ไฟรักลิขิตหัวใจ

8.0

เขียนโดย พี่ม่อนจัง

วันที่ 13 สิงหาคม พ.ศ. 2559 เวลา 00.37 น.

  1 ตอน
  11 วิจารณ์
  4,074 อ่าน

แก้ไขเมื่อ 13 สิงหาคม พ.ศ. 2559 09.18 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น

แชร์นิยายฟิคชั่น Share Share Share

 

1)

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

 

 

1

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

ปึ้ก!

 

 

 

"โอ้ย" หญิงสาวร้องขึ้นเมื่อมีคนเดินมาชนเธอที่กำลังถือตะกร้าจ่ายตลาดจนล้มลงไป เธอปัดเนื้อปัดตัวก่อนจะเงยหน้ามองคนตรงหน้า

 

 

 

"เป็นอะไรไหมครับ" ชายคนนั้นเดินมาหาเธอ เขาใส่แว่นดำและยื่นมือมาช่วย

 

 

 

"เอ่อ ไม่เป็นไรค่ะ" ร่างบางจับมืออีกคนแล้วลุกขึ้นถือตะกร้าตามเดิม ก่อนจะมองด้วยท่าทีสงสัยชายคนนี้ที่มายืนด้อมๆมองๆอยู่หน้าบ้านเธอ

 

 

 

"ที่นี่ใช่บ้านศิริมงคลสกุลรึเปล่าครับ" หญิงสาวขมวดคิ้วด้วยความสงสัยเข้าไปอีก ก่อนจะตอบไป

 

 

 

"ใช่ค่ะ คุณมีธุระอะไรรึเปล่าคะ"

 

 

 

"ผมมาหาคุณกีรติ ไม่ทราบว่าเขาอยู่รึเปล่าครับ" ชายหนุ่มถอดแว่นดำออกก่อนจะมองร่างบางที่ยืนถือตะกร้าอยู่แล้วกระตุกยิ้ม "คุณคงเป็นคนรับใช้สินะครับ งั้นก็น่าจะตอบได้ว่าคุณกีรติอยู่ไหม"

 

 

 

"อยู่ค่ะ เดี๋ยวฉันจะเปิดประตูให้" เธอพูดนิดนึงก่อนจะค่อยๆเลื่อนประตูรั่วให้ชายหนุ่ม

 

 

 

"ไม่ยักรู้ว่าบ้านนี้มีคนใช้สวยแบบนี้ หึ" ชายหนุ่มพูดเบาๆก่อนจะขึ้นรถแล้วขับรถเข้าไปในบ้าน

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 


"ตาป๊อป ลุงขอบใจที่มานะ" กีรติเดินลงบันไดมาพร้อมลูกสาวคนโตของบ้าน "สวัสดีพี่เขาสิลูก" กีรติบอกแก้ว

 

 

 

"สวัสดีค่ะ" แก้วมองชายหนุ่มตรงหน้านิดนึงก่อนจะยกมือไหว้แล้วนั่งข้างๆพ่อของเธอ

 

 

 

"เข้าเรื่องเลยละกัน เราคงรู้ว่าลุงคิดยังไงนะป๊อป"

 

 

 

"รู้ครับ"

 

 

 

"งั้นลุงก็จะไม่อ้อมค้อม ลุงอยากให้เราทำความรู้จักกันไว้นะ เราก็โตๆกันแล้ว การเลือกคู่มันก็ควรจะมีใช่ไหม" กีรติมองทั้งสองคนแล้วยิ้มอย่างตั้งความหวัง "ลุงอยากให้ทั้งสองไปดูๆใจกันก่อนน่ะ ถ้าเป็นไปได้ลุงก็อยากให้หมั้นกันไปเลย"

 

 

 

"พ่อคะ แก้วว่ามันเร็วไปนะคะ" แก้วทักท้วงคนเป็นพ่อ เพราะเธอพึ่งจะเรียนจบ และยังอยากทำงานไปเรื่อยๆก่อน

 

 

 

"ไม่เร็วไปหรอก พ่ออยากให้ลูกของพ่อเจอคนที่ดีและเพียบพร้อม"

 

 

 

"แต่พ่อคะ.." แก้วที่กำลังจะทักท้วงก็มีเสียงหนึ่งแทรกเข้ามา

 

 

 

"ถ้าไม่เป็นการรบกวน ผมขออยู่ทานข้าวเย็นที่นี่กับน้องแก้วได้ไหมครับ" ป๊อปปี้มองแก้วแล้วยิ้มให้เธอ แก้วเหวอนิดๆก่อนจะหันไปมองผู้เป็นพ่อที่พยักหน้าให้เธอ

 

 

 

"ก็ได้ค่ะ แก้วจะยอมพ่อวันนึง"

 

 

 

"เอ่อ ขอโทษที่มาขัดจังหวะนะคะ ฟางเอาน้ำมาให้ค่ะ" ฟางเดินถือถาดที่มีน้ำอยู่สามแก้ว ก่อนจะเดินมาวางให้ทั้งสาม ป๊อปปี้มองฟางอย่างสนใจในตัวฟาง

 

 

 

"ยัยฟาง พี่บอกกี่ครั้งแล้วว่าอย่าทำแบบนี้ เธอไม่ใช่คนใช้นะ มานี่ มานั่งกับพี่" แก้วดุน้องสาวของเธอที่ชอบอยู่ในครัวหรือไม่ก็ทำความสะอาดประหนึ่งคนใช้ เธอพูดแล้วพูดอีกแต่ร่างบางก็ไม่เคยฟัง

 

 

 

"เอ่อ พี่แก้วคะ ฟางไม่อยากให้ใครมองไม่ดี ฟางเป็นลูกคนใช้ ก็ต้องทำ ถูกแล้วค่ะ" ฟางยิ้มเล็กน้อยก่อนจะก้มหน้าลง

 

 

 

"ฟางเขามีความสุขกับสิ่งที่ทำ หนูก็ปล่อยน้องไปเถอะแก้ว" กีรติพูด

 

 

 

"เอ่อ งั้นฟางขอไปทำอาหารเย็นนะคะ" แก้วพยักหน้าอย่างเอือมระอา ก่อนจะยอมให้น้องสาวของเธอไปในครัว

 

 

 

"นั่นน้องสาวน้องแก้วหรอครับ" ป๊อปปี้ถามแก้ว

 

 

 

"ใช่ค่ะ น้องสาวแก้วเอง"

 

 

 

"ผมเจอเธออยู่หน้าบ้าน ผมคิดว่าคนใช้ แล้วผมก็ดันใช้เธอไปแล้ว ผมขอโทษนะครับ"

 

 

 

"ไม่เป็นไรหรอก ลุงก็เจอมาบ่อยแล้ว ยัยฟางเป็นแบบนี้ล่ะ"

 

 

 

"แก้วว่าพี่ควรไปขอโทษน้องเค้าเองนะคะ" แก้วขมวดคิ้วไม่ชอบใจที่ป๊อปปี้ทำแบบนี้กับน้องสาวเธอ

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 


"หนูฟางไม่เห็นต้องลงมือทำเองเลยนะคะ" ป้านวลพูดไปหั่นผักไป

 

 

 

"อยู่เฉยๆมันน่าเบื่อนะคะ อีกอย่างแม่สอนฟางเสมอว่าอย่าลืมกำพืชตัวเอง" ฟางยิ้มนิดนึงแล้วคนหม้อน้ำซุป

 

 

 

"อย่าคิดอย่างนั้นเลยค่ะ พูดถึงก็คิดถึงมะลินะ ไม่น่าจากไปก่อนเลย"

 

 

 

"ฟางก็คิดถึงแม่เหมือนกันค่ะ" พูดพร้อมถอนหายใจพลางๆ แล้วทำกับข้าวต่อไป

 

 

 

"เดี๋ยวป้ามานะคะ หนูฟางทำคนเดียวไปก่อน ป้าไปตามยัยพิมก่อน นังนี่ชอบอู้งาน"

 

 

 

"ได้ค่ะ เดี๋ยวฟางไปหั่นแทนก็ได้ค่ะ" ฟางยิ้มนิดๆก่อนจะเดินไปหั่นผัก โดยมีสายตาคู่หนึ่งเฝ้ามองเธออยู่

 

 

 

"ใส่ผักลงไป แล้วก็ อืม.." ฟางพูดเบาๆตามภาษาของเธอก่อนจะเอื้อมมือไปหยิบพริกไทยที่อยู่ในตู้ ในตอนนั้นป๊อปปี้ค่อยๆเดินเข้าไปอยู่ข้างหลังฟาง

 

 

 

"พริกไทยจ๋าเขยิบออกมาหาฟางเถอะ" ฟางเขย่งเพื่อที่จะหยิบพริกไทยที่อยู่ข้างในตู้บนหัวเธอซึ่งเธอหยิบไม่ถึง ก่อนจะมีมือหนึ่งหยิบให้เธอ "ว้าย" ฟางร้องขึ้นอย่างตกใจแล้วหันหลังมาชนเข้ากับป๊อปปี้ เขาคว้าเอวเธอไว้ ฟางเผลอเอามือทาบเข้าที่อกป๊อปปี้

 

 

 

ฟางเงยหน้าสบตากับคนตรงหน้า เธอรู้สึกเหมือนหลุดออกจากร่างเมื่อมองแววตาอันอบอุ่นนั้น ก่อนที่จะรู้สึกตัวฟางจึงผละออกจากป๊อปปี้ "เอ่อ ฟางขอโทษนะคะ"

 

 

 

"ไม่เป็นไรครับ นี่พริกไทยที่คุณต้องการ" ป๊อปปี้วางไว้บนโต๊ะ แล้วหันมามองหน้าฟางที่ก้มหน้าก้มตาทำอาหารต่อโดยไม่มองป๊อปปี้

 

 

 

"ดูเหมือนคุณฟางชอบทำอาหารนะครับ"

 

 

 

"เอ่อค่ะ ฟางอยู่ในครัวมาตั้งแต่เด็กชอบมานั่งดูแม่ทำอาหาร เธอเป็นแรงบันดาลใจของฟางเลยก็ว่าได้" ฟางยิ้มนิดๆแล้วคนหม้อต่อไป

 

 

 

"แล้วคุณฟางไม่คิดจะเข้าไปทำงานในบริษัทเหมือนคุณแก้วหรอครับ"

 

 

 

"ไม่หรอกค่ะ ฟางไม่ชอบอะไรแบบนั้น เอ่อแล้วคุณเข้ามาในนี้มีอะไรหรอคะ"

 

 

 

"พอดีว่าผมจะเข้ามาขอโทษที่ใช้คุณให้ไปเปิดประตูน่ะครับ หวังว่าคุณคงไม่ถือโทษโกรธอะไรผมนะครับ"

 

 

 

"อ๋อ ไม่เป็นไรค่ะ ฟางไม่โกรธเคืองอะไรคุณหรอกนะคะ สบายใจได้ มันเป็นหน้าที่ของฟางน่ะค่ะ"

 

 

 

"ทำไมคุณถึงชอบพูดให้ตัวเองดูต่ำลง ผมว่ามันไม่ดีเลยนะ" ป๊อปปี้ขมวดคิ้วสงสัยคนตรงหน้าที่ชอบพูดจาประหนึ่งว่าเป็นคนรับใช้

 

 

 

"ฟางไม่ลืมกำพืชตัวเองหรอกค่ะ เอ่อ อาหารเสร็จแล้วนะคะ เดี๋ยวฟางยกไปเสิร์ฟ คุณไปนั่งรอที่โต๊ะได้เลยค่ะ" ฟางยิ้มเล็กน้อย ก่อนจะจัดจานอาหารป๊อปปี้จ้องมองเธอแล้วยกยิ้ม

 

 

 

 

 

 

 

 

 

"ขอบคุณสำหรับอาหารมื้อนี้นะครับ อร่อยถูกปากผมมากๆ" ป๊อปปี้ที่กินข้าวเสร็จก็พูดขอบคุณทุกคนในบ้าน รวมถึงฟางที่ยืนอยู่กับกลุ่มคนใช้พร้อมถือถาดมองดูอยู่มุมห้อง

 

 

 

"ยัยฟางทำอาหารอร่อยมากเลยแหละ มีเสน่ห์ปลายจวัก" กีรติพูดยิ้มให้ลูกสาวคนเล็ก ฟางยิ้มเล็กๆให้พ่อของเธอ

 

 

 

"ผมคงต้องมากินข้าวบ้านนี้ทุกวันแล้วล่ะครับ ฮ่าๆ" ป๊อปปี้พูดขำๆแล้วหันมามองฟางที่กำลังคุยกับพวกคนใช้ก่อนจะหันมาคุยกับกีรติต่อ

 

 

 

"นี่แก้ว พาพี่เค้าไปเดินเล่นสิลูก สวนดอกไม้ที่ลูกกับฟางชอบไปเล่นกันบ่อยๆ พาพี่เขาไปสิ" กีรติชักชวนแก้วเพื่อที่จะให้แก้วได้ทำความรู้จักกับว่าที่ลูกเขย

 

 

 

"แต่พ่อคะ" แก้วทักท้วง

 

 

 

"ไม่มีแต่อะไรทั้งนั้น พาพี่เขาไป" กีรติมองแก้วจนเธอต้องจำใจและพาป๊อปปี้ออกไปเดินเล่นข้างนอกที่สวนดอกไม้ของเธอและฟาง

 

 

 

 

 


"น้องแก้วดูเหมือนไม่พอใจพี่เลยนะครับ" ป๊อปปี้มองแก้วที่เกินฟึดฟัดออกมาอย่างไม่พอใจ

 

 

 

"แก้วแค่รู้สึกว่าแก้วยังไม่พร้อมจะมีใคร ทำไมคุณพ่อถึงบังคับแก้วแบบนี้" แก้วพูดถึงพ่อของเธอที่บังคับให้เธอหมั้นกับป๊อปปี้โดยที่เธอไม่เต็มใจจะเป็นเลยสักนิด

 

 

 

"น้องแก้วไม่ชอบพี่หรอครับ"

 

 

 

"ก็เปล่าค่ะ พี่ก็ดูเป็นคนดี เก่งและก็รวย" แก้วยิ้มให้ป๊อปปี้นิดนึง แล้วเดินดูดอกไม้ไปเรื่อย

 

 

 

"บางทีน้องแก้วอาจจะยังไม่รู้ใจตัวเองก็ได้ครับ" แก้วหันไปมองป๊อปปี้ที่ยิ้มให้เธอ ดวงตาคู่นั้นทำให้แก้วจ้องเขาอย่างไม่วางตา เธอเหมือนถูกสะกดเมื่อมองเข้าไปในแววตาที่แสดงถึงความห่วงใยที่ป๊อปปี้มีให้เธอ

 

 

 

"น้องแก้วครับ" ป๊อปปี้เรียกแก้ว

 

 

 

"เอ่อ คะ" แก้วสะดุ้งและหลุดจากผวังค์

 

 

 

"มีอะไรติดหน้าพี่หรอครับ"

 

 

 

"ไม่มีค่ะ"

 

 

 

"แล้วน้องแก้วจ้องหน้าพี่ทำไมล่ะครับ"

 

 

 

"แก้วแค่..ไม่คิดว่าพี่จะดูดีขนาดนี้อ่ะค่ะ" แก้วอมยิ้ม

 

 

 

"ฮ่าๆ ยัยหนู" ป๊อปปี้ยีหัวแก้ว แล้วขำเล็กน้อย "พี่ว่าจะถามตั้งนานแล้ว ตรงนั้นคืออะไรหรอครับ" ป๊อปปี้ชี้ไปที่ห้องเล็กๆที่อยูท้ายสวน

 

 

 

"อ๋อ ตรงนั้นเป็นห้องที่คุณพ่อสร้างไว้เพราะเขาคิดถึงน้ามะลิที่จากไปน่ะค่ะ พี่ป๊อปจะเข้าไปดูไหมคะ"

 

 

 

"อ่อไม่ล่ะครับ น้ามะลิคือใครหรอครับ พี่ขอโทษที่ต้องถามนะครับ ไม่สะดวกตอบก็ไม่เป็นไร"

 

 

 

"น้ามะลิคือแม่ของฟางค่ะ เธอเป็นคนรับใช้ แม่ของแก้วเสียไปตอนแก้วยังเล็กๆ หลังจากนั้นคุณพ่อก็พบรักกับน้ามะลิแล้วก็มียัยฟาง แต่พอเลี้ยงแก้วกับยัยฟางจนโต น้ามะลิก็จากพวกเราไป มันเป็นเรื่องที่น่าเศร้านะคะ"

 

 

 

แอ๊ด..

 

 

 

ป๊อปปี้และแก้วหันขวับไปยังห้องนั้นเมื่อได้ยินเสียงเปิดประตู ก่อนที่ทั้งสองจะค่อยๆเดินเข้าไปดู

 

 

 

"มันคงไม่มีอะไรนะคะ" แก้วที่เดินเกาะหลังป๊อปปี้เฝ้ามองดูว่าจะเกิดอะไรขึ้น

 

 

 

"เดี๋ยวพี่จะเดินไปดูเองครับ น้องแก้วรออยู่ตรงนี้ก่อน ถ้าเกิดอะไรขึ้นให้วิ่งออกไปนะครับ" ป๊อปปี้กำชับแก้วก่อนจะเดินเข้าไปในห้องนั้น

 

 

 

"นั่นใคร" ป๊อปปี้ตะโกนขึ้นหลังจากเข้ามาในห้องแล้ว ภายในห้องมีแต่รูปภาพของมะลิ ทั้งภาพวาดและภาพถ่ายทีเพียงไฟสลัวๆที่อยู่ในห้องนี้ ก่อนที่ป๊อปปี้จะได้ยินเสียงหนึ่งดังขึ้น

 

 

 

"แม่คะ ฟางเอาพวงมาลัยมาไหว้แม่แล้วนะคะ ฟางคิดถึงแม่จังเลยค่ะ ฟางตั้งใจร้อยมากๆเลยนะคะ ต้นมะลิที่ฟางปลูกกับแม่ โตขึ้นเยอะเลยค่ะ" ฟางนำผ้ามาเช็ดรูปของแม่เธอโดยมีป๊อปปี้ที่เฝ้ามองดูอยู่หลังกำแพง

 

 

 

"ฟางไปก่อนนะคะ ราตรีสวัสดิ์ค่ะแม่" ฟางเก็บของแล้วกำลังจะเดินออกมา "ว้าย คะ คุณป๊อป" เธอตกใจเมื่อเห็นป๊อปปี้ที่เดินออกมาจากหลังกำแพง จนสะดุดขาตัวเองแล้วล้มทับป๊อปปี้

 

 

 

จุ้บ!

 

 

 

เสียงของริมฝีปากของทั้งสองกระทบกัน ฟางตาโตตกใจรีบดิ้นออกจากอ้อมกอดของป๊อปปี้ แต่เขากอดเธอไว้แน่นค่อยๆขบเม้มริมฝีปากของเธอเบาๆ

 

 

 

"อื้อ.." ฟางดิ้นอย่างตกใจ เธอไม่เคยโดนชายใดแตะต้องเธอ แต่เขาผู้ที่จะมาเป็นว่าที่พี่เขยกลับทำแบบนี้กับเธอ

 

 

 

ป๊อปปี้บรรจงจูบเธอ สอดลิ้นเข้าไปหยอกล้อลิ้นอีกคนฉกชิมความหวานที่ริมฝีปากของเธอ ฟางดิ้นแล้วดิ้นอีกเขาไม่มีท่าทีว่าจะปล่อยเธอ

 

 

 

"ฮึก อื้อ" น้ำตาของหญิงสาวไหลพราก ป๊อปปี้รู้สึกใบหน้าตนเปียกโชกไปด้วยน้ำตาของคนตรงหน้าที่ทับเขาอยู่ ก่อนจะถอนจูบ

 

 

 

"เอ่อ ฉัน" ป๊อปปี้จ้องหน้าหญิงสาวที่ตาแดงและเปียกไปด้วยน้ำตา "ฉันขอโทษ" ป๊อปปี้พูดขึ้น ฟางมองนิดนึงก่อนจะลุกขึ้นแล้วรีบเดินหนีออกไป ป๊อปปี้รีบตามเธอไป

 

 

 

"ยัยฟาง เป็นอะไร" แก้วที่ยืนอยู่ข้างนอกเห็นฟางที่ร้องไห้แล้ววิ่งออกมาก็พูดขึ้น

 

 

 

"ฟาง" ป๊อปปี้วิ่งตามมาติดๆ แล้วพบว่าฟางกำลังพูดกับแก้ว

 

 

 

"ฟางแค่คิดถึงแม่น่ะค่ะ ฟางขอตัวนะคะ" ว่าจบเธอจึงรีบวิ่งออกไป ป๊อปปี้มองตามหลังเธอที่วิ่งออกไปแล้วพลันนึกคิดอะไรบางอย่าง

 

 

 

"เกิดอะไรขึ้นคะพี่ป๊อป ใช่อย่างที่ฟางพูดรึเปล่า" แก้วขมวดคิ้วมุ่น

 

 

 

"พี่เห็นฟางนั่งร้องไห้ตั้งนานแล้ว สงสัยคงคิดถึงน้ามะลิมากน่ะ" ป๊อปปี้ตอบปัดๆไป "พี่จะกลับแล้วล่ะ น้องแก้วเข้าบ้านไปเถอะครับ เดี๋ยวพี่เดินไปส่งในบ้าน"

 

 

 

 

 

 

 

 

 To be continue..

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

สวัสดีค่า ขอฝากเรื่องใหม่ไว้ในอ้อมอกอ้อมใจทุกคนด้วยน้า ^^ 

PMJ :)

 

 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
8 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
7 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา