BADBOY VS MAFIA...ผมหลงรักน้องสาวมาเฟีย

10.0

เขียนโดย TKRLov€lวoร์

วันที่ 7 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559 เวลา 18.46 น.

  3 session
  27 วิจารณ์
  9,979 อ่าน

แก้ไขเมื่อ 11 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559 21.38 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น

แชร์นิยายฟิคชั่น Share Share Share

 

3) เรื่องร้ายๆที่ค่อยๆคืบคลานเข้ามา!

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

เว็บขีดเขียน

“ฉันได้ยินมาว่าน้องสาวมันกลับมาอยู่ด้วย” ชายวันชะกันเร่งถามลูกน้องถึงข่าวที่ได้ยินว่าเป็นจริงหรือเท็จกันแน่

 

“ครับนาย พวกผมไปแอบมองๆหน้าบ้านมันตามที่นายสั่ง เห็นเด็กผู้หญิงอย่างที่นายว่ามา 2 วันแล้วครับ” เขาตอบกลับผู้เป็นนายไปตามความจริงที่เขาเห็นมา

 

“เหรอ? ดี!! งั้นแกค่อยตามดูยัยเด็กนั้นไว้ ถ้ามีโอกาสก็จับตัวมันมาให้ข้าเข้าไปใจไหม!!”

 

“ครับนาย!!”

 

 

                Thankyou Part

“นี่ก่อนจะเข้าโรงเรียนเรามาทำข้อตกลงกันก่อน!!” ฉันตัดสินใจพูดขึ้นก่อนที่จะถึงโรงเรียนในอีกไม่กี่นาทีข้างหน้าเพราะรู้ว่ายังไง 2 คนที่พี่ชายฉันส่งมาคงไม่ปล่อยฉันให้ขาดสายตาเป็นแน่ เพราะฉันรู้นิสัยของสองคนนี้ดีซะยิ่งกว่าอะไร

 

“ครับ!??”

 

“เวลาอยู่โรงเรียนไม่ต้องเดินตามฉันต้อยๆแบบนี้ แค่ค่อยดูห่างๆ ไม่ต้องค่อยตามเจอก็ทักได้ ไม่เจอก็ไม่ต้องส่องหา ฉันไม่ใช่นักโทษ แล้วไม่ต้องเรียกฉันคุณหนูด้วย เข้าใจไหม!!”

 

“แต่ว่า!!” ยังมีแต่อีกดูเถอะ

 

“แหน่ะ! ห้ามแต่ ห้ามพูด ห้ามเถียง ห้ามคิด! คำสั่งของฉันถือเป็นข้อตกลง ไปละ ^^” ฉันรู้ว่าสองคนนั้นไม่คิดที่จะตามฉันอีกเพราะเขาทั้งคู่เป็นคนที่ซื่อตรงและก็ใจอ่อนให้กับฉันที่เป็นผู้หญิงอยู่แล้ว ทำไมฉันถึงรู้นะเหรอ ก็เด็กๆเรา 3 คนสนิทกันซะยิ่งกว่าอะไรดี

 

                หลังจากแยกจากสองคนนั้นมาฉันก็เดินไปเรื่อยๆเปื่อยๆ ไม่รู้จะไปอยู่ที่ไหนหรอก อีกอย่างฉันก็ยังไม่มีเพื่อนด้วยนะสิ ฉันเดินไปเรื่อยๆ ก็นึกถึงเจ้ากระต่ายตัวเมื่อวานขึ้นมาฉันจึงรีบวิ่งไปโรงอาหาร หลายคน งง นึกถึงกระต่ายทำไมถึงมาโรงอาหาร

 

“ป้าคะ ป้าคะ!” ฉันตะโกนเรียกแม่ค้าร้านข้าวในโรงเรียนที่กำลังง่วนอยู่กับการเตรียมทำกับข้าวอยู่

 

“ว่าไงลูก?”

 

“คือหนูอย่างซื้อแครอท กับ หัวไชเท้าที่อยู่ในตู้นี้อะคะ ป้าขายไหม?” ฉันชี้ไปที่แครอทและหัวไชเท้าที่อยู่ในตู้กระจกหน้าร้านพร้อมกับเอ่ยถามป้าเจ้าของร้าน

 

“อ่อเอาไปสิป้าให้^^” ป้าเจ้าของร้านก็หยิบแครอทกับหัวไชเท้าใสถุงให้พร้อมกับยืนให้ฉัน

 

“ไม่ๆ หนูซื้อคะป้า เดียวป้าขาดทุนพอดี”

 

 

“ไม่เป็นไรลูก เอาอย่างนี้สิกลางวันนี้หนูก็มาซื้อข้าวร้านป้านะ” ป้าเจ้าของร้านยิ้มให้อย่างเป็นมิตร

 

“เอางั้นก็ได้คะ ขอบคุณนะคะป้า ^^” ฉันยืนมือไปหยับถุงใส่แครอทและหัวไชเท้าพร้อมกับเดินไปที่แห่งนั้นอีกครั้ง หวังว่าคราวนี้คงไม่เจอเหตุการณ์อะไรแบบนั้นอีกนะ

 

                ฉันเดินมาถึงที่ที่เจ้ากระต่ายอยู่ใช้เวลาไม่ถึง 10 นาที และมองสำรวจทั้งพุ่มไม้ รวมถึงบนต้นไม้ด้วย เมื่อดูถี่ถ้วนแล้วไม่มีอะไรฉันก็ตามหาเจ้ากระต่ายในทันที

 

“เจ้ากระต่ายน้อยอยู่ไหนนะ ออกมาหน่อยสิ!” ฉันมองหาตามพื้นพร้อมกับร้องเรียกเจ้ากระต่ายไปด้วย

 

“อ้าอยู่นี้นี่เอง วันนี้ฉันมีของมาฝากแกด้วยนะ ^^” ฉับรีบนั่งพร้อมกับหยิบถุงในกระเป๋าออกมา ฉันเอาแครอทและหัวไชเท้าออกมาวางไว้ตรงหน้ากระต่ายพร้อมกับนอนราบกระพื้นและมองดูเจ้ากระต่ายกินแลมองอร่อยหนักละ

 

“กินเยอะๆละ จะได้โตเร็วๆ ^^”  ฉันมองเจ้ากระต่ายเพลินจนเผลอหลับ

 

 

                เวลา 8:15 เป็นเวลาที่นักเรียกทุกคนเลิกแถวเพื่อแยกย้ายกันเข้าห้องเรียนเพื่อเรียนในคาบแรกของแต่ละห้อง

“เบนซ์ไหนเด็กใหม่ที่เธอบอกเหรอ ฉันไม่เห็นจะเห็นเลย” ครีมมี่สาวน้อยหน้าตาน่ารักเอ่ยถามเพื่อนสาวต่างห้องถึงเรื่องเมื่อตอนเช้าที่คุยกัน

 

“ฉันก็กำลังมองหาอยู่เหมือนกันไม่เห็นเลยเนี่ย!!” เบนซ์ชะเง้อมองเด็กใหม่ที่พึ่งย้ายมาห้องเธอเมื่อวานแต่ก็ไม่เห็นแม้แต่วี่แววของเธอเลย

 

“กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด!! หล่ออ่ะแก” จู่ๆก็มีเสียงกรีดร้องขอเด็กผู้หญิงดังขึ้น

 

“เสียงอะไรอ่ะ?”  แองจี้เด็กสาวที่อายุน้อยที่สุดที่รีบออกจากแถวเพื่อมาดูเด็กใหม่ที่เบนซ์เพื่อนของพี่สาวคุยอวดเมื่อเช้า

 

“ไหนๆ หลบดิ!!”  ปีเตอร์แทรกตัวเข้าไปตามเสียงกรีดร้องนั้น ถึงกลับอึ้งเด็กน้อยที่ได้เห็นชายแปลกหน้า 2 คนที่มาใหม่

 

“ใครอ่ะพี่ปีเตอร์?” แองจี้ที่อยากรู้ก็เบียดเสียดปีเตอร์เข้าไปอีกคนหนึ่ง “หล่ออ่ะ”

 

“ฉันหล่อกว่าเยอะ!!” ปีเตอร์ที่ได้ยินแองจี้พูดแบบนั้นก็รู้สึกปรี๊ดที่คนตัวเล็กเอ่ยชมคนอื่นมากกว่าตัวเอง

 

“ฟอร์มตกซะแล้วพวกนายฮ่าๆๆๆๆ” ซีแนนสาวเท่สูงยาวเข่าดีประธานนักเรียนชั้น ม.5 เอ่ยบอกกับเพื่อนหนุ่มที่อยู่กลุ่มเดียวกัน

 

“ชิ๊!!” ปอร์เช่ที่ยืนข้างๆก็สะบัดใบหน้าหล่อของเขาหนีไปทันที

 

“ไร้สาระ!” จู่ๆเสียงๆหนึ่งก็ดึงขึ้นจากข้างหลังเพื่อนๆ และเดินออกไปทันทีทำเอาเพื่อนๆมองหน้ากันทำเชิงว่างั้นๆและเดินตามไปรวมถึงกลุ่มสาวๆด้วย

 

“มันไปไหนละว่ะเนี่ยไวจริงไรจริง!”  เพื่อนๆที่เดินตามมายังโรงอาหารก็ไม่เห็นแม้แต่วี่แววของเพื่อนหนุ่มที่เดินนำมาทางนี้แล้ว

 

“ไม่เจอก็ขึ้นห้องก่อนเถอะ ปะ! นี่มันจะเข้าคาบเรียนแล้ว อีกอย่างเติร์ดก็ไม่ใช่คนที่ผิดเวลากับใครแม้กระทั่งเรื่องเรียนไม่ต้องเถียงไปขึ้นห้องไม่งั้นฉันจะฟ้องอาจารย์หัวหน้าระดับ เร็ว!! ขึ้นห้อง” ซีแนนกล่าวขึ้นเมื่อเดินตามหาเพื่อนหนุ่มมอย่างเติร์ดไม่เจอ เธอใช้สิทธิ์ประธานนักเรียนสั่งเพื่อนหนุ่มให้ขึ้นห้องเรียน

 

“จ้าๆ แม่ประธานนักเรียนคนเก่ง ปะเว้ยขึ้นห้อง” ปอร์เช่กอดคล้องคอเพื่อนหนุ่มขึ้นบันไดเพื่อเดินขึ้นชั้นเรียน

 

“ขอบใจเธอมากนะแนน ถ้าไม่ได้เธอพวกนั้นมีหวังไม่เข้าเรียนอีกแน่เลย ฉันไปก่อนนะ บาย เที่ยงนี้เจอกันจ้า!!” เบนซ์บอกลาเพื่อนสาวเพื่อเดินขึ้นบันไดตามเพื่อนๆขึ้นไปยังห้องเรียนทันที

 

 

                Third Part

                ผมเดินออกมาจากกลุ่มเพื่อน เพื่อจะไปที่ที่หนึ่งก่อนขึ้นเรียน ผมเดินไปที่ตู้ล็อคเกอร์เพื่อหยิบเอาแครอทที่ผมซื้อมาจากตลาดก่อนไปที่แห่งนั้น ทุกๆวันผมจะต้องซื้อมันติดมือมองโรงเรียนด้วยทุกครั้ง ผมเดินเริ่มเดินไปยังที่ลับที่พวกผมชอบแอบโดนเรียนมานอนกันที่นี่มีเจ้ากระต่ายที่ผมเจอและค่อยดูแลมันตลอด 2  ปี ผมอยากเอามมันกลับบ้านด้วยแต่คงไม่ได้เพราะหอพักที่ผมอยู่กับเพื่อนๆเขาห้ามเลี้ยงสัตว์ผมจึงเอาเจ้ากระต่ายมาไว้ที่แห่งนั้น

 

 

                ตอนที่ผมเดินมาถึงผมเจอเข้ากับใครคนหนึ่งซึ่งเธอกำลังนอนอยู่กับพื้นซึ่งในมือของเธอถือแครอทเอาไว้ในมือและมีเจ้ากระต่ายกำลังกินแครอทที่อยู่ในมือถือแครอท ผมเดินเข้ามาและนั่งยองเข่าตรงหน้าเธอและเจ้ากระต่าย ผมใช้มือเริกผมที่ปิดหน้าคนที่นอนอยู่ขึ้นมาดูว่าเธอคือใครทำไมถึงได้กล้าเข้ามาที่แห่งนี้ซึ่งไม่มีใครหนักที่จะกล้าเข้ามายังที่ที่พวกผมอยู่

 

 

ยัยนี่อีกแล้วเหรอเนี่ย” ผมพูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่แผ่วเบาเมื่อได้พบกับใบหน้าที่กำลังหลับใหลอยู่บนสนามหญ้า เห็นเฉิ่มๆ ซุ่มซาม เซอะซะแบบนั้นก็มีมุมน่ารักเหมือนกันนิ  ผมเผลอยิ้มให้กับคนที่กำลังนอนหลับขณะที่กำลังให้อาหารกระต่าย ใบหน้านั้นมันทำให้ผมตกอยู่ในภวังค์

 

 

                  8:30 น. เสียงกริ๊งของเวลาเรียนคาบแรกดังขึ้น! เสียงก็ดังระงมไปทั่วโรงเรียน ทำให้คนเบื้องล่างที่เผลอหลับก็สะดุ้งตื่นขึ้น ผมดึงสติทั้งหมดกลับมา แต่มันก็ต้องหลุดออกจากร่างอีกครั้งเพราะคนที่จู่ๆก็ลุกพรวดพราด เพราะเสียงกริ่งคาบแรกนั้นไม่รู้ว่าผมนั่งอยู่ มันทำให้ใบหน้าของเราทั้งคู่ใกล้จนลมหายใจของเธอลดรินบนใบหน้าของผม เราทั้งคู่ประสาน สายตาคมด้วยแววตาที่พราวระยับ ดวงตากลมโตของเธอจ้องมองมาอย่างไม่กระพริบ

 

                ดวงตาของเธอเหมือนทำให้ผมตกอยู่ในมนต์สะกดบางอย่าง เมื่อจ้องมองดวงตาคู่นั้น  มันทำให้มองไม่อยากจะละสายตาที่จะมองดวงตาของเธอแม้เสี้ยวนาที แต่มนต์สะกดนั้นก็ต้องหยุดลงเมื่อเธอผลักร่างของผมที่ไม่ได้ตั้งตัวล้มก้นกระแทรกพื้นหญ้านั้น

 

 

                เมื่อผมได้สติคืนมาผมก็มองหน้าเธอสไตล์ที่ผมชอบทำ เธอรีบคว้ากระเป๋าแล้วก็รีบวิ่งออกไปจากที่นี้ทันที เธอทำท่าทีเหมือนกับว่าผมไม่มีตัวตน เหมือนกลับครั้งก่อนหน้านั้น

 

 

                Thank You Part

                เฮ้อ เฮออยย! เผลอหลับไปได้ไงเนี้ยเราโถ่ๆ นี่แหน่ะๆ ฉันเดินบ่นพร้อมกับตบใบหน้าตัวเองหลังจากที่วิ่งหนีนายนั้นออกมาจากที่แห่งนั้นอีกครั้ง สายตาคู่นั้นถึงมันจะน่ากลัวแต่ถ้าเท่าที่ฉันได้สบสายตาคู่นั้นมันดูแฝงไปด้วยความเศร้า ทำไมเขาถึงเข้มแข็งขนาดนั้นอยู่ได้นะ  ฉันไม่รู้และนึกไม่ถึงเลยว่าเรื่องหลังจากนี้แล้วฉันต้องเจอกับสถานการณ์ที่เลวร้ายขนาดที่ฉันนั้นไม่เคยเจอมาก่อนเลย

 

 

“ไอ้เติร์ด เอ็งยิ้มอะไรของเอ็งว่ะ!!” มาร์คหนุ่มดัดฟันที่เห็นเพื่อนไม่ยอมมาสักทีเลยชวนเพื่อนๆออกมาตามหา

 

 

“……” เจ้าของชื่อที่ถูกทักก็หุบยิ้มนั้น

 

 

“มีความสุขอะไรมาว่ะ บอกพวกข้ามานะ” ปลื้มพยายามที่จะซักไซ้ถามต่อ

 

 

“อะไรของพวกเอ็งว่ะเนี่ย จะจับผิดอะไรข้า” เขาเลี่ยงที่จะตอบคำถามและปัดประเด็นออกไป

 

 

“เอ่อชั่งเหอะ ว่าแต่เจอยัยเด็กใหม่ปะเมื่อกี้ ชนฉันซะได้!! ทำยังกลับวิ่งหนีผีมางั้นละ” ปีเตอร์ตัดบทและเอ่ยถามเพื่อนหนุ่มที่อยู่ตรงหน้าเขา

 

 

“…… ไม่นิ” เขาตอบปฏิเสธเพื่อนหนุ่มที่ถามเขาเหมือนไม่มีไรเกิดขึ้น

 

 

“เอ่อ ชั่งมันเถอะค่อยคิดบัญชีทีหลัง ไปกลับห้องเด็กไอ้มาร์คบอกให้มาตามตะโกนจนพวกฉันแสบหูหมดและเนี่ย” ปีเตอร์สถบพร้อมกับเดินนำขึ้นห้องทันที

 

 

                Thank You part

                ฉันที่กำลังจะเดินเข้าห้องเรียนแต่ก็ถูกมือของใครบางคนดึงแขนของฉันด้วยพละกำลังที่มหาศาล ซึ่งร่างของฉันก็ตอบสนองต่อแรงดึงนั่นด้วยการตามแรงนั้นไปแต่โดยดี และอาการชาที่ใบหน้าเพราะแรงตบของคนที่ดึงแขนฉันแถมมันยังทำให้ร่างของฉันล้มลงกับพื้นห้องอย่างแรง

 

 

“โอ้ยยยยย!!” หัวของฉันถูกกระชากจากคนเบื้องบนที่ตบฉัน แต่ฉันไม่รู้หรอกนะว่าจู่ๆเขามาทำฉันทำไมแถมยังมีคนจ้องมองฉันอีกมากมาย ทั้งซุบซิบนินทา บางก็มองหน้าฉันเหมือนรังเกลียดกันมาแต่ชาติปางไหนโดยเฉพาะนักเรียนผู้หญิง

 

 

“สำออยเหรอ? ที่อ่อยผู้ชายเนี่ยเก่งหนักนะ!! ยัยปาเนี่ยเหรอเด็กใหม่ที่แกบอกฉัน หน้าตาก็ดีนะ แต่หน้าเนี่ยด้านมากที่มาแย่ของของฉัน!! ฮ่าๆๆๆ ”

 

“เธอตบฉันทำไมฉันไปทำอะไรให้เธอ” ฉันเอ่ยถามคนตรงหน้าอย่างไม่รู้ว่าทำไมเขาถึงเข้ามาทำร้ายฉันทั้งๆที่ฉันก็ไม่เคยเจอกับเขาสักครั้งเดียว

 

 

“ทำใส ใสซื่อจริงๆนังหน้าด้านน” เขากดหัวฉันจนใบหน้ากระแทรกกับพื้นพร้อมกระชากผมฉันขึ้นลงไปมาตามแรงของเขาอีกครั้ง และครั้งนี้มันก็แรงเกินกว่าที่ร่างกายของฉันจะรับและเก็บความรู้สึกเอาไว้ได้ เป็นเหตุทำให้ต่อมใต้สมองของสั่งมีคำสั่งให้น้ำใสๆไหลออกจากดวงตาทั้งสองข้าง

 

“ลิลลี่!! เธอหยุดเดียวนี้เลยนะ!!” ฉันได้ยินเสียงของคนที่ฉันพอจะรู้จักเสียงนี้ไม่ใช่ใครที่ไหน ถ้าฉันจำไม่คิด เสียงๆนี้คือเสียงของเบนซ์หญิงสาวหัวหน้าชั้นของห้องฉัน

 

 

“ยัยเบนซ์!! แกคิดว่าแกสนิทกับพวกเติร์ด แล้วคิดว่าพวกฉันจะกลัวแกหรือไง!!เหมียว ปุ๊กกี้ ปา แกจับยัยหมาบ้านั้นดิ ไว้ฉันติดมันบัญชีกับยัยนี้ได้ฉันจะไปจัดการยัยหมาบ้านั้น ”

 

 

“พวกแกปล่อยฉัน นะปล่อย!! หมาหมู่!! เลว เธออย่าคิดนะว่าเป็นลูกของหุ้นส่วน โรงเรียนแล้วเธอจะกรางได้นะปล่อยฉัน!!” ถึงฉันจะมองไม่เห็นเบนซ์ฉันก็พอจะรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับเธอ

 

 

“ปะ ปล่อยเบนซ์ไปนะ! ” ฉันไม่อยากให้เบนซ์ต้องถูกทำร้ายเพราะฉัน ฉันจึงใช้พลังที่เหลืออยู่พูดบอกกับคนที่กดหัวฉันอยู่

 

 

“นี่แกยังจะฤทธิ์เยอะอีกเหรอ โดนถึงขนาดนี่ยังจะช่วยยัยหมาบ้าอีกหรือไง!!” ลิลลี่ ใช่เธอคนนั้นชื่อลิลลี่เธอเขย่าหัวฉันจนใบหน้ากระแทรก ตอนนี่ฉันได้กลิ่นคาวของเลือดที่ไหลออกทางหน้าผากผ่านดวงตาลงมาที่จมูก เมื่อลิลลี่ดึงผมฉันให้เงยหน้าขึ้นมามองเขา

 

“แต๊งกิ้ว!! ยัยโรคจิตแกมันบ้ายัยลิลลี่ แก!! ปล่อยฉันจะเว้ยปล่อยสิ!” ฉันเห็นเบนซ์ที่ถูกเพื่อนของลิลลี่กับตัวเอาไว้ แต่ฉันเองก็แย่เหมือนกันในตอนนี้ฉันอยากช่วยเธอคนแรกที่เข้ามาช่วยฉัน แต่ฉันในตอนนี้จะทำอะไรได้กันละ

 

 

“แต๊งกิ้วเขาไปทำอะไรให้เธอห๊ะ เธอถึงมาทำร้ายเขายัยหมาเถื่อนโรคจิต!!”  ฉันก็อยากรู้คำตอบจากทำถามที่เบนซ์ถาม ว่าเรื่องทั้งหมดมันคืออะไร

 

 

“แกอยากรู้เหรอยัยหมาบ้า!! ก็นี่ยังไง!!” ลิลลี่ยืนไอโฟนเครื่องหรูของเธอและจ่อตรงหน้าของเบนซ์!! เป็นภาพผู้ชายกับผู้หญิงที่ดูเหมือนกันลังจูบกัน แต่นั้นมันใครกันละ

 

 

“เติร์ด! ผู้หญิงคนที่หันหลังให้กล้องนี้…….” เบนซ์ที่กำลังจะพูดอะไรบ้างอย่างแต่ก็ต้องถูกขัดขึ้น

 

 

“ใช่!! ก็ยัยเด็กใหม่หน้าด้านเนี่ยนะสิเพราะมันเติร์ดถึงไม่สนใจฉัน!!” ยิ่งอารมณ์โกรธของลิลลี่มันทำให้เธอยิ่งรุนแรงขึ้นและดึงผมของฉันขึ้นอีกครั้ง

 

 

“โอ้ยยย! ฉะ ฉันไม่ได้ทำนะ” ฉันตอบปฎิเสธเป็นเหตุให้อารมณ์ของเธอรุนแรงขึ้นมากเมื่อกี้นี้อีก

 

 

“แก!! หลักฐานก็เห็นอยู่ทนโท่ ยังจะพูดแก้ตัวอีก นี้!!” ตอนนี้ร่างของฉันถูกลากไปตามแรงของลิลลี่ออกมายังหน้าระเบียงห้อง ตามด้วยเพื่อนของเธอที่ลากเบนซ์ออกมาด้วย

 

 

“มะ มันอะไรว่ะเนี่ย” ปีเตอร์ที่เดินนำเพื่อนๆมาก็ต้องหยุดเดินและอุทานขึ้นเพราะสถานการณ์ตรงหน้ามันเป็นอะไรที่แปลกตาเขาเป็นอย่างมาก และทำให้เพื่อนที่เดินแซวเพื่อนหนุ่มที่เขาเดินไปตามกันต้องเดินชนอย่างเต็มแรงและหันมาดูว่าทำจู่ๆเพื่อนที่เดินนำมาหยุดทำไม

 

 

“เอ็งเป็นอะไรของเอ็งว่ะ ปี…เห้ย! มันเกิดอะไรขึ้นว่ะทำไมหน้าห้องเราคนมุงกันเยอะขนาดนี้ละเนี่ย” ปลื้มที่เดินตามปีเตอร์มาติดๆ ก็ต้องหยุด

 

 

                เพี้ยะ!! เพี้ยะ เพื่อนๆผู้ชายในห้อง 1 พยายามที่จะเข้ามาช่วยทั้งคู่ แต่ก็ต้องหยุดเพราะคำขู่ของลิลลี่

 

 

“หยุด!! กล้าเข้ามาช่วยยัยคนสองคนนี้ฉันจะให้พ่อสั่งไล่ออกให้หมดเลย!! …. แกทำได้ดีนิยัยปา ตบมันซะเลือดกลบปากเลย  ไงยัยหมาบ้า ก็ไม่ใครมาช่วยแก ฮ่าๆๆ อยากแสหาเรื่องนี้หนักสมควรอยู่ดีๆไม่ว่าดี” เบนซ์ที่ถูกหิ้วแขนทั้งสองข้างเอาไว้ก็มองคนที่ทำร้ายเธอด้วยอารมณ์โกรธ แต่ก็ทำอะไรไม่ได้เพราะเธอถูกจับไว้โดนไม่มีทางสู้เลย

 

 

“หึ! ฟุ๊!! มันก็ดีว่าลูกผู้ดีทำตัวเป็นหมาเถื่อนอย่างแกก็แล้วกัน” เบนซ์พ้นเลือดที่ออกจากปากใส่ใบหน้าของลิลลี่เข้าเต็มๆ

 

 

“หึ้ยแก!!” ลิลลี่ตบเข้าที่ใบหน้าของเบนซ์อีกครั้งจนเธอล้มไปตามแรงตบของลิลลี่ เพื่อนจบเบนซ์แล้วให้ลิลลี่ก็ปล่อยเบนซ์ให้ล้มลงกับพื้นพร้อมกับตามลงมากดร่างของเธอไว้กับพื้น

 

 

“อย่าทำเบนซ์นะฉันขอร้อง”  แต๊งกิ้วที่คิดว่าตัวเป็นต้นเหตุที่เบนซ์ต้องถูกทำร้ายจึงยืนมาเกาะขาของลิลลี่และล้มหัวลงเป็นเชิงขอร้อง

 

 

“อย่านะแต๊งเธอไม่ผิด” เบนซ์พูดขึ้นโดยที่ร่างของเธอถูกกดอยู่อย่างนั้น

 

 

“แกอย่าพูดมากนะยัยเบนซ์ ” ปาเพื่อนของลิลลี่จับแก้มของเบนซ์พร้อมกับบีบแก้มพร้อมสะบัดแก้มให้ไปตามแรงที่เธอทำ

 

 

“ขอร้องงั้นเหรอ ห๊ะ!! ยัยหน้าด้านแย่งของของฉันนะห๊ะ!! จำไว้นะว่าเติร์ดเป็นของฉัน แกไม่ต้องมายุ่ง!!”

 

               

                ลิลลี่กระชากหัวของแต๊งกิ้วไปมาตามอารมณ์หึงหวงของเธอพริ้มกับความอิจฉาในตัวของแต๊งกิ้วที่เธอคิดว่าเธอไม่เคยที่จะได้จากเติร์ดเช่นการจูบแต่ทำไมเด็กที่เข้ามาได้สองวันถึงได้ไป

 

 

“ฮึกฮื้ออ” หญิงสาวที่ถูกกระทำก็ได้แต่ร้องไห้ไม่สู้เขาเหมือนกันคนอื่นๆที่ลิลลี่เคยทำกับทุกคนที่ยุ่งกับชายที่เป็นต้นเหตุ มันยิ่งทำให้ลิลลี่เพิ่มอารมณ์มากขึ้นเพราะคิดว่าเธอมารยาสร้างภาพทำให้เธอดูร้ายต่อหน้าทุกคน

 

 

“สู้ฉันสิ!! ทำไมแกไม่สู้ห้ะ!!” แรงที่กระทำมันรุนแรงขึ้นเรื่อยๆไปเท่าทวี ทำให้ร่างที่ถูกกระทำนั้น ตาเริ่มพรางมั่วมองภาพตรงหน้าจางลงจางลงไปทุกนาที

 

 

                แต่ทว่า……..

 


ขอเม้นนิดขอเม้นหน่อย ขอวันละนิดจิตแจ่มใสฮ่าๆๆๆ ฝากติดตามเค้าด้วยน๊า #ตอนหน้าใครจิ้นโทโมะแก้วเจอกันจ้า^^

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
10 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
10 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
10 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

อ่านนิยายฟิคชั่นเรื่องอื่น

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา