FIC LA-ONG (ละออง) [CHANXBAEK FT. EXO] "NC"

สำหรับเว็บนี้ไรท์ขอชี้แจงนะ 

เว็บขีดเขียนจะมีเฉพาระตอนที่ CUT NC เท่านั้นจะไม่มีการลงเนื้อหาที่เป็นตอนปกตินะคะเพราะว่าลงไว้อีกเว็บหนึ่งแล้วเนาะ เข้าใจตรงกันนะคะ

ละอองที่หนึ่ง 

“กูเอานะ…”   ผมเบิกตากว้างกับคำพูดตรงๆของเสียงทุ่มนั้น  นี่เป็นครั้งแรกที่ผมเจอสถานการณ์แบบนี้เจอคนแบบนี้ ถือเป็นครั้งแรกในชีวิตจริงๆ  มันไม่ใช่เป็นการขออนุญาตแต่มันเป็นเพียงการบอกล่วงหน้า  ว่าสิ่งที่อีกคนพูดนั้นเขาจะทำมันจริงๆ

ผมมองหน้าเขาอีกครั้งริมฝีปากสีซีดที่ไม่ต่างจากของผมเพราะตากฝนมานานเคลื่อนเข้ามาใกล้จนในที่สุดผมก็รู้สึกได้ถึงสัมผัสเย็นๆบริเวณริมฝีปากผมรับรู้ได้ถึงกลิ่นแอลกอฮอล์มันฉุนจนขึ้นจมูกคนๆนี้คงพึ่งดื่มหนักมาแน่ๆไม่แปลกใจเลยที่อยู่ๆเขาก็ลากผมมาแล้วที่แปลกไปกว่านั้นผมก็เต็มใจและยอมตามมา…ไม่นานกลิ่นมันก็เจือจางไปอาจจะเป็นเพราะเม็ดฝนหรืออะไรก็ตามแต่ความชื้นแชะเพราะน้ำอะไรสักอย่างซึ่งผมมั่นใจว่าไม่ใช่น้ำฝนก็เข้ามาแทนที่

อีกคนลากลิ้นเลียไปทั่วริมฝีปากและใบหน้าของผม สัมผัสขนลุกนั้นทำให้ผมอยากจะผลักอีกคนออกให้ห่างตัวแต่มันก็เป็นเพียงแค่ความคิดชั่ววูบท่านั้นเพราะผมไม่อาจต้านทานแรงของอีกฝ่ายได้ ร่างกายผมอ่อนโอนตามแรงชักจูงนั้นทุกอย่างจนผมอดที่จะประท้วงตัวเองในใจไม่ได้ว่าทำไมถึงได้ยอมผู้ชายแปลกหน้าได้ขนาดนี้  หรืออาจจะเป็นเพราะสายตาคู่นั้นที่สื่ออกมาชัดเจนเหลือเกินว่าเขา  ต้องการผม…  ผมยกลำแขนขึ้นคล้องคออีกคนความอายของผมหายไปเกือบห้าสิบเปอร์เซ็น  ผมยังคงถูกเล้าโลมอยู่แบบนั้นเรื่อยๆและมามันก็มากขึ้นจนสติผมดิ่งลง ถ้านี้คือการตกนรกก็คงไม่ต่างจากตกหลุมสุดท้ายเพราะมันลึกเหลือเกิน…ลึกเกินกว่าที่แบคฮยอนจะปีนป่ายขึ้นมาได้

“อ๊ะ!”  ผมยกมือปิดปากตัวเองที่เผลอร้องเสียงแปลกๆนั้นออกมา  ผมมองกลุ่มผมสีดำของอีกคนเขากำลังใช้เรียวลิ้นร้อนๆเลียวนรอบยอดอกของผมผ่านเสื้อนักเรียนตัวบาง ผมแอ่นอกเพื่อรอรับการปรนเปรอที่กำลังดำเนินอยู่  ผมควบคุมร่างกายตัวเองไม่ได้เลย

“อือ…”  เสียงทุ่มอีกคนคางในลำคอแผ่วเบามันยิ่งทำให้ผมสติแตกกระเจิงหลายเท่าตัว เสียงนั้นมันปลุกอารมณ์ผมได้เป็นอย่างดี

ทำไมเขาใช้ลิ้นเก่งจังนะ…หรือเป็นเพราะนี่เป็นครั้งแรกที่ผมโดนกระทำแบบนี้มันเลยรู้สึกดีไปหมดไม่ว่าอีกคนจะจับต้องส่วนไหนของร่างกาย มันร้อนจนอยากจะถอดทุกอย่างที่สวมอยุ่ออกให้หมด

และเหมือนกับเขารู้ความคิดผม กางเกงของผมโดนคนมือไวดึงลงมาจนถึงหัวเข่า

“อ่ะ…อ๊อย!”  นิ้วใหญ่นั้นกำลังลูบคลำแท่งเนื้อร้อนของผม  เขาเหมือนรู้วิธีจัดการกับเยื่อ รู้ว่าจับตรงไหนมันจะทำให้ผมรู้สึกดี  รู้ว่าผมกำลังหลงใหลในเรียวลิ้นนั้น 

ฝนยังคงตกแรงเรื่อยๆอย่างไม่มีทีท่าว่าจะหยุด ร่างกายผมเริ่มสั่นเพราะความหนาวเหน็บแผ่นหลังเปลือยเปล่าของผมโดนดันชิดติดกับกำแพงโสโครกที่มีราดำกับตะไคร่น้ำเกาะแผ่เต็มผนังปูน ตอนนี้ร่างกายของผมไม่เหลืออะไรปกปิดแล้ว  ต่างจากเขาที่ยังมีชุดนักเรียนอยู่บนตัวครบ ความอายผมเริ่มก่อตัวตื้นขึ้นมาอีกครั้งเมื่ออีกคนใช้สายตาหื่นกระหายมองทุกส่วนของร่างกายผมเขาย่อตัวลงนั่งชันเข่าข้างหนึ่งตรงหน้าผม  ต้นขาของผมทั้งสองโดนจับให้ถ่างออกไปด้านข้างก่อนที่ส่วนอ่อนไหวที่ตั้งชูชันจะถูกครอบครองด้วยโพรงปากอุ่นร้อนเรียวลิ้นนั้นดุนดันส่วนหัวถี่จนผมหอบหายใจหนักหน่วงก่อนที่น้ำสีขาวขุ่นจะไหลออกมาจากส่วนปลายนั้นจนล้นขอบปากอีกคนออกมา

“อ่า!...อ้า~”

อาย…ผมแทบอยากจะแทรกแผ่นดินหนี ทั้งมีความสุข รู้สึกโล่ง ทั้งกลัวคนจะมาเห็นได้แต่ภาวนาขอให้ฝนตกอย่างนี้ไปนานๆ เนื้อตัวของผมขึ้นสีแดงระเรื่อ  อีกคนไม่ปล่อยให้ผมได้หยุดพักถึงนาทีเขาจับผมพลิกหันหน้าเข้ากำแพงก่อนที่มือหนาทั้งสองข้างจะจับเนินเนื้อนุ่มด้านหลังของผมแยกออกจากกันและเหมือนเดิมเขายังคงใช้ท่าไม้ตายด้วยการสอดปลายลิ้นเข้าไปในรูตรงกลางระหว่างภูเขาสองลูกนั้น

“อ่ะ โอ้ย! อ๊ะ อ๊ะ”  ผมร้องครางไม่เป็นภาษาไม่มีเรียวแรงจะยกมือขึ้นมาปิดเสียงนั้นอีกต่อไปได้แต่ปล่อยให้มันเป็นไปตามที่ควรจะเป็น  พลังงานในตัวผมโดนอีกคนสูบออกไปเรื่อยๆ แต่ถึงจะทรมานแค่ไหนผมก็ไม่อาจปฏิเสธได้ว่า…มันรู้สึกดีเหลือเกิน  เรียวลิ้นนั้นคล่องแคล่วจนน่าใจหาย ผมคิดว่าถ้าเขายังไม่หยุดแหย่มันเข้ามาผมอาจจะเสียวจนตายก็เป็นได้

“สะ…เสียว”

“อย่าเกร็ง”  ผมกำมือแน่นกับคำพูดที่ดูเหมือนจะเป็นคำสั่งมากกว่า  เสียงเขาทั้งทุ่มทั้งแหบผมสามารถบอกกับตัวเองได้ทันทีว่าผมชอบมันมาก มันทำให้ผมรู้สึกอบอุ่นจนรู้สึกปลอดภัยอย่างบอกไม่ถูก

“อ๊า~ อื้อ!”  ดูเหมือนอีกคนจะสอดนิ้วเข้ามาในตัวผม  ขาผมอ่อนแรกจนแทบจะยั้งไม่อยู่ ช่องทางของผมขมิบรัดสิ่งแปลกปลอมแน่นจนอีกคนขยับมันไม่ได้อย่างที่ตั้งใจ

“บอกแล้วไงว่าอย่าเกร็ง”  เขากระซิบที่ข้างหูผม มันไม่ง่ายเลยกับสิ่งที่อีกคนบอก  ผมพยายามแล้วแต่มันก็แน่นเกินไปจนในที่สุดขาของผมก็ทรุดลงนั่งคุกเขาโดยมีนิ้วกลางของอีกคนคาอยู่ ผมก้มลงมองที่จุดต้นเหตุนั้นผ่านหว่างขาทั้งสองข้างอีกคนยังไม่ยอมง่ายๆยังพยายามส่งนิ้วดันเข้ามาจนในที่สุดมันก็สำเร็จ

“เจ็บ!!!!”   ผมกรีดร้องจนสุดเสียง  เชิดหน้าขึ้นรับกับสายฝน มันขยับ! ผมกัดริมฝีปากตัวเองแน่นเมื่ออีกคนเริ่มขยับนิ้วเข้าออกในช่องทางจากช้าๆเนิบนาบกลับยิ่งเร็วขึ้นเรื่อยๆ

ผมหอบหายใจถี่เอาแก้มซบกับกำแพงโดนที่ไม่สนมันอีกต่อไปว่านั้นจะสกปรกแค่ไหน ผมอ่อนไปทั้งตัว…จนน้ำสีใสที่ผมกลั้นมันไว้มานานก็ฉีดพุ่งออกมากระทบกับกำแพง มันไม่หนืดเหมือนตอนแรกและมันใสกว่า

“หึ..แค่นี้ก็ฉี่แตกแล้วเหรอ”  คำพูดของอีกคนทำให้ผมเข้าใจว่าสิ่งนั้นคืออะไร ทำไมผมถึงได้ทำอะไรน่าอายขนาดนี้ ผมกัดริมฝีปากแน่นไม่รู้จะซ่อนความอายยังไงในเมื่อผมยังตกอยู่ในกำมือเขาอยู่แบบนี้

ช่องทางของผมถูกปล่อยให้เป็นอิสระแต่ทำไมผมถึงคิดว่ามันยังไม่จบ  ความกลัวเริ่มก่อตัวขึ้นเมื่อเสียงรูดซิบอีกคนดังขึ้น ผมพยายามหุบขาเข้าแต่อีกคนดันรู้ทันเขาใช่เข่าทั้งสองข้างตรึงขาผมไว้

“อ๊ะ!”  ไม่ใช่ มันไม่ใช่นิ้วมันเป็นอะไรที่ใหญ่กว่านั้นหลายเท่าและผมก็ไม่ได้อ่อนต่อโลกที่จะไม่รู้ว่าอะไรกำลังจะเกิดขึ้นหลังจากนี้ แท่งเนื้อร้อนกำลังถูไถอยู่กับช่องทางของผม ขนผมลุกชันไปทั้งตัวเรากำลังจะทำมันจริงๆเหรอ ผมจะยอมเขาจริงๆเหรอ…

“โอ้ย! เจ็บ!!!”  เป็นคำถามซึ่งดูไร้คำตอบเมื่ออีกคนดันแกนกายเข้ามาครั้งเดียวจนสุดความยาว  มันทรมานกว่าที่คิดไว้ทั้งๆที่คิดว่าจะรับมือกับมันได้แท้ๆ มันคงเป็นเพราะนี้เป็นครั้งแรกของผมมันถึงได้เจ็บขนาดนี้ และผมรับรู้ได้ว่าผนังด้านในนั้นคงฉีกไปแล้ว เลือดที่สดที่ถูกผสมกับน้ำฝนจนกลายเป็นสีแดงอ่อนไหลตามหว่างขาผมลงมานองกับพื้น

“ครั้งแรก?”  ผมหลับตาแน่นเมื่ออีกคนกำลังพยายามขยับส่วนนั้น ไม่รู้ที่ถามเพราะอยากรู้หรือถามเพื่อย้ำกันแน่ว่าผมกำลังจะเสียให้กับเขาเป็นคนแรก ดูเหมือนอีกคนจะพอใจมากกับบทรักครั้งนี้ สังเกตได้จากรอยยิ้มที่มุมปากนั้น

เขาทำสำเร็จ  แท่งเนื้อร้อนกำลังผลุบเข้าผลุบออกตามจังหวะการควบคุมของคนชำนาญงาน

“อ่ะ อ่ะ โอ้ย! อ๊ะ อ๊ะ”  ต่างจากผมที่ต้องทนรับกับแรงมากมายที่ถาโถมเข้ามาใส่ เขาไม่ยั้งมือเลย…แต่แปลกจากความเจ็บปวดตอนแรกที่ถูกแทรกเข้ามาเริ่มแปรเปลี่ยนเป็นความเสียวแบบที่ผมก็อธิบายไม่ถูก รู้แต่ว่ามันรู้สึกดีมาก มากจนต้องแอ่นก้นตามแท่งร้อนนั้น  ทุกจังหวะที่อีกคนมอบให้แทบทำให้ผมหลอมละลายได้ไม่อยาก เขาร้อนแรงเหลือเกิน…

ผมพยายามจะพลิกตัวเพื่อหันกลับไปมองหน้าเขาให้ชัดๆ  แต่อีกคนก็จับตัวผมยกขึ้นไปนั่งบนหน้าขาของเขาอย่างรู้งาน เขาเริ่มขยับต่อทันที และในตอนนั้นผมก็ได้เห็นใบหน้าเขาเต็มสองตา  ผมสีดำเข้มที่ลู่ตกแนบใบหน้าหล่อเหลานั้น ดวงตาที่สีไม่ต่างอะไรจากเส้นผมกำลังจังมองผมตอบเช่นกัน ผมใช้มือลูบไปตามใบหน้าอีกคนในขณะที่ร่างกายของเรายังเชื่อมต่อกันไม่ห่าง

จมูกโด่งที่คดนิดๆบริเวณสันรับกับริมฝีปากสีอ่อนนั้นโดยรวมแล้วผู้ชายคนนี้ดูดีเลยทีเดียว ผมก้มลงบดจูบกับเขาอีกครั้ง ซึ่งอีกคนก็ตอบสนองผมเป็นอย่างดี

“เป็นงานเร็วดีนิ”  ผมหน้าแดงกับคำพูดนั้น  ก่อนจะใช้มือขย้ำผมอีกคนไว้ในมือแน่นกดศีรษะเขาให้ใบหน้าแนบกับยอดอกที่ผมเด้งรออยู่

“อ๊อย อ๊า อ๊อย~”  ผมอยากจะกัดลิ้นตัวเองให้ขาดให้รู้แล้วรู้รอดไม่รู้เสียงพวกนี้มันหลุดออกมาจากกล่องเสียงได้ยังไง มันน่าอายแต่ผมก็ต้องยอมรับว่าผม…ชอบลิ้นเขามากแค่ไหน  ผมอยากให้มันดูดดุนไปรอบๆอยากให้ลากเลียไปตามตัวผมทุกซอกทุกผม เขากำลังทำให้ผมกระหาย

ผมเกร็งนิ้วเท้าทั้งสองข้างเข้าหากันแน่น มวลในท้องตีกันให้วุ้นวายไปหมดมันทั้งจุกทั้งเสียวในเวลาเดียวกัน มันเข้ามาลึกเกินไป   และ…

“อร๊างงงง!!!”ผมกระตุกเกร็งปลดปล่อยน้ำขุ่นข้นนั้นออกมาอีกครั้งเอนหน้าซบกับไหล่กว้าง  ผมรู้สึกชาไปทั้งตัวยามที่มีของเหลวบางอย่างที่ไม่ใช่ของผมฉีดพุ่งเข้ามา มันต้องเยอะมากแน่ๆ  เพราะมันจุกไปหมด

ผมรู้ว่ามันจะไม่จบลงง่ายๆตราบใดที่ฝนยังคงเป็นใจตกหนักอยู่ขนาดนี้  เมื่อครึ่งชั่วโมงที่แล้วผมยังจำได้ว่าวันนี้ที่บ้านมารับไม่ได้เพราะพ่อติดประชุมส่วนแม่ติดผ่าตัดคนไข้ที่โรงพยาบาลลุงคนขับรถที่บ้านก็ลาหยุดพักร้อนทำให้วันนี้ผมต้องจำใจขึ้นรถเมย์กลับบ้าน มันเป็นครั้งแรกที่ผมต้องทำอะไรแบบนี้ถึงแม้คนอื่นมันจะกลายเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันแต่สำหรับผมถือเป็นเรื่องแปลกใหม่ รวมทั้งการที่เดินตามคนแปลกหน้ามาโดยไม่ขัดขืนอะไรสักคำ แล้วเราก็มีอะไรกัน ถือเป็นครั้งแรก ครั้งแรกที่ผมได้พบกับความสุขแบบใหม่ที่ถูกมอบผ่านทางร่างกาย และนี่ก็เป็นครั้งแรกที่ผมได้สัมผัสกับผู้ชายที่ชื่อ ปาร์คชานยอล