ขอบคุณความบังเอิญ

6.3

เขียนโดย zeeto

วันที่ 7 กรกฎาคม พ.ศ. 2559 เวลา 22.36 น.

  17 ตอน
  0 วิจารณ์
  19.86K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 13 กรกฎาคม พ.ศ. 2559 22.14 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น

แชร์นิยายฟิคชั่น Share Share Share

 

16) บทสรุปความจริง (ตอนจบ)

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
ขนาดตัวอักษร เล็ก กลาง ใหญ่ ใหญ่มาก
          วันนี้ผมรีบแต่งตัวมาโรงเรียนแต่เช้าก่อนเวลานัดเพราะความจริงพวกผมกับเพื่อนๆนัดกัน
ตอนตีห้าครึ่งเพราะหกโมงเช้ากว่าพัทธ์จะมาถึงผมและทุกคนคงจัดการทุกอย่างสำเร็จเรื่องนี้ก็ต้อง
ขอบคุณเลศยาเช่นกันที่ยอมมาเล่นบทผู้หญิงที่พัทธ์ต้องส่งดอกไม้ให้แม้บางทีใจผมเองก็อดคิดไม่
ได้กลัวว่าพัทธ์จะกลับไปชอบเลศยาแบบเดิมแต่ไม่ได้ผมต้องเชื่อใจแล้วก็หมั่นใจในทุกอย่างที่ผม
จะทำซิขื่นมานั่งหึงแบบนี้พอดีแผนล่ม
"หาวววว...ไอ้ธัญทุกอย่างเรียบร้อยยังว่ะ?"
"เออๆเสร็จแล้วเดี่ยวกูไปรับพัทธ์ก่อนเดี๋ยวช้าผิดสังเกต" ผมรีบออกไปรับพัทธ์ที่บ้านมาโรงเรียน
พร้อมกันเพื่อไม่ให้ผิดสังเกต
"มาช้าจังเลยเดี๋ยวไปสายไอ้ดรันก็วีนหรอก"
"ขอโทษพอดีท้องเสียนิดหน่อยน่ะ" ผมแกล้งพูดไปเรืื่อยเปื่อยขื่นบอกไปว่าผมไม่ได้ท้องเสียแต่
เพราะไปจัดการแผนทั้งหมดที่โรงเรียนเลยมาช้าก็ซ่วยซิ
"แล้วกินยารึยังเดี๋ยวกูไปหยิบให้"
"ไม่ต้องหรอกๆเราดีขึ้นแล้วไปเถอะเดี๋ยวช้าน่ะ" ผมดึงข้อมือของพัทธ์ที่กำลังจะเดินไปหยิบยามา
ให้  ก่อนจะหยิบหมวกกันน๊อคสวมให้เหมือนกับทุกๆวัน
"โอเคไปกันเลยยยย" ผมขับรถคู่ใจมาตามเส้นทางเดิมจนมาถึงห้องแต่งตัวผมก็จัดการลากพัทธ์มา
อย่างเร่งด่วนเพราะก่อนจะเริ่มพิธีต้องซ้อมกันอีกรอบ ผมและทุกคนทำตามที่ซ้อมกันไว้อย่างพร้อม
เพียงส่วนพัทธ์ก็เล่นไปโดยไม่ได้เอ๊ะใจอะไรนานเท่าไรไม่รู้สัญญาณดังขึ้นบอกเวลาว่าตอนนี้แปด
โมงครึ่งแล้วคือทุกคนที่ไม่ใช่คนแสดงจะต้องไปที่หน้าเวทีหมดผมได้แต่นั่งลุ้นรอแค่เพียงเวลาที่จะ
ต้องขึ้นเวทีแสดงเท่านั้นเอง
"ขอคุยด้วยหน่อยดิ" อยู่ๆใครคนหนึ่งที่ผมไม่คิดว่าจะเข้ามาคุยด้วยก็มาพูดกับผมผมเงยหน้าขึ้นไป
มองเลศยาที่ยืนยิ้มอยู่ก่อนจะนั่งลงข้างๆ
"เธอมีอะไรจะพูดกับเราหรอศยา"
"นายไม่กลัวพัทธ์โกรธหรอที่อยู่ๆจะทำแบบที่เราวางแผนกันไว้อ่ะ"
"กลัว...แต่ถ้าไม่พูดหรือทำอะไรซักอย่างฉันกลัวมากกว่า"
"ก็นั้นซิเนอะนายแอบชอบพัทธ์มาตั้งสองปีกว่า"
"ห่ะ?....เธอรู้เรื่องนี้ได้ไง" ผมหันไปถามเลศยาที่นั่งอยู่ข้างๆ
"นายแอบมองพัทธ์ตลอดไม่รู้ซิแปลก  ฉันเห็นนายย่องตามพัทธ์บ้างแอบถ่ายรูปพัทธ์บ้างรึว่าไงฉัน
คิดไปเองหรอ?" 
"นี่เธอ..."
"แล้วก็วันที่พัทธ์ยื่นช่อดอกไม้ให้ฉันคิดหรอว่าฉันไม่รู้ว่านายตั้งใจ  ก็ฉันเดินอยู่ดีๆนายที่ตามหลังฉัน
มาพอเห็นพัทธ์  ก็ทำทีเดินกระแทกฉันกระเด็นเข้าห้องไปแบบนั้น ฉันจะด่าขัดรึก็ใช่เรื่องสู้รอดูอะไร
ฟินๆดีกว่า"
"เออ..นี่เธอ..รู้มาตลอดเลยหรอ?"
"แน่นอนซิย่ะฉันสาววายมีหรอเรด้านายกระดิกส่งสัญญาณขนาดนั้นฉันจะไม่รู้ เอาล่ะฉันไปก่อนน่ะไว้
เจอกันบนเวที" เลศยาลุกออกไปผมแทบเรียกสติกลับไม่ทันไม่คิดว่าคนอย่างเลศยาจะรู้อะไรเกี่ยว
กับพวกผมขนาดนี้ก็ปกติเธอดูเรียบร้อยไม่ค่อยสนใจใครนี่น๊า....
 
          ผมเดินท่องบทไปมาก่อนจะเดินวนกลับไปมาซ้ำแล้วซ้ำเล่าเฮ้อออ...ที่จริงก็ไม่มีอะไรหรอก
ผมคิดว่าบทและคำพูดผมจำมันได้ตั้งแต่อ่านรอบแรกแล้ว  เพียงแต่อาจจะตื่นเต้นก็เท่านั้นเองแต่ก็
แปลกยิ่งอ่านก็ยิ่งคุ้น ช่างเถอะ ....ผมเดินไปวางบทไว้ที่โต๊ะก่อนจะเดินไปหาน้ำดื่ม
"ไอ้ดรันอีกกี่นาทีว่ะ" ผมกำลังกดน้ำใส่แก้วหันไปหาไอ้ดรันที่นั่งอยู่ข้างๆก่อนจะถามอย่างสงสัยก็
ตอนนี้มันสิบโมงแล้วเมื่อไหร่ล่ะที่ผมจะต้องขึ้นแสดงเรียกให้มาตั้งแต่ไก่โฮแต่ยังไม่ได้แสดงซักที
ผมง่วงนอนเหมือนกันน่ะ
"อีกสิบนาทีหน้าจะได้รอ ผอ. กล่าวเสร็จนี่แหล่ะ" ไอ้ดรันตอบผมสั้นๆก่อนจะหันไปสนใจอย่างอื่น
ต่อ ผมเดินกลับมานั่งรอเหมือนเดิมปากก้หาวนอนเรื่อยๆ ก็ผมตื่นมาอาบน้ำตั้งแต่ตีห้ารอไอ้ธัญมารับ
กว่าจะถึงโรงเรียนตามที่นัดไว้หกโมงเช้าแบบนี้ไม่ง่วงก็แปลกแล้ว
"ง่วงหรอ?" ระหว่างที่กำลังสะลึมสะลือคนที่ผมพึ่งคิดถึงก็มานั่งข้างๆทันที
"อ้าวไอ้ธัญ..มึงไปไหนมา..หาวววว"
"ไปห้องน้ำ..นอนก่อนก็ได้น่ะถึงเวลาแสดงเดี๋ยวเราปลุก" พัทธ์ค่อยๆจับให้หัวของผมพิงที่ไหล่ของ
มันเบาๆผมก็ไม่ได้ปฏิเสธอะไรก่อนจะค่อยๆหลับตาลงช้าๆ
"ไอ้ธัญ  มึงล่ะไม่ง่วงบ้างหรอเมื่อเช้าก็ท้องเสียไม่ใช่รึไง?"
"อ๋อ...ไม่ล่ะเราดีขึ้นเยอะแล้ว"
"ดีจังเป็นมึงเนี้ย...ปลุกกูด้วยน่ะถ้าถึงเวลากูขอนอนก่อนน่ะ" ผมบ่นพึมพร่ำเบาๆแต่ที่ผมรู้สึกได้ว่า
คนที่ผมนอนพิงไหลอยู่หันมาจูบที่หน้าผากของผมเบาๆผมได้แต่อมยิ้มกับความรู้สึกนี้จริงๆอบอุ่นยัง
ไงก็บอกไม่ถูก
 
          พอทุกอย่างเสร็จจากที่ท่าน ผอ.กล่าวให้โอวาทเสร็จพวกผมก็ขึ้นแสดงตามที่ซ้อมกันไว้   พัทธ์ก็เล่นเป็นปกติไม่มีอะไรที่เอ๊ะใจ  พวกผมก็เล่นตามกันไปจนใกล้จะถึงตอนจบของเรื่องแล้วที่
จะต้องเฉลยความจริงทั้งหมดให้กับพัทธ์ได้รู้  แม้ในใจผมจะหวั่นๆแต่ถ้าไม่ทำแบบนี้ผมจะกล้าบอก
พัทธ์ได้ไงเอาว่ะ พัทธ์เดินถือช่อดอกไม้มาแล้ว ตามแผนเลศยาก็เดินนำหน้าของผมออกมา 
"ผมชอบคุณมานานแล้วช่วยรับช่อดอกไม้ของผมด้วยครับ" เสียงที่วีดวายตามมาด้วยผมที่เดิน
กระแทกเลศยาจนกระเด็นเข้าไปในห้องเรียนทันที ตอนนี้พัทธ์เหมือนรู้ตัวแล้วว่าเกิดอะไรขึ้นแต่ก็ยัง
คงทำหน้านิ่งๆแต่ก็มองผมอย่างสงสัยว่าจะทำอะไรต่อเหมือนเดิม ผมก็เล่นไปตามที่เคยเกิดขึ้น
"นายให้ฉันหรอ...เซอร์ไพสุดๆ" ผมเอื้อมมือไปรับช่อดอกไม้ขึ้นมาพร้อมกับยิ้มให้คนตรงหน้า
"คือฉัน..คือ" 
"สวัสดีเราชื่อพัทธ์น่ะเราชอบเธอมาสองปีแล้วอีกไม่กี่วันเราก็จบการศึกษาเรากลัวจะไม่ได้บอกความ
ในใจกับเธอ วันนี้เราเลยรวบรวมความกล้าทั้งหมดเพื่อสารภาพความในใจหวังว่าเธอจะไม่รังเกลียด
เรา"  ผมให้ไอ้ปรานต์ที่เป็นคนไปซื้อช่อดอกไม้มาจัดการเขียนข้อความไว้โดยที่พัทธ์ไม่รู้เพราะทุก
คนพึ่งส่งช่อดอกไม้ให้หลังจากที่จะขึ้นมาเล่นฉากนี้ พัทธ์ค่อยๆหันมามองหน้าผมอย่างตกใจจนลืม
ไปว่ากำลังแสดงอยู่ ซึ่งมันก็เข้าแผนที่พวกผมเตรียมกันไว้ทั้งหมด
"จำได้รึยัง?" ผมถามพัทธ์ขึ้น
"มึงหมายความว่าไงไอ้ธัญ"
"วันแรกที่เราเจอกันเมื่อสองปีก่อนนายเป็นคนวิ่งมาซ้อมท้ายเวทป้าเรา หลังจากนั้นพัทธ์ก็ชอบทำ
ตัวแปลกๆกับเรา แต่พัทธ์จำไม่ได้เอง" เหมือนลำดับความคิดทั้งหมดของพัทธ์เริ่มทำงานคนที่ฟัง
เริ่มเข้าใจเรืื่องทั้งหมดแล้ว
"ที่มึงให้กูมาเล่นนี่เพราะต้องการทำให้กู...."
"ใช่เราต้องการทำให้ได้จำได้ว่าเราเคยเจอกันมานานแล้วเราชอบนายมาสองปีกว่าทุกอย่างมันเป็น
เรื่องบังเอิญที่เกิดจากความไม่บังเอิญที่เราสร้างขึ้น"
"มึงหมายความว่า..."
"ใช่เราชอบพัทธ์ แล้วก็ เรารักพัทธ์มาสองปีแล้ว"
"แล้วเมื่อกี้ที่มึงเดินกระแทกศยาเข้าไปหมายความว่า?"
"ใช่วันนั้นที่นายส่งช่อดอกไม้ผิดก็เพราะเราเดินกระแทกศยาเข้าไปเราตั้งใจที่จะให้ศยาหลบ
ทางออกไปก่อนที่พัทธ์จะเงยหน้าขึ้นมาเพราะเรารู้ว่าพัทธ์ไม่กล้ามองหน้าศยาตรงๆ เราเลยถือ
โอกาสทั้งหมดทำขึ้นมาเอง"
"แบบนี้ก็แปลว่ามึงไม่ได้แกล้ง.."
"ใช่เราไม่เคยแกล้งเพราะอยากให้พัทธ์อายใคร  แต่เราทำเพราะเราอยากให้โอกาสกับตัวเองได้คบ
กับพัทธ์ แล้วพัทธ์ล่ะตกลงจะเชื่อใจเราได้รึยัง" ผมพูดจบแม้ตอนนี้จะรู้สึกอายไม่ต่างแต่จะให้ถอย
ตอนนี้ก็คงไม่ทันแล้วผมมองหน้าคนตรงหน้าก่อนจะถามซ้ำอีกครั้ง
"ตกลงพัทธ์จะเชื่อใจเรารึยัง อีกอย่างพ่อแม่ของพัทธ์ก็..."
"เฮ้ยยย...ไอ้ธัญอย่าพูดเรื่องนี้น่ะ" พัทธ์กระโดดเอามือขึ้นปิดปากผมทันทีเพราะผมเผลอพูดเรื่องที่
พ่อแม่ของพัทธ์นุญาตและสนับสนุนมันให้มาเป็นลูกเขย  ผมค่อยๆพยักหน้าก่อนจะแกะมือพัทธ์
ออกจากปากมาจับไว้ ท่ามกลางเสียงกรี๊ดกร๊าด ของคนชมทำให้พัทธ์หน้าแดงไปถึงใบหูยิ่งเพิ่ม
ความน่ารักไปใหญ่
"ว่าไงตกลงเชื่อเรารึยัง?"
"ไม่..."
"อ้าว...ทำไมอีกล่ะนี่เรายอมรับทุกอย่างหมดแล้วน่ะ"
"อีกสองวันค่อยบอก" คนดูข้างล่างที่ปรบมือกันดังสนั่นจะมีซักกี่คนที่รู้ว่าเรื่องบนเวทีไม่ใช่ละครแต่
เป็นการแสดงจริงจากความรู้สึกจริงๆของผมกับพัทธ์บ้างน่ะ อันนี้ไว้ก่อนเถอะแต่พัทธ์นี่ซิขอเวลาอีกสองวันนี้ผมต้องรออีกสองวันหรือเนี้ยยยยยยย
 
          "โห่ไอ้ธัญนี่กูไม่เคยรู้มาก่อนเลยน่ะว่ามึงเป็นคนร้ายกาจขนาดนี้ไม่เห็นบอกพวกกูเลยว่า
ความจริงเรื่องดอกไม้มึงเป็นคนแย้งศยาแบบเนียนๆ" ผมทักไอ้ธัญที่ลงมาจากเวทีแบบหน้าตาละลื่น
จนหน้าหมั่นไส้
"ใช่ไม่เห็นมึงบอกเลยเรื่องนี้" ดีมากดรันที่เข้าข้างแฟน ผมหันไปยิ้มให้ดรันที่ยืนอยู่ข้างๆ
"เออๆขอโทษที่ไม่ได้บอกก็ตอนแรกว่าจะไม่พูดเรื่องนี้เหมือนกันแต่พอดีว่า..."
"พอดีว่าฉันไปพูดกับนาย  นายเลยยอมบอกว่าเรื่องบังเอิญเป็นสิ่งที่นายสร้างขึ้นใช่ไหม?"
"ใช่...ยังไงฉันก็ขอโทษด้วยน่ะศยา"
"ไม่เป็นไรฉันไม่ซีเรียสไปก่อนน่ะพอดีนัดกับแฟนไว้"
"ห่ะ...เธอมีแฟนด้วยหรอ?"
"แน่นอนซิ..นู้นไงมานู้นแล้ว" พวกผมพากันหันไปมองตามมือของเลศยาที่ชี้แต่ที่ทำให้ตกใจมาก
โดยเฉพาะกับพัทธ์ก็เพราะคนที่เลศยาเรียกว่าแฟนกลายเป็น
"สวัสดีพี่เขย พี่พัทธ์ พี่ปรานต์ พี่ดรัน" 
"น้องเม/น้องเม/น้องเม/น้องเม" พวกผมพูดออกมาพร้อมกันอย่างตกใจก็จะไม่ตกใจได้ไงน้องเม
เป็นลูกพี่ลูกน้องของพัทธ์แถมรู้ว่าพัทธ์แอบปลื้มแฟนตัวเองมาตั้งนานแต่ก็ไม่บอกว่าเป็นแฟนกับ
เลศยาผมเองไปคุมทีมเชียร์บ่อยๆยังไม่รู้เหมือนกัน
"ไปกันเถอะน้องเมวันนี้พี่เลี้ยงหนมเอง"
"ค่ะพี่ศยา.." สองคนเดินโอบกันไปต่อหน้าต่อตาของผมทั้งสีที่ทำได้เพียงแต่ยืนมองอย่างงงๆไป
ตามๆกัน
"ไอ้ธัญกูกลับบ้านก่อนน่ะ" ผมหันไปบอกไอ้ธัญกับพัทธ์ที่ยืนอยู่ข้างๆกันก่อนจะหันไปสะกิดให้ไอ
ดรันให้รู้ตัวก่อนจะเดินตามผมออกมาจากห้องประชุม
"มึงงงง..."
".ว่าไง"
"กูหิวอ่ะ"
"นั้นไงเหมือนที่คิดไว้ไม่มีผิดอยากกินไรล่ะ"
"อะไรก็ได้มึงทำให้กินหน่อยน่ะๆๆๆ...อยากกินฝีมือมึงอ่ะ"
"ก็ได้นี่ไม่รักจริงไม่ทำให้กินหรอกน่ะ"
"ดีมากน่ารักที่สุดแบบนี้ซิ..."
"แบบนี้ซิ?...มึงหมายความว่าไง?"
"ทำอะไรให้กินก่อนเดี๋ยวจะบอก"
"ได้...ถ้ามึงแกล้งกูอีกโดนดีแน่"
"กลัวตายเลย." เฮ้ออออ เจอแบบนี้ก็ยอมตามเคยไอ้ปรานต์เอ้ยยยยยย
 
 
 
 
THE END

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
7 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
4 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
8 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา