我的爸爸 MarkBam

-

วันที่ 21 เมษายน พ.ศ. 2559 เวลา 18.00 น.

  6 ตอน
  1 วิจารณ์
  8,983 อ่าน

แก้ไขเมื่อ 2 เมษายน พ.ศ. 2560 16.05 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น

แชร์นิยายฟิคชั่น Share Share Share

 

4) อดีต

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

 

 

我的爸爸|อดีต|

 

ผมนอนมองเพดานอย่างเหมอลอย อยากจะหนีไปซะให้พ้นๆจากที่นี่ แต่ไม่ใช่ว่าไม่เคยคิดจะหนี ผมหลับตานึกถึงอดีตที่เคยเกิด มันยังคงหวนมาทำให้คิดถึงอยู่ซ้ำๆ
.
.
.
“พะ..พวกนายเราขอเล่นด้วยได้ไหม ระ..เรา”ผมในวัย8ขวบมองชายร่างอ้วนกับเด็กรุ่นเดียวกันอีกสองสามคนชายตัวอ้วนเดินเข้ามาใกล้ผม

 


“พวกเรา แม่เราบอกว่าไอ้เด็กนี่มันไม่มีพ่อ แม่ อย่าไปเล่นกับมัน” เสียงชายสูงบอกเพื่อนในกลุ่ม ทำให้ชายร่างอ้วนที่เดินเข้ามาใกล้ผมผลักผมลงพื้น

 


“ออกไปซะ ฉันไม่อยากเล่นกับนาย นายมันลูกไม่มีพ่อแม่ พวกเราไล่มัน” ชายร่างอ้วนสั่งลูกสมุน ก่อนพวกนั้นจะขว้างปาก้อนหินใส่ผม

 


“อึกก อืออ~ เรามีพ่อแม่นะ อึก คุณยายบอกว่า คุณพ่อกับคุณแม่จะมารับเรา อืออ” ผมปิดหน้าร้องไห้ ในใจได้แต่คิดว่าแค่ไม่มีพ่อแม่ต้องไล่กันแบบนี้เลยเหรอ

 


“อย่าไปเชื่อมัน มันโกหก แม่เราบอกว่ายายณีเก็บมันมาเลี้ยง ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าพ่อแม่มันเป็นใคร ปาใส่มัน ” เด็กร่างสูงยังไม่หยุด นั้นทำให้ผมเริ่มทนไม่ไหวต้องวิ่งหนีกลับบ้าน


“น้องแบมกลับมาแล้วเหรอลูก ว้ายยนั้นเนื้อตัวไปโดนอะไรมาล่ะลูก เจ็บหรือเปล่า หรือไอ้เด็กเวรพวกนั้นมันแกล้งบอกยายมา ยายจะไปเอาเรื่องมัน”

 

“อย่าครับ ผมไม่ได้เป็นอะไร เออผม..ผมหกล้มเองครับ พวกนั้นไม่ได้ทำอะไร” ผมแก้ตัวออกไปเพราะกลัวว่ามันจะเป็นเรื่องเป็นราว


“ก็เพราะหลานยายเป็นแบบนี้ไง มาเดี๋ยวยายทำแผลให้”
คุณยายทำแผลให้ผมอย่างเบามือ ผมมองหน้าคุณยายหลายรอบก่อนจะตัดสินใจถามออกไป

 


“คุณยายครับ พ่อแม่เขาไม่รักผมเหรอครับ ผมรอท่านนานแล้วนะ ทำไมท่านไม่มาหาผมซักที”

 


“จำไว้นะแบมแบม พ่อแม่น่ะท่านรักเราทุกคนนั้นแหละ แต่ที่ท่านไม่ได้อยู่กับเราไม่ใช่ว่าจะไม่รัก แต่บางครั้งท่านจำเป็น”

 


“ท่านจำเป็นเหรอครับ พ่อแม่ผมจำเป็นอะไรถึงทิ้งผมไป หรือจริงๆแล้วยายก็ไม่รู้ใช่ไหมครับว่าพ่อแม่ผมเป็นใคร ยายถึงเอาแต่บอกว่าซักวันพ่อแม่จะมารับผม ยายโกหกให้ผมได้แต่ฝันเพ้อเจ้อใช่ไหมครับ ว่าผมมีพ่อแม่”

ผมบอกความรู้สึกตัวเองออกไปโดยไม่ได้สนใจความรู้สึกของผู้เป็นยายเลย ผมเดินเข้าห้องตัวเองไปก่อนจะล็อคประตูเสร็จสรรพ ผมทิ้งตัวลงนอนฝูกเก่าๆแล้วปล่อยให้น้ำตามันไหลออกมา


ก๊อก ก๊อก ก๊อก


“แบมลูกเปิดประตูให้ยายได้ไหมลูก”


“…”


“ยายรู้ว่าแบมอยากมีพ่อแม่ ถึงแม้ว่าพวกเขาจะไม่ต้องการหนู แต่หนูรู้ไหมว่าหนูคือทุกอย่างในชีวิตของยาย ยายรักหนูนะลูก”


“…”


“ไม่เป็นไร ยายว่าแบมยังไม่อยากคุยกับยาย เดี๋ยวยายออกไปขายของก่อนนะลูก เดี๋ยวยายกลับมา”


เสียงคุณยายเงียบลง ผมได้แต่กัดปากตัวเองแน่น ทำไมผมถึงเอาแต่ใจแบบนี้ ทำไมผมต้องทำให้คุณยายเสียใจกับผม คุณยายท่านอุตส่าห์เลี้ยงดูผมมา คุณยายต้องขายของเอาเงินมาให้ผมใช้ แต่คนพวกนั้นเขาไม่ได้สนใจผมเลย ทำไมผมถึงได้แต่เรียกร้องหาเขากัน ในใจผมคิดแต่โทษตัวเอง จนในที่สุดผมก็ตัดสินใจได้ว่า ถ้าคุณยายมาผมจะขอโทษคุณยายแต่แล้ว


“ไอ้หนู เอ้ย ไอ้หนู อยู่บ้านหรือเปล่า” เสียงหญิงวัยชราเรียกผมจากทางหน้าบ้าน ทำให้ผมต้องรีบเปิดประตูออกไปดู ยายดาคุณยายที่ขายของในตลาด เรียกผมด้วยท่าทางกระวนกระวาย

 


“มีอะไรหรือเปล่าครับ”


“รีบไปโรงบาลเร็ว ไอ้หนู ตอนนี้ยายเอ็ง ยายเอ็งโดนรถชน ไปเร็ว ไอ้หนูเดี๋ยวข้าให้ตาจัน ไปส่ง” ผมเบิกตากว้าง หัวใจหล่นไปอยู่ที่ตาตุ่ม ในหัวสับสนไปหมด เมื่อมาถึงโรงพยาบาล ผมเห็นชายวัยรุ่นสองคนนั่งอยู่ หน้าห้องฉุกเฉิน ยายผมจะอยู่ในนั้นใช่ไหม


“ยายเอ็งอยู่ในนั้น ไอ้หนู นั่งรออยู่ข้างนอกนะเดี๋ยวยายเอ็งก็ออกมาแล้ว ไม่เป็นไรนะลูก” ยายดาปลอบผม ผมมองห้องที่มีประตูกั้นอยู่ คุณยายผมจะอยู่ในนั้นจริงๆเหรอ คุณยายผมจะเจ็บไหม มันเป็นเพราะผมหรือเปล่า ผมยังไม่ได้ขอโทษคุณยายเลย น้ำตาผมไหลออกมาอย่างเก็บกั้นไม่อยู่


“อึก อือออ ยายจะไม่เป็นไรใช่ไหมครับ ยายจะปลอดภัยใช่ไหมครับ อึกก ผะ..ผมกลัวยาย ยายจะไม่เป็นไรใช่ไหมอ๊าา อืออ”

ผมได้แต่ถามยายดา ให้มั่นใจว่ายายผมจะปลอดภัย ไม่นานนักคุณหมอก็ออกมา


“เออ ใครเป็นญาติคนไข้ครับ”


“ผมเป็นหลานครับ คุณหมอ”


“หมอช่วยอย่างเต็มที่แล้วนะครับ แต่เราไม่สามารถช่วยชีวิตคนไข้ไว้ได้”


เหมือนทุกอย่างบนโลกใบนี้ของผมจบสิ้น คุณยายของผมท่านไม่อยู่ด้วยแล้ว ผมภาวนาให้เรื่องทั้งหมดนี้เป็นความฝัน แต่ถ้าเป็นความฝันคงจะเป็นฝันร้ายที่สุดในชีวิต


“ขอโทษนะครับ ไม่ทราบว่าใครเป็นคนขับรถชนคนเจ็บขับ” นายตำรวจนายหนึ่งเดินมา ทำให้ผมหันไปมองด้วยความสงสัย


“ผมเองครับคุณตำรวจ”


“ผมขอเชิญคุณสองคนไปให้ปากคำที่โรงพักด้วยครับ”

ชายหนุ่มวัยรุ่นสองคนเดินออกไปตามตำรวจ คนนั้นเหรอที่ขับรถชนคุณยาย ผมได้แต่คิดในใจ
ซักพักคุณพยาบาลก็ให้ญาติเข้าไปดูคุณยาย ผมเดินเข้าไปหาร่างคุณยายที่ถูกเข็ญออกมาจากห้องผ่าตัด ผมได้แต่กอดคุณยายไว้แน่น


“คุณยายครับ คุณยายตื่นขึ้นมาสิครับ ผมขอโทษนะครับที่พูดไม่ดีกับคุณยาย ผมอยากมีพ่อแม่แล้ว ผมอยากให้คุณยายตื่นขึ้นมา คุณยายตื่นขึ้นมาคุยกับผมนะครับ”


“แบมเอ้ย ยายเอ็งไปดีแล้วลูกทำใจให้สบายเถอะ ป่ะยายว่าเรากลับบ้านกันดีกว่า ต้องเตรียมของอีกหลายอย่างไปเถอะลูก” คุณยายดาปลอบผมอยู่ห่างๆ


“อึกก ไม่เอา ผมจะอยู่กลับคุณยาย คุณยายตื่นเถอะนะครับ คุณยายโกรธผมเหรอครับ คุณยายหายโกรธผมนะครับ ผมอือออ” ผมร้องไห้ไม่หยุด ยาดาดึงผมออกจากร่างคุณยายเข้ามากอด รถเข็ญของคุณยายถูกเคลื่อนออกไป


ซักพักยายดาก็พาผมกลับบ้าน ยายดาบอกว่าวันพรุ่งนี้จะมารับศพของคุณยายไปทำพิธีให้ถูกต้อง เมื่อกลับมาถึงบ้านที่เงียบสนิท ผมมองไปรอบๆบ้านไม้เก่าๆชั้นเดียวที่ผมกับคุณยายเคยอยู่ บ้านที่เต็มไปด้วยความรัก ต่อไปนี้มันไม่มีอีกแล้ว ผมไม่รู้ว่าต่อไปนี้ชีวิตผมจะเป็นยังไง ทำไมทำไมคุณยายต้องทิ้งผม หรือว่าผมนิสัยไม่ดี คุณยายถึงไม่อยู่กับผมกัน


ยายดาอาสามานอนอยู่เป็นเพื่อนผมในคืนนี้ คืนที่โหดร้ายที่สุดในชีวิตผม ผมจัดการธุระตัวเองเสร็จสรรพก่อนรีบเข้านอน พยายามข่มตาหลับหวังแต่เพียงว่าถ้าตื่นขึ้นมาแล้วเรื่องที่เกิดขึ้นมันจะเป็นความฝัน


ตอนเช้าที่ผมลืมตาตื่นมาด้วยความอ้างว้าง ในใจโหว่งๆแต่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมันยังตรอกย้ำในใจผมอยู่ตลอดเวลา


“ไอ้หนูตื่นแล้วเหรอลูก ป่ะรีบอาบน้ำอาบท่า เอ็งไปหารูปยายมาด้วยนะ แล้วก็หาชุดที่สวยที่สุดที่ยายเอ็งชอบมา เดี๋ยววันนี้เราจะไปรับยายเอ็งกัน แล้วเดี๋ยวยายคงต้องไปติดต่อกับทางวัดไว้”


ผมเข้าไปอาบน้ำในห้องน้ำอยู่นานกว่าจะอาบเสร็จ ผมเดินออกมาด้วยใจทุกข์ๆ ก่อนเข้าไปในห้องของยาย น้ำตาก็ไหลออกมาอีกครั้ง ผมหาชุดที่ยายบ่นว่าชอบนักชอบหนาออกมากอดเอาไว้


ไม่นานตาจันก็พาผมไปโรงพยาบาล ผมมองดูยายที่ยังคงนอนนิ่งอยู่บนเตียง


“เอาไอ้หนู เอ็งเอาผ้าสะอาดเช็ดหน้าให้ยายเอ็งซะ เดี๋ยวขาจะช่วยเปลี่ยนชุดเอง”ผมพยักก่อนจะบรรจงเช็ดหน้าผู้เป็นยาย


“ยายณีเอ๋ย เอ็งไม่ต้องห่วงหลานเอ็งหลอกนะ ไปให้สบายซะ ไอ้หนุ่มคนนั้นเขาจะดูแลหลานเอ็งเอง ไม่ต้องเป็นห่วงนะ ” ยายดาพูดบอกยายของผม ซึ่งผมก็ไม่ค่อยเข้าใจเท่าไหร่ ก่อนจะช่วยกันเปลี่ยนเสื้อผ้า


“เดี๋ยวสักพักจะมีรถมารับศพไปนะคะ ขอให้ญาติรอสักครู่นะคะ” พยาบาลสาวพูดด้วยท่าทียิ้มแย้ม ก่อนจะเดินออกไป ยายดาให้ผมกับตาจันล่วงหน้าไปวัดก่อน


พอมาถึงศาลาวัดผมก็อดแปลกใจไม่ได้ ว่าทำไมถึงถูกตกแต่งอย่างดีทั้งๆที่ยายผมหรือยายดาก็ไม่ค่อยจะมีเงินกัน

ผมเดินเข้าไปนั่งในศาลาก็เห็นชายหนุ่มสองคนที่เคยเจอเมื่อวานที่ท่าทางนั่งอยู่ก่อนแล้ว


“ไอ้หนู เป็นหลานของคนตายใช่ไหม” ผมพยักหน้าตอบ
“มานั่งนี้ก่อนสิ คือพวกพี่ต้องขอโทษเราด้วยนะ พวกพี่ไม่ได้ตั้งใจให้มันเกิดขึ้น แต่ไม่ต้องเป็นห่วงนะพวกพี่จะรับผิดชอบเอง มึงพูดบ้างซิว่ะ ” พี่ชายที่ใส่หมวกพูดขึ้น ผมได้แต่ยิ้มเห่ยๆกับไปให้


“เราชื่ออะไรล่ะ” พี่ชายตัวสูงที่ถูกเพื่อนทาบทามให้พูดถามผมขึ้น


“ผม…ผมชื่อแบมแบมครับ”


“เออ แล้วเราอยู่กับยายแค่สองคนเหรอ”ผมพยักหน้าตอบพี่ชายตัวสูง


“จบงานศพ เราไปอยู่กับพี่นะ พี่จะรับผิดชอบเราเอง พี่จะเป็นพ่อให้เราเอง” ผมอึ้งกับชายตัวสูงหน้านิ่ง ผมไม่รู้ว่าเขาพูดจริงหรือเปล่า


“พี่ชื่อมาร์คนะ ต่อไปนี้เราต้องเรียกพี่ว่าพ่อแทน เข้าใจไหมครับแบมแบม เข้าใจแล้วใช่ไหม”


“ผะ..ผม เออ..”


“เรียกพี่ว่าพ่อสิ”


“คะ..ครับ พอ..พ่อ”


ผมมองคนตัวสูงที่ยิ้มให้ผมอย่างอ่อนโยน ถึงแม้ว่าพี่เขาจะเป็นเหมือนคนที่ดึงฉุดผมออกมา แต่เขาก็เป็นคนขับรถชนยายผมไม่ใช่หรือไง


“เราอาจจะคิดว่าที่พี่เอ้ยไม่ใช่สิ พ่อมารับเราไปเลี้ยงนั้นเป็นเพราะว่าพี่ขับรถชนยายเรา แต่นั้นก็เป็นส่วนหนึ่ง แต่จริงๆแล้วพ่อก็กำลังตามหาเด็กคนหนึ่งอยู่เหมือนกัน แต่พ่อก็เริ่มสงสัยแล้วเหมือนกันว่าจริงๆแล้วเราเป็นเด็กคนนั้นที่พ่อตามหาหรือเปล่า”


“…”


“ถ้าใช่มันคงจะบังเอิญมากเลยรู้ไหม”

 


 

 

 

 

 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา