[Fic Vampire Knight] รัตติกาลสีเงิน
เขียนโดย เจ้าหนอน
วันที่ 21 มีนาคม พ.ศ. 2559 เวลา 21.49 น.
แก้ไขเมื่อ 8 กรกฎาคม พ.ศ. 2562 13.48 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น
15) โหยหา
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความเมื่อกลับมาถึงห้อง เซโร่ก็เปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นชุดลำลองใส่สบายก่อนจะมานั่งรอให้คานาเมะอธิบายถึงเรื่องสมัยก่อนให้ฟังที่โซฟา ร่างสูงเดินเข้ามาก่อนจะล็อกห้องให้เรียบร้อย แล้วมานั่งข้างร่างโปร่ง
“จะเริ่มจากตรงไหนก่อนดี เธออยากฟังเรื่องไหนก่อนล่ะ?”
“อืม เอาเป็นความสัมพันธ์ระหว่างฉันกับคานาเมะก่อนก็ได้ ได้ยินมาว่าฉันเคยสนิทกับคานาเมะ แล้วฉันก็จะได้ว่าเคยอาศัยอยู่กับคานาเมะที่นี่ด้วย”
“ถ้าอย่างนั้น.....”
“เอ๊ะ!”
ร่างโปร่งสะดุ้งเฮือกเมื่อโดนมือหนารั้งตัวขึ้นไปนั่งบนตัก ใบหน้าหล่อจัดซุกเข้าที่ลำคอขาวอย่างหลงใหล จนร่างโปร่งต้องหดคอกลับเพราะจั๊กจี้
“จะทำอะไรน่ะคานาเมะ!”
“ผมก็กำลังบอกถึงความสัมพันธ์ของเราไง”
ร่างสูงจับมือเรียวไปคล้องคอตนทำให้ใบหน้าของทั้งสองอยู่ใกล้กันมากขึ้น เซโร่ตัวสั่นสะท้านเมื่อลมหายใจอุ่นของนายเหนือรดรินใบหูเล็ก
“มะ หมายความว่ายังไง...”
“ก็จริงอยู่ที่ว่าความสัมพันธ์ของเรามันซับซ้อน แต่เรื่องที่เราเป็นคนรักกันก็คือเรื่องจริง เธอจำนี่ได้หรือเปล่า”
ร่างสูงล้วงขอบางอย่างออกมาจากอกเสื้อ เซโร่มองสิ่งที่อยู่ในมือของอีกฝ่าย ทำไมถึงได้รู้สึกว่ามันสำคัญกับเขากันนะ
“เมื่อสองปีก่อน ผมเป็นคนมอบดอกกุหลาบนี้ให้เธอในงานเต้นรำและเธอก็มอบดอกกุหลาบของเธอให้กับผมเช่นกัน”
คานาเมะยื่นดอกกุหลาบสีแดงที่ยังความสดเอาไว้แม้เวลาจะผ่านไปถึงสองปีให้ร่างโปร่งดู ดวงตาสีม่วงอ่อนสั่นระริกก่อนจะแตะดอกกุหลาบทั้งสองแผ่วเบาราวกับเป็นสิ่งที่ล้ำค่า
“คานาเมะเก็บมันเอาไว้ตลอดเลยหรอ?”
“นี่ของสำคัญนะ ผมไม่เคยเอามันห่างจากตัวเลยสักครั้ง”
มือหนาสัมผัสเรือนผมสีเงินที่นุ่มเหมือนเส้นไหมอย่างหลงใหล เซโร่หน้าแดงเพราะสายตาของร่างสูงที่จ้องมองมา จิตใจเริ่มไม่อยู่กับเนื้อกับตัว
“ที่บอกว่าเราเป็นคนรักกัน...เอ่อ......เราเป็นผู้ชายด้วยกันทั้งคู่ เรื่องแบบนั้น.....”
“ให้ผมพิสูจน์สิว่าเราเป็นคนรักกันจริงๆ”
จบคำร่างสูงก็ประคองใบหน้าสวยหวานเอาไว้ก่อนจะจุมพิตที่ริมฝีปากบาง สัมผัสเพียงแผ่วเบาหากทำให้หัวใจอบอุ่นอย่างบอกไม่ถูก
ร่างโปร่งหลบสายตาของคานาเมะเมื่ออีกฝ่ายถอนปากออก ใบหน้าสวยหวานแดงก่ำ คานาเมะลูบไล้แก้มใสเบาๆก่อนจะยิ้ม
เหมือนเด็กสาวผมเงินในวันนั้นจริงๆ
“เธอน่ะ เป็นของผม ผมทั้งหวงทั้งรักแต่ผมแสดงออกไม่ได้ ในตอนที่รู้ว่าเธอตายไปแล้ว ผมก็อยู่เหมือนคนที่ตายทั้งเป็น เป็นความผิดของผมเองที่วันนั้นเอาแต่คิดว่าถึงไปพบเธอเธอก็คงไม่ให้อภัย จนทำให้เธอต้องตายโดยที่ผมช่วยอะไรไม่ได้ ผมอยากขอโทษเธอ อยากขอให้เธอให้อภัยผม ผมอยากให้เธอกลับมา.....เซโร่ผมขอโทษ.......”
นายเหนือแวมไพร์กอดร่างโปร่งเอาไว้แน่น เซโร่สัมผัสได้ถึงความเศร้าเสียใจจากร่างกายที่สั่นระริกของอีกฝ่าย หรือจะเป็นเขากันนะที่รั้งเขาเอาไว้แล้วกลับมาเป็น คิริว เซโร่ อีกครั้ง
“ยกโทษให้ผมเถอะนะ ผมผิดไปแล้วที่ทำร้ายเธอ เพราะความโง่เง่าของผม ผมปกป้องเธอเอาไว้ไม่ได้ ผมอยู่ไม่ได้ถ้าไม่มีเธอเซโร่.....”
มือเรียวบรรจงลูบผมคนขี้แยที่กำลังร้องไห้ ไม่คิดเลยว่านายเหนือแวมไพร์จะสามารถหลั่งน้ำตาได้เหมือนกัน
“ฉันเองก็อาจจะอยู่ไม่ได้ถ้าไม่มีคานาเมะ.....”
ร่างสูงเงยหน้าขึ้นจากไหล่ของอีกฝ่าย มือเรียวปาดน้ำตาให้คนร่างสูงอย่างอ่อนโยน รอยยิ้มละมุนถูกส่งมาเพื่อปลอบคนขี้แย
“ตอนที่นึกชื่อของคานาเมะขึ้นมาได้ จิตใจมันโหยหาอย่างบอกไม่ถูก เหมือนทำสิ่งสำคัญหายไป แต่พอได้เจอคานาเมะฉันรู้สึกเหมือนตัวเองหาสิ่งที่หายไปเจอ รู้สึกคิดถึง โหยหา ทั้งดวงตานี้ ใบหน้านี้ เรือนผมนี้ แล้วก็ความอบอุ่นที่ได้รับ...”
ร่างโปร่งสัมผัสริมฝีปากของคนตัวสูงพลางลูบไล้ไปมาราวกับคิดถึง คานาเมะเผลองับนิ้วของเซโร่จนร่างโปร่งต้องหัวเราะเบาๆ มือหนาจับมือเรียวมาพรมจูบอย่างคิดถึง
“เธอยกโทษให้ผมได้มั้ย? ขอโอกาสผมแก้ตัวอีกครั้ง.....”
ร่างสูงอ้อนวอน แนบมือเรียวกับแก้มตัวเองอย่างโหยหา
“ถึงจะไม่รู้ว่าทำไมหรือคานาเมะทำอะไรเอาไว้ แต่ฉันยกโทษให้คานาเมะนะ อย่าเศร้าเสียใจเพราะเรื่องที่ผ่านมาอีกเลย ฉันอาจจะจำไม่ได้ทั้งหมด แต่ฉันอยากให้เรามาเริ่มต้นกันใหม่นะ”
ร่างสูงกอดร่างโปร่งแน่น คานาเมะสัญญากับตัวเองแล้วว่าจะไม่ทำให้เซโร่ต้องเจ็บปวดเพราะเขาอีก เขาจะบอกทุกความรู้สึกและทุกอย่างที่เขาคิด จะไม่ยอมเสียไปอีกแล้ว จะรักษาและดูแลให้ดีที่สุด
“นี่เซโร่.....”
“หืม? มีอะไรหรอ?”
ร่างโปร่งทำหน้าสงสัยเมื่อคานาเมะเรียก น้ำเสียงฟังดูซุกซนยังไงชอบกล
“มาทำไอ้นั่นกัน”
จู่ๆร่างสูงก็ยิ้มกว้างราวกับบทซึ้งเมื่อกี้ไม่เคยเกิดขึ้นจนเซโร่ตามไม่ทัน
“ไอ้นั่น? อะไรหรอ?”
“หึหึ ก็..........”
ร่างสูงกระซิบข้างหูอีกฝ่ายแผ่วเบาแต่ก็ทำเอาคนที่นั่งตักอยู่หน้าขึ้นสี ก่อนจะส่ายหน้าเป็นพัลวัน
“มะ ไม่ดีกว่า....”
“น่านะ ก็คนมันคิดถึงนี่นา แค่ไม่กี่รอบเอง”
โดยไม่ฟังคำขออนุญาตจากร่างโปร่ง คานาเมะก็กดเซโร่ลงกับโซฟา ร่างโปร่งหน้าแดงก่ำเข้าไปอีก จะทำจริงๆงั้นหรอ!
“ดะ เดี๋ยวคานาเมะ! ฉันยังไม่พร้อม....”
“คนเคยๆกันอยู่ ไม่ใช่ว่าเราทำครั้งนี้ครั้งแรกซะหน่อย ทำเป็นอาย”
ร่างสูงขึ้นคร่อมอีกคนอย่างรวดเร็ว เซโร่เบิกตากว้างเมื่อคานาเมะบอกว่านี่ไม่ใช่ครั้งแรก
“มะ หมายความว่า.......!!”
“เดี๋ยวก็จำได้เอง ปล่อยให้ผมจัดการเถอะ”
“เดี๋ยว~!! คานาเมะ......!! ฟังกันบ้างเซ่!!”
“อืม เหมือนจะดีกันแล้วนะ”
แวมไพรผมทองที่เอาหูแนบประตูห้องเอ่ยอย่างอารมณ์ดี โดยคนด้านหลังส่งสายตาอยากรู้อยากเห็นมาให้
“ค่อยโล่งอกหน่อย นึกว่าเซโร่จะไม่ยอมเข้าหาคานาเมะคุงซะแล้ว”
ผู้อำนวยการถอนหายใจก่อนจะเอาหูแนบประตูอีกคนอย่างนึกสนุก
“ทั้งสองคนกลับกันได้แล้วน่า อย่ายุ่งเรื่องชาวบ้านเขา”
ร่างสูงของยางาริเดินมาคว้าคอเสื้อคนรักของตัวเอง ไคเอ็นบ่นอุบอิบก่อนจะยอมรามือจากเรื่องสนุกแล้วเดินไปตามแรงลากของคนตัวสูง ชิกิมองคนที่ยังเอาหูแนบประตูอยู่อย่างเหนื่อยใจ
“เราก็ไปกันเถอะ เดี๋ยวท่านพี่จะโกรธเอานะ”
“แปบนึง เซนริก็มาฟังด้วยกันสิ”
คนตัวสูงชวนคนรักหน้าตาเฉย เดี๋ยวก็เป็นเหมือนคราวก่อนหรอกที่มาแอบฟังน่ะ
“ถ้าไม่ไปตอนนี้จะไม่ให้นอนด้วย”
พริบตาเดียว อิจิโจก็รีบเข้าไปออเซาะร่างเล็กทันทีก่อนจะยอมถอยแต่โดยดี เซนริถอนหายใจก่อนจะลากร่างสูงที่ดูอาลัยอาวรณ์กับห้องของนายเหนือซะเหลือเกินออกจากพื้นที่ตรงนั้น
หวังว่าพรุ่งนี้เซโร่คงได้ไปเรียนตามปกตินะ เพราะมีสอบของอาจารย์ยางาริที่โหดชนิดที่ว่าระดับนายเหนือคะแนนยังแค่คาบเส้นเท่านั้นเอง!!
ENDLESSS
คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น
✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง
✓ เรื่องนี้ไม่มีเจตนาทำให้บุคคลที่อ้างถึงเสียชื่อเสียง และฉันจะยอมรับผิดเมื่อบุคคลนั้นตำหนิหรือเตื่อนมา
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ