[Fic Vampire Knight] รัตติกาลสีเงิน
-
เขียนโดย เจ้าหนอน
วันที่ 21 มีนาคม พ.ศ. 2559 เวลา 21.49 น.
15 รัตติกาล
5 วิจารณ์
38.25K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 8 กรกฎาคม พ.ศ. 2562 13.48 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น
5) หลงใหล
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ เที่ยงคืน
เดิมทีตอนนี้เป็นเวลาที่เขาต้องเข้าเรียน แต่กลับกลายเป็นว่าเขาต้องย่องเข้าห้องของตัวเองแทน
เพราะหายหน้าไปเกือบสองวัน เซโร่ค่อนข้างมั่นใจว่าเขาจะโดนอะไรบ้างจากเจ้านายจอมเผด็จการ แม้ว่าตอนนี้ห้องนอนจะเงียบเชียบเพราะรูทเมทของเขาไปเรียนแล้วก็ตาม
เซโร่ปีนหน้าต่างเข้ามาในห้องทางเดียวกับที่เขาใช้หนีก่อนหน้านี้ ฝีเท้านั่นเงียบกริบดุจแมว แต่ถึงอย่างนั้น......
"ดูเหมือนใครบางคนที่แอบหนีเที่ยวจะกลับมาแล้ว"
เสียงของนายเหนือตระกูลคุรันดังขึ้นอย่างราบเรียบ น้ำเสียงเย็นยะเยือกถึงแม้เป็นเซโร่เองก็ยังเสียวสันหลังวาบ
ลืมไปเลยว่าตอนนี้พักเที่ยง.....!!
"รู้ก็ดีว่าหนีจะได้ไม่ต้องบอก"
แต่เซโร่ก็ยังเป็นเซโร่อยู่วันยังค่ำ แม้จะโดนดวงตาสีแดงเข้มจ้องมองเซโร่ก็หาได้สำนึกผิดไม่
"ผมไม่ได้บอกเธอหรอว่าห้ามออกจากห้อง"
"ใครจะไปรู้"
เซโร่กวนประสาท ร่างโปร่งเดินไปที่เตียงก่อนที่จะถอดเสื้อโค้ทแขวนเอาไว้ นายเหนือแวมไพร์ทำเพียงจ้องมองการกระทำของร่างโปร่งเท่านั้น
"ดื่มเลือดของน้องชายมาอีกแล้วงั้นหรอ?"
คำถามที่เหมือนไม่ต้องการคำตอบดังขึ้น เซโร่ชะงักมือที่กำลังปลดปืนแต่ก็เก็บอาการเอาไว้และไม่คิดที่จะตอบอะไรกลับไป
แค่เห็นปฏิกิริยาร่างสูงก็รู้ว่าเขาเดาถูก จริงอยู่ที่เขาให้เซโร่ดื่มเลือดไปบ้างแล้วแต่ก็ยังน้อยเกินกว่าที่จะดับความกระหายได้ ถ้าบังคับให้ดื่มก็รั้งแต่จะทำให้คนหัวรั้นเกลียดเขามากขึ้น ถ้าอย่างนั้น.....
พรึบ!
เร็วเท่าความคิด ร่างโปร่งของเซโร่ถูกนายเหนือแวมไพร์รวบตัวเอาไว้จากด้านหลัง ดวงตาสีม่วงเบิกกว้างเพราะความตกใจ ดวงตาสีแดงเข้มหรี่ลงเล็กน้อย มือหนาบีบเข้าที่ลำคอขาวแผ่วเบาแต่มันก็แรงพอจะทำให้คนในอ้อมแขนส่งเสียงร้องได้
"อึก!"
"คิิดจะทำร้ายน้องชายไปจนถึงเมื่อไหร่ คิิริว เซโร่ เธอจะเห็นแก่ตัวไปถึงไหน?"
มือหนาคลายแรงบีบลงแต่ก็ยังคงสาละวนอยู่กับลำคอระหง กลิ่นน้ำหอมอ่อนๆจากร่างโปร่งทำให้ร่างสูงขมวดคิ้วเล็กน้อย เซโร่ไม่เคยใส่น้ำหอมเลยสักครั้งเพราะเขาอยู่กับเซโร่มานานย่อมรู้ดี
"กลิ่นนำหอม ของผู้หญิง...?"
คานาเมะซุกจมูกลงบนเรือนผมไล้เรื่อยมาจนถึงลำคอ สูดกลิ่นน้ำหอมที่ได้จากร่างของเซโร่ ลาเวนเดอร์? ไม่ผิดแน่ เซโร่เกลียดดอกลาเวนเดอร์ ไม่มีทางที่น้ำหอมกลิ่นนี้จะอยู่บนตัวเขาได้
"ปล่อย!"
ร่างโปร่งพยายามขัดขืน แต่ร่างสูงกดร่างอีกฝ่ายเอาไว้กับตัวจนไร้ทางต่อต้าน มือหนาเอื้อมไปปิดปากที่กำลังสถบด่าเขาก่อนจะเผลอสอดนิ้วเข้าไปหยอกล้อกับลิ้นเล็กที่สั่นระริก
"ไม่นึกว่าเธอจะกล้าซุกผู้หญิงเอาไว้ด้วยนะ อยากรู้จริงๆว่าเป็นใคร"
นายเหนือแวมไพร์ปล่อยร่างโปร่งเป็นอิสระแต่เหวี่ยงร่างของเซโร่ลงบนเตียงอย่างแรงจนร่างนั้นงอตัวด้วยความจุก
"ปล่อยฉัน! ไอ้แวมไพร์เอาแต่ใจ!"
คานาเมะทับร่างของฮันเตอร์หนุ่มเอาไว้ ข้อมือทั้งสองข้างถูกรวบขึ้นเหนือหัวอย่างไม่อาจขัดขืน
"ออ เอาแต่ใจสินะ"
ฮันเตอร์หนุ่มร้องลั่นเมื่อมือใหญ่กำมือทั้งสองแน่นจนแทบจะได้ยินเสียงกระดูกแตกร้าว ดวงตาของนายเหนือคุรันค่อยๆแปรเปลี่ยนเป็นสีแดงเลือดอย่างช้าๆ ความโกรธเกรี้ยวส่งผ่านทางดวงตาสีเลือดไปถึงดวงตาสีม่วงที่สั่นระริก
"ใช่ ผมเอาแต่ใจ ผมต้องได้ในสิ่งที่ต้องการเสมอ และเธอก็เป็นสิ่งที่ผมอยากได้ในตอนนี้!"
เสื้อผ้าถูกฉีกกระชากเมื่อสิ้นเสียงของนายเหนือแวมไพร์ เสื้อเชิ้ตสีขาวถูกกระชากไม่มีชิ้นดี ดวงตาสีม่วงอ่อนเบิกกว้างเพราะความตกใจ แต่ปากก็ยังคงไวเหมือนเดิม
"ปล่อยฉัน ไอ้ปีศาจกระหายเลือด!"
"โห ปีศาจกระหายเลือดงั้นหรอ? ตัวเธอที่เป็นเหมือนกันกับผม เป็นแวมไพร์เหมือนกับผม งั้นเธอก็ไม่ได้ต่างจากผม!!"
"อ๊ะ!!"
ซอกคอขาวของฮันเตอร์หนุ่มถูกคมเขี้ยวของนายเหนือแวมไพร์ฝังลงไปจนมิด เลือดสีแดงสดไหลทะลักจากรอยเขี้ยว กลิ่นคาวคลุ้ง แม้จะพยายามออกแรงขัดขืนมากแค่ไหน ก็ไม่อาจหลุดพ้นจากเงื้อมมืือของปีศาจได้อยู่ดี
เซโร่กัดฟันแน่นพยายามเรียกสติอันเลือนลางกลับมา ลมหายใจของฮันเตอร์หนุ่มหอบถี่แต่กลับเบาเกินกว่าปกติ เซโร่รู้สึกว่ายิ่งตัวเองถูกดูดเลือดไปมากเท่าไหร่ เขาก็ยิ่งรู้สึกอ่อนล้า แต่กลิ่นเลือดที่คาวคลุ้งกระจายไปทั่วห้องกลับทำให้เขาอยากคลุ้มคลั่ง ภาพตรงหน้าในดวงตาสีม่วงอ่อนถูกย้อมไปด้วยสีแดง ลำคอแห้งผากราวกับอยู่ในทะเลทราย ความกระหายหลังจากเสียเลือดจำนวนมากกำลังเข้าครอบงำสติที่มีเพียงน้อยนิด
คานาเมะรับรู้ถึงจังหวะหายใจที่เปลี่ยนไป ความหิวกระหายกำลังครอบงำคนใต้ร่างอย่างช้าๆ คมเขี้ยวถูกถอนออกจากลำคอระหง เลือดสีแดงไหลออกตามรอยเขี้ยวเป็นทาง ดวงตาสีแดงเลือดแปรเปลี่ยนกลับมาเป็นสีแดงเข้มเหมือนยามปกติ
"คงมาได้แค่นี้งั้นสินะ"
นายเหนือแวมไพร์มองคนใต้ร่างที่กำลังหอบอย่างเอาเป็นเอาตาย ดวงตาสีม่วงอ่อนกลายเป็นสีแดงเลือดเพราะความหิวกระหาย สติทั้งหมดถูกความกระหายกระชากทิ้งจนไม่เหลือ
"เป็นความผิดของเธอเองนะเซโร่...."
คานาเมะจ้องใบหน้าสวยอย่างไม่วางตา จริงอยู่ที่ครึ่งนึงเป็นความผิดของเขาเพราะความโมโหและขาดการยับยั้งชั่งใจ แต่อีกครึ่งก็เป็นความผิดของเซโร่เหมือนกัน
ผิด......ที่ทำให้เขาหลงใหล
ผิด......ที่ทำให้เขาอยากครอบครอง
และผิดที่บังอาจไปขลุกอยู่กับผู้หญิงจนกลิ่นน้ำหอมติดตัวมา
คานาเมะชั่งใจอยู่นิดหน่อยก่อจะปล่อยมือทัั้งสองข้างเป็นอิสระ แต่ยังไม่ทันที่คนผมเงินจะได้แผลฤทธิ์ ริมฝีปากของนายเหนือก็เขายึดกลีบปากบางอย่างถือสิทธิ์ ลิ้นร้อนล่วงล้ำเข้าไปในโพรงปาก ใบหน้าหล่อจัดขมวดคิ้วจนเป็นปมเมื่อรับรู้ว่าคมเขี้ยวของแวมไพร์หนุ่มคอมกัดเข้าที่ลิ้นเขาไม่หยุด มือทั้งสองข้างที่เป็นอิสระคว้าหมับเข้าที่ลำคอของนายเหนือแวมไพร์ก่อนที่จะออกแรงบังคับให้นายเหนือไปอยู่ใต้ร่างของตนแทน
คานาเมะหรี่ตาลงนิดๆก่อนจะกระตุกยิ้มอย่างพอใจ เซโร่กระชากเสื้อของอีกฝ่ายออก เขี้ยวที่โผล่พ้นริมฝีปากของร่างโปร่งฝังลงกับซอกคอของนายเหนือคุรันและเรียกเลือดจากอีกฝ่ายอย่างหื่นกระหาย
ถ้าดื่มเลือดเข้าไปขนาดนี้ล่ะก็ ก็พ้นจากการตกสู่ Leval E
และนั่นก็เท่ากับว่า......
เธอจะเป็นของผมไปตลอดกาล
"เสียใจด้วยนะ พ่อหนุ่มฮันเตอร์ จากนี้ไป เธอหนีผมไม่ได้อีกแล้ว
ย้อนกลับไปเมื่อสามชั่วโมงก่อน
เซโร่ถูกเชิญมาที่คฤหาสน์ของอิจิโจ ทาคุมะ โดยที่ไม่รู้ว่าทำไม แต่ฮันเตอร์หนุ่มไม่คิดที่จะปฏิเสธคำเชิญจากแวมไไพร์ผมทองแต่อย่างใด
"ขอโทษที่ต้องเรียกเธอมานะ ผมมีเรื่องอยากให้เธอช่วยน่อย"
อิจิโจไม่พูดพร่ำทำเพลง วางแก้วไวน์ที่บรรจุของเหลวสีแดงเอาไว้ครึ่งแก้ว ซึ่งเซโร่รู้จักมันดี
"Tabbel?"
"ถูกต้อง แต่ผมได้ให้ทีมวิจัยปรับปรุงเพื่อให้เข้ากับร่างกายของเธอ เลยอยากจะรู้ว่าได้ผลหรือเปล่า"
เซโร่มองแก้วสีแดงตรงหน้าอย่างไม่ไว้ใจ ยานี้ไม่เคยส่งผลดีต่อเขาเลยสักครั้ง อย่าว่าแต่กิน แค่ดมกลิ่นก็ตาย!
ฮันเตอร์หนุ่มหยิบแก้วขึ้นมาก่อนที่จะสูดกลิ่นอ่อนๆของยา แล้วนิ่งดูปฏิกิริยาเกือบๆนาทีไม่มีอาการปวดหัว หรือว่าอยากอาเจียน เซโร่จึงตัดสินใจจิบไปนิดนึงแล้วสำรวจอาการ
"เป็นยังไงบ้าง?"
"ผมไม่แน่ใจ"
สุดท้ายเซโร่ก็ตัดสินใจดื่มเข้าไปอีกอึกนึง แล้ววางแก้วลง เกือบสามนาทีเขาก็ได้พูดออกมา
"ไม่มีอาการอาเจียน แล้วก็ไม่ปวดหัว คิดว่าไม่มีปัญหา"
"แสดงว่าการปรับปรุงสำเร็จ!"
อิจิโจปรบมือลั่น เซโร่ถอนหายใจนิดหน่อยอย่างน้อยยาก็ไม่ส่งผลอย่างที่เคยเป็น
"จริงสิ!"
แวมไพร์ผมทองเหมือนนึกอะไรขึ้นมาได้ เขาเดินไปที่ตู้ก่อนจะหยิบบางอย่างออกมา
"น้ำหอม?"
"ใช่ กลิ่นลาเวนเดอร์ คานาเมะค่อนข้างชอบเละอยากให้เธอใช้มันบ้าง"
ฮันเตอร์หนุ่มแทบส่ายหน้าปฏิเสธ เขาเกลียดดอกลาเวนเดอร์และกลิ่นของมันเป็นที่สุด
"ผมไม่ชอบกลิ่นลาเวนเดอร์"
"อ้าว? อย่างนั้นหรอ? แต่ว่าไหนๆก็ไหนๆแล้ว อยากให้เธอรับเอาไว้ ถือเป็นของขวัญจากฉันนะ"
เซโร่มองขวดน้ำหอมสีเงินอย่างชั่งใจแต่ก็ไม่อาจปฏิเสธได้ สุดท้ายเลยต้องรับมา ไว้เอาไปให้อิจิรุใช้แทนก็แล้วกัน
ฮันเตอร์ผมเงินขอตัวกลับเมื่อหมดธุระ เพราะความสามารถของแวมไพร์การกระโดดบนต้นไม้จึงเหมือนเดินอยู่บนพื้นดิน ซึ่งเซโร่มักใช้เป็นทางกลับหอ
อีกสองร้อยเมตรจะเป้นทางเข้าหอ เซโร่ล้วงขวดน้ำหอมออกมาก่อนที่จะตัดสินใจเปิดฝาออก กลิ่นดอกลาเวนเดอร์ลอยฟุ้งกระจาย เขาถอนหายใจก่อนจะลองฉีดใส่ข้อมือ กลิ่นหอมอ่อนๆผ่อนคลายได้ก็จริง แต่ว่ามันก็ฉุนสำหรับเขา เซโร่เสยผมที่ปรกหน้าขึ้นทำให้มีกลิ่นนำหอมติดเข้าที่เส้นผมด้วย เดี๋ยวมันก็ออกเองแหละถ้าโดนลม
แต่ถึงอย่างนั้นพอถึงห้องกลิ่นมันก็ยังติดอยู่ดี ให้ตายสิ!
เดิมทีตอนนี้เป็นเวลาที่เขาต้องเข้าเรียน แต่กลับกลายเป็นว่าเขาต้องย่องเข้าห้องของตัวเองแทน
เพราะหายหน้าไปเกือบสองวัน เซโร่ค่อนข้างมั่นใจว่าเขาจะโดนอะไรบ้างจากเจ้านายจอมเผด็จการ แม้ว่าตอนนี้ห้องนอนจะเงียบเชียบเพราะรูทเมทของเขาไปเรียนแล้วก็ตาม
เซโร่ปีนหน้าต่างเข้ามาในห้องทางเดียวกับที่เขาใช้หนีก่อนหน้านี้ ฝีเท้านั่นเงียบกริบดุจแมว แต่ถึงอย่างนั้น......
"ดูเหมือนใครบางคนที่แอบหนีเที่ยวจะกลับมาแล้ว"
เสียงของนายเหนือตระกูลคุรันดังขึ้นอย่างราบเรียบ น้ำเสียงเย็นยะเยือกถึงแม้เป็นเซโร่เองก็ยังเสียวสันหลังวาบ
ลืมไปเลยว่าตอนนี้พักเที่ยง.....!!
"รู้ก็ดีว่าหนีจะได้ไม่ต้องบอก"
แต่เซโร่ก็ยังเป็นเซโร่อยู่วันยังค่ำ แม้จะโดนดวงตาสีแดงเข้มจ้องมองเซโร่ก็หาได้สำนึกผิดไม่
"ผมไม่ได้บอกเธอหรอว่าห้ามออกจากห้อง"
"ใครจะไปรู้"
เซโร่กวนประสาท ร่างโปร่งเดินไปที่เตียงก่อนที่จะถอดเสื้อโค้ทแขวนเอาไว้ นายเหนือแวมไพร์ทำเพียงจ้องมองการกระทำของร่างโปร่งเท่านั้น
"ดื่มเลือดของน้องชายมาอีกแล้วงั้นหรอ?"
คำถามที่เหมือนไม่ต้องการคำตอบดังขึ้น เซโร่ชะงักมือที่กำลังปลดปืนแต่ก็เก็บอาการเอาไว้และไม่คิดที่จะตอบอะไรกลับไป
แค่เห็นปฏิกิริยาร่างสูงก็รู้ว่าเขาเดาถูก จริงอยู่ที่เขาให้เซโร่ดื่มเลือดไปบ้างแล้วแต่ก็ยังน้อยเกินกว่าที่จะดับความกระหายได้ ถ้าบังคับให้ดื่มก็รั้งแต่จะทำให้คนหัวรั้นเกลียดเขามากขึ้น ถ้าอย่างนั้น.....
พรึบ!
เร็วเท่าความคิด ร่างโปร่งของเซโร่ถูกนายเหนือแวมไพร์รวบตัวเอาไว้จากด้านหลัง ดวงตาสีม่วงเบิกกว้างเพราะความตกใจ ดวงตาสีแดงเข้มหรี่ลงเล็กน้อย มือหนาบีบเข้าที่ลำคอขาวแผ่วเบาแต่มันก็แรงพอจะทำให้คนในอ้อมแขนส่งเสียงร้องได้
"อึก!"
"คิิดจะทำร้ายน้องชายไปจนถึงเมื่อไหร่ คิิริว เซโร่ เธอจะเห็นแก่ตัวไปถึงไหน?"
มือหนาคลายแรงบีบลงแต่ก็ยังคงสาละวนอยู่กับลำคอระหง กลิ่นน้ำหอมอ่อนๆจากร่างโปร่งทำให้ร่างสูงขมวดคิ้วเล็กน้อย เซโร่ไม่เคยใส่น้ำหอมเลยสักครั้งเพราะเขาอยู่กับเซโร่มานานย่อมรู้ดี
"กลิ่นนำหอม ของผู้หญิง...?"
คานาเมะซุกจมูกลงบนเรือนผมไล้เรื่อยมาจนถึงลำคอ สูดกลิ่นน้ำหอมที่ได้จากร่างของเซโร่ ลาเวนเดอร์? ไม่ผิดแน่ เซโร่เกลียดดอกลาเวนเดอร์ ไม่มีทางที่น้ำหอมกลิ่นนี้จะอยู่บนตัวเขาได้
"ปล่อย!"
ร่างโปร่งพยายามขัดขืน แต่ร่างสูงกดร่างอีกฝ่ายเอาไว้กับตัวจนไร้ทางต่อต้าน มือหนาเอื้อมไปปิดปากที่กำลังสถบด่าเขาก่อนจะเผลอสอดนิ้วเข้าไปหยอกล้อกับลิ้นเล็กที่สั่นระริก
"ไม่นึกว่าเธอจะกล้าซุกผู้หญิงเอาไว้ด้วยนะ อยากรู้จริงๆว่าเป็นใคร"
นายเหนือแวมไพร์ปล่อยร่างโปร่งเป็นอิสระแต่เหวี่ยงร่างของเซโร่ลงบนเตียงอย่างแรงจนร่างนั้นงอตัวด้วยความจุก
"ปล่อยฉัน! ไอ้แวมไพร์เอาแต่ใจ!"
คานาเมะทับร่างของฮันเตอร์หนุ่มเอาไว้ ข้อมือทั้งสองข้างถูกรวบขึ้นเหนือหัวอย่างไม่อาจขัดขืน
"ออ เอาแต่ใจสินะ"
ฮันเตอร์หนุ่มร้องลั่นเมื่อมือใหญ่กำมือทั้งสองแน่นจนแทบจะได้ยินเสียงกระดูกแตกร้าว ดวงตาของนายเหนือคุรันค่อยๆแปรเปลี่ยนเป็นสีแดงเลือดอย่างช้าๆ ความโกรธเกรี้ยวส่งผ่านทางดวงตาสีเลือดไปถึงดวงตาสีม่วงที่สั่นระริก
"ใช่ ผมเอาแต่ใจ ผมต้องได้ในสิ่งที่ต้องการเสมอ และเธอก็เป็นสิ่งที่ผมอยากได้ในตอนนี้!"
เสื้อผ้าถูกฉีกกระชากเมื่อสิ้นเสียงของนายเหนือแวมไพร์ เสื้อเชิ้ตสีขาวถูกกระชากไม่มีชิ้นดี ดวงตาสีม่วงอ่อนเบิกกว้างเพราะความตกใจ แต่ปากก็ยังคงไวเหมือนเดิม
"ปล่อยฉัน ไอ้ปีศาจกระหายเลือด!"
"โห ปีศาจกระหายเลือดงั้นหรอ? ตัวเธอที่เป็นเหมือนกันกับผม เป็นแวมไพร์เหมือนกับผม งั้นเธอก็ไม่ได้ต่างจากผม!!"
"อ๊ะ!!"
ซอกคอขาวของฮันเตอร์หนุ่มถูกคมเขี้ยวของนายเหนือแวมไพร์ฝังลงไปจนมิด เลือดสีแดงสดไหลทะลักจากรอยเขี้ยว กลิ่นคาวคลุ้ง แม้จะพยายามออกแรงขัดขืนมากแค่ไหน ก็ไม่อาจหลุดพ้นจากเงื้อมมืือของปีศาจได้อยู่ดี
เซโร่กัดฟันแน่นพยายามเรียกสติอันเลือนลางกลับมา ลมหายใจของฮันเตอร์หนุ่มหอบถี่แต่กลับเบาเกินกว่าปกติ เซโร่รู้สึกว่ายิ่งตัวเองถูกดูดเลือดไปมากเท่าไหร่ เขาก็ยิ่งรู้สึกอ่อนล้า แต่กลิ่นเลือดที่คาวคลุ้งกระจายไปทั่วห้องกลับทำให้เขาอยากคลุ้มคลั่ง ภาพตรงหน้าในดวงตาสีม่วงอ่อนถูกย้อมไปด้วยสีแดง ลำคอแห้งผากราวกับอยู่ในทะเลทราย ความกระหายหลังจากเสียเลือดจำนวนมากกำลังเข้าครอบงำสติที่มีเพียงน้อยนิด
คานาเมะรับรู้ถึงจังหวะหายใจที่เปลี่ยนไป ความหิวกระหายกำลังครอบงำคนใต้ร่างอย่างช้าๆ คมเขี้ยวถูกถอนออกจากลำคอระหง เลือดสีแดงไหลออกตามรอยเขี้ยวเป็นทาง ดวงตาสีแดงเลือดแปรเปลี่ยนกลับมาเป็นสีแดงเข้มเหมือนยามปกติ
"คงมาได้แค่นี้งั้นสินะ"
นายเหนือแวมไพร์มองคนใต้ร่างที่กำลังหอบอย่างเอาเป็นเอาตาย ดวงตาสีม่วงอ่อนกลายเป็นสีแดงเลือดเพราะความหิวกระหาย สติทั้งหมดถูกความกระหายกระชากทิ้งจนไม่เหลือ
"เป็นความผิดของเธอเองนะเซโร่...."
คานาเมะจ้องใบหน้าสวยอย่างไม่วางตา จริงอยู่ที่ครึ่งนึงเป็นความผิดของเขาเพราะความโมโหและขาดการยับยั้งชั่งใจ แต่อีกครึ่งก็เป็นความผิดของเซโร่เหมือนกัน
ผิด......ที่ทำให้เขาหลงใหล
ผิด......ที่ทำให้เขาอยากครอบครอง
และผิดที่บังอาจไปขลุกอยู่กับผู้หญิงจนกลิ่นน้ำหอมติดตัวมา
คานาเมะชั่งใจอยู่นิดหน่อยก่อจะปล่อยมือทัั้งสองข้างเป็นอิสระ แต่ยังไม่ทันที่คนผมเงินจะได้แผลฤทธิ์ ริมฝีปากของนายเหนือก็เขายึดกลีบปากบางอย่างถือสิทธิ์ ลิ้นร้อนล่วงล้ำเข้าไปในโพรงปาก ใบหน้าหล่อจัดขมวดคิ้วจนเป็นปมเมื่อรับรู้ว่าคมเขี้ยวของแวมไพร์หนุ่มคอมกัดเข้าที่ลิ้นเขาไม่หยุด มือทั้งสองข้างที่เป็นอิสระคว้าหมับเข้าที่ลำคอของนายเหนือแวมไพร์ก่อนที่จะออกแรงบังคับให้นายเหนือไปอยู่ใต้ร่างของตนแทน
คานาเมะหรี่ตาลงนิดๆก่อนจะกระตุกยิ้มอย่างพอใจ เซโร่กระชากเสื้อของอีกฝ่ายออก เขี้ยวที่โผล่พ้นริมฝีปากของร่างโปร่งฝังลงกับซอกคอของนายเหนือคุรันและเรียกเลือดจากอีกฝ่ายอย่างหื่นกระหาย
ถ้าดื่มเลือดเข้าไปขนาดนี้ล่ะก็ ก็พ้นจากการตกสู่ Leval E
และนั่นก็เท่ากับว่า......
เธอจะเป็นของผมไปตลอดกาล
"เสียใจด้วยนะ พ่อหนุ่มฮันเตอร์ จากนี้ไป เธอหนีผมไม่ได้อีกแล้ว
ย้อนกลับไปเมื่อสามชั่วโมงก่อน
เซโร่ถูกเชิญมาที่คฤหาสน์ของอิจิโจ ทาคุมะ โดยที่ไม่รู้ว่าทำไม แต่ฮันเตอร์หนุ่มไม่คิดที่จะปฏิเสธคำเชิญจากแวมไไพร์ผมทองแต่อย่างใด
"ขอโทษที่ต้องเรียกเธอมานะ ผมมีเรื่องอยากให้เธอช่วยน่อย"
อิจิโจไม่พูดพร่ำทำเพลง วางแก้วไวน์ที่บรรจุของเหลวสีแดงเอาไว้ครึ่งแก้ว ซึ่งเซโร่รู้จักมันดี
"Tabbel?"
"ถูกต้อง แต่ผมได้ให้ทีมวิจัยปรับปรุงเพื่อให้เข้ากับร่างกายของเธอ เลยอยากจะรู้ว่าได้ผลหรือเปล่า"
เซโร่มองแก้วสีแดงตรงหน้าอย่างไม่ไว้ใจ ยานี้ไม่เคยส่งผลดีต่อเขาเลยสักครั้ง อย่าว่าแต่กิน แค่ดมกลิ่นก็ตาย!
ฮันเตอร์หนุ่มหยิบแก้วขึ้นมาก่อนที่จะสูดกลิ่นอ่อนๆของยา แล้วนิ่งดูปฏิกิริยาเกือบๆนาทีไม่มีอาการปวดหัว หรือว่าอยากอาเจียน เซโร่จึงตัดสินใจจิบไปนิดนึงแล้วสำรวจอาการ
"เป็นยังไงบ้าง?"
"ผมไม่แน่ใจ"
สุดท้ายเซโร่ก็ตัดสินใจดื่มเข้าไปอีกอึกนึง แล้ววางแก้วลง เกือบสามนาทีเขาก็ได้พูดออกมา
"ไม่มีอาการอาเจียน แล้วก็ไม่ปวดหัว คิดว่าไม่มีปัญหา"
"แสดงว่าการปรับปรุงสำเร็จ!"
อิจิโจปรบมือลั่น เซโร่ถอนหายใจนิดหน่อยอย่างน้อยยาก็ไม่ส่งผลอย่างที่เคยเป็น
"จริงสิ!"
แวมไพร์ผมทองเหมือนนึกอะไรขึ้นมาได้ เขาเดินไปที่ตู้ก่อนจะหยิบบางอย่างออกมา
"น้ำหอม?"
"ใช่ กลิ่นลาเวนเดอร์ คานาเมะค่อนข้างชอบเละอยากให้เธอใช้มันบ้าง"
ฮันเตอร์หนุ่มแทบส่ายหน้าปฏิเสธ เขาเกลียดดอกลาเวนเดอร์และกลิ่นของมันเป็นที่สุด
"ผมไม่ชอบกลิ่นลาเวนเดอร์"
"อ้าว? อย่างนั้นหรอ? แต่ว่าไหนๆก็ไหนๆแล้ว อยากให้เธอรับเอาไว้ ถือเป็นของขวัญจากฉันนะ"
เซโร่มองขวดน้ำหอมสีเงินอย่างชั่งใจแต่ก็ไม่อาจปฏิเสธได้ สุดท้ายเลยต้องรับมา ไว้เอาไปให้อิจิรุใช้แทนก็แล้วกัน
ฮันเตอร์ผมเงินขอตัวกลับเมื่อหมดธุระ เพราะความสามารถของแวมไพร์การกระโดดบนต้นไม้จึงเหมือนเดินอยู่บนพื้นดิน ซึ่งเซโร่มักใช้เป็นทางกลับหอ
อีกสองร้อยเมตรจะเป้นทางเข้าหอ เซโร่ล้วงขวดน้ำหอมออกมาก่อนที่จะตัดสินใจเปิดฝาออก กลิ่นดอกลาเวนเดอร์ลอยฟุ้งกระจาย เขาถอนหายใจก่อนจะลองฉีดใส่ข้อมือ กลิ่นหอมอ่อนๆผ่อนคลายได้ก็จริง แต่ว่ามันก็ฉุนสำหรับเขา เซโร่เสยผมที่ปรกหน้าขึ้นทำให้มีกลิ่นนำหอมติดเข้าที่เส้นผมด้วย เดี๋ยวมันก็ออกเองแหละถ้าโดนลม
แต่ถึงอย่างนั้นพอถึงห้องกลิ่นมันก็ยังติดอยู่ดี ให้ตายสิ!
คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น
✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง
✓ เรื่องนี้ไม่มีเจตนาทำให้บุคคลที่อ้างถึงเสียชื่อเสียง และฉันจะยอมรับผิดเมื่อบุคคลนั้นตำหนิหรือเตื่อนมา
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ