหญิงและนารีสบตากันก่อนจะยอมขึ้นมาแต่โดยดี
"นี่เจ้าหญิงทรงเล่นน้ำตกคงจะสนุกมากเลยนะพะย่ะค่ะ"
นทีเอ่ยถาม
"แน่ล่ะนที เมืองของเราหาน้ำตกสวยๆแบบนี้ก็อยากเต็มทน" นารีตอบแทนเจ้าหญิง
"จริงสิแล้วที่นี่อยู่เขตเมืองอะไรเหรอ"เจ้าหญิงทรงตรัสถามด้วยความสงสัยพระทัย ทั้งจิรากับนทีลอบมองหน้ากันสีหน้าไม่ค่อยดีนัก
"จะเมืองอะไรก็ช่างเถิด ตอนนี้เสด็จกลับไปเปลี่ยนฉลองพระองค์ใหม่จะดีกว่า" จิรากล่าวพร้อมกับยื่นผ้าคลุมสีชุมพูให้เจ้าหญิงเช็ดพระเกศา
"ท่านจิรา เราขี่หลังท่านแล้วนะตัวเราเปียกไปหมดแล้ว"
เจ้าหญิงตรัส จิรายิ้มอย่างเอ็นดู
"หม่อมฉันเตรียมไว้แล้วพะย่ะค่ะ" นทีชี้ไปยังม้าสองตัวที่ผูกอยู่
"เดี๋ยวพวกเราจะอ้อมเขาไปทางนู่น ทางไม่ชันมากแต่ก็ไกลพอสมควร" จิรากล่าวก่อนจะโดดขึ้นม้า แล้วยื่นมือมาทางเจ้าหญิง พระองค์ทรงลังเลเพราะไม่เคยขี่ม้าตัวเดียวกับชายใดมาก่อน แต่ก็ต้องยอมเสด็จขึ้นไป เพราะสายตาที่แลดูอ่อนโยนของชายตรงหน้า
"ไป"จิราตบหลังม้าดบหลังม้าเบาๆ ก่อนจะควบหลังม้าออกไป โดยมีนทีกับนารีตามหลังมา
"เอ้าดื่มกันให้เต็มที่" ทางฝั่งชายป่าเมืองดาหลา เจ้าชายธนากับเหล่าทหารองครักษ์ตนสนิทกำลังดื่มน้ำจัณฑ์และกับแกล้มอย่างสนุกสนานสำราญใจ แม่ทัพเพชรทายนำอาหารมาไหว้เจ้าป่าเจ้าเขา ก่อนจะยื่นห่อข้าวที่ติดมือมาให้แก่แม่ทัพอาทรซึ่งเป็นสหายร่วมทุกข์ของเขาในยามนี้เสียแล้ว
"ข้านึกว่าท่านจะร่วมดื่มสุรากับพวกทหารเสียอีก" แม่ทัพอาทรถามยิ้มๆ
"ไม่ล่ะท่านข้านะมันแก่แล้วดื่มไปก็มีแต่โรคภัยมารุมเร้า"
แม่ทัพเพชรทายกล่าวก่อนจะกินข้าวในมือ
"ว่าแต่ท่านเถอะยังหนุ่มยังแน่นไม่ไปดื่มกินกับพวกเขาเรอะ"
แม่ทัพเพชรทายย้อนถามบ้าง
"ไม่ล่ะท่าน ขืนดื่มเมากันหมดทั้งค่ายหากเกิดเหตุร้ายขึ้นจะพากันแย่เสียหมด" แม่ทัพอาทรกล่าว
"แหมท่านเป็นคนดีคนจริงๆ ภรรยาท่านคงจะโชคดีมากๆที่ได้ท่านเป็นคู่ครอง" แม่ทัพเพชรทายกล่าวชื่นชม ขณะที่อีกฝ่ายกับหัวเราะก่อนจะตอบออกไป
"ข้ายังไม่มีภรรยาดอกท่าน นี่อายุก็ปาเข้าไป 32 ปีแล้ว"
"จริงเรอะ ปัดโธ่ถ้าไม่ติดว่าลูกสาวข้าอายุเพิ่งจะ 12 ปี ถ้าโตกว่านี้อีกซักสี่ห้าปีข้าจะยกให้แต่งกับท่าน" แม่ทัพเพชรทายกล่าวอย่าเสียดาย ทั้งสองคุยกันอย่างออกรสถึงเหตุการณ์บ้านเมืองตน เพราะถึงยังไงคืนนี้คงไม่นอนเป็นแน่ ต้องเฝ้ายามแทนทหารที่หลับใหลเพราะพิษของสุรา
ที่ห้องประทับ เจ้าฟ้าชายจิรายุทรงสรงน้ำเสร็จแล้ว นทีก็ยื่นกระดาษที่พันไว้อย่างดีมีริบบิ้นผูกตรงกลางให้แก่พระองค์
"สาล์นจากในวังกระหม่อม ทหารบอกว่าม้าเร็วเพิ่งมาส่งไม่กี่ชั่วยามนี่เองพะย่ะค่ะ"
"จากเสด็จพระองค์ไหน" เจ้าฟ้าชายตรัสถาม
"จาก พระนางจันทราวดี พะย่ะค่ะ" นทีกราบทูล
"ไหนดูสิ พระพี่นางทรงว่าอย่างไรบ้าง" เจ้าฟ้าชายเปิดอ่าน
นทีนั่งมองพลางลุ้น
"พระองค์มาบอกว่าเสด็จพ่อกับเสด็จแม่ เสด็จประพาสป่า ตอนนี้ในวังมีเพียงพระองค์ที่อยู่นั่น เห็นทีเราคงเข้าในวังกันแล้วล่ะนที" เจ้าฟ้าชายตรัส นทีดีใจเพราะจากวังมาเกือบสัปดาห์แล้ว
"เอ่อแล้วเจ้าหญิงกับนารีล่ะพะย่ะค่ะ" นทีสอบถาม เจ้าฟ้าชายเองก็ทรงเป็นห่วงเรื่องนี้อยู่เหมือนกัน
"คงต้องให้ประทับอยู่ที่นี่ "เจ้าฟ้าชายตรัสทั้งที่ใจอยากจะพาเจ้าหญิงเสด็จไปด้วย
""ท่านจิราแย่แล้วเจ้าค่ะ!!!!" เสียงดังโวยวายมาจากหน้าห้อง นทีแง้มประตูออกดู
"มีอะไรรึแม่นารี" นทีสอบถาม
"ก็เจ้าหญิงนะสิจ้ะ เสด็จกลับจากเล่นน้ำก็ทรงประชวรไข้ พระวรกายนี้ร้อนมากเลย ฉันก็เลยมาขอยาจากท่านจิรานี่แหละ"
นารีกล่าว จิราสั่งให้นทีไปหาสมุนไพรมาให้เจ้าหญิง ส่วนตนเองรีบตามนารีไปทันที
เจ้าหญิงบรรทมอยู่บนแท่น สีพระพักตร์และพระโอษฐ์ดูซีดเซียวอย่างเห็นได้ชัด
"ทรงเป็นอย่างไรบ้าง หม่อมฉันบอกแล้วไงว่าให้รีบขึ้นมา" จิราทำเสียงดุเพราะเป็นห่วง เจ้าหญิงเองก็ทรงตกพระทัย
"เราไม่เป็นไรบ้างหรอกน่า" เจ้าหญิงตรัส น้ำเสียงดูแผ่วเบา
จิรารับตกพระหัตถ์และหน้าผากของเจ้าหญิง พระองค์ทรงตกใจเล็กน้อย รู้สึกถึงมืออุ่นที่จับต้องพระวรกาย
"นารีเช็ดตัวให้เจ้าหญิงเร็วเข้า" จิราบอกนารีเมื่อเห็นถือน้ำและผ้าเข้ามา
"สมุนไพรมาแล้วนะท่านจิรา ข้าให้แม่นางสองคนต้มอยู่ในครัว"นทีบอกกับเจ้านาย อยู่ตรงนี้ต้องระมัดระวังคำพูดอย่างยิ่ง
"อืมดีแล้ว" จิรามองดูนารีที่กำลังจะเช็ดตัวให้เจ้าหญิง จนนางกำนัลสาวต้องหันมามอง
"เชิญท่านทั้งสองออกไปก่อนเถิด" นารีกล่าว จิรากับนทีก็เพิ่งจะนึกได้ ลอบมองเจ้าหญิงแวบหนึ่งก่อนจะชวนนทีออกไป
"เราว่าจะบอกเจ้าหญิงว่าคืนนี้จะเดินทางเข้าเมือง เห็นทีต้องไปพรุ่งนี้ต้องอยู่ดูพระอาการก่อน"เจ้าฟ้าชายกล่าว
"พะย่ะค่ะ เดี๋ยวหม่อมฉันจะไปแจ้งแก่ทหาร"
"ยาต้มได้แล้วเจ้าค่ะ แต่กำลังร้อนทีเดียว" หญิงรับใช้สองคนเดินเข้ามาบอก
"เอาไปข้างในเลยจ้ะ นารีกำลังเช็ดตัวให้เจ้าหญิงอยู่" นทีบอกนางทั้งสอง
"นี่นทีเราลืมไปเลย จดหมายที่เขียนไว้ยังไม่ได้ส่งให้พระพี่นางเลย" เจ้าฟ้าชายตรัสขึ้น
"หม่อมฉันให้ม้าเร็วส่งเรียบร้อยแล้ว"
"ดีมาก" เจ้าฟ้าชายกล่าวชม
"เจ้าหญิงเสวยโอสถก่อนนะเพค่ะ" นารีประคองเจ้าหญิง ก่อนจะยื่นยาให้ เจ้าหญิงทรงทอดพระเนตรเห็นน้ำสีเข้ม กลิ่นฉุนๆ ก็ไม่อยากเสวยเสียแล้ว
"คงจะขมน่าดูเรากินไม่ลงหรอก"
"โธ่หวานเป็นลมขมเป็นยานะเพค่ะ นี่ท่านจิราเป็นห่วงเจ้าหญิงมาก หากไม่เสวยจะโดนดุเอานะเพค่ะ" นารีกล่าว
"นั่นไม่เรียกว่าห่วงหรอก กลัวเราเป็นอะไรไปแล้วตัวเองจะมีความผิดล่ะสิ" เจ้าหญิงตัดพ้อชายหนุ่มก่อนจะเสวยโอสถแต่โดยดี
"น้ำเพค่ะ" นารีรีบให้น้ำตามเพราะยาขมมาก
จิรากับนทีรออยู่ด้านนอก เห็นนารีออกมาจึงรีบเข้าไปถาม
"ให้เสวยโอสถแล้วเจ้าค่ะ เมื่อตะกี้พอเช็ดตัวเสร็จไข้ก็เริ่มลด ข้าก็เลยให้นอนพัก ไม่ต้องห่วงหรอกท่านพระองค์ทรงประชวรไข้หวัดบ่อยมาก ยิ่งที่นี่อากาศหนาวเย็นเสียด้วย" นารีกล่าว
จิราฟังแล้วรู้สึกผิด ที่พาเจ้าหญิงมาลำบาก
"จริงสิ พรุ่งนี้เราจะหาพี่สาวในเมืองเดี๋ยวจะเอายาอย่างดีมา แล้วของใช้เจ้าหญิงขาดเหลืออะไรอีก" จิราสอบถาม
"ก็มีเสื้อผ้า เครื่องนุ่งห่ม และของใช้ผู้หญิง เอ่อพี่สาวท่านน่าจะรู้นะ"นารีกล่าว
"ได้เราจะจัดเตรียมให้อย่างดี "
"แล้วพวกท่านจะออกเดินทางกันเมื่อไหร่"
"รอพรุ่งนี้ พระอาการเจ้าหญิงก็น่าจะดีขึ้น"
"เจ้าหญิงเย็นมากแล้วเสด็จกลับที่ประทับก่อนเถิด"
จิราเดินมาตามด้วยความห่วงใย ทั้งเจ้าหญิงและนารีสบตากันก่อนจะยอมขึ้นมาแต่โดยดี
"นี่เจ้าหญิงทรงเล่นน้ำตกคงจะสนุกมากเลยนะพะย่ะค่ะ"
นทีเอ่ยถาม
"แน่ล่ะนที เมืองของเราหาน้ำตกสวยๆแบบนี้ก็อยากเต็มทน" นารีตอบแทนเจ้าหญิง
"จริงสิแล้วที่นี่อยู่เขตเมืองอะไรเหรอ"เจ้าหญิงทรงตรัสถามด้วยความสงสัยพระทัย ทั้งจิรากับนทีลอบมองหน้ากันสีหน้าไม่ค่อยดีนัก
"จะเมืองอะไรก็ช่างเถิด ตอนนี้เสด็จกลับไปเปลี่ยนฉลองพระองค์ใหม่จะดีกว่า" จิรากล่าวพร้อมกับยื่นผ้าคลุมสีชุมพูให้เจ้าหญิงเช็ดพระเกศา
"ท่านจิรา เราขี่หลังท่านแล้วนะตัวเราเปียกไปหมดแล้ว"
เจ้าหญิงตรัส จิรายิ้มอย่างเอ็นดู
"หม่อมฉันเตรียมไว้แล้วพะย่ะค่ะ" นทีชี้ไปยังม้าสองตัวที่ผูกอยู่
"เดี๋ยวพวกเราจะอ้อมเขาไปทางนู่น ทางไม่ชันมากแต่ก็ไกลพอสมควร" จิรากล่าวก่อนจะโดดขึ้นม้า แล้วยื่นมือมาทางเจ้าหญิง พระองค์ทรงลังเลเพราะไม่เคยขี่ม้าตัวเดียวกับชายใดมาก่อน แต่ก็ต้องยอมเสด็จขึ้นไป เพราะสายตาที่แลดูอ่อนโยนของชายตรงหน้า
"ไป"จิราตบหลังม้าดบหลังม้าเบาๆ ก่อนจะควบหลังม้าออกไป โดยมีนทีกับนารีตามหลังมา
"เอ้าดื่มกันให้เต็มที่" ทางฝั่งชายป่าเมืองดาหลา เจ้าชายธนากับเหล่าทหารองครักษ์ตนสนิทกำลังดื่มน้ำจัณฑ์และกับแกล้มอย่างสนุกสนานสำราญใจ แม่ทัพเพชรทายนำอาหารมาไหว้เจ้าป่าเจ้าเขา ก่อนจะยื่นห่อข้าวที่ติดมือมาให้แก่แม่ทัพอาทรซึ่งเป็นสหายร่วมทุกข์ของเขาในยามนี้เสียแล้ว
"ข้านึกว่าท่านจะร่วมดื่มสุรากับพวกทหารเสียอีก" แม่ทัพอาทรถามยิ้มๆ
"ไม่ล่ะท่านข้านะมันแก่แล้วดื่มไปก็มีแต่โรคภัยมารุมเร้า"
แม่ทัพเพชรทายกล่าวก่อนจะกินข้าวในมือ
"ว่าแต่ท่านเถอะยังหนุ่มยังแน่นไม่ไปดื่มกินกับพวกเขาเรอะ"
แม่ทัพเพชรทายย้อนถามบ้าง
"ไม่ล่ะท่าน ขืนดื่มเมากันหมดทั้งค่ายหากเกิดเหตุร้ายขึ้นจะพากันแย่เสียหมด" แม่ทัพอาทรกล่าว
"แหมท่านเป็นคนดีคนจริงๆ ภรรยาท่านคงจะโชคดีมากๆที่ได้ท่านเป็นคู่ครอง" แม่ทัพเพชรทายกล่าวชื่นชม ขณะที่อีกฝ่ายกับหัวเราะก่อนจะตอบออกไป
"ข้ายังไม่มีภรรยาดอกท่าน นี่อายุก็ปาเข้าไป 32 ปีแล้ว"
"จริงเรอะ ปัดโธ่ถ้าไม่ติดว่าลูกสาวข้าอายุเพิ่งจะ 12 ปี ถ้าโตกว่านี้อีกซักสี่ห้าปีข้าจะยกให้แต่งกับท่าน" แม่ทัพเพชรทายกล่าวอย่าเสียดาย ทั้งสองคุยกันอย่างออกรสถึงเหตุการณ์บ้านเมืองตน เพราะถึงยังไงคืนนี้คงไม่นอนเป็นแน่ ต้องเฝ้ายามแทนทหารที่หลับใหลเพราะพิษของสุรา
ที่ห้องประทับ เจ้าฟ้าชายจิรายุทรงสรงน้ำเสร็จแล้ว นทีก็ยื่นกระดาษที่พันไว้อย่างดีมีริบบิ้นผูกตรงกลางให้แก่พระองค์
"สาล์นจากในวังกระหม่อม ทหารบอกว่าม้าเร็วเพิ่งมาส่งไม่กี่ชั่วยามนี่เองพะย่ะค่ะ"
"จากเสด็จพระองค์ไหน" เจ้าฟ้าชายตรัสถาม
"จาก พระนางจันทราวดี พะย่ะค่ะ" นทีกราบทูล
"ไหนดูสิ พระพี่นางทรงว่าอย่างไรบ้าง" เจ้าฟ้าชายเปิดอ่าน
นทีนั่งมองพลางลุ้น
"พระองค์มาบอกว่าเสด็จพ่อกับเสด็จแม่ เสด็จประพาสป่า ตอนนี้ในวังมีเพียงพระองค์ที่อยู่นั่น เห็นทีเราคงเข้าในวังกันแล้วล่ะนที" เจ้าฟ้าชายตรัส นทีดีใจเพราะจากวังมาเกือบสัปดาห์แล้ว
"เอ่อแล้วเจ้าหญิงกับนารีล่ะพะย่ะค่ะ" นทีสอบถาม เจ้าฟ้าชายเองก็ทรงเป็นห่วงเรื่องนี้อยู่เหมือนกัน
"คงต้องให้ประทับอยู่ที่นี่ "เจ้าฟ้าชายตรัสทั้งที่ใจอยากจะพาเจ้าหญิงเสด็จไปด้วย
""ท่านจิราแย่แล้วเจ้าค่ะ!!!!" เสียงดังโวยวายมาจากหน้าห้อง นทีแง้มประตูออกดู
"มีอะไรรึแม่นารี" นทีสอบถาม
"ก็เจ้าหญิงนะสิจ้ะ เสด็จกลับจากเล่นน้ำก็ทรงประชวรไข้ พระวรกายนี้ร้อนมากเลย ฉันก็เลยมาขอยาจากท่านจิรานี่แหละ"
นารีกล่าว จิราสั่งให้นทีไปหาสมุนไพรมาให้เจ้าหญิง ส่วนตนเองรีบตามนารีไปทันที
เจ้าหญิงบรรทมอยู่บนแท่น สีพระพักตร์และพระโอษฐ์ดูซีดเซียวอย่างเห็นได้ชัด
"ทรงเป็นอย่างไรบ้าง หม่อมฉันบอกแล้วไงว่าให้รีบขึ้นมา" จิราทำเสียงดุเพราะเป็นห่วง เจ้าหญิงเองก็ทรงตกพระทัย
"เราไม่เป็นไรบ้างหรอกน่า" เจ้าหญิงตรัส น้ำเสียงดูแผ่วเบา
จิรารับตกพระหัตถ์และหน้าผากของเจ้าหญิง พระองค์ทรงตกใจเล็กน้อย รู้สึกถึงมืออุ่นที่จับต้องพระวรกาย
"นารีเช็ดตัวให้เจ้าหญิงเร็วเข้า" จิราบอกนารีเมื่อเห็นถือน้ำและผ้าเข้ามา
"สมุนไพรมาแล้วนะท่านจิรา ข้าให้แม่นางสองคนต้มอยู่ในครัว"นทีบอกกับเจ้านาย อยู่ตรงนี้ต้องระมัดระวังคำพูดอย่างยิ่ง
"อืมดีแล้ว" จิรามองดูนารีที่กำลังจะเช็ดตัวให้เจ้าหญิง จนนางกำนัลสาวต้องหันมามอง
"เชิญท่านทั้งสองออกไปก่อนเถิด" นารีกล่าว จิรากับนทีก็เพิ่งจะนึกได้ ลอบมองเจ้าหญิงแวบหนึ่งก่อนจะชวนนทีออกไป
"เราว่าจะบอกเจ้าหญิงว่าคืนนี้จะเดินทางเข้าเมือง เห็นทีต้องไปพรุ่งนี้ต้องอยู่ดูพระอาการก่อน"เจ้าฟ้าชายกล่าว
"พะย่ะค่ะ เดี๋ยวหม่อมฉันจะไปแจ้งแก่ทหาร"
"ยาต้มได้แล้วเจ้าค่ะ แต่กำลังร้อนทีเดียว" หญิงรับใช้สองคนเดินเข้ามาบอก
"เอาไปข้างในเลยจ้ะ นารีกำลังเช็ดตัวให้เจ้าหญิงอยู่" นทีบอกนางทั้งสอง
"นี่นทีเราลืมไปเลย จดหมายที่เขียนไว้ยังไม่ได้ส่งให้พระพี่นางเลย" เจ้าฟ้าชายตรัสขึ้น
"หม่อมฉันให้ม้าเร็วส่งเรียบร้อยแล้ว"
"ดีมาก" เจ้าฟ้าชายกล่าวชม
"เจ้าหญิงเสวยโอสถก่อนนะเพค่ะ" นารีประคองเจ้าหญิง ก่อนจะยื่นยาให้ เจ้าหญิงทรงทอดพระเนตรเห็นน้ำสีเข้ม กลิ่นฉุนๆ ก็ไม่อยากเสวยเสียแล้ว
"คงจะขมน่าดูเรากินไม่ลงหรอก"
"โธ่หวานเป็นลมขมเป็นยานะเพค่ะ นี่ท่านจิราเป็นห่วงเจ้าหญิงมาก หากไม่เสวยจะโดนดุเอานะเพค่ะ" นารีกล่าว
"นั่นไม่เรียกว่าห่วงหรอก กลัวเราเป็นอะไรไปแล้วตัวเองจะมีความผิดล่ะสิ" เจ้าหญิงตัดพ้อชายหนุ่มก่อนจะเสวยโอสถแต่โดยดี
"น้ำเพค่ะ" นารีรีบให้น้ำตามเพราะยาขมมาก
จิรากับนทีรออยู่ด้านนอก เห็นนารีออกมาจึงรีบเข้าไปถาม
"ให้เสวยโอสถแล้วเจ้าค่ะ เมื่อตะกี้พอเช็ดตัวเสร็จไข้ก็เริ่มลด ข้าก็เลยให้นอนพัก ไม่ต้องห่วงหรอกท่านพระองค์ทรงประชวรไข้หวัดบ่อยมาก ยิ่งที่นี่อากาศหนาวเย็นเสียด้วย" นารีกล่าว
จิราฟังแล้วรู้สึกผิด ที่พาเจ้าหญิงมาลำบาก
"จริงสิ พรุ่งนี้เราจะหาพี่สาวในเมืองเดี๋ยวจะเอายาอย่างดีมา แล้วของใช้เจ้าหญิงขาดเหลืออะไรอีก" จิราสอบถาม
"ก็มีเสื้อผ้า เครื่องนุ่งห่ม และของใช้ผู้หญิง เอ่อพี่สาวท่านน่าจะรู้นะ"นารีกล่าว
"ได้เราจะจัดเตรียมให้อย่างดี "
"แล้วพวกท่านจะออกเดินทางกันเมื่อไหร่"
"รอพรุ่งนี้ พระอาการเจ้าหญิงก็น่าจะดีขึ้น"
คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ